ท่านประธานที่รัก – บทที่ 373 มีเขาอยู่ก็สบายใจแล้ว

บทที่ 373 มีเขาอยู่ก็สบายใจแล้ว

เฉินเทำหน้าอมทุกข์แล้วหันกลับไปหาซังหลินจวิน กัดริมฝีปากแน่น แล้วพยายามหักห้ามความกลัวไว้ “ฉัน เรากลับไปกินได้ไหม?”

“ทำไมล่ะ เรามาถึงแล้ว ถ้ากลับไป อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกชั่วโมงครึ่งเลยนะ” ซังหลินจวินจับมือเฉินเฉียวไว้แล้วพูดปลอบใจ

เฉินเฉียวคิดว่าเธอยอมอดทนหิวไปกินข้าวที่บ้านได้ แต่พอคิดได้ว่าซังหลินจวินอยู่เป็นเพื่อนเธอตั้งนาน แล้วเขาอยากกินข้าวข้างนอก เขาคงจะหิวจริงๆ แล้วหลินจวินก็ไม่ได้ชวนแบบนี้บ่อยๆปฏิเสธเขาคงไม่ค่อยดี

เธอจึงห้ามความกลัวในใจแล้วฝืนยิ้ม “งั้นเราเข้าไปเถอะ”

ถึงบอกว่าจะเข้าไป แต่ฝีเท้าของเฉินเฉียวกลับก้าวทีละครั้ง นี่ยังเดินไม่ได้สามก้าวด้วยซ้ำ

ซังหลินจวินเห็นเฉินเฉียวแปลกๆ เมื่อกี้มือก็เย็นอยู่แล้ว ตอนนี้เหงื่อออกอีก ริมฝีปากก็ซีด เห็นเฉียวเฉียวไม่กล้ามองพื้น ซังหลินจวินเลยเข้าใจว่าทำไมเฉียวเฉียวแปลกๆ

ตอนที่คบกันแต่ก่อน ทั้งๆสองคนไม่ค่อยได้ไปที่โรแมนติกไปเดตกัน ไปผจญภัยเที่ยวเล่น

เพราะฉะนั้นเลยไม่รู้ว่าเฉียวเฉียวกลัวความสูง

แต่เพราะรู้แบบนี้ ซังหลินจวินเลยนึกได้ว่า ที่โยว่อีกลัวความสูง ทีแรกคิดว่าเขางอแง ที่แต่เป็นกรรมพันธุ์นี่เอง

ในเมื่อกลัวก็ต้องเอาชนะความกลัว ซังหลินจวินเลยอุ้มเธอขึ้น แล้วเดินไปอย่างมั่นคง

จนกระทั่งไปถึงห้องที่จองไว้แล้ว ซังหลินจวินค่อยพูดกับเฉินเฉียวว่า “เฉียวเฉียว เธอมองเห็นกระเบื้องกระจกนั่นเลยคิดว่าถ้าเหยียบแล้วมันจะแตกใช่ไหม”

เฉินเฉียวรีบพยักหน้าให้

เห็นท่าทางที่อมทุกข์ของเฉินเฉียว ซังหลินจวินก็รู้สึกเป็นห่วง ฝ่ามือของเขาวางลงที่เส้นผมแล้วลูบปลอบใจเธอ

เขากดเสียงต่ำ ฟังแล้วดูอ่อนโยนมาก

“เฉียวเฉียว เธอไม่ต้องกลัวนะ มันแค่ดูเหมือนเป็นกระจก แต่ไม่ใช่กระจกจริงๆ นี่เป็นแค่เศวตศิลา มันเป็นหินอ่อนใสที่มีจุดสีขาวปนอยู่เหมือนเกล็ดหิมะ หินแบบนี้เจอยากมาก มีคนรู้น้อย เพราะฉะนั้นพื้นกระเบื้องใสๆนั้น เธอก็คิดว่าเดินบนหินปกติก็พอ”

พอหลินจวินอธิบายแล้ว เฉินเฉียวค่อยกล้ามองพื้น พอก้มมองแล้ว เธอค่อยเห็นจุดขาวๆเหมือนเกล็ดหิมะบนเศวตศิลา

ทีแรกในใจกลัว ต่อต้าน แต่กลับหายไปเพราะความมหัศจรรย์นี้

เฉินเฉียวรีบมองสำรวจพื้นก่อนที่พนักงานจะเข้ามา เธอเลยนั่งลงไปดู

“เกล็ดหิมะจริงๆด้วย หลินจวินนายหาที่นี่เจอได้ยังไงเนี่ย” เฉินเฉียวรู้ว่าเขาเป็นคนหมกมุ่นเรื่องงานไม่โรแมนติก ที่ที่โรแมนติกแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ก่อนมาเฉินเฉียวลองไปค้นหาร้านนี้แล้ว

ถึงคะแนนร้านอาหารจะสูง แต่เพราะข้อจำกัดต่างๆเยอะ ถึงจะมีชื่อเสียงในเมืองเป่ยเฉิง แต่คนที่ได้มากินจริงๆก็น้อยมาก

เพราะราคาที่นี่น่าตกใจมาก

แค่อาหารจานเดียวธรรมดาๆก็หลายร้อยแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะจองก่อนแล้ว เฉินเฉียวอยากลุกออกไปจริงๆ นี่เหมือนกำลังกินเงินชัดๆ

พนักงานที่ร้านยกอาหารมาเสิร์ฟเร็วมาก ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตู เฉินเฉียวยังนั่งดูเกร็ดหิมะอยู่บนพื้นอยู่เลย

พอได้ยินสียงเคาะประตู เฉินเฉียวก็รีบลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้

รอหลินจวินตอบว่าเข้ามาแล้ว เฉินเฉียวก็ทำหน้าตั้งตารอพนักงานเดินเข้ามา

จากนั้นเลยเห็นพนักงานหญิงเปิดประตูเข้ามา พนักงานแต่ละคนแต่งชุดยูนิฟอร์มเป็นระเบียบมาก

พนักงานชายห้าคนกับพนักงานหญิงห้าคนยืนเรียงกัน

หนึ่งในพนักงานหญิง ในมือเธอถือจานอาหารไว้ พอเข้ามาแล้ว เลยวางจานอาหารเครื่องถ้วยเปลือกไข่ไว้ที่ขอบโต๊ะ

รังนกที่ขาวเหมือนเกล็ดหิมะปรุงแต่งด้วยน้ำซุปสีใส

แค่เห็นก็อยากลองชิมแล้ว

เฉินเฉียวเข้าใจแล้วว่าทำไมซังหลินจวินต้องพาเธอมาที่นี่

แต่ก่อนร้านอาหารในโรงแรม ถึงจะเป็นโรงแรมห้าดาว แต่ถ้าเทียบกับร้านนี้ ก็เทียบกันไม่ติดจริงๆ

พอเสิร์ฟรังนกแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆเสิร์ฟอาหารจานต่อๆไป

จนกระทั่งเสิร์ฟอาหารครบแล้ว ซังหลินจวินค่อยพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “เรียบร้อยแล้ว ออกไปได้เลยครับ”

พนักงานที่กำลังจะพูดว่าทานให้อร่อยจำเป็นต้องกลืนคำพูดกลับไป

รอทุกคนออกไปแล้ว ซังหลินจวินค่อยเปลี่ยนสีหน้า

“เฉียวเฉียว เธอลองซุปรังนกนี่สิ รสชาติของร้านนี้ค่อยข้างดี ลองชิมดู” ซังหลินจวินยกถ้วยรังนกไปทางเฉินเฉียว

อาหารที่ซังหลินจวินพูดชม เฉินเฉียวอยากลองมาก อีกอย่าง แค่ตอนที่เธอเห็นอาหารจานนี้ก็ประทับใจแล้ว แต่แค่พนักงานที่นี่เอาแต่เสิร์ฟไปทางหลินจวิน เธอเลยทำได้แค่มอง

เฉินเฉียวใช้ช้อนตักรังนกขึ้นมาคำเล็กแล้วชิม รู้สึกสดใหม่อร่อยมาก แล้วรังนกก็มีประโยชน์มากด้วย

เฉินเฉียวไม่รู้สึกว่าเธอกินเงินอีก แต่เธอรู้สึกว่ากำลังกินทองต่างหาก

รอเฉินเฉียวกับซังหลินจวินกินที่ร้านเกล็ดหิมะอิ่มแล้ว อาหารบนโต๊ะก็เกือบหมดเรียบ

เฉินเฉียวรู้สึกแน่นท้อง แต่ก็ยังอยากกินอยู่

วินาทีนั้น เฉินเฉียวรู้สึกอิจฉานักกินมาก ถ้ากระเพาะเธอใหญ่แบบนั้น เธอก็จะได้กินของอร่อยๆเยอะๆ

เห็นจานอาหารที่ยังไม่ได้แตะ เฉินเฉียวอยากเอากลับมาก

ซังหลินจวินไม่ได้กินเยอะเหมือนเฉินเฉียว แต่เขาก็กินเยอะกว่าปกติ พอเห็นเฉินเฉียวเอาแต่เหลือบมองอาหานจานนั้น ในใจเลยแอบยิ้ม แต่ก็กลั้นยิ้มไว้ได้

เพราะเช็คบิลตั้งนานแล้ว ตอนที่กินเสร็จ เฉินเฉียวเลยเดินตามหลังซังหลินจวินไปที่ลิฟต์

“นี่ของอะไรเหรอ” เฉินเฉียวเอาแต่จ้องกล่องที่ซังหลินจวินถือไว้อย่างสงสัย

ทั้งๆที่ออกมาด้วยกัน ทำไมเธอไม่เห็นว่าซังหลินจวินซื้อของอย่างอื่น

ในใจเฉินเฉียวเลยสงสัยมาก

ซังหลินจวินยังไม่อยากบอกเธอเร็วขนาดนี้ แต่กลับพูดแกล้งว่า “รอกลับถึงบ้าน เธอก็จะรู้เอง”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

Status: Ongoing

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท