บัญชามังกรเดือด บทที่ 329 แกกล้าตบฉันเหรอ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำตำหนิของหลี่หยานหลิวหรูยู่ก็ตื่นตระหนกราวกับเด็กน้อย
ดวงตาเธอเอ่อคลอ มองไปที่ฉินเทียนอย่างทำอะไรไม่ถูก
เธอกำลังขอร้องกับฉินเทียน ว่าให้ปล่อยเธอไป
เธอทนรับกับสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้จริงๆ
หากไม่ใช่เพราะหยางหรงยืนกราน ว่าจะต้องพาเธอมาด้วยให้ได้ เธอคงไม่มีทางมาปรากฏอยู่ที่นี่แน่
ตอนนี้ เธอรู้สึกเสียใจมาก
ฉินเทียนส่ายหัวให้เล็กน้อย อีกทั้ง ก็ยังส่งกำลังใจผ่านทางสายตามาให้เธอ
หลิวหรูยู่สูดหายใจเข้าลึก แล้วพูดเสียงต่ำ“หลี่หยาน วันนี้ที่ฉันมา ก็เพื่อจะมาไขข้อสงสัยทุกอย่างให้กระจ่าง ”
“กรุณาหลีกทางให้ด้วย ”
หลี่หยานยังอยากจะพูดอะไร หยางหรงก็ดันเธอออกจนพ้นทาง
“เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร ? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องฉาวโฉ่ของเธอกับหวางเฉียงนะ!”
“หลี่หยาน เธออยากให้ฉันพูดมันต่อหน้าทุกคนไหม ?”
“นี่เธอ——”หลี่หยานจ้องเขม็งมองหยางหรงตาเขียว
หยางหรงจ้องมองเธอกลับอย่างไม่เกรงกลัว
ในที่สุด หลี่หยานกลัวว่าข้อมูลเชิงลบของตัวเองจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน เธอก็จึงจำต้องหลบทางให้
แต่เธอยังคงยิ้มเยาะและกล่าว“หลิวหรูยู่ เธอกล้าออกมาพูดต่อหน้าทุกคนก็ดีเหมือนกัน !”
“ซิงถูของเรา ไม่สนับสนุนพวกศิลปินที่หน้าซื่อตาใส แต่เบื้องหลังชีวิตส่วนตัวนั้นเน่าเฟะหรอกนะ!”
หยางหรงดึงหลิวหรูยู่ เดินมายังที่นั่งตรงกลาง
นี่คือจุดศูนย์กลางของที่นั่ง ในตอนนี้ กำลังถูกไป๋เสี่ยวเชี่ยนยึดครองอยู่
เธอนั่งนิ่งไม่ขยับ มองมายังหลิวหรูยู่อย่างคนเป็นเจ้านาย ยิ้มเยาะและกล่าว“เธอคิดว่า ที่นั่งตรงนี้ยังเป็นของเธออยู่อีกเหรอ?”
หลิวหรูยู่นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ และกล่าว“เธอคือ……ไป๋เสี่ยวเชี่ยนไม่ใช่เหรอ?”
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ไป๋เสี่ยวเชี่ยนยิ้มเยาะและกล่าว“นี่เธอยังจำฉันได้ด้วยเหรอ !”
“ตอนนั้นเราเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงด้วยกัน และเธอก็ใช้วิธีสกปรก”
“ไม่เพียงแย่งถ้วยรางวัลที่ควรจะเป็นของฉันไป แล้วยังบีบบังคับให้ฉันต้องออกจากการแข่งขันอีกด้วย”
“ตอนนี้ เธอน่าจะติดค้างคำขอโทษกับฉันไหม ?”
คำพูดของเธอ ดึงดูดความสนใจจากสื่อต่างๆในทันที
เบื้องหลังความโสมมเมื่อหลายปีก่อนกำลังจะถูกเปิดเผย นี่มันเป็นประเด็นข่าวพาดหัวเลยเชียวนะ
ทุกคนต่างรัวชัตเตอร์ไปที่ไป๋เสี่ยวเชี่ยน
และนี่ก็คือสิ่งที่ไป๋เสี่ยวเชี่ยนต้องการ แม้ในเส้นทางสายดนตรี เธอจะพอมีความสามารถในการขับร้องอยู่บ้าง
การแข่งขันในตอนนั้น ด้วยเพราะใบหน้าที่คุ้นเคย จึงทำให้เธอมีกระแสอยู่เล็กน้อย
แต่ทว่า กระแสนี้มันได้หายไปนานแล้ว ในตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าไป๋เสี่ยวเชี่ยนคนนี้เป็นใคร
เธอต้องการจะใช้จุดสนใจนี้ กลับมามีกระแสให้ถูกพูดถึงอีกครั้ง
อีกทั้ง เมื่อปรากฏตัว ก็มุ่งเป้าไปที่หลิวหรูยู่
เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ชื่อเสียงและกระแสความนิยมของเธอ ก็จะต้องเป็นประเด็นร้อนในชั่วข้ามคืน
ดวงตาของหลิวหรูยู่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา พูดอย่างเศร้าเสียใจ“ฉันเปล่าทำอะไร!”
“ไป๋เสี่ยวเชี่ยน ที่เธอถอนตัวไปในครั้งนั้น ฉันเองก็สงสัยเหมือนกัน ”
“เธอหายไปโดยไม่ได้บอกกล่าวอะไร มันเพราะอะไรกันเหรอ ?”
ไป๋เสี่ยวเชี่ยนกัดฟันแล้วกล่าว“นี่เธอยังแกล้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์อีกเหรอ !”
“ไม่ใช่เพราะเธอเอาตัวเข้าแลกกับผู้ตัดสินคนหนึ่ง กลัวว่าจะสู้ฉันไม่ได้ ดังนั้นก็จึงไปยุยงปลุกปั่นผู้ตัดสินคนนั้น ให้ฉันต้องถอนตัวไม่ใช่เหรอ?”
“หลิวหรูยู่นี่เธอยังแสร้งทำตัวเป็นคนดีมีคุณธรรมอีกเหรอ!”
“วันนี้ต่อหน้าสื่อ ฉันจะเปิดเผยธาตุแท้ของเธอ!”
“เธอมันผู้หญิงสำส่อน——”
ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ หยางหรงที่อยู่ข้างๆของเธอ ก็ตบไปที่ใบหน้าของเธออย่างแรงไปฉาดหนึ่ง
ไป๋เสี่ยวเชี่ยนนิ่งอึ้ง มือกุมไปที่ใบหน้าแล้วกล่าว“นังชั่ว นี่แกตบฉันเหรอ ?”
“แกกล้าตบฉันเหรอ!”
“ใครก็ได้มานี่สิ!”
“มาเอาตัวสองคนนี้ออกไป!”เธอตะโกนเรียกเสียงดัง
เมื่อเห็นรปภ.ที่ปรี่เข้ามา หยางหรงพูดอย่างเย็นชา“ วันนี้ใครกล้าที่จะแตะต้องตัวฉันกับหรูยู่แล้วล่ะก็ ฉันจะให้มันต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามมาอย่างสาสม!”
“อย่าลืม ก่อนที่เรื่องนี้จะมีบทสรุป หรูยู่ยังเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของบริษัท!”
เมื่อได้ยินคำนี้ รปภ.ต่างก็ถอยร่นออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
ไป๋เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างโกรธเคือง“ตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งของเธอมันไม่มีไปนานแล้ว!” “
“ต่อไป ฉันนี่แหละสตรีหมายเลขหนึ่งของซิงถู !”
หยางหรงยิ้มเยาะและกล่าว “เธอบอกว่าต่อไป”
“แต่ในตอนนี้ หรูยู่ยังเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง”
เธอคิดว่าเธอเหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างนั้นเหรอ ? หากยังไม่หลบไป เราได้เห็นดีกันแน่!”
เธอรู้ ว่าวันนี้ตัวเองต้องรักษาภาพลักษณ์
ดังนั้นเธอจึงกัดฟันกร่อน ยืนขึ้นแล้วนั่งลงที่นั่งด้านข้าง
“นังชั่ว เดี๋ยวได้รู้กัน !”
ทันทีที่หลิวหรูยู่นั่งลง สื่อสำนักต่างๆก็แทบทนรอไม่ไหวที่จะจ่อไมโครโฟนมาที่ตรงหน้าของเธอ
“หลิวหรูยู่ คำพูดของคุณไป๋เมื่อครู่ คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม ?”
“เมนเทอร์ในตอนนั้น เป็นใครกัน ?”
“เราทุกคนต่างรู้ ว่าที่คุณสามารถคว้าแชมป์ได้ในตอนนั้น เพราะอาจารย์หลิวเล่อผู้ที่รู้จักกันในฐานะเจ้าพ่อแห่งวงการดนตรีเป็นผู้เลือก”
“หลายปีมานี้ คุณก็บอกกับทุกคนมาโดยตลอด ว่าอาจารย์หลิวเล่อเป็นครูสอนดนตรีของคุณ ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองสนิทสนมกันมาก”
“ขอถาม คนที่คุณเอาตัวเข้าแลกคนนั้น ก็คืออาจารย์หลิวเล่อใช่หรือเปล่า?”
“ไม่ใช่!”
