ตอนที่ 499 ข้าเจ็บเจียนตาย2
“ได้ ข้าจะให้เวลาเจ้าสามวัน ข้าอยากได้ยาถอนพิษ!”ชีวิตของเสี่ยวหย่าสำคัญกว่า นับว่าเวลาสามวันเป็นความเชื่อใจที่ให้นาง
ท่านหมอคนอื่นๆได้ใช้ช่วงชุลมุนหนีไปแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาต่างกลัวว่าจะพาลโดนไปด้วย ตอนนี้มีแค่เพียงฮูหยินรองกับซินเหยาสองคน ซินเหยาไม่ชอบบรรยากาศเยี่ยงนี้ สั่งการให้หมอไปเตรียมน้ำขิงใน ขณะ เดียวกัน นางก็เตรียมตัวเดินจากไป
“ช้าก่อน เหตุใดเจ้าถึงต้องช่วยเสี่ยวหย่า!”สุดท้ายฮูหยินรองก็อดรนทนไม่ไหว ถามคำถามที่คาใจออกไปในที่สุด
ซินเหยาที่กำลังก้าวเท้าเดินก็หยุดลง หันหน้ากลับไปสบตากับฮูหยินรอง แล้วยิ้มขึ้น พูดอย่างเมินเฉย “ที่หนูปี้ช่วยเสี่ยวหย่า เป็นเพราะเสี่ยวหย่า ไม่เกี่ยวอะไรกับฮูหยินรอง!”พูดจบนางก็เดินออกไป สถานที่แห่งนี้นางไม่สมควรที่จะอยู่ต่อแล้ว
เป็นเพราะคำพูดของซินเหยาประโยคนี้ทำให้ฮูหยินรองตกอยู่ในภวังค์
ออกมาจากเรือนของฮูหยินรอง ตอนนี้ซินเหยาก็ไม่มั่นใจว่าเป็นฝีมือของฮูหยินใหญ่จริงหรือไม่ ไม่ใช่ครั้งแรกของหนอนพิษกู่ เรื่องของครั้งก่อนนางเคยไปหลังเขาที่ทิ้งพวกของที่ไม่ใช่ในครัวมาแล้ว นางต้องตามหาคนที่อ้างว่าเป็นสาวใช้ของฮูหยินรองกับคนอื่นและสิ่งของ ของผู้หญิงที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกับตนอย่างยากลำบาก เป็นไปตามที่คาดไว้ไม่มีผิดมีคนตั้งใจเลี้ยงหนอนพิษกู่ไว้ในนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดพรั่งพรูอยู่ในสมองของนาง
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องมาหาข้า!”ฮูหยินใหญ่กลิ้งลูกประคำในมือ สายตามองทอดยาวไปไกล แต่กลับไม่มีจุดหมาย ราวกับกำลังมองไปยังท้องฟ้าอย่างสับสน
มองเห็นลูกประคำในมือของฮูหยินใหญ่ นัยน์ตาของซินเหยาก็เกิดไหวหวั่นตระหนก นางรู้แค่ว่าฮูหยินรองเชื่อในพระพุทธเจ้า แต่ฮูหยินใหญ่ก็เช่นกัน
ซินเหยาไม่พูดอ้อมค้อม พูดตรงเข้าประเด็นทันที“ที่คุณหนูสี่ต้องเจ็บปวดขนาดนี้เป็นฝีมือท่าน หรือตั้งใจยืมมือพวกเขาแค่นั้น?”
ฮูหยินใหญ่จึงเงยหน้าที่ก้มอยู่เมื่อครูขึ้น มองซินเหยาแวบหนึ่ง แล้วจึงเปิดปากพูดช้าๆ “ไม่ใช่ข้าหรอก ข้าไม่มีความสามารถกขนาดนั้น!”ถึงฮูหยินใหญ่จะไม่มีความสามารถอะไรมากมาย แต่สิ่งที่นางเคยได้เห็นและได้ยินมาช่างเยอะเหลือเกิน ถ้านำเรื่องยาพิษมาพูด นี่ย่อมไม่ใช่ฝีมือของนาง
“แล้วเป็นฝีมือของใครกัน?”สำหรับปฏิกิริยาของฮูหยินใหญ่แล้ว ซินเหยามาคิดๆดูอาจจะเป็นตามนี้ก็ได้ แต่อาศัยแค่รู้อย่างเดียว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรอยู่แล้ว ซินเหยาก็รู้สึกหมดคำพูดเหมือนกัน
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน หรือนี่อาจจะเป็นความลับอย่างหนึ่งก็ได้ ความลับที่ทุกคนอยากรู้แต่ไม่กล้าที่จะรู้!”ประโยคนี้ฮูหยินใหญ่เป็นคนพูดเอง ซินเหยากลับรู้สึกว่านางตั้งใจพูดกับตนเพียงคนเดียว นี่ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาอะไรได้
“ฮูหยินใหญ่ หนูปี้อยากขอร้องอะไรสักเล็กน้อย ได้โปรดฮูหยินใหญ่รับปาก!”ซินเหยานึกขึ้นได้ถึงจุดประสงค์การมาหาฮูหยินใหญ่ในวันนี้ จึงเอ่ยปากถามขึ้น
ฮูหยินใหญ่พูดอย่างรวมๆ“เจ้าพูดเถอะ แต่เรื่องรับปากตกลง ก็ต้องดูว่าข้าสามารถช่วยเจ้าในเรื่องอะไรได้!”ถึงฮูหยินใหญ่จะเชื่อใจซินเหยา แต่นางไม่กล้าสรุป เพราะในสายตาของนางซินเหยาไม่ได้เป็นคนธรรมดาที่จะสามารถรู้ได้ว่านางคิดทำอะไร แม้กระทั่งการทำร้ายคนอื่น ถ้าหากนางขอร้องมา อย่างนั้นคงจะยากมาก
“หนูปี้หวังว่าฮูหยินใหญ่จะไม่ลากคุณหนูสี่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้!”ซินเหยายังคงนึกถึงบุญคุณของคุณหนูสี่ ถ้าอย่างนั้นนางคงจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้แล้ว
สำหรับคำขอร้องของซินเหยา หลังจากที่ฮูหยินใหญ่ประหลาดใจก็คงเป็นความสงสัย การรบครั้งนี้ไม่มีควันเขม่าระเบิด ซินเหยากลับนึกถึงเด็กผู้หญิงคนนั้น
“บอกเหตุผลข้ามาสักข้อ!”ถึงฮูหยินใหญ่จะรู้ว่าสุดท้ายตนก็ต้องรับปาก แต่ก่อนอื่นนางต้องหาเหตุผลมาให้นาง
“นางเคยช่วยหนูปี้ไว้!”หากคำตอบนี้ฮูหยินใหญ่ยังไม่ตกลง ถ้าอย่างนั้นซินเหยาก็จะคิดวิธีหาทางปกป้องนางเอง ต่อกรกับคนที่ทำร้ายตนนางสามารถหาทางแก้ไขได้ แต่นางไม่ใช่คนสามเศียรหกกร ตอนนี้นางช่วยคนมากกว่านี้ไม่ได้
“ได้!”ฮูหยินรู้ดีว่าตนไม่มีทางเลือกอื่น ความจริงแล้วนางก็ไม่อยากดึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในสนามรบนี้ แต่ความแค้นระหว่างนางกับฮูหยินรองไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยพวกนี้อย่างเดียว เบื้องหลังยังมีบาดแผลและความเจ็บช้ำที่ยากจะลืม
การกลับมาที่พักของตนในครั้งนี้ ซินเหยารู้สึกว่าว่าร่างกายของตนถูกบดขยี้ก็ไม่ปาน ทั้งร่างแทบแหลกสลาย แต่นางยังมีเรื่องสุดท้ายที่ยังไม่ได้ทำก่อนตาย ก็คือเรื่องที่นางพึ่งฉกเงินเมื่อครู่ จดหมายฉบับนี้มันหมายความว่าอะไร ซินเหยาต้องการดูถึงจะได้รู้
ก็คงเป็นคนที่พึ่งชนตนเองไปเมื่อครู่ ซินเหยาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของคาวเลือด
“คุณชายเช่อ เรื่องนี้ต้องรบกวนความช่วยเหลือจากท่าน หวังว่าเมื่อท่านได้รับจดหมายฉบับนี้แล้วจะให้คำตอบข้าได้!”
ซินเหยาวิเคราะห์จดหมายทั้งฉบับ ด้านในพูดถึงเรื่องมากมาย เป็นเหมือนกับหยากไย่ขนาดใหญ่ นำคนทั้งตระกูลเข้าไว้ด้านใน
ตัวอักษรเช่อ หากซินเหยาจำไม่ผิด ก่อนหน้านั้นมีตัวอักษรนี้วางอยู่บนโต๊ะของพ่อบ้าน อีกทั้งสิ่งของพวกนี้ยังเป็นความลับมาก เหตุใดถึงมีคนรู้เยอะขนาดนี้
ดูจากตัวอักษรทั้งหมด ซินเหยารู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งจะเขียนออกมาได้ อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นผู้ชายเขียน นี่เป็นการคาดเดาของซินเหยาทั้งหมด
แต่จดหมายฉบับนี้เก็บไว้กับตัวนางเกรงว่าจะไม่เหมาะ แต่แล้วจะวางกลับเข้าไปอย่างไร แล้วก็ล้วงฉกของอีกครั้ง หรืออาจจะต้องรอให้เรื่องราวต่างๆสุกงอมถึงจะสำเร็จได้
ซินเหยานึกถึงหยกพู่ที่ห้อยอยู่กับตัวเขาคนนั้น หยกประเภทนั้นเป็นสัญลักษณ์พิเศษ ถ้าอย่างคนที่ชนนางเมื่อครู่อาจจะเป็นบุคคลพิเศษ
จุดนี้ไม่ต้องถามว่าทำไมนางถึงรู้ เพราะซินเหยาก็ไม่รู้ว่าตนรู้ได้อย่างไร นางมักจะอยู่ในช่วงจังหวะที่อยากได้คำตอบ ผุดขึ้นมาเอง