ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – บทที่ 413 เต่าวิญญาณ

บทที่ 413 เต่าวิญญาณ

“ถอยไปด้านข้าง” ฉินเฉิงพูดกับคนที่อยู่รอบตัวเค้า

ทุกคนพยักหน้าแล้วถอยออกไปหลบ

“พวกเค้าจะต้องเอาเต่าวิญญาณตัวนี้กลับไปศึกษาวิจัยอย่างแน่นอน” ในตอนนี้เอง เซียงเหม่ยเอ๋อก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ใช่”

“แล้วพวกเราจะเสียเปรียบไหม?” เย่อจุนเริ่มไม่พอใจ “เต่าวิญญาณตัวนี้มันเต็มไปด้วยสมบัติ!”

นี่มันเป็นปัญหาอย่างแท้จริง ถ้าหากว่าพวกเค้าเอาเต่าวิญญาณไป ฉินเฉิงเองก็ทำอะไรไม่ได้

“ตูม!”

ในตอนนี้เอง พวกเค้าก็โจมตีเต่าวิญญาณอย่างดุเดือด!

แม้ว่าเต่าวิญญาณจะแข็งแกร่ง แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเมื่อเต่าวิญญาณถูกโจมตีอย่างดุเดือดแบบนี้มันก็เสียเปรียบ

มันโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ มันแทบจะทำลายภูเขาทั้งหมดในทันที!

สหรัฐฯได้เสริมกำลังการโจมตีด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ มันแทบจะทำลายล้างทุกสิ่งโดยรอบไปในทันที!

“แยกย้ายก่อน” ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมา

ฉินเฉิงไม่ต้องการอะไรมาก มีเพียงแค่กระดองเต่าเท่านั้น

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการทิ้งระเบิดอย่างดุเดือดแบบนี้ กระดองเต่ายังคงไม่เป็นอะไร ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถทะลุทะลวงอะไรได้เลย!

ถ้ากระดองเต่านี้ใช้ทำเกราะได้ มันต้องเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

ทุกคนต่างถอยห่างออกไปหลายร้อยเมตรแล้วเฝ้ารออยู่อย่างเงียบๆ

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสียงร้องของเต่าวิญญาณมันก็ค่อยๆเบาลง

ด้วยเสียง “ตูม” ที่ดังขึ้นมา ในที่สุดเต่าวิญญาณก็ล้มลง

“น่าจะได้แล้วหละ” เย่อจุนรีบลุกขึ้นมา “ได้เวลาเก็บศพแล้ว!”

ฉินเฉิงคว้าตัวเย่อจุนไว้ เค้าขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายอยากจะเป็นศัตรูกับสำนักงานความมั่นคงของสหรัฐฯอย่างเปิดเผยอย่างงั้นเหรอ?”

“อย่างงั้นควรทำยังไงดี! มันไม่ง่ายเลยนะที่จะมาที่นี่!” เย่อจุนพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

ฉินเฉิงเอามือลูบไปที่คางของตัวเองแล้วพูดว่า: “นายเดาว่าพวกเค้าจะจัดการยังไงกับเต่าวิญญาณตัวนี้?”

“เอามันกลับไปศึกษาวิจัย” เย่อจุนก็พูดขึ้นมา

“เอามันกลับไปวิจัย? ตัวใหญ่โตขนาดนี้ จะเอามันกลับไปยังไงกัน?” ฉินเฉิงกลอกตาขึ้นมา “ถ้าฉันเดาไม่ผิด พวกเค้าน่าจะสร้างโดมขึ้นมาครอบแล้วควบคุมพื้นที่โดยรอบ นี่มันก็เป็นโอกาสของพวกเรา”

“ใช่แล้ว” เซียงเหม่ยเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อย “สหรัฐจะสร้างห้องวิจัยได้อย่างรวดเร็ว พวกเค้าไม่น่าจะทำการเคลื่อนย้ายให้ผู้คนแตกตื่นหรอก”

ฉินเฉิงลุกขึ้น เค้ากวาดสายตามองไปที่ผู้คนแล้วพูดว่า: “พวกเขามีการ์ดไม่เกินสิบคน การที่พวกเราจะเข้าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ฉินเฉิงก็หยุดแล้วพูดต่อว่า: “แต่มีปัญหาอยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือพวกเราจะต้องแบ่งกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่อย่างงั้นโดนเจอตัวแน่ อย่างที่สองคือเราจะถอดกระดองเต่าออกมายังไง? กระดองเต่านี่มันไม่สามารถทำลายได้ ด้วยความสามารถของเราแล้ว เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย”

ทุกคนเงียบทันที

ใช่แล้ว ด้วยการยิงของมิสไซล์และปืนใหญ่ กระดองเต่านี่มันก็ไม่ถูกทำลายเลย นี่ก็ไม่ต้องพูดถึงพวกเค้าเลย?

เย่อจุนเอาของมีค่าจำนวนนับไม่ถ้วนออกจากกระเป๋าเก็บวิเศษของเค้า แต่มันก็ไม่มีอะไรที่ใช้การได้เลย

“ถ้าไม่ได้จริงๆ อย่างงั้นก็ต้องถอดใจ” ทุกคนถอนหายใจออกมา

ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย ถ้าเค้าได้กระดองเต่ามา มันน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาร่างกายของตัวเอง

“ฉันมีวิธี”

ในตอนนี้เอง เสวี่ยเทียนจงที่เงียบมานานก็พูดขึ้นมา

ทุกคนรีบหันไปมองเสวี่ยเทียนจง ในแววตาของพวกเค้ามันเต็มไปด้วยความหวังในทันที

“ที่บ้านฉันมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์อยู่อันหนึ่ง มันชื่อว่ากระบี่หยกโลหิต ว่ากันว่ามันเป็นอาวุธขั้นสุดยอด มันคมมาก” เสวี่ยเทียนจงก็พูดว่า “ถ้าสามารถเอากระบี่หยกโลหิตออกมาได้ การจะตัดของสิ่งนี้มันก็ไม่น่ายากอะไร แต่… คุณก็รู้ว่าอาวุธขั้นสุดยอดนี่มันหมายถึงอะไร การจะเอามันออกมาได้มันเป็นไปได้น้อยมาก”

การใช้อาวุธขั้นสุดยอดนี่ตัดกระดองเต่า มันจะไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน

สิ่งที่ทำให้ฉินเฉิงพูดไม่ถึงเลยก็คือ ตระกูลเสวี่ยจะมีเบื้องหลังแบบนี้ด้วย!

ไม่น่าแปลกใจที่เลยที่เจ้าสำนักจะส่งเค้ามาคุ้มกันตัวเอง!

แม้แต่ตระกูลศิลปะการต่อสู้ชั้นนำของเหยียนเซี่ยเอง อาวุธขั้นสุดยอดแบบนี้พวกเค้าก็ยังไม่มีเลย!

“ตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่พึ่งกระบี่หยกโลหิตของนายเท่านั้น” เซียงเหม่ยเอ๋อก็พูดเบาๆขึ้นมา “พี่เสวี่ย งั้นก็รบกวนพี่คิดวิธีด้วยหละกัน”

“มันเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ แม้จะร่วมมือกับสหรัฐ ฉันคิดว่าการที่พวกเค้าจะผ่ากระดองเต่าวิญญาณนี่ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” ฉินเฉิงพูดขึ้นมา

“นั่นก็เป็นความคิดที่ไม่เลว”

เสวี่ยเทียนจงเงียบไปซักพัก จากนั้นเค้าก็พูดขึ้นมาว่า: “ฉันจะลองก็ได้ แต่เมื่อถึงเวลา อย่างน้อยครึ่งหนึ่งจะต้องเป็นของฉัน”

“ไม่มีปัญหา” ทุกคนพยักหน้า

เสวี่ยเทียนจงส่งเสียงอืมแล้วพูดว่า “งั้นพวกเรากลับกันก่อนก็แล้วกัน”

หลังจากออกจากที่นี่แล้ว ฉินเฉิงกับคนอื่นๆก็ไปบที่โรงแรม

ส่วนประธานสมาคมกลั่นยานานาชาติก็รู้เรื่องความล้มเหลวนี้ด้วย

“เจ็ดราชันย์พ่ายแพ้ต่อไอ่เด็กนั่นได้ยังไงกัน?” ประธานพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

“ท่านประธาน ผมเองก็ไม่แน่ใจ” ผู้ช่วยส่ายหัว “แต่เท่าที่ผมรู้มา ดูเหมือนว่าสำนักงานความมั่นคงสหรัฐฯจะอยู่ที่นั่นนะ”

“สำนักงานความมั่นคง?” สีหน้าของประธานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “พวกเค้ามาทำไม?”

“ผมเองก็ไม่รู้” ผู้ช่วยยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหัว “ผมคิดว่าเราควรถอยก่อนชั่วคราวนะครับ”

ประธานเงียบไปซักพัก จากนั้นเค้าก็พยักหน้าแล้วพูดว่า: “ก็คงจะต้องเป็นแบบนั้น”

ที่ด้านในโรงแรม ฉินเฉิงกับเย่อจุนก็นั่งอยู่ตรงข้ามกัน

“ฉันจำได้ว่านายมีของมีค่าอยู่ชิ้นหนึ่ง มันสามารถเดินทางข้ามช่องว่างได้ใช่ไหม?” ฉินเฉิงถามด้วยรอยยิ้ม

เย่อจุนพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ใช่ ทำไมเหรอ?”

ฉินเฉิงถอนหายใจ: “พี่เย่อนี่มีความสามารถมากเลย มีของล้ำค่าแบบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าจะเอาออกมาให้ฉันดูหน่อยจะได้ไหม?”

เย่อจุนก็พูดขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจว่า: “แน่นอนได้สิ!”

หลังจากพูดจบ จิตของเค้าก็ขยับแล้วเสื้อคลุมสีดำก็ตกลงมาอยู่ในมือของเค้า

เย่อจุนพูดขึ้นมาอย่างพึงพอใจว่า: “มันคือของสิ่งนี้! พูดตามตรงนะ ของมีค่าชิ้นนี้…พระเจ้า นายจะทำอะไร?”

ก่อนที่เย่อจุนจะพูดจบ เสื้อคลุมสีดำในมือของเค้าก็ตกไปอยู่ในมือของ ฉินเฉิงแล้ว

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: “พี่เย่อ ฉันอยากยืมของมีค่าของนายหน่อย”

เย่อจุนตกตะลึง เค้ารีบส่ายหัวขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ไม่ได้ ไม่ได้ ของมีค่าชิ้นนี้มันสำคัญต่อฉันมาก นายจะยืมอะไรก็ได้ แต่นายจะยืมเสื้อคลุมตัวนี้ไม่ได้!”

“ฉันยืมอย่างมากก็แค่หนึ่งเดือน!” ฉินเฉิงแสดงท่าทีอ้อนวอน “หลังจากหนึ่งเดือน ฉันจะเอามันมาคืนให้นายในสภาพสมบูรณ์!”

หลังจากพูดจบ ฉินเฉิงก็สวมเสื้อคลุมแล้วก้าวเข้าสู่มิติช่องว่าง

เย่อจุนตกตะลึง หลังจากผ่านไปได้ครึ่งวินาที เค้ากัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า: “นี่นายคิดมาดีแล้วใช่ไหม? ฉันจะสะกดนายซะ!”

ฉินเฉิงรีบไปที่ประตู แต่เย่อจุนก็ไล่ตามเค้ามาติดๆ

สิบนาทีต่อมา ฉินเฉิงกับเย่อจุนก็ไปนั่งหายใจหอบอยู่ที่ประตู

“ฉันจะบอกนายให้นะ ฉันให้นายยืมได้มากสุดก็แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น! หลังจากหนึ่งเดือนถ้านายไม่เอามาคืนฉัน นายตายแน่!” เย่อจุนอ้าปากค้าง

“วางใจได้ พี่เย่อมีน้ำใจขนาดนี้ ฉันฉินเฉิงไม่มีวันลืมมันอย่างแน่นอน!” ฉินเฉิงจับมือแล้วพูด

เย่อจุนส่งเสียงหึออกมาเบาๆ เค้าพูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยว่า: “ฉันเจอผู้คนมามากมาย นี่เป็นครั้งแรกที่มาตกหลุมพรางของคนอื่น … ”

หลังจากกลับถึงโรงแรมแล้ว ฉินเฉิงก็หยิบเสื้อคลุมสีดำนี้ออกมา

เค้าพูดขึ้นมาเบาๆว่า: “ฉันหวังว่าเสื้อคลุมนี้จะช่วยให้ฉันขจัดอันตรายได้ … ”

หลายวันต่อมา ฉินเฉิงก็อยู่แต่ที่โรงแรม เค้าแทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลย

สามวันต่อมา เสวี่ยเทียนจง เซียงเหม่ยเอ๋อกับคนอื่นๆก็มาที่โรงแรม

“เอาของมาด้วยหรือเปล่า?” หลังจากที่เจอเสวี่ยเทียนจง ฉใินเฉิงก็รีบถามขึ้นมา

เสวีใ่ยเทียนจงสะบัดมือขึ้นมาแล้วกระบี่ยาวก็ตกลงมาในมือของเค้า

กระบี่เล่มนี้มันดูแปลกมาก มันมีออร่าสีเขียวอ่อนๆหลงเหลืออยู่ในใบมีดของมัน

สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือออร่าของหยกสีเขียวนี้ มันดูเหมือนจะเต็มไปด้วยเลือดมันดูราวกับเลือดที่ไหลเวียนในกระบี่หยกยังไงยังงั้น

“นี่คือกระบี่หยกโลหิต” เย่อจุนยกมือขึ้นแล้วสัมผัสมัน

เสวี่ยเทียนจงชักมือของเค้ากลับแล้วมันก็ระเบิดพลังออกมาในทันที

ด้วยเสียง “ปัง” ที่ดังขึ้นมา ร่างของเย่อจุนก็พุ่งออกไปโดยตรง เค้ากระเด็นไปกระแทกกำแพงที่ด้านหลัง!

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

Status: Ongoing

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท