“ใช่เธอไหม?”วารุณีกำโทรศัพท์แน่นแล้วถาม
ใบหน้าพิชญาแสดงอาการแปลกใจ“เธอกำลังพูดอะไรน่ะ อะไรคือใช่ฉันไหม?”
“คนที่เมื่อคืนกับวันนี้จะฆ่าฉัน ใช่เธอทำหรือเปล่า?”วารุณียืนขึ้นมา
พิชญาตะลึงไปก่อน จากนั้นก็หัวเราะออกมา“โหย ในที่สุดก็มีคนอื่นไม่ชอบขี้หน้าเธอสักที อยากจะฆ่าเธอ”
“หมายความว่าไง เธอบอกว่านี่เธอไม่ได้ทำเหรอ?”วารุณีหรี่ตาลง
พิชญาเบ้ปาก“เหลวไหล ไม่ใช่ฉันแน่ ถึงฉันอยากให้เธอตายใจจะขาด แต่ตอนนี้พวกเราเป็นเหมือนน้ำกับไฟ ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมา อย่างแรกเลยทุกคนก็จะคิดว่าฉันทำ ฉันยังไม่โง่หรอกนะที่จะลงมือฆ่าเธอ เธอไปคิดเอาเองเถอะ ว่าไปขัดใจใครหรือเปล่า”
พูดจบ เธอก็ตัดสายลง
วารุณีวางโทรศัพท์ลง วรยาก้มหน้ามองเธอ“ลูกรัก ไม่ใช่เธอทำจริงๆ เหรอ?”
วารุณีลูบขมับ“ไม่รู้ค่ะ ที่ฉันโทรไปนี่ จุดประสงค์หลักๆ ก็คืออยากหยั่งเชิงดูหน่อย ถ้าเป็นเธอทำ ฉันก็น่าจะรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างได้บ้าง แต่เมื่อกี๊ไม่มีเลย”
“งั้นไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใครได้?”วรยาตบโซฟาอย่างโมโห
วารุณีละสายตาลงไม่พูดอะไร
ที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่ฆาตกรพูดเมื่อคืน หรือว่าคำพูดที่เพิ่งพูดในลิฟต์ ก็ชี้ไปที่พิชญาอย่างไม่มีข้อยกเว้น ยังไงพิชญาก็เป็นคู่หมั้นของนัทธี มีความแค้นกับเธอ และมักจะบอกว่าเธอแย่งนัทธีไป ดังนั้นอยากได้ชีวิตของเธอก็ถือเป็นเรื่องปกติมาก
แต่ที่เพิ่งโทรศัพท์กับพิชญา ทำให้เธอมีการคาดเดามากอีกอย่างหนึ่งขึ้น นั่นก็คือโยนความผิด ในขณะที่มีคนอยากฆ่าเธอ ก็จะโยนความผิดนี้ให้พิชญาด้วย ให้พิชญาเป็นแพะรับบาป ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นเบื้องหลังฆาตกรที่แท้จริง ก็คงจะมีแผนการที่ลึกซึ้งมาก
กำลังคิดอยู่นั้น อารัณก็ออกมาจากห้องนอนเด็ก“หม่ามี๊”
วารุณีหยุดความคิดลง ฝืนฉีกยิ้มออกไป“ออกมาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าให้ลูกอยู่กับน้องสาวในห้องเหรอ?”
“ไอริณเพิ่งร้องไห้จนเหนื่อย นอนหลับแล้ว”อารัณปีนบนโซฟา นั่งลงข้างๆ เธอ
วารุณีโอบไหล่เล็กๆ ของเขา“เป็นอะไรไปลูกรัก?”
“หม่ามี๊ ผมสืบหาคนที่อยากทำร้ายหม่ามี๊ไม่ได้ ยัยพิชญานั่น ไม่ใช่ฆาตกร”อารัณก้มหน้าเล็กๆ ลง มีความทุกข์ใจเต็มใบหน้า
วารุณีขมวดคิ้ว“ลูกรัก หม่ามี๊ไม่ได้บอกลูกแล้วเหรอว่า ลูกอย่ามายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ ทำไมลูกถึง ……”
“ผมเป็นห่วงหม่ามี๊!”อารัณตัดบทเธอ
วารุณีอ้าปาก จู่ๆ ก็พูดไม่ออก
วรยาตบหลังมือวารุณี“พอแล้ววารุณี เด็กๆ เป็นห่วงลูก ลูกก็อย่าเอาความเลย ฟังก่อนว่าอารัณสืบอะไรมาได้?ทำไมถึงบอกไม่ใช่พิชญา?”
“เห้อ โอเค”วารุณีถอนหายใจ แล้วเห็นด้วย
อารัณขมวดคิ้วเล็กๆ ใบหน้าของเด็กน้อยนั้นเผยความเยือกเย็นเหมือนกับนัทธี“หม่ามี๊ ผมเพิ่งสืบเลขบัญชีธนาคารของพิชญา รวมทั้งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ พบว่าช่วงนี้เธอไม่ได้มีการถอนเงินออกใดๆ และก็ไม่ได้ติดต่อกับภายนอกเลย แม้กระทั่งว่ายังไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ออกไปจากตระกูลศรีสุขคําด้วย”
“หมายความว่า เธอไม่ได้ติดต่อใคร และก็ไม่ได้จ่ายเงินเพื่อจ้างใคร และก็ไม่ได้ไปเจอใครเลยด้วย ดังนั้นข้อสงสัยที่มีต่อเธอก็ชำระล้างออกไปหมด”วารุณีเม้มปาก
อารัณพยักหน้า“ถูกครับ”
“เห้อ เสียเปรียบเธอแล้วจริงๆ ทำไมถึงไม่ใช่เธอนะ ถ้าเป็นเธอจริงๆ ก็สามารถจับเธอได้นานแล้ว ไม่พอใจเลยจริงๆ !”วรยาตบโต๊ะอย่างเสียใจ“ไม่ได้ แม่ต้องไปถามคนที่โรงพัก ว่ามีเบาะแสอื่นๆ ไหม”
พูดไป เธอก็หันกลับออกไปจากห้อง
วารุณีก็ไม่ห้ามเขา ดึงมือเล็กนุ่มๆ ของอารัณ
อารัณเบะปากเล็กๆ ลง ดูไม่ค่อยพอใจ“หม่ามี๊ ฆาตกรซ่อนตัวได้ดีมากครับ ผมไม่มีเบาะแสที่จะหาเธอได้เลย ขอโทษครับ”
“เด็กโง่ ขอโทษอะไรกัน คุณทำได้ดีมากแล้ว”วารุณีจูบไปที่หน้าผากของลูกชาย
แก้มอารัณก็แดง
ตอนนี้เอง โทรศัพท์ของวารุณีดังขึ้น
อารัณมองแวบหนึ่ง แล้วก็มีความเย็นชาอย่างมากออกมา“หม่ามี๊ เป็นคุณอานัทธี”
วารุณีแปลกใจเล็กน้อยที่ทัศนคติที่เขามีต่อนัทธีนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก แต่ก็ไม่คิดมาก หยิบโทรศัพท์วางไว้ข้างหู“ประธานนัทธี”
“เรื่องเมื่อคืน ได้ความคืบหน้ามาเล็กน้อย ไม่ใช่พิชญาที่ทำ”เสียงเย็นชาของนัทธีเข้าไปในแก้วหูของเธอ
วารุณีตอบอือ มองอารัณ“ฉันรู้แล้ว ฆาตกรตัวจริงเป็นคนอื่น”
“คุณรู้เมื่อไหร่กัน?”นัทธีแปลกใจเล็กน้อย
“เพิ่งรู้ค่ะ”วารุณีหัวเราะไปตอบไป
จู่ๆ มือเล็กๆ ข้างหนึ่งก็ยื่นมา แย่งโทรศัพท์ไป
วารุณีมองลูกชายของตัวเองอย่างตกใจ“อารัณ ลูกจะทำอะไร?”
“หม่ามี๊ ผมขอพูดกับคุณอานัทธีหน่อย”อารัณพูดไป ก็เอาโทรศัพท์มาไว้ข้างหู น้ำเสียงเย็นชา“คุณอานัทธี ต่อไปอยู่ห่างจากหม่ามี๊ผมหน่อยนะ เพราะว่าคุณอา วันนี้หม่ามี๊เกือบจะเป็นอะไรไปอีกแล้ว”
“อะไรนะ?”นัทธีลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานทันที
เขาไม่สนกับคำพูดที่อารัณพูดว่า‘อยู่ให้ห่างจากวารุณีหน่อย’ในหัวมีแต่ประโยคสุดท้ายของอารัณ ที่วารุณีเกือบจะเป็นอะไรไปอีกแล้ว
หรือว่า วารุณีเจอเรื่องแบบเมื่อคืนอีก?
“คุณอานัทธี วันนี้ตอนเช้า หม่ามี๊เกือบถูกลิฟต์ทับตาย และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพราะว่าคุณอา ถึงแม้ฆาตกรไม่ใช่พิชญานั่น แต่ก็เป็นผู้หญิงคนอื่นที่มีใจให้คุณอานัทธี เธออิจฉาที่หม่ามี๊อยู่ใกล้กับคุณอา เลยอยากฆ่าหม่ามี๊”ใบหน้าเล็กๆ ของอารัณหม่นลง พูดกับนัทธีอย่างเย็นชา
เขาชอบคุณอานัทธี แต่ความชอบนี้ เทียบกับหม่ามี๊ไม่ได้อีกเยอะ
เพื่อความปลอดภัยของหม่ามี๊ เขาไม่อนุญาตให้คุณอานัทธีเข้าใกล้หม่ามี๊แล้ว
“อารัณ……”มองลูกชายที่ปกป้องตัวเองแบบนี้ ในใจวารุณีก็รู้สึกตื้นตันใจ
ที่ปลายสาย นัทธีโดนข่าวที่อารัณบอก ทำให้ตะลึงอยู่นานกว่าจะได้สติคืนมา ริมฝีปากขยับ ลำคอพูดไม่ออก“อาไม่รู้เรื่องวันนี้ อาจะไปทันที!”
“คุณอาอย่ามา พวกเราไม่อยากเห็นคุณอา”อารัณห้ามไปโดยตรง“คุณอามา ถ้าคนที่แอบจ้องหม่ามี๊เห็น หม่ามี๊ก็ต้องพบกับความเสียหายที่ไม่มีเค้ามาก่อนอีก”
ได้ยินคำนี้ มือนัทธีที่ถือกุญแจรถไว้แน่น สุดท้ายก็ปล่อยไปอย่างไม่มีแรงหน่อยๆ “โอเค อาไม่ไปแล้ว งั้นหนูต้องบอกอามา หม่ามี๊ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อารัณมองไปที่วารุณี
วารุณีพยักหน้าอย่างให้กำลังใจ
อารัณจึงเม้มปากตอบไปว่า“หม่ามี๊ไม่เป็นไรครับ ถูกคุณยายช่วยไว้ทัน”
“งั้นก็ดี”หัวใจที่แน่นเกร็งของนัทธีก็คลายลง จากนั้นก็หรี่ตาลงอย่างอันตราย พูดเสียงเย็นชา“อารัณ สองเรื่องนี้ อาจะชดใช้ให้หม่ามี๊หนูเอง!”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ”อารัณทำเสียงฮึดฮัด วางสายลง แล้วเอาโทรศัพท์คืนวารุณี
วารุณีลูบหัวของเขา“ทำไมจู่ๆ ก็เย็นชากับคุณอานัทธีขนาดนี้ล่ะ?”
อารัณก้มหน้าลง“กิ๊กที่อยู่ข้างกายคุณอานัทธีเกือบทำร้ายหม่ามี๊จนตาย ผมไม่ชอบเขาแล้ว”
ได้ยินอย่างนั้น สายตาวารุณีก็หม่นลงเล็กน้อย
ใช่ ถึงแม้สองเรื่องนี้ไม่ใช่พิชญาที่ทำ แต่ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักนัทธีทำ
ส่วนเป็นใครนั้น งั้นก็เยอะมาก แต่ว่าเอานัทธีมาเป็นผู้ชายของตัวเองแบบนี้ นอกจากพิชญา ก็มีแค่คนเดียว
นวิยา!
นึกถึงเธอ วารุณีก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องนั้นที่โรงพยาบาลเมื่อวาน
เป็นอุบัติเหตุจริงเหรอ?
“หม่ามี๊ หม่ามี๊กำลังคิดอะไรอยู่เหรอครับ?”อารัณเห็นวารุณีกัดริมฝีปาก ทนไม่ไหวจึงถามไป
วารุณีได้สติคืนมา ก็หัวเราะเบาๆ “ไม่มีอะไรหรอก ลูกไปบอกยายนะ หม่ามี๊จะออกไปข้างนอก”
เธอคิดจะไปโรงพยาบาล ลองไปหยั่งเชิงด้วยตัวเอง ว่าใช่นวิยาหรือไม่!