บทที่ 320 เธอหึง เขาอธิบาย
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อไม่รู้เรื่องที่ซูซีมู่ถ่ายรูปทะเบียนสมรส จนกระทั่งโจวเฉิงโทรหาเธอ
“คุณนาย วันนี้คุณไปสำนักงานกิจการพลเรือนกับประธานซู ก็เพื่อจดทะเบียนสมรสใช่ไหม?”
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นถาม “คุณรู้ว่าพวกเราจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างไร?”
“เมื่อครู่ประธานซูเพิ่งโพสต์ภาพทะเบียนสมรสของพวกคุณลงในWeibo” โจวเฉิงยิ้มแล้วตอบ
ซูซีมู่ถ่ายทะเบียนสมรสในWeiboแล้ว? โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่ที่กำลังนั่งดูเอกสารบนโซฟาแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดเสียงต่ำว่า “หมายเลขWeiboของซูซีมู่คืออะไร?”
“ก็คือชื่อของประธานซู ตอนนี้ในWeiboวุ่นวายกันใหญ่แล้ว เพื่อนที่มีความสัมพันธ์ไม่เลวกับประธานซูเหล่านั้น รู้กันหมดแล้วครับ ถ้าไม่ใช่เพราะประธานซูปิดโทรศัพท์มือถือ ก็เกรงว่าตอนนี้โทรศัพท์มือถือของประธานซูคงจะระเบิดแล้ว…”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ฟังประโยคสุดท้ายของโจวเฉิงอยู่แล้ว หลังจากที่ได้ยินโจวเฉิงบอกว่าWeiboเป็นชื่อของซูซีมู่ ก็รีบพูดแค่‘โอเค ขอบใจ’ประโยคเดียวแล้ววางสายไป
หลังจากนั้นโล่เฟยเอ๋อก็กลับมาที่หน้าจอ กดเปิดซินล่างเวย์ปั๋ว แล้วลงชื่อเข้าใช้หมายเลขWeiboของตนเอง จากนั้นค้นหาWeiboของซูซีมู่
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อคิดจะติดตามWeiboของซูซีมู่ แต่พอเปิดเข้าไปก็พบว่าซูซีมู่ติดตามเธอตั้งนานแล้ว
ปลายนิ้วของเธอหยุดชะงักไปชั่วคราว จากนั้นก็กดเข้าหน้าแรกWeiboของซูซีมู่
หน้าแรกของเขาโล่งมาก ในWeiboมีแค่ข้อความบ้างประปราย ข้อความใหม่ล่าสุด ก็โพสต์ตอนที่เธอไปอาบน้ำในห้องน้ำ
ไม่มีข้อความ มีแค่รูปถ่าย ซึ่งก็คือรูปทะเบียนสมรสของพวกเขาสองคน
รูปถ่ายและหมายเลขประจำตัวของทั้งสองคนในทะเบียนสมรสนั้นถูกเซนเซอร์ไว้ทั้งหมด มีเพียงชื่อของพวกเขาที่อยู่เคียงข้างกันและตราประทับของสำนักงานกิจการพลเรือน
ก่อนหน้านี้เธอแค่โกรธส้ายหลินน่า ถึงได้คิดจะให้ซูซีมู่บอกคนรู้จักของเขา เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าซูซีมู่จะโพสต์รูปถ่ายทะเบียนสมรสในWeibo เพื่อบอกเพื่อนของเขา
ในใจของเฟยเอ๋อรู้สึกอบอุ่น มุมปากก็ค่อยๆ ฉีกยิ้มขึ้นมาก
เพียงแต่เธอดีใจได้ไม่นาน ก็ถูกทำให้โกรธแล้วเพราะตอบกลับอย่างรวดเร็วของส้ายหลินน่าที่ด้านล่างWeiboของซูซีมู่
ส้ายหลินน่า ส้ายหลินน่าอีกแล้ว กัดไม่ปล่อยจริงๆ
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองการตอบกลับของส้ายหลินน่าบนWeiboของซูซีมู่สักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ซูซีมู่”
ซูซีมู่ได้ยินเธอตะโกนเรียกเขา จึงเงยหน้าขึ้นแล้วก็เห็นใบหน้าที่ดูไม่ได้ของเฟยเอ๋อ เลยรีบถาม “เป็นอะไรไป?”
