บทที่ 156 อย่ามาขู่ข้านะ1
โจว๋ชิงหยี่ตอบ “ยังไม่กลับเพคะ”
ฮ่องเต้อำมหิตถามเสียงดุ “เจ้าบอกเองว่าหลังจากออกจากงานเลี้ยง ซินเหยาก็ยังไม่กลับตำหนักชิงหย่า?”
โจว๋ชิงหยี่พยักหน้าทันที
ป๋ายกุ้ยเหรินได้ยิน ก็ดีใจมีความสุข “ฝ่าบาท! พระองค์ทอดพระเนตรสิเพคะ หม่อมฉันไม่ได้พูดผิดใช่ไหมเพคะ? นางยังไม่กลับตำหนีกชิงหย่า!”
โจว๋ชิงหยี่หนี่ตา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หากป๋ายกุ้ยเหรินมาทำหน้าลำพองใจ นางคิดว่าไม่เรื่องดีแน่!
หลังจากนั้นนางเริ่มตั้งสติได้ว่านางทำผิดไปแล้ว
“แย่แล้ว! แย่แล้ว! หม่อมฉันยอมรับว่านางยังไม่กลับตำหนัก หรือใครทำร้ายนางเพคะ?”
โจว๋ชิงหยี่เริ่มเสียใจ
“HI วันนี้ตำหนักชิงหย่าคนเยอะจัง! เล่นไพ่นกกระจอกกันหรือ?”
ซินเหยาถือถุงกระเป๋า หน้าไม่มีพิรุธ เดินเข้ามา
ป๋ายกุ้ยเหรินแผดเสียงทันที “เร็ว! เร็วเข้า! จับนางเอาไว้”
องครักษ์พุ่งออกไปล้อมซินเอาไว้
ซินเหยาเริ่มแปลกใจมองฮ่องเต้อำมหิต ป๋ายกุ้ยเหริน และพวกอาจารย์ “พวกเจ้าแต่ละคนเมากันหมดเเล้ว ทำไมถึงวิ่งกรูกันมาที่ตำหนักชิงหย่ากันล่ะ?”
ฮ่องเต้อำมหิตหน้าเคร่งขรึม “โจว๋ซินเหยา! เจ้าไปไหนมา?”
ซินเหยาพูด “ทำไมต้องบอกเจ้าล่ะ?”
ฮ่องเต้อำมหิตพูด “บอกมา!”
น้ำเสียงเขาโกรธและเย็นชา!
แม้เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจนาง แต่เรื่องเกิดขึ้นตรงหน้าแล้ว เขาไม่เชื่อไม่ได้แล้ว!
อีกอย่าง ซินเหยาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถเปิดกล่องเซิ้นได้…..
ป่ายกุ้ยเหรินเห็นนางแอบขโมยกล่องเซิ้นตอนค่ำ หยิบของมีค่าบางอย่างออกมา….
เรื่องแบบนี้มีเพียงนางเท่านั้นที่ทำได้
อีกอย่าง เรื่องที่ได้ยินมันสอดคล้องกับความสามารถของนางพอดี!
โจว๋ชิงหยี่รีบเข้ามาแหวกกลุ่มองครักษ์ มาอยู่ข้างๆซินเหยา กระซิบ “น้องหญิง! ขอโทษนะ ข้า…..ข้า…..เมื่อกี้พระองค์ตรัสถามว่าเจ้าอยู่ในตำหนักชิงหย่าหรือไม่ ข้าตอบว่าเจ้าไม่อยู่”
ซินเหยามองหน้าป๋ายกุ้ยเหรินกำลังพออกพอใจ และเห็นพวกฮ่องเต้อำมหิตกับอาจารย์เริ่มหมดความอดทนแล้ว ในใจก็เริ่มคาดเดาได้บ้าง
“พี่สี่ ไม่เป็นไร ยังไงเจ้าก็พูดความจริง ตอนนี้พวกเขาออกมาจากด้านนอก เข้ามาจับข้าพอดีไม่ใช่หรือ? ถ้าเจ้ายิ่งโกหกยิ่งน่าสงสัยน่ะซิ! แต่….. วันนี้ป๋ายกุ้ยเหรินจะมาให้ร้ายอะไรข้าอีก?”
“ขโมยกล่องเซิ้น!”
ฮ่องเต้อำมหิตโมโหขึ้นมาทันที!
ซินเหยาตกใจสะดุ้ง
เมื่อกี้ตอนที่อยู่ในตำหนักเทพ นางก็แปลกใจทำไมเรื่องเคลื่อนไหวในคืนนี้ถึงแดงออกมาได้?
คืนนี้คนทั้งหมดเมาและกลับกันไปหมดแล้ว องครักษ์ในวังจึงน้อยลงกว่าปกติมาก โดยเฉพาะฮ่องเต้อำมหิตและเหล่าอาจารย์ที่ต่างเมากันเละเทะ….
ซินเหยาวรยุทธเก่งกล้า มิอาจคาดเดา ไม่ได้หมายความว่านางจะพ่ายแพ้ง่ายๆ
ตอนที่อยู่ตำหนักเทพ นางคิดว่าอ้านซินจะยอมแพ้ง่ายๆ
แต่ตอนนี้นางคิดว่า
คนที่จะพ่ายแพ้คือตัวนางเอง!
โดยเฉพาะตอนที่เห็นหน้าป๋ายกุ้ยเหริน
ยิ้มร้ายสมใจ แค่นี้นางก็พอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น!
ป๋ายกุ้ยเหรินพูด “ไม่เมื่อเจ้าบังอาจเข้าไปขโมยของมีค่าในกล่องเซิ้น ก็สมควรตาย! ตอนนี้เจ้าต้องถูกจับไปไต่สวน เจ้ายังกล้าปากดีอีกไหม?”
ซินเหยาพูด “เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาไต่สวนข้า?”
ป๋ายกุ้ยเหรินพูด “พี่สาวตัวดีของเจ้ายอมรับว่าเจ้าไม่ได้กลับตำหนักชิงอย่า อีกอย่าง พวกเราหลายสิบคนเห็นกลับตาว่าเจ้าพึ่งกลับมา!”
“หรือว่าพึ่งกลับมาจากขโมยกล่องเซิ้นนะ?”
“ถ้าไม่ใช่ เจ้าอธิบายมาซิ งานเลี้ยงจบไปหลายชั่วยามแล้ว แต่ทำไมเจ้ายังไม่กลับตำหนัก?”
“หาทางไม่เจอ ก็คงไม่ใช่หรอกกระมัง?”
ซินเหยาหัวเราะเย็นชา
นางป๋ายกุ้ยเหรินคนนี้
ไม่รู้จักอยู่จริงๆ
ตอนกลางวันก็มาข่มนางครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าเป็นคนฉลาดจริงก็ไม่ควรสร้างปัญหาเช่นนี้!
ยังหาเรื่องใส่ตัวอีก หาที่ตายจริงๆ
ซินเหยาใจกว้างกับทุกคน และไม่ชอบฆ่าใคร แต่หากยั่วยุให้นางโมโห อย่าหวังว่าจะได้อยู่ดี!
ป๋ายกุ้ยเหรินหัวเราะเจ็บแสบ “ฮ่าๆ หาทางไม่เจอ? เจ้ายังหาข้ออ้าง! หาข้ออ้างแถมาก ทหาร! ค้นตัว!”
ซินเหยายิ้มเย็นชา “ค้นตัว? น่าขำนัก เจ้าคิดไปเองมากกว่า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?”
ป๋ายกุ้ยเหรินมองฮ่องเต้อำมหิต พูดว่า “ฝ่าบาท! ฝ่าบาท! นางไม่รู้ว่าพวกเรามากค้นที่ตำหนักชิงหย่า ตอนนี้ของโจรต้องอยู่ที่นางแน่ๆ”
ฮ่องเต้อำมหิตมองซินเหยา….
ซินเหยายิ้มเย็นชา “ดูท่าเจ้าก็อยากค้นตัวสินะ? อีกอย่าง เจ้ามั่นใจว่าจะเอาโทษว่าที่ฮองเฮา การค้นตัวเป็นหน้าที่ใหญ่หลวง เจ้าเป็นตัวแทนของฮ่องเต้หรือไง?”
ฮ่องเต้อำมหิตยิ้มพูดว่า “ฮึ! ข้าไม่สน! โจว๋ชิงหยี่!”
โจว๋ชิงหยี่ลุกขึ้น “เพคะ”
“เจ้าไปค้นตัว!”
“อ้ะ….หม่อมฉัน….หม่อมฉัน…..”
“ถ้าเจ้าไม่ค้นตัว ข้าก็จะให้ป๋ายกุ้ยเหรินไปค้น!”
“หม่อมฉันค้นเพคะ!”
โจว๋ชิงหยี่ตอบรับด้วยความจำใจ
นางไม่อยากให้ป๋ายกุ้ยเหรินมาค้นตัวซินเหย