บทที่ 510 ฆ่าล้างโคตร
เหนือหัวและลูกกระเดือกของลู่เสี้ยงหยางต่างก็ถูกโจมตีด้วยพลังอันกล้าแกร่ง ทุกคนในเหตุการณ์ต่างมั่นใจ ว่าลู่เสี้ยงหยางจะต้องสิ้นใจอย่างไม่ต้องสงสัย
เย่สวนตกใจจนใบหน้าขาวซีด ส่งเสียงตะโกนดังลั่น “ลู่เสี้ยงหยางระวัง”
เซี่ยงหยู่โม่หัวเราะอย่างได้ใจ เป็นกำไรของตระกูลเซี่ยงจริงๆ
ไม่เพียงแต่ได้ยาพลิกสวรรค์มาสิบเม็ด แถมยังได้เย่สวนมาเป็นภรรยาของเขา และได้กำจัดลู่เสี้ยงหยางทิ้งอีกต่างหาก
ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสามตัว
คนของตระกูลเย่เอง ก็ยิ้มไม่หุบเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ชอบลู่เสี้ยงหยางมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ลงมือกำจัดเขาเสียที หากวันนี้ผู้อาวุโสทั้งสามแห่งสำนักซี่ฟางโหลวกำจัดมันได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุด
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ทำให้ทุกคนต่างต้องถลึงตาโตกับสิ่งที่เห็น ดาบสั้นมีอยู่เหนือหัวของลู่เสี้ยงหยางและแส้เก้าขนัดที่จู่โจมลูกกระเดือก ในขณะที่เหลือระยะห่างเพียงหนึ่งฝ่ามือ กลับหยุดนิ่งกะทันหัน
ราวกับว่ามีผนังที่มองไม่เห็นกั้นกลางบนเหนือหัวและลำคอ สกัดกั้นการโจมตีของผู้อาวุโสรองและผู้อาวุโสใหญ่เอาไว้
หืม? เกิดอะไรขึ้น?
ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสรองต่างขมวดคิ้วอย่างสงสัย
การจู่โจมเมื่อสักครู่ พวกเขาใช้พลังที่มีในการจู่โจม เพื่อกำจัดลู่เสี้ยงหยาง
แต่ไม่คิดเลย ว่าดาบสั้นและแส้เก้าขนัดยังไม่ถึงตัวลู่เสี้ยงหยาง ก็ถูกกีดกันเสียแล้ว
“นี่มัน หรือว่าจะเป็นปราณแผ่รังสี?” ในตอนนี้ ในหัวของผู้อาวุโสรองและผู้อาวุโสใหญ่เกิดความคิดที่เหลือเชื่อ
แต่ไม่ทันไร พวกเขาก็ได้รับการยืนยัน ปราณแผ่รังสี กลั่นเป็นปราณเกราะ มีเพียงแค่ระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถทำได้
แต่ระดับปรมาจารย์ในหวาเซี่ยมีไม่กี่คนเท่านั้น ทุกท่านต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงดังกึกก้องในแต่ละพื้นที่ทั้งนั้น
ยาจกอย่างลู่เสี้ยงหยาง จะเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ไปได้อย่างไร
เมื่อคิดได้อย่างนั้น พวกเขาจึงมั่นใจว่าลู่เสี้ยงหยางแค่ใช้ลูกเล่นเท่านั้น
“เหอะ ไปตายซะ” ทั้งสองคำรามเสียงแผ่ว ก่อนที่จะปล่อยพลังปราณจนถึงขีดสุด มือทั้งสองข้างกำดาบสั้นและแส้เก้าขนัดเอาไว้แน่น พุ่งทะยานไปที่ลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง
ดาบสั้นและแส้เก้าขนัดค่อยๆ มุ่งไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางเฉยชา สายตาเย็นเยือก เขานี้เขาอาศัยรมณ์มัจจุราชในการต่อรับมือกับการจู่โจมของทั้งคู่
หลังจากที่ดานเถียนได้ฟื้นฟูใหม่ พลังของรมณ์มัจจุราชเองก็กล้าแกร่งขึ้นมาก
ตอนนี้เขามีความเชื่อมั่นอย่างมาก ขอเพียงแค่นักบู๊ระดับเก้าไม่ปรากฏตัว นักบู๊ระดับแปดไม่มีทางที่จะทำอะไรเขาได้
“ฮ่าฮ่า ลูกเล่นกระจอก” ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะ กระตุ้นรมณ์มัจจุราชในร่าง
เปรี้ยง!
เสียงคลื่นซัดกับหินขนาดใหญ่ดังขึ้นจากภายในร่างของเขา
ในเวลาเดียวกัน พลังแห่งการทำลายล้างแผ่ซ่านออกมาจากรมณ์มัจจุราช คืบคลานสู่ดาบสั้นและแส้เก้าขนัด
แคกแคกแคก!
แส้เก้าขนัดและดาบสั้นหักเป็นท่อน แตกเป็นหลายส่วนล่วงลงกับพื้น
“บัดซบ เป็นไปได้ยังไง?” ผู้อาวุโสรองและผู้อาวุโสใหญ่ต่างตกใจ อาวุธในมือของทั้งคู่ถูกทำลาย อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ตระหนก เป็นความตระหนกที่ยากจะอธิบาย ประดับบนใบหน้าของผู้อาวุโสรองและผู้อาวุโสใหญ่
อาวุธของเขาไม่สามารถถูกตัวลู่เสี้ยงหยางด้วยซ้ำ ก็ถูกหักเป็นชิ้นส่วนเสียแล้ว จะสู้ต่ออย่างไร?
ความสามารถของพวกเขาและลู่เสี้ยงหยางไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
“ถอย!” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไร้ความลังเล ผู้อาวุโสรองและผู้อาวุโสสามต่างก็ถอยไปข้างหลัง
เสียดายที่ผู้อาวุโสรองช้าไปหนึ่งก้าว มือขวาของเขาถูกลู่เสี้ยงหยางคว้าเอาไว้
พลังปราณไหลเวียน มือของลู่เสี้ยงหยางราวกับเหล็กที่ล็อกเอาไว้แน่น
“โอ๊ย” เสียงกรีดร้องอันน่าอนาถแล่นออกจากปากของผู้อาวุโสรอง เมื่อสักครู่ลู่เสี้ยงหยางใช้แรงบีบข้อแขนของเขาจนกระดูกแตกละเอียด
ต่อมา ไม่รอให้ผู้อาวุโสรองได้หายใจหายคอ ลู่เสี้ยงหยางก็ปล่อยหมัดออกไป
ผู้อาวุโสรองไม่มีโอกาสได้หลบหลีก หมัดประทับลงที่กลางอกของผู้อาวุโสรอง
ปัง!
ภายใต้หมัดที่รุนแรงของลู่เสี้ยงหยาง หน้าอกของผู้อาวุโสรองเกิดรอยประทับลึกเป็นรอย
ผ่านกำปั้นนี้ สามารถรู้สึกได้ถึงกระดูกและหัวใจที่เต้นรัว
ซวบ!
ในเวลานี้เอง ร่างกายของผู้อาวุโสรองปลิวออกไปราวกับลูกบอล กระแทกกับพื้นที่ไกลออกไปหลายเมตร
ทันใดนั้น กระเบื้องพื้นแตกแยกออก บริเวณพื้นที่ร่างกายกระแทกลงไปนั้นเกิดเป็นหลุมลึก
อัก!
ผู้อาวุโสรองกระอักเลือดไม่หยุด ลมหายใจรวยริน ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้อาวุโสใหญ่หนังตากระตุกอย่างแรง ไม่คิดเลยว่าลู่เสี้ยงหยางจะโหดเหี้ยมถึงปานนี้ เพียงแค่กำปั้นเดียวก็ทำให้ผู้อาวุโสรองทิ้งไปครึ่งชีวิต
อันที่จริงการเผชิญหน้ากับยอดฝีมืออย่างลู่เสี้ยงหยาง เขาจะถอยทัพอย่างไม่คิดลังเล แต่ตอนนี้มีคนตั้งมากมาย หากเขาหนีเอาชีวิตรอดไปแบบนี้ หากแพร่สะพัดออกไป เขาก็จะไร้จุดยืนในสำนักซี่ฟางโหลวอีกต่อไป
ตอนนี้เขาได้แต่กัดฟันสู้ จู่โจมลู่เสี้ยงหยาบ
ฝ่ามือทะลวงเมฆา!
ไม่นาน ผู้อาวุโสใหญ่ก็มาถึงตัวลู่เสี้ยงหยาง ฝ่ามือทั้งสองข้างประกบกัน พุ่งไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
ภายใต้การขับเคลื่อนของฝ่ามือของเขา อากาศหลอมรวมเป็นฝ่ามือที่มองไม่เห็น พุ่งไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางไร้ปฏิกิริยาที่มากไปกว่านั้น เมื่อเผชิญหน้าต่อฝ่ามือที่รุนแรงของผู้อาวุโสใหญ่ เขาเพียงยกหมัดขึ้นอย่างง่ายดาย
ปังปังปัง
ชั้นบรรยากาศที่ฝ่ามือและกำปั้นของลู่เสี้ยงหยางสัมผัสกันก็จะแตกออก กลายเป็นไปมลายหายไป
“ไม่ เป็นไปไม่ได้” เมื่อผู้อาวุโสใหญ่เห็นลู่เสี้ยงหยางรับฝ่ามือเขาได้อย่างง่ายดาย เขาตกใจต้องร้องอุทานออกมา พลันส่ายหน้าไม่หยุด
“ฮ่าฮ่า คุณหลงตัวเองจนเกินไป บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” เสียงของลู่เสี้ยงหยางดังสะท้อนอยู่ภายในแก้วหูของเขา หากแต่เป็นเสียงของกำปั้นลู่เสี้ยงหยางที่ประทับลงบนหัวของเขา
ปั่ก!
ผู้อาวุโสใหญ่กระอักเลือดออกมาคำโต กล้ามเนื้อบนใบหน้ารวมกันเป็นมัด ดวงตาพร่ามัว ร่างกายไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป ล้มลงกับพื้น
ผู้อาวุโสใหญ่สิ้นลม!
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสทั้งสามถูกลู่เสี้ยงหยางกำจัดเรียบร้อย
รอบด้านเงียบกริบ วันนี้ลู่เสี้ยงหยางได้สังหารผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักซี่ฟางโหลว ทำร้ายผู้อาวุโสรองและผู้อาวุโสสามจนบาดเจ็บสาหัส นั่นก็หมายความว่า ไม่เห็นหัวของสำนักซี่ฟางโหลว
สำนักซี่ฟางโหลวจะปล่อยให้คนเร่ร่อนพเนจรหยามเกียรติได้อย่างไร
ความร้ายแรงนี้ เซี่ยงเทียนไห่รู้อยู่แก่ใจดี เพราะงั้นในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย พลันหัวเราะอย่างเหี้ยมโหดใส่ลู่เสี้ยงหยาง “ไอ้หนู แกโอหังนัก มองข้ามคนอื่น การกระทำของแกในวันนี้ ได้ล่วงเกินสำนักซี่ฟางโหลวเป็นที่เรียบร้อย รอสำนักซี่ฟางโหลวฆ่าล้างโคตรแกแล้วกัน”
ลู่เสี้ยงหยางแสยะยิ้มมุมปาก ส่ายหน้า “ก่อนหน้าที่ผมจะถูกฆ่าล้างโคตร คุณจะได้รับการฆ่าล้างโคตรจากผมก่อน”
จบประโยค ลู่เสี้ยงหยางขยับฝีเท้าไปที่เซี่ยงเทียนไห่