สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 452

ตอนที่ 452

ตอนที่ 452 จี้กุญแจเงินอันล้ำค่า

“เดี๋ยวก่อน”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยปากเรียกลูกน้องคนนั้นให้หยุด จากนั้นเดินตรงไปที่รถคันนั้น หล่อนยกมือเคาะหน้าต่างฝั่งคนนั่งด้านหลังรถ ไม่นานนัก หน้าต่างก็ถูกปรับลดลง เวินซิวหวีนั่งอยู่ภายในรถ ยิ้มแย้มให้หล่อน

เขายิ้มให้หล่อนอย่างมีเลศนัย “คุณไป๋ แปลกนะ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่คุณเข้ามาทักผมเองเลยนะเนี่ย”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำหมัดแน่น พูดขึ้นมาตรงๆ “ฉันไม่มีเวลามาพูดเล่นกับคุณหรอกนะ ฉันมีเรื่องจะถามคุณ”

วันนี้ตอนอยู่ที่บริษัทตระกูลเผย หล่อนได้ยินผู้บริหารระดับสูงพูดถึงเวินซิวหวี ทั้งยังพูดว่าเขาเป็นที่พึ่งของเผยอี้….

เวินซิวหวียิ้มเยาะ “คุณอยากถามอะไรล่ะ?”

“ทำไมคุณถึงต้องช่วยเผยอี้?”

เวินซิวหวีได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที เขาหยุดไปสักพัก จึงค่อยๆพูดขึ้น “ช่วยเขา? ไม่ถึงขนาดนั้น ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนใจบุญมีเมตตา แต่ก็ไม่ทำให้ธุรกิจขาดทุนหรอกนะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งไปทันที หล่อนกำหมัดแน่น โน้มตัวลงมา จ้องมองไปที่สายตาของเวินซิวหวี ย้อนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จริงๆแล้ว ที่คุณช่วยเผยอี้ก็เพราะอยากจะฉวยโอกาสนี้กำจัดอุปสรรคทิ้ง คุณเคยบอกว่าจะขยายธุรกิจในเมืองไห่เฉิง อีกทั้งจะขึ้นมาเป็นผู้นำยักษ์ใหญ่ให้ได้ภายในหนึ่งปี เมื่อลองเปรียบเทียบดูแล้ว เผยอี้จัดการง่ายกว่าเผยลี่เชินมาก ดังนั้นคุณก็เลยช่วยเขาก่อน จากนั้นก็ค่อยกำจัดเขาทิ้ง!”

เวินซิวหวีเงยหน้าพูดขึ้น “ผมชอบคุยกับคุยกับคนฉลาดเสียจริง คุณไป๋ คุณนี่น่าสนใจขึ้นไปทุกที”

เขาพูดพลาง ยื่นมือออกมาจับคางของไป๋เสว่เอ๋อร์เบาๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวเกร็งไปหมด รีบสะบัดมือของเขาออกทันที

หล่อนเดินถอยหลัง ทิ้งระยะห่างจากเขา สายตามองไปที่เขาด้วยความเย็นชา “คุณเวิน คุณรู้ไหมว่าเคล็ดลับในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จคืออะไร? ฉันจะบอกให้ สิ่งนั้นคือศีลธรรม! แต่คุณ ไม่มีศีลธรรม!”

คำพูดประโยคสุดท้าย ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันพูดออกมา หลังจากพูดจบ หล่อนก็หันหลังเดินออกไปทันที

เวินซิวหวีใช้เงินทำบุญมากมาย สร้างภาพให้ตัวเองดูเป็นผู้ใจบุญ ทุกวันนี้เขาใช้ชื่อเสียงนี้ในการแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ออกกลอุบาย สร้างผลกำไรทางธุรกิจ สิ่งที่เขาทำทั้งหมด คือการดูถูกเอาเปรียบผู้อื่นไม่ใช่หรือไง?

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขึ้นรถไปด้วยอารมณ์สับสนกังวล หล่อนผ่านเรื่องปวดหัวมามากมาย ไม่รู้ว่าตระกูลเผยจะเป็นยังไงต่อไป หล่อนไม่กล้าที่จะไปคาดเดา

หล่อนอยากจะไปช่วยเผยลี่เชิน แต่ความสามารถของหล่อนคงช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย

กลับถึงที่บ้านจงลี่ฉวน เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าประตูบ้านไป ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติไป สีหน้าของคนงานในบ้านดูแปลกไป โดยเฉพาะป้าจาง ตาแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งร้องไห้มาไม่นาน

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้น เดินเข้าไปถาม “ป้าจางคะ ป้า…”

ป้าจางเงยหน้าขึ้น สบตามองหล่อน น้ำตาคลอ “คุณไป๋ ป้าทราบแล้ว คุณท่านเขา….”

ได้ยินเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงเข้าใจขึ้นมาทันที

เมื่อก่อนป้าจางเป็นคนงานในบ้านคุณท่านเผย ตั้งแต่แรกเริ่มคุณท่านเผยเป็นเจ้านายของป้าจาง แน่นอนว่ารับใช้ท่านมาเป็นเวลานานต้องมีความผูกพันธ์กันเป็นธรรมดา ตอนนี้หล่อนเข้าใจดีว่าป้าจางต้องเสียใจเป็นอย่างมาก

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเศร้าไปด้วย หล่อนยื่นมือออกมาลูบไปที่หลังของป้าจาง “ป้าจาง คุณท่านจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไปนะคะ”

ป้าจางพยักหน้าลง เช็ดน้ำตาและพูดขึ้น “คุณไป๋คงยังไม่ได้ทานอะไร เดี๋ยวป้าไปเตรียมให้นะคะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบพูดขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทานมาแล้ว”

เวลาแบบนี้ หล่อนคงไม่ใจดำให้ป้าจางทำงานอะไรแล้ว

“ป้ารีบพักผ่อนนะคะ อย่าคิดมากนะ”

หลังจากที่พูดปลอบป้าจาง ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เดินเข้าห้องนอนไป

เมื่อเปิดประตูห้องลูกเข้าไป ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นห้าวเจ๋อน้อยนั่งอยู่บนเตียงกับเจียงหวั่นหวั่น

เมื่อเจียงหวั่นหวั่นเห็นหล่อน รีบหันมามอง “ไป๋เสว่เอ๋อร์เธอกลับมาแล้ว!”

“คุณแม่!”

ห้าวเจ๋อน้อยรีบกระโดดลงมาจากเตียง วิ่งตรงเข้ามากอดขาของไป๋เสว่เอ๋อร์ พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ “ผมไม่ได้เจอแม่มานานแล้วนะครับ….”

ไป๋เสว่เอ๋อร์อุ้มเจ๋อน้อยมากอดในอ้อมอกด้วยความเห็นใจ ตอนที่หล่อนเพิ่งกลับมา เจ๋อน้อยกำลังนอนกลางวันอยู่ หล่อนยังไม่ทันได้เจอกับลูก ก็ต้องออกไปข้างนอกอีกครั้ง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลูบหัวเจ๋อน้อยเบาๆ พูดขึ้น “แม่กลับมาแล้ว ต่อไปแม่จะอยู่กับลูก ไม่ไปไหนแล้วนะ”

พูดปลอบเขาอยู่สักพัก เจ๋อน้อยก็อารมณ์ดีขึ้นมา เขามุดหัวเข้าไปซุกในอ้อมอกของไป๋เสว่เอ๋อร์ พูดขึ้นด้วยท่าทีผิดหวัง “คุณแม่ครับ วันนี้ผมเห็นข่าวคุณปู่เสียแล้ว เขาเหมือนคุณตารึเปล่าครับ? นอนจำศีลอยู่ในโลงหินแบบนั้น?”

เมื่อถูกเขาถามขึ้นเช่นนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกปวดใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะพูดต่อยังไง

ก่อนหน้านี้หล่อนเคยพาเจ๋อน้อยไปเยี่ยมพ่อที่จากไปแล้ว เพื่ออธิบายเรื่องการตายให้เขาฟัง จึงบอกว่าคุณตาจำศีลฤดูหนาว ตอนนี้เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ จึงคิดถึงคุณปู่ หล่อนรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

“ใช่จ้ะ….” ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดติดขัด “พวกเขาก็แค่จำศีลฤดูหนาว”

“งั้นต่อไปผมก็จะไม่เจอเขาแล้วใช่ไหมครับ?” ห้าวเจ๋อน้อยเงยหน้าถามขึ้น ยกมือขึ้นจับสร้อยเงินที่คอ “แม่ครับ…นี่เป็นสิ่งที่คุณปู่ให้ผมครับ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้นจึงก้มหน้าลงมาดู เห็นจี้กุญแจเงินอันสวยงามในมือของเจ๋อน้อย หล่อนยิ่งรู้สึกปวดใจมากขึ้น

หล่อนหยิบจี้กุญแจเงินขึ้นมา ค่อยๆลูบคลำ

คุณปู่จริงใจกับเจ๋อน้อยมาก แต่พวกเขายังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ก็ต้องแยกจากกันเช่นนี้

ทันใดนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์สังเกตเห็นบางอย่างที่สลักตัวนูนอยู่ด้านข้างของจี้เงิน หล่อนจ้องมองดูอย่างตั้งใจ จึงพบว่าเป็นตัวอักษร

มีทั้งหมดหกตัวอักษร ขนาดเล็กมาก ถ้าหากไม่สังเกตดูดีๆ แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกสงสัยขึ้นมา หรือว่าตัวอักษรพวกนี้เป็นรหัสการผลิตของจี้เงินนี้?

หล่อนอุ้มห้าวเจ๋อน้อยขึ้นไปนั่งบนเตียง มองไปที่เจียงหวั่นหวั่น พูดขึ้น “หวั่นหวั่น เธอดูนี่สิ”

เจียงหวั่นหวั่นรับจี้กุญแจเงินมาดู ขมวดคิ้วพูดขึ้น “มีตัวอักษรอยู่แถวหนึ่ง”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ถามขึ้น “เป็นรหัสเลขการผลิตรึเปล่า?”

“ไม่น่าจะใช่ เมื่อก่อนตอนที่หลานฉันเกิด ก็ได้รับจี้กุญแจเงินแบบนี้เช่นกัน แต่ไม่มีสลักตัวอักษรแบบนี้นะ! อีกอย่างถ้าจะเป็นรหัสการผลิต ก็ต้องเป็นตัวเลขใช่รึเปล่า? ”

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้น หล่อนยิ่งสงสัยเพิ่มมากขึ้น

เจ๋อน้อยที่นั่งอยู่ด้านข้าง ค่อยๆพูดขึ้น “คุณปู่บอกผมว่า สิ่งนี้สำคัญมาก….”

สำคัญมาก….

ไป๋เสว่เอ๋อร์อ่านตัวอักษรนั้นอยู่ภายในใจ รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

แม้ว่าจี้เงินแบบนี้จะมีมูลค่าอยู่บ้าง แต่เงินจำพวกนี้สำหรับคุณท่านเผยแล้วคงเป็นเพียงแค่เศษเงิน เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกำชับบอกห้าวเจ๋อน้อยว่าสำคัญมาก นอกเสียจาก ค่าของจี้กุญแจเงินนี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่มูลค่าของราคา!

คุณท่านเผยอยากจะสื่อถึงอะไรกันแน่? แล้วตัวอักษรเหล่านี้หมายถึงอะไรกัน?

“เสว่เอ๋อ เธอว่านี่มันบังเอิญไปรึเปล่า ตอนนี้ภายในตระกูลเผยวุ่นวายมาก คิดไม่ถึงเลยว่าคุณท่านเผยจะ….”

เมื่อได้ยินเจียงหวั่นหวั่นพูดเช่นนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที หันหลังไปมองหล่อน “พวกเธอ…รู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?”

เจียงหวั่นหวั่นพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “มีข่าวออกในอินเตอร์เน็ตแล้วไง เธอไม่รู้เหรอ?”

ข่าวในอินเตอร์เน็ต? เรื่องนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นมาไม่นาน มีข่าวออกมาแล้วงั้นเหรอ หรือบางทีอาจจะมีบางคนเจตนาตั้งใจให้ข่าวกับพวกสื่อ?

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท