กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 753
น่าหลานหลิงลั่วกล่าวว่า “อย่างไรก็ตามยังท่านหัวหน้าเผ่าอยู่ไม่ใช่หรือ? ท่านหัวหน้าเผ่าเป็นถึงระดับเจ็ด หากว่าพวกเขาทั้งสองคนเริ่มโจมตีพร้อมกันและทุกๆคนก็วิ่งไปจัดการกับซ่งหยวนแล้วผู้ใดจะคอย “คุ้มครองท่านหัวหน้าเผ่า? ”
ซือคงรู้สึกอึดอัดใจ
ท่านหัวหน้าเผ่าโกรธจนเป็นบ้าจนตอนนี้ก็ยังไม่คืนสติแล้วจะมีสิ่งใดน่าวิตกกังวล
ไม่เช่นนั้นก็ร่วมมือร่วมใจกันกำจัดซ่งหยวนตาเฒ่าอมตะก่อนยังดีเสียกว่า
เขาก็เป็นระดับหกแต่ว่าเขายังไม่ถึงชั้นสูงสุด รวมทั้งตอนนี้ซ่งหยวนเต็มไปด้วยกลิ่นไอสังหารเช่นนี้ซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เป็นครึ่ง
ไม่ว่าเขาจะโง่เขลาเพียงใดก็ไม่สามารถปะทะกับเขาซึ่งๆหน้าโดยตรงได้
“พรึ่บๆๆ……”
ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตเป็นก่ายเป็นกอง
แม้ว่าผู้คนเหล่านี้จะเป็นลูกน้องของเผ่าซือคงแต่เหวินเส่าอี๋ก็ยังคงรู้สึกปวดใจเช่นดังเดิม
หลังจากเกิดหายนะไม่คาดคิดต่อเนื่องนานหลายวัน น้ำตาประกายแวววาวของเหวินเส่าอี๋ก็ไหลลงมาอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ท้ายที่สุดดวงตาอันอบอุ่นก็ได้มองไปยังการสังหารทั้งสี่ทิศและผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนผู้ซึ่งพูดจาสกปรก
“เจ้าซือคงน้อยหากเจ้ามีความสามารถก็ไปสังหารด้วยตนเอง เจ้าคิดว่าลากผู้คนจำนวนมากเช่นนี้มาเป็นตัวตายแทนเจ้าแล้วเจ้าจะสามารถหนีไปได้หรือ? ถุย”
“น่าหลานเจ้าลูกเต่าไม่ใช่ว่าเจ้านั้นช่างหยิ่งยโสนักหรอกหรือ? เหตุใดตอนนี้ถึงได้หดหัวเหมือนเต่าในกระดองเสียหล่ะ?”
“เจ้าเศษสวะตงหลิงเจ้าสารเลวเสียจนไม่แม้แต่จะถือเป็นไข่มุก เจ้าเป็นดังเศษสวะสิ่งปฏิกูลในหลุมส้วมทั้งเหม็นเน่าและน่าขยะแขยงนัก”
น่าหลานหลิงลั่วมองไปยังสนามรบอย่างเย็นชาโดยไม่รู้สึกรู้สาใดๆ
สีหน้าของซีคงซีดเผือด
ผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงทนไม่ไหวอีกต่อไป ฝ่ามือฟ้าร้องกึกก้องสะท้านฝ่ามือหนึ่งฟาดเป็นแนวนอนออกไปเลยโดยตรง
เช่นไรเขาก็เป็นผู้อาวุโสสูงสุดผู้หนึ่งแต่กลับถูกซ่งหยวนดุด่าท่ามกลางผู้คนมากมายราวกับหมูกับหมา หากว่าเขาไม่ลงมือภายหน้าจะยังสามารถเงยหน้าอยู่ในเผ่าได้หรือ?
ผู้อาวุโสสูงสุดสองคนต่อสู้กันอยู่ซึ่งฉากนั้นก็ยิ่งตกตะลึง เศษหินปรักหักพังถูกง้างขึ้นเป็นชิ้นๆและในตำหนักสวรรค์ก็ได้ปรากฏเสียงระเบิดดังกึกก้องพร้อมกับเสียงดุด่าไปมาของทั้งสองคนเป็นครั้งคราว
เนื่องจากซ่งหยวนด้านหนึ่งสังหารคนมากมายด้วยความโมโห ด้านหนึ่งช่วยซ่งอวี้และคนอื่นๆกวาดล้างสู้รบเป็นครั้งคราว รวมถึงน่าหลานหลิงลั่วที่ฆ่าสังหารอยู่อย่างเหี้ยมโหดโดยตลอดซึ่งในเวลานี้ก็ได้เป็นผู้ที่กุมเอาไว้ในมือไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ซ่งอวี้และคนอื่นๆจึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาให้ลูกน้องนำท่านหัวหน้าเผ่าที่ไร้สติจากไปก่อนและตนเองก็สังหารไปจนถึงข้างกายเหวินเส่าอี๋ด้วยตนเองและต้องการนำเหวินเส่าอี๋จากไปพร้อมกัน
ซือคงจะปล่อยเหวินเส่าอี้ไปได้อย่างไร
จึงได้สังหารเข้าไปด้วยตนเอง
เหวินเส่าอี๋ผลักมือของซ่งหยวนออกและกล่าวขึ้นว่า “ไป พาท่านพ่อของข้าออกไปจากที่นี่ก่อน”
“นายน้อยหัวหน้าเผ่า……”
“ไป……”
เป้าหมายของซือคงอยู่ที่เขา
รวมถึงเหวินเส่าอี๋ยังมีปัจจัยเสมอเท่ากับซือคงและซ่งหยวนก็ไม่สามารถทนรับมือได้นานนัก
ซ่งอวี้ทำได้เพียงกัดฟันยอมแพ้ที่จะช่วยเหลือเหวินเส่าอี๋อีกครั้งและตัดกำลังคนการคุ้มกันของท่านหัวหน้าเผ่า
น่าหลานหลิงลั่วซึ่งเดิมทีนั่งอยู่ดูอยู่บนบ่อน้ำในเวลานี้ก็ได้ส่งคนมาขววางพวกเขาเอาไว้และสังหารโดยไม่สอบถามใดๆ
เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างโกรธเคือง “รองหัวหน้าเผ่า ข้าจะเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายให้หยุดลงเดี๋ยวนี้ไม่เช่นนั้นข้าจะให้คนทำลายเผ่าเพลิงฟ้าในทันที”
“น่าหลานหลิงลั่วเจ้าได้ยินหรือเปล่า? รีบหยุดเร็วเข้า”
การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็จะต้องเป็นผู้ชนะเหตุใดจึงจำต้องรีบเร่งในชั่วขณะด้วย
น่าหลานหลิงลั่วกล่าวว่า “ท่านรองหัวหน้าเผ่า เหวินเส่าอี๋ใจจดจ่อที่จะเป็นหัวหน้าเผ่าแล้วเขาจะไม่อาลัยอาวรณ์ที่จะทำลายเผ่าเพลิงฟ้าทั้งเผ่าได้อย่างไร?”
ความหมายของน่าหลานหลิงลั่วคือในใจเหวินเส่าอี๋อยู่ที่เผ่าเพลิงฟ้าซึ่งหนึ่งในนั้นยังเป็นพ่อของเขาด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำลายเผ่าเพลิงฟ้าเป็นเพียงแค่การข่มขู่ก็เท่านั้น
“แล้วหากว่าเขาทำลายจริงๆหล่ะ?”
“หรือว่าข้าน่าหลานหลิงลั่วไม่ต้องการชีวิตแล้วหรอกหรือ? สาวกนับหมื่นที่ข้านำมาก็ไม่ต้องการชีวิตแล้วด้วยหรือ? ท่านรองหัวหน้าเผ่าพวกเราหุบเขาตันหุยทำทุกอย่างเพื่อช่วยท่าน คิดไม่ถึงว่าท่านจะขี้ขลาดเช่นนั้นช่างทำให้ข้าปวดใจยิ่งนัก”
“หากว่าท่านต้องการให้ข้าหยุดก็ได้ แต่ความวุ่นวายภายในของเผ่าเพลิงฟ้าพวกเราจะไม่เข้าไปร่วมด้วยอีกต่อไป”
“เจ้า……”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงทนไม่ไหวที่จะฟาดฝ่ามือหนึ่งเพื่อเอาน่าหลานหลิงลั่วให้ตาย
ในช่วงขณะร่วมมือกันนั้นเหตุใดถึงดูไม่ออกว่าเขานั้นทรยศเช่นนั้น
“ข้านับถึงสามหากว่าพวกเจ้ายังไม่หยุด พวกเราก็จะถือรวมไปด้วยกัน” เหวินเส่าอี๋กล่าวข่มขู่
ซือคงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในขณะที่เขาเลือกได้ยากลำบากผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงก็ถูกผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนซัดตายทั้งที่ยังมีชีวิต เลือดสดๆและลำไส้ก็ได้ไหลทะลักไปทั่วพื้นดินอย่างน่าตกใจ
นอกจากตงหลิงแล้วยังมีผู้อาวุโสสูงสุดอีกผู้หนึ่งสิ้นใจอยู่ข้างๆซือคง
แม้ว่าจะสังหารผู้อาวุโสสูงสุดสองคนไปได้ซ่งหยวนก็ไม่ได้ดีกว่าไปเท่าใดนัก ร่างกายของเขานยิ่งอยู่ก็ยิ่งโปร่งใสมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะเกือบถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแล้ว
ดังนั้นเขาจึงมุ่งเป้าไปที่รองหัวหน้าเผ่าซือคง
“พรึ่บๆๆ……”
ฝ่ามือใหญ่ซัดไปยังผู้คนที่อยู่เบื้องหน้าของซือคงจนกลายเป็นหมอกโลหิตไปหมด ส่วนซือคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรับมือกับฝ่ามือนั้น
เขาไม่เชื่อว่าเขาผู้เป็นขั้นต้นระดับหกจะไม่สามารถเอาชนะซ่งหยวนที่กำลังจะตายซึ่งยังคงเหลืออยู่เพียงลมหายใจเดียวเท่านั้น
ยอดฝีมือทั้งสองต่อสู้กันด้วยกระบวนท่าความเคลื่อนไหวอันหนักหน่วงและรวดเร็วเสียจนผู้คนไม่สามารถรับมือได้
ที่นี่ต่อสู่กันอยู่ อีกด้านหนึ่งก็ต่อสู้กันอยู่
น่าหลานหลิงลั่วเหลือบมองและตั้งเป้าไปยังเหวินเส่าอี๋ เขาเดินไปข้างกายเหวินเส่าอี๋ทีละก้าวๆและชักดาบพุ่งเข้าไปตรงหัวใจของเหวินเส่าอี๋อย่างโหดเหี้ยม
เกือบในเวลาเดียวกันคนของน่าหลานหลิงลั่วได้ลงมือจัดการเอามือไขว้หลังสาวกเผ่าเพลิงฟ้าของเหวินเส่าอี๋ทีละคนๆ
คนของซือคงกล่าวอย่างร้อนรนว่า “นายน้อยแห่งหุบเขาน่าหลานท่านทำสิ่งใด อย่าลืมข้อตกลงระหว่างท่านกับรองหัวหน้าเผ่าของเรา”
“ก็เพราะมีข้อตกลงกับรองหัวหน้าเผ่าดังนั้นข้าจึงต้องสังหารเหวินเส่าอี๋และช่วยท่านหัวหน้าเผ่าออกมา”
“เขาตายไปพวกเราทุกคนก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เผ่าเพลิงฟ้าทั้งหมดก็จะต้องถูกทำลายไป”
“ถูกทำลายก็ถูกทำลาย ผู้คนในใต้หล้าที่ไม่สมควรถูกทำลายก็ได้ถูกทำลายไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?”
เมื่อนึกถึงความตายอันน่าสลดของพี่น้องและคนอื่นๆของตน ความเกลียดชังของน่าหลานหลิงลั่วก็ปรากฏออกมาและยิ่งลงมือรวดเร็วแม่นยำมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าคนของเหวินเส่าอี๋ต้องการช่วยเขาก็ไม่ทันการเสียแล้ว
เมื่อกู้ชูหน่วนเห็นเช่นนี้ก็รีบยิงอาวุธลับในมือเสียงดังชู่ว์ออกไปจนดาบในมือของน่าหลานหลิงลั่วบิดออกไป
น่าหลานหลิงลั่วจ้องไปยังอาวุธลับที่คุ้นเคยมากเสียจนไม่สามารถคุ้นเคยมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
กู้ชูหน่วน
เป็นนาง……
นางก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?
เขามองไปโดยรอบทิศโดยที่ความโกลาหลเต็มไปทั่วตำหนักสวรรค์ซึ่งมองไม่เห็นว่ากู้ชูหน่วนนั้นอยู่ที่ใด
แต่ว่าเขามั่นใจว่านางอยู่ในเผ่าเพลิงฟ้า
จวนท่านแม่ทัพถูกฆ่าล้างสังหารทั้งจวนซึ่งนางเลือกที่จะช่วยเหลือลั่วอิ่ง
ตอนนี้เขามายังเผ่าเพลิงฟ้าตามหาเจ้าโจรเฒ่าซือคงเพื่อแก้แค้นและสังหารเหวินเส่าอี๋ นางก็จะช่วยเหลือหรือ?
“พวกเจ้า ฆ่า ฆ่าคนของเหวินเส่าอี๋ให้หมดห้ามเหลือแม้แต่คนเดียว” น่าหลานหลิงลั่วกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ขอรับ”
คำสั่งๆหนึ่ง คนของน่าหลานหลิงลั่วแทบทั้งหมดเคลื่อนกำลังไปหมดโดยไม่เหลือกำลังใดๆไว้ ผู้คนหลายคนสร้างรูปแบบล้อมรอบเผ่าเทียนฟ้าเพียงหนึ่งคนและง้างดาบขึ้นก็หมายชีวิตหนึ่งชีวิต
“น่าหลานหลิงลั่วเจ้ามีสิ่งใดก็พุ่งมาที่ข้า อย่าได้สังหารผู้บริสุทธิ์” เหวินเส่าอี๋โมโหจัด
น่าหลานหลิงลั่วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งน่าสะพรึงกลัว
“ข้าสังหารผู้บริสุทธิ์? หากพวกเจ้าไม่ได้กำจัดข้าจนสิ้นซาก ฆ่าล้างสังหารข้าทั้งตระกูล ฆ่าล้างพี่น้องของข้าแล้วข้าจะมาแก้แค้นพวกเจ้าหรือ?”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” พวกเขาล้างสังหารเขาทั้งตระกูลเมื่อใดกัน?
“อย่าได้เสแสร้งทำท่าทางไร้เดียงสาไม่รู้ เผ่าเพลิงฟ้าของพวกเจ้าทำสิ่งใดเจ้าในฐานะนายน้อยน่าจะรู้ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? แม้ว่าเจ้าจะไม่เข้าใจเพียงแค่เจ้าเป็นคนของเผ่าเพลิงฟ้าเจ้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
กู้ชูหน่วนตัวสั่นไปทั้งร่าง
นางคาดเดาถูกต้อง
น่าหลานหลิงลั่วก็คือเซี่ยวอวี่เซวียน
ดวงตาของกู้ชูหน่วนแดงขึ้น ร่างทั้งร่างก็อดที่จะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 753
น่าหลานหลิงลั่วกล่าวว่า “อย่างไรก็ตามยังท่านหัวหน้าเผ่าอยู่ไม่ใช่หรือ? ท่านหัวหน้าเผ่าเป็นถึงระดับเจ็ด หากว่าพวกเขาทั้งสองคนเริ่มโจมตีพร้อมกันและทุกๆคนก็วิ่งไปจัดการกับซ่งหยวนแล้วผู้ใดจะคอย “คุ้มครองท่านหัวหน้าเผ่า? ”
ซือคงรู้สึกอึดอัดใจ
ท่านหัวหน้าเผ่าโกรธจนเป็นบ้าจนตอนนี้ก็ยังไม่คืนสติแล้วจะมีสิ่งใดน่าวิตกกังวล
ไม่เช่นนั้นก็ร่วมมือร่วมใจกันกำจัดซ่งหยวนตาเฒ่าอมตะก่อนยังดีเสียกว่า
เขาก็เป็นระดับหกแต่ว่าเขายังไม่ถึงชั้นสูงสุด รวมทั้งตอนนี้ซ่งหยวนเต็มไปด้วยกลิ่นไอสังหารเช่นนี้ซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เป็นครึ่ง
ไม่ว่าเขาจะโง่เขลาเพียงใดก็ไม่สามารถปะทะกับเขาซึ่งๆหน้าโดยตรงได้
“พรึ่บๆๆ……”
ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตเป็นก่ายเป็นกอง
แม้ว่าผู้คนเหล่านี้จะเป็นลูกน้องของเผ่าซือคงแต่เหวินเส่าอี๋ก็ยังคงรู้สึกปวดใจเช่นดังเดิม
หลังจากเกิดหายนะไม่คาดคิดต่อเนื่องนานหลายวัน น้ำตาประกายแวววาวของเหวินเส่าอี๋ก็ไหลลงมาอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ท้ายที่สุดดวงตาอันอบอุ่นก็ได้มองไปยังการสังหารทั้งสี่ทิศและผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนผู้ซึ่งพูดจาสกปรก
“เจ้าซือคงน้อยหากเจ้ามีความสามารถก็ไปสังหารด้วยตนเอง เจ้าคิดว่าลากผู้คนจำนวนมากเช่นนี้มาเป็นตัวตายแทนเจ้าแล้วเจ้าจะสามารถหนีไปได้หรือ? ถุย”
“น่าหลานเจ้าลูกเต่าไม่ใช่ว่าเจ้านั้นช่างหยิ่งยโสนักหรอกหรือ? เหตุใดตอนนี้ถึงได้หดหัวเหมือนเต่าในกระดองเสียหล่ะ?”
“เจ้าเศษสวะตงหลิงเจ้าสารเลวเสียจนไม่แม้แต่จะถือเป็นไข่มุก เจ้าเป็นดังเศษสวะสิ่งปฏิกูลในหลุมส้วมทั้งเหม็นเน่าและน่าขยะแขยงนัก”
น่าหลานหลิงลั่วมองไปยังสนามรบอย่างเย็นชาโดยไม่รู้สึกรู้สาใดๆ
สีหน้าของซีคงซีดเผือด
ผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงทนไม่ไหวอีกต่อไป ฝ่ามือฟ้าร้องกึกก้องสะท้านฝ่ามือหนึ่งฟาดเป็นแนวนอนออกไปเลยโดยตรง
เช่นไรเขาก็เป็นผู้อาวุโสสูงสุดผู้หนึ่งแต่กลับถูกซ่งหยวนดุด่าท่ามกลางผู้คนมากมายราวกับหมูกับหมา หากว่าเขาไม่ลงมือภายหน้าจะยังสามารถเงยหน้าอยู่ในเผ่าได้หรือ?
ผู้อาวุโสสูงสุดสองคนต่อสู้กันอยู่ซึ่งฉากนั้นก็ยิ่งตกตะลึง เศษหินปรักหักพังถูกง้างขึ้นเป็นชิ้นๆและในตำหนักสวรรค์ก็ได้ปรากฏเสียงระเบิดดังกึกก้องพร้อมกับเสียงดุด่าไปมาของทั้งสองคนเป็นครั้งคราว
เนื่องจากซ่งหยวนด้านหนึ่งสังหารคนมากมายด้วยความโมโห ด้านหนึ่งช่วยซ่งอวี้และคนอื่นๆกวาดล้างสู้รบเป็นครั้งคราว รวมถึงน่าหลานหลิงลั่วที่ฆ่าสังหารอยู่อย่างเหี้ยมโหดโดยตลอดซึ่งในเวลานี้ก็ได้เป็นผู้ที่กุมเอาไว้ในมือไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ซ่งอวี้และคนอื่นๆจึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาให้ลูกน้องนำท่านหัวหน้าเผ่าที่ไร้สติจากไปก่อนและตนเองก็สังหารไปจนถึงข้างกายเหวินเส่าอี๋ด้วยตนเองและต้องการนำเหวินเส่าอี๋จากไปพร้อมกัน
ซือคงจะปล่อยเหวินเส่าอี้ไปได้อย่างไร
จึงได้สังหารเข้าไปด้วยตนเอง
เหวินเส่าอี๋ผลักมือของซ่งหยวนออกและกล่าวขึ้นว่า “ไป พาท่านพ่อของข้าออกไปจากที่นี่ก่อน”
“นายน้อยหัวหน้าเผ่า……”
“ไป……”
เป้าหมายของซือคงอยู่ที่เขา
รวมถึงเหวินเส่าอี๋ยังมีปัจจัยเสมอเท่ากับซือคงและซ่งหยวนก็ไม่สามารถทนรับมือได้นานนัก
ซ่งอวี้ทำได้เพียงกัดฟันยอมแพ้ที่จะช่วยเหลือเหวินเส่าอี๋อีกครั้งและตัดกำลังคนการคุ้มกันของท่านหัวหน้าเผ่า
น่าหลานหลิงลั่วซึ่งเดิมทีนั่งอยู่ดูอยู่บนบ่อน้ำในเวลานี้ก็ได้ส่งคนมาขววางพวกเขาเอาไว้และสังหารโดยไม่สอบถามใดๆ
เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างโกรธเคือง “รองหัวหน้าเผ่า ข้าจะเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายให้หยุดลงเดี๋ยวนี้ไม่เช่นนั้นข้าจะให้คนทำลายเผ่าเพลิงฟ้าในทันที”
“น่าหลานหลิงลั่วเจ้าได้ยินหรือเปล่า? รีบหยุดเร็วเข้า”
การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็จะต้องเป็นผู้ชนะเหตุใดจึงจำต้องรีบเร่งในชั่วขณะด้วย
น่าหลานหลิงลั่วกล่าวว่า “ท่านรองหัวหน้าเผ่า เหวินเส่าอี๋ใจจดจ่อที่จะเป็นหัวหน้าเผ่าแล้วเขาจะไม่อาลัยอาวรณ์ที่จะทำลายเผ่าเพลิงฟ้าทั้งเผ่าได้อย่างไร?”
ความหมายของน่าหลานหลิงลั่วคือในใจเหวินเส่าอี๋อยู่ที่เผ่าเพลิงฟ้าซึ่งหนึ่งในนั้นยังเป็นพ่อของเขาด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำลายเผ่าเพลิงฟ้าเป็นเพียงแค่การข่มขู่ก็เท่านั้น
“แล้วหากว่าเขาทำลายจริงๆหล่ะ?”
“หรือว่าข้าน่าหลานหลิงลั่วไม่ต้องการชีวิตแล้วหรอกหรือ? สาวกนับหมื่นที่ข้านำมาก็ไม่ต้องการชีวิตแล้วด้วยหรือ? ท่านรองหัวหน้าเผ่าพวกเราหุบเขาตันหุยทำทุกอย่างเพื่อช่วยท่าน คิดไม่ถึงว่าท่านจะขี้ขลาดเช่นนั้นช่างทำให้ข้าปวดใจยิ่งนัก”
“หากว่าท่านต้องการให้ข้าหยุดก็ได้ แต่ความวุ่นวายภายในของเผ่าเพลิงฟ้าพวกเราจะไม่เข้าไปร่วมด้วยอีกต่อไป”
“เจ้า……”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงทนไม่ไหวที่จะฟาดฝ่ามือหนึ่งเพื่อเอาน่าหลานหลิงลั่วให้ตาย
ในช่วงขณะร่วมมือกันนั้นเหตุใดถึงดูไม่ออกว่าเขานั้นทรยศเช่นนั้น
“ข้านับถึงสามหากว่าพวกเจ้ายังไม่หยุด พวกเราก็จะถือรวมไปด้วยกัน” เหวินเส่าอี๋กล่าวข่มขู่
ซือคงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในขณะที่เขาเลือกได้ยากลำบากผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงก็ถูกผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนซัดตายทั้งที่ยังมีชีวิต เลือดสดๆและลำไส้ก็ได้ไหลทะลักไปทั่วพื้นดินอย่างน่าตกใจ
นอกจากตงหลิงแล้วยังมีผู้อาวุโสสูงสุดอีกผู้หนึ่งสิ้นใจอยู่ข้างๆซือคง
แม้ว่าจะสังหารผู้อาวุโสสูงสุดสองคนไปได้ซ่งหยวนก็ไม่ได้ดีกว่าไปเท่าใดนัก ร่างกายของเขานยิ่งอยู่ก็ยิ่งโปร่งใสมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะเกือบถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแล้ว
ดังนั้นเขาจึงมุ่งเป้าไปที่รองหัวหน้าเผ่าซือคง
“พรึ่บๆๆ……”
ฝ่ามือใหญ่ซัดไปยังผู้คนที่อยู่เบื้องหน้าของซือคงจนกลายเป็นหมอกโลหิตไปหมด ส่วนซือคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรับมือกับฝ่ามือนั้น
เขาไม่เชื่อว่าเขาผู้เป็นขั้นต้นระดับหกจะไม่สามารถเอาชนะซ่งหยวนที่กำลังจะตายซึ่งยังคงเหลืออยู่เพียงลมหายใจเดียวเท่านั้น
ยอดฝีมือทั้งสองต่อสู้กันด้วยกระบวนท่าความเคลื่อนไหวอันหนักหน่วงและรวดเร็วเสียจนผู้คนไม่สามารถรับมือได้
ที่นี่ต่อสู่กันอยู่ อีกด้านหนึ่งก็ต่อสู้กันอยู่
น่าหลานหลิงลั่วเหลือบมองและตั้งเป้าไปยังเหวินเส่าอี๋ เขาเดินไปข้างกายเหวินเส่าอี๋ทีละก้าวๆและชักดาบพุ่งเข้าไปตรงหัวใจของเหวินเส่าอี๋อย่างโหดเหี้ยม
เกือบในเวลาเดียวกันคนของน่าหลานหลิงลั่วได้ลงมือจัดการเอามือไขว้หลังสาวกเผ่าเพลิงฟ้าของเหวินเส่าอี๋ทีละคนๆ
คนของซือคงกล่าวอย่างร้อนรนว่า “นายน้อยแห่งหุบเขาน่าหลานท่านทำสิ่งใด อย่าลืมข้อตกลงระหว่างท่านกับรองหัวหน้าเผ่าของเรา”
“ก็เพราะมีข้อตกลงกับรองหัวหน้าเผ่าดังนั้นข้าจึงต้องสังหารเหวินเส่าอี๋และช่วยท่านหัวหน้าเผ่าออกมา”
“เขาตายไปพวกเราทุกคนก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เผ่าเพลิงฟ้าทั้งหมดก็จะต้องถูกทำลายไป”
“ถูกทำลายก็ถูกทำลาย ผู้คนในใต้หล้าที่ไม่สมควรถูกทำลายก็ได้ถูกทำลายไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?”
เมื่อนึกถึงความตายอันน่าสลดของพี่น้องและคนอื่นๆของตน ความเกลียดชังของน่าหลานหลิงลั่วก็ปรากฏออกมาและยิ่งลงมือรวดเร็วแม่นยำมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าคนของเหวินเส่าอี๋ต้องการช่วยเขาก็ไม่ทันการเสียแล้ว
เมื่อกู้ชูหน่วนเห็นเช่นนี้ก็รีบยิงอาวุธลับในมือเสียงดังชู่ว์ออกไปจนดาบในมือของน่าหลานหลิงลั่วบิดออกไป
น่าหลานหลิงลั่วจ้องไปยังอาวุธลับที่คุ้นเคยมากเสียจนไม่สามารถคุ้นเคยมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
กู้ชูหน่วน
เป็นนาง……
นางก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?
เขามองไปโดยรอบทิศโดยที่ความโกลาหลเต็มไปทั่วตำหนักสวรรค์ซึ่งมองไม่เห็นว่ากู้ชูหน่วนนั้นอยู่ที่ใด
แต่ว่าเขามั่นใจว่านางอยู่ในเผ่าเพลิงฟ้า
จวนท่านแม่ทัพถูกฆ่าล้างสังหารทั้งจวนซึ่งนางเลือกที่จะช่วยเหลือลั่วอิ่ง
ตอนนี้เขามายังเผ่าเพลิงฟ้าตามหาเจ้าโจรเฒ่าซือคงเพื่อแก้แค้นและสังหารเหวินเส่าอี๋ นางก็จะช่วยเหลือหรือ?
“พวกเจ้า ฆ่า ฆ่าคนของเหวินเส่าอี๋ให้หมดห้ามเหลือแม้แต่คนเดียว” น่าหลานหลิงลั่วกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ขอรับ”
คำสั่งๆหนึ่ง คนของน่าหลานหลิงลั่วแทบทั้งหมดเคลื่อนกำลังไปหมดโดยไม่เหลือกำลังใดๆไว้ ผู้คนหลายคนสร้างรูปแบบล้อมรอบเผ่าเทียนฟ้าเพียงหนึ่งคนและง้างดาบขึ้นก็หมายชีวิตหนึ่งชีวิต
“น่าหลานหลิงลั่วเจ้ามีสิ่งใดก็พุ่งมาที่ข้า อย่าได้สังหารผู้บริสุทธิ์” เหวินเส่าอี๋โมโหจัด
น่าหลานหลิงลั่วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งน่าสะพรึงกลัว
“ข้าสังหารผู้บริสุทธิ์? หากพวกเจ้าไม่ได้กำจัดข้าจนสิ้นซาก ฆ่าล้างสังหารข้าทั้งตระกูล ฆ่าล้างพี่น้องของข้าแล้วข้าจะมาแก้แค้นพวกเจ้าหรือ?”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” พวกเขาล้างสังหารเขาทั้งตระกูลเมื่อใดกัน?
“อย่าได้เสแสร้งทำท่าทางไร้เดียงสาไม่รู้ เผ่าเพลิงฟ้าของพวกเจ้าทำสิ่งใดเจ้าในฐานะนายน้อยน่าจะรู้ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? แม้ว่าเจ้าจะไม่เข้าใจเพียงแค่เจ้าเป็นคนของเผ่าเพลิงฟ้าเจ้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
กู้ชูหน่วนตัวสั่นไปทั้งร่าง
นางคาดเดาถูกต้อง
น่าหลานหลิงลั่วก็คือเซี่ยวอวี่เซวียน
ดวงตาของกู้ชูหน่วนแดงขึ้น ร่างทั้งร่างก็อดที่จะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 767
“ท่านคิดดีแล้วหรือ?” มือของผู้อาวุโสสูงสุดหยุดชะงักและมองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างตั้งใจ
กู้ชูหน่วนฝืนยิ้มออกมา “ข้ามีทางเลือกอย่างนั้นหรือ? คำสาปโลหิตของเผ่าหยกสามารถออกฤทธิ์กำเริบได้ทุกเมื่อ ต่อให้ไม่ออกฤทธิ์ตอนนี้ เช่นนั้นแล้ววันขึ้นสิบห้าค่ำต้องออกฤทธิ์อย่างแน่นอน อีกอย่างท่านพี่เฉินเฟยและไป๋จิ่น รวมไปถึงผู้คนอีกนับร้อยคนก็ได้เสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อการกำจัดคำสาปโลหิต ข้าจะปล่อยให้พวกเขาตายอย่างเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร”
อีกอย่าง เยี่ยจิ่งหานก็ถูกคำสาปโลหิตและเวลาของเขาก็เหลือไม่มากแล้ว
เผ่าหยกค้นหาไข่มุกมังกรมาตลอดหลายพันหลายร้อยปี เพื่อกำจัดคำสาปโลหิตและยังต้องเสียสละชีวิตของผู้คนไปจำนวนมาก
“มี ท่านมีทางเลือก แม้ว่าท่านไม่เสียสละ เช่นนั้นแล้วคนในเผ่าก็ไม่สามารถว่าอะไรท่านได้” ขอเพียงนางสามารถพูดเกลี้ยกล่อมตัวเองได้
กู้ชูหน่วนกลอกตา
ผู้อาวุโสสูงสุดรู้อยู่แก่ใจดีว่า หากนางไม่เสียสละ เช่นนั้นแล้วชีวิตนี้คงรู้สึกไม่ดีไปตลอด แต่เขากลับพูดเช่นนี้ออกมา
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเผ่าหยก นับว่าเป็นความเศร้าโศกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง
“หากท่านยังเห็นว่าขาเป็นหัวหน้าเผ่าอยู่ หากท่านยังรู้สึกผิดต่อข้าอยู่บ้าง เช่นนั้นท่านสามารถสัญญากับข้าได้หรือไม่?”
“เรื่องอะไรหรือ”
“เรื่องแรก ให้อภัยเยี่ยจิ่งหานและปล่อยเยี่ยจิ่งหานไป ตั้งแต่นี้ต่อไปเผ่าหยกห้ามทำอะไรไม่ดีต่อเยี่ยจิ่งหาน และต้องปกป้องเขาไปตลอดชีวิต ห้ามบอกให้เขารู้ว่าข้าควักหัวใจของตัวเองออกมาเพื่อเสียสละในการกำจัดคำสาปโลหิตนี้”
“ได้” ผู้อาวุโสสูงสุดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าตอบตกลง
“เรื่องที่สอง ปกป้องคุ้มครองเซี่ยวอวี่เซวียน”
“ได้ ขอเพียงแค่เซี่ยวอวี่เซวียนไม่ทำเรื่องที่น่าโกรธโมโหและฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ เช่นนั้นแล้วเผ่าหยกจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเขาและเขาจะไม่มีวันได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย”
“เรื่องที่สาม หากเหวินเส่าอี๋ไม่ได้ทำเรื่องที่ร้ายแรงเกินไป เช่นนั้นก็ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าไปทำร้ายเขาเลย ถึงอย่างไรเสีย เขา……ก็มีพระคุณกับข้า และเพราะข้าเอง เขาถึงต้องค่อยๆ……”
เรื่องที่สามนี้ทำเอาผู้อาวุโสสูงสุดรู้สึกลำบากใจอย่างมาก
เกรงว่าทั้งเผ่าหยกคงไม่มีทางตอบตกลงอย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดของเหวินเส่าอี๋ที่ผู้อาวุโสสูงเล่าให้ฟัง ผู้อาวุโสสูงสุดรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
กลัวว่าเหวินเส่าอี๋คงไม่ใช่เหวินเส่าอี๋คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
สิ่งที่ฮวาอิ่งทำลงไปในอดีต ยังคงตอกย้ำซ้ำเติมอยู่ในใจ กลัวก็แต่ว่าเหวินเส่าอี๋จะเดินตามรอยของนาง
หากว่า……
หากว่าเหวินเส่าอี๋เป็นเช่นเดียวกับฮวาอิ่ง เช่นนั้นแล้วเผ่าหยกไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
กู้ชูหน่วนราวกับคาดเดาถึงสิ่งที่เขาคิดได้และจึงกล่าวออกมาว่า “เหวินเส่าอี๋ไม่เหมือนกับฮวาอิ่ง เขาไม่ชั่วร้ายเช่นนั้น”
“ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงกันได้”
“หากเขาเปลี่ยนไปเป็นคนเลือดเย็นไร้หัวจิตหัวใจและฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม กระทำแต่เรื่องชั่วช้า เช่นนั้นแล้วพวกท่านอยากจะฆ่าก็ฆ่าได้ แต่หากไม่ใช่ หากเขายังพอมีมโนธรรมอยู่บ้าง เช่นนั้นก็ใจกว้างกับเขาเสียหน่อยเถอะ”
“นี่คือเรื่องที่ท่านต้องการจริงๆ อย่างนั้นหรือ?”
“ท่านคิดว่าข้ากำลังพูดเล่นกับท่านอย่างนั้นหรือ?”
“ได้ ขอเพียงแค่เป็นสิ่งที่ท่านต้องการ เช่นนั้นแล้วข้าจะพยายามช่วยให้ท่านทุกอย่างตามความปรารถนา”
“ขอบคุณมาก”
กู้ชูหน่วนยังต้องการให้เผ่าหยกช่วยดูแลคุ้มครองจอมมารอีกด้วย
แต่……
จากนิสัยและความสามารถของจอมมารแล้วนั้น
บนโลกนี้ คนที่สามารถข่มขู่และทำร้ายเขาได้นั้น เกรงว่าจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
เขาก็คงไม่ต้องการให้เผ่าหยกต้องมาปกป้องดูแลหรอก
จากนั้นกู้ชูหน่วนจึงไม่ได้พูดออกมา
“ข้าตอบตกลงกับทุกความต้องการของท่าน ตอนนี้……เช่นนั้นแล้วท่านก็ควรตอบตกลงความต้องการของข้าบ้าง”
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะออกมา
“ความต้องการของท่าน? ข้าเป็นเพียงคนที่กำลังจะตาย ข้าจะช่วยท่านทำความต้องการสำเร็จหรือ?”
“ได้สิ ได้แน่นอนอยู่แล้ว”
“ท่านพูดมาเถอะ พูดจบก็รีบเตรียมเริ่มทำการได้แล้ว”
“เรื่องที่หนึ่ง สัญญากับข้าว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม ท่านยังคงเป็นหัวหน้าเผ่าหยกเสมอ ท่านต้องใช้ความพยายามทั้งหมดที่มี เพื่อปกป้องคุ้มครองคนในเผ่า”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว
“ท่านหมายถึงชาติหน้าหรือ?”
“ท่านคิดว่าเป็นชาติหน้าก็ได้”
“เรื่องที่สองล่ะ?”
“เรื่องที่สอง ปู่ไม่ต้องการให้ท่านคบหากับเยี่ยจิ่งหาน ถึงแม้ว่าจอมมารจะมีนิสัยที่แปลกแตกต่างออกไปบ้าง แต่เขาก็จริงใจกับท่าน ท่านสามารถลองคบหาดูใจกับเขาได้”
“ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านล้อข้าเล่นอย่างนั้นหรือ?”
“เรื่องที่สาม ปู่อยากให้ท่านมีความสุขในทุกๆ วันและไม่มีเรื่องต้องกังวลใดๆ”
“เรื่องที่สี่ หากเหวินเส่าอี๋เปลี่ยนไปเป็นคนชั่วร้าย ข้าหวังว่าท่านจะฆ่าเขาเสีย เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองความสงบและปลอดภัยของเผ่าหยก เผ่าหยกพบเจอความโหดร้ายมากว่าร้อยปีพันปีแล้วและไม่สามารถเจอกับเรื่องร้ายๆ ได้อีก”
กู้ชูหน่วนเอามือกอดอกและยืนพิงกำแพง จากนั้นถามออกมาอย่างเกียจคร้าน
“ผู้อาวุโสสูงสุด ฟังจากน้ำเสียงของท่านแล้ว ผู้ที่เป็นฝ่ายสั่งเสียกลับเป็นท่านเสียเองไม่ใช่ข้า หรือว่าการกำจัดคำสาปโลหิตนี้ นอกจากต้องควักหัวใจของข้าออกมาแล้ว ยังมีวิธีอื่นอีกอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่มีแล้ว นอกเสียจากท่านจะต้องสละชีวิตของท่าน เพื่อให้เลือดจากหัวใจหลอมรวมเข้าไปในเตาเผากลั่นยา ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถกำจัดคำสาปโลหิตไปได้”
“เช่นนั้นแล้วท่านจะพูดมากเช่นนี้ไปเพื่ออะไร?”
“ข้า…….”
ผู้อาวุโสสูงสุดหยุดชะงักและไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมา
เขาก็หวังว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นกัน
แม้ว่า……
แม้ความหวังจะริบหรี่มากก็ตาม
“วันนี้เวลาไม่เหมาะสม พรุ่งนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงในเวลาที่พระอาทิตย์ส่องสว่างเต็มที่ค่อยเริ่มพิธีบูชาแล้ว เช่นนั้นแล้วความสำเร็จจะสูงขึ้น”
“ได้”
กู้ชูหน่วนวางมือทั้งสองลงและก้าวเท้าออกไปจากห้องโถงปรึกษากิจ
“อาหน่วน ท่านไม่ไปเยี่ยมเพื่อนๆ ของท่านบ้างหรือเพื่อบอกลาพวกเขา?”
“ไม่จำเป็นหรอก การจากลาเป็นเรื่องโศกเศร้าเสมอ ข้ากลัวว่าเมื่อเจอพวกเขาแล้ว ข้าจะเปลี่ยนใจและไม่สังเวยชีวิตของตัวเองอีก”
อีกอย่าง นางก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายอะไร
เพื่อนที่ดีที่สุดอย่างมากก็มีเพียงจอมมารและเซี่ยวอวี่เซวียน
หากไปเจอจอมมารก็คงมีแต่ปัญหาเกิดขึ้น
ส่วนเซี่ยวอวี่เซวียน……
เมื่อนึกถึงเซี่ยวอวี่เซวียน กู้ชูหน่วนก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
นางเพิ่งจะเดินออกมาไม่นาน ผู้อาวุโสหกที่ดื่มเหล้าอย่างเมามายก็วิ่งมาด้วยความรีบร้อนและขวางทางเดินของนาง
“อาหน่วน ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าเรื่องที่ท่านพูดกับผู้อาวุโสสูงสุดเมื่อสักครู่เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
“ท่านแอบฟังที่พวกข้าคุยกันอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าที่พวกท่านพูดกันนั้นเป็นเรื่องจริง? หากต้องการกำจัดปลดปล่อยคำสาปโลหิต จำเป็นต้องควักหัวใจของท่านจริงอย่างนั้นหรือ?”
เขาดื่มเหล้าเก่ง
และคนในเผ่าก็ไม่ต้องการให้เขาดื่มเหล้ามากเกินไป
ฉะนั้นทุกครั้งที่เขาต้องการดื่มเหล้า เขามักจะแอบไปดื่มที่ห้องโถงปรึกษากิจ
วันนี้ตอนที่เขาแอบไปดื่มเหล้าข้างในนั้น ก็แอบได้ยินที่พวกเขาพูดคุยกันเข้าโดยบังเอิญ
เขารู้ได้ทันทีจู่ๆ อาหน่วนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จะต้องมีเรื่องปิดบังทุกคนอยู่แน่ๆ
แต่ถึงอย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ถึงว่าเรื่องที่นางปิดบังนั้น กลับเป็นเรื่องที่นางจะเสียสละชีวิตของตัวเอง เพื่อกำจัดคำสาปโลหิต
“ใช่”
“ท่านบ้าไปแล้วหรือ? หากท่านต้องควักหัวใจออกมา เช่นนั้นท่านจะต้องตายเลยนะ”
“เช่นนั้นท่านบอกข้ามาสิว่าข้าควรทำเช่นไร? ให้ข้าต้องยืนมองคนใกล้ชิดของข้าต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานจนตายเฉยๆ อย่างนั้นหรือ?”
“หรือรอจนกว่าผนึกของข้าไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไปและคำสาปโลหิตออกฤทธิ์ จากนั้นกระดูกแตกหักลงทุกเดือนๆ และสุดท้ายก็ตายลงอย่างเจ็บปวดอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ได้ๆ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ได้ จะต้องมีหนทางอื่นอย่างแน่นอน”
“เรื่องนี้ข้ายังไม่อยากบอกคนอื่น โดยเฉพาะเยี่ยจิ่งหาน ท่านเก็บเรื่องนี้ให้ดีเลยนะ อย่าบอกใครเด็ดขาด”
“อาหน่วน เราคิดหาวิธีอื่นดีกว่าเถอะนะ”
“เผ่าหยกคิดหาวิธีมาแล้วกว่าหนึ่งพันปี มีวิธีอื่นอย่างนั้นหรือ?”
“เช่นนั้นหากท่านตายไป ข้าจะทำอย่างไร?”
“……”
กู้ชูหน่วนแย่งไหเหล้าไปจากมือของผู้อาวุโสหกและเดินผ่านผู้อาวุโสหกจากไปเพียงลำพัง จากนั้นเอนหลังเพื่อดื่มเหล้าและหลงเหลือไว้เพียงความอ้างว้างและร้องเพลงขณะเดินออกไป
นางมีความมุ่งมั่นและไม่สามารถที่จะพูดเกลี้ยกล่อมได้เลย
ทันใดนั้นผู้อาวุโสหกก็ตื่นขึ้นจากอาการเมาเหล้า
เขากระทืบเท้าด้วยความร้อนรน
ทำอย่างไรดี?
ใครสามารถพูดเกลี้ยกล่อมนางได้?
อาหน่วนเป็นคนดื้อรั้น เกรงว่าคนในเผ่าคงไม่มีใครสามารถพูดเกลี้ยกล่อมนางได้
อีกอย่างคนในเผ่าคงไม่กล้ามีใครพูดเกลี้ยกล่อมนางหรอก