บทที่ 246 ร้านจี้โม่1
ซินเหยาถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง “ท่านเงียบปากก็ไม่มีใครหาว่าท่านเป็นใบ้หรอกนะ!”
ทางด้านชีวหยูนที่ถูกหยอกล้อต่อกระซิกและถอยร่นลงมาอยู่ข้างกายเจี้ยนหารยีได้ยินคำว่าหัวใจเหมือนถูกกระแทกของซินเหยา ใบหน้าผู้พ่ายแพ้เขินอายแดงระเรื่อ ราวกับลูกแอปเปิ้ลสุกงอมเต็มที่
ฮัวโหล่หยูนกล่าวพลางยิ้มบางๆ “คุณชายหยาวหากมีกลอุบายอะไรก็สามารถมาลงที่ตัวข้าได้”
ซินเหยากล่าว “ไม่ได้ไม่ได้! เจ้าคนนี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นหนุ่มเจ้าสำราญวันๆ หมกตัวอยู่แต่ในหอนางโลม ย่อมไม่รู้จักความอัปยศอะไรเลย ส่วนวรยุทธ์ของเจ้าก็ตุ้งติ้งเกินไป ดูราวกับบทละครบนเวที ข้าเองไม่อยากร่ำเรียนด้วยหรอก!”
ฮัวโหล่หยูนกล่าวพลางยิ้ม “พี่น้องหยาวช่างน่าสนใจเสียจริง ความมุนานะดียิ่ง แต่ว่าพี่น้องหยาวไม่จำเป็นต้องพยายามหาจุดอ่อนของข้าแซ่ฮัวหรอก มีบางจุดที่พี่น้องหยาวพูดมาอย่างถูกต้อง ข้าแซ่ฮัววันๆ หมกตัวแต่ในหอนางโลมนั้นเป็นความจริง ฝึกฝนจนสำเร็จวิชาความหน้าด้านและจิตใจระทวย ดังนั้นวิธีการกระตุ้นใดๆ ไม่มีผลกับข้าแซ่ฮัวเลยสักนิด!”
ซินเหยากล่าว “คุณชายฮัว เจ้ารูปลักษณ์หล่อเหลาทีเดียว มีแฟนแล้วหรือยัง”
ฮัวโหล่หยูนพูดพลางยิ้ม “เมื่อครู่มิใช่บอกไปแล้วหรือ ข้าแซ่ฮัววันๆ มัวแต่หมกตัวอยู่ในสถานเริงรมย์ จะมีหญิงใดต้องการกันเล่า”
ซินเหยาเอ่ย “คุณชายฮัวคิดว่าข้าคนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
ฮัวโหล่หยูนกล่าว “พี่น้องหยาวเป็นคนที่เก่งกาจระดับหัวกะทิ วิทยายุทธ์โดดเด่น ย่อมเป็นผู้มากความสามารถระดับแนวหน้าเป็นธรรมดา”
ซินเหยาว่า “เช่นนั้นคุณชายฮัวสนใจจะเล่นรักร่วมกับข้าสักหน่อยหรือไม่”
ฮัวโหล่หยูนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “อะไรที่เรียกว่ารักร่วม?”
ซินเหยาพูด “ผู้ชายสองคนแต่งงานกัน หรือว่าผู้หญิงสองคนแต่งงานกันเรียกว่ารักร่วมยังไงเล่า”
“กึก!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฮัวโหล่หยูนหุบลง
จู่ๆ ซินเหยาก็หัวเราะเบาๆ “ขออภัย ทำให้คุณชายฮัวขยะแขยงแล้ว เมื่อครู่มิใช่คุณชายฮัวเพิ่งจะพูดว่าวิธีการใดๆ ล้วนไม่สามารถทำให้คุณชายฮัวอารมณ์หวั่นไหวได้หรอกหรือ ตอนนี้ดูสีหน้าของคุณชายฮัวแล้ว ดูเหมือนจะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักเชียวแหนะ!”
“เจ้า…”
ฮัวโหล่หยูนโกรธจนไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว
“เหลวไหลจริงๆ จะสู้ก็สู้ไป ยังจะพูดพร่ำเพลงอะไรนักหนา”
ทันใดนั้น…
เจี้ยนหารยีก็ชักดาบอย่างดุดันลอยพุ่งเข้ามา!
“เป็นดาบที่เร็วมาก!”
ซินเหยาแอบตกใจ รีบร้อนถอยหลังไปตั้งหลายก้าว!
เจี้ยนหารยีสวมชุดสีดำ ในมือถือดาบสีดำเล่มหนึ่ง…แม้แต่ดาบที่ยื่นออกมายังเป็นเหมือนเงาดำราวกับภาพลวงตาก็ไม่ปาน…
คนผู้นี้ ดูเหมือนกับเงาที่ซุกซ่อนอยู่ท่ามกลางความมืดมิด…
ไม่มีทางรู้ว่าดาบของเขารวดเร็วมากเพียงใด!
และไม่มีทางรู้เลยว่าดาบของเขาจะพุ่งออกมาในมุมใด
ถ้าหากมองเห็นดาบของเขา ก็จะต้องหลบไม่ทันเป็นแน่แท้
เจี้ยนหารยีคนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน…
ซินเหยาสงบเคร่งขรึมรอรับศึก!
นี่คือศัตรูที่แข็งแกร่งและน่ากลัวมากที่สุดที่เคยพบเจอมานับแต่หลังจากที่นางสู้ศึกกับนายใหญ่โจว๋
ซินเหยารู้ สาเหตุที่ฮัวโหล่หยูนและเจี้ยนหารยีนั้นทรงพลังแข็งแกร่งจนน่าตกใจ…
ไม่เพียงแต่เพราะว่าวรยุทธ์ของพวกเขาสูงมากเท่านั้น
แต่ยังเป็นเพราะกลางดวงใจของพวกเขาทั้งสองคนไม่มีพันธะทางโลกใดๆ เลย…
ผู้ชายสองคนนี้ ไม่มีข้อบกพร่องในจิตใจใดๆ เลยโดยสมบูรณ์
ภายในใจของฮัวโหล่หยูนแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผู้หญิงในหอนางโลมทั้งหมดเอาไว้ได้!
ส่วนภายในใจของเจี้ยนหารยีปิดผนึกแน่นหนา ไม่มีผู้ใดสามารถเดินเข้าไปถึง ก็แม้แต่ตัวเขาเองยังเจาะเข้าไปภายในใจของตัวเองไม่ได้ คนประเภทนี้ จะมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดครึ้มตลอดกาล…ก็เหมือนกับวิถีดาบของเขายั่นเอง!
ครั้นเขาออกอาวุธ ซินเหยารู้ในทันทีว่าวรยุทธ์ของเขาสูงกว่าชีวหยูและหงจู๋เป็นไหนๆ
คนผู้นี้ วิถีดาบรวดเร็วและน่าพิศวงมากเกินไปแล้ว…
อีกทั้งยังมืดมิดเกินไป!
ซินเหยาจับจ้องวิถีดาบเงาที่ราวกับดวงตาดำทมิฬของเขาก็ไม่ปานอย่างระแวดระวัง หวังว่าจะสามารถค้นหาข้อบกพร่องของเขาในนี้ได้นะ!
ทว่า ดาบของเขาเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป
ต่อให้มีข้อบกพร่องบางประการโผล่ขึ้นมาบางจุด แต่ไม่ช้าก็ถูกกลบฝังไว้จนมิด!
ก็แม้แต่ฝีมือระดับสูงเช่นซินเหยา ยังไร้หนทางจับข้อบกพร่องของเขาได้ทัน!
ซินเหยาแอบกล่าวอย่างลับๆ “ไม่แปลกใจที่หน้าของเจี้ยนหารยีคนนี้มักจะมีสีหน้าเหมือนติดหนี้คนทั่วหล้าไปหนึ่งแสนแปดหมื่นตำลึง!”
“ด้วยวรยุทธ์ของเขา มันก็เพียงพอที่จะครอบครองโลกและทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้ทั้งสิ้น!”
นางกล้าเดิมพัน
หากผ่านไปอีกสิบปี ตอนที่นายใหญ่โจว๋และถางเปิ่นกลางแก่ตัวลงไป แก่จนไม่มีพลังและสมาธิในการจัดการวิถีดาบเงาอันคงกระพันเช่นนั้นของเขา ก็คงไม่มีวิธีทางรบชนะเขาได้เป็นแน่แท้
ซินเหยายิ่งตกตะลึงใจขึ้นเรื่อยๆ
นักบอดี้การ์ดทั้งสี่
นางเคยประมือกับทั้งสี่คนแล้ว
ก็แม้แต่ฮัวโหล่หยูน ก่อนหน้านี้ก็เคยดวลฝีมือด้วยเป็นการชั่วคราว
วรยุทธ์ของคนทั้งสี่ ล้วนยากแท้หยั่งถึงทั้งสิ้น
แต่ว่าทั้งสี่คนนี้ยังละอ่อนอยู่มาก แม้แต่เจี้ยนหารยีที่อายุมากที่สุด ดูท่าทางแล้วเขามีอายุเพียงยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีเท่านั้นเอง…
ยอดฝีมือทั้งสี่ที่อ่อนวัยเยี่ยงนี้…
วรยุทธ์กลับถึงขั้นยากแท้หยั่งถึงปานฉะนี้
ทักษะก็คงจะโดดเด่นโดยปริยาย
ถ้าหากเริ่มฝึกฝนกลยุทธอัยการศึกขั้นสูงตั้งแต่เด็ก บวกกับมีผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงคอยชี้แนะอยู่ข้างๆ แล้วล่ะก็ จะฝึกฝนทักษะจนสำเร็จขั้นโดดเด่นด้วยวัยเพียงเท่านี้นั้น ก็มิใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย
โจว๋หวูนเฟิง ถางเปิ่นหลง ถางเปิ่นหู่…คือตัวอย่างที่ชัดเจนมากที่สุด
แต่ว่านักบอดี้การ์ดทั้งสี่นี้ ทักษะอาจจะไม่ได้เหลื่อมล้ำไปกว่าโจว๋หวูนเฟิงและคนอื่นๆ มากนัก แต่วรยุทธ์ของนักบอดี้การ์ดทั้งสี่กลับอัศจรรย์ใจถึงขั้นน่ากลัวเพียงนี้
กระบวนท่าแปลกประหลาดของหงจู๋
กำลังภายในดุเดือดดุจธารไหลของชีวหยูน
เจี้ยนหารยีว่องไวจนแทบไม่มีข้อบกพร่อง อีกทั้งยังซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางวิถีดาบเงาเป็นอาจิณ..