ดนัยกฤตตอบกลับทันที Deal
ธิชากลืนน้ำลายลงคอ พลางถามกลับอย่างระมัดระวัง คุณต้องการให้ฉันช่วยคุณทำเรื่องอะไรเหรอ…
แววตาอันลึกซึ้งของเขา เธอลองคาดเดาอยู่นานก็ไม่เห็นความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย
ทว่าดนัยกฤตกลับยิ้มให้และบีบแก้มเธอ ถึงยังไงก็ไม่ขายคุณหรอก คืนนี้ก็ช่วยผมทำเรื่องหนึ่งก่อน
ธิชา ถูกลมหายใจของเขาปกคลุมล้อมรอบตัว จนในใจจู่ ๆ ก็มีความรู้สึกอธิบายไม่ถูก
เธอครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เลยลองถามกลับแกมขอร้อง ฉันช่วยทำธุระให้กับคุณดนัยกฤต คือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่คุณดนัยกฤตเคยช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ตอนนี้พวกเรา น่าจะเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหมคะ?
เขาขมวดคิ้วเอาไว้ คุณรู้สึกว่ามันใช่ก็ใช่มั้ง
ธิชายิ้มหน้าบานแถมทำสีหน้าเชื่อฟัง งั้นการที่เป็นเพื่อนกันก็ต้องรักษาระยะห่างซึ่งกันและกันเอาไว้ ฉันไม่หวังให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนเกิดเรื่องอะไรยุ่งยากใจตามมา ดังนั้นคุณต้องการให้ฉันทำธุระอะไรให้ ฉันก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่ว่าต้องรักษาระยะห่างไว้ด้วย ตัวอย่างเช่นคืนนี้ คุณก็เห็นว่ารถยนต์ของฉันจอดอยู่ที่โรงพยาบาล แต่การที่ไม่ยอมขับรถกลับมันก็เป็นเรื่องยุ่งยากพอตัว งั้นเอาแบบนี้ คุณขับนำทางไป ฉันจะขับรถตามคุณเอง ฉันสาบานว่าจะไม่หนีไปไหน
ดนัยกฤตจ้องมองเธอที่แสดงท่าทางเชื่อฟัง ถึงกลับรู้สึกตลกเสียจริง
ที่มันเป็นเผื่อถูกเขาเอาเลยยื่นข้อเสนอความเป็นเพื่อนให้เขาก่อนดีหรอ?
ในที่สุดดนัยกฤตก็อนุญาตให้ธิชาลงจากรถเพื่อขับรถของตนเองไป
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้ดนัยกฤตจะพาเธอไปทำธุระอะไรกันแน่ จึงขับรถตามหลังรถยนต์ของเขาไปอย่างเชื่อฟัง
รอจนถึงที่หมายแล้ว… ธิชาถึงกลับตาค้างทันที
ดนัยกฤตพาเธอมาที่ร้านหม้อไฟ
ธิชาลงจากรถ พร้อมทั้งเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของเขาด้วยอาการมึนงง
ดนัยกฤตจูงมือเธอเดินเข้าร้าน ภายในร้านตกแต่งได้อย่างวิจิตรงดงามสวยหรู แม้ว่าเป็นร้านหม้อไฟก็ตาม ทว่าตกแต่งจนได้บรรยากาศกินอาหารในงานเลี้ยงภายในพระราชวังสมัยราชวงศ์ชิง
ธิชาเพิ่งจะนั่งลง ดนัยกฤตก็ดันเมนูมาให้ตรงด้านหน้าของเธอ
ดูเอาเองนะว่าจะกินอะไร ไม่ต้องเกรงใจ
เธอจ้องมองเมนูและเลือกมาหลายอย่าง ปรากฏว่ารู้สึกท้องร้องจ๊อก ๆ ตามทันที
เธอเม้มริมฝีปากเอาไว้ และถามทันทีอย่างอดใจไม่ไหว ไม่ใช่คุณพูดว่าต้องการให้ฉันช่วยคุณทำธุระให้สามเรื่องไม่ใช่เหรอ หรือว่าเรื่องแรกคือ…นั่งกินหม้อไฟเป็นเพื่อนคุณเหรอ?
ดนัยกฤตส่งเสียงงึมงำออกมา จากนั้นก็นกนิ้วชี้ขึ้นมาเคาะบนโต๊ะอาหาร
ฝันไปเถอะ กินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปธุระกันต่อ
ธิชาได้แต่ส่งเสียงงึมงำตอบกลับไป อื้อ
จากนั้นสัญชาตญาณก็รู้สึกผิดปกติขึ้นมาแล้ว…
กินข้าวเสร็จค่อยไปทำธุระต่อเหรอ?
……
ไม่ว่าธิชาจะหนักใจขนาดไหนก็ตาม แต่ว่าการทานหม้อไฟทองแดงในมือนี้ถือว่าอร่อยมาก
บนตัวของธิชาไม่หลงเหลืออารมณ์เสแสร้งเอาแต่ใจของคุณหนูพันล้านมหาเศรษฐีตามเคยชินเลย
เธอชอบกินหม้อไฟมาก แต่ธาวินไม่ชอบอาหารที่มันรสชาติเผ็ดร้อนเข้มข้นพวกนี้ ไม่ว่าเธอจะชอบแค่ไหนก็ไม่มีโอกาสได้กิน
สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ ดนัยกฤตดูเหมือนจะเป็นเจ้านายที่เข้าใจได้ยากยิ่ง แถมยังเป็นกรรมการผู้จัดการในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน แถมยังเป็นผู้นำโหดเหี้ยมของกลุ่มอิทธิพลมืด คนที่รู้จักเขาต่างก็เรียกเขาว่า ท่านดนัย
ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจสูงศักดิ์หรือนักธุรกิจที่แสนมั่งคั่ง ไม่มีใครที่ไม่หวาดกลัวชื่อเสียงอันทรงเกียรติของท่านดนัย
ทว่าไม่คิดเลยว่าอาหารที่เขากินจะแสนธรรมดา…แบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาคอยลวกเนื้อสัตว์และคีบใส่จานให้เธออีก
แถมปากยังเร่งเธออยู่ตลอด คุณกินช้ามากไปแล้วมั้ง จนเนื้อมันแข็งแล้วเนี่ย
ธิชาก็ไม่รู้ว่ากินเผ็ดมากไปหรือว่าตื่นเต้นกันแน่ จนคอเริ่มร้อนขึ้นมาแล้ว…
โชคดีที่ร้านหม้อไฟนี้พอมองก็รู้ว่าไม่ใช่คนทั่วไปเปิดแน่ เป็นร้านอาหารปกติทั่วไป ทว่าในร้านนอกจากโต๊ะของพวกเขาแล้ว ก็ไม่มีแขกคนอื่นเลย
มิเช่นนั้นถ้าถูกคนเห็นเข้าว่าคนที่มีสถานะสูงส่งคนนี้กำลังนั่งปรนนิบัติเธอให้กับอาหาร…. พอเธอเดินออกจากประตูร้านนี้ไปก็คงกลายเป็นเป้าหมายในการวิพากษ์วิจารณ์ย์ต่อสาธารณชนอีก ก็คงถูกสายตาพุ่งเป้ามาหาอะไรสักอย่างแหละ
……
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้ว ความกังวลของธิชานั้นไม่ได้เล่าลือโดยไม่มีเหตุผล
การกินหม้อไฟในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป ตอนที่เธอกินอิ่มแล้วนั้น พลันก็มีใบหน้าของคนที่ทำให้เธอหวาดหวั่นปรากฏตัวทันที
ร่างกายสูงโปร่งของชัยกรยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหาร
สมองของธิชาดั่งสายไฟฟาดลงมา พลันฉุกคิดเรื่องคืนนั้นขึ้นมาทันที…. ก็คือผู้ชายที่ถูกขนานนามว่าท่านประวิทย์เป็นคนบีบบังคับให้เธอดื่มเหล้านอกไปครึ่งขวด ดื่มจนเธอแทบปวดแสบท้องจนปวดร้าวไปถึงหัวใจ
ธิชาจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มอันเคร่งขรึมราวกับประติมากรรมแกะสลัก พลางหันไปหาดนัยกฤตพร้อมทั้งใช้สายตาแกมขอร้อง
คุณดนัยกฤตนี่คือ…
ชัยกรเปลี่ยนเปลี่ยนทัศนคติที่รุนแรงของเขาในครั้งก่อนทันที แถมยื่นมือออกไปให้เธอ คุณธิชา สวัสดีครับ ผมชื่อชัยกร ถ้าคุณยินดีก็สามารถเรียกผมว่าประวิทย์ตาม พี่ดนัยได้เลย
ธิชามองมือที่เขายื่นออกมา เวลานั้นรู้สึกอาย ถ้าเธอไม่ยื่นมือออกไปจับนะ ก็จะแสดงให้เห็นว่าไม่ไว้หน้ามาก ทว่ายื่นมือออกไปแล้วล่ะ ในใจของเธอนั้นมองแววตาที่อ่อนโยนและสง่างามที่อยู่ในดวงตาของชายหนุ่มแต่กลับมีความเย็นชาออกมาจนน่าตกใจ…
ชัยกรราวกับมองเห็นอาการตื่นตระหนกที่อยู่ในดวงตาของเธอได้ จึงได้ดึงมือของตนเองกลับ
จากนั่นก็แสยะยิ้มมุมปาก พร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก คุณกลัวผมมากใช่ไหม?
ธิชาหวาดหวั่นกับคำพูดตอนท้ายที่น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเขา พลันถอยหลังหนีด้วยสัญชาตญาณทันที
ดนัยกฤตเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นก็พูดคาดโทษทันที ประวิทย์ อย่าทำให้แม่สาวน้อยตกใจกลัว ปกติก็ไม่ฉลาดอยู่แล้ว แต่กลับมาโดยนายทำให้ตกใจจนเอ๋อไปอีกนายรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายได้ไหมเนี่ย?
ธิชาฟังออกความหมายในคำพูดของเขาที่คอยปกป้องตนเองอยู่ จนดวงตาทอประกายความขอบคุณออกมาอย่างซาบซึ้ง ทว่าเพิ่งจะเปล่งประกายไม่เกินสองวินาที สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที…
อะไรที่เรียกว่าปกติก็ไม่ฉลาดอยู่แล้ว?
ดนัยกฤตแสยะยิ้มให้ คุณกินอิ่มแล้วใช่ไหม อิ่มแล้วก็ไปกันเถอะ
ธิชากินอิ่มมากแล้ว เธอจึงพยักหน้าให้ จากนั้นก็ดนัยกฤตพาตัวมาขึ้นรถบ้านกันกระสุนของชัยกร
พอเธอขึ้นรถแล้วพลันจับความรู้สึกความผิดปกติได้ ผู้ชายตัวโตทั้งสองคนต่างคนต่างไม่เหมือนคนดีแล้ว….
แถมตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด
เธอคลำกระเป๋าของตนเองพร้อมทั้งควานหากุญแจและพูดออกไปด้วย รถของฉันจอดอยู่ด้านหน้าประตูร้านอาหาร ฉันต้องขับรถ….
ดนัยกฤตเหลือบตามองเธอด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ไม่แปลกใจเลยที่มองเห็นว่าเธอคลำหาของและมือเปล่าไม่ได้อะไรกลับมา
เธอจ้องมองใบหน้าจองวางแผนของเขา กุญแจรถของฉันล่ะ?
ชายหนุ่มเคาะท้ายทอยของเธอ ตอนที่คุณไปห้องน้ำผมได้ให้คนขับรถช่วยขับรถยนต์ของคุณกลับไปแล้ว ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ที่พักอาศัยของประวิทย์ค่อนข้างลับสุดยอด นั่งรถของเขาไปนี่สะดวกกว่าเยอะ
ธิชาแสดงอาการตื่นเต้นออกมาทันที คุณให้คนขับรถขับกลับไปที่บ้านฉันเหรอ?!
ดนัยกฤตเหลือบตามองเธอ และทำสีหน้าหยอกล้อเธอแบบไร้สาระ
สบายใจได้เลย ฉันให้คนขับรถเอารถของคุณไปจอดที่ลานจอดรถมหาลัยJ
เหตุนี้เองเธอถึงได้วางใจลงได้ ถ้าเกิดธาวินรู้เรื่องว่ารถของเธอถูกคนขับรถของดนัยกฤตขับกลับไป…. งั้นก็จบเห่ พรุ่งนี้เธอก็คงไม่มีชีวิตรอดต่อไปแล้วมั้ง
ชายหนุ่มหรี่ตาลง และใช้ปลายนิ้วเรียวยาวเชิดบริเวณใต้คางของเธอ
นี่คุณกลัวธาวินขนาดนี้เลย ไม่ใช่ว่าคุณกลัวผมมากไม่ใช่เหรอ ไหนคุณพูดออกมาสิว่ากลัวใครมากกว่ากัน?
ธิชาครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็เบนสายตาไปยังชัยกรที่นั่งอยู่ตำแหน่งตรงข้าม…..
……
หลังจากรถบ้านป้องกันกระสุนขับมาจนใช้เวลานานสักระยะ จากนั้นก็ขับขึ้นเนินเขาเล็ก ๆ
พอลงจากรถแล้ว ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงด้านหน้าของธิชา ก็เป็นตึกสถาปัตยกรรมคล้ายจำพวกปราสาทอยู่หลังหนึ่ง
สมองของธิชากำลังผุดสภาพหนังระทึกสยองขวัญออกมาเป็นฉากๆ
ตอนที่ทั้งสามคนกำลังเดินเข้าสู่ประตูใหญ่ของปราสาทนั้น เธอเกิดรู้สึกกังวลกับความอันตรายของตนเองขึ้นมา พลางยื่นมือออกไปคว้าชายแขนเสื้อของดนัยกฤตเอาไว้ทันที
ท่าน ท่านดนัย…. คุณไม่ได้เอาฉันมาขายจริงๆ ใช่ไหม?