บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 757

ตอนที่ 757

บทที่ 757 ความหวังสุดท้าย

มองดูแม่เล้าที่แต่งหน้าหนักกับสาวนางโลมสองคน

กู้อ้าวเวยเงยหน้าขึ้นจากหนังสือภาพวาดของเด็กที่อยู่ในมือ หลายวันก่อนซ่านต้วนเฟิงไม่ให้นางวันๆเอาแต่ตามหยุนชิงหยาง อยู่ด้วยกัน กลัวว่าจะส่งข่าวบอกกัน นางถูกโซ่ล่ามตรวนไว้ที่เท้าคนเดียว ถูกขังไว้ในห้องห้องหนึ่งของจวน บานหน้าต่างถูกเปิดอ้าออก แต่ทั้งข้างนอกและข้างในมียามเฝ้าอยู่มากกว่ายี่สิบคน

มาวันนี้เห็นแม่เล้ากับสาวนางโลม ทำให้นางตะลึงได้เหมือนกัน มือข้างหนึ่งถูกพาดกับพนักเก้าอี้ แสยะยิ้มขึ้น“องค์ชายเก้าช่าง่รู้จักกาลเทศะเสียจริง รู้ว่าข้าอยู่คนเดียวกำลังเบื่อหน่าย มาวันนี้กลับยังหาสาวงามน่ากินพวกนี้มาให้ข้า”

ตั้งใจเน้นหนักตรงคำว่าน่ากินเล็กน้อย แม่เล้าจึงหัวเราะขึ้น แต่กลับกันสาวน้อยสองคนที่เป็นได้เห็นเป็นครั้งแรกว่ามีหญิงสาวที่พูดอย่างเปิดเผย และกลับทำให้รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

ซ่านต้วนเฟิงมาอย่างช้าๆเนิบๆ จึงได้ยินคำพูดของกู้อ้าวเวยพอดิบพอดี คิ้วขมวดเข้าหากัน แขนยาวสะบัดขึ้น แขนเสื้อกระทบกับตัวเสื้อทำให้มีเสียงดังเล็กน้อย นี่จึงทำให้กู้อ้าวเวยเก็บแววตาแล้วมองไปยังเขา“องค์ชายเก้าจะทำให้อะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”

“แน่นอนว่าเป็นการเอาใจ”ซ่านต้วนเฟิงกระแอมเบาๆสองสามครั้ง แล้วแสร้งยิ้มอย่างได้ใจ

ในตอนแรกเขากะจะรอข่าวคราวทางด้านกู้เฉิงอย่างเงียบๆ แต่ข่าวที่กู้เฉิงส่งมาเมื่อวาน กลับหวังจะให้เขากำราบกู้อ้าวเวย ทางที่ดีที่สุดนั่นก็คือทำให้สตรีคนนี้เป็นของเขาให้ได้ พอซ่านต้วนเฟิงคิดถึงเรื่องที่กู้อ้าวเวยให้กำเนิดลูกของเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่มาวันนี้เรื่องของเขาทั้งหมดอยู่ในกำมือของกู้เฉิง ทำให้ยากที่จะต่อต้านคัดค้านได้

“ถ้าหากอยากจะเอาใจข้า ก็เอาหนังสือภาพวาดพวกนี้ไปเผาทิ้งให้หมด แล้วเปลี่ยนเป็นเรื่องที่มันน่าสนุกกว่านี้”พูดเช่นนี้ออกไป กู้อ้าวเวยยังโยนทิ้งหนังสือภาพวาดพวกนี้ออกไปทางหน้าต่างอย่างเอาแต่ใจ แล้วจึงลุกยืนขึ้น โซ่ตรวนที่อยู่ที่เท้ากระทบเข้ากับพื้นเสียงดัง แต่กลับไม่เป็นอุปสรรคกับนางที่จะเดินไปยังด้านหน้าของแม่เล้า แล้วยิ้มขึ้น“หญิงสาวพวกนี้ข้าสามารถเก็บไว้ให้เตียงข้ามีความอุ่นขึ้นมาได้บ้าง แต่ข้าเห็นแม่เล้าอย่างเจ้าที่แก่แล้วยังไม่มีใครเอา ข้าว่าเจ้ากลับไปเถอะ”

แม่เล้าไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร เพียงแต่หัวเราะขึ้น“เตียงอุ่นๆแน่นอนว่าต้องการอยู่แล้ว เพียงแต่วันนี้ข้าพาผู้หญิงพวกนี้มา ก็เพื่อสอนท่านเรื่องบนเตียง.…..”

กู้อ้าวเวยมองไปยังซ่านต้วนเฟิง บนใบหน้าของเขามีความเขินอายเล็กน้อย แต่กลับยังมีท่าทีได้ใจอยู่เล็กน้อย ในใจรู้ดีอยู่แล้ว

แต่พอนางนึกถึงตอนที่อยู่ในป่าแล้วถูกอ้ายซู่จือลวนลามนางก็รู้สึกสั่นขนลุกไปทั้งตัว ในตอนนี้นั่นเองความกังวลของนางเผยให้ซ่านต้วนเฟิงได้เห็น คิดวิเคราะห์ไม่นาน อีกสักครู่ไปอยู่ที่ปากของแม่เล้าพูดจบก็ทำให้คนพวกนั้นหน้าแดง นางยังคงยกมือขึ้นพาดไว้บนไหล่ของซ่านต้วนเฟิง มืออีกข้างหน้าก็ไปพาดกับเอวของซ่านต้วนเฟิง แล้วค่อยๆบิดหนึ่งครั้ง พลางเอียงศีรษะไปข้างๆ ใช้ดวงตากลมโตมองไปที่เขา เล็บที่อยู่บนไหล่ของเขาจิกเข้าไป“ข้าต้องการเรื่องสนุกบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถ้าหากองค์ชายเก้าต้องการ สองมือของข้าก็สามารถเล่นกับเจ้าทำให้เจ้าไปวิ่งเล่นบนฟ้าได้.…..”

นี่เป็นคำพูดที่คุณหนูที่กำลังจะเข้าห้องหอที่ไหนกันล่ะ!

คนที่อยู่ ณ ที่นี้ต่างเปิดกว้าง ตอนนี้ซ่านต้วนเฟิงได้เห็นความงามบนใบหน้าของกู้อ้าวเวยในระยะประชิดใกล้ขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเห็นเนื้อขาวดั่งหิมะภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์ของนาง ลำคอตีบตัน ในตอนที่กำลังจะยื่นมือไปนั้น คนที่อยู่ในอกก็บินหนีจากไปดั่งผีเสื้อ พิงกับโต๊ะอย่างเกียจคร้าน มุมปากแสยะยิ้มขึ้น“เจ้ายังรีบกว่าซ่านจินจื๋อกับซ่านเซิ่งหานอีก ไปเรียนรู้อะไรจากพวกเขา มาใช้กับองค์ชายเก้า แน่นอนว่ามันมากเกินพอแล้ว ไม่ต้องให้หญิงสาวพวกนี้มาสอนข้าหรอก ข้ายังรู้วิธีที่จะทำให้สตรีมีความสุขอีกด้วย ไม่งั้นวันนี้ .…..”

“เพี๊ยะ——”

แก้มบางปวดแสบเป็นอย่างมาก ในหูมีเสียงดังวิ้ง ในปากยังมีกลิ่นของสนิมคละคลุ้งไปทั่ว

ฝ่ามือของซ่านต้วนเฟิงไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย พอเขาต้องนึกถึงกู้เฉิงให้เขาแต่งหญิงสาวที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาหักห้ามความโกรธที่ถาโถมเข้ามาในใจของเขาไม่ได้ ในตอนนี้เขายืนไฟสุมอกอยู่ตรงหน้าของกู้อ้าวเวย แทบจะกลืนกินนางไปทั้งตัว แต่กู้อ้าวเวยทำเพียงแค่ปาดเลือดที่อยู่ตรงมุมปาก เดินไปที่ด้านหน้าของเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา มืออีกข้างหนึ่งถูกวางไปที่แก้มของเขา“ในโลกใบนี้ ไม่มีใครมีอำนาจเท่าสตรีเยี่ยงข้าอีกแล้ว ทำกับข้าเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวว่าในภายภาคหน้าข้าจะ.…..”

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่ากู้เฉิงให้ข้ากับเจ้าอยู่ด้วยกัน เหตุใดวันนี้เจ้ายังต้องหาเรื่องอีกด้วย”ซ่านต้วนเฟิงจับคว้ามือของนางมาจับไว้แน่นด้วยความโกรธอย่างอับอาย ข้อมือบางเล็กแทบจะได้ยินเสียงกระดูกดังกรอบแกรบขึ้น

กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วเป็นปม แต่ตอนนี้กลับกัดฟันแน่น แล้วหัวเราะขึ้น“เจ้าเป็นหุ่นเชิด แต่ข้าไม่ใช่”

“ข้าคิดเพียงแค่ว่าข้าเปลี่ยนบุรุษข้างกายอย่างนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่ดูชายหนุ่มพวกนี้คนหนึ่งชนะคนหนึ่งเก่งกาจ กลับล้วนเป็นองค์ชาย”กู้อ้าวเวยเจ็บตรงข้อมือเป็นอย่างมาก หัวใจเต้นแรงดุจดั่งตีกลองขาแทบจะอ่อนโรยแรง แต่ตอนนี้ยังตั้งใจเดินไปข้างหน้า แล้วยิ้มขึ้นบางๆ “กู้เฉิงให้เจ้าแต่งกับข้า แน่นอนว่าต้องบอกเจ้าแล้วว่า จะบังคับไม่ได้ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป”

“เจ้า!”ซ่านต้วนเฟิงที่ถูกพูดเสียดแทงใจแทบจะโกรธจนระเบิด ผลักคนที่อยู่ข้างหน้าไปหนึ่งครั้ง

กู้อ้าวเวยถอยหลังไปสองก้าว แล้วหัวเราะพลางพูดต่อไปว่า“เพราะว่าคนอย่างน้อยข้าก็ยอมเป็นหยกที่แหลกลาญ ก็ไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ อีกอย่าง เปรียบกับเจ้าที่รอให้ข้าโค้งตัวลงไป ข้าเอาเวลากลืนกินหัวใจของเจ้าเร็วหน่อย ขอเพียงเจ้ายอมเป็นหุ่นเชิดของข้า ในภายภาคหน้าจะมีทรัพย์สินเงินทองมากมายรอเจ้าอยู่”

“เป็นแค่สตรี จะสามารถทำอะไรได้!”ซ่านต้วนเฟิงมองเห็นดวงตากลมโตดั่งดอกของลูกท้อของนางที่ทำให้ผู้คนหลงใหลมีประกายเปลวไฟจุดชนวนขึ้นอีกครั้ง ในใจของเขากลับเป็นกังวลเป็นอย่างมาก

“เจ้าต้องการบัลลังก์ของฮ่องเต้ ข้าจะแย่งชิงมันมาให้เจ้า เจ้าต้องการเป็นอมตะ ข้าจะทดลองให้เจ้า”กู้อ้าวเวยยิ้มขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้ววิ่งไปยืนอยู่ตรงหน้าของซ่านต้วนเฟิง ดวงตาดอกของลูกท้อสว่างไสวดั่งดวงดาวบนฟ้า เขย่งปลายเท้าขึ้นทำให้มีเสียงของโซ่ตรวนดังขึ้น เสียงนั้นกรีดเนื้อเล็กน้อย“ขอเพียงเจ้ายอมเป็นคนของข้า ของพวกนี้ก็จะเป็นของเจ้า”

ปีศาจสาวสองคำ ลอยมาตามแรงลม

เป็นอีกครั้งที่ซ่านต้วนเฟิงถูกกู้อ้าวเวยที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาหนีเตลิดเปิดเปิงเป็นครั้งที่สอง

กู้อ้าวเวยมองเห็นหลังของซ่านต้วนเฟิงจากไปอย่างเงียบๆ แล้วจึงยิ้มขึ้นบางๆต่อหน้าของแม่เล้ากับหญิงนางโลมพวกนั้น มองดูสีหน้าที่คล้ำดั่งสีเหล็กพาสาวๆเดินจากไป ราวกับสตรีตรงหน้าเป็นหญิงนางโลมแถวหน้า แต่คนที่นางพามากลับเป็นคนไม่มีประสบการณ์จริงๆ

รอจนคนจากไปหมดแล้ว หน้าต่างและประตูก็ถูกปิดแน่นอีกครั้ง

กู้อ้าวเวยถึงนั่งลงกับเก้าอี้ทันที มองดูข้อมือที่บวมขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แก้มด้านที่ถูกเขาตบจนบวมขึ้นมาเล็กน้อยที่แทบจะเอ่ยแม้แต่คำเดียวไม่ได้ แววตาสุกสกาวค่อยๆมืดลงเรื่อยๆจนหายไปหมด——นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความเข้มแข็งแบบนี้จะสามารถทนต่อไปได้ถึงเมื่อไหร่?

และนางก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ชิงจือกับหยุนชิงหยางเป็นอย่างไร ถ้านางเอ่ยปากถามขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนกับว่าจุดอ่อนของนางถูกเปิดเผย

ขาทั้งสองข้างยังคงสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ นางไม่อาจคาดฝันว่าถ้าหากนางถูกเหยียดหยาม แล้วจะอดทนต่อไปอย่างไร

เปรียบกับความกังวลในใจของกู้อ้าวเวยแล้ว ซ่านต้วนเฟิงราวกับใช้สีหน้าเหมือนเห็นผีจ้องมองไปที่อูกงกง“นางยังเป็นสตรีอยู่หรือไม่!นางเป็นคุณหนูที่เติบโตในจวนเฉิงเสี้ยงอย่างไร!”

ตอนนี้สีหน้าของอูกงกงก็เต็มไปด้วยความกังวลคิดไม่ตก ตอนแรกคิดว่าคุณหนูตระกูลใหญ่ที่ถึงจะแข็งกระด้างอย่างไรเมื่อได้เจอการสั่งสอนของหญิงนางโลมจะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามลงมือ ยิ่งรู้ว่าซ่านต้วนเฟิงมีท่าทีแข็งกร้าว จึงตั้งใจพูดเรื่องของซ่านเซิ่งหานกับซ่านจินจื๋อ พร้อมกันนั้นก็บีบให้ซ่านต้วนเฟิงลงมือ นำเรื่องพวกนี้กดลงไปให้หมดอีกครั้ง

“ไม่อย่างนั้น ให้ข้าลองดูเถิด”เฒ่าแก่ที่ยืนอยู่ข้างๆยิ้มตาหยีเดินเข้าไป“ต่อกรกับสตรี ข้ามีวิธีนะ”

ซ่านต้วนเฟิงมองนางด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง“ถ้าหากเรื่องนี้จัดการไม่ได้.…..”

“ข้าจะให้ผู้หญิงกับท่าน”แม่เล้าปิดปาก แล้วหัวเราะอย่างมีความสุข

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท