“ลักพา ลักพาตัวลูกสาวของคุณ”
เฉินเฟิงตกใจจนหน้าขาวซีด ตัวสั่นสะท้าน และรีบกล่าวว่า “ผม ผมไม่รู้ คุณเย่ ผมไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ”
เมื่อเย่เซิ่งเทียนเห็นว่าเขาไม่เหมือนคนที่พูดโกหก จึงถามว่า “หนี้สินที่บริษัทหัวหยวนติดอยู่นั้นเป็นของคุณหรือ?”
เฉินเฟิงเหงื่อตก ส่ายศีรษะและกล่าวว่า “คุณเย่ นี่เป็นความเข้าใจผิด ผมให้คนปิดบัญชีนี้แล้ว หานเทียนเฉิงเป็นคนมาทวงหนี้เอง ผมไม่รู้เรื่องนี้เลย อีกอย่างหวางหงเป็นคนติดหนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทหัวหยวน”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวว่า “ใครเป็นหนี้ ก็ไปทวงหนี้กับคนนั้น และถ้าเขาไม่จ่ายคืน ก็ยังมีสถาบันทางกฎหมาย”
เฉินเฟิงตระหนักได้ทันที “ขอบคุณครับ คุณเย่ ที่รักษาความยุติธรรม ผมจะไปทางหนี้กับหวางหงอย่างแน่นอน”
เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า “แม่ของผมถูกทำร้าย คุณต้องมีคำอธิบายให้ผม”
“ครับ ครับ ครับ ผมต้องให้คำอธิบายกับคุณป้า”
เฉินเฟิงปาดเหงื่อที่เย็นเยียบ หันไปตบหน้าหานเทียนเฉิง และกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “แกยังคิดที่จะขายลูกสาวของคุณเย่? ยังคิดที่จะทำร้ายภรรยาและแม่ยายของคุณเย่? แกมีกี่ชีวิต?”
“ขายหลานชายสองคนของเขา และขายผู้หญิงทั้งหมดในครอบครัวไปที่คลับเฮาส์”
หานเทียนเฉิงตกใจเป็นอย่างมาก คุกเข่าลงบนพื้นและร้องขอความเมตตาเหมือนสุนัข
“คุณชายเฉิน ผมยินดีที่จะยอมรับการลงโทษทั้งหมด โปรดปล่อยครอบครัวของผมไปด้วยเถอะ”
ถ้าเขารู้ว่าเย่เซิ่งเทียนมีอำนาจขนาดนี้ ถึงเขาจะมีความกล้ามากแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าทำเช่นนั้น
“หุบปาก”
เฉินเฟิงตบไปที่หน้าของหานเทียนเฉิงหลายครั้งติดต่อกัน และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “คุณรู้ไหมว่าคุณเย่เป็นใคร? เขาคือเจ้าเทพ”
ตุบ
คำพูดนี้เหมือนสายฟ้าฟาด ซึ่งมันฟาดจนสมองของหานเทียนเฉิงว่างเปล่า
หัวใจของเขาเต้นอย่างรุนแรง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และนอนอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขที่ตายไปแล้ว
เจ้าเทพ
คนที่ผมลักพาตัวไปคือลูกสาวของเจ้าเทพ!
และผมยังจะเตรียมนำภรรยาและแม่ยายของเจ้าเทพไปเป็นโสเภณีรับแขกอีกด้วย……
ทันใดนั้น หานเทียนเฉิงชักกกระตุก เขาตกใจจนหัวใจวายและเสียชีวิต
เฉินเฟิงรีบกล่าวว่า “คุณป้า ผมมีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่เขาจีหยุน ผมจะมอบให้คุณป้าเพื่อจะได้อาศัยอยู่ตอนเกษียณ นอกจากนี้ผมยินดีที่จะลงทุนเป็นเงินสามร้อยล้านกับบริษัทหัวหยวนเพื่อเป็นการชดเชยให้คุณ คุณคิดว่าดีไหม? ”
“ห๊ะ? โอเค โอเค”
หลี่หลานตกตะลึง เขาคือคุณชายใหญ่ตระกูลเฉินเชียวน่ะ นึกไม่ถึงว่าเขาจะขอโทษและชดเชยให้ตนเอง
เธอไม่กล้าคิดเรื่องนี้มาก่อน
คุณชายใหญ่ตระกูลเฉินผู้สง่างามถ่อมตัวต่อหน้าลูกเขยของตนเอง
ในฐานะแม่ยาย ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตนเองนั้นมีเกียรติเป็นพิเศษ
“ขอบคุณครับคุณป้า ขอบคุณครับคุณป้า” เฉินเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นมองไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างระมัดระวัง “คุณเย่ คุณคิดว่าดีไหม?”
“ทำของพัง ก็ต้องชดใช้ตามราคา”
เย่เซิ่งเทียนหันศีรษะและกล่าวว่า “คุณแม่ มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม?”
“ไม่ ไม่มีแล้ว”
หลี่หลานรู้สึกเหมือนความฝัน
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนเป็นลูกเขยที่ไม่เลว
เย่เซิ่งเทียนกล่าวว่า “งั้นพวกเรากลับกันเถอะ มิฉะนั้นซีเอ๋อร์จะรู้สึกกังวล”
กลับถึงบ้าน
หวางซีรู้สึกกังวลมาก และกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า “คุณแม่ พวกเขาทำร้ายคุณ? พวกเราไปแจ้งตำรวจกันเถอะ ฉันไม่เชื่อว่าโลกนี้จะไม่มีความยุติธรรม”
“เซิ่งเทียนระบายความแค้นให้แม่แล้ว และคุณชายใหญ่ตระกูลเฉินขอโทษแม่แล้ว คราวนี้ต้องขอบคุณเซิ่งเทียน”
ตอนนี้หลี่หลานยิ่งอยู่ยิ่งชอบลูกเขยคนนี้
ขณะนี้ นายหญิงใหญ่หวางโทรมา หวางซีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็กดรับสาย
นายหญิงใหญ่หวางออกคำสั่งว่า “หวางซี ถ้าอยากให้พ่อของคุณเข้ามาในหอบรรพบุรุษ ก็มาที่ตระกูลหวาง ถ้าคุณกล้าที่จะไม่มา พ่อของคุณจะไม่มีวันได้เข้ามาในหอบรรพบุรุษตลอดไป”