“โทรศัพท์มือถือของนายล่ะ?” เฟยเอ๋อพูดด้วยอารมณ์โกรธ
“อยู่นี่” ซูซีมู่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วส่งให้เธอ “เมื่อกี้ฉันปิดเครื่อง ต้องการให้ฉันเปิดเครื่องให้เธอไหม?”
“อืม นายเปิดเครื่อง” เฟยเอ๋อพยักหน้า
ซูซีมู่เปิดโทรศัพท์มือถืออย่างเชื่อฟัง เสียงติ๊งต๊องของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นไม่หยุด พอได้ห้านาทีก็เงียบขึ้นมาแล้ว
เขาไม่ได้มองอะไรมาก แล้วส่งโทรศัพท์มือถือไปให้โล่เฟยเอ๋อ
เฟยเอ๋อไม่ได้รับโทรศัพท์มือถือมา แล้วพูดต่อ: “ลงชื่อเข้าใช้Weiboของนาย”
ซูซีมู่‘ฟังคำสั่ง’เปิดซินล่างเวย์ปั๋ว หลังจากนั้นลงชื่อเข้าใช้
พอเข้ามาก็มีข้อความแจ้งเตือนตอบกลับจำนวนไม่น้อย
ดูเหมือนเขาจะไม่ได้มองอะไรมาก เพียงแค่เงยหน้ามองไปที่โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อพูดต่อ: “ลบข้อความบนWeiboที่นายเพิ่งโพสต์อันนั้น ข้อความอันนั้นที่ส้ายหลินน่าตอบกลับ”
ดวงตาของซูซีมู่ที่มองโล่เฟยเอ๋อมีแววขบขันเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ลบข้อความตอบกลับของส้ายหลินน่า “ลบแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้น กวาดสายตามองบนโทรศัพท์มือถือของซูซีมู่แวบหนึ่ง หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าการตอบกลับของส้ายหลินน่าถูกลบแล้ว ก็พยักหน้า จากนั้นไม่นาน เธอก็ยังไม่วางใจแล้วเอ่ย: “นายบล็อกเธอซะ”
ซูซีมู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันกับท่าทางขี้หึงเล็กๆ ของโล่เฟยเอ๋อแล้วหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า…”
พอเห็นซูซีมู่หัวเราะโล่เฟยเอ๋อก็คิดว่าเขาไม่ต้องการบล็อกส้ายหลินน่า ใบหน้าของเธอซีดขาวและน้ำตาก็ไหลออกมาแล้ว
ตอนนี้ซูซีมู่หัวเราะไม่ออกแล้ว ความสุขในใจเหล่านั้นของเขาก็หายไปหมด แทนที่ด้วยความทุกข์ใจที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เขาทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะกาแฟ จากนั้นเอื้อมมือไปกอดโล่เฟยเอ๋อเข้ามาในอ้อมแขนของตนเอง “เด็กดี ไม่ร้องนะ”
โล่เฟยเอ๋อดิ้นไปด้วยแล้วร้องไห้ไปด้วย: “นายสนใจฉันทำไม นายไปหาส้ายหลินน่าของนายสิ”
ซูซีมู่รู้ว่าตนเองทำให้โล่เฟยเอ๋อเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว เขากอดเธอแน่น เช็ดน้ำตาให้เธอไปด้วยหัวเราะไปด้วยแล้วเอ่ย: “เธอเข้าใจผิดแล้ว ระหว่างส้ายหลินน่ากับฉันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบที่เธอคิด เธอเป็นเพื่อนที่รู้จักสมัยตอนที่ฉันไปแลกเปลี่ยนที่ฝรั่งเศส ในระยะนี้ฉันกำลังเจรจาสัญญากับบริษัทของเธอ เธอมาเป็นตัวแทนบริษัทของเธอ”
โล่เฟยเอ๋อน้ำตาคลอและเงยหน้าขึ้นมองซูซีมู่แล้วถาม “อย่างนั้นทำไมถึงมีกลิ่นน้ำหอมบนตัวนาย?”
