บทที่ 167 ชายแสนดีทั้งสองคน2
“ได้ยินว่า…..นางเก่งวรยุทธใช่หรือไม่?”
“แม้แต่ยอดฝีมือตระกูลถางเปิ่นยังเสียหลักอยู่ในกำมือนาง”
“ก่อนหน้านี้…..ถางเปิ่นจิ้งหัวหน้าบัญชาการองครักษ์ยังตายในมือนาง”
“ตอนนี้หญิงเฟยเกีลยดนางจะตายอยู่แล้ว”
“แต่ไม่กล้าลงมือต่อกรกับนาง”
“อย่างไรเสียฝ่าบาทกับไทเฮาทรงจับตานาง นางกำลังได้รับความสำคัญ จะหาเรื่องนางไม่ง่ายนัก”
“อีกอย่าง ได้ยินว่านางเป็นคนแรกที่เปิดกล่องเซิ้นได้คนแรกด้วย!”
“ฝ่าบาทและเหล่าอาจารย์บอกนางเป็นู้รับใช้ของเทพเจ้า สามารถพลกฟ้าทำลายแผ่นดิน ถึงให้นางขึ้นเป็นฮองเฮาแทนชิงหยี่!”
“แต่ ข้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้”
“ข้าเข้าวังมาหลายปีไม่เคยได้ยินคนเปิดกล่องเซิ้นได้!”
“นางเป็นแค่ผู้หญิง เปิดกล่องเซิ้นได้หรือ มันไม่น่าเชื่อเลยนะ”
คืนนั้นตระกูลโจว๋เกิดเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ทหารองครักษ์นับร้อยเห็นกับตาตัวเอง จากคนจำนวนสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน หลายวันมานี้ ดังไปถึงในวังนอกวัง จนคนทั้งเมืองหลวงได้ยินเรื่องนี้กันหมดแล้ว”
เหมยเฟยได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มาไม่น้อย แต่ข่าวลือพวกนี้ไม่น่าจะเป็นจริงทั้งหมด แต่ข่าวก็คงมีเนื้อหาประมาณนั้น
ป๋ายกุ้ยเหรินได้ยินเหมยเฟยพูด “ไม่ ไม่ นางเปิดกล่องเซิ้นได้จริงๆ ข้าเก็บกับตาตัวเอง นางเปิดกล่องเซิ้นได้จริงๆ”
เหมยเฟยไม่อยากเชื่อ “จริงหรือ นางเปิดกล่องเซิ้นได้จริงๆหรือ?”
ป๋ายกุ้ยเหรินพยักหน้า “ข้าเห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง พวกเขาบ้าไปแล้ว คิดว่าข้าพูดเหลวไหลมาทำร้ายข้า คืนนั้นนางเข้าไปขโมยกล่องเซิ้นในตำหนักเทพจริงๆ ข้าปีนข้ามกำแพงไปเห็นนางเปิดกล่องเซิ้นจริงๆ….”
เหมยเฟยพูด “แต่คืนนั้นไทเฮาทรงตรัสความจริงว่า…”
ป๋ายกุ้ยเหรินตะคอก “ไทเฮาโกหก! ไทเฮาทรงตรัสโกหกจริงๆ”
เหมยเฟยรีบปิดปากป๋ายกุ้ยเหริน “ป๋ายกุ้ยเหริน! เจ้าพูดเช่นนี้ไม่ได้! ถ้าไทเฮาทรงได้ยินเข้า พระนางคงไม่ปล่อยเจ้าแน่!”
ป๋ายกุ้ยเหรินพูดอย่างเกลียดชัง “ตอนนี้ไทเฮาทำร้ายข้าแบบนี้ นางยังจะปล่อยข้าไปอีกหรือ?”
เหมยเฟยพูด “ไทเฮาให้ข้ามาดูเจ้า และทรงรับสั่งว่าให้เจ้าอยู่ในตำหนักเย็นสักพัก ให้เจ้าพิจารณาความผิดของตัวเอง ถ้าเจ้ายอมฟังว่านอนสอนหนัก ผ่านไปสักระยะไทเฮาทรงจะปล่อยเจ้าออกไป”
ในดวงตาป๋ายกุ้ยเหรินเผยแสงสว่าง “ไทเฮาทรงตรัสเองจริงๆหรือ? ไทเฮาจะปล่อยข้าออกไปจริงหรือ?”
เหมยเฟยพยักหน้า “จริงแน่นอน ไม่งั้นเจ้าอยู่ในตำหนักเย็น หากไม่มีคำสั่งไทเฮาข้าจะกล้าเข้ามาได้ยังไง!”
ป๋ายกุ้ยเหรินดีใจคุยโอ้อวด “ไทเฮายังระลึกถึงข้า!”
เหมยเฟยพูด “ข้าให้เจ้าพิจารณาความผิดของตัวเอง ไม่นานไทเฮาจะทรงปล่อยเจ้า ต้องพาเจ้าออกไปเร็วๆนี้”
ป๋ายกุ้ยเหรินยิ้ม “ฮึ! ไทเฮายังทรงเข้าข้างข้า ใช่แล้ว เหมยเฟย เมื่อกี้เจ้าบอกว่าหญิงเฟยแอบจงเกลียดจงชังซินเหยาใช่หรือไม่?”
เหมยเฟยพูด “ใช่น่ะซิ ข้าได้ยินข่าวลือมาไม่น้อย หญิงเฟยไม่พอใจว่าที่ฮองเฮามาก”
ป๋ายกุ้ยเหรินพูด “หญิงเฟยชอบเกลียดชังอิจฉาริษยา ถ้านางเกลียดซินเหยา พวกเราก็ร่วมมือกันได้”
เหมยเฟยพูด “แต่เจ้ากับหญิงเฟยไม่ถูกกัน ก่อนหน้านี้พวกเจ้าก็ทะเลาะกันแรงมิใช่หรือ?”
ป๋ายกุ้ยเหรินพูด “ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ในวังหลวงไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ในเมื่อตอนนี้พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน ก็ควรจะหยุดศึกกันรวมมือกันก่อน! เมหยเฟย เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่
เหมยเฟยพูด “ให้ข้าช่วยอะไร?”
ป๋ายกุ้ยเหรินพูด “ช่วยพาข้าไปหญิงเฟย”
เหมยเฟยพูด “เอ่อ….กลัวว่าจะไม่ดีนะ ที่นี่คือตำหนักเย็น ไม่มีพระบัญชาของไทเฮา ไม่ว่าใครก็ออกไปไม่ได้ ไทเฮาสั่งให้ข้ามา หญิงเฟยไม่ได้รับคำสั่ง…..”
ป๋ายกุ้ยเหรินพูด “เจ้ามันโง่! รอให้ถึงตอนค่ำซิ เรียกหญิงเฟยมา เจ้ากับหญิงเฟยเป็นนายวังหลัง แม้คนจะเห็น ก็ไม่มีใครกล้าเอาพวกเจ้าไปรายงานหรอก”
ป๋ายกุ้ยเหรินขอร้องเช่นนี้ ทำให้คนลำบากใจมาก เหมยเฟยลังเลแล้ว
นางเป็นแค่คนนอกชนเผ่า เข้าวังหลวงมาหลายปี แต่ความคิดตื้นเขินเรียบง่าย อย่างไรเสียฮ่องเต้อำมหิตไม่โปรดปรานนาง เพราะเหตุนี้นางขัดแย้งกับคนอื่นน้อยมาก
ป๋ายกุ้ยเหรินเร่งเร้า “เจ้ามัวทำอะไรอยู่ ข้าเข้าตำหนักเย็นแต่ไทเฮายังจดจำข้า เจ้าเป็นธิดาอ๋องถู่ซือ หญิงเฟยเป็นคนตระกูลถางเปิ่น ในวังหลวงแห่งนี้ใครจะมาเป็นศัตรูกับพวกเรา?”
เหมยเฟยยังคงลังเล ไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจอย่างไรดี
ป๋ายกุ้ยเหรินเริ่มพูดบีบนาง “เหมยเฟย ถ้าตอนนี้เจ้ายืนข้างเรา งั้นเข้าก็เป็นศัตรูกับฝ่ายเราแล้ว ที่วังหลวงแห่งนี้ ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ถ้าเจ้าอยากเป็นศัตรูกับหญิงเฟย ข้าก็ไม่ฝืนใจเจ้า!”
เหมยเฟยตกใจ “ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้อยากเป็นคู่ปรับของพวกเจ้า!”
เป็นศัตรูกับป๋ายกุ้ยเหรินกับหญิงเฟยงั้นรึ
มันเสี่ยงมากไป!
ผู้หญิงสองคนนี้ร้ายกาจรับมือยากมากที่สุดในวังหลวง
ผิดใจกับนางคนใดคนหนึ่งจะเกิดเรื่องยุ่งยาก ถ้าผิดใจกับทั้งนางพร้อมกัน ต้องตายแน่!
แม้เหมยเฟนไม่อยากทำร้ายสองพี่น้องตระกูลโจว๋ แต่นางก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับป๋ายกุ้ยเหรินและหญิงเฟย และป๋ายกุ้ยเหรินบีบคั้นนาง นางจำใจยอมเข้าเป็นพวก
ตกกลางดึก เหมยเฟยสั่งให้สาวรับใช้ไปที่หญิงสุยจู้
หญิงเฟยได้ยินความประสงค์ของนาง หยิงเฟยไม่ตกใจ กลับยิ้มตกลงที่จะไปตำหนักเย็นกับนาง!
ในตำหนักเย็น สตรีมหาอำนาจทั้งสามคนรวมตัววางแผนทำร้ายศัตรูคนเดียวกัน……
หญิงเฟยพูดเรื่องที่นางคาดการณ์ก่อนคนแรก “ตอนนี้ไทเฮาไปมาหาสู่กับนางแพศยาซินเหยา ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็ฟังนาง หลายวันก่อนจัดงานต้อนรับนางใหญ่โต พรุ่งนี้จะรวมตัวหน้าสดอะไรก็ไม่รู้! วังหลังถูกนางกุมอำนาจ วังหลังกลายเป็นสวนดอกไม้!”
เหมยเฟยพยักหน้า “ตอนที่ข้าเดินมาเหมือนได้ยินพวกเจี๊ยหยูแอบพูดถึงงานร้อยบุปผา ได้ยินว่าเหล่าพระสนมอยากเข้าร่วม แล้วต้องมาแบบหน้าธรรมชาติ ห้ามใช้เครื่องประทินผิวใดๆทั้งสิ้น ทำแบบนี้ต่อไป วังหลังจะกลายเป็นที่แสดงตลกแล้ว ชมดอกไม้ก็ชมไปสิ ทำไมต้องเปลือยหน้าด้วยล่ะ? ผู้หญิงไม่แต่งหน้าออกไปข้างนอก ถือว่าไม่แสดงความเคารพมิใช่หรือ?”