แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 30 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน(2)

บทที่ 30 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน(2)

บทที่ 30 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน(2)
ถึงแม้จะเป็นครอบครัวธรรมดาๆ แต่ครอบครัวธรรมดาๆ ก็แบ่งเป็นระดับ แล้วก็มีจิตใจชิงดีชิงเด่น เห็นได้ชัดว่าครอบครัวโจวหาว อยู่ในอันดับต้นๆ ในบรรดากลุ่มนี้
เจี่ยงหยาวยิ้ม ถือเป็นการตอบกลับ แต่รอยยิ้มกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เธอไม่ชอบที่โจวหาวจงใจอวดต่อหน้าเพื่อน
จ้าวกางกับเพื่อนนักเรียนที่ค่อนข้างสนิทกับเฉินโม่ สีหน้าอึมครึม พากันมองเฉินโม่ พวกเขามองออกว่าโจวหาว ดูจงใจเล่นงานเฉินโม่
แต่เฉินโม่กลับมีสีหน้าราบเรียบ ยิ้มมุมปากแบบมองไม่ค่อยชัด นัยน์ตาลึกราวกับท้องฟ้า ค่อยๆ หลุบตาลง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
โจวหาวมองนักเรียนชายหัวเกรียน คนที่ถามเขา “หลี่เฉียง นายล่ะ วันนี้ให้ของขวัญอะไรกับหยาวหยาว”
หลี่เฉียงถอนหายใจ “เฮ้อ ฉันไม่ได้มีเงินเยอะแบบนาย ฉันแค่ซื้อนาฬิกาแขวนผนังให้หยาวหยาว ตั้งร้อยกว่าแน่ะ!”
โจวหาวยิ้มปลอบใจ “ร้อยกว่า ก็ไม่น้อยนะ ดีกว่าใครบางคนที่มามือเปล่าตั้งเยอะ!”
พูดจบ โจวหาวหันไปยิ้มให้เฉินโม่ “ใช่ไหมเฉินโม่!”
เพื่อนนักเรียนพากันตกตะลึง จู่ๆ ในที่นี้ก็เงียบมาก
เพื่อนเห็นแค่เฉินโม่เข้ามามือเปล่า แต่ไม่เห็นเฉินโม่แอบเอาอั่งเปา วางไว้ที่โต๊ะแคชเชียร์ เห็นได้ชัดว่าโจวหาวจงใจทำให้เฉินโม่ลำบากใจ ทำให้เฉินโม่อับอาย
นักเรียนชายที่เดิมที อิจฉาเฉินโม่ได้ใกล้ชิดเจี่ยงหยาว มองเฉินโม่ด้วยแววตาเยาะเย้ย สีหน้าเหมือนรอดูเรื่องสนุก
จ้าวกางลุกขึ้นยืนทันที มองโจวหาวอย่างโมโห “นายหมายความว่ายังไง นายรู้ได้ยังไงว่าเฉินโม่ไม่ได้เตรียมของขวัญให้หยาวหยาว บางทีเมื่อกี้เฉินโม่อาจจะลืม ไม่ทันเอาของขวัญออกมาให้หยาวหยาวก็ได้”
โจวหาวมีสีหน้าใสซื่อ ผายมือทั้งสองข้าง แล้วพูดว่า “จ้าวกาง ทำไมนายเดือดร้อนขนาดนี้ล่ะ ฉันแค่ถามลอยๆ ถามเฉินโม่ว่ามีความเห็นอย่างไรกับความคิดของฉัน ฉันไม่ได้บอกว่าเฉินโม่มากินมือเปล่าสักหน่อย”
“ใช่สิ นายพูดแบบนี้ ฉันกลับนึกขึ้นมาได้ เมื่อกี้เหมือนว่าเฉินโม่ เดินเข้ามามือเปล่าใช่ไหม”
หลี่เฉียงรีบพูดเสริม “ใช่ ฉันก็เห็น เฉินโม่เดินเข้ามามือเปล่า”
ได้ยินหลี่เฉียงพูดแบบนี้ พวกนักเรียนชายที่อิจฉาเฉินโม่ เพราะสนิทสนมกับเจี่ยงหยวนเกินไป หัวเราะเยาะด้วยเจตนาไม่ดีทันที
นักเรียนหญิงที่เห็นเรื่องสนุกเอามือปิดปาก ก้มหน้าแอบหัวเราะคิกคัก
พวกนักเรียนที่ให้ของขวัญ เทียบไม่ได้กับโจวหาวและหลี่เฉียง ก็มองเฉินโม่อย่างดูหมิ่น เทียบกับเฉินโม่ที่มามือเปล่า พวกเขาดีกว่าตั้งเยอะ
เพื่อนที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับเฉินโม่ พากันโมโห แอบด่าโจวหาวกับหลี่เฉียงว่าเลวทราม
จ้าวกางหน้าแดงจนถึงหู เดิมทีจะออกมาไกล่เกลี่ยแทนเฉินโม่ แต่ไม่อยากทำให้แย่ลง แล้วโดนโจวหายใช้ประโยชน์
ทันใดนั้น จ้าวกางมองเฉินโม่อย่างขอโทษ หวังว่าเขาจะเป็นฝ่ายยืนยันว่าตัวเองเอาของขวัญมา
แต่จ้าวกางพบว่า เฉินโม่หลุบตาลง บนใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ ไม่มีท่าทีจะออกมาชี้แจง
จนปัญญา จ้าวกางทำได้เพียงพูดแทนเฉินโม่ต่อไป แต่เสียงกลับเบาลงเอง “มือเปล่าแล้วยังไง พวกนายรู้ได้ยังไงว่าเฉินโม่ไม่ได้แอบเตรียมอั่งเปาเอาไว้แล้ว”
จ้าวกางพูดประโยคนี้เสร็จ ขนาดตัวเขาเองยังไม่อยากเชื่อ ถ้าเฉินโม่เตรียมอั่งเปาไว้จริง ต้องเอาออกมาตั้งแต่เข้ามาแล้ว ใครจะรอให้ของขวัญตอนทานข้าวเสร็จกันล่ะ
โจวหาวก็คิดถึงจุดนี้เหมือนกัน ใบหน้ายิ่งดูหมิ่นเข้าไปอีก “อั่งเปาเหรอ เฉินโม่ นายเตรียมอั่งเปาให้หยาวหยาวเหรอ ใส่ซองเท่าไรล่ะ สิบหยวน หรือยี่สิบหยวน เอาออกมาให้เพื่อนๆ ได้เป็นบุญตาหน่อย!”
ฮ่าๆ……
เพื่อนๆ พากันหัวเราะ แววตาที่มองเฉินโม่ ยิ่งดูหมิ่นเข้าไปอีก
จ้าวกางกับเพื่อนที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับเฉินโม่ มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าร้อนใจ ถึงเดิมทีเฉินโม่จะไม่ได้เตรียมอั่งเปาเอาไว้ ตอนนี้ก็ต้องออกมารักษาหน้าเอาไว้สิ
แค่อั่งเปาซองเดียว พวกเขาไม่เชื่อว่าเฉินโม่ให้ไม่ได้หรอก
เจี่ยงหยาวทนไม่ไหวแล้ว ไม่พอใจกับพฤติกรรมของโจวหาวกับหลี่เฉียงเป็นอย่างมาก แต่เธอถ่อมตัวเป็นนิสัย อาละวาดไม่ค่อยเป็น อีกทั้งวันนี้ทุกคนล้วนมาสนับสนุนร้านอาหารของครอบครัวเธอ ถึงจะโกรธ เธอก็พูดแรงไม่ได้
เจี่ยงหยาวลุกขึ้นยืน ใบหน้าเล็กเคร่งขรึม “พอเถอะ ฉันเชิญทุกคนมา เพราะอยากให้ทุกคนรวมตัวกันให้สนุก ไม่ได้อยากได้ของขวัญจากทุกคน! ส่วนเพื่อนที่ให้ของขวัญ ฉันขอบใจทุกคน คนที่ไม่ได้ให้ของขวัญ ฉันก็ขอบคุณจากใจ ที่เขาสามารถมาสนับสนุนเรื่องนี้จบแค่นี้เถอะ ไม่ต้องพูดอีกแล้ว!”
คำพูดของเจี่ยงหยาว แม้ดูเหมือนจะพูดกับทุกคน แต่ใครๆ ก็สัมผัสได้ว่า เธอมีเจตนาจงใจไกล่เกลี่ยแทนเฉินโม่
ต้องให้ผู้หญิงออกหน้าไกล่เกลี่ยแทนตัวเอง รับไม่ได้ สายตาที่ทุกคนมองไปยังเฉินโม่ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
โจวหาวหัวเราะ “หยาวหยาวอย่าโกรธ ฉันไม่ดีเอง ฉันไม่ควรพูดล้อเล่นกับเฉินโม่”
เปลี่ยนหัวข้อสนทนา โจวหาวมองเฉินโม่ แววตาเจ้าเล่ห์ “แต่เฉินโม่ไม่ได้ให้ของขวัญ ออกมาขอโทษหยาวหยาวก็จบแล้ว ทำให้ทุกคนเข้าใจผิด ทำเป็นเล่นตัวไปได้!”
เดิมทีเฉินโม่ไม่อยากสนใจเรื่องเล็กน้อย โจวหาวอยากอวด ก็ให้เขาอวดไป ในสายตาเฉินโม่ ก็เหมือนลิงแยกเขี้ยวยิงฟันต่อหน้าเสือ โอ้อวด ยกยอปอปั้นเท่านั้น
แต่โจวหาวไม่จบไม่สิ้น เอาแต่ยั่วยุเฉินโม่ครั้งแล้วครั้งเล่า อดทนจนทนไม่ไหวแล้ว!
เฉินโม่ที่หลุบตาลง ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความอาฆาตปรากฏขึ้นมาเบาๆ ศักดิ์ศรีของผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพ ขนาดตระกูลหลี่ยังมิอาจดูหมิ่นได้ ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาๆ อย่างโจวหาว
เฉินโม่เงยหน้าขึ้นช้าๆ มองโจวหาวอย่างราบเรียบ มือหนึ่งวางลงบนโต๊ะ ใช้นิ้วเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ
“โจวหาว เดิมทีฉันไม่อยากทะเลาะกับคนต่ำๆ อย่างนาย แต่นายยั่วยุฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดว่าฉันรังแกง่ายจริงๆ เหรอ”
บทที่ 29 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน(1)

บทที่ 31 ใครเป็นตัวตลก(1)

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท