“โอเคแล้ว บอกกับเจ้าของร้านเรียบร้อยแล้ว ให้ทำขนมหวานเมนูแนะนำของที่นี่ เดี๋ยวสักพักก็จะมาเสิร์ฟ”
เธอมองเห็นคนที่อยู่ที่โต๊ะตัวนี้นั่งรออยู่อย่างว่าง่าย ภายในใจก็ดีใจขึ้นมา หลังจากเดินเข้ามาจึงได้แนะนำสิ่งที่ตัวเองได้วางแผนเอาไว้แล้ว
เส้นหมี่จึงยิ้มออกมา:“ลำบากคุณแล้วคุณขวัญค่ะ งั้นรบกวนคุณช่วยดูลูกสาวให้ฉันสักครู่ ฉันไปห้องน้ำสักหน่อย”
“ค่ะ ไปเถอะ”
เรื่องราวเป็นไปอย่างราบรื่น ในตอนนี้ขวัญเมืองรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างน่ารำคาญ เธอโบกมือไปมา ตอบรับอย่างรวดเร็ว
เส้นหมี่จึงออกจากโต๊ะตัวนี้ไป
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอแอบเข้ามาที่ห้องครัวด้านหลังของร้านขนมหวานนี้ แวบเดียวก็มองเห็นด้านในแล้วเชฟขนมหวานกำลังทำขนมหวานอยู่หลายชุด
เกี่ยวกับขนมหวาน เส้นหมี่ไม่ค่อยเข้าใจนัก
แต่ว่าเธอที่เป็นแพทย์แผนจีนคนหนึ่ง เธอสามารถสัมผัสได้อย่างรวดเร็วว่าพืชพรรณที่ใส่ลงไปทั้งหมดนั้นคืออะไร
ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้ในมือของเชฟขนมหวานกำลังคนอยู่นั้นมีลักษณะเป็นแป้งใสๆ ถ้าทายไม่ผิดละก็ น่าจะเป็นพวกแป้งจำพวกที่ทำให้เกิดความหนืดอะไรประมาณนั้น
แป้งมันแกว แป้งมันสำปะหลัง แป้งกวาวเครือ……เป็นต้น
ยกตัวอย่างอีก เขาได้เติมอะไรบางอย่างลงไป ทันใดแป้งหนืดๆอันนี้ก็จับตัวแล้วมีสีสันขึ้นมา
จากประสบการณ์ของเธอ เธอพูดออกมาได้อย่างมั่นใจเลยว่าเป็นพืชชนิดหนึ่ง เรือกว่า——ต้นหนาม!
ไม่เลวเลยทีเดียว แม้แต่สิ่งของแบบนี้ยังใส่ลงไป
สิ่งสิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมาก ไม่เพียงแต่สามารถทำให้ตัวแป้งหนืดจับตัวได้ อีกทั้งทานเข้าไปแล้ว ยังสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลในกระเพาะและลำไส้ มิน่าล่ะถึงได้พูดว่าร้านขนมหวานร้านนี้มีเด็กๆมาทานอย่างมากมาย
ที่แท้ ก็เอาเรื่องสุขภาพมาเป็นตัวดึงดูด
เส้นหมี่ยังคงดูอยู่อย่างเงียบๆ
กลับเห็นว่า เชฟขนมหวานคนนี้นำเอาสิ่งแบบนี้เติมลงไป เดิมทีขนมกำลังจะจับตัวดีแล้ว ทันใดนั้น เขาหยิบลิ้นจี่สดขึ้นมาแล้วปั่นละเอียด หลังจากนั้นก็คนรวมเข้าไป
เส้นหมี่:“……”
ทันใดนั้น แววตาของเธอเย็นวาบจนถึงจุดเยือกแข็ง!
——
เมื่อไชยันต์ได้ยินว่าเด็กทั้งสองคนทานขนมหวานแล้วเกิดอาการชักขึ้นมา เขาที่ยังอยู่ที่ไวท์ พาเลซ
เรื่องของศักดา ในที่สุดคณะรัฐมนตรี ก็ได้ให้เขามาหา พวกเขาบอกเขาอย่างชัดเจน การตายของศักดาไม่ได้เป็นการตายอย่างเฉียบพลัน แต่ว่าเป็นการฆาตกรรม รวมถึงสองคนนั้นที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็ด้วย
ดังนั้น คณะรัฐมนตรี หวังว่าให้เขาพาคนไปสืบดู ว่าเรื่องเรื่องนี้แท้จริงแล้วเป็นยังไงกันแน่?
ให้เขาไปสืบ?
ไชยันต์ได้ฟังแล้ว ก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา:“ทำไมต้องให้ผมไปสืบ ผมไม่ใช่ตำรวจสักหน่อย หรือจะพูดว่า พวกคุณคณะรัฐมนตรี สงสัยว่าทั้งสามคนนี้คนตระกูลเทวเทพเป็นคนลงมืองั้นเหรอ”
เขาพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา!
ประธานคณะรัฐมนตรี ได้ฟังแล้ว ทันใดบนใบหน้าก็เกิดความอายขึ้นมา
“ท่านจอมพลเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมเพียงแค่อยากขอความช่วยเหลือ เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ด้านนอกเขาพูดกัน ถ้าให้คนรู้ว่าการฆาตกรรมสามารถมาถึงคนในของไวท์ พาเลซได้ นั่นจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย”
“น่าขำสิ้นดี!”ไชยันต์ไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นความกรุณา!
“นั่นก็ไม่น่าจะมาถึงผม อีกทั้งตอนนี้ผมก็เกษียณแล้ว ต่อให้ผมยังรับตำแหน่งอยู่ ที่ผมรับผิดชอบคือทหาร ไม่ใช่ตำรวจ ถ้าคุณต้องการสืบจริงๆล่ะก็ ก็สามารถไปหาผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความปลอดภัยได้ ยังมีคณะรักษาความปลอดภัยของไวท์ พาเลซ พวกเขาถึงจะเป็นคนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้”
“แน่นอน ถ้าอยากจะตรวจสอบตระกูลเทวเทพของผมล่ะก็ ผมสามารถบอกคุณตอนนี้ได้เลย ตระกูลของพวกเราสองวันมานี้วุ่นวายอย่างกับอะไร ในบ้านไม่มีใครอยู่ทั้งนั้น!”
สุดท้ายไชยันต์จึงพูดประโยคนี้ออกมา แล้วก็ก้าวเดินออกไป
คณะรัฐมนตรี ที่อยู่ด้านหลังโมโหถึงกลับพังโต๊ะลง!
“นี่มันอะไรกัน ผมแค่อยากจะให้เขาช่วยสืบเรื่องการตายของสามคนนั้น เขากลับตอบกลับผมมาอย่างนี้เหรอ”
“ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ”
คณะรัฐมนตรีที่อยู่ด้านข้างปรามเอาไว้:“เขาคนนี้ก็เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้ ยึดถือทะนงตนเป็นอย่างมาก ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา แม้แต่ท่านนั้นที่ตำแหน่งสูงสุด เขาก็เป็นแบบนี้”
“……”
“แล้วก็คุณเรียกเขามาสืบเรื่องศักดาอย่างกะทันหันแบบนี้ นั่นยังไม่ชัดเจนอีกหรือ เดิมทีพวกเขาทั้งนั้นก็ใช่ว่าจะถูกกัน คุณทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่ากำลังจะบอกเขาว่า คุณกำลังสงสัยเขาอยู่เหรอ”
“ผม——”
คณะรัฐมนตรี คนนี้ ในที่สุดก็รู้สึกผิดจนพูดไม่ออกแล้ว
เจ้าหน้าที่อีกคนได้เห็นแล้ว อดใจไม่ไหวที่จะพูดแทรกขึ้นมา:“งั้นการตายของพวกเขา แท้ที่สุดแล้วมีความเกี่ยวข้องกับเขาหรือเปล่า”
“ยังจะเกี่ยวข้องอะไรได้ คุณไม่ได้ยินที่เขาพูดเหรอ สองวันก่อนหลานชายใหญ่ของเขาคนนั้น ก็คือม็อกโกนั่นแหละ กับหลานชายคนใหม่ที่เขาไปหามาได้ก่อเรื่องขึ้นแล้ว วุ่นวายไปถึงค่ายทหารโน้นน่ะ”
“ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”
คำพูดนี้พูดออกมา คนในห้องทำงานของคณะรัฐมนตรีต่างอึ้งไป
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยักหน้า แล้วพูดต่อ:“ใช่น่ะสิ คนมากมายต่างพากันเดาว่า เริ่มแย่งชิงอำนาจแล้ว พวกคุณลืมไปแล้วเหรอ ช่วงนี้ตาแก่คนนี้ยังรับฝาแฝดคู่หนึ่งกลับมา ฝาแฝดคู่นี้ ก็เป็นหลานเหมือนกัน!”
“……”
ไม่มีใครพูดอะไรอีกแล้ว
วินาทีนี้ ทุกคนที่อยู่ในนี้ถูกคนที่ชอบนินทาคนนี้ดึงดูดเข้าแล้ว ในแววตาของทุกคน ต่างแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอีกทั้งจดจ่อรอดู
การตายของทั้งสามคนนั้น พวกเขาเลิกให้ความสนใจไปนานแล้ว
ตระกูลเทวเทพกำลังจะเปิดศึกแย่งอำนาจกันแล้ว!
พอมาคิดดูแล้วทำให้พวกเขามีความสุขเป็นอย่างมาก——
ไชยันต์กลับมาที่เดอะวิวซีอย่างโมโหเดือดดาล