“พวกคุณอย่าพูดเหลวไหล!”หลิวหรูยู่แทบจะทนรับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
จนตอนนี้ หยางหรงก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน เธอมองไปยังฉินเทียนอย่างขอความช่วยเหลือ
ฉินเทียนให้เธอพาหลิวหรูยู่มาด้วยให้ได้ในวันนี้ เธอก็ทำแล้ว
แต่ว่า ฉินเทียนนี่สิจะทำอะไรกันแน่?
จะคืนความยุติธรรมให้หลิวหรูยู่ยังไง เธอเองก็ไม่รู้
เธอไม่มีความคิดอะไรในใจ
ตอนนี้ ในเวลาแบบนี้ ฉินเทียนยังจะนิ่งเฉยอยู่อีกเหรอ?
เวลาที่ฉินเทียนเฝ้ารอ ยังมาไม่ถึง แต่ว่า เมื่อเห็นสภาพของหลิวหรูยู่ เขาก็ทนดูมันไม่ได้เช่นกัน
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง กำลังจะลุกขึ้นยืนแล้วเป็นปากเป็นเสียงแทนหลิวหรูยู่
ในตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงโห่ร้องดังขึ้น
“บริษัทหวงฉาว ประธานโม่มาถึงแล้ว !”
บริษัทหวงฉาว?นั่นมันบริษัทที่มีอิทธิพลอย่างมากของวงการเลยนะ
โม่ชง ก็เป็นที่รู้จักกันในฐานะเจ้าพ่อแห่งวงการบันเทิง
ความสนใจของทุกคนถูกดึงดูด สื่อสำนักต่างๆก็เบนกล้อง แล้วหันไปยังที่ตรงประตูทางเข้า
โม่ชงแต่งกายด้วยชุดสุภาพ ภายใต้การเดินขนาบข้างมาพร้อมกับดาราสาวสองคน ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ
คนที่อยู่ทางซ้ายมือของเขาสวมชุดเดรสกระโปรงยาว ดาราสาวที่ดูงามสง่าและมีเกียรติ นั้นก็คือมู่เฟยเฟย
“คุณมู่เฟยเฟย ได้ยินว่าคุณหมดสัญญากับต้นสังกัดเดิม และไม่ได้ต่อสัญญาด้วย ”
“ตอนนี้คุณมาอยู่กับประธานโม่ หรือว่า คุณจะมาเข้าร่วมกับบริษัทหวงฉาวอย่างนั้นเหรอ?”
“ประธานโม่คุณเซ็นสัญญากับคุณมู่ในราคาเท่าไร ช่วยบอกเราหน่อยได้ไหม?”
“ประธานโม่ วันนี้ที่คุณมาที่นี่ด้วยตัวเอง เพราะจะมีการร่วมมือครั้งสำคัญ กับบริษัทหวงฉาวใช่หรือเปล่า?”
“เป็นการร่วมมือกันแบบไหน ? ทำไมถึงเลือกซิงถู?”
สำนักข่าวต่างก็ลุกฮือกันขึ้นมาอีกแล้ว
พวกเขาต่างรู้สึกว่าวันนี้ช่างมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ
มีประเด็นข่าวมากมาย และน่าจะมีกระแสให้ถูกพูดถึงไปได้อีกสักพัก
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสื่อที่บ้าคลั่ง มู่เฟยเฟยทำแค่ยกยิ้มไปตามมารยาทเท่านั้น และไม่ได้พูดอะไร
แต่โม่ชงกลับยิ้มและกล่าว“บริษัทหวงฉาวของเรา ได้พูดคุยการร่วมมือกันในเบื้องต้นกับคุณมู่เฟยเฟยแล้ว”
“แต่ในส่วนของรายละเอียด ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยครับ”
“ส่วนเรื่องที่ผมมาที่นี่ด้วยตนเองในวันนี้ เป็นไปตามที่ทุกคนคาดการณ์ หวงฉาวของเรากับซิงถูได้ตกลงจะร่วมงานกันทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ”
“ขอทุกคน โปรดคอยติดตามกันด้วยนะครับ”
“ประธานโม่!”หลี่หยานเดินเข้ามาทักทายอย่างตื่นเต้น
ดวงตาที่เธอมองโม่ชง เต็มไปด้วยประกายแวววาว ท่าทีของเธอ ก็แทบทนรอไม่ไหวที่อยากกระโจนใส่เขาในทันทีเช่นกัน
เธออยู่ซิงถู ต้องพึ่งพาอาศัยหวางเฉียงเพื่อให้มีอำนาจเหนือใคร
แม้ในวงการหวางเฉียงจะพอมีอำนาจอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับโม่ชงแล้ว ก็แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
แต่หากสามารถร่วมทางเดินเดียวกันกับโม่ชงได้ เธอหลี่หยานก็คงจะยกระดับตัวเองให้สูงส่งมากขึ้นไปกว่านี้ได้