บุตรอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 135 ต้อนรับอย่างอบอุ่น

ตอนที่ 135 ต้อนรับอย่างอบอุ่น

ตอนที่ 135

ต้อนรับอย่างอบอุ่น

 เมืองของเราเป็นอย่างไรบ้าง หัวหน้าถังถามหลังจากพาไป๋จูเหวินมายังโต๊ะอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะเร็วไปหน่อยสำหรับอาหารเที่ยง แต่ดูเหมือนหัวหน้าถังจะกังวลว่าไป๋จูเหวินจะหิวหรือไม่มันเลยพาไป๋จูเหวินมาทานอาหารก่อนเวลาเสียเลย

 เป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับอสูรดีขอรับ ไป๋จูเหวินตอบอย่างตรงไปตรงมา เมืองของเหล่าผู้ฝึกอสูรให้ความรู้สึกเหมือนเป็นชนเผ่าที่ใช้ชีวิตกับเหล่าอสูรเช่นเดียวกับขบวนเดินทางของพวกมันไม่มีผิด เพียงแต่ในเมืองไม่ค่อยมีอสูรระดับสูงเสียเท่าไหร่ ไม่เหมือนเมืองร้อยแปดอสูรที่มีเหล่าอสูรระดับสูงจำนวนมากปะปนอยู่กับผู้คน

 จริงสิท่านหัวหน้าถัง นี่เป็นของฝากของหัวหน้าหวงลหงขอรับ ไป๋จูเหวินว่าพลางนำกล่องไม้ใบหนึ่งออกมาจากมิติของมัน

 ขอบใจ หัวหน้าถังยิ้มรับพลางนำกล่องไม้ไปเปิดดูครู่หนึ่งก่อนจะปิดลงด้วยท่าทียิ้มแย้มราวกับไม่ได้แปลกใจอะไรกับของฝากเท่าไหร่นัก

 ถังซิน เจ้าช่วยไปตามถังหญิงหน่อย วันนี้เราจัดโต๊ะอาหารเร็วนางคงยังไม่ทราบ หัวหน้าถังว่าพลางวางกล่องของฝากลง

 ค่ะ ถังซินตอบรับพลางลุกออกจากเก้าอี้ไปช้าๆ ทำให้บนโต๊ะอาหารเหลือแต่หัวหน้าถัง ไป๋จูเหวิน เหม่ยลหินและเหล่าอสูรเท่านั้น

 จริงสิ ไป๋จูเหวิน พ่อแม่ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง หัวหน้าถังถามพลางยิ้มบางๆที่มุมปาก เพียงแต่ดวงตาของมันไม่ได้ยิ้มไปด้วย เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่

 ข้าไม่มีพ่อแม่หรอกขอรับ ไป๋จูเหวินตอบ

 งะ งั้นหรอกหรือ หัวหน้าถังทำท่าทีตกใจ แต่ตัวมันกลับแอบดีใจไม่น้อย

 เช่นนั้นเจ้าโตมาได้อย่างไรกัน หัวหน้าถังถามมากกว่าเดิม ตัวมันอยากทราบความเป็นมาของไป๋จูเหวินมากทีเดียว

 ข้า…. ไป๋จูเหวินนิ่งไปพักหนึ่ง มันไม่ทราบว่าจะบอกเรื่องของเขตอสูรดีหรือไม่ แต่คนที่นี่ดูใช้ชีวิตกับอสูรได้เป็นอย่างดี คงจะไม่คิดมากเรื่องที่มันถูกอสูรเก็บไปเลี้ยงหรอก

 ท่านแม่ที่เก็บข้าไปเลี้ยงพบข้าที่ผาไร้ก้นขอรับ ไป๋จูเหวินว่าพลางเริ่มเล่าออกมาด้วยสีหน้าเศร้าลงเล็กน้อย

 ผาไร้ก้น ที่นั่นเป็นเขตอสูรไม่ใช่หรืออย่างไร หัวหน้าถังว่าพลางขมวดคิ้วอย่างงุนงง

 ขอรับ ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นความลับ แต่มารดาที่เลี้ยงข้ามาจนโตเป็นอสูรขอรับ ไป๋จูเหวินตอบ ไม่ทราบทำไมมันถึงไว้ใจหัวหน้าถังขนาดนี้ ราวกับระหว่างมันกับหัวหน้าถังมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้มันเชื่อใจมากกว่าคนปกติ

 อสูร….เจ้าจะบอกว่าอสูรเก็บเจ้าไปเลี้ยงงั้นหรือ หัวหน้าถังมีท่าทีตกตะลึงอย่างมาก แม้อสูรในเขตของมันจะเชื่องและเป็นมิตรกับมนุษย์ แต่อสูรทั่วๆไปโดยเฉพาะในเขตอสูรลล้วนแล้วแต่ดุร้าย แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่อสูรเหล่านั้นจะคิดเก็บเด็กคนหนึ่งมาเลี้ยงแทนที่จะปล่อยทิ้งไว้หรือฆ่าให้ตาย

 ขอรับ ข้าได้ท่านแม่ช่วยเลี้ยงดูและได้พวกท่านน้าช่วยสอนเรื่องต่างๆให้ พวกท่านต่างก็เป็นอสูรขอรับ ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมา

 เช่นนั้น…มันออกจะเหลือเชื่อไปหน่อย หัวหน้าถังว่าพลางหายใจเข้าลึกๆ เรื่องเช่นนี้แม้แต่มันก็นึกไม่ถึง

 เป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ ข้าเองก็เคยเข้าไปในเขตอสูรผาไร้ก้น เหล่าราชาของที่นั่นต่างเป็นท่านน้าของพี่ไป๋ทั้งสิ้น เหม่ยหลินยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะนางเคยเห็นมากับตาแล้วนั่นเอง

 อย่างนี้นี่เอง หัวหน้าถังว่าพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีคาดหวังอย่างประหลาด

 ไป๋จูเหวิน ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่ หัวหน้าถังถามออกมาด้วยท่าทีจริงจัง

 ข้าเองก็ไม่ทราบขอรับ ไป๋จูเหวินว่าพลางส่ายหัวช้าๆ

 หมายความว่าอย่างไรไม่ทราบ หัวหน้าถังมีท่าทีงุนงงทันทีที่ไป๋จูเหวินตอบออกมาเช่นนั้น

 ข้าไม่มีความทรงจำก่อนที่จะไปอยู่ในผาไร้ก้นเลยขอรับ ข้าเลยไม่ทราบแน่ชัดว่าจริงๆแล้วข้าอายุเท่าไหร่กันแน่ แต่หากให้ข้าเดาข้าคงอายุราวๆ 17 หรือ 18 ปีแล้วขอรับ ไป๋จูเหวินตอบอย่างเรียบง่าย จะว่าไปมันก็ออกจากเขตอสูรมาเกินปีแล้วหรือนี่ ช่างเป็นช่วงเวลาที่รวดเร็วเหลือเกิน

 อืม… หัวหน้าถังได้ยินก็ยิ้มออกมา มันคำนวณบางอย่างในหัวพร้อมดวงตาที่ส่องประกายอย่างยินดี

 ท่านพี่ มีแขกมาหรือ ขณะหัวหน้าถังกำลังสอบถามเรื่องของไป๋จูเหวินอยู่นั้น เสียงหวานของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาภายในห้อง แต่เพียงมอบครู่เดียวไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินก็เดาได้ทันทีว่านางคงเป็นแม่ของถังซินเพราะใบหน้าของนางช่างเหมือนกันเสียเหลือเกิน เพียงแต่เพราะนางเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเสินเซียน ทำให้นางดูเหมือนพี่สาวมากกว่าแม่เสียอีก

 ใช่แล้ว ข้ากำลังจักโต๊ะเตรียมต้อนรับพวกเขาอยู่พอดี หัวหน้าถังว่าพลางลุกไปพาภรรยามาที่โต๊ะอาหาร

 สวัสดีจ่ะ ข้าชื่อถังหญิง เป็นภรรยาของหัวท่านหัวหน้า ถังหญิงว่าพลางยิ้มบางๆ ทำให้ไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินรีบลุกขึ้นแนะนำตัวอย่างนอบน้อมในทันที

 เด็กคนนี้… อยู่ๆมารดาของถังซินก็มองมาทางไป๋จูเหวินด้วยท่าทีแปลกๆ ไม่ทราบทำไมนางถึงรู้สึกคุ้นเคยกับไป๋จูเหวินอย่างประหลาด

 มีอะไรเหรอถังหญิง หัวหน้าถังถามพลางมองไปทางภรรยาของตน มันเองก็เข้าใจความรู้สึกของนางเช่นกันเพราะมันเองก็มีความรู้สึกแปลกๆกับไป๋จูเหวินตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แถมยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งเด่นชัดมากเข้าไปใหญ่

 ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ พวกเจ้าเดินทางมาเหนื่อยๆคงหิวแล้ว เรามาทานอาหารกันก่อนดีกว่า ถังหญิงว่าพลางส่งสัญญาณให้บ่าวรับใช้ในปราสาท ไม่นานอาหารที่เตรียมเอาไว้ก็เริ่มถูกนำออกมาวางบนโต๊ะทีละอย่างๆ เรียกได้ว่าเป็นมื้ออาหารที่หรูหราไม่น้อย แม้แต่หยกของหลินหลินเองหัวหน้าถังก็ยังเตรียมเอาไว้ให้เพราะมันทราบตั้งแต่ที่งานชุมนุมแล้วว่าหลินหลินกินอาหารเป็นเร่ธาตุ

 จริงสิถังหญิง วันนี้ยกเลิกนัดทั้งหมดเลยนะ ข้าจะพาไป๋จูเหวินไปเที่ยวชมเมืองเสียหน่อย หัวหน้าถังพูดขึ้นหลังจากจานอาหารถูกนำออกไปแล้ว

 ทั้งหมดเลยงั้นเหรอ ถังหญิงขมวดคิ้ว ปกติหัวหน้าถังไม่ใช่คนจะทิ้งงานไปง่ายๆ ทำไมมันถึงอยากพาเด็กหนุ่มคนนี้ไปเที่ยวนักหนากันนะ…

 ไม่เป็นไรหรอกค่ะท่านแม่ ให้ท่านพ่อได้พักบ้างก็ดีแล้วนี่นา ถังซินว่าพลางยิ้มกว้าง ทำให้หัวหน้าถังลูบหัวนางอย่างพึงพอใจ

 ถ้างั้นก็อย่ากลับมืดนักล่ะ ถังหญิงว่าพลางเดินออกไปหาบ่าวรับใช้คนหนึ่ง ก่อนจะบอกเรื่องที่หัวหน้าถังจะโดดงานให้บ่าวรับใช้ไปรายงานลูกน้องของหัวหน้าถังให้หมด

หลังจากโยนงานของตนทิ้งไปแล้ว หัวหน้าถังก็พาไป๋จูเหวินชมเมืองอย่างที่บอกเอาไว้ ตลอดทางหัวหน้าถังดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ทำให้การเที่ยวชมเมืองในช่วงบ่ายสร้างความสนุกสนานให้กับไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินไม่น้อย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนเกือบจะค่ำ หัวหน้าถังถึงยอมพาไป๋จูเหวินกลับมายังปราสาทเพื่อทานอาหารเย็น

 ถังซิน เจ้าพาไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลินไปดูที่พักก่อนเถอะ ท่านพ่อเจ้ามัวแต่พาพวกมันตะลอนๆไปทั่วเมือง ป่านนี้ยังไม่ได้พักผ่อนเลย หลังจากมื้ออาหารเย็น หัวหน้าถังก็โดนถังหญิงพาตัวไปเพราะมีการประชุมที่เลี่ยงไม่ได้ต้องเข้าร่วม แถมการประชุมครั้งนี้ยังเป็นเรื่องของอสูรเต่าที่ไป๋จูเหวินไปทำให้มันลงมือโจมตีอีกต่างหาก ทำให้หัวหน้าถังต้องไปจัดการปัญหาก่อนจนได้

 พวกเจ้าอยากได้ห้องพักกี่ห้องกันล่ะ ถังซินถามพลางมองไปยังพวกไป๋จูเหวิน หากนับเป็นคนพวกมันก็มีกัน 2 คน แต่หากนับอสูรไปด้วยพวกมันก็มากันร่วม 2 คน กับ 4 ตนเลย

 แค่ 2ห้องก็พอเจ้าค่ะ เหม่ยหลินตอบรับพลางยิ้มบางๆ นางกับไป๋จูเหวินไปไหนมาไหนกับอสูรตลอด ไม่จำเป็นต้องแยกห้องกับอสูรแต่อย่างไร แน่นอนว่าหลินหลินไม่ยอมแยกกับไป๋จูเหวินเป็นแน่ และจะปล่อยหงเยว่ให้แยกไปอยู่คนเดียวก็คงไม่ดี ซึ่งทางเหม่ยหลินกับหยวนหยวนและหมิงฮุ่ยเองก็ไม่ต่างกัน

 ได้ งั้นตามข้ามา ถังซินยิ้มพลางมองเหม่ยหลินกับไป๋จูเหวินครู่หนึ่ง ไม่นึกเลยว่ากลุ่มนักล่าอสูรจะสนิทสนมกับอสูรของตนเองเช่นนี้ ท่าทางนางต้องมองเหล่านักล่าอสูรใหม่แล้ว

 ……. ขณะเดินไปยังห้องนอนที่หัวหน้าถังจัดเอาไว้ให้ อยู่ๆขาของไป๋จูเหวินก็หยุดชะงักไปเสียเฉยๆ

 พี่ไป๋ มีอะไรงั้นเหรอ หลินหลินที่เดินตามไป๋จูเหวินถามพลางมองไปยังด้านหน้าของไป๋จูเหวิน

 รูปนั่น…ใครงั้นเหรอ ไป๋จูเหวินถามพลางมองรูปที่ติดอยู่บนผนัง มันเป็นรูปวาดขนาดใหญ่ที่ติดอยู่สุดทางเดิน ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นรูปได้อย่างชัดเจน

 นั่นนะเหรอ…. ถังซินว่าพลางมองไปยังรูปหญิงสาวผู้งดงามที่ถูกวาดเอาไว้บนกระดาษ มันมีสภาพเก่าอย่างมาก แต่ก็ถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี

 ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนจะเป็นรูปของหัวหน้าคนแรกของกลุ่มผู้ฝึกอสูรนะ นางเป็นคนสร้างเมืองลับฟ้าแห่งนี้ขึ้นมา จะเรียกว่าเป็นบรรพบุรุษของพวกเราก็ได้ละมั้ง ถังซินว่าพลางมองไปทางไป๋จูเหวินด้วยท่าทีสงสัย ทำไมมันถึงสะดุดตากับรูปของคนที่มีชีวิตอยู่เมื่อหลานพันปีก่อนกัน…

 งั้นเหรอ แม้จะตอบออกไปอย่างเรียบง่าย แต่ในใจของไป๋จูเหวินกลับไม่อยู่สุขเสียแล้ว ไม่ว่าจะมองอย่างไรภาพของหญิงสาวในรูปก็คือหญิงสาวคนที่ไป๋จูเหวินเจอตอนได้รับพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์มาแน่ๆ พริบตานั้นมันนึกถึงคำพูดของอสูรเต่ายักษ์ขึ้นมาทันที เรื่องที่ว่ามันเป็นลูกหลานของหวังเฉียน เช่นนั้นหรือว่าผู้หญิงในภาพจะคือหวังเฉียนกัน…

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 135 ต้อนรับอย่…

 

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing

ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น

วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน

แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก

ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้

 หรือจะเป็นโชคชะตากัน.. อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน…..

แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้ . . . .

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท