องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 263 ความอัศจรรย์ของยาแก้แพ้ท้อง
ครั้นฉีเฟยอวิ๋นกับหนานกงเย่ออกจากพระราชวังก็ไปพักค้างคืนยัที่จวนแม่ทัพหนึ่งคืน พอวันรุ่งขึ้นก็ออกไปท่องเที่ยวนอกเมืองหลวง
จวินฉูฉู่ทราบข่าวอวิ๋นหลัวฉวนตั้งครรภ์ นางเสมือนโดนฟ้าผ่า เอาแต่นั่งอยู่บนเตียงไม่ลุกไปไหนทั้งวัน และไม่ยอมกินข้าวด้วย
ท่านอ๋องตวนอธิบายกับนางสักพักใหญ่ๆ ทว่านางก็ยังอดร้องไห้ฟูมฟายไม่ได้
ซึ่งไม่ใช่ความเสียใจ หากแต่เป็นการร้องไห้จากความเคียดแค้นชิงชัง
ท่านอ๋องตวนไม่มีประโยชน์ ทั้งยังกล้าอยู่กับอวิ๋นหลัวฉวนลับหลังนางอีก
นางจะทนความอัปยศอดสูนี้ได้เยี่ยงไร นางกลายเป็นตัวตลกในเมืองหลวงไปแล้ว
หลังจากเกลี้ยกล่อมมาสองวัน จวินฉูฉู่ก็ยอมกินโจ๊กเล็กน้อย และเสนอให้ท่านอ๋องตวนปลดนางออกจากการเป็นพระชายาเอก
ยามนี้อารมณ์ต่างๆประเดประดังเข้าหาหนานกงเหยี่ยน เมื่อเขานึกถึงเรื่องหกหมื่นตำลึง เขาก็ไม่อาจเผชิญหน้ากับจวินฉูฉู่
เขาไม่ถือสาเรื่องก่อนแต่งงาน ทว่าหลังแต่งงานกันยังเกิดเรื่องเช่นนี้ เขาควรทำเยี่ยงไร?
จวินฉูฉู่ร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลจนเป็นลมเป็นแล้งไป ท่านอ๋องตวนอุ้มนางไปไว้ที่เตียง แล้วสั่งให้สาวใช้ดูแลนาง จากนั้นก็เดินทางไปที่จวนกั๋วกง
วันนี้สีหน้าอวิ๋นหลัวฉวนไม่สู้ดีนัก กินอะไรไม่ลง พอกินเข้าไปก็มีแต่อ้วกออกมา
เมื่อท่านอ๋องตวนไปถึงพลันเห็นคนทั้งจวนกั๋วกงยุ่งจนหัวหมุน สภาพอลหม่านยิ่ง ฮูหยินกั๋วกงร้อนรุ่มกลุ้มใจจนเดินวนไปเวียนมา
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ต้องอ้วกจนเสียสุขภาพแน่
กินอะไรก็ไม่ตกถึงท้อง อ้วกออกท่าเดียว
แม่นมเว่ยไม่เคยเห็นคนแพ้ท้องหนักปานนี้ แม้นจะมีประสบการณ์ ทว่าอ้วกกระทั่งน้ำที่ดื่มเข้าไปนั้นมีน้อยมาก
ไม่ได้กินอะไรทั้งวัน ท้องที่ว่างเปล่ากลับสามารถอ้วกน้ำออกมา ช่างแปลกประหลาดยิ่ง
ท่านอ๋องตวนเข้าไปก็เห็นอวิ๋นหลัวฉวนอาเจียนอยู่บนเตียง ทำให้เขาอกสั่นขวัญแขวนเหลือแสน “เป็นกระไรไป?”
แม่นมเว่ยรีบย่อกายคำนับ จากนั้นก็หมุนกายไปดูแลอวิ๋นหลัวฉวนต่อ
“แพ้ท้องเพคะ แต่หม่อมฉันไม่ค่อยได้เห็นคนแพ้หนักขนาดนี้เพคะ อาเจียนตั้งแต่เช้ายันค่ำ ดื่มไม่ได้แม้แต่น้ำอึกเดียวเพคะ”
แม่นมเว่ยก็ร้อนใจ หมอหลวงจากพระราชวังก็เคยมากันแล้ว คนในจวนกั๋วกงทุกคนต่างพากันขวัญหนีดีฝ่อกันหมด
หนานกงเหยี่ยนก้าวไปหลายก้าวพลันอยู่ตรงหน้าอวิ๋นหลัวฉวน นั่งลงแล้วช่วยนางลูบหลัง เขาเห็นนางน้ำตาคลอเบ้า ความหงุดหงิดก็ผุดขึ้นกลางใจ “ไยมีลูกจึงลำบากเช่นนี้?”
คนในห้องล้วนจับจ้องมาที่หนานกงเหยี่ยน อวิ๋นหลัวฉวนไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
“ข้าก็ไม่รู้เพคะ” อวิ๋นหลัวฉวนเบะปาก นางรู้สึกทรมานเหลือเกิน
หนางกงเหยี่ยนหน้าดำคล้ำเครียด “ไปเชิญพระชายาเย่ที่จวนอ๋องเย่มา นางต้องมีวิธีแน่”
แม่นมเว่ยอึ้ง นางลืมบุคคลนี้ไปได้เยี่ยงไร
หลังจากส่งคนไปยังจวนอ๋องเย่แล้วก็ชลมุนกันต่อ สุดท้ายการเชิญพระชายาเย่มีอันต้องคว้าน้ำเหลว
ข้ารับใช้กลับมารายงานแม่นมเว่ยว่า พระชายาเย่ไม่อยู่ในจวน พระองค์ออกไปท่องเที่ยวนอกเมืองหลวงกับท่านอ๋องเย่แล้ว
ท่านอ๋องตวนรู้สึกเดือดดาล “นางไม่อยู่บำรุงครรภ์ในจวน กลับออกไปเที่ยว? นางมีเจตนาอันใดกันแน่ รู้ทั้งรู้ว่าฉวนเอ๋อร์เป็นเยี่ยงนี้ พวกเขาพึ่งออกไปหรือไม่?”
หนานกงเหยี่ยนร้อนอกร้อนใจ เห็นอวิ๋นหลัวฉวนอาเจียนหนักปานนี้ เขาเสียใจมากที่เก็บเด็กในท้องคนนี้ไว้
จวนกั๋วกงอันจนหนทาง ไฉนต้องออกไปท่องเที่ยวเพลานี้ด้วยเล่า?
เมื่อร้อนใจก็จะว้าวุ่น แม่นมเว่ยจึงไม่บันยะบันยัง
“ท่านอ๋องเพคะ ตอนนี้ควรทำเช่นไรดีเพคะ?” แม่นมเว่ยได้แต่ซักถามท่านอ๋องตวน
ท่านอ๋องตวนตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด “ออกไปหานอกเมือง”
จวินฉูฉู่รู้ข่าวที่ท่านอ๋องตวนส่งคนไปตามหาด้วย
นางฝืนสังขารลุกขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่อง จากนั้นก็จัดขบวนในฐานะพระชายาตวนไปที่จวนกั๋วกง เพื่อขอเข้าพบฮูหยินกั๋วกง
เพื่อเห็นแก่หน้าท่านอ๋องตวน กอปรกับอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ฮูหยินกั๋วกงจำต้องไว้หน้า ยอมพบจวินฉูฉู่
ไม่คิดว่าจวินฉูฉู่จะนำกล่องสีทองมาด้วย
“อันนี้คือยาแก้แพ้ท้อง บรรพบุรุษสกุลจวินมีคนเป็นหมอที่ศึกษาด้านนี้จนถ่องแท้ เลยมียาแก้แพ้ไว้ให้จำนวนหนึ่ง แต่มีไม่มาก ดังนั้นสตรีในตระกูลจะได้รับคนละหนึ่งเม็ด อันนี้เป็นสินเดิมของข้า วันนี้ส่งมาให้ หวังว่าอาการของพระชายารองอวิ๋นจะทุเลาลงบ้าง”
ฮูหยินกั๋วกงเคยได้ยินยาแก้แพ้ท้องมาก่อน ในอดีตลือกันว่าไทเฮาองค์ก่อนเคยมี เนื่องจากแพ้รุนแรงเช่นกัน ตระกูลจวินจึงนำยาแก้แพ้ท้องไปถวาย อาการพระองค์จึงหายดี
เพียงแต่ฮูหยินกั๋วกงไม่มั่นใจว่ายาตรงหน้าจะเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่ ยิ่งจวินฉูฉู่แล้วจะมีประสงค์ดีหรือ?
ยังว่านางอยากคว้าโอกาสนี้เพื่อขอให้อภัยโทษแก่นาง
ฮูหยินกั๋วกงลังเลสักพัก จากนั้นก็ส่งคนไปเชิญแม่นมเว่ยกับท่านอ๋องตวนมา
ท่านอ๋องตวนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นจวินฉูฉู่มา “พระชายามาหรือ?”
สามีภรรยาเจอหน้ากันในสถานการณ์เช่นนี้ ช่างรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก
จวินฉูฉู่ย่อกายคำนับ “ท่านอ๋อง”
“อืม ร่างกายดีขึ้นหรือยัง?” สำหรับจวินฉูฉู่ ท่านอ๋องตวนรู้สึกมีปมความรักที่ไม่ได้ตัดขาดได้ ทว่าเขาก็ไม่อาจให้อภัยที่นางไปหาท่านอ๋องเย่แล้วคิดจะลวนลามอีกฝ่าย
“แม่นมเว่ย ท่านอ๋องตวน ที่ข้าเชิญพวกท่านมาเพราะพระชายาตวนส่งยาแก้แพ้ท้องมา พระชายาตวนอยากให้ฉวนเอ๋อร์กิน ดังนั้นข้าเลยอยากหารือเรื่องนี้กับพวกท่าน”
ท่านอ๋องตวนรู้สึกประหลาดใจ ทว่าเขานึกขึ้นได้ว่าตอนที่จวินฉูฉู่แต่งเข้ามา มีสิ่งนี้อยู่ในรายการสินเดิมเจ้าสาวจริง
เขายังคงถามแหย่นางเรื่องยาแก้แพ้ท้องด้วย ซึ่งจวินฉูฉู่เปรยว่าทางครอบครัวนางแบ่งให้ไม่มาก มีเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น
แม่นมเว่ยก็นึกตัวยาชนิดนี้ได้ เมื่อเดินไปเปิดกล่องดู นางก็ไม่รู้จักสิ่งของตรงหน้า
“เชิญราชครูจวินมาเถอะเจ้าค่ะ” แม่นมเว่ยก็ไม่มีอำนาจทำเช่นนี้ นางจึงหารือกับฮูหยินกั๋วกง หวังอยากให้ฮูหยินกั่วกงออกหน้าทำธุระนี้แทน
ไหนเลยฮูหยินกั๋วกงจะไม่เข้าใจหลักการนี้ ทว่าเรื่องโยงใยถึงสุขภาพของอวิ๋นหลัวฉวน ปล่อยให้อาเจียนต่อไปไม่ใช่ทางออกที่ดีแน่ ขนาดหมอหลวงมาแล้วก็ยังจนปัญญาเลย
ยาแก้แพ้ท้องก็เป็นยาช่วยชีวิต ไม่กินไม่ได้
“ไปเชิญราชครูจวินมาเถอะ” ฮูหยินกั๋วกงตัดสินใจ ข้ารับใช้จึงไปเชิญ ไม่นานราชครูจวินก็มาถึง
ก่อนหน้าอีกฝ่ายก็พอได้ฟังเรื่องเล่าพอสังเขปแล้ว
ราชครูจวินไม่อยากยุ่งเรื่องจวินฉูฉู่อีกต่อไป จิตใจนางโจรของนางยังไม่สิ้น เขาก็ไม่มีวิธีสอนสั่งแล้ว
ต้องปล่อยเลยตามเลยล่ะกัน
ราชครูจวินมาถึงจวนกั๋วกงก็พบหน้ากับฮูหยินกั่วกง สถานะของทั้งสองไม่แบ่งชั้นว่าผู้ใดสูงศักดิ์กว่า หลังถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเรียบร้อย ฮูหยินกั๋วกงก็เอ่ยถึงเรื่องยาแก้แพ้ท้อง
ราชครูจวินมองจวินฉูฉู่ปราดหนึ่ง เขาย่อมเข้าใจว่าเขามาเพื่อเป็นพยาน หากกินยาแล้วเกิดอะไรขึ้น ตระกูลจวินก็จะโดนลากไปเกี่ยวข้องด้วย
ราชครูจวินมองไปยังจวินฉูฉู่ พลางรู้สึกผิดหวังกับตัวนางถึงขีดสุด
เขาหมุนกายมองกล่องยาที่เปิดออก หลังจากมองพินิจดูแล้ว ราชครูจวินจึงกล่าวว่า “เป็นยาแก้แพ้ท้องของสกุลจวินไม่มีผิดแน่”
“อืม เช่นนั้นก็ดี”
ฮูหยินกั๋วกงสบายอกสบายใจขึ้น ไม่ว่าครั้งนี้จวินฉูฉู่จะมาด้วยวัตถุประสงค์ใด นางก็จะรับสิ่งของนี้ไว้
เพราะสุขภาพร่างกายหลานสาวสำคัญที่สุด
“ลำบากแม่นมเว่ยแล้ว”
แม่นมเว่ยนำยาแก้แพ้ท้องไปให้อวิ๋นหลัวฉวนกิน ครึ่งชั่วยามผ่านไป อวิ๋นหลัวฉวนก็ไม่เป็นอะไรแล้ว หลังนอนพักผ่อนสักพักก็สามารถกินได้แล้ว
แม่นมเว่ยรู้สึกเบิกบานใจยิ่งนัก ยาแก้แพ้ท้องมีสรรพคุณที่อัศจรรย์เหลือแสน
พวกฮูหยินกั๋วกงรู้ก็พากันโล่งอกไปหนึ่งเปราะ ส่วนท่านอ๋องตวนก็อดมองจวินฉูฉู่มากขึ้นไม่ได้
ก่อนพลบค่ำ จวินฉูฉู่กล่าวคำอำลาแล้วออกจากจวนกั๋วกง จากนั้นก็กลับไปยังจวนอ๋องตวน โดยมีท่านอ๋องตวนร่วมเดินทางด้วย