ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 666 สะใภ้ (ต้น)

ตอนที่ 666 สะใภ้ (ต้น)

ความทรงจำ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่​มีต​่อ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​ยังคง​เป็น​ตอนที่​นาง​ยัง​เล็ก​ ​ผิวขาว​ ​ตาโต​ ​เสียงใส​ราวกับ​ไข่มุก​ร่วง​ลง​บน​ถาด​หยก​ก็​ไม่​ปาน​ ​วัน​แขวน​ผ้า​พรหมจรรย์​ ​เมื่อ​เห็น​สาวงาม​ผู้​นี้​ที่​สวม​เสื้อกั๊ก​ผ้าไหม​สีแดง​ ​มวยผม​ทรง​ดอก​โบตั๋น​ ​ปัก​ล้อม​ด้วย​ไข่มุก​ ​ก็​อด​ตะลึงงัน​ไม่ได้​ ​จากนั้น​ก็​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​ที่​ดู​สนิทสนม​ ​หลังจากที่​เจียง​ซื่อ​ยก​ถ้วย​ชาคา​รวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เสร็จ​แล้ว​ ​ภายใต้​การ​แนะนำ​ของ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​นาง​รับ​ถ้วย​ชา​สีดำ​ลาย​มังกร​หงส์​จาก​ถาด​สีแดง​ที่​สาวใช้​ถือ​อยู่​ ​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​คุกเข่า​ลง​ตรงหน้า​นาง​ ​“​ท่าน​แม่​สามี​ ​ดื่ม​ชา​เจ้าค่ะ​!​”

น้ำเสียง​ยังคง​ไพเราะ​น่าฟัง​เช่นเคย

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​รับ​ถ้วยชามา​ ​เหมือนกับ​ตอนที่​เซี่ยง​ซื่อ​เข้า​จวน​มา​ ​ได้​มอบ​ทองคำ​ก้อน​เก้า​สิบ​เก้า​ชั่ง​กับ​ตั๋วเงิน​มูลค่า​เก้า​ร้อย​เก้า​สิบ​เก้า​ตำลึง​หนึ่ง​ใบ​เป็น​ของขวัญ​ต้อนรับ​ ​เพียงแต่ว่า​ทองคำ​ก้อน​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​เป็น​รูป​ดอก​ซ่อนกลิ่น​ ​ของ​เจียง​ซื่อ​เป็น​รูป​ดอก​โบตั๋น

เจียง​ซื่อ​ใบหน้า​แดงก่ำ​พลาง​พูด​ขอบคุณ​เบา​ๆ​ ​มอบ​รองเท้า​ปัก​ลาย​สอง​คู่​และ​ถุงเท้า​สอง​คู่​ให้​สือ​อี​เหนียง​เป็น​ของขวัญ​เปิด​หีบ

รองเท้า​ปัก​ลาย​สอง​คู่​ ​คู่​หนึ่ง​สีเขียว​ ​คู่​หนึ่ง​สีม่วง​ ​คู่​สีเขียว​ปัก​ลาย​ดอก​เหมย​สีชมพู​ ​และ​ปัก​ไข่มุก​ขนาด​เท่า​เมล็ดข้าว​เป็น​เกสร​ดอกไม้​ ​คู่​สีม่วง​ปัก​ลาย​กล้วยไม้​สีเหลือง​ ​ใช้​ด้าย​สีขาว​ร่าง​เป็น​ลวดลาย​ ​จะ​เห็น​ได้​ว่า​ไม่ว่า​จะ​เป็นการ​จับคู่​สี​หรือ​งานฝีมือ​ก็​ล้วน​ต้อง​ใช้เวลานาน​ ​สกุล​หวง​กับ​สกุล​สวี​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดี​ต่อกัน​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​เป็น​คนที​่​ชอบ​เติม​แต่ง​สิ่ง​ที่​ดี​อยู่​แล้ว​ให้​ดียิ่ง​ขึ้นไป​อีก​ ​หาก​ไม่มี​ข้อดี​ก็​จะ​หา​ข้อดี​ออกมา​จนได้​ ​อีก​อย่าง​รองเท้า​สอง​คู่​นี้​ก็​โดดเด่น​มาก​อยู่​แล้ว​ ​เมื่อ​เห็น​ดังนั้น​ก็​อุทาน​ด้วย​ความชื่นชม​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​นี่​เหมือนกับ​คำ​โบราณ​ที่ว่า​ ​‘​หาก​ไม่ใช่​คน​พวก​เดียวกัน​ก็​จะ​ไม่​เข้า​ประตู​จวน​เดียวกัน​’​ ​ดูงาน​ปัก​ของ​คุณนาย​น้อย​สี่​ของ​ข้า​สิ​ ​ข้าว​่า​ไม่ได้​ด้อย​ไป​กว่าฮู​หยิน​สี่​เลย​”​ ​หัวเราะ​พลาง​พูดว่า​ ​“​ดี​เลย​ ​คราวนี้​แม่​สามี​และ​ลูกสะใภ้​จะ​ได้​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​งาน​ปัก​ ​ไม่ต้อง​กลัว​ว่า​จะ​ไม่มี​เรื่อง​คุย​กัน​แล้ว​”

ทุกคน​ต่าง​ก็​เห็นด้วย​ ​พากัน​หัวเราะ​เสียงดัง

เจียง​ซื่อ​พลัน​นึกถึง​คำพูด​ของ​มารดา​ ​‘​…​แม่​สามี​ของ​เจ้า​เป็น​บุตรสาว​ของ​อนุ​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​ภรรยา​เอก​คนที​่​สอง​ ​การ​ที่นา​งมี​วันนี้​ได้​ ​จะ​เห็น​ได้​ว่านาง​นั้น​ไม่ธรรมดา​เลย​ ​เมื่อ​เจ้า​เข้า​จวน​ไป​แล้ว​ ​จำไว้​ว่า​ต้อง​ระมัดระวัง​ ​พูด​ให้​น้อยลง​ ​ทำให้​มากขึ้น​ ​ปฏิบัติตาม​กฎเกณฑ์​ ​อย่า​ทำให้​แม่​สามี​ของ​เจ้า​ไม่พอใจ​’

“​ข้า​ใช้เวลา​ครึ่ง​ปีก​ว่า​จะ​ทำ​รองเท้า​สอง​คู่​นี้​เสร็จ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ความ​เขินอาย​เล็กน้อย​ ​“​ไม่กล้า​รับคำ​ชม​ของ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​หรอก​เจ้าค่ะ​”

ทั้ง​ไม่ได้​มี​การ​ดูถูก​ตัวเอง​ ​แล้วก็​ไม่ได้​ยกย่อง​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่กลับ​ชี้ให้เห็น​ถึง​ความสำคัญ​ที่นา​งม​อบ​ของขวัญ​เปิด​หีบ​ให้​แม่​สามี

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เลิก​คิ้ว​เล็กน้อย​ ​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ที่นั่ง​ยิ้มอยู่​ตรงนั้น

ส่วน​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​รู้สึก​ว่า​คุณนาย​น้อย​สี่​ที่พึ่ง​เข้า​จวน​มา​ใหม่​ผู้​นี้​ช่าง​รู้จัก​พูดจา​ ​หัวเราะ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พา​เจียง​ซื่อ​มา​อยู่​ตรงหน้าฮู​หยิน​สาม​ ​“​นี่​คือ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สาม​ของ​เจ้า​”

เจียง​ซื่อ​คุกเข่า​โขก​ศีรษะ​คำนับ​ ​แล้ว​ยก​ถ้วย​น้ำชา​ให้​นาง

สีหน้าฮู​หยิน​สาม​ดู​ไม่​ค่อย​มีความสุข​นัก​ ​จับมือ​เจียง​ซื่อ​แล้ว​พูด​เพียง​ว่า​ ​“​งาม​จริงๆ​ ​”​ ​มอบ​ของขวัญ​ต้อนรับ​เหมือน​ตอนที่​เซี่ยง​ซื่อ​เข้า​จวน​มา

เจียง​ซื่อ​กล่าว​ขอบคุณ​เสียง​เบา​ ​ของขวัญ​เปิด​หีบ​ที่​มอบให้ฮู​หยิน​สาม​คือ​ผ้าเช็ดหน้า​สอง​ผืน