“คงเป็นเพราะเสื้อคุมของฉันกับเสื้อคุมของเธอแขวนไว้ด้วยกันเลยติดมา” เมื่อพูดจบซูซีมู่ก็กลัวโล่เฟยเอ๋อจะไม่เชื่อ เลยพูดเพิ่มอีกประโยคหนึ่ง “เฟยเอ๋อ เธอก็รู้ ฉันรักสะอาดและก็ไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้าใกล้”
โล่เฟยเอ๋อส่งเสียงไม่พอใจแล้วเอ่ย: “ใครจะไปรู้ล่ะ? วันนั้นที่นายอยู่ฝรั่งเศสยังให้คนคล้องแขนเลย”
ซูซีมู่รู้ตัวดีว่าตอนนั้นเพื่อให้โล่เฟยเอ๋อเลิกยุ่งกับเขา จึงได้ลากส้ายหลินน่ามาแสดงละครด้วย แต่ทำดีเกินไปแล้ว เลยรีบเอ่ยขอโทษ “ตอนนั้นฉันทำเพราะไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ เลยจงใจให้เธอคล้องแขนฉัน เธออย่าโกรธเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว”
ที่แท้ก็เพื่อหลอกเธอนี่เอง! โล่เฟยเอ๋อรู้สึกโล่งใจแล้ว แต่ไม่คิดที่จะให้ซูซีมู่ผ่านด่านไปได้ง่ายๆ ขนาดนั้น
ล้อเล่นน่า ช่วงเวลานี้เธอต้องเสียใจก็เพราะส้ายหลินน่า
ความเงียบของโล่เฟยเอ๋อ ทำให้ซูซีมู่คิดว่าโล่เฟยเอ๋อไม่เชื่อเขา จึงเอ่ย: “ถ้าเธอไม่เชื่อ ฉันจะโทรศัพท์หาหล่อน ให้หล่อนมาอธิบายให้เธอ”
พอพูดจบซูซีมู่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะกาแฟขึ้นมาแล้วจะโทรศัพท์หาส้ายหลินน่า
โล่เฟยเอ๋อรีบดึงมือเขาไว้ “อย่าโทร ฉันเชื่อคุณ”
ซูซีมู่หันไปมองเธอนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไร
พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเขา โล่เฟยเอ๋อก็อดไม่ได้ เงยหน้าขึ้นแล้วจูบลงบนริมฝีปากของซูซีมู่เบาๆ
ตอนแรกเธอคิดว่าพอจูบเสร็จก็จะผละออก
ผลปรากฏว่าตอนที่เธอกำลังจะผละออกนั้น มือของซูซีมู่ก็เกี่ยวแล้วกดศีรษะของเธอไว้ ไม่ยอมให้เธอไป
จูบที่บางเบา ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งขึ้นมาแล้ว
โล่เฟยเอ๋อถูกจูบจนอ่อนไปทั้งตัว แล้วยกมือโอบคอของชายคนนั้นไว้
ชายคนนั้นอุ้มเธอขึ้นมา แล้วเดินไปที่เตียงใหญ่
ความเร่าร้อนนั้น ก็เริ่มลุกลามทันที
ภายในห้องมืดมิด บนเตียงผ้าไหมสีขาว มีชายร่างสูงและแข็งแรงเข้าตวัดเกี่ยวพันกับหญิงสาวผิวขาวเนียนบอบบาง ความลุ่มหลงที่ยากจะตัดใจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน