ตอนที่ 124 แก้ปัญหาที่ต้นตอ
หลายวันมานี้ไป๋จิ่นถงเอาแต่วางแผนว่าจะทำการค้าเช่นไรดี นางเหนื่อยล้าไปทั้งร่าง หลับไปสองชั่วยามถึงจะตื่นขึ้น
เมื่อรู้ว่าพี่หญิงใหญ่และพี่หญิงรองไปที่โถงทำพิธีนานแล้ว นางจึงรีบตื่นขึ้นมาทานอาหารว่างรองท้องเพียงเล็กน้อย จากนั้นเปลี่ยนชุดไว้อาลัยแล้วเดินจากห้องไปทันที
ไป๋จิ่นถงเดินแกมวิ่งอยู่บนระเบียงทางเดินที่มีผ้าไหมสีขาวแขวนอยู่ตลอดทางไปยังโถงทำพิธี นางมองเห็นหญิงชราจากหมู่บ้านผู้หนึ่งเดินตามหลังเจี่ยงหมัวมัวบ่าวรับใช้ข้างกายท่านย่าอยู่ไกลๆ สีหน้าของคนทั้งสองเคร่งเครียด ก้าวฝีเท้าอย่างรีบร้อนไปยังเรือนฉางโซ่ว
ไป๋จิ่นถงรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อไปถึงโถงทำพิธีจึงเล่าเรื่องนี้ให้พวกไป๋ชิงเหยียนฟัง
“มิใช่ว่าท่านย่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอกนะ” ดวงตากลมโตของไป๋จิ่นจื้อเบิกกว้าง ส่อแววกังวลเล็กน้อย
“เช้าวันนี้ข้าได้ยินท่านแม่บอกว่า ท่านย่ากล่าวว่าต้องมีคนโยนชามกระเบื้องตอนเคลื่อนขบวนศพ ท่านจึงต้องการรับลูกอนุนั่นกลับมา คงเป็นเรื่องของลูกอนุผู้นั้นกระมัง” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าว
พี่น้องไม่มีเวลาสนทนากันอีกเนื่องจากแขกเริ่มทยอยมาเคารพศพ พวกไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะทำความเคารพ
…
ในเรือนฉางโซ่ว
องค์หญิงใหญ่เอนกายนั่งพิงหมอนนุ่มลายดอกเสาวรส เมื่อฟังเรื่องราวของหมู่บ้านที่หญิงรับใช้ชราซึ่งคุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้นเล่าจนจบ มือที่คำลูกประคำอยู่ของนางจับขอบโต๊ะสีดำแน่น เบิกตาโพลง เอ่ยเสียงสูงอย่าไม่อยากเชื่อ “เจ้ากล่าวว่า…เด็กเนรคุณนั่นทำสิ่งใดนะ!”
หญิงรับใช้ชราตกใจกับท่าทีขององค์หญิงใหญ่จนสะดุ้ง รีบโขกศีรษะลงบนพื้นติดต่อกันหลายที กล่าวอย่างสั่นๆ
“คุณชาย…เช้าวันนี้คุณชายต้องการให้ภรรยาของตระกูลจี้ปรนนิบัติเขารับประทานอาหารเช้าเจ้าค่ะ ต่อมาไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น ภรรยาของตระกูลจี้เอาศีรษะกระแทกเสาจนเสียชีวิตอยู่ในห้องเจ้าค่ะ คุณชายโมโหที่โดนทำร้ายจึงสั่งให้คนชำแหละร่างของนาง สั่ง…สั่งให้คนนำไปโยนให้สุนัขทานเจ้าค่ะ สตรีผู้นั้นเป็นชาวบ้าน…”
“สารเลว!” องค์หญิงใหญ่ตบโต๊ะเล็กสีดำอย่างแรงพลางลุกขึ้นยืน
ต้องการให้ภรรยาของตระกูลจี้ปรนนิบัติตอนทานอาหารเช้า สตรีผู้นั้นเอาศีรษะกระแทกเสาจนตาย จะเป็นเพราะอันใดกันเล่า!
องค์หญิงใหญ่โมโหจนมือสั่นเทา พยายามควบคุมโทสะของตัวเองแล้วเอ่ยถาม
“ตอนที่เด็กสารเลวนั่นเรียกภรรยาของตระกูลจี้ไปรับใช้มีคนรู้เห็นเยอะหรือไม่”
หญิงรับใช้ชราพยักหน้า “บ่าวสืบมาแล้วเจ้าค่ะ คนที่หมู่บ้านต่างรับรู้กันหมดว่าคุณชายเรียกภรรยาของตระกูลจี้ไปปรนนิบัติ วันที่เจ็ดที่หมัวมัวสั่งให้คนพาคุณชายไปส่งที่หมู่บ้าน คุณชายก็สังเกตเห็นทันทีว่าภรรยาของตระกูลจี้มีใบหน้าที่งดงาม คุณชายเรียกนางมาปรนนิบัติตั้งแต่วันนั้นเลยเจ้าค่ะ แต่นางไม่ยินยอม คุณชายอาละวาดเป็นการใหญ่ คนที่หมู่บ้านกลัวว่าตัวเองจะพลอยเดือดร้อนไปด้วยจึงพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมสตรีผู้นั้น เช้าวันนี้หัวหน้าหญิงรับใช้ชราของจวนพาสตรีที่ค่อนข้างสนิทสนมกับภรรยาของตระกูลจี้ไปเกลี้ยกล่อมนางอีกครั้ง กล่าวว่าคุณชายจะจากไปแล้ว ให้นางไปปรนนิบัติเขารับประทานอาหารเช้าสักครั้งจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของสามีของนางซึ่งรับใช้อยู่ในจวนเจิ้นกั๋วกง นางจึงยอมไป แต่นึกไม่ถึงว่า…นางจะเสียชีวิตอยู่ที่นั่นเจ้าค่ะ”
เจี่ยงหมัวมัวเข้าไปลูบหลังปลอบองค์หญิงใหญ่ เอ่ยขึ้น
“จับตัวผู้ที่รู้เรื่องการตายของสตรีผู้นั้นไว้ทั้งหมด สั่งให้คนไปรับตัวหญิงชราอีกสองคนที่ก่อนหน้านี้เคยมารายงานเรื่องนี้ด้วย รอองค์หญิงใหญ่ตัดสินใจ”
“เหตุใดเด็กสารเลวนั่นจึงโหดร้ายอำมหิตถึงเพียงนี้!”
องค์หญิงใหญ่โมโหจนหน้าอกกระเพื่อม นอกเหนือจากความโกรธแล้วนางยังรู้สึกเย็นวาบในใจ บุตรอนุของเจ้ารอง…ถูกเลี้ยงจนกลายเป็นคนอำมหิตโหดร้านถึงเพียงนี้เชียวหรือ
หากไม่เห็นแก่ที่บุตรอนุผู้นี้อาจเป็นบุรุษเพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ของจวนเจิ้นกั๋วกง นางไม่อยากเก็บเด็กที่เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานผู้นี้ไว้เลยจริงๆ
เจี่ยงหมัวมัวส่งสัญญาณให้หญิงรับใช้ชราที่คุกเข่าอยู่บนพื้นออกไปก่อน เมื่อเห็นว่าหญิงชราผู้นั้นก้มศีรษะคำนับแล้วเดินออกไปแล้ว เจี่ยงหมัวมัวจึงขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น
“องค์หญิงใหญ่ มีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นเพคะ! สตรีที่เสียชีวิตผู้นี้คือภรรยาของจี้ถิงอวี๋ที่เพิ่งแต่งงานเมื่อปีที่แล้วเพคะ”
องค์หญิงใหญ่ร้อนใจดั่งไฟรน กระชากข้อมือของเจี่ยงหมัวมัว เอ่ยถามเสียงเบาหวิว
“จี้ถิงอวี๋? คนที่เสี่ยงตายนำม้วนไม้ไผ่บันทึกสถานการณ์รบกลับมาให้จวนเจิ้นกั๋วกงอย่างนั้นหรือ!”
“จี้ถิงอวี๋ ใช่ผู้นั้นเพคะ! บ่าวไม่ดีเองที่ส่งเขาไปอยู่ที่หมู่บ้านนั้น หากคุณหนูใหญ่ทราบเรื่องนี้จะทำเช่นไรดีเพคะ!” เจี่ยงหมัวมัวกุมมือองค์หญิงใหญ่แน่น เมื่อเห็นสีหน้าขององค์หญิงใหญ่ซีดเผือดลงเรื่อยๆ มือที่กำลูกประคำสั่นเทา เจี่ยงหมัวมัวรีบเข้าไปลูบมือขององค์หญิงใหญ่ “องค์หญิงใหญ่ อย่าเพิ่งกังวลเพคะ…”
ชาวบ้านธรรมดาเสียชีวิตไม่เป็นไร เป็นภรรยาที่เพิ่งแต่งงานไม่เป็นไร ทว่า นั่นคือภรรยาที่เพิ่งแต่งงานของจี้ถิงอวี๋! ภรรยาถูกข่มเหงจนฆ่าตัวตาย ขอเพียงบุรุษเลือดร้อน ไม่ว่าผู้ใดก็ทนไม่ได้ทั้งนั้น
จี้ถิงอวี๋ยอมตายเพื่อจวนเจิ้นกั๋วกง เช่นนี้ไม่เรียกว่าบุรุษเลือดร้อนหรือ
หากอาเป่าหลานสาวคนโตของนางรู้เรื่องนี้ ต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน บุตรอนุผู้นั้นจะยังมีชีวิตรอดหรือไม่!
องค์หญิงใหญ่ปล่อยมือของเจี่ยงหมัวมัว แผ่นหลังที่หยัดตรงเพราะความตึงเครียดค่อยๆ ย่อลง นางหลับตาเอนกายพิงพำนักอยู่บนที่นั่ง นิ้วมือเย็นเฉียบ
แม้นางจะมีความหวังกับเด็กในท้องของลูกสะใภ้ห้า ทว่า องค์หญิงใหญ่ลอบถามท่านหมอหลวงหวงแห่งสำนักหมอหลวงแล้ว ท่านหมอหลวงหวงกล่าวอย่างอ้อมๆ ว่าน่าจะเป็นสตรี
หากเป็นเช่นนั้นจริง บุตรอนุผู้นี้ก็คือสายเลือดคนสุดท้ายของไป๋เวยถิงแล้ว
นางรู้สึกผิดต่อตระกูลไป๋มาทั้งชีวิต รู้สึกผิดต่อไป๋เวยถิง นางอยากจะปกป้องสายเลือดของไป๋เวยถิงเอาไว้ มิเช่นนั้นหลังจากรุ่นของไป๋ชิงเหยียน สายเลือดของไป๋เวยถิงคงจบลงแค่นี้
เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นถือโอกาสตอนที่เรื่องยังไม่แดงขึ้น หากนางต้องการจะปกปิดเรื่องนี้…นางต้องตัดสินใจให้เร็วที่สุด
คนที่หมู่บ้านล้วนรับรู้ว่าเด็กสารเลวนั่นเรียกภรรยาของจี้ถิงอวี๋ไปปรนนิบัติ ต่อให้กำจัดคนที่รู้เรื่องนี้จนหมดสิ้น ทว่า หากรับเด็กเลวนั่นกลับมาวันนี้แล้ว สตรีผู้นั้นหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ยากจะรับประกันว่าเมื่อจี้ถิงอวี๋กลับไปแล้วจะไม่มีผู้ใดปากพล่อย
ถึงเวลานั้น หากจี้ถิงอวี๋กลับมาตามหาคนที่จวนเจิ้นกั๋วกง หลานสาวคนโตของนางต้องรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน ด้วยความสามารถของอาเป่าแล้วเรื่องนี้คงไม่อาจปกปิดได้อีก
ทว่า กลางเมืองหลวงเช่นนี้คงไม่อาจฆ่าปิดปากคนในหมู่บ้านเป็นร้อยๆ คนได้ หากจี้ถิงอวี๋กลับไป เขาจะไม่สงสัยเลยหรืออย่างไรกัน
เมื่อนึกถึงจี้ถิงอวี๋ องค์หญิงใหญ่กระชับมือที่ถือลูกประคำอยู่แน่น
สังหารคนเป็นร้อยเพื่อปกปิดเรื่องนี้ มิสู้สังหารคนเพียงคนเดียวเพื่อแก้ปัญหาที่ต้นตอดีกว่า ขอเพียงจี้ถิงอวี๋ตาย ไม่มาตามหาคนที่จวนเจิ้นกั๋วกง ให้คนที่หมู่บ้านเข้าใจว่าภรรยาของจี้ถิงอวี๋ตายตามไปรับใช้จี้ถิงอวี๋ก็แล้วกัน
ขอแค่ปิดบังอาเป่าได้ คนอื่นๆ องค์หญิงใหญ่ยังพอจัดการได้
จี้ถิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บหนักถึงเพียงนั้น ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
การฆ่าคน องค์หญิงใหญ่ที่เติบโตมาในวังหลวงมิใช่ไม่เคยทำ ทว่า ฆ่าคนที่มีบุญคุณต่อตระกูลไป๋ การเนรคุณทำร้ายผู้มีพระคุณอย่างโหดร้ายเช่นนี้ นางจะไม่ละอายใจได้อย่างไรกัน
หางตาขององค์หญิงใหญ่ซึมไปด้วยน้ำตา ทว่า เด็กสารเลวนั่นคือหลานชายของนาง หลานชายของนางตายไปมากพอแล้ว ไม่อาจตายเพิ่มได้อีกแล้ว!
นางต้องรักษาสายเลือดของไป๋เวยถิงเอาไว้ แม้ว่าตายไปต้องตกนรกทองแดงเพื่อไถ่บาปให้แก่จี้ถิ๋งอวี๋ นางก็ยอม!