ตอนที่631
เบอร์โทรนี้เป็นเบอร์ที่พลอยเคยใช้มาก่อน แต่ก็มันไม่ได้ถูกใช้มานานมากแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ทัดธนบินถึงปักกิ่งเรียบร้อย และคนในบ้านถูกส่งมารับเขา
“คุณชายสาม”เห็นทัดธนกลับมา คนขับรถรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
ทัดธนพยักหน้า ก่อนจะขึ้นรถ
คนขับรถเอ่ย “ไม่เจอกันนานนะครับ คุณไม่กลับมานานมาก สมควรกลับมาดูๆ! คุณผู้ชายคิดถึงคุณมาโดยตลอด”
ที่จริงแล้วทัดธนเป็นบุตรลับๆของบ้านแสงศรีเรือง เขาได้กลับไปที่บ้านแสงศรีเรืองหลังจากที่เติบโตแล้ว
เขากับคนในบ้านแสงศรีเรือง ไม่รับว่าสนิทกันมากนัก พ่อของเขาค่อนข้างชื่นชอบนพรุจมากกว่ามาโดยตลอด
และสองปีนี้ อาจเป็นเพราะคนชราที่บ้านอายุมากแล้ว บวกกับทัดธนที่ไม่เคยกลับบ้าน เลยทำให้คุณพ่อถึงคิดถึงลูกชายคนนี้ขึ้นมาได้
ปาณีเอ่ยตอบเสียงเบา “อืม”
คนขับคิดว่าเขาได้ยินคำพูดของตัวเองแล้ว จึงมองเขาผ่านกระจกรถถึงพบว่าสายตาของเขานั้นกำลังมองไปยังนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ทัดธนถึงบ้านและเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังไม่ทันได้พักผ่อน ซ้ำยังไม่ทันได้เจอหน้าพ่อของเขา ก็รีบตรงบึ่งออกจากบ้านไปทันที
-
เมื่อคืนเมธชนันนอนค้างที่บ้านใหญ่ของตระกูลศรีเดชนิษ หลังจากตื่นขึ้นมา กำลังหาสิ่งของอยู่ในห้องหนังสือ ก็ได้ยินพ่อบ้านเอ่ยขึ้น “คุณท่าน ด้านนอกมีแขกเป็นสกุลตันวิรัช บอกว่าอยากพบท่าน”
“สกุลตันวิรัช?”คิ้วของเมธชนันขมวดขึ้น “สกุลตันวิรัชคนไหน?”
เขาเดินลงมาชั้นล่าง เห็นทัดธนกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้านตนจึงรุ้สึกสงสัยอยู่บ้าง “คุณทัดธนมาได้ยังไงนี่?”
ถึงแม้ว่าบ้านวิสิทธิ์เวชกับบ้านแสงศรีเรืองจะไปมาหาสู่กันบ้าง แต่ถ้าพูดกันอย่างจริงจัง ทัดธนนั้นไม่ถือว่าเป็นคนของบ้านแสงศรีเรืองแต่อย่างใด
เนื่องจากสายสัมพันธ์ของแม่ของเขา ทำให้ตลอดมาเขาเป็นเพียงลูกนอกสมรสที่ไม่สามารถเชิดหน้าชูตาได้
และเป็นเพราะไม่กี่ปีมานี้ เขามุมานะจนตนเองประสบความสำเร็จ ภายหลังจึงถูกคนมองเห็นตัวตนขึ้นม
เมธชนันก็เคนเจอเขาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ไม่ได้สนิทสนมอะไรนัก
ทัดธนมองเมธชนันและเอ่ย “ผมอยากมาเยี่ยมคุณพลอย”
เมธชนันชะงักไป ก่อนจะยิ้มและเอ่ยขึ้น “คุณทัดธนกำลังพูดเล่นหรือ? น้องสาวของผมไม่กี่มีมานี้เล่าเรียนอยู่ต่างประเทศมาโดยตลอด ยังไม่ได้กลับมา”
“…….”ตอนที่เมธชนันเอ่ยพูด สายตาของทัดธนนั้นจับจ้องอยู่ที่เขามาโดยตลอด ราวกับว่ามองดูเขาทะลุปรุโปร่งมาตั้งนานแล้ว
หากเป็นคนทั่วไป ก็คงจะอดไม่ได้ต้องพูดออกมาจนหมดจดเป็นแน่
แต่เมธชนันนั้นเป็นใครกัน?
เขาจะถูกข่มขู่ลงได้อย่างไร?
เขายิ้มในขณะที่เอ่ยพูดกับทัดธน “เห็นที คุณทัดธนคงมาเสียเที่ยวแล้ว”
ทัดธนเอ่ย “ผมรู้ว่าเธออยู่นี่ถึงได้มา”
“……..”ตั้งแต่ที่พลอนล้มป่วยเป็นต้นมา เธอไม่เคยได้ออกจากบ้านเลยสักครั้ง
คนในบ้านวิสิทธิ์เวชบอกคนข้างนอกมาตลอดว่าเธอไปเรียนต่อต่างประเทศ
ดังนั้น คนนอกไม่มีทางรู้ได้ว่าเธออยู่ที่นี่
หากมีคนที่ได้พบเธอ เฆ้นทีจะเป็นวันก่อนตอนที่พลอยนั้นวิ่งออกมาแล้วพบกับปาณีเข้าโดยบังเอิญ
ในใจของเมธชนันเตรียมความพร้อมเอาไว้เรียบร้อย
เขาถอนหายใจ และเอ่ยกับทัดธน “ตอนนี้เธอไม่สะดวกพบเจอผู้คน คุณทัดธนกลัยไปเถอะ พวกคุณเลิกรากันมาหลายปีแล้ว ตอนนี้จะมาพัวพันกันให้ยุ่งเหยิงอีกครั้งเพื่ออะไร”
“ผมอยากมาดูเธอ ถ้าหากเธอยังคงสบายดี ผมจะไป”
ในตอนแรกนั้นเรื่องการเลิกกันเป็นพลอยที่หยิบยกขึ้นมา
จนกระทั่งตอนนี้ทัดธนก็ยังจำคำพูดเหล่านั้นที่เธอเอ่ยได้ดี เธอบอกว่า “คุณพ่อของฉันบอกว่าคุณเป็นลูกนอกสมรส แต่งให้คุณไปก็ไม่มีอนาคต ฉันเป็นลูกสาวของบ้านวิสิทธิ์เวช ต่อไปจะต้องแต่งให้กับคนที่สามารถเชิดหน้าชูตาได้เท่านั้น ดังนั้น ฉันจึงไม่อาจอยู่กับคุณต่อไปได้อีก”
ตั้งแต่เล็กเขาก็อ่อนไหวในเรื่องสถานะของตนเองเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งมาเจอคนที่ตนเองชอบเอ่ยขึ้นมาแบบนี้ จิตใจของเขานั้นจะรับไหวได้อย่างไร?
ทั่งคู่จึงเลิกรากันไป หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินว่าเธอไปต่างประเทศ
ตอนที่632
เขาไม่สนใจเรื่องของเธออีกต่อไป
สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงที่เขาชอบคนนั้นมีตัวตนอยู่แค่เพียงในความทรงจำของเขาเท่านั้น
เพราะว่าความทรงจำนั้นช่างงดงาม และเธอก็จะงดงามเช่นนั้นตลอดไป
จนกระทั่งปาณีพูดกับเขา ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่รอคอยให้เขาไปหามาตลอด…..
ตอนนี้เขาจึงอยากมาดูเธอสักครั้ง
เมธชนันจ้องดูทัดธน นึกถึงเมื่อคืนที่เขาเพิ่งจะพูดคุยกับพลอย
ในมือเธอถือรูปของทัดธนและเอ่ยถามเขา “พี่ชาย เมื่อไหร่เขาถึงจะมาหาฉัน? หรือว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว?”
ผู้ชายตัวโตอย่างเขาพอได้ยินคำพูดของเธอเข้าก็เกือบจะร้องไห้ออกมา
ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมพลอยถึงเอาแต่คิดถึงผู้คนๆนี้ ขนาดเธอลืมชื่อเขาไปแล้วก็ยังจดจำได้
เมธชนันยืนขึ้นและเอ่ยกับทัดธน “คุณตามผมมา”
ห้องของพลอยนั้นอยู่ชั้นบนสุดเนื่องจากที่นี่ในปกติแล้วมีน้อยคนเข้าออก ทำให้เรื่องที่เธอล้มป่วยนั้นไม่ถูกกระจายออกไป
ทุกคนจึงไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลวิสิทธิ์เวชนั้นมีอาการป่วยทางจิต
ประตูห้องนั้นถูกล็อกไว้ เนื่องจากพลอยนั้นมักจะออกมาวิ่งเผล้นพล่าน
เมธชนันเปิดประตู ทัดธนจึงเดินเข้าไปด้านใน เขามองเห็นพลอยที่ใส่ชุดเจ้าหญิงสีขาวกำลังนั่งอยู่บนเตียง เท้าเปลือยเปล่า ในอ้อมแขนกอดตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆเอาไว้ นิ้วมืออันเรียวยาวกำลังถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้
หน้าจอบนโทรศัพท์เป็นรูปของทัดธน เธอกำลังมองดูมันอย่างจริงจังอย่างยิ่ง
ตอนที่ทัดธนรู้จักกับเธอนั้น เธอมีอายุเพียงแค่สิบกว่าปี ตอนนี้ผ่านมาตั้งเนิ่นนานมากแล้ว เธอกลับยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ราวกับว่าอายุนั้นได้หยุดลงบนตัวเธอ
เขามองดูพลอย ลำคอของเขาตีบตันราวกับมีอะไรบางอย่างขวางเอาไว้และไม่เอ่ยพูดจาอะไรออกมา
พลอยเงยหน้าขึ้น เธอมองไปยังทัดธนที่ยืนอยู่หน้าประตู ในห้องของเธอ นอกจากหมอและคนที่รับใช้ดูแลเธอในยามปกติแล้ว ก็มีแต่คนในบ้านของเธอเท่านั้นที่จะมาหา
ในเวลานี้ เธอจ้องดูคนตรงหน้าที่ดูแล้วคล้ายกับบุคคลบนมือถือ เธอกระพริบดวงตาและเอ่ยขึ้นมาอย่างไปอยากเชื่ออยู่บ้าง “พี่ใหญ่?”
แค่เสียงเรียกนี้ ทำให้ทัดธนรู้สึกว่า โลกใบนี้ดูเหมือนจะเงียบงันลงมาในทันใด
-
ยามบ่าย ปาณีนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สวมใส่ถุงมือและกำลังปลอกกุ้งเคลย์ฟิช ธามนิธินั่งตรงข้ามเธอ กำลังฟังปาณีเล่าเรื่องราวในมหาลัยให้ฟัง
ในเวลานั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของธามนิธิก็ดังขึ้น เขาถอดถุงมือออกและรับโทรศัพท์ “ชนัน”
เป็นสายของเมธชนัน
ปาณียุ่งอยู่กับการปลอกเปลือกกุ้ง ได้ยินธามนิธิเอ่ยขึ้น “ชนันให้เธอฟังโทรศัพท์”
ปาณีนิ่งไปชั่วครู่ “ฉันหรือคะ?”
เมธชนันหาเธอมีเรื่องอะไรกัน?
แถมยังกล้าโทรเข้ามือถือของคุณอาอีกต่างหาก!
เธอถอดถุงมือลง และรับโทรศัพท์จากธามนิธิและวางไว้ที่ข้างหู “ฮัลโหล”
น้ำเสียงของเมธชนัน ออกจะเกรี้ยวกราดอยู่บ้าง “เธอเป็นคนเรียกทัดธนมาใช่ไหม? เธอบอกเรื่องของพลอยให้เขาฟังไปแล้ว?”
“…….”เป็นเพราะโทรศัพท์นั้นอยู่ใกล้เกินไป ปาณีรู้สึกว่าหูของตนถูกด่าจนชา จึงถือโทรศัพท์ให้ห่างออกไปอีกหน่อย
เธอเอ่ย “ฉันแค่พูดขึ้นมาเฉยๆ เขาไปบ้านนายหรือ?”
เธอเพิ่งจะเอ่ยกับทัดธนเมื่อคืน วันนี้เขาก็ไปที่บ้านตระกูลผอบทิพย์เสียแล้ว?
เขาออกจะรวดเร็วเกินไปหน่อยมั้ง!
สมแล้วที่เป็นไอดอลของเธอ
ปาณีอดที่จะยกนิ้วให้เขาไม่ได้
“พูดไร้สาระ”เมธชนันเอ่ย “ปาณี ฉันจะบอกเธอให้ เธอจบเห่แล้ว”
“……..” สีหน้าของปาณีดูบริสุทธิ์ มองยังไง สิ่งที่เธอก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรอกหรือ?
เธอไม่เข้า ทำไมเมธชนันจะต้องเกรี้ยวกราดขนาดนี้
ที่ยิ่งไม่เข้าใจยิ่งกว่าก็คือ เห็นชัดๆว่าทั้งทัดธนและพลอยต่างก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่ทัดธนกลับไม่รู้เรื่องที่พลอยล้มป่วย
ตอนที่633
หลังจากวางสาย ธามนิธิก็เอ่ยถามขึ้น “เป็นยังไงบ้าง?”
“ถูกเขาด่าเข้าให้”ปาณีตัวสั่นยะเยือก “คุณอา ถ้าหากพี่น้องของคุณมาหั่นฉันเป็นชิ้นๆเข้า คุณจะช่วยฉันไหม?”
เมธชนันยามโกรธ ดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย
ธามนิธิ “………”
นี่มันอะไรกัน?
เขาจ้องดูปาณี “เธอไปกระตุกต่อมอะไรเข้า?”
ปาณีเอ่ย “เรื่องที่เขามีน้องสาวคุณรู้ใช่ไหมคะ?”
“พลอย?”ธามนิธิอยู่บ้านวิสิทธิ์เวชมาตั้งนาน เขาย่อมต้องรู้เป็นธรรมดา
ปาณีพยักหน้า “ครั้งก่อนที่ฉันพบเธอ เห็นเธอเอาแต่หาทัดธน เมื่อคืนตอนทานข้าวฉันเลยเอ่ยเรื่องนี้กับทัดธน ให้เขาไปดูเธอ วันนี้ทัดธนไปหาเธอแล้ว”
เรื่องก็เป็นเช่นนี้ ปาณีไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่จะต้องปิดบังธามนิธิ
ธามนิธิฟังจนจบ เขามองดูปาณีด้วยความสงสัยอยู่บ้าง “เธอเคยเจอพลอยด้วยหรือ ทำไมฉันไม่รู้มาก่อน?”
หากไม่ใช่คนที่สนิทเป็นอย่างมาก ก็ไม่มีทางที่จะรู้ข่าวที่พลอยยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลผอบทิพย์ได้เลย
ปีวรานั้นใส่ใจชื่อเสียงหน้าตาของตนเองเป็นอย่างมาก เรื่องที่ลูกสาวล้มป่วยจึงถูกปกปิดอย่างแนบแน่นมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้คนอื่นๆได้รับรู้
ปาณีเอ่ย“เดิมทีฉันคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไร จึงไม่ได้บอกกับคุณ แต่ดูเหมือนเป็นเพราะเรื่องนี้เมธชนันจึงเกลียดฉันจนแทบตายอยู่แล้ว”
“ไม่เป็นไร”ธามนิธิเอ่ย “ทัดธนจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้เอง”
ปาณีพยกหน้า ถ้าคุณอาพูดอย่างนี้ เธอก็วางใจลงได้
เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าปัญหาเรื่องนี้ไม่ใหญ่โตนัก
ปาณีแกะเปลือกกุ้งเคลย์ฟิชต่อไป ด้านหนึ่งก็เอ่ยถามกับธามนิธิ “เรื่องที่ทัดธนกับพลอยคบกัน คุณรู้ไหมคะ?”
“ได้ยินมาบ้าง แต่ไม่ได้เข้าใจอะไรมากนัก”ตอนนั้นธามนิธิยังคงอยู่ในกองทัพ จะเอากระจิตกระใจที่ไหนมายุ้งเรื่องพวกนี้?
เรื่องของพวกผู้หญิงเขายังไม่ค่อยใส่ใจมากนัก นับประสาอะไรกับเรื่องของผู้หญิงผู้ชายคนอื่น
ปาณียังคงสงสัยอย่างยิ่ง “ถ้างั้น คุณรู้ไหมคะว่าทำไมพวกเขาถึงเลิกกัน?”
เขาจ้องดูเธอที่ราวคล้ายกับเด็กน้อยขี้สงสัยก็มิปาน “ทำไมเธอถึงอยากรู้เรื่องพวกนี้นัก?”
“ฉันแค่คิดว่ามันเป็นเนื้อหาที่ไม่เลวเลย”ปาณีไม่สามารถระงับเรื่องซุบซิบในใจของตนได้
ธามนิธิไม่เข้าใจพวกผู้หญิงเป็นอย่างยิ่ง “เธอใส่ใจเรื่องของทัดธนขนาดนี้ ทำไมไม่เห็นจะใส่ใจฉันบ้างเลย?”
“คุณอยากจะพูดเรื่องความรักครั้งก่อนของคุณกับฉันหรือคะ?”ความอยากรู้อยากเห็นของปาณียิ่งเพิ่มสูงขึ้น
ธามนิธิ “………”
เอาเถอะ!
ถือซะว่าเขาไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้มาก่อนแล้วกัน
เขายอมคุยเรื่องของทัดธนยังดีซะกว่า “เมื่อก่อนตอนที่พลอยรู้จักกับทัดธน อายุยังน้อย พ่อแม่ของเธอมีเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงเอาใจใส่เธอเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าไม่เห็นด้วยที่เธอคบกับทัดธน ตอนหลังก็เลยเลิกกัน”
ที่ธามนิธิรู้เรื่องพวกนี้ ก็ล้วนมาจากเมธชนันเป็นคนเล่าให้เขาฟัง
เมธชนันนั้นเป็นประเภทหวงน้องสาว เรื่องที่น้องสาวคบหากับเพศตรงข้าม เขาจึงต้องรู้สึกเป็นห่วงอย่างแน่นอน อีกทั้งธามนิธิก็เป็นพี่น้องที่ดี ดังนั้น จึงเอ่ยเรื่องพวกนี้ขึ้นกับเขา
เขาแทบจำไม่ได้แล้ว
ปาณีฟังจนจบก็เอ่ยขึ้น “น่าอิจฉาพวกเขาจัง”
“…….”ธามนิธิรู้สึกแปลกใจ “เรื่องนี้เธอก็อิจฉา?”
ไม่เห็นจะเข้าใจว่ามีตรงไหนที่น่าอิจฉากัน
เขาเกือบจะคิดไปแล้วว่าเป็นเพราะภรรยาของตนนั้นกินกุ้งมากเกินไป จนกลายเป็นคนโง่ไปแล้ว
ปาณีเอ่ย “พวกเขาเลิกกันมาตั้งหลายปี แต่กลับยังจำอีกฝ่ายได้ ยังคงรกอีกฝ่ายอยู่ คุณไม่รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากๆหรือคะ? ถ้าหากวันหนึ่ง พวกเราเลิกกันมานานมาก คุณจะเหมือนพวกเขาไหมคะ จะยังจำฉันได้อีกไหม?”
ปาณีพูดจบก็ธามนิธิตาเขม่ง ธามนิธินั้นกำลังแกะเปลือกกุ้งในมืออย่างมีสมาธิและไม่ได้ตอบคำถามอันแสนน่าเบื่อของเธอ
ตอนที่634
ปาณีรู้สึกประดักประเดิด เธอจึงยกย้มแก้เก้อ “อันที่จริงจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ในความเป็นจริงจะไปมีความรักล้ำลึกที่ไหนกัน? รอให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้ ใครจะรู้ แม้กระทั่งฉันก็อาจจะลืมคุณก็ได้”
ในยุคนี้ตอนนี้ อะไรก็รวดเร็วไปหมด ความรักก็เป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ถ้าหากเลิกรากันไปหลายปี ใครจะยังจำได้ว่าเคยรักใครมาก่อน?
ธามนิธิฟังปาณีพูดจาอยู่คนเดียว พูดได้ว่าเขาเสพติดมันไปแล้ว ในที่สุดก็เอ่ยปากขึ้นอย่างอดไม่ได้ “พวกเราไม่มีทางแยกจากกัน”
โดยเฉพาะคำพูดประโยคสุดท้ายของเธอ รอให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้ ใครจะรู้ แม้กระทั่งฉันก็อาจจะลืมคุณก็ได้
ทำให้เขาถือสาเป็นอย่างมาก
ธามนิธิเชื่อว่าปาณีเป็นผู้หญิงที่ทำเรื่องพวกนั้นได้จริง
ดังนั้น ต่อให้เป็นในความฝันเธอก็ไม่อาจไปจากเขาได้
“คุณทัดธน คุณสมควรไปได้แล้ว”เมธชนันมองดูเวลา เขาเดินเข้ามาในห้องของพลอย และจ้องดูทัดธนที่คอยพูดคุยกับพลอยมาโดยตลอด
เขาให้เวลาทั้งคู่มานานแล้ว ตอนนี้สมควรเพียงพอแล้วกระมัง?
ทัดธนเหลือบมองเมธชนัน ก่อนจะมองดูพลอย และลุกขึ้นยืน
พลอยจับกุมมือของเขาเอาไว้ “พี่ชาย คุณจะไปแล้วหรือ?”
เหมือนว่าในโลกของเธอจะไม่เคยคาดคิดว่าก่อน ว่าจะมีวันหนึ่งที่ได้พบกับเขา
เธอคุ้นชินกับการรอ รอมาโดยตลอด กระทั่งตนเองยังไม่เชื่อว่าเขาจะปรากฏตัวขึ้น
เมธชนันเอ่ย “พลอย”
ทัดธนพูดขึ้น “คราวหน้าฉันจะมาหาเธอใหม่”
ปฏิกิริยาของพี่ชายและทัดธนบังคับให้พลอยปล่อยมือเขาลง และนั่งลงบนโซฟาอย่างสงบเสงี่ยม มองดูแล้วคล้ายเด็กน้อยที่แสนเชื่อฟัง
ทัดธนมองดูเธอรอบหนึ่ง ก่อนจะจามเมธชนันออกจากห้องไป
ตอนลงมาชั้นล่าง เมธชนันก็เอ่ยขึ้น “ที่เธอป่วย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ คุณอย่าได้คิดมากไป”
ต่อให้พวกเขาเคยคบกันมาก่อน แต่ก็ไม่มีใครคิดที่จะให้ทัดธนมารับผิดชอบพลอยที่กำลังล้มป่วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแบบทัดธน ยิ่งไม่สามารถลงเอยกับคนป่วยได้
เมธชนันเดินอยู่ด้านหน้า จู่ๆก็ได้ยินทัดธนเอ่ย “ผมอยากแต่งงานกับเธอ”
ประโยคนี้ ทำเอาเมธชนันนิ่งงันไป เขาหันหน้ากลับมาและมองดูทัดธนรอบหนึ่ง รู้สึกว่าบางทีเขาอาจจะเป็นบ้าไปแล้ว “ผมนึกคุณทัดธนเป็นคนรู้จักเหตุผลเสียอีก จู่ๆจะหุนหันพลันแล่นขนาดนี้ได้อย่างไร? อย่าเป็นเพราะอยากโชว์ความกล้าหาญ ก็เลยพูดเรื่องที่ทำได้ได้แบบนี้ออกมา”
“……..”
ทั้งคู่เดินลงมาจากชั้นบน ก็พบกับปีวราเข้าพอดี
ปีวรามองไปที่ทัดธน คิ้วของเธอขมวดขึ้น ก่อนจะจ้องที่เมธชนันที่อยู่ด้านข้าง
เมธชนันหลบสายตาอย่างคนกลัวความผิด ทำราวกับมองไม่เห็นสายตาอยากกินคนของแม่ของตน
ทัดธนเอ่ย “คุณนายปีวรา สวัสดีครับ”
“คุณทัดธนมาที่นี่ได้อย่างไร?”ท่าทางของปีวรานั้นแลดูบาดหมางเล็กน้อย
เป็นเพราะเรื่องในอดีต เธอจึงมีความทรงจำที่ไม่ค่อยกับทัดธนมากนัก
ทัดธนเอ่ยตอบอย่างมีมารยาท “มาเยี่ยมพลอยครับ”
ปีวราถลึงตาใส่เมธชนันไปรอบหนึ่ง ดูท่าแล้ว ทัดธนเห็นทีจะเจอพลอยเรียบร้อยแล้ว
ยังไงซะเธอก็เป็นถึงคุณนายตระกูลศรีเดชนิษ มีอะไรที่ไม่เคยเจอมาก่อนบ้างกัน?
เธอพูดกับทัดธนอย่างสงบ “งั้นต้องขอบคุณมากในความเป็นห่วง”
ทัดธนมองดูปีวรารอบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เพิ่งพูดกับเมธชนันไปซ้ำขึ้นมา “ผมอยากสู่ขอเธอ”
ปีวรานิ่งงันไป เธอมองดูทัดธน รู้สึกว่าเขาคล้ายเป็นบ้าไปแล้ว
ทั้งคู่นั่งลงบนโซฟา ในมือของปีวราถือแก้วเอาไว้และกำลังดื่มชา เธอเอาแต่มองดูทัดธน ผ่านไปชั่วครู่จึงเอ่ยถามขึ้น “คนเราจะทานอาหารมั่วซั่วไม่เป็นไร แต่คำพูดนั้นจะเอ่ยขึ้นมาอย่างมั่วซั่วไม่ได้ สถานการณ์ของพลอยตอนนี้ คุณทัดธนก็เห็นมาแล้ว ตอนนี้คุณอยากแต่งงานกับเธอ ฉันถึงกับคิดว่าคุณกำลังล้อเล่นอยู่กับฉัน”
ตอนที่635
“ผมอยากแต่งงานกับเธอ”ทัดธนเอ่ยอย่างจริงจัง “ผมไม่ได้กำลังล้อเล่น ผมอยากแต่งงานกับพลอยจริงๆ กลับไปแล้วผมจะจัดการเตรียมความพร้อม ครั้งหน้าผมจะมาอีก”
“……..”ท่าทีของเขาดูจริงจัง ไม่เหมือนคนที่กำลังล้อเล่นสักนิด
ปีวราเอ่ย “ถ้าหากคุณคิดว่าเธอน่าสมเพชและเป็นเพราะรู้สึกเห็นอกเห็นใจจึงคิดแต่งงานกับเธอ ฉันแนะนำให้คุณล้มเลิกเถอะ สถานการณ์ของเธอตอนนี้ แม้กระทั่งพวกเราในครอบครัวยังรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง คุณทัดธนแน่ใจหรือว่าตนเองมีความอดทนพอที่จะดูแลเธอไปได้ทั้งชีวิต? ฉันไม่อยากให้มีวันหนึ่งที่ฉันให้เธอแต่งงานออกไป แต่คุณกลับพาเธอกลับมาแล้วบอกว่าคุณรับเธอที่เป็นแบบนี้ไม่ไหวเกิดขึ้น”
จากที่เธอเห็น ทัดธนคงเพียงแค่หุนหันพลันแล่นขึ้นมาชั่วขณะ จึงตัดสินใจเรื่องแบบนี้ออกมา
ทัดธนเอ่ย “ในเมื่อผมพูดแล้ว ย่อมต้องรับผิดชอบเธอไปทั้งชีวิต เพียงแค่หวังว่าคุณนายปีวราจะให้โอกาสนี้กับผม”
ตอนนี้พลอยเป็นคนของตระกูลศรีเดชนิษ ถ้าหากปีวราไม่ยินยอม เขาก็หมดหนทางที่จะพาตัวเธอไป
ปีวรามองดูทัดธน ไม่ได้พยักหน้าแต่อย่างใด
ทัดธนเอ่ย “ผมจะมาอีก”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้น เมธชนันจึงไปส่งเขากลับไป
ตอนที่เขากลับมาก็มองเห็นปีวรากำลังนั่งอยู่บนโซฟา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“แม่”เมธชนันเดินเข้าไป
ปีวราจ้องเขาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ใครใช้ให้แกพาเขาไปหาพลอย?”
“เขามาเองครับ”เมธชนันเอ่ย “เขาบอกว่าอยากเจอพลอยสักครั้ง แม่ก็รู้สถานการณ์ของพลอยดี ดังนั้นผมก็เลยพาเขาไป”
“เขารู้เรื่องที่พลอยอยู่ที่บ้านได้ยังไงกัน? ไม่ใช่บอกว่าพลอยไปต่างประเทศแล้วหรือไง?”
นี่คือข่าวที่ถูกประจายออกไป คนทั่วไปไม่มีทางรู้ได้แน่
เรื่องเลิกกันเมื่อในอดีตเป็นพวกเขาที่หยิบยกขึ้นมา มาวันนี้พลอนล้มป่วยลงถ้าหากจะให้ทัดธนมาเยี่ยมพลอย ด้วยหน้าตาศักดิ์ศรีแล้วก็ทำไม่ลง ดังนั้นคนในตระกูลศรีเดชนิจึงไม่เคยติดต่อไปหาทัดธน
เมธชนันนึกถึงปาณีขึ้นมา แต่กลับเปิดโปงเธอไม่ลง “เป็นผมที่ปากไม่ทันระวังเอง”
ถ้าหากแม่ของเขารู้เข้า จะต้องไปฉุนเฉียวใส่ปาณีเป็นแน่
“…….”ปีวราจ้องดูเขาและไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
เมธชันเอ่ย “เรื่องที่ทัดธนบอกว่าอยากแต่งงานกับพลอย แม่มีความเห็นว่ายังไงครับ?”
“เขาก็แค่พูดไปมั่วซั่วเท่านั้น”ปีวราไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ “เขาไม่รู้หรอกว่าถ้าหากแต่งงานกับพลอยเข้าจริงๆจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง”
ตัวเธอเองนั้นไม่เชื่อ ว่าบนโลกใบนี้จะมีคนที่ต้องการแต่งงานกับคนบ้าอย่างจริงใจ
เหมือนทัดธนคนนั้น ผู้หญิงแบบไหนบ้างที่เขาหาไม่ได้?
ทำไมเขาจะต้องมาแต่งงานกับพลอยที่เป็นบ้าไปแล้วด้วย?
เป็นเพราะพวกเขาเคยคบกันมาก่อนหรือ?
ช่างน่าตลกสิ้นดี
-
วันเสาร์ ปาณีที่อยู่บ้านวิสิทธิ์เวชกำลังดูละครเป็นเพื่อนฐิติพรอยู่ ในมือถือรีโมต กำลังเปลี่ยนช่องไปมา
เปลี่ยนมาอยู่ที่ช่องหนึ่ง ก็มีหน้าของทัดธนปรากฏออกมา
บนหน้าจอที่ขยายภาพของเขาขึ้นมา ช่างหล่อเหลา
ฐิติพรพูดอย่างเซอร์ไพรส์ “เอ๋ นั้นทัดธนไม่ใช่หรือ?”
ปาณีวางรีโมตลง ก่อนจะนั่งดูไปพร้อมๆกับฐิติพร
ฟังทัดธนเอ่ยพูดคือความสุขอย่างหนึ่ง ทำให้คนรู้สึกสบายเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ชายคนนี้ มีความฉลาดทางอารมณ์สูงเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ภาพที่ปรากฎนั้นดูกลมกลืนกันได้อย่างไร้ที่ติ
พิธีกรมองเขาอย่างชื่นชมและถามขึ้นว่า “ฉันได้ยินมาว่าคุณทัดธนยังเป็นโสด พูดตามเหตุผลแล้ว คนแบบคุณ การที่จะหาแฟนสาวสักคนดูเป็นเรื่องง่านอย่างยิ่ง ช่วยบอกเหตุผลได้ไหมว่าทำไมคุณถึงยังไม่คบใครสักคน?”
ในอดีต สำหรับคำถามนี้ ทัดธนมักจะเอ่ยตอบอย่างเป็นทางการ ว่างานของเขานั้นยุ่งเกินไป ไม่มีเวลาดูแลใครได้
อย่างไรก็ตามในวันนี้ เขากลับเอ่ยคำตอบที่คำให้คนรู้สึกสงสัยขึ้นมา “ผมกำลังจะแต่งงาน?”
แต่งงาน?
ปาณีเบิกตาโต
พิธีกรมองเขาอยากไม่อยากเชื่อ “เมื่อไหร่?”