บทที่ 158 เหตุเพราะใบหน้านี้ของฉัน
แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าคำพูดของเฟิงเซิ่งนั้นก็เพื่อแก้ตัวให้เวินน๋อน ถ้าเรื่องเมื่อสามปีก่อนเป็นจริงดังเขาพูด ตัวต้นคิดแผนการคงจะขาดเวินน๋อนไปไม่ได้ เพียงแต่ต่อมาด้วยหลากหลายเหตุทำให้ไม่สำเร็จ
ในตอนนี้เฟิงเฉินไม่สามารถแยกแยะได้ว่าคำพูดของเฟิงเซิ่งจริงหรือเท็จแค่ไหน ในหัวเขาเต็มไปด้วยประโยคที่ว่า’คืนนั้นคือมั่นมั่น’ และสมองของเขาเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงทั้งก่อนและหลังแต่งงานเมื่อสามปีก่อน
สาเหตุหลักที่ทำให้เขาทั้งดูถูกทั้งประชดประชันลั่วมั่น ทรมานกันและกันในช่วงสามปีที่ผ่านมา
ก่อนแต่งงานเมื่อสามปีก่อนเขาตามไปโรงพยาบาล ตามคำชักจูงของข้อความ เขาได้ยินบทสนทนานั้น จนถึงตอนนี้น้ำเสียงลังเลของผู้หญิงคนนั้นยังคงก้องอยู่ในใจเขาเป็นเวลาสามปีเต็มโดยไม่ลบเลือนออกไปเลย
สามปีก่อน…
ทางเดินภายในโรงพยาบาลเมืองเจียง
“แม่คืนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ หนูไม่ได้อยากทำเรื่องแบบนี้เพื่อโกหกเขา”เด็กสาวยังเด็กแต่เธอดูสงบและมีความต่อต้านในคำพูดของเธอมาก
ผู้หญิงด้านข้างที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและดูก็รู้เลยว่าเธอเป็นคนสวยเมื่อเธอยังสาว เธอจับมือลูกสาวและเอ่ยว่า
“เด็กโง่ผู้ชายก็สนใจเรื่องหน้าตากันทั้งนั้น โดยเฉพาะตระกูลคนรวย แกจะโง่ไม่ได้ เรื่องนี้แกรู้ตัวเองก็โอเคแล้ว เราแค่ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัดเล็กๆน้อยๆ ก็พอ ”
“แต่…”
“ไม่มีแต่ ถ้าวันเขาถามขึ้นมาจะตอบเขาว่ายังไง แกจะลืมไม่ได้ นี่ไม่ใช่การแต่งงานของแกเอง บริษัทลั่วซื่อต้องพึ่งการแต่งงานครั้งนี้ของแก พ่อแกก็ใกล้จะบ้าแล้วความผิดนี้จะเปิดเผยออกไปไม่ได้เด็ดขาด
“……”
ในเวลานั้นเฟิงเฉินยืนอยู่ที่มุมทางเดินได้ยินทั้งหมดนี้อย่างชัดเจน
บทสนทนานั้นเป็นที่มาแห่งความเกลียดชังระหว่างเขากับลั่วมั่นในช่วงสามปีที่ผ่านมา
ตอนนี้ทุกอย่างอธิบายได้กระจ่าง เป็นเขาที่โง่ เขากล่าวหาเธอโดยไม่รู้อะไรเลย และลั่วมั่นไม่เคยโกหกเขาตั้งแต่ต้นจนจบ
คืนนั้น เธอหมดสติ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงยิ่งไม่รู้เลยว่าผู้ชายที่ช่วงชิงครั้งแรกของเธอไปคือใคร
เมื่อนึกย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการแสดงออกของเฟิงเฉินเปลี่ยนไปมากและเขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง เขาจึงทิ้งทั้งสองไว้ในวิลล่าและรีบออกไปในตอนกลางคืน
เสียงเครื่องยนต์ดังมาจากด้านนอกลานและเสียงสตาร์ทรถก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เขาต้องหาลั่วมั่นให้พบโดยเร็วที่สุด และพูดเรื่องทั้งหมดในปีนั้นให้ชัดเจน เขาผิดไปแล้ว เขาต้องขอโทษเขาจะใช้ความรักทั้งชีวิตของเขาเพื่อชดเชยความผิดพลาดในปีนั้น
เมื่อเวินน๋อนมองร่างที่หายไปในตอนกลางคืนด้วยอาการช็อค เธอกัดริมฝีปากแน่นและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “เขาแคร์ผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
แม้ในปีนั้นจะมีความบาดหมางคืนนั้นหลังจากสามปีผ่านไปเขาก็ยังคงตกหลุมรักเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้เช่นเดิมและปฏิกิริยาแรกของเขาเมื่อเขารู้ความจริงเมื่อปีนั้นคือเสียใจไม่หยุด
เธอไม่เคยเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเขาเช่นนั้นมาก่อน ราวกับเศร้าโศกและตำหนิตัวเองที่ได้ทำลายสิ่งที่ตัวเองรักและถะนุถนอม แม้ปีนั้นเธอจะร้องห่มร้องไห้บอกว่าเธอถูกลู่จิ่งจูด่า เขาก็ยังคงเฉยเมยไม่แยแส
ดังนั้นเฟิงเฉินไม่เคยรักเธอตั้งแต่ต้นช่วงเวลาแห่งความสุขในปีนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาของเธอในใจของผู้ชายคนนี้ไม่เคยเธออยู่เลย ถ้างั้นทำไมล่ะ?ทำไมเขาถึงจะชอบตัวเองด้วย?
เฟิงเซิ่งพยุงเวินน๋อนที่เศร้าโศกกลับเข้าไปพักพ่อนในห้องนอน เมื่อพยุงเธอขึ้นเตียงทันใดนั้นเธอก็จ้องมองไปที่ร่างในกระจกเต็มตัวอย่างตาลอย ใบหน้าของเธอซีดเซียวริมฝีปากของเธอสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เธอเป็นอะไรไป เวินน๋อนตกใจอยู่ใช่ไหม”
เวินน๋อนคว้าแขนของเฟิงเซิ่งและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เฟิงเซิ่งไม่รู้จะทำอย่างไรเขาจึงจับไหล่ของเธออย่างทำอะไรไม่ถูก“เวินน๋อนเธออย่าทำให้ฉันตกใจสิ”
“นายรู้ไหม” เวินน๋อนหัวเราะออกมาทั้งน้ำตามือของเธอเพิ่มแรงขึ้นเล็บเกือบจะจิกลงไปบนข้อมือของเฟิงเซิ่ง “ปีนั้นเขาชอบฉัน เพียงเพราะใบหน้านี้ของฉัน!”
เพราะใบหน้านี้ มีส่วนคิ้วคล้ายกับลั่วมั่น!
เมื่อสามปีก่อนเธอไม่ได้ติดต่อกับลั่วมั่น ดังนั้นจึงไม่เคยสังเกตเลยแต่เมื่อเร็วๆนี้ได้เห็นลั่วมั่นหลายครั้ง จึงมองไปที่กระจกในทันใดใบหน้าที่ไม่มีการแสดงออกมีส่วนคล้ายกับรูปลักษณ์ที่ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสของลั่วมั่นที่บริษัทอยู่ห้าจุด !