บทที่ 13 เธอยังคงสนใจ
หลัวแมนจีสวมชุดนอนผ้าไหมสีม่วงนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น นั่งเอนหลังอย่างขี้เกียจบนเบาะโซฟา ผมหยิกหยักศกที่ถักมาได้ด้านหนึ่ง ผูกด้วยโบว์สีเขียวเข้ม ถือขวดน้ำหอมในมือ และพ่นไปรอบๆ
เมื่อเผชิญหน้ากับการซักถามของลั่วมั่น หลัวแมนจีก็ลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน และเงยหน้าขึ้นมองไปทางด้านหลังโซฟา
“คุณชายเฟิงให้ฉันย้ายมาที่นี่ เมื่อเร็วๆ นี้ มีแฟนคลับมารบกวนฉันอยู่บ่อยๆ เขาไม่สบายใจ จึงให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ความต้องการของฉันนะคะ”
เมื่อได้ยิน ใบหน้าของลั่วมั่นนั้นซีดขึ้น นัยน์ตาดูอึมครึม
หลัวแมนจีเลิกคิ้ว เพิกเฉยต่อใบหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนั้น
“แม่บ้านหลี……” ลั่วมั่นขัดจังหวะเธอ และจ้องมองแม่บ้านหลี พูดอย่างเย็นชา “กลิ่นในห้องนี้เหม็นมากเลยนะคะ”
ทันทีที่พูดจบ แม่บ้านหลีก็ตระหนักได้ และก้าวไปข้างหน้า คว้าน้ำหอมในมือของหลัวแมนจี
“อ๊ะ! ส่งกลับมาให้ฉันนะ!”
หลัวแมนจีเด้งขึ้นมาจากโซฟาด้วยท่าทางที่เคร่งเครียด “นั่นคือคุณชายเฟิงมอบให้ฉัน พวกคุณไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วใช่ไหม?”
ลั่วมั่นยิ้มขึ้น และมองอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นคุณเลือกที่จะดื่มได้นะคะ คุณจะได้ลิ้มรสที่เขาโปรดปรานจากภายในสู่ภายนอก”
หลัวแมนจีรู้สึกหวาดกลัวต่อความเย็นชาในดวงตานั้น และถอยถอยหลังไปสองก้าว
“……คุณกล้า……”
“ไม่เชื่อ? คุณจะลองก็ได้นะคะ”
ลั่วมั่นยังอยู่ที่เดิมไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แต่บนร่างเธอแผ่ความกดดันออกมา เสียงของเธอเย็นชาเหมือนสายลมเย็นของเดือนหนาว ทำให้ต้องเชื่อว่าคำพูดเธอนั้นจริงจัง
หลัวแมนจีกลืนน้ำลาย ไม่กล้าที่จะโต้กลับอะไร
“ตึง”เสียงน้ำหอมถูกโยนลงถังขยะด้วยมือของแม่บ้านหลี
“นอกจากน้ำหอมแล้ว ทุกอย่างที่มีกลิ่นนี้ ช่วยทำความสะอาดให้ฉันด้วยนะคะ รวมถึง……คน”
เสียงของลั่วมั่นดังก้องอยู่ในห้องนั่งเล่น แม่บ้านหลีรีบโทรหาคนรับใช้ในบ้าน และทิ้งของที่หลัวแมนจีย้ายมาในตอนเช้าออกไปทีละชิ้นอย่างไม่เกรงใจ
เมื่อเฟิงเฉินกลับมา หลัวแมนจียืนที่ประตูบ้านด้วยท่าทางไม่ยอม
“นี่ นั่นคือรุ่นล่าสุดของชาแนลเลยนะ ถ้าพวกคุณทิ้งอีก คุณชายเฟิงกลับมาได้เจอดีแน่”
“พวกคุณทำกระเป๋าฉันเสียหายแล้ว รุ่นลิมิเต็ดด้วย……”
เมื่อเห็นเฟิงเฉินกลับมา ใบหน้าของหลัวแมนจีนั้นเปลี่ยนเร็วยิ่งกว่าท้องฟ้าซะอีก ใบหน้าเศร้าขึ้นมาทันที
“คุณชายเฟิง ทำไมคุณกลับมาช้าจังล่ะคะ ฉันถูกรังแกก็ไม่มีใครจัดการเลย”
เฟิงเฉินหลีกแขนออกจากเธอ และก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มือทั้งสองสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงชุดสูท และมองไปข้างหน้า
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เป็นเพราะลั่วมั่นค่ะ” หลัวแมนจีเกาะใหม่อีกครั้ง หน้าอกชิดติดกับแขนของเฟิงเฉิน น้ำตาคลอ พูดเสียงสั่น
“พอเธอกลับมา เธอก็ให้คนเอาของของฉันทิ้ง ฉันก็บอกแล้วว่าคุณให้ฉันอยู่ที่นี่ แต่เธอก็ยังทำ รู้ว่าอยากจะขับไล่ฉันออกไป แต่ไม่รู้ว่ากำลังเล่นกับอารมณ์ของคุณ?”
“หืม?”
ใบหน้าของเฟิงเฉินไม่ปรากฏความโกรธใดๆ
เขามองไปที่ห้องนอนบนชั้นสองของบ้านพักตากอากาศ ในสายตาของเขาฉายแววความสุขออกมา
ที่จริงเธอก็สนใจอยู่นี่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็พูดช้าๆ ว่า
“เธอไม่กล้าหรอก ที่นี่คือคฤหาสน์เฟิง ผมจะให้ใครอยู่ก็ได้ ไม่ต้องรอคำอนุญาตจากใคร”
เฟิงเฉินดึงแขนของตัวเองออก และพูดต่อ
“ผมอยู่ คุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
หลัวแมนจียังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เฟิงเฉินก็สะบัดตัวเธอออก แล้วเดินเข้าบ้าน
ตอนนี้เริ่มค่ำแล้ว ลั่วมั่นกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ดื่มชาอย่างใจเย็น
เธอได้ยินว่าเฟิงเฉินกลับมาแล้ว และก็ได้ยินว่าหลัวแมนจีกำลังว่ากล่าวโทษเธอ