เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] – ตอนที่ 204 ผู้ชายทั้งแท่ง

ตอนที่ 204 ผู้ชายทั้งแท่ง

เย่ฉูฉู่เองก็ชอบดูภาพยนตร์เช่นกัน เพียงแต่เธอยังฟังงิ้วไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก

เป็นเพราะโดยปกติคณะงิ้วที่เชิญมาจะแสดงร้องเพลงโดยไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง เป็นการร้องเพลงสด ๆ คนที่นั่งอยู่ด้านหน้ายังดี สามารถได้ยินอย่างชัดเจน ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านหลังกลับได้ยินเสียงที่ส่งไปไม่ชัดเจนเอาเสียเลย

ประกอบกับคนที่มานั่งดูก็ไม่ได้นั่งเฉย ๆ ต่างก็นั่งคุยโวแทะเมล็ดทานตะวันไปพลาง พวกเด็ก ๆ ก็โหวกเหวกโวยวาย จึงไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

 ภาพยนตร์ก็ดีนะคะ เสียงดัง ภาพคนก็ใหญ่ด้วย อยู่ห่างก็ยังเห็นได้อย่างชัดเจน  เย่ฉูฉู่พูดกับจ้าวเหวินเทาด้วยรอยยิ้ม  โดยเฉพาะหนังสงครามที่ใช้ปืน ฉันเคยดูหนังที่หมู่บ้านอยู่เรื่องหนึ่ง เป็นหนังสงครามใช้ปืน ไม่เลวเลยจริง ๆค่ะ 

ภาพยนตร์ที่ฉายในตอนนี้โดยปกติแล้วจะเป็นธีมสงครามยิงปืนรักชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้จ้าวเหวินเทาก็เคยดูมาก่อน

แต่เขารู้สึกว่ายังไม่ได้ติดงอมแงมขนาดนั้น เป็นภาพยนตร์บุกโจมตีข้าศึก ทั้งเรื่องก็บุก ๆ ๆ แล้วก็จบ เขาชอบภาพยนตร์ที่แสดงถึงความเก่งกาจของคน ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่

แต่เป็นเรื่องยากที่ภรรยาจะชอบดู ถึงเวลานั้นเขาคงต้องเหมาภาพยนตร์หลาย ๆ รอบเสียหน่อยแล้ว

 ภรรยา คุณพูดมาอีกสิ นอกจากหนังสงครามยิงปืนแล้วคุณยังชอบอะไรอีก?  จ้าวเหวินเทาจูบภรรยาพลางเอ่ยถาม

เย่ฉูฉู่ครุ่นคิด  งิ้วล่ะมั้งคะ ฉันคิดว่าคุณพ่อกับคุณแม่น่าจะอยากดู 

เขามองดูภรรยาของตัวเอง ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ยังมีน้ำใจต่อพ่อแม่สามีเสมอ

จ้าวเหวินเทารู้สึกได้ถึงจุดนี้ ภรรยาของเขาดีกว่าพี่สะใภ้คนอื่น ๆ เสียอีก!

 แต่ก็นะภรรยา เรื่องนี้คุณพูดผิดแล้วล่ะ พ่อกับแม่ผมชอบดูหนังสงครามใช้ปืนมากที่สุด  จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิ้ม

เย่ฉูฉู่รู้สึกเหนือความคาดหมาย  จริงเหรอคะ? พ่อกับแม่คุณก็ชอบดูหนังสงครามใช้ปืนด้วย? ไม่ใช่ว่าคนแก่ ๆ ชอบดูงิ้วกันหรอกเหรอ? 

 พวกเขาก็ชอบดูงิ้วเหมือนกัน แต่ชอบดูหนังสงครามมากกว่า  จ้าวเหวินเทากล่าว  รอให้ถึงตอนที่หนังฉายแล้ว ผมจะขับรถไปรับพ่อตาแม่ยายให้มาดูด้วยกันนะ 

 แม่ของฉันคงมาไม่ได้ค่ะ พี่สะใภ้สามใกล้คลอดแล้ว แม่เลยจะเตรียมตัวไปอยู่ดูแลพี่สะใภ้สามช่วงอยู่ไฟที่นั่น  เย่ฉูฉู่คำนวณเวลา  อีกไม่กี่วันนี้แหละ อันที่จริงแม่บอกว่าจะไปล่วงหน้าสักสามสี่วัน แต่เป็นเพราะมัวแต่ทำชุดบุนวมของหลานก็เลยล่าช้าน่ะค่ะ 

จ้าวเหวินเทาชะงัก  พี่สะใภ้สามจะคลอดแล้ว เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? 

 คุณทำงานจนลืมไปแล้วสินะคะ นี่มันผ่านมากี่เดือนแล้ว?  เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขา

จ้าวเหวินเทายุ่งจนลืมจริง ๆ หนึ่งปีนี้มีเรื่องมากมาย โดยเฉพาะเจ้าตัวเล็กที่เพิ่มมาอีกคน

 ไม่ได้ยุ่งมากหรอก ไม่งั้นจะมีลูกชายได้ไงล่ะครับ!  จ้าวเหวินเทายิ้มให้ภรรยา

เย่ฉูฉู่ตำหนิเขาผ่านสายตาด้วยท่าทางน่ารัก…ช่างไม่เอาจริงเอาจังอยู่เรื่อยเลย

จ้าวเหวินเทาทำให้เธอได้รู้ว่าอะไรคือการไม่เอาจริงเอาจัง เขาขึ้นไปบนเตียงโดยที่ไฟยังเปิดอยู่ ภายใต้บรรยากาศที่มีแสงสว่างประหนึ่งกลางวัน เขาก็ได้ทำเรื่องไม่เอาจริงเอาจังจนทำให้เธอขึ้นสวรรค์ทะยานลงสู่ผืนปฐพี

มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถบรรยายได้ นอกจากนี้ยังมีคำพูดเหล่านั้นของเขาที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ด้วย เขาทำให้เย่ฉูฉู่ถึงกับเขินอาย ชีวิตของเธอแทบจะถูกคนๆ นี้พรากไปจริง ๆ

ไม่ว่าคนอื่นจะมองเรื่องดูหนังฟังงิ้วว่าอย่างไร วันรุ่งขึ้นจ้าวเหวินเทาและจ้าวเหวินอู่ก็เดินทางมาที่อำเภอด้วยกันแล้ว

จ้าวเหวินเทาให้จ้าวเหวินอู่ไปที่ศูนย์วัฒนธรรมก่อน ส่วนตัวเองไปโทรศัพท์หาเย่หมิงเป่ย เขาบอกพี่ภรรยาสามว่าไฟฟ้าเข้าถึงที่บ้านแล้ว พวกเขาสองคนคุยกันครู่หนึ่ง หลังจากพูดถึงเรื่องที่ภรรยาของเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของพี่สะใภ้สามแล้ว จ้าวเหวินเทาจึงวางสายและมาหาจ้าวเหวินอู่ที่ศูนย์วัฒนธรรม

ศูนย์วัฒนธรรมเป็นตึกขนาดเล็กสองชั้น ชั้นแรกคือห้องโถงการแสดง ด้านในนั้นมีเสียงร้องเพลงดังอยู่ จ้าวเหวินเทาจึงเข้าไปดู

ทันทีที่เข้ามาก็พบว่าจ้าวเหวินอู่กำลังยื่นมองอยู่ตรงนั้นด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็มองตามสายตาของอีกฝ่ายด้วย

บนเวทีตรงหน้ามีหญิงสาวร่างสูงกำลังยืนอยู่ หล่อนอยู่ในชุดงิ้วพร้อมเครื่องประดับบนศีรษะ กำลังกรีดนิ้วขณะร้องเพลงคู่กับเพื่อนร่วมงาน เสียงของหล่อนทั้งกังวานและนุ่มนวลราวกับนกไนติงเกล

 ร้องได้ไม่เลวเลยนะ  จ้าวเหวินเทากล่าว

จ้าวเหวินอู่ที่กำลังจมอยู่กับบทเพลงได้ยินถึงกับตกใจ เขาหันมาเห็นจ้าวเหวินเทา จึงหัวเราะเสียงทุ้ม  สวยด้วย 

ใบหน้าที่ดูทะลึ่งนั้นทำให้จ้าวเหวินเทารู้สึกขบขันมาก  ระวังเมียของนายมาได้ยินแล้วจะถูกจัดการนะ! 

 หล่อนไม่รู้สักหน่อย!  จ้าวเหวินอู่ทำท่าทางราวกับไม่ได้ใส่ใจ จากนั้นก็ตั้งใจฟังต่อไป

จ้าวเหวินเทากวาดตามองลานแห่งนี้จนทั่ว แถวด้านหน้ามีคนอยู่สี่ห้าคน ส่วนเก้าอี้ตัวอื่น ๆ ยังว่างอยู่ ซึ่งเขาแอบไม่เข้าใจเหมือนกัน ในเมื่อร้องเพลงเพราะแบบนี้ ทำไมถึงไม่มีคนเลยล่ะ? เมื่อคิด ๆ ดูแล้วจึงเดินตรงเข้าไป

จ้าวเหวินอู่เห็นว่าเขาเดินตรงเข้าไป ก็เดินตามไปด้วย ทั้งสองคนมาถึงแถวด้านหน้าสุด การแสดงก็สิ้นสุดลงพอดี จ้าวเหวินอู่คือคนแรกที่ปรบมือ ทั้งยังผิวปากด้วย

 เยี่ยม ๆ ๆ น้องสาวร้องเพลงเพราะมากจริง ๆ!  จ้าวเหวินอู่ตะโกนชมเสียงดัง

ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าคนๆ นั้นที่อยู่บนเวทีจะกระทืบเท้า ก่อนจะไหวกายแล้วหันมาพูดกับจ้าวเหวินอู่อย่างไม่สบอารมณ์  นายนี่ตาถั่วชะมัด ใครคือน้องสาว ฉันเป็นผู้ชายทั้งแท่งโว้ย! 

เมื่อได้ยินเสียงทุ้มห้าวนั้น จ้าวเหวินอู่ก็ถึงกับอ้าปากค้างจนสามารถยัดไข่ไก่เข้าไปได้ทั้งฟอง

 ฮ่า ๆๆ!  จ้าวเหวินเทาหัวเราะเสียงดังโดยไม่ได้รู้สึกอาย

คนเหล่านั้นที่อยู่ข้าง ๆ ก็หัวเราะเช่นกัน

ผู้ชายทั้งแท่งคนนั้นเดินลงมาจากเวทีขณะที่พูด จากนั้นก็คุยกับคนเหล่านั้น  หัวหน้าศูนย์ พวกเขาเป็นใครเนี่ย? 

จ้าวเหวินเทาหูดี เมื่อได้ยินว่าหัวหน้าศูนย์ เขาก็รีบหันไปมอง จึงพบกับชายชราร่างเล็กคนนั้น เขารีบพูดอย่างกระตือรือร้นว่า  คุณคือหัวหน้าศูนย์ของศูนย์วัฒนธรรมสินะครับ? 

ชายชราคนนั้นชะงัก ก่อนจะพยักหน้าตอบ  ใช่ ฉันเอง นายคือ? 

 ผมมาจากข้าวซานถุน ชื่อจ้าวเหวินเทา ส่วนนี่จ้าวเหวินอู่ลูกพี่ลูกน้องของผม  จ้าวเหวินเทาแนะนำตัวเองก่อน จากนั้นก็พูดถึงวัตถุประสงค์ที่มาที่นี่

หัวหน้าศูนย์เข้าใจได้ ทว่ากลับพูดด้วยความลำบากใจ  แต่พวกเราเตรียมตัวจะไปแสดงในจังหวัดแล้ว ไม่มีเวลาไปที่หมู่บ้านหรอก 

จ้าวเหวินอู่ไม่ได้สนใจความอายเมื่อสักครู่ เขาชะโงกหน้าเข้ามาพูด  หัวหน้าศูนย์ ใช้เวลาไม่กี่วันคงไม่ได้ทำให้งานของพวกคุณล่าช้าหรอก วันเดียวก็ได้นะครับ พวกเราสามารถเหมาภาพยนตร์ได้อีกสองสามรอบด้วย พนักงานฉายหนังมีเวลาใช่ไหม 

หัวหน้าศูนย์ย่อมอยากได้เงินอยู่แล้ว เขาหยุดคิดแล้วถามว่า  พนักงานฉายหนังมีเวลา พวกนายอยากเหมากี่วันล่ะ? 

จ้าวเหวินอู่หันมามองจ้าวเหวินเทา

จ้าวเหวินเทาคิดแล้วตอบไปว่า  เจ็ดวันแล้วกันครับ 

ดวงตาของจ้าวเหวินอู่เป็นประกายในทันที เจ็ดวัน นิสัยของจ้าวเหวินเทาเมื่อได้ลงมือแล้วก็ใจกว้างจริง ๆ!

หลังจากนั้นจ้าวเหวินเทาก็พูดถึงราคาเกี่ยวกับการเหมาภาพยนตร์กับหัวหน้าศูนย์ ได้ความว่าการแสดงงิ้วเหมาสองรอบจะใช้เวลาสองวัน แบบนี้ก็ไม่ทำให้ตารางการแสดงที่ในเมืองของพวกเขาล่าช้าด้วย

หลังจากคุยกันเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็เดินออกมา พี่ชายนักแสดงที่เป็นชายทั้งแท่งคนนั้นก็เดินตามออกมาด้วย พวกเขาจึงได้ทราบว่าการแสดงเมื่อสักครู่เป็นแค่การซักซ้อม

 ขอโทษด้วยนะครับ  จ้าวเหวินอู่ขอโทษด้วยรอยยิ้มร่าเริง

พี่ชายนักแสดงที่เป็นชายทั้งแท่งก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาโบกมือเพื่อแสดงออกว่าไม่ได้ถือสาอะไร

ตอนนี้เองก็มีนักแสดงสวมชุดสาวใช้เดินออกมา แต่จ้าวเหวินอู่ดันปากเสียพูดไปว่า  นี่คงเป็นน้องสาวสินะ? 

ผลลัพธ์ที่ได้คือหญิงสาวคนนั้นพลันถลึงตา ทั้งยังพูดด้วยเสียงแหลมสูงแต่เป็นเสียงผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัยว่า  ฉันเป็นผู้ชาย! 

 เชี่ย!  จ้าวเหวินอู่อดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบออกมา

จ้าวเหวินเทาขำจนแทบตายอยู่แล้ว หมอนี่ดูผิดไปสองครั้งแล้ว สายตาไม่ดีเลยจริง ๆ!

 พวกพี่อย่าไปใส่ใจเลย ลูกพี่ลูกน้องของฉันดูผิดแปลว่าพวกพี่แต่งตัวได้เนียนมากไง!  จ้าวเหวินเทารีบอธิบายด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองคนจึงหัวเราะออกมา พวกเขาคือนักแสดงแต่งตัวข้ามเพศ จึงถูกเข้าใจผิดเป็นประจำ และคุ้นชินไปแล้ว

จ้าเหวินเทามองท้องฟ้า กล่าวว่า  นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ให้ฉันเลี้ยงข้าวพวกพี่ดีไหม ถือว่าเป็นการชดเชยความผิด 

จ้าวเหวินเทาไม่ได้มีงานอดิเรกในการเชิญคนอื่นรับประทานอาหารตามอำเภอใจ เขาเห็นว่าทั้งสองคนนี้แต่งตัวเหมือนผู้หญิงขนาดนี้ จึงถือโอกาสตีสนิทให้มากขึ้น ถึงเวลานั้นค่อยถามดูว่าสามารถเล่นเรื่องเทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่จันทราได้หรือไม่ แบบนี้ก็ช่วยโฆษณาเรื่องกระต่ายให้กับเขาได้พอดีเลย

ในศูนย์มีโรงอาหาร แต่อาหารภายในโรงอาหารจะสู้อาหารที่มีคนเลี้ยงได้อย่างไร ทว่าถึงอย่างนั้นก็เป็นการรับประทานอาหารเปล่า ๆ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนนึกเกรงใจอยู่เหมือนกัน

จ้าวเหวินอู่กลับมาหน้าหนาอีกครั้ง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  ในเมื่อพวกพี่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง แล้วจะเหนียมอายไปทำไม! 

ทั้งสองคนถูกกระตุ้นแบบนี้ จึงตอบตกลงทันที และให้อีกสองคนรอพวกเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าสักครู่ จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปด้านใน

จ้าวเหวินอู่หัวเราะออกมา  คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงได้เหมือนขนาดนี้! 

 พวกเขาอาศัยเรื่องนี้ในการประทังชีวิตนะ!  จ้าวเหวินเทาหัวเราะ  ขืนแต่งไม่เหมือน ป่านนี้คงไม่มีข้าวให้กินแล้ว! 

เพียงไม่นานทั้งสองคนก็เดินกลับมา เมื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างเครื่องสำอางออกแล้ว คนทั้งคู่ก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิมของตัวเอง คนหนึ่งตัวสูงส่วนอีกคนตัวเล็ก แถมทั้งสองคนต่างมีหน้าตาที่ดีมาก!

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เหวินอู่ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อสองตัวเลย ทั้งตัวพระตัวนางในงิ้วใช้ผู้ชายล้วนแสดงจ้า ผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าหน้าผมนักแสดงอยู่หลังฉาก

เหวินเทาคิดการใหญ่มาก กะเหมาหนังเป็นอาทิตย์แล้วใช้งิ้วประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตัวเองเลยทีเดียว

ไหหม่า(海馬)

 

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

Status: Ongoing

ผู้แต่ง : 南方荔枝 ผู้แปล : ไหหม่า(海馬) & ซินซิน (新欣) เย่ฉู่ฉู่บุตรสาวเสนาบดีกังฉินเกือบถูกรังแกในระหว่างทางที่โดนเนรเทศ​ แต่ได้ว่าที่ท่านอ๋องผู้หนึ่งมาช่วยนางไว้​และเก็บนางไว้ข้างกาย​ ในระหว่างการชิงอำนาจเพื่อปกป้องพระราชโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิองค์ก่อน​ ว่าที่ท่านอ๋องผู้นี้ก็สิ้นชีพเพราะยาพิษประหลาด​ ครั้นพิธีศพถูกจัดขึ้น​ เย่ฉู่ฉู่ก็ได้โขกศีรษะกับโลงศพของเขาตายตกตามกันไป​ แต่นางกลับได้มาเกิดใหม่ในประเทศจีนยุค​ 1970 ในร่างของเจ้าของร่างผู้ได้ชื่อว่าเป็น​แม่เสือตามคำกล่าวของจ้าวเหวินเทาผู้เป็นสามี จากภรรยาผู้ดุร้ายกลายเป็นภรรยาผู้อ่อนโยน​ เย่ฉู่ฉู่จะใช้ชีวิตในร่างนี้ให้มีแต่ความสุขอย่างไรดี? -Highlight : เรื่องนี้นางเอกไม่ได้ทะลุมิติมาในยุค​ 70​ เพียงคนเดียว​ แต่สามีในชาติก่อนที่ตายไปเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้มาเกิดใหม่เป็นสามีในชาติปัจจุบัน​ด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท