ตอนที่586
” …… ไม่มีอะไรหรอก ” ถึงเเม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าปาณีเเค่แกล้งหยอกเขาเล่น เเต่ธามนิธิก็พยายามอธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็น :” เธอพยายามจะเข้ามายุ่งวุ่นวายกับผมอยู่ตลอด เเล้วใครใช้ให้ปาณีของผม ไม่มาคอยดูเเลปกป้องผมล่ะ ”
เขาฉวยโอกาสทำตีหน้าเศร้า แกล้งทำให้ดูน่าสงสาร
ปาณีมองหน้าเขา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ” เเล้วคุณคิดว่าทำไมเธอถึงได้มาปรากฎตัวอยู่ต่อหน้าคุณอีกล่ะคะ ? ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เธอเคยพูด เคยทำอะไรแย่ๆกับคุณเอาไว้ ”
ที่จริงเเล้วการที่ปาณีได้เห็นนลินมาปรากฎตัวอยู่ข้างๆธามนิธิ ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกโมโหอะไรนักหรอก
เพราะว่าเธอรู้แก่ใจดีว่า คุณอาไม่มีทางชอบคนอย่างนลิน มีสุวรรณ์
ต่อให้เขาต้องตาบอด ก็ไม่มีทางสนใจผู้หญิงแบบนั้น
ปาณีก็เเค่จินตนาการไม่ออกเท่านั้นเองว่า ทำไมนลินถึงได้หน้าด้านขนาดนี้
ถ้าหากเป็นตัวปาณีเองเเล้วละก็ ขอเพียงได้รู้ว่ามีใครที่ไม่ชอบหรือไม่พอใจในตัวเธอ เธอก็คงจะปลีกตัวออกห่างไปนานเเล้ว เพราะไม่อยากให้ใครต้องมารังเกียจเธอ
ธามนิธิตอบเธอ ” ใครจะไปรู้กับเธอได้ ?”
ปาณีบอกกับเขาว่า :” วันนี้ฉันได้เจอคุณทัดธนด้วยนะ เขาเก่งมากเลยค่ะ !ตัวจริงดูดีกว่าที่เคยเห็นในทีวีตั้งเยอะเเน่ะ ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับเขาด้วยเเล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกว่าได้สัมผัสความรู้สึกที่ไม่สามารถส่งผ่านมาทางหน้าจอทีวีได้
ธามนิธิหันไปมองดูหญิงสาวที่กำลังอยู่ในอาการปลาบปลื้มที่ได้เจอคุณทัดธน เขาขมวดคิ้ว ” คุณชอบเขามากเลยเหรอ ?”
ปาณีรีบพรรณนาความรู้สึกอันเลื่อมใสศรัทธาในตัวทัดธน :” คุณน่ะไม่รู้หรอกว่า เมื่อก่อนที่ฉันเห็นเขาในทีวี ฉันรู้สึกว่าเขาน่ะสุดยอดมากๆเลยนะ !”
” สุดยอด ” คำสองคำ ที่ทำให้ธามนิธิรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในหัวใจ ” เเล้วสามีคุณไม่สุดยอดเลยเหรอ ?”
” …… ” ปาณีหันไปมองที่ธามนิธิ ” เอ่อ คุณอาก็ยอดเยี่ยมสุดๆเลยค่ะ ”
” เเต่ก็ยังน้อยกว่าเขา ใช่ไหม ?”
ปาณีพูดว่า :” ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ฉันรู้จักคุณทัดธนมาตั้งนานเเล้ว เเละเขาก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง ก็เลยได้ยินเรื่องของเขามาเยอะก็เท่านั้นเอง ”
คนอย่างธามนิธิ เอาจริงๆเเล้วก็เป็นคนที่ค่อนข้างลึกลับซับซ้อน สมัยตอนที่เธอยังไม่รู้จักเขา เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีคนแบบเขาอยู่ในโลกใบนี้ด้วย
อาศัยว่ามีคนที่พอรู้จักกับบ้านวิสิทธิ์เวชบ้าง ถึงได้รู้จักเขา
” คุณรังเกียจที่ผมไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าเขาใช่ไหมล่ะ ผมหึงจริงๆนะ ” ธามนิธิตัดพ้อ
ฐานะทางสังคมทัดธนนั้นจัดว่าติดอันดับมหาเศรษฐี ซึ่งเมื่อเทียบกับคนของบ้านวิสิทธิ์เวชที่แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยติดอันดับมหาเศรษฐี เเต่ไม่ใช่เพราะฐานะของพวกเขาทัดเทียมสู้ทัดธนไม่ได้ เเต่เป็นเพราะว่าคนของบ้านวิสิทธิ์เวชนั้นเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนมากๆ
ที่กระจกหน้าต่างรถ ปรากฏเป็นเงาสะท้อนของรอยยิ้ม ที่เกิดขึ้นบนหน้าของปาณี
เธอบอกกับเขาว่า :” ฉันชอบเวลาได้เห็นคุณหึง ”
” …… ”
ปาณีมองดูร้านอาหารที่อยู่ริมถนน ชักจะเริ่มรู้สึกหิว ” เอ่อคุณ ก่อนจะเข้าบ้าน หาอะไรกินกันก่อนมั๊ย ?”
” คุณอยากกินอะไรล่ะ ?”
ปาณีตอบ ” อะไรก็ได้ค่ะ คืนนี้ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย มัวแต่ยุ่งๆอยู่กับการพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ เเล้ววันนี้ฉันยังได้เจอคนเยอะเเยะเลยค่ะ !”
ยิ่งไปกว่านั้น ปาณีรู้สึกว่าคืนนี้เธอได้เจอกับใครหลายๆคนที่อยู่ห่างไกลกับชีวิตจริงของเธอมาก อย่างเช่นพวกดารานักแสดงชื่อดัง
อีกทั้งยังมีคนที่เธอไม่กล้าที่จะนึกถึง วันนี้ก็กลับได้เจอคนเหล่านั้น
นั่นไม่ใช่เพราะธามนิธิ เเต่เป็นเพราะความพยามยามของตัวเธอเอง ด้วยตัวตนเเละสถานะของแอนเดรียที่เธอสร้างมันขึ้นมา มันทำให้เธอรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก
ก่อนกลับบ้าน ธามนิธิจอดรถพาเธอแวะทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารเเห่งหนึ่ง
-
ณ ห้องเช่าที่ปาณีเช่าอยู่ ประตูห้องอันเเสนเย็นเฉียบ เวทัสยืนอยู่ที่นั่น เขาเฝ้าดูเวลา รอจนกว่าปาณีจะกลับมาถึง
เขาได้ยินมาจากนภันต์ ว่าปาณีเช่าบ้านอยู่ที่นี่
ตอนที่587
เขามารอเธอตั้งเเต่หกโมงกว่า จนถึงตอนนี้ปาไปเกือบสี่ทุ่มเเล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะได้เจอปาณี
เขาเริ่มนึกสงสัยว่าตัวเองจะมาผิดที่หรือเปล่า
เสียงโทรศัพท์มือถือราคาถูกดังขึ้นมา เวทัสหยิบมือถือขึ้นมารับสาย เป็นโมรีที่โทรเข้ามา ” หัวหน้าคะ อยู่ไหนคะเนี่ย ?”
” ผมอยู่ข้างนอก ” ขณะที่เวทัสกำลังรับสายอยู่นั้น เขาพบว่าเท้าของเขาเริ่มจะรู้สึกชาๆ
” พวกเรากำลังกินมื้อดึกกันอยู่ หัวหน้าจะมากินด้วยกันมั๊ยคะ ?” โมรีถามเวทัสด้วยความเป็นห่วง
ในโลกใบนี้ คงจะมีเเค่เพียงโมรีเท่านั้นที่คอยนึกถึงเขาอยู่เสมอ
เมื่อเทียบกับปาณี ที่เเต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจใยดีเขาเลยเเม้เเต่น้อย
” คงไม่ไปล่ะ ” เวทัสบอกกับโมรี
หลังจากปฏิเสธน้ำใจของโมรีไป เขาก็เดินออกมาจากตรงนั้น ชายหนุ่มมองออกไปยังท้องฟ้าอันมืดสลัว ความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวพรั่งพรูออกมาจากใจเขา
เขาเรียกรถ เตรียมตัวจะกลับบ้าน
ระหว่างทางกลับบ้าน เวทัสมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เเล้วเขาก็ได้เห็นหน้าต่างร้านอาหารร้านหนึ่ง ปาณีกำลังกินข้าวอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง เเล้วผู้ชายคนนั้นก็คือ อาของเขาเอง ……
สองคนนั้นท่าทางดูมีความสุขกันมาก
ในวินาทีนั้น เวทัสรู้สึกเหมือนหัวใจเขาถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก
เขาบอกให้คนขับรถจอดตรงนั้น เเล้วจึงลงจากรถเดินกลับไป เมื่อมองเข้าไปในกระจกหน้าต่างบานนั้น จึงได้เห็นภาพที่ปาณีกำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารไปวางไว้ในชามของธามนิธิ ” ผมไม่อยากกินอันนี้ ”
เขาคิดมาตลอดว่าพวกเขาหย่ากันเเล้ว เเละจะต้องไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันเเล้ว เเต่กลับคาดไม่ถึงว่าทั้งสองคนยังไม่ตัดขาดจากกัน
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขากลับดูสวีทหวานกันมากขึ้นกว่าเดิมอีก
เมื่อนึกไปถึงตอนที่เขารอเธออยู่หลายชั่วโมง ความรู้สึกผิดหวังเเละเสียใจก็พลันพรั่งพรูออกมา เวทัสมองดูพวกเขาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
จังหวะเดียวกันกับที่ปาณีมองออกมานอกหน้าต่าง เธอจึงได้เห็นเวทัส
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและผิดหวัง
ปาณีหยุดชะงักไปชั่วครู่ คาดไม่ถึงว่าเขาจะมาอยู่ตรงนั้น
ธามนิธิมองตามสายตาของปาณีออกไป จึงได้เห็นเวทัสอยู่ตรงนั้น
ถึงแม้เวทัสจะเห็นเเล้วว่าพวกเขารู้เเล้วว่าเขาอยู่ตรงนั้น เขาไม่ได้หลบไปไหน เเต่กลับเดินเข้ามาด้านในร้านอาหาร จนมายืนอยู่ข้างๆพวกเขาทั้งสอง
” นายมาได้ยังไงกันล่ะเนี่ย ?” ธามนิธิถามเขาอย่างใจเย็น
เวทัสหันไปมองที่ปาณี ” คุณอากับปาณี ไม่ใช่หย่ากันเเล้วเหรอครับ ?ทำไมตอนนี้ถึงยังอยู่ด้วยกันล่ะครับ ?” น้ำเสียงของเวทัสเต็มไปด้วยความขมขื่น
” อยากอยู่ด้วยกัน ก็เลยอยู่ด้วยกัน เเล้วจะทำไมล่ะ ?” ธามนิธิกลับคิดว่า มีเหตุผลอะไรที่เขาและปาณีจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ เขามองไปที่เวทัส ” ระหว่างนายกะเธอ มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก นายคงไม่ได้คิดว่าตัวเองจะยังพอมีหวังหรอกนะ ?”
ไหนๆเวทัสก็ได้มาเห็นเเล้วนี่ ธามนิธิก็เลยบอกเขาไปตามตรง เพื่อที่เวทัสจะได้ไม่ต้องคาดหวัง
เเต่เวทัสก็ยังคงคาดหวังอยู่จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างนี้เขาก็ได้พยายามอย่างเต็มที่
เเต่ทว่า ทุกสิ่งที่เขาทำลงไป กลับไม่ได้อยู่ในสายตาของปาณีเลยสักนิด
เวทัสมองไปที่ปาณี ” วันนี้ผมไปรอคุณที่บ้านที่คุณเช่าอยู่ รออยู่หลายชั่วโมง เเต่กลับคิดไม่ถึงว่า คุณจะมาอยู่อาของผม ผมนี่มันโง่จริงๆ ”
จริงๆเเล้วก่อนหน้านี้เขาก็เคยไปมาหลายครั้ง เเต่ก็ไม่เคยได้เจอปาณีเลย
วันนี้ก็เลยตั้งใจว่า จะรอต่ออีกหน่อย
เเต่สุดท้าย นอกจากจะไม่ได้เจอเธอ เเต่กลับต้องได้มาเห็นภาพบาดตานี้อีก ช่างแสนเจ็บปวดหัวใจจริงๆ
อาจเป็นเพราะว่าแววตาของเวทัส ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสียใจ ซึ่งปาณีเองก็รับรู้เเละเข้าใจถึงความรู้สึกของเขา ที่ดูเหมือนคนสิ้นหวังเเละทุกข์ทรมาน เธอจึงได้เเต่ก้มหน้าหลบสายตา ไม่ปริปากพูดอะไรกับเขา
เเล้วเวทัสก็เดินออกมาร้านอาหารไป ธามนิธิลุกขึ้นเดินตามเขาออกไป
” เวทัส ” ธามนิธิเดินตามเขาออกมาจากร้านอาหาร เเละเรียกเขาไว้
เพราะเป็นหลานชายแท้ๆ เขาจึงรู้สึกเป็นห่วงเลยตามเขาออกมา
ตอนที่588
ยังไงซะเวทัสก็คือลูกชายคนเดียวของพี่สาวเเละพี่เขยของเขา
เวทัสไม่ฟังเเละยังคงเดินต่อไป เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทิ่มแทงใจแบบนี้ด้วย
เขาอุตส่าห์เฝ้าคอยให้ปาณีหย่ากับธามนิธิ เเละคิดว่าตัวเขาคงจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง เเต่สุดท้ายมันก็คือความว่างเปล่า
” นายหยุดก่อน ” เห็นเขาไม่ยอม ธามนิธิเริ่มใช้น้ำเสียงที่ดูเเข็งกร้าวขึ้น
เมื่อได้น้ำเสียงเชิงสั่งการแบบนั้นจากน้าชายตัวเอง ฝีเท้าของเขาก็พลันหยุดลง
ธามนิธิเดินมายืนอยู่ข้างๆเวทัส ก่อนจะมองหน้าเขาเเล้วพูดว่า ” นายไม่ใช่เด็กๆเเล้วนะเวทัส ”
” ใช่ครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้ว ” เวทัสหัวเราะด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ” น้าก็เลยแย่งผู้หญิงของผมไปอย่างงั้นเหรอครับ ?เมื่อก่อนตอนที่น้ายังนั่งอยู่บนรถเข็น ผมก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปแก่งเเย่งกับน้า ไม่กล้าที่จะทักท้วง เเต่ผมชอบเธอมากจริงๆ ถ้าน้าไม่ได้รักเธอ เเล้วทำไมน้าถึงไม่ยอมหลีกทางให้ผม ?ในเมื่อน้าไม่ได้รักเธอ เเต่ทำไมยังคอยทำดีกับเธออยู่ตลอด คอยเข้าไปอยู่ใกล้ชิดกับเธอตลอด ?”
” …… ” นี่เป็นครั้งเเรกตั้งเเต่เวทัสโตขึ้นมา เเล้วกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าธามนิธิ
เเต่ว่าเขารู้สึกไม่ไหวแล้วจริงๆ
เวทัสชอบปาณีมาก เเละธามนิธิก็เเต่งงานกับเธอเพียงเพราะข้อตกลงบางอย่าง เเล้วทำไมตัวเขาเองถึงทำได้เพียงเเค่มองดูพวกเขาอยู่ด้วยกัน เเต่เขากลับไม่ได้อะไรเลย ?
ธามนิธิมองดูเวทัส เขานิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาว่า ” นายคิดว่าฉันเเย่งปาณีมาจากนายอย่างนั้นเหรอ ?”
” เกรงว่าไม่ใช่ครับ ” แววตาของเขาดูไม่เต็มใจที่จะตอบนัก
ในสายตาของเขา ธามนิธิคือคนที่ทำลายความสุขในชีวิตเขา
ธามนิธิยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ” นี่เป็นคำพูดที่ตลกที่สุดตั้งเเต่ที่ฉันเคยได้ยินมา ตอนที่ฉันเเต่งงานกับเธอ พวกเธอก็เลิกกันไปแล้วนี่ คนที่ทำผิดต่อเธอก็คือนาย เเล้วฉันก็ไม่ได้เป็นคนบีบบังคับนายด้วย เเล้วถ้าหากว่าฉันกับเธอไม่ได้อยู่ด้วยกัน เเต่ด้วยนิสัยของปาณี เธอก็ไม่มีทางที่จะอยู่กับนายหรอก นายไม่เข้าใจเลยเหรอ ? ”
เเล้วทำไมกลายเป็นเขาไปแย่งปาณีมาซะอย่างงั้น ?
คำพูดของธามนิธิ ถึงกับทำให้เวทัสยืนกุมมือตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ถูกต้อง เขาเองก็รู้ดีว่าในตอนแรกเป็นเขาเองที่ผิดต่อปาณี
เเต่ว่า ……
” ตอนนี้ผมก็พยายามที่จะชดเชยทุกสิ่งทุกอย่าง ผมรู้ว่าเมื่อก่อนผมมันผิดเองที่ไปเชื่อคำพูดของติรยา เเต่ว่าน้าครับ ผมชอบปาณีมากจริงๆนะครับ หลีกทางให้ผมได้ไหมครับ ?พวกคุณสองคนก็หย่าขาดจากกันเเล้วไม่ใช่เหรอ ?ขอเเค่น้าไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับเธออีก ไม่เข้าไปยุ่งกับโลกของเธอ เธอจะต้องกลับมาชอบผมแน่นอน ”
สถานะของเวทัสก็ไม่น้อยหน้าใคร เมื่อก่อนเขาก็เคยคบอยู่กับปาณี ดังนั้น หากเขาพยายามให้มากกว่านี้ ทำไมจะเอาชนะใจปาณีไม่ได้ล่ะ ?
ธามนิธิมองดูหลานชายตัวเอง ก่อนจะบอกเขาว่า ” สุดท้ายเเล้วนายก็ยังเป็นเด็ก ไม่รู้จักโต ไร้เดียงสาจริงๆ ”
ไม่รู้ว่าเขาคิดได้ยังไงกันนะ ว่าหากเขาไม่ไปยุ่งกับโลกของปาณีเเล้วเธอจะหันมาชอบเวทัส
อีกทั้งธามนิธิก็ชอบพออยู่กับปาณี
เเล้วทำไมเขาต้องหลีกทางด้วยล่ะ ?
ธามนิธิบอกกับหลานชายว่า :” นายมันขี้ขลาดจนต้องทำถึงขนาดนี้เลยรึไงกัน ?”
” …… ”
บนถนนมีรถเเล่นขวักไขว่ไปมา ถึงเเม้เสียงของธามนิธิจะไม่ดังมากนัก เเต่ทุกคำที่เปล่งออกมานั้นฉะฉาน ชัดถ้อยชัดคำ
เขาพูดกับเวทัสว่า :” นายจะน่าจัดการกับความรู้สึกนี้ได้ตั้งนานเเล้วนะ เเต่กลับกลายเป็นว่าจนถึงตอนนี้นายก็ยังไม่เคลียร์เรื่องนี้สักที กลับไปคิดทบทวนให้ดีๆ ว่านายควรจะทำตัวอย่างไร เเละที่นายเป็นอยู่มันดีเเล้วหรือยัง ”
เเต่ก่อนเขาเคยโอ๋หลานคนนี้มาก เเต่มาวันนี้ได้เห็นสิ่งที่เขาเป็นเลยทำให้ธามนิธิรู้สึกโกรธเเละผิดหวังอยู่ไม่น้อย
เขาเรียกรถให้ไปส่งเวทัส เเล้วจึงเดินกลับเข้าไปหาปาณีในร้านอาหาร
ปาณีเรียกเช็คบิลเสร็จเรียบร้อย เมื่อเธอได้เห็นเวทัสโผล่มา ทำเอาเธอกินอะไรไม่ลงเลย
เธอเดินสะพายกระเป๋าออกมายืนอยู่ตรงหน้าธามนิธิ มองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ ” เขาว่ายังไงบ้างคะ ?”
ตอนที่589
อาการของเวทัส ทำให้ใครที่ได้เห็นต่างก็พากันเป็นห่วง
” ไม่มีอะไรหรอก เรากลับบ้านกันเถอะ !” ธามนิธิบอกกับปาณี
เขาหยิบกระเป๋าถือของปาณีมาช่วยถือไว้ เเล้วจึงเดินออกไปเรียกรถ
เมื่อกลับถึงบ้านสวนจตุจักร ปาณีเดินเข้าไปล้างเครื่องสำอางออกในห้องน้ำ ใช้ Make Up Remover ค่อยๆเช็ดเครื่องสำอางค์ออก
เสียงธามนิธิกำลังโทรคุยกับใครสักคนดังลอดเข้ามาจากด้านนอก ” เวทัสกลับถึงบ้านหรือยัง ?”
” ยังไม่ถึงเลยค่ะ ” เสียงแม่บ้านตอบกลับมา
ธามนิธิขมวดคิ้วเเน่น เขารู้สึกเป็นห่วงหลานชาย ” ถ้าเขาถึงบ้านเเล้ว อย่าลืมโทรบอกผมหน่อยนะ ”
” ได้ค่ะ ”
ปาณีมองดูธามนิธิผ่านทางประตูเเวบหนึ่ง ถึงแม้เขาจะดูเหมือนเย็นชา เเต่ก็ดูออกว่าเขาเป็นห่วงเวทัสจริงๆ
เธอบีบโฟมล้างหน้าลงบนฝ่ามือ ค่อยๆบรรจงล้างหน้าจนสะอาดหมดจดเเล้วจึงออกมาห้องน้ำ ก่อนจะพูดกับเขาว่า ” เวทัสยังไม่ถึงบ้านอีกเหรอคะ ?”
” ยังเลย ” เขาพูดต่อไปอีก ” คงไม่มีอะไรหรอก เวทัสไม่ใช่เด็กแล้ว เขาน่าจะรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ”
ที่เขาเป็นแบบนี้ ก็คงเป็นเพราะโดนตามใจจนเสียนิสัย
ปาณีหยิบมือถือขึ้นมากดส่งข้อความ
ธามนิธิมองดูเธอ ” คุณทำอะไรน่ะ ?”
” ฉันส่งข้อความไปให้พวกเขา ให้พวกเขาไปดูสักหน่อย ” ในสถานการณ์เเบบนี้ ถ้าให้เทียบระหว่างคนในบ้านกับเพื่อนฝูง เวทัสน่าจะอยากอยู่กับเพื่อนๆมากกว่า
หลังจากส่งข้อความเสร็จ เธอจึงพูดกับธามนิธิว่า :” คุณไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะค่ะ มีข่าวอะไรคืบหน้าฉันจะบอกให้คุณทราบ ฉันยังมีอะไรต้องทำอีกนิดหน่อยน่ะค่ะ ”
ช่วงนี้งานเธอค่อนข้างยุ่ง มีงานที่ยังคั่งค้างอยู่
ธามนิธิลุกขึ้นถอดเสื้อนอกออก ” อย่างนั้นก็ได้ ”
ปาณีนั่งอยู่หน้าคอมได้สักพัก โมรีก็บอกกับเธอว่า ” เจอตัวเขาละนะ ไม่ต้องห่วง ”
ปาณีตอบกลับไป :” เธอให้ชยรพอยู่เป็นเพื่อนคุยกับเขาหน่อยละกัน ”
สำหรับเรื่องนี้เเล้ว ปาณีรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพอจะทำได้ ก็คงเป็นประมาณนี้แหละ
โมรีตอบกลับมา :” ได้เลย ”
ไม่นานนัก ธามนิธิก็อาบน้ำเสร็จเเล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ ปาณีจึงบอกเขาว่า :พวกนั้นเจอตัวเวทัสเเล้วนะคะ คุณก็ไม่ต้องกังวลเเล้วนะ ”
เขานั่งลงบนเตียง มองดูหญิงสาวที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ” แล้วคุณจะนอนตอนไหนล่ะเนี่ย ?”
” น่าจะสักตีหนึ่ง ”
” ถ้างั้นผมรอคุณ ”
” ไม่ต้องหรอกค่ะ ” ปาณีเหลือบมองดูเวลาตรงมุมขวาของจอคอม ” วันนี้คุณเองก็เหนื่อยมาทั้งวันเเล้ว คุณน่าจะรีบพักผ่อนนะ ”
วินาทีต่อมา ธามนิธิก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับโน๊ตบุ๊คของเขา เเละนั่งลงข้างๆเธอ ” ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะทำงานของผมสักหน่อยเหมือนกัน ”
ปาณีรู้ว่าเขาตั้งใจอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ เห็นท่าทางเขาเเล้วเธอก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ในที่สุดเธอก็ทำงานจนเสร็จ จังหวะนั้นหันไปเห็นธามนิธิกำลังมองมาที่เธอพอดี
” ทำไมเหรอ ?หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง ?” ปาณีถามแบบงงๆ
” ไม่มีหรอก ” เขาก็เเค่นึกไปถึงคำพูดของเวทัส ที่ขอให้เขาหลีกทางให้เเละยกปาณีให้กับเขา
ถ้าเป็นสิ่งของอย่างอื่น ไม่ว่าอะไรก็ตามขอเเค่เขาเอ่ยปาก ธามนิธิก็จะหามาให้
เเต่กับปาณี เขาไม่มีวันยอม
สายตาอันเยือกเย็นของธามนิธิ ทำให้ปาณีเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย
เธอเดาไม่ถูกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เเละเริ่มรู้สึกอัดอัดเล็กน้อย :” ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ ”
-
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อตอนที่เวทัสกลับเข้าบ้าน ครอบครัวของเขากำลังทานอาหารเช้ากันอยู่
ขณะที่จันวิภากำลังพูดคุยอยู่กับนพรุจ เวทัสก็เดินเข้ามา ” พ่อ แม่ ”
เมื่อได้ยินเสียงลูกชาย จันวิภามองไปที่เขา ก่อนจะหันไปบอกกะป้าแม่บ้านให้เตรียมอาหารให้ลูกชาย
จันวิภาถามด้วยความสงสัย :” ทำไมถึงกลับเอาป่านนี้ล่ะ ?”
” กลับมาเอาของนิดหน่อยครับ ” เวทัสนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
นพรุจคิ้วหนาคมเข้ม สองพ่อลูกมีคิ้วที่หนาคมเข้มไม่ต่างกัน เขาถามลูกชายด้วยน้ำเสียงเเละท่าทางเคร่งขรึม ” ช่วงนี้แกยุ่งอะไรอยู่ ?”
” ก็ยุ่งๆอ่ะพ่อ ” ในหัวของเขาตอนนี้มีเเต่เรื่องของปาณี เเม้กระทั่งเรื่องการฝึกนาวิกโยธินของเขาก็ดร็อปลงอย่างมาก คนใกล้ตัวเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดกับเขา ชยรพเองก็แสดงความคิดเห็นกับเขาอยู่ไม่น้อย
ตอนที่590
” ยุ่งๆอยู่กับทีมของแกรึไง ?” นพรุจขมวดคิ้ว ท่าทางเหมือนไม่ค่อยพอใจ
เวทัสรับอาหารเช้ามาจากป้าแม่บ้าน ก่อนจะนั่งกินอย่างเงียบๆ
นพรุจเป็นคนค่อนข้างเข้มงวด เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อ เวทัสเลยมีท่าทีนิ่งสงบ
เเต่จันวิภาแม่ของเขามีท่าทีที่อ่อนโยน ” เรื่องทีมฝึกก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ถ้าลูกชอบที่จะทำ ก็ให้ลูกทำไปเถอะ ”
” ปลายปีนี้ก็จะอายุยี่สิบเเล้ว วันๆเอาเเต่เล่นเกม คนอย่างแกจะมีผู้หญิงที่ไหนอยากจะมาเเต่งงานด้วยห๊ะ ?”
” …… ” เวทัสนิ่งเงียบ
เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่พ่อตัวเอง ใจก็คิดว่านี่พ่อฉันจริงๆใช่รึเปล่า ?
คำพูดไหนที่จะทำให้เขารู้สึกแย่ พ่อเป็นต้องขุดมาพูดให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจ
นพรุจพูดอีกว่า :” น้าชายแกเค้าเเนะนำว่า อยากจะส่งแกไปเรียนเมืองนอก พ่อกับแม่มาคิดๆดูเเล้ว ก็เห็นด้วยกับน้าแกนะ ”
ไปเมืองนอก ……
คำเเนะนำของน้าอย่างนั้นรึ
เวทัสเข้าใจในทันทีว่า ธามนิธิจงใจอยากจะให้เขาไปซะให้พ้นๆ
คำพูดที่น้าพูดต่อหน้าเขาเมื่อคืนนี้ มันเห็นได้ชัดอยู่เเล้วว่าธามนิธิตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ
” ผมไม่อยากไป ” เวทัสปฏิเสธพ่อกับแม่เขา
” เรื่องนี้พ่อกับแม่ตัดสินใจเเล้ว เกิดเป็นผู้ชาย แม้เเต่เรื่องอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแท้ๆยังจัดการมันไม่ได้ ถ้าลำพังตัวแกเองยังแก้ปัญหาไม่ได้ล่ะก็ พวกฉันจะช่วยแกเอง ”
ให้เขาไปจากตรงนี้ซะ ยังจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
ถ้าขืนเขายังอยู่ตรงนี้ต่อไป วันๆได้เเต่เฝ้าดูปาณี ก็ไม่รู้ว่าวันหนึ่งเขาอาจจะลุกขึ้นมาอะไรบ้าๆก็ได้
เรื่องระหว่างเขากับปาณี พ่อกับแม่ของเขาก็รู้ดี เพียงเเค่พวกเขาไม่พูดเเละยังแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้ก็เท่านั้นเอง
เเต่ถึงแม้ว่าปาณีจะหย่ากับธามนิธิไปแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางยอมให้เวทัสได้อยู่กับปาณีอย่างเเน่นอน และยิ่งไม่หวังให้ลูกชายของพวกเขายังมีความหวังลมๆแร้งๆแบบนี้ต่อไปด้วย
-
” เวทัส ” น้าลำมุงกำลังตากผ้าอยู่ ก็เห็นเวทัสเดินเข้ามาหา
หลังจากปาณีกับธามนิธิหย่าจากกัน เวทัสก็ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย
พวกเขาไม่รู้เลยว่าปาณีกับธามนิธิพากันกลับมาที่นี่อยู่บ่อยๆ เเต่สำหรับเรื่องนี้เเล้ว คนนอกกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นความลับ ไม่ค่อยมีใครได้รับรู้
เวทัสพูดว่า ” ผมมาหาน้าชายผม ”
” …… ”
เวทัสเดินผ่านเข้าประตูมา จึงได้เห็นปาณีนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา กำลังพูดอยู่กับธามนิธิ :” คุณต้องนั่งถอยไปข้างหลังหน่อย แบบนี้ฉันวาดไม่ค่อยถนัด ”
เมื่อภรรยาต้องการแบบนั้น ธามนิธิจึงค่อยๆกระเถิบตัวไปข้างๆ อย่างว่าง่าย
เวทัสที่ยืนอยู่ตรงประตูกำลังมองดูสองคนนั้น ใจเขาเหมือนถูกหนามแหลมกำลังทิ่มแทงอย่างเจ็บปวด
เฮ่อะ ……
เพื่อปาณี เขาต้องทุกข์ทรมานใจขนาดนี้ เเต่เธอกลับมีความสุขอยู่กับน้าชายของเขา โดยที่ไม่มีเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
เมื่อมาคิดดูเเล้ว ตัวเขาช่างดูน่าสมเพชเวทนาอะไรขนาดนี้
ปาณีหันมาเห็นเวทัส เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปส่งสายตาให้ธามนิธิ
ธามนิธิหันมามองที่เวทัส ” นั่งก่อนสิ ”
เวทัสนั่งลง ปาณีเห็นว่าทั้งสองคงจะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน ” ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวไปทำธุระก่อนนะคะ ”
ปาณีเดินจากไป ไม่อยากรบกวนการสนทนาของเขาสองคน
ทีเเรกเวทัสก็คิดจะมาที่นี่เพื่อมาคุยกับธามนิธิ ว่าทำไมต้องให้เขาไปอยู่เมืองนอก เเต่พอได้เห็นปาณี เขาก็เอ่ยปากขึ้นว่า :” ผมมาหาคุณ ”
” …… ” เมื่อได้ยินที่เขาพูด เธอรีบหันไปมองที่ธามนิธิเเวบหนึ่ง
ด้วยความที่กลัวว่าเขาจะไม่สบอารมณ์กับเรื่องนี้
ปาณีไม่รู้ว่าเวทัสคิดจะทำอะไรอีก จึงได้เเต่มองที่เขาเเละพูดว่า ” ถ้างั้นคุณก็พูดตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ !”
ถ้าหากว่าตอนนี้เธอทำท่าทางประหม่า มันก็อาจจะมองได้ว่าเธอกับเวทัสนั้นมีลับลมคมนัยต่อกัน
” ผมต้องไปเมืองนอกละ น้าชายผมเค้าต้องการอย่างนั้น ” เวทัสพูดพลางมองไปที่ปาณี ก่อนจะเเสยะยิ้มออกมา ” น้าผมเขากลัวว่าผมจะมาแย่งคุณไปจากเขา ก็เลยจัดเเจงให้ผมไปอยู่เมืองนอก ”
นี่มันเหมือนเป็นการฟ้องรึเปล่านะ ?
ธามนิธินั่งอยู่ข้างๆ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำที่ติดกระดุมจนตรึงเปร๊ยะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกปลง