บทที่ 34 เป็นฮองเฮา(1)
เฉิงเสี้ยงยังคงไม่รู้สึกรู้สา “นายท่านรองที่ท่านพูดต้องสำนึกถึงใจ ข้ามีแต่ใจคิดดี คิดอยากจะให้ลูกสาวเจ้าได้มีโอกาสเข้าวังเป็นฮองเฮา ! นี่เป็นสิ่งที่หญิงสาวหลายคนตั้งหน้าตั้งตาคอยที่จะได้รับความโชคดีนี้นะ !”
ฮ่องเต้อำมหิตสีหน้าเข้มขึ้น “ข้าไม่อยากฟังว่านายท่านรองโจ๋ว จะมีเหตุผลอะไรมาบอกว่าไม่เหมาะสมหรือ”
นายท่านรองโจ๋วหรือ
ฮ่องเต้เรียกนายท่านรองโจ๋วหรือ
เห็นได้ชัดว่าโมโหเข้าแล้ว!
โจ๋วเส้าฉีแต่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่คนประมาท พูดอย่างใจเย็น: “ฮ่องเต้ข้าน้อยบังอาจทูล ได้โปรดเมตตา!”
ก่อนที่จะพูด ยังต้องขอความเมตตาจากฮ่องเต้หรือ
สิ่งที่เขาจะพูดจะต้องอาจเอื่อมและทำให้ตกใจอย่างแน่นอน
ฮ่องเต้อำมหิต “ อนุญาต”
เพียงคำเดียว
เรียบง่ายดูมีอำนาจ
โจ๋วเส้าฉีโขกศรีษะกับพื้น3ครั้งขอบคุณเมตตาของฮ่องเต้ หลังจากนั้นก็ยืนขึ้น ส่งสายตาเย็นชาไปที่เฉิงเสี้ยงถางเปิ่นขุย พูดว่า: “ไต้เท้าเฉิงเสี้ยง ! ท่านก็มีลูกสาวคนหนึ่ง ได้ยินมาอยากจะเข้าวังไปเป็นฮองเฮา แล้วเหตุใดพอได้ยินว่าข้าหาลูกสาวที่พลัดพลากกันไป ก็จะรีบให้แต่งงานไปกับฮ่องเต้หล่ะ”
เฉิงเสี้ยงตอบ: “ข้าแค่เพียงมีใจคิดดี….”
โจ๋วเส้าฉีพูดต่อชัดถ้อยชัดคำ: “นกสองหัว พูดกลับไปกลับมา เป็นการกระทำของคนขี้ขลาด ไม่มีเจตนาดี! แต่เจตนามันเป็นยังไงเรื่องนี้เจ้ารู้ดีอยู่แกใจมากที่สุดแล้ว!”
เฉิงเสี้ยงตอบ: “เจตนา ข้ามีเจตนาอะไร เจ้าอย่ามาโยนความผิดให้ข้า!”
โจ๋วเส้าฉีพูด: “ลูกสาวข้ายังไม่ครบขวดดีก็มีคนมาลักพาตัวไป เพิ่งจะหากลับมาได้ เพิ่งจะตรวจสอบเลือดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ เพื่อเป็นข้อพิสูจน์และพานางเข้าจวนอ๋องโจ๋ว ให้มาคำนับบรรพบุรุษ แต่ว่าตลาดชีวิตนางใช้ชีวิตเยี่ยงประชาชนธรรมดา ในชนบท จะมาคู่ควรคู่บารมีอยู่ข้างกายฮ่องเต้ได้อย่างไร ไม่รู้ว่าเจตนาของเจ้า ว่าจะทำให้จวนอ๋องโจ๋วของเราพังพินาศหรือเจตนาทำร้ายฮ่องเต้กันแน่”
โจ๋วเส้าฉีพูดออกมาอย่างไม่ให้สูงไม่ต่ำ เต็มไปด้วยกำลัง
เฉิงเสี้ยงได้ยินแล้ว สีหน้าก็ขาวซีด
ในความเป็นจริงแล้วเขามีเจตนาอย่างชัดเจน
เขามีความหวังตลอดว่าจะเอาลูกสาวเข้าวังให้ได้เป็นฮองเฮา แต่ว่าฮ่องเต้อำมหิตเหมือนว่าช่วงนี้จะปฏิเสธผู้หญิง การสถาปนาฮองเฮา แม้เขาอยากถามก็ไม่กล้าถาม คนอื่นถามเขาก็โหโหขึ้นมา
ในใจของเฉิงเสี้ยงคิดว่าลูกสาวของตนคงไม่ได้เป็นฮองเฮาแล้วเป็นแน่แท้ เลยไม่ห้ามที่จะให้ลูกสาวตระกูลโจ๋วขึ้นเป็นฮองเฮาแทน
แต่เด็กนางก็ไปอยู่กับประชาชน แน่นอนว่านิสัยยากจะเชื่อฟัง ถ้าเข้าวังไปคงทำให้ฮ่องเต้พิโรธและสร้างความวุ่นวายในสนมในวัง แน่นอนว่าคนที่โตมาจากชนบทจะต้องเป็นที่หัวเราะเยาะเป็นแน่! ถึงตอนนั้นจวนอ๋องโจ๋วก็คงจะไม่เป็นที่โปรดลูกสาวฮองเฮา!
ไม่แน่ว่าจะทำให้ฮ่องเต้อำมหิตโมโห แล้วก็ปลดฮองเฮาและจวนอ๋องโจ๋วออก ทำให้ความสัมพันธ์พังทลาย ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำมาก่อน
ในขณะที่แผนการของเขาถูกโจ๋วเส้าฉีเปิดโปง สีหน้าแน่นอนว่าไม่ดีเอามาก ๆ
ฮ่องเต้อำมหิตเป็นคนฉลาด เห็นคนสองคนคนหนึ่งโมโห อีกคนเห็นแก่ตัว แน่นอนว่าดูได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าเขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แม่แสดงอาการอะไร ยิ่งเขาสองคนทะเลาะกันยิ่งมากก็ยิ่งดี เขาจะได้เห็นว่าแต่ละคนมีความคิดยังไงต่อฮ่องเต้
ตอนที่เขายังเด็กก่อนขึ้นครองราชย์ ฮ่องเต้องค์ก่อนกำลังจะจากไป ได้พูดกับเขาว่าการจะเป็นฮ่องเต้ที่ดีคนหนึ่งนั้นไม่สำคัญหรือจะเป็นฮ่องเต้อำมหิตก็ดี ฮ่องเต่โหดร้ายก็ดี เพียงแค่รักษาประเทษชาติไว้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีอะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม จะต้องปกป้องตระกูลทั้งสามไว้ เก็บและใช้มันให้ดี!
ตระกูลทั้งสามยิ่งใหญ่ ราชวงศ์เทียนส้งก็จะยิ่งใหญ่ด้วย!
ราชวงศ์เทียนส้งที่ประเทษชาติสงบนี้ เกือบทั้งหมดจะเป็นเพราะต้องเข้ากำลังและความสู้รบของทั้งสามตระกูล ชนเผ่าหมานยังไม่รู้ว่าฮ่องเต้ของราชวงศ์เทียนส้งนามสกุลอะไร แต่รู้ว่าสามตระกูลใหญ่มีนามสกุลอะไรบ้าง!
ฮ่องเต้อำมหิตแน่นอนว่ารู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ประเทษชาติมั่งคง ยังไงก็ต้องเข้าทั้งสามตระกูลนี้ ที่อยู่ไกลอยู่ตระกูลไป่ทางไต้ก็ไม่ต้องพูดถึง ที่อยู่ในเมืองหลวงอย่างจวนอ๋องโจ๋วกับตระกูลถางเปิ่น ก็แกร่งแย่งชิงดีกันตลอด เป็นความลับที่ใคร ๆ ก็รู้กัน
สิ่งที่เขาต้องทำก็คือไม่ต้องช่วยเหลือฝ่ายไหนทั้งนั้น ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ให้พวกเขาทะเลาะกันไปอย่างนี้ แต่ก็จะไม่ปล่อยให้ทะเลาะกันรุนแรงบานปลาย เดี๋ยวจะทำให้ประเทษชาติของเขาไม่มั่นคง
ฮ่องเต้อำมหิตกระแอมเสียงขึ้นมา หยุดปากทั้งสองฝั่งที่กำลังพิพาทกัน หลังจากนั้นก็ทำให้ตัวให้เป็นกลางพูดว่า “เฉิงเสี้ยงอาจเป็นกังวลว่าวังหลังนั้นไม่มีเสาหลัก ส่วนนายท่านรองโจ๋วก็กังวลว่าลูกสาวตัวเองจะไม่เข้าใจขนมธรรมเนียมชั้นสูงจะทำผิดเอาได้ ทั้งสองก็เป็นข้าราชบริพาลที่ข้ารักยิ่ง จะต้องไม่มีใครทำร้ายใคร เรื่องนี้ก็จบไว้แค่นี้เถอะ หลังจากนี้อย่าได้มีใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก!”
พ่อมดที่ยืนอยู่ข้าง ๆอย่างเงียบ ๆ โดยตลอดเปิดปากพูด: “ฮ่องเต้ ! ช้าก่อน! ข้อเสนอของเฉิงเสี้ยงท่านต้องคิด บางทีอาจสมควรที่จะเอาหญิงสาวตระกูลโจ๋วเข้าวังหลัง”
ฮ่องเต้อำมหิตถาม: “ด้วยเหตุใด”
พ่อมดตอบ: “ วันนี้ตอนเช้ากล่องบูชามีเสียงเตือนออกมา เงื่อนงำการทำงานทำให้ต้องมาจวนอ๋องโจ๋ว และพอดีกับที่วันนี้หญิงสาวของตระกูลโจ๋วได้ทำการพิสูจน์เลือด ได้รับการยอมรับจากบรรพบุรุษ เป็นเรื่องที่ออกจะบังเอิญไปซะหน่อย!”
ฮ่องเต้อำมหิตคิดหนัก…….
พ่อมดพูดต่อ: “ฮ่องเต้ กล่องบูชาถูกวางอยู่ในวังมาหนึ่งร้อยสามสิบปี แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยปรากฏสัญญาณเตือน แต่มาพอดีกับที่วันนี้หญิงสาวตระกูลโจ๋วได้กลับมาเจอบรรพบุรุษ เสียงของกล่องบูชามาเตือน อาจเป็นนี่เป็นลิขิตสวรรค์ที่มาบอกพวกเราก็เป็นได้”
เฉิงเสี้ยงได้ฟังก็รีบพยักหน้าสนับสนุน: “ฮ่องเต้ท่านคิดดูซิ ขนาดพ่อมดยังพูดเลย ต้องไม่ผิดแน่ ๆ แม้แต่กล่องบูชายังนำพาให้พวกเรามาที่จวนอ๋องโจ๋ว แน่นอนว่าต้องมีจุดประสงค์แน่นอน ถ้าหากว่าหญิงสาวตระกูลโจ๋วเป็นคนมงคลที่สามารถมาบำรุงทุกข์ของประชาชนได้ อย่างนั้นก็ยิ่งควรที่จะแต่งตั้งเป็นฮองเฮา…….”
โจ๋วเส้าฉีรีบพูดขึ้นมา”ฮ่องเต้ไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าการเตือนจากกล่องบูชาอาจจะมีเหตุผลอื่น”