บทที่ 192 ประกาศข่าว
ณ ออฟฟิศของบริษัทลอนก้า พอร์เตอร์กำลังหงุดหงิดมาก!
เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ไม่มีเรื่องไหนเป็นข่าวดีสำหรับเขาเลย
ข่าวใหม่จากน่าย่ากล่าวไว้ว่า มีความคืบหน้าใหม่เกี่ยวกับการเพาะพันธุ์หนูเอชเอสอาร์รุ่นใหม่ อีกไม่นานอาจจะมีข้อมูลที่แน่นอนเผยแพร่ออกมา
แม้ว่ามาร์คไลท์จะบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดและบอกว่านั่นเป็นเพียงกลยุทธ์การถ่วงเวลาเท่านั้น แถมนี่ยังเป็นแค่การเกทับฝั่งลอนก้าเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องระแวงไปเสียทุกอย่าง…
พอร์เตอร์มองใบหน้าแสนยโสโอหังของมาร์คไลท์พลางคิดอยากจะฟาดหน้าอีกฝ่ายสักที มาร์คไลท์เป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารยีนแห่งยุโรปและถือเป็นผู้ที่มีสถานะค่อนข้างสูงในวงการนี้ นอกจากนี้เขายังมีห้องห้องแล็บของตนเองในยุโรปอีกด้วย
ทุกปีบริษัทลอนก้าจ่ายเงินจำนวนมากให้พวกเขาเพื่อแลกกับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ
มาร์คไลท์เป็นพวกชอบขูดเลือดขูดเนื้อคนอื่น เพราะทุกๆ ครั้งที่ลอนก้ายื่นข้อเสนอต่างๆ ไปด้วยความหวังว่าจะได้ห้องแล็บของเขามาเข้าร่วมในบริษัท เขาก็จะปฏิเสธทุกครั้ง
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าชายคนนี้มีฐานะสูงศักดิ์ พอร์เตอร์ก็คงอยากจะเตะหน้าเขาสักที
เขารักษาชื่อเสียงของเขาในฐานะนักวิจัยมาโดยตลอด แต่เขาเป็นพวกทุนนิยม อีกทั้งยังเรียนรู้วัฒนธรรมแย่ๆ ของจีนมาด้วย
จู่ๆ พอร์เตอร์ก็เหลือบไปเห็นเอกสารที่ผู้รับผิดชอบภูมิภาคเอเชียส่งมา ทันทีที่เขาลองเปิดมันขึ้นมา ก็พบว่ามันคือ ‘วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์’
บนหน้าปกเขียนไว้ว่า ‘รื้อฟื้นการทดลองในอดีตเหล่านั้น สาเหตุที่แท้จริงของการสูญเสียระหว่างการทดลองทางคลินิก: เบสกวานีนที่ไม่เสถียร’
นี่หมายความว่าอะไร
พอร์เตอร์ดูสับสนเล็กน้อยแต่เขายังคงอ่านวารสารนั้นอย่างอดทน ทันทีที่อ่านจบเขาก็ลุกพรวดทันที
ราวๆ สามสิบเปอร์เซ็นต์ของธุรกิจที่ลอนก้าลงทุนเกี่ยวกับหนูเคเอ็ม หากข่าวนี้เป็นจริงก็มีแนวโน้มว่าบริษัทจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้น มาร์คไลท์เองก็เพิ่งจะเตรียมขายสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับหนูเคเอ็มให้กับทางบริษัท ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงห้าสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ!
เกิดอะไรขึ้น
เขารีบหันโน้ตบุ๊กให้มาร์คไลท์ดู “ไลท์ คุณดูนี่สิ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บทความนี้เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ!”
มาร์คไลท์ถูกพอร์เตอร์ตะคอกใส่จนสะดุ้ง กาแฟในแก้วเกือบหก ทั้งที่เขากำลังเตรียมจะพูดเรื่องการเพาะเลี้ยงสัตว์ในจีน แต่กลับต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอไปเมื่อได้เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของพอร์เตอร์
เขาอ่านสิ่งที่อยู่บนโน้ตบุ๊กพลางขมวดคิ้ว “วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์เหรอ”
มาร์คไลท์พึมพำกับตนเองครู่หนึ่บก่อนจะตั้งใจอ่านบทความนั้นอย่างละเอียด ทว่าเมื่ออ่านจบสีหน้าของมาร์คไลท์กลับเปลี่ยนไป艾琳小說
เป็นไปไม่ได้!
ต้องเป็นเรื่องแต่งอย่างแน่นอน!
ธนาคารยีนแห่งยุโรปมีการจดบันทึกและวิเคราะห์ความเสถียรของหนูเคเอ็มอย่างละเอียด อาจกล่าวได้ว่านี่คือหนูทดลองที่ประสบความสำเร็จและมีเสถียรภาพมากที่สุดจนถึงตอนนี้
หลังจากที่เขาลองอ่านอีกนับหลายครั้ง เขาก็แค่นยิ้มออกมา “เนื้อหาของวารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์ในบางแขนงก็ดีจริงๆ แหละครับ แต่ก็ในด้านพันธุศาสตร์ก็ถือว่ายังล้าหลัง โดยเฉพาะเรื่องยีนของหนู บางทีนี่อาจจะเป็นการทดลองที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญเท่านั้นเอง ความคิดที่จะพิสูจน์ความเสถียรของหนูเคเอ็มน่ะ มันไร้สาระสิ้นดี!”
นั่นเป็นเพราะว่างานวิจัยของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนูเคเอ็ม หากมีข่าวใดๆ เกี่ยวกับหนูเคเอ็มออกมาในช่วงนี้ เงินหลายสิบล้านดอลลาร์จะต้องสูญหายไปอย่างแน่นอน
มาร์คไลท์คิดได้เช่นนั้นก็หันไปหาพอร์เตอร์ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณพอร์เตอร์ โปรดรีบทำสัญญาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดนะครับ บริษัทเอ็กซ์เคเอเองก็ติดต่อผมมานานแล้ว อย่าปล่อยให้เงินมาเป็นตัวทดสอบมิตรภาพของเราเลยครับ”
พอร์เตอร์รับ “อืม ผมจะพยายามทำสัญญาให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้ทางบริษัทก็ยังถอยไม่ได้ ยังไงเงินห้าสิบล้านก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ผมคาดว่าสัญญาจะพร้อมในหนึ่งหรือสองสัปดาห์นี้ ในฐานะเพื่อนเก่า คุณก็น่าจะเข้าใจผมดี”
มาร์คไลท์เงียบไปก่อนจะหรี่ตาลง “ผมหวังว่าคณะกรรมการของลอนก้าจะไม่คัดค้านการตัดสินใจของคุณนะครับ”
พูดจบ มาร์คไลท์ก็ลุกขึ้นและเดินจากไปทันที
พอร์เตอร์มองไปที่ชื่อผู้เขียนบทความ ‘ไป๋เยี่ย’ ก่อนจะพูดขึ้นในใจ หวังว่าการตัดสินใจของเราจะถูกนะ
‘วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์’
วารสารฉบับพิเศษถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะข่าวที่ชวนโลกตะลึงนี้ที่แพร่กระจายไปไกลถึงห้องแล็บในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ข่าวนี้ทำให้เกิดข้อครหาต่อธนาคารยีนแห่งยุโรปที่มีการวิเคราะห์ยีนมานานแล้ว
เพราะว่าธนาคารยีนแห่งยุโรปเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือในด้านการวิเคราะห์พันธุกรรมมาเป็นเวลานาน แม้ว่าจะไม่เหมือนกับเอ็มไอโอที่เด่นในด้านสัตว์ทดลองก็ตาม แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
ดังนั้นตั้งแต่ที่มีการตีพิมพ์ ‘วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์’ ขึ้น ก็ดูเหมือนว่าอำนาจของธนาคารยีนแห่งยุโรปจะถูกตั้งคำถามไปด้วย
ในช่วงต้นปี 2003 ธนาคารยีนแห่งยุโรปได้เผยแพร่การวิเคราะห์โครงสร้างยีนของหนูเคเอ็มโดยละเอียดและยังกล่าวไว้ว่านี่คือหนูที่ใช้สำหรับการวิจัยยาในมนุษย์ได้ด้วย
เพราะฉะนั้นการที่วารสารที่เชื่อถือได้อย่าง ‘วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์’ ตีพิมพ์วารสารฉบับพิเศษออกมาเพื่ออธิบายว่าหนูเคเอ็มมีความเสถียรน้อยกว่าและเกิดการกลายพันธุ์ได้นั้นก็เปรียบเสมือนเป็นการตบหน้าพวกเขาไปด้วย
ในวันเดียวกันนั้น ทางวารสารของธนาคารยีนแห่งยุโรป ‘รายงานล่าสุดจากธนาคารยีนแห่งยุโรป’ ก็ได้ออกแถลงการณ์
“การตั้งข้อสงสัยถือเป็นคุณค่าแห่งวิทยาศาสตร์ แต่ถึงกระนั้นทางองค์กรก็คาดหวังว่านักวิจัยทุกท่านจะกล้าลืมตา แยกแยะถูกผิด และศึกษาความจริงจากลูกเล่นของบทความบางบทความ ด้วยความสัตย์จริง ทางองค์กรมีความเชี่ยวชาญด้านการศึกษายีนของหนูมาก และยืนยันได้ว่าความเสถียรของหนูเคเอ็มยังอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ โปรดอย่านำกรณียกเว้นมาใช้เป็นข้อสรุป”
ตอนนี้ทุกคนต่างคิดไปต่างๆ นานาว่าบทความจาก ‘วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์’ เป็นเรื่องจริงหรือไม่
แต่ท้ายที่สุดแล้ว อำนาจของธนาคารยีนแห่งยุโรปก็ยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของแวดวง
ตอนนี้เอง ทางสถาบันวิทยาศาสตร์ก็เผยแพร่กระบวนการทดลองลงบนเว็บไซต์ทางการออกมา ซึ่งก็คือแผนภูมิลำดับขั้นตอนการทดลองที่จัดทำโดยไป๋เยี่ยและจางซูหลานนั่นเอง
หลังจากที่ได้เผยกระบวนการทดลองออกไปแล้ว ก็แปลว่าจะมีการค้นพบลำดับเบสที่ทำให้ยีนของหนูเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งพิสูจน์ความไม่เสถียรของหนูเคเอ็มได้
เมื่อทุกคนได้เห็นขั้นตอนการทดลองก็พากันเงียบ ห้องแล็บที่ผ่านการรับรองทุกแห่งก็เริ่มต้นทำการทดลองนี้ทันที
สามวันต่อมา!
ผู้ที่ติดตามข่าวนี้ก็พบว่าธนาคารยีนแห่งยุโรปได้ลบความคิดเห็นของเมื่อไม่กี่วันก่อนออกไปแล้ว อีกทั้งผู้รับผิดชอบของธนาคารยีนก็ออกประกาศมาอีกหนึ่งฉบับ!
“ทางองค์กรโชคดีมากที่มีวารสารดีๆ อย่าง ‘วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์’ และกลุ่มนักวิจัยผู้น่านับถือจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน หลังจากที่ทางองค์กรได้ศึกษาขั้นตอนการทดลองที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนได้ให้ไว้ ทางองค์กรก็ได้วิจัยอีกครั้ง ทำให้พิสูจน์ได้ว่าลำดับเบสดังกล่าวมีอยู่จริง และพิสูจน์ให้เห็นว่าหนูเคเอ็มมีแนวโน้มที่จะเกิดการกลายพันธุ์ได้ในบางกรณี!…”
ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง ปรากฎว่าสิ่งที่ถูกตีพิมพ์ใน ‘วารสารรายงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์’ ฉบับพิเศษนั้นถูกต้อง!
และขณะเดียวกันนี้ สถาบันวิจัยทุกแห่งก็ได้ทำการทดลองและได้ข้อสรุปแบบเดียวกัน
นั่นคือในยีนของหนูเคเอ็มมีลำดับเบสที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างยีนจริงๆ