ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว – ตอนที่ 148

ตอนที่ 148

บทที่ 148 พวกแกเป็นใคร

มือของเวินน๋อนสัมผัสกับอากาศ มันค้างอยู่บนอากาศอยู่นานด้วยความเขินอาย

เมื่อเห็นว่าเฟิงเฉินทำหูทวนลม เธอถอยกลับไปอยู่ที่ด้านหลังและลูบหัวพลางใช้น้ำเสียงออดอ้อน “เมื่อคืนเฮ่าเฮ่าอาการดีขึ้นมากแล้วนะคะ เขาจำคุณได้ด้วย ยังถามอีกว่าเมื่อไหร่คุณถึงจะมาเยี่ยมเขาได้”

เฟิงเฉินตอบอย่างพอเป็นพิธี บอกว่าถ้ามีเวลาก็จะไปเยี่ยมอีกครั้ง เวินน๋อนรู้ดีว่าในใจของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้ เธอจึงไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้และออกจากห้องทำงานไป

อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ของการมานั้นบรรลุผลแล้ว ส่วนกระบวนการจะเป็นอย่างไรนั้นก็ไม่สำคัญ

เมื่อประตูปิดสนิท ความใจดีในดวงตาของเธอลดลงอย่างชัดเจนในดวงตาของเฟิงเฉิน เขาขมวดคิ้ว จู่ๆก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ที่เปลือกตากระตุกถึงสองครั้ง

ลั่วมั่นคิดว่าเธอกำลังฝันร้ายเช่นเดียวกับคืนที่มักเกิดขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ความเจ็บปวดที่สะบักจากการกระทบพื้นทำให้เธอตื่นขึ้นมาทันที หลังศีรษะของเธอถูกกดลงไว้กับพื้นเย็นๆ เมื่อเธอลืมตาขึ้นเธอก็สบตาเข้ากับดวงตาที่ไม่น่าไว้ใจสองคู่

นั่งยองๆขนาบซ้ายขวา ที่ด้านข้างของเธอ

“พวกแกเป็นใคร”

เธอถอยห่างออกไปด้วยความตื่นตระหนกและพยายามหลีกเลี่ยงมือของทั้งสองคน

“ตื่นแล้วเหรอ” ชายมีเคราคนหนึ่งจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ที่โค้งเป็นเหมือนไก่ยื่นมาด้านหน้าของเธอโดยไม่คำนึงถึงการต่อสู้ของเธอ ก่อนจะพูดอย่างยิ้มๆ “ไม่เลวเลยนี่ ฉันชอบงานวันนี้จัง”

“พี่ใหญ่ ยังมีผมอยู่นะ” ชายร่างผอมด้านข้างรีบตอบกลับ

ลั่วมั่นตกใจอย่างมาก “พวกแกปล่อยฉันนะ จะเงินหรือว่าต้องการอะไรฉันให้ได้หมด จะเท่าไหร่ก็ได้ อย่าแตะต้องตัวฉัน”

“เงิน?” คนมีหนวดเครายิ้มจนเห็นฟันสีเหลือง “พวกเราเน้นเรื่องความซื่อสัตย์ในวงการนี้ เมื่อรับเงินจากคนอื่นแล้ว จะไม่ทำธุรกิจสองอย่างทับซ้อนกันแน่นอน ถ้าจะโทษก็โทษตัวเองที่ไปผิดใจกับคนอื่นเข้าแล้วไง”

“ใคร เขาเป็นใคร”

ลั่วมั่นกำเสื้อที่ดูเหมือนจะถูกฉีกออกไว้ที่หน้าอกพลางพูดอย่างตื่นกลัว “ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน พวกแกก็ไม่สามารถแตะต้องตัวฉันได้ พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”

“เธอเป็นราชาแห่งสวรรค์หรือราชินีมารดรหรือยังไง” คนตัวผอมด้านข้างเอื้อมมือไปแตะต้นขาของเธอด้วยท่าทางที่ดูน่าอนาถ “เพื่อให้มือได้สัมผัสความรู้สึกนี้ ต่อให้ต้องตายก็ยอม”

ลั่วมั่นกรีดร้อง ไม่รู้ว่าเธอเอาแรงมาจากไหน เธอเตะคนมีเคราจนกลิ้งห่างออกไป จากนั้นก็ยืนขึ้นบนกำแพงอย่างรวดเร็ว

ชายมีเคราถูกเตะและล้มลงกับพื้น

ชายร่างผอมที่กำลังด่าทอเธออยู่นั้นก็คว้าลั่วมั่นไว้ แต่กลับถูกเธอทุ่มไหล่จนล้มลงที่โต๊ะกาแฟ เสียงดัง“โครม” กระจกโต๊ะกาแฟแตกทั้งบานและมีแสงประกายตามพื้น

ลั่วมั่นพิงกำแพงและหอบ เธอรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกวางยาและตอนนี้เธอแทบจะพยุงตัวไว้ไม่อยู่

ชายมีเคราตอบสนองอย่างรวดเร็วจากความเจ็บปวด เขาวิ่งไปพร้อมกับคำก่นด่า

“อี…อีนังบ้าเอ้ย”

ลั่วมั่นที่ซ่อนตัวอยู่แต่สุดท้ายก็ถูกชายมีเคราจับตัวได้ เขากดเธอลงบนโซฟาอย่างแรง เสียงตบที่ดังก้องบนใบหน้าของเธอทำให้รีบพิมพ์ลายนิ้วมือสีแดงสดอย่างรวดเร็ว

“ในเมื่อพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ!”

“แควก” เสียงเสื้อที่ถูกฉีกออกดังก้องไปในอากาศ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของลั่วมั่น บรรยากาศในห้องนั้นตึงเครียด

“ปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”

“แล้วเธอเป็นใครล่ะ” ชายมีเครากดไหล่ของเธอและเกี่ยวสายชุดชั้นในของเธอด้วยมือข้างหนึ่งด้วยท่าทางที่ดูน่าอนาถ “เธอเป็นใครล่ะ ถ้าบอกแล้วฉันจะกลัวไหมนะ”

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิง

“ฉันเป็น…..” เมื่อพูดถึงคำนี้ จู่ๆลั่วมั่นก็ไม่กล้าพูดต่อ

หากผู้คนรู้ว่าภรรยาของประธานบริษัทH.Y.ผู้สง่างามถูกทำร้ายในสถานที่เช่นนี้ มันส่งผลร้ายอย่างมากต่อเฟิงเฉินและตระกูลเฟิง และเธอไม่กล้าเสี่ยง

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

Status: Ongoing

เธอเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่มา3ปี สามีเธอหยอกล้อกับหญิงอื่น เธอก็ไม่สนใจแถมยังต้มซุปบำรุงไตส่งให้สามีทุกวันวันหนึ่ง ผู้หญิงที่สามีรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกว่า”ฉันตั้งครรภ์แล้ว”นี่เป็นครั้งแรก ที่ลั่วมั่นได้ใช้อุบาย บังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งเฟิงเฉินบีบคอของเธอ “ลั่วมั่น ที่เธออดทน3ปีมานี้ เสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้วใช่ไหม”เธอยิ้มจนน้ำตาไหล “excuse me ฉันก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนทายาทของตระกูลเฟิง ต้องเป็นลูกชายของฉัน!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท