บทที่ 19 คุณคิดว่าคุณเป็นใคร
คนที่สะกดรอยตาม เป็นคนของซูหนาน เธอในตอนนี้ พาต่งฟางและคนอื่นๆ นั่งอยู่บนรถ หลบซ่อนตัวอยู่ในที่ไกลๆ
เธอตระหนักรู้ในตัวเองดี ไม่กล้าไปมีเรื่องถึงตระกูลฉิน
หรือจะพูดว่า หากฉินเทียนเป็นแขกที่ได้รับเชิญของตระกูลฉินจริงๆ เธอก็ไม่กล้าแสดงตัวเช่นกัน
หลังจากที่ได้รับรายงานจากทางโทรศัพท์ เธอก็ยิ้มอย่างลำพอง
“ฉันว่าแล้วไง ฉินเทียนเป็นพวกนักต้มตุ๋น”
“ตระกูลเถียช่างใจบุญสุนทานเสียจริง ไม่ได้ทำอะไรกับเขา เพียงแค่ขับไล่ออกมาเท่านั้น ”
ต่งฟางกล่าว“ทำไมคุณนายน้อยถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ ?”
ซูหนานกล่าว“ตามที่เหวินเฉิงและคนอื่นๆบอก ตอนที่ฉินเทียนออกจากตระกูลซู ก็ถูกตระกูลเถียรับตัวไปอย่างเอิกเกริก”
“ขนาดคุณหนูตระกูลเถียยังต้องมาด้วยตัวเอง”
“หากเขารักษาคนป่วยได้จริงๆ ตระกูลเถียต้องส่งตัวเขากลับอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้ว ”
“แต่เมื่อครู่คนของฉันเพิ่งจะบอกฉันว่า เขาออกจากตระกูลเถียเพียงลำพัง ไม่มีใครมาส่งเขาเลยสักคน”
“นี่ยังอธิบายเรื่องราวได้ไม่ชัดเจนพอเหรอ ? ”
แววตาของเธอมีความชั่วร้ายปรากฏ ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ฉินเทียน บัญชีหนี้แค้น วันนี้ฉันจะสะสางกับแกทั้งหมด!”
“ปรมาจารย์ต่ง ไปกันเถอะ!”
ในตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม ทุกคนต่างอยู่บ้านกันพร้อมหน้า คนเดินถนนค่อนข้างน้อย
ฉินเทียนแสร้งทำทีเป็นไม่รู้ว่ากำลังถูกติดตาม เดินไปตามทางเล็กๆที่มืดสลัวตรงหน้า
ทันใดนั้น ไฟหน้ารถที่แสบตาก็สาดส่องมา เสียงผิวปากดังขึ้น รถเบนซ์หลายคันก็พุ่งเข้ามา ล้อมเขาเอาไว้
ฉินเทียนหรี่ตาลง มองไปยังรถที่อยู่ตรงกลาง มีผู้หญิงคนหนึ่งลงมา
เมื่อห้าปีก่อนเขาเคยเจอซูหนานครั้งหนึ่ง
ในฐานะลูกพี่ลูกน้องของซูซู มีความคล้ายคลึงกับซูซูอยู่เล็กน้อย หรือจะพูดว่า เป็นหญิงสาวที่งดงามใช้ได้
เพียงแต่ว่า ความงามของซูซู ไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอุปนิสัย และความงามจากภายในด้วย
นั่นเป็นความงามที่สวรรค์บันดาลและเสน่ห์อย่างหนึ่ง
เมื่อเทียบกันแล้ว ซูหนานก็มีแค่เปลือกนอกเท่านั้น
ซูหนานในตอนนั้น เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ ยังอ่อนวัยไร้เดียงสา
แต่ในตอนนี้ ประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดา อยู่ห่างกันไกล กลิ่นน้ำหอมยังฉุนจมูก
ดูๆไปแล้ว เธอคงจะปรับตัวได้กับชีวิตที่มั่งมีของคุณนายน้อยผู้ร่ำรวยแล้ว
“ฉินเทียน……เป็นนายจริงๆด้วย”มองดูฉินเทียนที่ถูกล้อมหน้าล้อมหลัง ซูหนานมือกอดอกแล้วจุดบุหรี่ราคาแพงสำหรับผู้หญิงขึ้นมวนหนึ่ง
เธอทำตัวสูงส่ง ท่าทีราวกับเป็นผู้ชนะอย่างสมบูรณ์
“มีธุระอะไรหรือเปล่า?”ฉินเทียนเลิกคิ้ว
“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับฉันอีกเหรอ?”ซูหนานพ่นควันบุหรี่ไปทางฉินเทียน“สิ่งที่นายทำที่ตระกูลซูเมื่อกี้ ฉันรู้หมดแล้ว ”
“ตอนนี้ กลับไปกับฉันซะดีๆ ไปคุกเข่าขอขมาคุณปู่ พ่อแม่และน้องชายของฉันซะ”
“เพื่อเห็นแก่ซูซูเมียของนาย ฉันจะปล่อยให้นายมีชีวิตรอดออกไปจากหลงเจียงก็ได้ ”
“ไม่อย่างนั้นแล้ว นายคงไม่อยากให้เรื่องเมื่อห้าปีก่อนเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งหรอกใช่ไหม ?”
“น้ำในแม่น้ำอร่อยไหม?”
หืม ?
ในใจของฉินเทียนกระตุก พูด“เธอรู้ว่าเมื่อห้าปีก่อนใครเป็นคนโยนฉันลงแม่น้ำงั้นเหรอ?”
ซูหนานยิ้มเยาะ“ ฉันไม่ได้รู้แค่นี้นะ ฉันยังรู้ด้วยว่า เมื่อห้าปีก่อนนายถูกใส่ร้าย ”
“นายไม่ได้บังคับขืนใจซูซู แต่เพราะยาของซูซูออกฤทธิ์ จังหวะนายมาพอดี เมื่อเจอผู้หญิงที่สวยแบบนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนจะยับยั้งชั่งใจได้หรอก”
“ในตอนนั้นเพื่อรักษาชื่อเสียง ตระกูลซูบอกกับคนภายนอกว่า ถูกนายบังคับขืนใจ ซูซูรู้สึกผิดต่อนาย ดังนั้นเธอก็จึงแต่งงานกับนาย ”
“แต่น่าเสียดาย คืนวันแต่งงาน นายไม่ได้ใช้เวลาอยู่ในห้องหอ แต่กลับได้ใช้เวลาอยู่ในแม่น้ำที่เย็นเยือกแทน”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูหนานก็ยิ่งสนุกมากขึ้น“ฉินเทียน เท่าที่ฉันรู้ ในตอนนั้นนายถูกทำร้ายจนแขนขาหัก นอนหมดสติไม่รู้สึกตัว และนี่นายรอดมาได้ยังไงกัน?”
ใบหน้าของฉินเทียนมืดมนลง
สัญชาตญาณบอกเขา ซูหนานไม่เพียงรู้ตัวคนที่ทำร้ายตัวเองจนพิการ แต่ยังรู้ตัวคนที่ลอบวางยาทำร้ายซูซูด้วย !
“บอกฉัน ว่าเป็นใคร?”ร่างกายของเขา มีไอสังหารปรากฏขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เดินเข้าไปหาซูหนาน
ซูหนานก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว บุหรี่ที่อยู่ในมือร่วงลงกับพื้น
เธอพูดอย่างตื่นตระหนก“ปรมาจารย์ต่ง ขวางเขาเอาไว้ !”
ด้านข้าง ปรมาจารย์ต่งก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว
เขาจ้องมองฉินเทียนด้วยสายตาที่ดูถูก ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า“นายใช่ไหมที่ใช้วิชามนต์ดำฆ่าสุนัขของคุณชายเหวินเฉิง ?”
“ต้องบอกก่อนว่า อายุแค่นี้ ก็สามารถเรียนรู้วิชามนต์ดำได้ ช่างเป็นอะไรที่หาได้ยากจริงๆ ”
“เพียงแต่ว่า อยากจะแสดงฝีมือต่อหน้าฉัน นายคิดว่านายคู่ควรแล้วเหรอ?”
จู่ๆเขาก็ขึ้นเสียงสูง “ เจ้าสำนักสำรองของสำนักถังหลาง ต่งฟาง !”
“เจ้าหนู เป็นศิษย์สำนักไหนล่ะ!”
ชื่อเจ้าสำนักสำรองของสำนักถังหลางนี้ในโลกฝึกยุทธก็ถือว่าเป็นที่รู้จักกันดี
เขาคิดว่า หลังจากที่ฉินเทียนได้ยิน จะต้องบอกชื่อสำนักแล้วร้องขอชีวิต
“เจ้าหนู เห็นปรมาจารย์ต่งแล้ว ยังไม่รีบคุกเข่าคำนับอีก!”
“มาเจอปรมาจารย์ต่ง ก็ถือว่านายโชคร้ายแล้วล่ะ !”
“ตอนนี้เราไม่ต้องออกแรงแล้ว ปรมาจารย์ต่ง สั่งสอนเจ้าเด็กคนนี้หน่อยแล้วกัน ”
“ให้เราได้เปิดหูเปิดตา และให้เขาได้รู้ ว่าอะไรคือยอดฝีมือที่แท้จริง!”
บริเวณรอบๆ บอดี้การ์ดและกลุ่มอันธพาลเอ่ยพูดขึ้นแล้วพากันหัวเราะเอิ้กอ้าก
ในสายตาของพวกเขา ต่งฟางคือยอดฝีมือที่แท้จริง ฉินเทียนเทียบไม่ติดเลยสักนิด
ใครจะไปคิด——
ขาที่ก้าวเดินมาของฉินเทียนไม่ได้หยุดลง ไม่แม้แต่จะมอง พูดส่งๆ“แกคิดว่าแกเป็นใคร ไสหัวไป ”
ต่งฟางตะลึง เขาไม่เคยเห็นคนที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแบบนี้มาก่อน
เขาคือ……เจ้าสำนักสำรองเลยนะ!
“ปรมาจารย์ต่ง ฆ่ามันให้ตายซะ!”ความอับอายของซูหนานพาลเป็นความโกรธ เอ็ดตะโรเสียงดัง
ต่งฟางได้สติ คำรามออกมา สองมือกางออกเสมือนเป็นกรงเล็บ ตั้งกันเป็นเส้นทแยงมุม แล้วปรี่เข้าหาฉินเทียน
เขาเป็นนักบู๊เน่ยจิ้ง ก่อนที่จะเจอเข้ากับกรงเล็บ ลมพัดมาก่อน พัดเข้าที่ชายเสื้อของฉินเทียน ดูๆไปแล้วเหมือนจะร้ายกาจอย่างมาก
หากถูกตะปบเข้า เกรงว่าหินก็ยังต้องแยกออกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อมองไปที่ฉินเทียนกลับไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย
เป้าหมายของเขาคือซูหนานที่อยู่ด้านหลัง ดวงตาของเขา ก็เอาแต่จับจ้องไปที่ซูหนานอย่างไม่วางตาอยู่ตลอด
“ไสหัวไป!”
เมื่อเห็นกรงเล็บอันแหลมคมของต่งฟางกำลังจะข่วนมาที่ร่างกายของเขา เขาก็จึงโบกมือไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
หนึ่งฝ่ามือ ที่ดูเหมือนจะไม่ได้อะไร เชื่องช้า แต่กลับมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เสียงป้าบดังขึ้น ตบไปยังใบหน้าของต่งฟาง
“อ๊ากกก!”
เสียงกรีดร้องที่น่าอนาถ ร่างที่หนักกว่าร้อยกิโลของต่งฟางลอยละล่องขึ้นมา กระอักเลือดกลางอากาศ เสียงตึ้งดังขึ้น กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
ฝุ่นควันลอยตลบ
ต่งฟางตะลึงอยู่เป็นเวลานานก็ยังไม่ลุกขึ้นมา
บอดี้การ์ดที่เหลือ ที่กำลังจะพุ่งเข้ามาโจมตี ในตอนนี้ต่างก็ตกตะลึงกันจนตาค้าง
นี่มันวิชาอะไรกัน ?
ซูหนานยังมึนงงไม่ได้สติ เมื่อเห็นฉินเทียนเดินเข้ามาใกล้ เธอเซถอยหลัง พิงไปยังรถยนต์ที่อยู่ด้านหลัง
ฉินเทียนเอื้อมมือไปตามแต่ใจ คว้าหมับเข้าที่ลำคออันงามระหง และหอมกรุ่นของซูหนาน
“ตอนนี้ จะบอกได้หรือยัง ?”
“คุณชายเฟยเป็นใคร ? แล้วใคร ที่วางยาซูซู ?”
น้ำเสียงเย็นชา เขาในตอนนี้ ราวกับนกอินทรีที่จับหนูตัวน้อยได้
ซูหนานพิงไปที่รถ ในแววตามีความหวาดผวาอย่างที่สุด เธอหอบหายใจหนัก ทำเอาหน้าอกกระเพื่อมไหวรุนแรง
เพราะร่างกายเอนไปด้านหลัง ทำให้ดูเร่าร้อนอย่างมาก
เธอไม่คิดมาก่อนว่า ฉินเทียนจะร้ายกาจแบบนี้!
แม้แต่ปรมาจารย์ต่งที่ตระกูลอู๋ต่างก็ไว้วางใจเป็นหนักหนา ยังถูกฝ่ามือเดียวตบจนลอยละล่อง !
แต่ทว่า เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาและเด็ดเดี่ยวของฉินเทียน จู่ๆเธอก็เกิดความคิดที่อาจหาญขึ้นมา
“พี่เขย พี่ต้องการอะไร?”
“พี่สาวฉันเธอพิการไปแล้ว เติมเต็มให้พี่ไม่ได้ หรือพี่อยากจะระบายความโกรธกับน้องเมียคนนี้เหรอ ? ก็เอาสิ !”
เธอเหยียดร่างช่วงบนขึ้นมา แล้วขยับแนบชิดไปยังหน้าอกของฉินเทียน