บัญชามังกรเดือด บทที่ 269 ราชาหนูรายงานข่าว
หม่าหงเทาที่ถอยไปด้านหลังเรื่อยๆ ก็ไปชนเข้ากับก้อนหิน คนทั้งคน ไม่มีอิสระ จึงล้มลงมา
ขณะนั้น กระบี่เศษไม่เหลือความปราณี เขานำกระบองเหล็กแทนปืน จากนั้นพุ่งมาที่หน้าอกของหม่าหงเทา
“ระวัง!”อีเจี่ยนเหมยอดที่จะตกใจไม่ได้
ส่วนสมาชิกของคำสาปสวรรค์ที่เหลือ ก็เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
ในใจของพวกเขามีความสงสัยว่า ก็แค่สมาชิกใหม่เท่านั้น เหตุใดกระบี่เศษจะต้องลงมือรุนแรงถึงเพียงนี้
นั่นก็เพราะว่า กระบี่เศษรู้ความหมายของฉินเทียน เขาเป็นคนที่มองคนออก รู้ว่าหม่าหงเทามีศักยภาพที่เยอะมาก
ดังนั้น จะต้องบีบให้หม่าหงเทาให้จนตรก
มีเพียงทางนี้ ที่จะกระตุ้นศักยภาพของเขาออกมาได้
ในสายตาของหม่าหงเทาเผยถึงความตกใจจนหวาดกลัว เขาจึงล้มลงไป จากนั้นเอียงไปด้านหลัง
ทำท่าสะพานโค้ง ใช้มือค้ำยันที่พื้นเพียงมือเดียว จนหลบกระบองเหล็กของกระบี่เศษไปได้
ขณะเดียวกัน อีกมือหนึ่งของเขาก็ไม่ได้ว่าง
โจมตีฝ่ายตรงข้ามไม่ระวังตัว ฟันไปที่อากาศแล้วแนบกับกระบองเหล็ก ผ่านหน้ากระบี่เศษไป
ทำให้กระบี่เศษควบคุมตนเองไม่ได้ จึงทำได้แค่หลบ
เขาใช้กระบองเหล็กคำยั้น พูดด้วยความเย็นชาว่า:“น้องชาย แย่หน่อยนะ”
หม่าหงเทาเริ่มหน้าแดง เขากัดฟันแล้วพูดว่า:“หากว่าผมปราบลุงได้ จะได้อยู่ที่นี่ต่อ?”
กระบี่เศษยักคิ้ว:“ปราบฉัน ไม่มีทางหรอก”
“แต่ว่า ถ้านายบีบให้ฉันชักดาบได้ ถือว่านายชนะ”
หม่าหงเทาไม่เข้าใจ ดาบที่กระบี่เศษพูดถึงหมายถึงอะไร ทั้งๆ ที่ในมือของเขาเป็นกระบองเหล็ก ยังมีดาบที่ไหนอีก?
แต่ว่า ไม่มีเวลามาคิดมากมายขนาดนั้น
ฉากที่ทำให้รู้สึกกลัวเมื่อครู่ หลายปีมานี้ เป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด
ไม่เพียงแต่ทำลายเขาไม่ได้ หากแต่ยังทำให้เขาคิดว่า ทั้งเขาและก็มีดเมื่อก่อน ช่วงเวลาที่ผ่านมาไปหาเรื่องท้าทายคนทั้งเหนือและใต้มาแล้วเท่าไหร่
ในช่วงเวลาตอนนั้น การที่เขาไปปะทะกับคนเก่ง มีครั้งไหนบ้างที่ไม่ได้ผ่านความเป็นความตาย?
“เอาใหม่!”
เขาออกเสียงคำราม จากนั้นเท้าเหยียบก้าวไปเรื่อยเหมือนทำมั่วๆ มีดยาวราวกับงูสีเงิน ปรากฏถึงกลิ่นไอผี พร้อมที่พุ่งไปฟันกระบี่เศษ
กระบี่เศษเกิดอารมณ์พอใจ:“แบบนี้ค่อยดูมีท่าหน่อย!”
จากนั้นแกว่งกระบองเหล็ก เพิ่มท่าทางการโจมตีที่ร้ายกาจเข้าไปอีก อยากจะบีบหม่าหงเทา
เพียงแค่ครั้งนี้ หม่าหงเทาไม่ให้โอกาสกระบี่เศษ
เขาได้ผสมผสานลวดลายกลยุทธ์มีดม้งแบบหนึ่งกับแบบสอง ขณะเดียวกัน ยังมีเคล็ดลับอันประณีตที่เขาได้สร้างสรรค์มันขึ้นมาเองด้วย
เมื่อจะต่อสู้กับกระบี่เศษ ห้ามทิ้งระยะมากเกินไป
“ได้!”เมื่อเห็นการต่อสู้ที่สุดยอดตรงนี้ สมาชิกของคำสาปสวรรค์ที่เหลือก็อดที่จะเชียร์เสียงดังไม่ได้
ในสายตาของฉินเทียนปรากฏการชื่นชม เมื่อคิดอะไรออก เขาก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นกดถ่ายคลิปวิดีโอ
สู้จนบื้อ หม่าหงเทากระฮึ่ม จากนั้นหมุนตัวอย่างปราณีต พร้อมกับใช้ลำตัวมีดอัดกับกระบองเหล็ก
ขณะนั้น ความคมของมีด เมื่อแนบกับกระบองเหล็ก ก็พุ่งไปที่กระบี่เศษ
ทั้งนี้ กระบี่เศษมีเพียงวิธีเดียวที่จะรับมือได้ นั่นก็คือ ทิ้งกระบองเหล็ก แล้วกระโดดไปอีกด้านหนึ่ง
มิเช่นนั่น มือเขาต้องขาดแน่
แสงของดวงตากระบี่เศษ เขากำกระบองเหล็กแน่น ในระหว่างความอันตรายนั้น เสียงดังฉับ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในมือของกระบี่เศษปรากฏออกมา
แกร๊ง!
กระบี่มาะปะทะกับมีด เสียงดังแสบหู
หม่าหงเทาตกใจ
เขายังไม่ทันได้สติ กระบี่เศษก็หมุนตัว อย่ามองเขาว่ามีขายืนแค่ข้างเดียว ปลายเท้าของเขาที่หมุนนั้น ราวกับลมที่แข็งแกร่ง
คนที่ใช้กระบี่ กระบี่ก็จะตามคนๆ นั้น
หากแต่เป็นกระบี่คมที่ขาดไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นจี้ไปที่คอของหม่าหงเทา
“นายแพ้แล้ว”
“แต่ว่า นายก็ชนะด้วย”
“ตอนนี้ ยินดีต้อนรับเข้าสู่คำสาปสวรรค์”ในสายตาของกระบี่เศษ เผยรอยยิ้ม
“ได้!”
“มีดม้งอันสวยงาม!”
“พี่ชาย ยินดีต้อนรับเข้าสู่คำสาปสวรรค์!”
“สุดยอดไปเลย พวกเรามีสมาชิกใหม่อีกแล้ว”
“พี่เทียน คืนนี้เรียกเหลิ่งเฟิงเจ้าหมอนั่นมาด้วย มาย่างแพะ มาต้มสุกี้แพะกัน!”
“วันนี้ไม่เมาไม่กลับ!”
ทุกคนส่งร้องเสียงเฮ
นานมากแล้วที่หม่าหงเทา ไม่ได้เห็นสายตาของพี่น้องที่จริงใจแบบนี้
เขาประทับใจมาก
ถึงแม้ว่าจะมีความแปลกหน้า แต่ว่าใบหน้าที่สนิทใจ เขารู้ดีว่า นักจากนี้ ไม่เพียงแค่น้องสาวของเขามีบ้าน
ตัวเขาเองก็มีบ้านของเขาเช่นกัน และก็ยังมีพี่น้องด้วย
ฉินเทียนมองการต้อนรับอย่างมีความสุขของพวกเขา เขาเองก็ดีใจมากเช่นกัน
นี่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง
เมื่อคิดอะไรได้นั้น เขาจึงเอาคลิปที่ถ่ายเมื่อครู่ มาส่งให้จุยเฟิง
พูดอย่างอารมณ์ดีว่า:“เสี่ยวเฟิงเฟิง มีดเล่มนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ไม่นาน จุยเฟิงก็ส่งข้อความเข้ามา
“แม่งเอ๊ย!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าโลกนี้จะมีกลเม็ดมีดม้งที่สวยงามขนาดนี้ ฉันนึกว่าจะสาปสูญไปนานแล้ว!”
“ที่เป็นฐานของนายเหรอ?อยู่ที่ไหน รีบบอกมา!”
“ฉันจะไปขอลากับนายท่านทันที ไปหาเขาเพื่อขอคำแนะนำหน่อย!”
ฉินเทียนพูดอย่างพอใจว่า:“พูดเพราะๆ ให้ฟังสิ”
จุยเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า:“พี่เทียน ท่านเทียน!”
“ผมผิดไปแล้ว”
“การถกเถียงเป็นเรื่องเล็ก หลักๆ คือฉันอยากจะผัดไก่ไปเยี่ยมนาย”
ฉินเทียนหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า:“วันหน้าแล้วกัน”
“ตอนนี้เหล่าหม่าเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ เพิ่งจะผ่านการประลองสนามใหญ่ไป ให้พักสักหน่อย”
“ฉันไม่อยากให้มารอย่างนายมากดดันความมั่นใจของเขา”
เมื่อพูดจบ ไม่สนคำขอร้องของจุยเฟิง จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์เลย
เขารู้ว่า การประลองระหว่างเหล่าหม่าและกระบี่เศษ เพิ่งจะทำให้เจตจำนงของเขากระตุ้นขึ้นมาได้
หากว่าแพ้ให้จุยเฟิงอีกล่ะก็ เขาก็จะต้องสงสัยเป็นแน่
มารร้ายอย่างจุยเฟิง ฉินเทียนไม่สงสัยเลยว่าเขาจะต้องตีจนหม่าหงเทาจนไร้เรี่ยวแรงเป็นแน่
“ในคลังมีเหล้าเหลืออยู่เท่าไหร่?มีแพะกี่ตัว?”เขาหัวเราะแล้วถามขึ้น
เถียหนิงซวงรีบพูด:“บูซานเพิ่งจะเอาเข้ามาอีกล็อต พอแน่นอน”
แต่ว่าลังเลไปครู่หนึ่ง พูดอีกว่า:“ย่างแพะได้ แต่ดื่มเหล้าไม่เอาดีกว่า ยังไงฉันจะไม่เข้าร่วมดื่มแล้วแน่”
เธอมองฉินเทียน จากนั้นหน้าแดงเล็กน้อย แล้วเบือนหน้าหันกลับไป
ฉินเทียนคงจะคิดถึงที่การสนุกครั้งที่แล้ว หลังจากที่เถียหนิงซวงเมา แล้วตัวเองส่งเธอกลับไปพักผ่อน
เมื่อสาวน้อยเมาแล้ว จะต้องให้ตัวเอง…
เขาเขินอายเล็กน้อย
เขาเชื่อว่า ถึงแม้ว่าจะเมาแล้ว แต่ว่าเถียหนิงซวง ต้องจำได้แน่
“กลัวอะไร!”อีเจี่ยนเหมยหัวเราะพูดว่า:“เถียหนิงซวงไม่กิน ฉันกินเอง!”
“ฉันไม่เชื่อว่า จะกินสู้พวกนายไม่ได้!”
“ฉันอยากจะจัดการพวกนายมานานแล้ว!”
ส่วนคนที่เหลือก็เริ่มเกลี้ยกล่อม
เมื่อฉินเทียนคิดอะไรได้ ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เขาคิดว่า จุยเฟิงไม่ยอม โทรมารบกวนอีก
แต่ว่าเมื่อได้ฟังนำเสียงที่ไม่ถูกต้อง เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์
โทรศัพท์ของเขา มีอยู่สองระบบ เมื่อมองไป เป็นโทรศัพท์ธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไรแปลก
แต่ว่า เมื่อเขาเปิดอีกระบบหนึ่ง นี่ก็คือเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยสุดยอดมากที่สุดในโลกตอนนี้
เขาเอาไว้ใช้ติดต่อกับลูกน้องสิบสองราชา รวมถึงคนแบบเถ้าแก่ของเกาะซิซิลีโดยเฉพาะ
ระบบที่แน่นหนา บล็อกเกอร์ที่เก่งมากที่สุดก็แฮกไม่ได้
เสียงเรียกเข้าที่ธรรมดา จะเป็นระบบของชุดที่สอง
เมื่อเห็นข้อความที่ปรากฏ ก็เป็นรูปโปรไฟล์ของหนูเล็ก ฉินเทียนอดที่จะคิดในใจไม่ได้
“พวกนายจัดเตรียมเอาเอง ฉันจะไปส่งข้อความก่อน”
พูดไป เขาก็หยิบโทรศัพท์ จากนั้นขึ้นรถ
อารมณ์ของเขา มีความหนักใจอย่างเห็นได้ยาก
เมื่อเห็นท่าทางของเขา สมาชิกคำสาปสวรรค์ ก็มีความสุขมากจนไม่ได้มากวน
พวกเขาสนใจเรื่องดื่มวันนี้ จากนั้นไปขนเหล้าและแกะที่คลัง
ส่วนหม่าหงเทาเหลือบมองฉินเทียน แม้ว่าเขาจะไม่ถนัดพูดอะไร แต่เมื่อเห็นความคึกคักของทุกคน
ก็วางมีดม้ง จากนั้นตามไปขนเหล้าด้วย