จากนั้น​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​พานาง​ไปหาฮู​หยิน​ห้า​…​พา​เดิน​ไปหา​ทีละ​คน​ ​ใช้เวลา​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​กว่า​ ​แม้ว่า​จะ​ได้รับ​สิ่งของ​มากมาย​ ​แต่​นาง​ก็​หมดแรง​แล้ว​ ​เจียง​ซื่อ​ไม่เพียงแต่​ไม่กล้า​เปิดเผย​สีหน้า​ที่​เหนื่อยล้า​ ​ซ้ำ​ยัง​พยายาม​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​และ​นอบน้อม​ให้​มาก​ที่สุด​ ​ยืน​อยู่​หลัง​แม่​สามี​ ​มุ่งหน้า​ไป​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ที่​ใช้​จัดงาน​เลี้ยง

ใน​บรรดา​สตรีที​่​มาร​่ว​มงาน​ ​โจวฮู​หยิน​มา​ใน​ฐานะ​มารดา​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​ฐานะ​สูงศักดิ์​ ​เดิน​เคียง​กับ​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ ​ส่วน​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กับ​กานฮู​หยิน​กำลัง​คุย​ไป​หัวเราะ​ไป​อยู่​ข้างๆ​ ฮู​หยิน​ห้า​จงใจ​เดิน​อยู่​ด้านหลัง​เพื่อมา​เดิน​กับ​สะใภ้​ใน​ครอบครัว​เดียวกัน​อย่างฮู​หยิน​สาม​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​และ​คนอื่นๆ​ ​เจียง​ซื่อ​ไม่​เพียง​โดน​เบียด​ออก​ไป​ ​ซ้ำ​ยัง​ตกไป​อยู่​ข้างหลัง​ของ​ทุกคน

มี​คน​บีบ​มือ​นาง​เบา​ๆ​ ​ ​แล้ว​ปล่อย​อย่างรวดเร็ว

ความสนใจ​ของ​เจียง​ซื่อ​อยู่​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทั้งหมด​ ​พลอย​ทำให้​นาง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​มาป​รากฏ​ว่า​เป็น​สวี​ซื่อ​จุน

สวี​ซื่อ​จุน​เอง​ก็​มอง​มาที​่​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​มี​ความกังวล​อย่าง​ปกปิด​ไม่อยู่

ทันใดนั้น​นาง​พลัน​นึกถึง​คืน​เข้า​ห้อง​หอ​เมื่อวาน​…​ใบหน้า​ของ​นาง​เปลี่ยนเป็น​สีแดง​ก่ำ​ราวกับ​ผ้าไหม​ก็​ไม่​ปาน

สวี​ซื่อ​จุน​ทำตัว​ไม่​ถูก​อยู่​ชั่วขณะ

“​เจ้า​…​เจ้า​ไม่เป็นอะไร​ใช่​หรือไม่​”​ ​เขา​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ด้าน​ข้าง​มีทาง​เท้า​…​สามารถ​ไป​ยืน​พัก​ได้​…​”

นาง​รู้สึก​อบอุ่น​หัวใจ

ความ​โศกเศร้า​ที่​ต้อง​แต่งงาน​มา​อยู่​ไกล​ครอบครัว​และ​ความกลัว​ต่อ​อนาคต​ ​ได้​ถูก​คำพูด​นี้​ของ​เขา​ทำให้​ความรู้สึก​เหล่านั้น​ค่อยๆ​ ​มลาย​หาย​ไป

“​ข้า​ ​ข้า​ไม่เป็นไร​…​”​ ​ขณะที่​เจียง​ซื่อ​กำลัง​พูด​ ​ทันใดนั้น​ก็​คิดได้​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​ควรจะ​ไป​พบ​แขก​ที่​เป็น​บุรุษ​กับ​พ่อ​สามี​ ​ทำไม​ถึง​มา​อยู่​ที่นี่​ได้​ ​แม้ว่า​สถานการณ์​เมื่อ​ครู่​จะ​วุ่นวาย​เล็กน้อย​ ​แต่​ที่นี่​มีสาย​ตา​คน​มากมาย​ ​ยาก​นัก​ที่จะ​ไม่มีใคร​เห็น​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​สามี​เป็น​คน​ถ่อมตน​ ​นาง​พึ่ง​จะเข้า​จวน​มา​ ​สามี​ก็​ปกป้อง​นาง​เช่นนี้​ ​ถ้าหาก​ข่าว​ไป​ถึง​หู​ของ​ท่าน​แม่​สามี​ ​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​แม่​สามี​จะ​คิด​ว่านาง​ไม่รู้​จัก​กฎระเบียบ​หรือไม่​…​สายตา​ของ​นาง​จับจ้อง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง

ไม่รู้​ว่า​โจวฮู​หยิน​พูด​อะไร​ ​ทั้ง​สือ​อี​เหนียง​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​กานฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก็​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​ดูเหมือนว่า​พวก​นาง​จะ​ไม่ได้​สังเกตเห็น​สถานการณ์​ทาง​นี้​เลย

เจียง​ซื่อ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​กำลังจะ​หันไป​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​ก็ได้​ยิน​เสียงหัวเราะ​ดัง​ขึ้น​ที่​ข้าง​หู

นาง​รู้สึก​ตื่นตระหนก​ ​หันไป​ตาม​เสียง​ด้วย​ความไม่สบายใจ​ ​เห็น​สายตา​คู่​หนึ่ง​ที่​เหมือน​จะ​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่ได้​ยิ้ม

เป็น​ฟัง​ซื่อ​พี่สะใภ้​ใหญ่

เจียง​ซื่อ​รู้สึก​ว่า​ใบหน้า​ร้อนระอุ​ ​ขณะที่​กำลัง​คิด​อยาก​จะ​เดิน​ไป​คล้อง​แขน​ฟัง​ซื่อ​ ​เพื่อ​ที่​หลังจากนั้น​จะ​ได้​พูดคุย​กับ​นาง​ ​ทำ​ราวกับว่า​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​แล้ว​ปล่อย​ให้​เรื่อง​นี้​ผ่าน​ไป​ ​แต่​ฟัง​ซื่อ​กลับ​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​ว่า​ ​“​น้อง​สี่​จะ​มาช​วน​น้อง​สะใภ้​สี่​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน​หรือ​”​ ​พูด​ไป​หัวเราะ​ไป

แม้ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​เป็น​ท่าน​ย่า​ ​แต่​นาง​ก็​เป็น​หญิง​ม่าย​ ​ในเวลานี้​ไม่เหมาะสม​ที่จะ​รับ​การคุก​เข่า​จาก​บ่าวสาว​ใน​ห้องโถง​พิธี​แห่ง​นี้

แม้ว่า​จะ​เป็น​งานเลี้ยง​ของ​ครอบครัว​ ​แต่​ก็​มี​การ​แบ่งแยก​บุรุษ​และ​สตรี​ ​แขก​ที่​เป็น​บุรุษ​จะ​อยู่​ที่​ห้องโถง​เล็ก​ที่พึ่ง​ทำพิธี​รับ​ของขวัญ​ไป​เมื่อครู่นี้​ ​ส่วน​บรรดา​สตรี​จะ​อยู่​ที่​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ที่อยู่​ข้าง​ห้องโถง​เล็ก

สวี​ซื่อ​จุน​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ให้​ไป​ส่ง​แขก​ ​ตอน​กลับมา​เขา​เห็น​สือ​อี​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​ ​กำลัง​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ ​จึง​อด​มองหา​ใน​ฝูงชน​ไม่ได้​…​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​กำลัง​ยืน​อยู่​คนเดียว​พอดี​…

เป็นธรรมดา​ที่​ต้อง​ใส่ใจ​เจ้าสาว​ ​ขณะที่​กำลัง​ถาม​ตอบ​กัน​ ​ก็​มี​คน​มอง​มาทาง​นี้

“​ใช่​แล้ว​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พึ่ง​จะ​ตระหนัก​ได้​ว่า​ตัวเอง​เสียมารยาท​แล้ว​ ​อด​เหลือบมอง​ฟัง​ซื่อ​ด้วย​ความ​ขอบคุณ​ไม่ได้​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​พ่อ​ให้​พวกเรา​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​”

สือ​อี​เหนียง​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปรึกษา​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​หลังจากที่​คู่บ่าวสาว​พา​แขก​ไป​ที่​ห้อง​จัด​เลี้ยง​แล้ว​ ​ก็​ให้​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​กลับมา​ร่วมงาน​เลี้ยง​ ​พอตอ​นบ​่าย​ค่อย​ไป​พบฮู​หยิน​สอง

“​ถ้าอย่างนั้น​พวก​เจ้า​ก็​รีบ​ไป​กัน​เถิด​!​”​ ​สถานการณ์​เปลี่ยนแปลง​ได้​ตลอดเวลา​ ​แม้ว่า​คู่บ่าวสาว​จะ​ไม่ได้​ไป​ส่ง​แขก​ที่​งานเลี้ยง​ ​แต่​ก็ได้​ไป​ส่ง​ระหว่างทาง​ ​ก็​ไม่​นับว่า​เสียมารยาท​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​กำชับ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​เจียง​ซื่อ​

ทั้งสอง​คน​ขานรับ​พร้อมกัน​ ​ก่อน​จะ​หันไป​พยักหน้า​ให้​ฟัง​ซื่อ​ ​แล้วไป​หา​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน

พอ​ถึง​วัน​แต่งงาน​วันที่​สาม​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ไป​ส่ง​แขก​ที่มา​จาก​หนาน​จิง​ ​จากนั้น​ก็​พา​เจียง​ซื่อ​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไปเที่ยว​เล่น​ที่​วัด​ต้า​เซียงกั​๋ว​ ​อาราม​เมฆ​ขาว​และ​สถานที่​อื่นๆ​ ​เอา​อาหาร​ ​เสื้อผ้า​ ​ของใช้​ ​และ​ของเล่น​ไป​เต็ม​สอง​คัน​รถม้า​ ​จากนั้น​ก็​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​อย่าง​ไม่เต็มใจ

จิ​่น​เกอ​พูด​พึมพำ​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ปีหน้า​พวกเรา​ไป​เยี่ยม​พี่​หญิง​ใหญ่​กัน​เถิด​ขอรับ​ ​พี่เขย​ใหญ่​บอก​แล้ว​ว่า​ไร่นา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ต้น​พุทรา​ ​ปีหน้า​ในเวลานี้​เป็นช่วง​เวลา​เก็บเกี่ยว​พุทรา​พอดี​ ​ข้า​ยัง​ไม่เคย​เก็บ​พุทรา​เลย​!​”

เป็นการ​ดีที​่​เด็ก​ๆ​ ​จะ​ได้​ออก​ไป​เปิดโลก​ทัศน์

เพียงแต่ว่า​เรื่อง​นี้​เป็นไปได้​ยาก​มาก​ๆ​

เป็นไปไม่ได้​ที่นาง​จะ​ทิ้ง​คนใน​จวน​ไว้​ข้างหลัง​แล้ว​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ชัง​โจว​ ​ยิ่ง​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​พา​คน​ทั้ง​จวน​ไป​ชัง​โจว​…​ยิ่ง​เป็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยิ่ง​เป็นไปไม่ได้​เข้าไป​ใหญ่​ ​หาก​เขา​ออกจาก​จวน​ก็​เหมือนกับ​เป็นตัวแทน​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ทั้ง​จวน​ ​มีพิ​ธีรี​ตอง​บางอย่าง​ที่​ไม่​อาจ​หลีกเลี่ยง​ได้​ ​ไม่​อาจ​ขาด​การ​จัดงาน​เลี้ยง​สังสรรค์​ได้​ ​และ​บาง​เรื่อง​ก็​ไม่​ละมือ​ได้​…​ทำให้​สูญเสีย​ความหมาย​ของ​การ​ไปเที่ยว​อย่าง​สิ้นเชิง

ในขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​เรื่อง​นี้​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​มาหา​พอดี

“​ข้า​คุย​กับ​ท่าน​พ่อ​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​จะ​ออกเดินทาง​กลับ​เล่อ​อาน​ใน​อีก​สอง​วัน​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ความ​เขินอาย​เล็กน้อย​ ​“​ทาง​ด้าน​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​ต้อง​รบกวน​ท่าน​แม่​ช่วยดูแล​ให้​ด้วย​ขอรับ​!​”

“​เจ้า​วางใจ​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​จะ​ดูแล​นาง​อย่างดี​”

ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​จน​ลืม​เรื่อง​ของ​จิ​่น​เกอ​ไป

ใน​ตอนกลางคืน​ ​จิ​่น​เกอ​เบียด​เข้ามา​ใน​ผ้าห่ม​กับ​บิดา​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​…​พวกเรา​ไป​เยี่ยม​พี่​หญิง​ใหญ่​กัน​เถิด​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​หยิก​จมูก​บุตรชาย​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​บอก​ความจริง​มา​ว่า​เจ้า​อยาก​ไป​เยี่ยม​พี่​หญิง​ใหญ่​หรือ​อยาก​ไปเที่ยว​กัน​แน่​”

“​ทั้งสอง​อย่าง​เลย​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูด​ด้วย​ความตื่นเต้น​ว่า​ ​“​ข้า​กับ​จิ​่ง​เกอ​นัด​กัน​ไว้​แล้ว​ ​หาก​ข้า​ไป​ชัง​โจว​เขา​จะ​พา​ข้า​ไป​พบ​พี่​สาม​ของ​เขา​…​พี่​สาม​ของ​เขา​แข่ง​ชนะ​หก​สำนัก​ศิลปะ​การต่อสู้​ใน​ชัง​โจว​ ​เก่งกาจ​เป็นอย่างมาก​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​เสียงดัง​ลั่น​ ​“​รอ​เจ้า​โต​อีก​สักหน่อย​แล้ว​ค่อย​ไป​!​”

จิ​่น​เกอ​ผิดหวัง​เป็นอย่างมาก

แต่​พอ​หิมะ​แรก​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ตกลง​มา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พา​เขา​ไป​ที่​เมือง​เป่า​ติ้ง

ไท่ฮู​หยิน​มองดู​หิมะ​ที่​ตกลง​มา​อย่างต่อเนื่อง​ ​อด​รู้สึก​เสียใจ​ไม่ได้​ ​“​หาก​รู้​ว่า​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​ไม่​ควรจะ​ตอบ​ตกลง​ให้​เขา​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ ​เขา​หนัง​เหนียว​ไม่​กลัว​อะไร​ ​แต่​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​เคย​เห็น​สถานการณ์​เช่นนี้​เสีย​เมื่อไร​กัน​!​”

“​ท่าน​โหวกับ​จิ​่น​เกอ​ต่าง​ก็​สวม​เสื้อคลุม​หนัง​ ​อีกทั้ง​ยัง​เอาถ่าน​ไป​ด้วย​หนึ่ง​คัน​รถม้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ปลอบใจ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ระหว่างทาง​พวกเขา​ไป​พัก​ที่​จุด​พัก​รถม้า​ตลอดทาง​ ​ซ้ำ​ยัง​พา​องครักษ์​ไป​ด้วย​มากมาย​ขนาด​นั้น​ ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​อย่างแน่นอน​เจ้าค่ะ​”

เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​ก็​ขมวดคิ้ว​ยิ่งกว่า​เดิม

“​สือ​อี​เหนียง​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​อยู่​กับ​เขา​ด้วยกัน​ทั้งวันทั้งคืน​ ​เขา​ได้​พูด​อะไร​กับ​เจ้า​หรือไม่​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​อย่าง​ครุ่นคิด​ว่า​ ​“​ข้า​คิด​เรื่อง​นี้​มานา​นมาก​แล้ว​ ​ใกล้​จะ​ปลายปี​แล้ว​ ​บรรดา​เถ้าแก่​ใน​ทุก​พื้นที่​จะ​ต้อง​กลับมา​จ่าย​เงิน​ ​ถ้าหาก​ไม่ได้​เป็นเพราะว่า​สนามม้า​ที่​เป่า​ติ้ง​เกิดเรื่อง​ใหญ่​ขึ้น​ ​แล้ว​เหตุใด​เขา​ถึง​ได้​รีบ​ไป​เป่า​ติ้ง​ในเวลานี้​เล่า​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ให้​จิ​่น​เกอ​ไป​กับ​เขา​ ​จะ​ได้​มี​เพื่อนร่วมทาง​ด้วย​…​ดูแล​้ว​ข้า​คิด​ว่า​คงจะ​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​เป็นห่วง​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูด​กับ​นางแบบ​นี้​เช่นกัน​ ​จาก​มุมมอง​ของ​นาง​ ​เขา​ไม่​อยาก​จะ​อยู่​ที่​เรือน​ก็​เลย​หา​ข้ออ้าง​พา​จิ​่น​เกอ​ออก​ไป​เดินเล่น​ ​มิเช่นนั้น​วันที่​ตัดสินใจ​ไป​เป่า​ติ้ง​ก็​คง​ไม่มี​อารมณ์​ผ่อนคลาย​ขนาด​นั้น

“​ถ้าหาก​สนามม้า​เกิดเรื่อง​ขึ้น​จริงๆ​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​ท่าน​โหว​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​รีบ​ควบ​ม้า​ไป​ทันที​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​ข้าง​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​คงจะ​ไม่​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ด้วย​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​สอง​ปี​มานี​้​ท่าน​โหว​อยู่​ที่​เรือน​ตลอด​ ​ออก​ไป​เดินเล่น​ข้างนอก​บ้าง​ก็ดี​เจ้าค่ะ​!​”

หลังจากที่​เขา​ดูแล​จวน​มานาน​ ​ทุกคน​ดูเหมือน​จะ​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​เพียง​บุรุษ​ที่​อายุ​เพียง​สามสิบ​กว่า​ปี​เท่านั้น

ไท่ฮู​หยิน​เริ่ม​เข้าใจ​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​ไม่พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​ ​เปลี่ยนไป​พูดคุย​เรื่อง​ใน​เรือน​กับ​สือ​อี​เหนียง

เจียง​ซื่อ​มาหา

“​ท่าน​แม่​ก็​อยู่​ที่นี่​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พอดี​เลย​”​ ​พูด​พลาง​หยิบ​กล่อง​ไม้​สีแดง​ลาย​ดอกบัว​จาก​สาวใช้​น้อย​ส่ง​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​นี่​คือ​ธูปหอม​เจียง​หนาน​ ​เหมาะสม​ที่จะ​ใช้​บูชา​พระพุทธรูป​เป็น​ที่สุด​”​ ​แล้ว​หยิบ​กล่อง​ไม้​สีแดง​ลายทอง​ส่ง​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​ธูปหอม​ร้อย​บุหงา​ ​เหมาะสม​อย่างยิ่ง​ที่จะ​ใช้​จุด​ตอน​อ่านหนังสือ​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​มารดา​ของ​ข้า​ทำ​ด้วยตัวเอง​ ​กลิ่น​ต่าง​จาก​ที่​ขาย​ใน​ตลาด​เล็กน้อย​ ​ท่าน​ย่า​กับ​ท่าน​แม่​ลอง​ใช้​ดู​ว่า​ชอบ​หรือไม่​”

สกุล​เจียง​ส่ง​คน​มาม​อบ​ของขวัญ​ตรุษจีน​เมื่อเช้านี้​ ​เครื่อง​หอม​เหล่านี้​คาด​ว่า​คงจะ​ถูก​นำมา​ใน​ตอนนั้น

ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​กล่าว​ขอบคุณ

เจียง​ซื่อ​ชี้​ไป​ที่​กล่อง​ไม้​สีแดง​ใน​มือ​สาวใช้​น้อย​ ​“​นี่​คือ​ของ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สอง​ ​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​และ​คนอื่นๆ​ ​เจ้าค่ะ​!​”

“​ไป​เถิด​ ​ไป​เถิด​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​พลาง​กำชับ​นาง​ ​“​อีก​ประเดี๋ยว​ก็​มาทา​นอา​หาร​เย็น​กับ​จุน​เกอ​ที่​เรือน​ของ​ข้า​”

เจียง​ซื่อ​ตอบรับ​อย่างกระตือรือร้น​ ​ไปหาฮู​หยิน​ห้า​ที่อยู่​ใกล้​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​มาก​ที่สุด​เป็นอัน​ดับ​แรก

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท