การแข่งขันชิงแชมป์โลก
ฟึ่บ!
ไม่รอให้จ้าวซานพั่งพูดจบ
ฉินมั่วเอาช่อดอกกุหลาบโยนลงถังขยะทันที ก่อนจะเดินไปที่ประตู ความเร็วสูงจนจ้าวซานพั่งไม่อาจมโนเรื่องราวต่อไปได้
ตรงไปตรงมาเกินไปแล้ว
ทางด้านป๋อจิ่วกำลังซุกมือข้างหนึ่งลงกระเป๋ากางเกง ใบหน้าหล่อหันไปด้านข้างเล็กน้อย รอยยิ้มที่มุมปากไม่ว่าอย่างไรก็ดูร้ายกาจ แม้จะย้อมผมให้เป็นสีดำแล้วก็ยังเหมือนเดิม “ท่านอ้วน ฉันรู้ว่านายอิจฉาเราสองคน อยากใช้วิธีเลวร้ายมาทำลายความรักของฉันกับหัวหน้า ถ้าว่างขนาดนี้ก็ไปคิดวิธีหาแฟนให้ได้เหอะ แล้วถ้ายังเป็นอย่างนี้อีก ฉันจะทำร้ายร่างกายนายล่ะนะ”
ทะ ทำร้ายร่างกาย?
จ้าวซานพั่งได้ยินเช่นนี้ก็กุมหน้าท้องตัวเองทันที เรียกว่ากลัวหัวหดได้เลย
ไม่สิ! เดี๋ยวนะ!
เจ้าแบล็กเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เขาไม่ได้เป็นคนส่งดอกไม้มาให้สักหน่อย!
แต่วันนี้เรื่องเล็กๆ ดังกล่าวไม่สำคัญ
เหลืออีกหนึ่งชั่วโมงการแข่งขันเกมเลเจนด์ชิงแชมป์โลกก็จะได้เวลาเปิดฉากแล้ว
สนามแข่งขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม ภายในสิ่งปลูกสร้างทรงกลมมีคนมานั่งเต็มไปหมดเรียบร้อย
มีระแบบเสียงสเตอริโอรอบทิศทาง หน้าจอยักษ์ตั้งอยู่รอบด้าน ใช้คบเพลิงเป็นจุดแบ่งแยกเขตด้านซ้ายและขวาออกจากกัน ถ้วยรางวัลสีทองระยิบระยับวางอยู่ตรงกลางนั้น!
สนามแข่งขันแบบนี้ย่อมไม่มีใครอื่นปรากฏตัวแล้ว
และเสียงเพลงหลักของเกมกำลังดังสนั่นกึกก้องทั่วสนามแข่ง!
ผู้ที่เข้ามาดูการแข่งขันล้วนไม่ได้มาเพราะต้องการสัมผัสกับความครึกครื้นแต่อย่างใด
ในฐานะที่เป็นผู้ชอบเล่นเกม ทุกคนต่างโบกไม้โบกมือ
แน่นอนว่าย่อมมีคนที่ต่างไปจากนั้น
เช่นโหลวลั่วและป๋ออิ่นที่สวมเสื้อโค้ทสีดำนั่งอยู่ข้างเธอ
ฝ่ายหลังไม่ชอบวันที่ท้องฟ้าสดใสสักเท่าไร ทว่าฝ่ายแรกเพิ่งมาชมการแข่งแบบนี้เป็นครั้งแรก ความรู้สึกไม่เลวเลยทีเดียว
เสียงที่ดังเข้าหูไม่ทำให้คนรำคาญ แต่กลับทำให้รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
พิธีกรออกมาแล้ว สวมสูทเรียบกริบและถือไมโครโฟน มุมปากยกยิ้ม “บอกผมดังๆ หน่อยว่าครั้งนี้พวกเราต้องการอะไร?”
“แชมเปี้ยน!”
เสียงผู้คนนับพันตะโกน ดังสะท้อนกึกก้องทั่วทั้งสนามแข่ง
การแข่งระดับสุดยอดเช่นนี้มีความหมายไม่ธรรมดาต่อผู้ที่มีใจรักในอีสปอร์ต!
ธงของแต่ละชาติล้วนแต่ทำเป็นสติกเกอร์ แล้วนำมาแปะบนใบหน้าผู้ชม
ด้านล่างเวที นักกีฬาที่เข้าแข่งขันต่างกำลังเตรียมตัว
ป๋อจิ่วก็เช่นกัน
เธอส่งข้อความสุดท้ายออกไปก่อนที่จะส่งมอบมือถือให้ ‘ถ้าหม่ามี้มองหนูคนเดียวก็ดีสิ สงสารตัวเองจัง’
หลังจากที่ได้รับข้อความข้างต้น โหลวลั่วก็หลุดยิ้มออกมา
ป๋ออิ่นเห็นข้อความดังกล่าวแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย ทว่าแสงอาทิตย์จ้ามาก เขาขี้เกียจจะลงมือ
โหลวลั่วมองออกว่าชายหนุ่มไม่ชอบใจนัก จึงเอียงไหล่ไปหาให้เขาพิงเธอ “การแข่งจะเริ่มแล้ว ตั้งใจดูกันเถอะ”
ป๋ออิ่นได้กลิ่นจากปลายผมของคนรัก อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ “ได้”
ไม่มีใครสนใจเธอและเขาทางนี้
ผู้ชมในสนามล้วนแต่จับจ้องกลางสนามแข่ง
ส่วนพิธีกรตะโกนออกมา “ขอเชิญทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันเดินเข้าสนามได้”
หน้าจอยักษ์รอบด้านปรากฏคบเพลิงออกมาเป็นระลอกๆ แต่ละคบเพลิงเป็นสัญลักษณ์แทนหนึ่งทีม
เมื่อชื่อประเทศจีนปรากฏขึ้น ก็ได้ยินเสียงดังข้างหู!
ฉินมั่วคลุมชุดทีมสีดำแดงเดินเข้ามาจากด้านขวา เพราะมีธงชาติประดับที่บ่า ทำให้แขนเสื้อของพวกเขาเหมือนมีไฟลุกโชน เหมือนจะทำให้คนได้ยินเสียงหัวใจเต้นกระหน่ำได้
ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงกลาง
ป๋อจิ่ว เซียวจิ่ง หลินเฟิง อวิ๋นหู่ ลั่วลั่ว เฟิงซ่าง โคโค่ หลินเฉินทาว อินอู๋เย่า จ้าวซานพั่ง
พวกเขาสวมชุดทีมแบบเดียวกัน
มีสัญลักษณ์ของประเทศประดับอยู่ที่ปลายแขนเสื้อ
พวกเขาเรียงหน้ากระดาน เดินออกมาพร้อมกัน
แรงจู่โจมที่ส่งมาให้ราวกับสร้างคลื่นยักษ์ถาโถมได้เลย!
………………………………………..
พวกเราคือแชมป์เปี้ยน!
เซวียเหยาเย่ามองดูจากด้านล่างเวที นิ้วมือสั่นเทานิดๆ
กล้องจับจ้องที่ใบหน้าของฝ่าบาทจิ่ว
เธอคนนั้นในตอนนี้ไม่ได้มีผมสีเงินอีกต่อไป แค่ซุกมือข้างหนึ่งในกระเป๋ากางเกง มุมปากหยักยิ้มเท่ เหมือนตอนเจอกันครั้งแรก
เซวียเหยาเย่าคิดว่าเธอคงไม่มีวันลืมว่าตอนที่ฝ่าบาทจิ่วหันมาพูดกับเธอว่า ‘เหยาเย่า เรามาเล่นเกมด้วยกัน เป็นไง?’
ก่อนที่จะได้เจอฝ่าบาทจิ่ว เธออ่อนแอ ขี้ขลาด อ้วนจนดูไม่ได้ เธอถึงขั้นรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม
ทำไมความมืดมนมันทรมานแบบนี้ตลอด
แต่หลังจากที่ได้เจอฝ่าบาทจิ่ว เธอก็เข้าใจว่าคนเราต้องก้าวข้ามอุปสรรค
มือต้องถือดาบมังกรลุกขึ้นจากความมืดมิดให้ได้ นี่ต่างหากคือสิ่งที่เธอควรจะทำ
แม้ว่าจะเป็นผู้หญิง แต่ก็สามารถมีความหวังที่อยากเป็นฮีโร่ได้
เหมือนในตอนนี้ที่มีตัวอักษรโลดแล่นอยู่บนแผ่นหลังของเธอ ซึ่งก็คือชื่อประเทศจีน!
เมื่อเธอช้อนสายตาขึ้น บุคลิกตอนที่มองกล้องไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
จนเมื่อมาถึงในวันนี้ ไม่รู้ว่าพวกที่บอกว่าชอบฝ่าบาทจิ่วจะเข้าใจหรือยังว่า ไม่ว่าสีผมของเธอคนนั้นจะเป็นสีอะไร ใส่ตุ้มหูสีไหน งับอมยิ้มหรือไม่ ก็ล้วนไม่สำคัญ
สำคัญตรงที่นัยน์ตาดำขลับของเธอคนนั้นยังมีแสงประกาย
เวลาเดียวกัน ทีมอื่นๆ ไม่สนใจคนพวกนี้นัก เพราะในสนามแข่งระดับโลกแล้ว ผลงานของทีมจีนไม่ได้ดีเด่นสักเท่าไร
ในฐานะที่เป็นนักกีฬาตัวจริงที่ถูกเลือก ป๋อจิ่วไม่ตื่นเต้นแต่อย่างใด เธอนั่งตรงหน้าคอมพิวเตอร์ นิ้วเรียวเกี่ยวหูฟัง ผิวสีขาวผ่องและใบหน้าที่คมคายรับกันกับเส้นผมสีดำของเธอ ดูทั้งร้ายกาจและเจ้าเล่ห์
เธอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ วางมือไว้ด้านข้าง แนวคางดูสวยน่ามองเหลือเกิน
จากนั้นคนอื่นๆ ต่างทยอยกันนั่งลงประจำตำแหน่ง
กล้องเตรียมพร้อม ทั้งยังซูมภาพ
หลายคนต่างกลั้นลมหายใจ รวมถึงจ้าวซานพั่งที่เดินลงสนาม เขากำมือแน่นตามไปด้วย
ในเวลานี้นี่เอง
เสียงของฉินมั่วดังผ่านไมโครโฟนหูฟังมาถึงหูของทุกคน “อย่าลืมนะว่าพวกเราเป็นตัวแทนประเทศจีน”
ชายหนุ่มหันมอง ใบหน้าคมสันชัดเจนนั้นยังคงให้ความรู้สึกกับทุกคนเหมือนเดิม ทั้งสูงส่งและเย็นชา
มีเพียงแววตาที่เหมือนมีอะไรลุกโชนรางๆ
นั่นคือความมุ่งมั่นของลูกผู้ชายคนหนึ่ง เขาจะทำให้ธงชาติของประเทศโบกสะบัดทั่วสนามแห่งนี้
ในชั่วอึดใจเดียว จ้าวซานพั่งก็นิ่งสงบอย่างมีสมาธิ
แม้ว่าเสียงรอบด้านจะอึกทึกครึกโครมแค่ไหนก็ตาม
ราวกับเมื่ออยู่ข้างตัวฉินมั่วแล้วทุกอย่างจะสงบลงได้ เหลือเพียงแต่การแข่งขันเท่านั้น
พวกเขา…จะต้องชนะ!
“พร้อมแล้วใช่ไหม?” ฉินมั่วกดบนหูฟังพลางถาม
ไม่มีใครตอบเพราะต่างรู้ใจกันดี
มือซ้ายของชายหนุ่มพรมลงบนคีย์บอร์ด ก้นบึ้งนัยน์ตาเคร่งขรึม “งั้นก็ลงแข่งกันเลย”
ประโยคนั้นสั้นมาก แต่กลับเหมือนปลุกอะไรบางอย่างให้ลุกฮือ
เลือดแห่งความมุ่งมั่นที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจระเบิดขึ้นมาทันที!
ในสายตาของผู้ชม คล้ายจะมีร่างเงาของเด็กหนุ่มเหล่านั้นวูบไหวออกมาได้
พวกเขาคลุมชุดทีม สวมหูฟังไว้บนศีรษะ แรงที่ขยับเมาส์แต่ละครั้งสามารถสะท้านเข้าสู่หัวใจ!
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น
ตัวละครฮีโร่บางตัวถูกห้ามใช้ในการแข่งขัน
นอกจากคนจีนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่แล้ว ไม่มีใครรู้สึกว่าทีมหน้าใหม่ทีมนี้จะชนะ จึงมาดูความครึกครื้นกันเท่านั้น
รอจนเมื่อแสงสีเงินผ่ากลางหน้าจอ ผู้คนถึงเริ่มได้รู้ว่าพวกเขามาเพื่ออะไร
ทำไมถึงมีทีมแบบนี้อยู่ด้วย?
ทุกคนต่างเป็นตัวหลักของทีมได้ เมื่อมีใครถูกเล่นงานอีกคนจะรุดเข้าช่วยเสมอ
ผู้เล่นเลนกลางอย่าเหราหรงเดินทั่ว แสดงแสนยานุภาพให้เห็น!
ผู้เล่นเลนบนอย่างเซียวจิ่งทั้งหลบและสร้างความเสียหายให้คู่แข่ง รับประกันผลการโจมตี!
ส่วนฉินมั่วใช้สกิลสามพันดาบประหารบุกโจมตี ป้องกันป้อมคริสตัลของเมืองเอาไว้!
ส่วนแบล็กพีช Z ตกหลุมมังกร ก็เปลี่ยนไอเทมแล้วแย่งมังกรอย่างเต็มกำลัง!
พวกเขายืนอยู่ที่นั่นเพื่อบอกทั้งโลกว่า
ปีนี้ พวกเขาประเทศจีน…จะมาคว้าแชมป์!
…………………………………………………..
ลูกชอบแย่งความรักของคุณไปจากผม
“เขา?” นัยน์ตาเข้มลึกของป๋ออิ่นปรากฏหมอกดำที่ใครๆ เห็นได้ไม่ง่าย “ชอบแย่งความสนใจของคุณไปจากผม อายุน้อยๆ แต่ซนสุดๆ เป็นลูกบังเกิดเกล้าที่ชอบทำให้ความรักของเราวุ่นวาย”
บุคลิกของโหลวลั่วหนักไปทางด้านการเป็นนักธุรกิจ เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวก็เลิกตาขึ้น ดูหยิ่งยโสแต่ก็สวยมาก “คุณป๋อ ตอนนี้คุณกล้าว่าร้ายลูกสาวเราต่อหน้าฉันเหรอคะ?”
ป๋ออิ่นหัวเราะ เอ่ยเสียงแช่มช้า “ก็ไม่ควรจริงๆ แหละ”
“อะไรที่ไม่ควร” โหลวลั่วเอียงคอมอง
นิ้วเรียวยาวของป๋ออิ่นยังคงจับคันร่มเอาไว้ ตอนเขายืนที่มุมถนนอย่างสุภาพและลึกลับ ดวงไฟของทั้งเมืองส่องสว่างอยู่ด้านหลังเขา ทำให้เขาดูไม่เหมือนคนบนโลกนี้ เพราะจะมีใครที่กางร่มกันฝนในตอนกลางคืน แถมร่มยังเป็นสีดำอีก
เขาเหมือนจะยิ้ม กลิ่นอายร้ายกาจปรากฏ “ไม่ควรให้คุณเจอกับลูกเลย”
โหลวลั่วหยุดเดินทันที “ฉันเคยเจอลูกหรือคะ เมื่อไรกัน?”
แล้วเจอกันที่ไหน?
หากความทรงจำของเธอไม่ผิดพลาด วันนี้เธอได้เจอเด็กหญิงอายุสามสี่ขวบแค่สองคนเท่านั้น
แถมพ่อแม่ของแม่หนูยังยืนขนาบข้างลูกด้วย อีกอย่างในนั้นไม่มีคนจีนสักคน
และไม่มีไฝเสน่ห์ด้วย
นอกเสียจากเด็กสาวน่ารักน่าชังคนนั้น…
โหลวลั่วฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่ายังไงก็ไม่เอาเด็กโตแล้วมาเชื่อมเข้ากับลูกสาวตัวเอง
แม้ว่าเด็กคนนั้นจะมีส่วนคล้ายผู้ชายตรงหน้าอยู่บ้าง โหลวลั่วก็ไม่อยากคิดเชื่อมโยงไปเช่นนั้น
ป๋ออิ่นย่อมรู้ว่าเธอคิดอะไร จึงยิ้มแย้ม ทำท่าไม่พอใจอย่างเอื่อยเฉื่อย “เดาจริงจังขนาดนั้นเชียว วันนี้คุณมองผมไม่กี่ครั้งเอง เอาแต่สนใจเขา จนผมหึงแล้วนะ”
โหลวลั่วมองเขา นัยน์ตาดำขลับเหลือเกิน เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น จึงยื่นมือขวาไปจับใบหน้าหล่อไร้ที่ตินั่น “ก็มองคุณอยู่นี่คะ”
ลมอ่อนๆ พัดเข้ามา
ผู้คนที่เดินตามถนนอดหันมามองทั้งสองไม่ได้ คงเพราะไม่เคยเห็นคู่รักแบบนี้
ผู้หญิงที่สวมชุดสูทนักธุรกิจมีบุคลิกเย็นชา เรียวขาเหยียดยาว ข้อเท้าขาวเนียนถูกสวมสร้อยเงินที่ผลุบๆ โผล่ๆ ให้เห็น ขับให้เธอดูสูงส่งห้ามแตะต้อง
ส่วนผู้ชายที่เธอลูบหน้าอยู่กลับถือร่มสีดำ เสี้ยวหน้าคมสันดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณขาวซีด มุมปากหยักยิ้ม
หากว่ากันตามเหตุผลแล้ว คนแบบนี้น่าจะชอบผู้หญิงสาวๆ ขี้อ้อนไม่ใช่เหรอ
ทุกคนที่เห็นต่างคิดว่าสองคนนี้ต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแน่ แม้จะเป็นคู่รัก แต่ก็เหมือนว่าฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเลี้ยงดูผู้ชายที่หนุ่มกว่า
ดูจากท่าทางแล้ว เขาเหมือนจะเชื่อฟังเธอทุกอย่าง เพราะไม่มีใครที่สามารถทำกิริยาเมื่อครู่โดยไม่อิหลักอิเหลื่อหรือไร้ความเขินอายได้เหมือนเธอ
ยังไงก็เหมือนลูบผู้ชายที่อยู่ใต้อาณัติตัวเองอยู่ดี
ตรงกันข้าม เธอกล่อมเขาด้วยบุคลิกแห่งความเป็นนักธุรกิจ เหมือนสัมผัสริมฝีปากตัวเอง
“ตอนนี้บอกฉันได้หรือยังคะว่าลูกอยู่ที่ไหน หรือว่าเราไม่ได้มีลูกด้วยกันจริงๆ”
ป๋ออิ่นซุกใบหน้าไว้กับมือของเธอ ก่อนจะเอียงคอจูบอุ้งมือเธออย่างแผ่วเบา “ไม่เชื่อผมอีกแล้ว?”
โหลวลั่วไม่รู้ว่าผู้ชายในวัยอย่างเขาเกาะติดคนคนหนึ่งแล้วยังทำให้อีกฝ่ายอ่านใจไม่ออกได้หรือไม่ ใบหน้าที่ซีดขาวของเขาทำให้ต้องเกรงว่าจะทำร้ายน้ำใจอีกฝ่ายหรือเปล่า
“เรื่องนี้มันลี้ลับมหัศจรรย์มาก เป็นใครก็ต้องสงสัย”
เธอลองอธิบายก่อน เพราะก่อนหน้านี้ เรื่องรถที่เธอให้เขาดูจะทำร้ายเขามาก
ป๋ออิ่นเอ่ยด้วยเสียงเซ็กซี่ “รอวันแข่งรอบสุดท้ายของมิลานจบลง ผมจะบอกคุณว่าลูกเราคือใคร แต่ก่อนหน้านั้น…คุณต้องมองผมคนเดียวเท่านั้น”
โหลวลั่วช้อนสายตามอง “ได้”
ป๋ออิ่นกล่าวเย้า “ฟังก็รู้ว่าคุณรับปากไปงั้นเอง”
โหลวลั่วหัวเราะเสียงเบา หยิกแก้มเขา “งั้นต้องทำยังไงคุณถึงจะไม่คิดว่ารับปากไปงั้นๆ?”
…………………………………..
ส่งดอกไม้ให้ฉินมั่ว
ป๋ออิ่นไม่ตอบแต่ย้อนถาม “ดูเหมือนคุณจะไม่เคยโพสต์อะไรในโมเมนต์วีแชทเลย?”
“หือ?” โหลวลั่วเลิกคิ้ว
ป๋ออิ่นยิ้ม ยื่นมือไปคว้ามือถือจากกระเป๋าเสื้อตัวนอกของเธอมา เอ่ยช้าๆ ว่า “เงยหน้าหน่อย”
โหลวลั่วอ่านความคิดของชายหนุ่มไม่ออก “จะทำอะไร…”
พูดยังไม่ทันจบ รอยจูบก็ประทับที่ซีกแก้มของเธอ
จากนั้นเสียงกดปุ่มถ่ายรูปพลันดังขึ้น หน้าของทั้งสองปรากฏในกล้องด้วยกัน
ป๋ออิ่นส่งยิ้มที่ไม่เหมือนยิ้มให้ “คุณควรจะบอกทุกคนหรือเปล่าว่าผมเป็นของคุณแล้ว เอารูปนี้โพสต์ลงในโมเมนต์ของวีแชทนะ”
เพื่อนๆ ของโหลวลั่วก็เหมือนเธอ นอกจากเรื่องธุรกิจแล้วก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องอื่นอีก เพราะแอดพนักงานและคู่ธุรกิจในแอคเคาท์ตัวเองด้วย
ทว่าโหลวลั่วกลับหัวเราะเสียงเบา หยิบมือถือมาโพสต์รูปพร้อมเพิ่มเติมข้อความลงไปว่า “ผู้ชายของฉัน”
พอจะนึกออกว่า แค่โพสต์เดียวก็ก่อให้เกิดความตะลึงกันมากเท่าไร
เรียกได้ว่าพอโหลวลั่วโพสต์เสร็จ เพื่อนๆ ก็ส่งข้อความมาหา “ประธานโหลวที่รัก ฟังฉันนะ เจ้าลูกหมาป่าของเธออะ ไม่ธรรมดาจริงๆ! เอางี้ คนทั้งวงการเขาพูดกันว่าเธอซ่อนผู้ชายไว้ในบ้าน ชอบเลี้ยงดูผูกปิ่นโตผู้ชายหนุ่มๆ แล้ว…”
โหลวลั่วไม่ดูเนื้อหาที่เหลือ เธอแค่หันหน้ามาหาเขา “พอใจหรือยัง?”
ป๋ออิ่นยื่นมือทัดเส้นผมไว้หลังหูให้เธอ เรียวปากบางยิ้มขึ้น “พอใจมากๆ”
เพื่อนๆ พูดอย่างหนึ่งไว้ไม่ผิดเลย
พวกลูกหมาป่าชอบประกาศความเป็นเจ้าของ
โหลวลั่วยิ้ม มองตามขอบร่มคันดำของเขาไปหยุดตรงหน้าจอยักษ์ที่กำลังฉายข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งในวันพรุ่งนี้
ภาพนั้นหยุดที่ใบหน้าของป๋อจิ่ว
ดูร้ายกาจ เอ้อระเหย ทรงเสน่ห์เจ้าเล่ห์
มีตุ้มหูสีดำอยู่ภายใต้เส้นผมสั้นเซอร์
นัยน์ตาเป็นประกายแทบจะสะท้อนแสงออกมาได้ เหมือนภาพที่เธอเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว
แต่เวลานั้นร่างที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเพียงเด็กน้อยตัวเล็กที่ชอบส่ายหางเสือ…
ป๋ออิ่นสังเกตว่าเธอกำลังมองอะไร เขาหันไปมอง ท้องฟ้าเหมือนจะมืดมากขึ้น “กลับโรงแรมไหม?”
โหลวลั่วตอบรับเพียงว่า “อื้ม” แต่สายตากลับไม่คลาดคลาจากร่างของเด็กคนนั้นแม้แต่น้อย
เมื่อมาถึงกลางดึก
ค้างคาวบินจากโคมไฟด้านนอกโรงแรมมาหยุดลงที่บ่าของผู้ชายคนหนึ่ง
“เจ้านายไม่ชอบอุปกรณ์การสื่อสารของพวกมนุษย์นี่ เพื่อมาดามแล้ว อะไรก็ทำได้จริงๆ”
ป๋ออิ่นเอียงคอมอง แสงสีแดงขยับเบาๆ
เจ้าค้างคาวพลันหวาดกลัว
ป๋ออิ่นหัวเราะ “เตรียมดอกไม้ไปส่งที่ห้องของฉินมั่ว”
เจ้าค้างคาวเหวอ “ส่งดอกไม้ให้คุณชายฉิน?”
เขาฟังผิดหรือเปล่า
ป๋ออิ่นหัวเราะเสียงเบา “ท่านจิ่วของพวกเราเป็นคนขี้หวงมาก”
ค้างคาว…คุณก็เลยแก้แค้นที่นายน้อยแย่งความสนใจของมาดามไปงั้นเหรอ?
เรื่องแบบนี้คนรับใช้ย่อมไม่พูดออกมา
การส่งดอกไม้ให้ถึงห้องในโรงแรมไม่ยากสำหรับพวกมัน
ทว่าคุณชายฉินเป็นคนที่มีนิสัยประหลาดมาตั้งแต่เด็ก พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้
เวลาที่นายน้อยอยู่ด้วยยังพอว่า แต่ถ้านายน้อยไม่อยู่ พวกมันรู้สึกว่าชายหนุ่มอาจยกปืนยิงพวกมันได้เลย
ในการแข่งครั้งนี้ คุณชายฉินน่าจะไม่ได้เอาปืนมาด้วย
เจ้านายก็ช่างมอบหมายงานที่พวกมันไม่อยากทำมากที่สุดให้พวกมันจริงๆ
วันนี้ กล้องวงจรปิดของโรงแรมประหลาดมาก เป็นภาพขาวไปหมด บันทึกภาพไม่ได้สักนิด
แต่เมื่อท้องฟ้าสว่าง ช่อกุหลาบแดงก็ตั้งอยู่ที่หัวเตียงของชายหนุ่ม มันสวยสดงดงาม มีการ์ดสีขาวแนบมาด้วย
เขาที่สวมชุดทีมไล้นิ้วผ่าน เลิกคิ้วขึ้นอย่างสูงส่ง
ฝั่งจ้าวซานพั่งเอาแขนพาดบ่าป๋อจิ่ว เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าแบล็กเอ๊ย แค่แข่งชิงแชมป์โลกในวันแรกเอง ฉันไม่ได้ยุแยงตะแคงรั่วจริงๆ นะ แต่ฉินมั่วต้องนอกใจนายแน่นอน ไม่งั้นจะรับดอกไม้จากคนอื่นทำไม!”
………………………………………….
โหลวลั่วไม่รู้หรอกว่าปกติแล้วเด็กคนนี้เป็นอย่างไร
แค่เวลาที่เธอดูคลิป ก็จะได้เห็นภาพคนเท่ระคนร้ายกาจที่กล้องจับภาพโดยบังเอิญ
เมื่อได้คุยกันในเวลานี้ก็รู้สึกว่าเป็นเด็กดี ทำให้เธอคีบอาหารให้อีกฝ่ายอยู่ด้านข้างเป็นระยะๆ อย่างอดไม่ได้ ไม่สนใจคุณป๋อเลย
ป๋ออิ่นนั่งอยู่ตรงนั้น รอยยิ้มที่มุมปากยังไม่หายไป ทว่านัยน์ตากลับเฉยชากว่าปกติ โดยเฉพาะเมื่อมองป๋อจิ่วที่กินอย่างเอร็ดอร่อย
ส่วนลูกสาวย่อมสังเกตเห็นสายตาของพ่อ เรียวปากบางหยักโค้ง หันไปยิ้มให้คนเป็นแม่ “อร่อยจัง”
“อร่อยก็กินเยอะๆ นะคะ” หากดูจากการแต่งตัวและออร่าของโหลวลั่ว ดูไม่ออกเลยว่าเป็นคนคีบอาหารให้คนอื่นเป็นด้วย
จ้าวซานพั่งรู้สึกเช่นกันว่าเดี๋ยวนี้ก็มีสาวสวยลุคท่านประธานคนเก่งเป็นแฟนคลับเกมเมอร์อย่างพวกเขาด้วย เหลือเชื่อจริงๆ
บอกได้แค่ว่าหน้าของเจ้าแบล็กหลอกสาวได้เยี่ยมมาก
ยิ้มเมื่อกี้พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ขายภาพลักษณ์ว่าเป็นเด็กดีสุดๆ
อันที่จริงป๋อจิ่วไม่ได้จงใจ แต่นานมากแล้วที่ไม่กินข้าวกับครอบครัว ดังนั้นทุกอากัปกิริยาจึงเหมือนตอนเป็นเด็กตามอัตโนมัติ
การได้กินข้าวแบบนี้ก่อนแข่ง ได้เห็นคุณพ่อผู้โหดหน้ายิ้มที่อยากแย่งแม่กับเธอแท้ๆ ทว่าทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ได้แต่นั่งสง่าอยู่กับที่ ป๋อจิ่วจึงหัวเราะไปตามธรรมชาติ
เธอมีความสุขมาก ราวกับหัวใจได้รับการเติมเต็ม ฟองแห่งความสุขลอยเต็มไปหมด
คงเพราะไม่มีอะไรที่โชคดีไปกว่าการมีคนที่รักตัวเองที่สุดอยู่รายล้อมแล้ว
พอป๋อจิ่วอารมณ์ดีก็กินเยอะกว่าเดิม
นี่ถ้าประธานคนสวยไม่ได้อยู่ด้วยล่ะก็ จ้าวซานพั่งหรือไม่ก็หลินเฟิงต้องเล่นงานเธอแล้ว พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ เป็นผู้หญิงแท้ๆ ต่อให้เท่กว่าพวกเขาก็ไม่น่ากินเยอะอย่างนี้
หลินเฟิงไม่มีอารมณ์จะคิดว่าทำไมหัวหน้าถึงไม่สมกับเป็นหัวหน้า อนุญาตให้คนอื่นคีบอาหารให้เจ้าแบล็กอยู่ได้
ตอนนี้เขาคิดแต่จจะคีบเนื้อตามปกติเท่านั้น
โหลวลั่วก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน จึงเอ่ยอย่างมีมารยาท ทำนองว่าการที่เธอมาด้วยเป็นการรบกวนการกินอาหารของพวกเขา
หลินเฟิงยอมรับว่าตัวเองช่วยแก้ปัญหาให้ครอบครัวมาไม่น้อย ทั้งยังมีออร่านักธุรกิจเช่นกัน
แต่หากเทียบกับคนตรงหน้า เขารู้สึกว่าสู้เธอไม่ได้จริงๆ
บุคลิกเธอดูเป็นผู้ทรงอิทธิพล ขนาดกินข้าวอยู่ เขาก็ยังเอาแต่มองเธอ
โหลวลั่วนิ่งสงบตลอด ก็เหมือนนาฬิกาเงินบนข้อมือของเธอที่อวดบารมีได้เต็มที่
ในฐานะที่เป็นผู้จัดการทีม เฟิงอี้ตรวจสอบสถานะของเธอมาแต่แรกแล้ว ตอนที่จะรายงานให้คุณชายฉินทราบ ชายหนุ่มกลับบอกว่าไม่เป็นไร ซึ่งต่างไปจากเมื่อก่อนจริงๆ
แต่ท่านประธานโหลวที่ลือกันในวงการธุรกิจว่าเป็นเทพแห่งความตาย กลับไม่ให้ความรู้สึกเช่นนั้นเมื่อได้พบหน้ากัน แถมแฟนที่เธอพามายิ่งดูลึกลับ
เพราะอย่างไรไม่น่าจะมีคนเกาะผู้หญิงกินที่เมื่อเงยหน้ามองพวกเขา แววตาก็ยังคงนิ่งไม่หวั่นไหว ท่าทีสง่างามอย่างร้ายกาจ เหมือนเป็นคนที่ทำงานอยู่ในโลกมืด สิ่งสำคัญคือท่าทีของคุณชายฉินที่ราวกับเห็นอีกฝ่ายเป็นญาติผู้ใหญ่?
เฟิงอี้ยิ่งงงหนักขึ้น
ฉินมั่วออกปากเตือนเป็นครั้งที่สองว่า ถ้าเธอยังไม่กินเองอีก คุณอาป๋อจะคิดบัญชีกับเธอแล้ว
ป๋อจิ่วหัวเราะเสียงเบาตอบกลับ เขายังไม่ได้หม่ามี้มาอย่างเป็นทางการ จะแย่งจากฉันไปได้ยังไง
ต่อให้เสียงจะเบาแค่ไหน คนเป็นพ่อก็ยังคงได้ยิน หันมามองด้วยแววตาเย็นชานิดๆ
แต่ลูกสาวหรือจะสนใจ ยังคงกินเนื้ออย่างมีความสุข
โหลวลั่วชะงักมือเมื่อได้เห็น เศษภาพเล็กน้อยๆ วาบผ่านในสมอง รูปเด็กน้อยสวมชุดนอนเสือน้อยกำลังเอียงคอกินสเต็ก ทำตาโตอย่างเด็กน้อยไร้เดียงสา ใต้ดวงตามีไฝเสน่ห์เหมือนเด็กคนนี้
……………………………………..
“มีอะไรเหรอ?” ป๋ออิ่นจับจ้องเธอด้วยเห็นว่าอีกฝ่ายพลันหยุดชะงัก
โหลวลั่วจึงค่อยได้สติ “เปล่าค่ะ”
แม้ปากจะพูดอย่างนั้น แต่หัวใจกลับหลอกตัวเองไม่ได้
ทำไมถึงมีภาพเหล่านั้นลอยอยู่ในหัวของเธอ?
โหลวลั่วบริหารบริษัทใหญ่ เธอมักพินิจทุกอย่างด้วยความใจเย็น วันนี้ก็เช่นกัน
มีบางเรื่องที่ไม่เหมาะจะพูดในตอนนี้
การกินข้าวไม่ได้ล่วงเลยจนดึกมากมาย
หลังจากที่คนในทีมกลับไป ยังต้องพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะที่นี่ไม่เหมือนในประเทศจีน
ความแตกต่างเรื่องเวลาทำให้ลำบากในบางครั้ง
ในขณะที่จะกลับไป ป๋อจิ่วยืนอยู่ใต้แสงไฟริมถนน รั้งตัวคนไว้อย่างหลักแหลม “พรุ่งนี้ต้องแข่งนัดแรก เครียดจัง”
เมื่อได้ยินคำว่าเครียดจากปากของท่านจิ่ว คุณป๋อที่นั่งถือร่มสีดำอยู่ด้านหนึ่งยิ้มเย็นชาตรงมุมปาก
ทว่าป๋อจิ่วไม่สน นัยน์ตาดำขลับวาววับ อ้อนเต็มที่ว่า “อยากให้คนไปดูแข่งจังเลย”
โหลวลั่วนึกถึงภาพที่เห็นเมื่อครู่ สายตาจับจ้องไฝเสน่ห์อีกฝ่าย กำลังคิดว่าจะทิ้งงานไว้ก่อนชั่วคราวดีไหม
เสียงนั้นก็ดังต่อมาว่า “หนูกลัวแพ้ ถ้าแพ้แล้ว ต้องมีคนหัวเราะเยาะแน่ๆ เลย”
นี่คงเป็นคำพูดที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่คุณป๋อเคยได้ยินมา
กลัวแพ้?
ท่านจิ่วเก่งด้านใช้มุกนี้ต่อหน้าผู้คนมาตั้งแต่เด็กจนโตจริงๆ
โหลวลั่วเคยเห็นคลิปการแข่งของเธอ นึกถึงนัดที่เธอแพ้ซึ่งยืนไปคอตกอยู่หน้าจอ พูดอะไรไม่ออก หัวใจก็แสนเวทนา
เธอที่สวมรองเท้าบูทส้นสูงสีดำยื่นมือไปลูบศีรษะป๋อจิ่ว “วางใจเถอะ พรุ่งนี้มีคนอยู่เป็นเพื่อนหนูตั้งมากมาย ฉันก็จะไปดูหนูเหมือนกัน”
“งั้นหนูจะรอนะ” ป๋อจิ่วยิ้ม ออดอ้อนสุดฤทธิ์
โหลวลั่วตอบรับสั้นๆ “ค่ะ”
ป๋อจิ่วไม่รบเร้าเซ้าซี้ออีก
สองตามองตามคนสองคนที่เดินจากไป ผ่านไปพักหนึ่งก็หันมากอดเอวฉินมั่ว “ฉันรู้ว่าพวกเขาต้องไม่เป็นอะไร”
“ฉันก็รู้เหมือนกัน” กระทั่งแรงที่กอดยังเพิ่มหนักขึ้น เสียงเหมือนจะสั่นเครือ ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ ไม่มีใครรู้ซึ้งเท่าเจ้าตัว
นี่เป็นภาพที่เธอไม่กล้าฝันถึงมาหลายปี แต่มันกลับปรากฏตรงหน้าแล้วในเวลานี้
มุมปากของป๋อจิ่วยังคงหยักยิ้ม เธอดีใจเหลือเกิน ความสุขที่เกิดขึ้นเหมือนไม่ใช่ของจริง
ฉินมั่วปล่อยให้ป๋อจิ่วกอดตัวเองไป ใบหน้าหล่อเหลาสูงส่งอ่อนโยนขึ้นท่ามกลางความมืด
เขาวางบนมือศีรษะของเธอ ก่อนจะลูบครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนตอนที่เขากล่อมเธอนอนเมื่อยังเป็นเด็ก
เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่พ่อแม่เธอดูไม่แก่ลงเลย เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่สำคัญเท่ากับ
สิ่งสำคัญคือทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่
อีกด้านหนึ่ง สองคนเดินเคียงกัน หิมะยังไม่ตกลงมา
ป๋ออิ่นกางร่มเดินข้างเธอ
โหลวลั่วหันไปมอง สายตาจับจ้องยังไฝเสน่ห์ของอีกฝ่าย “ลูกสาวของเราก็มีไฝเสน่ห์เหมือนกันเหรอ?”
ป๋ออิ่นไม่ตอบแต่ถามกลับ “คุณจำได้แล้วเหรอ?”
โหลวลั่วไม่ได้ตอบตรงๆ แต่พูดเพียงว่า “เมื่อไรคุณจะพาฉันไปเจอเขา?”
“ท่าทางจะยังจำไม่ได้” ป๋ออิ่นยิ้มร้าย “ไม่ต้องรีบร้อน เขาก็มีไฝเสน่ห์เหมือนกัน”
โหลวลั่วได้ยินแล้วอึ้งไป เอ่ยขอร้องเพียง “คุณเล่าให้ฉันฟังเยอะๆ หน่อยสิคะ”
“อะไรเหรอ” ป๋ออิ่นเอียงคอมอง
โหลวลั่วช้อนสายตามอง “ก็เรื่องของลูกไงคะ…”
…………………………………………………
ในขณะที่ป๋อจิ่วถูกคนข้างหลังกระชากมากอดไว้ในอ้อมแขน
ชายหนุ่มเองก็มอง ‘แฟนคลับ’ ที่เธอเพิ่งกอดคนนั้นให้ชัดตา
เขาตะลึงงันอยู่ตรงนั้นในวินาทีถัดมา หยุดคำพูดถัดจากนั้นได้อย่างไม่ง่ายเลย
ป๋อจิ่วรู้ดีว่าเขาคิดอะไร ครั้งนี้เธอพูดอย่างกล้าหาญ “พี่มั่วมาขัดจังหวะคุยของฉันกับแฟนคลับทำไม”
หากเป็นเวลาปกติ ฉินมั่วคงใช้ร่างกายเตือนให้เธอรู้ว่าเธอเป็นของใครแล้ว
คุยกันก็ต้องกอดด้วยเหรอ?
ทว่าครั้งนี้ฉินมั่วไม่ได้พูดออกไป เพราะเขาจำหน้าเธอคนนั้นได้
ตอนนั้น ทุกครั้งที่เขาไปเล่นบ้านยัยเสือน้อย มาดามป๋อจะก้มตัวลงมาพลางยิ้มให้เขา ‘มั่วมั่ว บางครั้งจิ่วของเราก็ซนมาก หนูดูๆ เขาหน่อยนะ ถ้าเขาก่อเรื่องขึ้นมาจนรบกวนหนู หนูก็มาบอกน้าเลยนะ’
ตอนนั้นเขาแค่ตอบรับเธอไป
ไม่ได้รู้สึกว่ายัยเสือน้อยรบกวนเขา
แค่ชอบทำตัวไม่เรียบร้อยเท่านั้นเอง เอาแต่กระโจนใส่คนอื่นอยู่ได้
ทว่ามาดามป๋อไม่น่าจะสอนเธอให้ทำแบบนี้
ดังนั้นฉินมั่วจึงไม่ได้เล่าให้ฟัง
บ้านตระกูลป๋อมักดื่มชาแดงในตอนกลางคืน
เพราะมาดามป๋อที่เปิดบริษัทส่วนตัวจะกลับบ้านในเวลานี้เท่านั้น
เมื่อได้เห็นใบหน้าของมาดามป๋อที่ยังเหมือนกับภาพในความทรงจำ ฉินมั่วก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
เพียงแต่เวลาผ่านมาตั้งหลายปี คนเราจะไม่เปลี่ยนเลยสักนิดเลยเหรอ?
ไม่ใช่แค่หน้าตา กระทั่งสภาพผิวพรรณก็ยังคงเดิม…
ด้วยเหตุที่ถูกฉินมั่วจับจ้อง โหลวลั่วจึงช้อนสายตามอง ก่อนจะมาที่นี่ ผู้ช่วยได้ส่งรูปที่เด็กคนนี้ถ่ายร่วมกับคนอื่นให้เธอดูหลายรูป ทั้งยังเอ่ยด้วยเสียงตื่นเต้นว่า ‘ประธานโหลวคะ คนออร่าแรงที่สุดที่ยืนข้างแบล็กพีชเป็นหัวหน้าทีมชาติจีน เทพฉินค่ะ แล้วก็เป็นแฟนของน้องด้วย’
วันนั้นโหลวลั่วจึงเพิ่งรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้หญิง
ผู้ช่วยยังเน้นย้ำอีกว่า ‘ประธานโหลวคะ ถ้าคุณไปเจอแบล็กพีชในเวลาที่มีเทพฉินอยู่ด้วย คุณห้ามแตะต้องตัวน้องเค้าเชียวนะคะ จริงๆ นะ สายตาเทพฉินนี่อย่างกับน้ำแข็งเลย’
โหลวลั่วกลับไม่รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกอะไรทั้งนั้น
บางทีเธอคงถึงวัยนั้นแล้ว การรับรู้จึงไม่ดีเหมือนเก่า
หากเหล่าแฟนคลับที่อยู่ข้างหลังรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ต้องตะโกนบอกว่าไม่ใช่หรอกแน่นอน!
พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า วันหนึ่งเทพฉินจะเห็นแบล็กพีชกอดคนอื่น แต่ไม่ลงโทษเจ้าหล่อน
มันช่าง…ไม่สมกับที่เป็นเทพฉิน!
จ้าวซานพั่งเองยังคิดว่าวันนี้ฉินเจ้าแผนการอ่อนแอไปหน่อย
อะไรกัน? แค่นี้?
ปกติแค่เขาพาดแขนที่บ่าเจ้าแบล็ก ฉินมั่วก็แทบไล่ฆ่าเขาทั่วเกมแล้ว
ทำไมพอแฟนคลับทำบ้าง เจ้านั่นกลับสองมาตรฐาน
เหล่าแฟนคลับยิ่งอยากเป็นพยานให้ได้แบบไม่สองมาตรฐาน!
แค่พวกเขาแตะต้องแบล็กพีช เทพฉินก็แผ่ไอเย็นเยือกออกมาแล้ว
วันนี้จริงๆ เลย…ตอนเริ่มพูดก็ปกติ แต่พอพูดต่อก็ไม่ปกติแล้ว!
สิ่งที่น่าประหลาดที่สุดก็คือ ฉินมั่วปล่อยคอเสื้อของแบล็กพีช เท่ากับอนุญาตให้เจ้าหล่อนกอดแฟนคลับต่อไปนี่?
จ้าวซานพั่งที่อยู่ด้านข้างอึ้งตะลึงไปแล้ว
เขารู้สึกว่าไม่เพียงแต่แบล็กพีชที่โดนผีสิง กระทั่งฉินเจ้าแผนการยังเหมือนเปลี่ยนวิญญาณ
เล่นอะไรกัน แบบนี้ยังจะแข่งได้อีกไหม?
ฉินมั่วไม่เหมือนกับเวลาปกติจริงๆ เขาอนุญาตให้เจ้าแบล็กกอดคนอื่นต่อตั้งแต่เมื่อไร?
ขนาดช็อกโกแล็ตรูปคีย์บอร์ดที่แฟนคลับส่งมาให้ คนที่ไม่ชอบของหวานอย่างเขายังกินแทนแบล็กพีชเลย
เวลานี้เขากลับเปี่ยมไปด้วยมารยาทยิ่งกว่าตอนอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสในเขตทหาร มองไปทางเธอคนนั้น “คุณมาคนเดียวเหรอครับ?”
จ้าวซานพั่ง “…”
……………………………………………
คนฉลาดอย่างโหลวลั่วเงยหน้ามองดูเด็กวัยรุ่นตรงหน้า ออร่านักธุรกิจยังจับตัวไม่เสื่อมคลาย ถึงขั้นยิ่งเจิดจรัสมากขึ้น “พวกเรารู้จักกันด้วยเหรอคะ?”
ทันทีที่ได้ยิน ฉินมั่วมองคนในอ้อมแขน ป๋อจิ่วก็แสดงสีหน้าว่าเธองง
ฉินมั่วยังคงเย็นชาไม่เปลี่ยน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เป็นปกติแล้ว “ผมเคยเห็นคุณบนนิตยสารธุรกิจครับ”
“เหรอ?” คนที่ตอบคือป๋ออิ่น
เขาเดินออกมาจากกลุ่มผู้คนแล้วสาวเท้าเข้าไปอยู่ข้างตัวโหลวลั่ว มือที่กางร่มอยู่เอียงไปด้านข้าง
นัยน์ตาดอกท้อที่ดูเรียบเฉยกลับไม่เห็นใครสำคัญในสายตา
ใบหน้าไร้สีเลือดหล่อเหลาจนดูเหมือนไม่มีอยู่จริง
ฉินมั่วมองดูผู้ชายตรงหน้าที่เขาเคยต้องเงยหน้าสูงมากเพื่อจะได้เห็นใบหน้าชัดเจน นิ้วเรียวยาวชะงักไปนิด แล้วหันไปมองป๋อจิ่วอีกครั้ง
ครั้งนี้ป๋อจิ่วหัวเราะ ดูว่าง่ายน่ารักอย่างที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น “หม่ามี้ คนนี้ใครเหรอ?”
แม่เจ้า เรียกหม่ามี้อีกแล้ว!
จ้าวซานพั่งรู้สึกว่าตัวเองจ้องสงบจิตสงบใจสักหน่อย!
ป๋ออิ่นเลิกตาเล็กน้อยมองมายังลูกสาว
ฝ่ายลูกสาวก็มองเมินความน่าเกรงขามของคนเป็นพ่อ เอาแต่มองคนเป็นแม่อย่างออดอ้อนต่อ
โหลวลั่วมองดวงตาของเด็กคนนี้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงใจอ่อนขึ้นมาง่ายๆ
ลูกใครกันนะ ทำไมน่ารักอย่างนี้
เธอยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ “เป็นแฟนฉันเองน่ะ”
“แฟนเหรอ?” ป๋อจิ่วทวนคำ ยิ้มที่มุมปากชัดยิ่งขึ้น “ที่แท้ก็ยังไม่อยู่หมัดนี่เอง”
โหลวลั่วไม่เข้าใจ “อะไรนะคะ?”
“เปล่า” ป๋อจิ่วทำท่าซึม “แค่กลัวว่าเดี๋ยวพาหม่ามี้ไปกินข้าว แฟนหม่ามี้จะมีปัญหาหรือเปล่า”
ป๋ออิ่นได้ยินแล้ว สองตาหรี่ลงทีละน้อย
โหลวลั่วยั้งใจไว้ไม่ลูบหัวเด็กคนนี้ “ไม่หรอกค่ะ”
“งั้นก็ดี” เมื่อป๋อจิ่วเงยหน้าอีกครั้ง สีหน้าไม่เศร้าซึมอีกต่อไป “ตอนนี้ก็ใกล้จะเซ็นเสร็จแล้ว หม่ามี้รอหนูแป๊บหนึ่งนะ”
โหลวลั่วรับคำ “ได้ค่ะ”
หลังจากคำนี้ ร่มคันสีดำก็เหมือนมีบางอย่างสั่นไหว
ฉินมั่วมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ด้านช้าง ไม่คิดจะเอ่ยปากพูดอะไร
ทว่าป๋ออิ่นที่กำร่มอยู่หันไปมองชายหนุ่มทันที เสียงพูดไม่เดือดเนื้อร้อนใจพอจะให้คนสองคนได้ยินเท่านั้น “ได้ยินว่าคุณชายบ้านฉินขี้หึง ตอนนี้คงไม่จริง ไว้ใจให้เขาเชิญแฟนคลับไปกินข้าวได้ตามสบายเชียวนะ”
ความเย็นชาจากตัวฉินมั่วไม่ได้ถูกกลบ เพียงแต่เขาแสดงความอ่อนน้อมอย่างที่ควรกระทำต่อผู้ใหญ่ “คุณอาป๋อพูดตลกแล้ว”
ป๋ออิ่นมองมาอย่างเนิบๆ เจ้าเด็กบ้านฉินยังเหมือนตอนเป็นเด็กเลย ไม่ว่าเห็นอะไรก็สุขุมไปหมด
“ถ้าตอนนี้นายไม่ห้ามเขาอีก เขาก็จะเอาแต่เกาะคนอื่น”
ตอนแรกฉินมั่วไม่เชื่อคำนี้ แต่พอเริ่มกินข้าว ก็เห็นว่าเจ้าหล่อนไม่ยอมอยู่ห่างจากคุณน้าโหลวเลย ดูอ้อนยิ่งกว่าตอนเป็นเด็กอีก
เขาจึงเคาะข้อมือเตือนเธอ “อย่าอ้อนมาก เธอเป็นแบบนี้จะทำให้คนอื่นตกใจหมด”
ป๋อจิ่วยิ้ม “ไม่หรอก หม่ามี้ฉันชอบเด็กดีขี้อ้อน”
ต้องบอกเลยว่าป๋อจิ่วเล่นบทไอ้หนุ่มหน้าอ่อนได้เก่งชนิดสืบทอดทางพันธุกรรม อ้อนได้ดูดีมีระดับ
ด้วยพรุ่งนี้จะแข่งกันแล้ว จ้าวซานพั่งที่นั่งด้านข้างไม่กล้าดื่มเหล้า ได้แต่กรอกน้ำเข้าปาก เตือนตัวเองว่าเจ้าแบล็กที่ดูเป็นเด็กดีเหลือเกินในเวลานี้ ต้องไม่ใช่เจ้าตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหล่อนที่พอได้ถือดาบก็คว้าเฟิร์สคิลได้ทันทีแน่นอน
ปกติแล้วเธอไม่ได้ว่าง่ายนัก กระทั่งเวลาอยู่ต่อหน้าฉินเจ้าแผนการ ยังหลุดความเจ้าเล่ห์ออกมาเป็นระยะๆ
แต่ทำไมกลับไร้เขี้ยวเล็บเมื่ออยู่ตรงหน้าประธานหญิงคนนี้?
……………………………………….
ผู้ชายคนนั้นยังคงเหมือนตอนที่เขาจากไปทุกอย่าง สวมเสื้อกันลมสีดำ ยิ้มมุมปาก นัยน์ตาดำขลับ มีกลิ่นอายเกียจคร้านอย่างคนที่เกาะเมียกิน
นอกจากพ่อของเธอแล้ว ไม่มีใครอีกที่จะมีบุคลิกแบบนี้
ขนาดคิงที่รู้ประวัติเธอดีเพียงหนึ่งเดียว ก็ยังปลอมตัวเป็นพ่อเธอแบบนี้ไม่ได้
การคาดเดาส่วนหนึ่งของเธอได้รับการพิสูจน์แล้ว
พวกเขาไม่แก่ขึ้นเลยจริงๆ กระทั่งผิวพรรณก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป
ตอนนี้สาเหตุอะไรไม่สำคัญอีกแล้ว
สำคัญตรงที่พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่
ป๋อจิ่วหวนนึกถึงเรื่องในอดีต บวกกับเมื่อเงยหน้าสบตากับแววตาที่ไม่คุ้นเคย ก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่า หม่ามี้ของเธอเหมือนจะจำเธอไม่ได้ ดังนั้นพ่อเธอจึงพาแม่มาหาเธอด้วยวิธีนี้
ราวกับจะพิสูจน์ความคิดของเธอ โหลวลั่วยิ้มให้ “ดูเหมือนจะอยู่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้นะคะ”
“เปล่า” ป๋อจิ่วจัดระเบียบความคิดแล้ว เรียวปากบางก็ค่อยๆ แย้มยิ้ม “เมื่อกี้หนูแค่ใจลอย หม่ามี้จะให้หนูเซ็นที่ตรงไหน ตรงหมอนหรือเปล่า?”
แม้โหลวลั่วจะคล่องแคล่วด้านธุรกิจ แต่พอได้ยินคำเรียกว่าหม่ามี้ นิ้วนาวนวลก็ชะงัก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่าแฟนคลับด้านหลังที่ตกตะลึงมากกว่า
“หม่ามี้?” จ้าวซานพั่งยกมือกะจะตบกะโหลกคืน “เจ้าแบล็ก นายบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”
ป๋อจิ่วตอบโต้รวดเร็ว กันมืออีกฝ่ายไว้ทันเวลา แต่เมื่อกี้ที่เรียกเช่นนั้นเพราะไม่ทันระวัง เมื่อเห็นแฟนคลับด้านหลังทำหน้าช็อก เธอก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ แถมยังเจ้าเล่ห์เป็นพิเศษ “โอ๊ย แฟนคลับรุ่นแม่รุ่นน้ารุ่นพี่สาวของฉันเยอะจะตาย แฟนคลับก็ถือว่าเป็นพ่อแม่ของฉัน ฉันเรียกว่าหม่ามี้แล้วจะเป็นอะไรไป?”
จ้าวซานพั่งได้ยินแล้วมุมปากกระตุก
นี่เป็นสิ่งที่คนอย่างแบล็กพีช Z พูดออกมาได้ด้วยเหรอ?
เจ้านี่มีนิสัยอย่างนี้เหรอ?
ถ้ามีนิสัยแคร์แฟนคลับมากกว่าการแข่งขันจริงๆ มีหวังทีมไดมอนด์แพ้ตั้งนานแล้ว
นักกีฬาอาชีพควรต้องทำอะไรมากที่สุด มีแค่ตัวเองเข้าใจเท่านั้น ถึงจะเดินบนเส้นทางนี้ต่อไปได้
แพ้แล้ว อะไรก็เป็นข้ออ้างหมด
ชนะแล้ว ก็จะกลายเป็นอดีต
สิ่งที่ต้องทำคือ พยายามเอาชนะในการแข่งขันนัดถัดไป
หากเราเอาความฝันของตนไปฝากไว้กับคนอื่น ย่อมเป็นเรื่องอันตรายมาก
พาความศรัทธาของพวกเขาไปแข่งให้เต็มที่ก็พอแล้ว
เพื่อขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนเรา
แต่พอเดินมาถึงท้ายที่สุด การต้องพึ่งพาทีมและความเคารพต่อคู่แข่ง เป็นเรื่องที่ตัวเองเข้าใจแจ่มชัดกว่าใคร
แล้วตอนนี้คืออะไร!
รู้จักปากหวานกับพวกแฟนคลับด้วย?
จ้าวซานพั่งส่ายหน้า “เพื่อนเอ๊ย นายนี่มันจริงๆ เลย หน้าหนาสุดๆ เลยว่ะ ฉันช่วยนายกลับมาไม่ไหว อย่างนี้นายถือว่าตบหน้าตัวเองหรือเปล่าวะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขา มุมปากของโหลวลั่วเหมือนจะยิ้มขำ
เด็กคนนี้ไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้เท่าไร
เวลาเล่นเกมก็จะเจ้าเล่ห์และไม่กลัว แต่ปกติไม่ค่อยปรากฏตัวออกมา เป็นคนหนึ่งที่ให้ความรู้สึกห่างเหินมาก
โหลวลั่วได้ข้อมูลจากผู้ช่วยมาเยอะ รู้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เด็กคนนี้ถูกกล่าวหาว่าไม่ถนอมน้ำใจแฟนคลับ
เด็กคนนี้ก็ตอบเพียงว่า ‘สนับสนุนฉันเหรอ ฉันขอบคุณมากนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องเรียกว่าพ่อนี่ ฉันแข่งอาชีพ ไม่ได้เป็นเด็กนั่งคุยมืออาชีพ’
ดังนั้นจ้าวซานพั่งถึงได้บอกว่าตบหน้าตัวเอง คงเพราะมาจากเรื่องนี้นี่เอง
โหลวลั่วไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร แต่ในสายตาของเธอ เด็กคนนี้แค่กำลังทำตัวเจ้าเล่ห์
ทว่าเธอเดาไม่ออกเช่นกันว่าทำไมจู่ๆ เด็กคนนี้ถึงเรียกเธอว่าหม่ามี้?”
…………………………………………………………
ฉินมั่วปรากฏตัว
ในระหว่างที่โหลวลั่วคิดเช่นนี้
เด็กคนนี้ก็ร้องขึ้นมา “หม่ามี้ หนูเซ็นเสร็จแล้ว จะให้ทำอย่างอื่นอีกไหม?”
นัยน์ตาดำขลับคู่นั้นสวย หางตามีไฝเสน่ห์
แต่หากความเจ้าเล่ห์ลดลงจะน่าเอ็นดูมาก
จ้าวซานพั่งได้ยินแล้วอยากอ้วกแล้ว สีหน้าสับสนงุนงง
เขาทนต่อไปไม่ได้อีก จึงกระชากป๋อจิ่วไปอีกทาง เอ่ยเสียงแผ่วต่ำว่า “เฮ้ย เจ้าแบล็ก นายโดนผีสิงเหรอฮะ?”
ป๋อจิ่วทำแค่กวาดตามอง “เซ็นชื่อของนายไป”
ฉันจะบ้าตาย?
อะไรวะเนี่ย! เจ้าเด็กนี่มันเป็นอะไรไป!
ป๋อจิ่วไม่ได้สนใจใบหน้าอวบอ้วนที่กำลังงงงัน ผลักอีกฝ่ายให้ถอยห่าง มองหน้าโหลวลั่วและเสนอว่า “กอดได้นะ”
เมื่อพูดออกไป เหล่าสาวๆ ต่างยกมือปิดปากด้วยความตื่นเต้น
“กอดได้เหรอ?”
“เมื่อไรกัน?”
“รู้สึกเหมือนไม่เป็นความจริงเท่าไรเลย?”
โหลวลั่วเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน
จ้าวซานพั่งยิ่งทำหน้าแบบนายอยากตายหรือไง ลืมฉินเจ้าแผนการของตัวเองไปแล้วเหรอ
และแล้วก็เห็นเด็กสาวยื่นมืออกอดประธานหญิงที่สวยเหลือเกินตรงหน้า
นี่คือการนอกใจครั้งใหญ่
เจ้าแบล็กต้องโดนคนที่บ้านสั่งสอนแน่!
จ้าวซานพั่งนึกภาพออกเลยว่าเจ้านี่จะโดนอะไรบ้าง!
เพราะฉินมั่วกำลังเดินมาแล้ว!
เขาในชุดทีมสีดำกำลังคุยบางเรื่องกับคนข้างตัว
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมชาติจีน เขาจึงจัดลำดับการเซ็นชื่อ และผู้จัดการทีมกำลังคุยกับเข้าเรื่องรายละเอียด
เมื่อฉินมั่วเดินใกล้เข้ามา สายตาของเขาหันมามองเธอแล้ว
รอจนจับตานิ่งที่เป้าหมาย นิ้วเขาก็ชะงัก คิ้วขมวดนิดๆ
จ้าวซานพั่งที่ยืนอยู่ที่เดิมยังรับรู้ถึงความเย็นชาที่แผ่ออกมาจากทางนั้น จึงสะกิดหลังป๋อจิ่ว
แต่เธอกลับไม่หันไปมอง จมูกดมกลิ่นอย่างแผ่วเบา มุมปากยกยิ้มชัดเจนกว่ายามปกติ
เธอเงยหน้าขึ้นมอง คนที่ถูกมองไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นคุณป๋อที่กำลังยืนถือร่มคันสีดำท่ามกลางผู้คน
บนใบหน้าหล่อเหลาผุดรอยยิ้ม แฝงความร้ายกาจไว้นิดๆ
คุณป๋อยกร่มสีดำขึ้นมา มองดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้า ก่อนจะเก็บร่ม สองตาหรี่ลง
ป๋อจิ่วไม่สนใจสีหน้าของคนเป็นพ่อว่าตอนนี้เป็นอย่างไร พูดตรงนั้นว่า “เดี๋ยวพวกเราเซ็นชื่อเสร็จก็จะไปกินข้าวกัน คุณสะดวกไปกับพวกเราไหม?”
ขอบคุณสวรรค์ที่เจ้าแบล็กไม่เรียกเธอคนนั้นว่าหม่ามี้อีก แต่นายล้อเล่นป่ะ? เจ้าแบล็ก!
การกินข้าวที่พาแฟนคลับไปด้วยเนี่ยนะ?
จ้าวซานพั่งไม่อยากพูดอะไรแล้ว เมื่อก่อนเขามองไม่ออกได้ยังไงว่าเจ้าแบล็กชอบคนหน้าตาดี
ไม่ ไม่สิ ดูเรื่องเงินด้วย
สาวสวยคนนี้มีบุคลิกไม่เหมือนใคร กลิ่นอายนักธุรกิจแผ่กระจายทั่วตัว จะต้องรวยมากแน่นอน
จริงๆ เลย จะว่าไป เจ้าแบล็กชอบคนประเภทบุคลิกท่านประธานมาแต่เกิดเลยหรือเปล่า
ดูแค่ที่เจ้าตัวชอบฉินเจ้าแผนการก็เดาออกแล้ว
จ้าวซานพั่งไม่สนแล้ว หลีกทางให้กับฉินมั่วที่เดินเข้าใกล้ระดับหนึ่งเลย
ส่วนพวกแฟนคลับที่ต่อแถวกันอยู่เห็นฉินมั่วแล้ว ต่างกระแอมไอ
ใบหน้านั้นยังหล่อสูงส่งไร้ที่ติ เจือความเฉยชาไว้จางๆ
เขาซุกมือลงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งพลางเดินเข้ามาหา ทำแค่มองยอดศีรษะของป๋อจิ่ว ก่อนละมือข้างหนึ่งออกมาดึงคอเสื้อด้านหลังของเจ้าหล่อน เอ่ยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว่า “มิสซิสฉิน ลืมแล้วหรือว่าตัวเองมีครอบครัวแล้ว?”
…………………………………………
จิ่ว มาเจอกันหน่อย
ทางทีมชาติจีนมีเพียงเหล่าแฟนคลับทยอยกันเข้ามา บนใบหน้ามีสัญลักษณ์แปะอยู่
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความตื่นเต้นบนใบหน้าพวกเขา
ผู้คนเริ่มมาเยอะขึ้น บางคนถึงขั้นปิดปากอยู่ข้างหน้า
เสียงเอฟเฟกต์ของเกมดังขึ้นมา หน้าจอโชว์เริ่มภาพทีมที่เข้ารอบการแข่งขันครั้งนี้ เหมือนเป็นการอุ่นเครื่อง
การตกแต่งเวทีเองก็เข้าสู่ความเสร็จสมบูรณ์ขั้นสุดท้าย
ทั้งหมดตรงหน้าแปลกใหม่สำหรับโหลวลั่ว เพราะปกติเธอไม่ค่อยติดตามพวกดาราด้วยซ้ำ
การเดินด้วยกันพวกเด็กวัยรุ่นแบบนี้ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
เธอไม่มีแปะอะไรบนใบหน้า
หลังจากคนเยอะขึ้น เธอก็ยืนอยู่ในกลุ่ม
เธอในชุดสูทมีแววตาเฉยเมยแต่กลับไม่ทำให้คนอยากอยู่ห่าง
แฟนคลับหลายคนที่มาด้วยกันต่างมองมายังเธอกันแล้ว
ถึงอย่างไรคนส่วนใหญ่ของที่นี่ก็เป็นเด็กที่มาเรียนต่างประเทศ อายุจึงค่อนข้างน้อย
โหลวลั่วดึงดูดสายตาอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่คนที่ดึงดูดสายตาเสียยิ่งกว่าเธอก็คือผู้ชายคนที่กางร่มสีดำอยู่ข้างเธอ
เขายิ้มเหมือนกำลังพูดอะไรสักอย่าง
มากางร่มอะไรตอนนี้?
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เดินออกไปเหมือนจะไปซื้อของ
เด็กสาวสองคนที่ต่อแถวด้วยกันถึงออกปาก “พี่คะ พี่มาดูการแข่งเป็นเพื่อนแฟนใช่ไหมคะ?”
ผู้ชายหล่อๆ คนนั้นน่าจะชอบ พี่ผู้หญิงก็เลยมาเป็นเพื่อน เพราะดูท่าทางแล้วพี่ผู้ชายคนนั้นน่าจะชอบเล่นเกม
โหลวลั่วหัวเราะเสียงเบา “เขามาเป็นเพื่อนพี่ค่ะ”
“พี่ดูไม่เหมือนแฟนคลับอีสปอร์ตเลยนะคะ” สาวๆ มองตากันอย่างแปลกใจ
เธอจึงตอบตรงๆ “พี่เพิ่งมาดูช่วงนี้เอง ที่มาที่นี่ก็เพราะอยากเจอ Z”
ห้วงเวลานั้น สองสาวตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ “คนกันเอง!”
โหลวลั่วเลิกคิ้ว ออร่านักธุรกิจสาวยังไม่เปลี่ยนแปลง
“พี่คะ พวกเราก็เป็นแฟนคลับของแบล็กพีชค่ะ” หนึ่งในนั้นยิ้ม “ฉันเป็นแฟนคลับของเขาค่ะ”
เด็กสาวอีกคนหนึ่งกระแอมไอ “ถ้าเธอไม่กลัวเทพฉินเอาตาย ก็พูดต่อได้เลย”
“ฉันรู้สึกว่าแฟนคลับระดับพี่สาวของแบล็กพีชเยอะขึ้นทุกที มีความสุขจัง”
โหลวลั่วได้ยินเด็กสาวสองคนพูดกัน มุมปากก็แย้มยิ้ม
เมื่อฝูงชนเดินไปข้างหน้า โหลวลั่วมองเห็นภาพข้างหน้าจากมุมนี้แล้วเพราะสูงมากพอ
มีเด็กวัยหนุ่มสาวเจ็ดแปดคนนั่งเรียที่โต๊ะยาว ต่างสวมเสื้อทีมสีแดงสลับดำ บ้างก็ดื่มน้ำ บ้างก็กำลังยิ้มนิดๆ
หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งเสี้ยวหน้าหล่อเหลา รูปหน้าขับให้เห็นถึงความอ่อนเยาว์ภายใต้แสงสว่าง เส้นผมสั้นเซอร์ปรกใบหู ไม่ใช่สีเงินอีกต่อไป แต่เป็นสีดำในแบบคนเอเชีย
ในหมู่คนมากมาย เด็กคนนี้เซ็นชื่อช้าสุดในทีม
พอจะได้ยินเสียงคนเย้าหยอกจากทางนั้น “ความเร็วมือเอาไว้ใช้เล่นเกมอย่างเดียวหรือไง?”
“ไม่เหมือนพี่หลินที่เอาไว้ชักว่าวก็พอแล้ว” ป๋อจิ่วเอนหลัง ยิ้มมองคนข้างตัวอย่างร้ายกาจ “อ้อ เป็นความเศร้าของพวกฝ่ายรับอะนะ”
หลินเฟิงได้แต่คิดว่า…ถ้าเขาอัดเจ้าเด็กนี่ จะมีชีวิตรอดออกไปได้ไหม?
“เซ็นชื่อก็เซ็นไป จะมาพูดเรื่องลามกทำไม!” หลินเฟิงโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจ “ระวังภาพลักษณ์หน่อย เดี๋ยวคนอื่นจะได้ยิน”
ป๋อจิ่วสะบัดมือ “รู้สึกว่าเหนื่อยกว่าตอนเรียนมอปลายซ้ำอีก น่าจะทำตราปั๊มนะ”
“ลองพูดดูสิ รับรองว่าถูกแฟนคลับเทครั้งใหญ่แน่” หลินเฟิงเตือนเธอ
ป๋อจิ่วหัวเราะทันที “คนที่ยืนต่อแถวยิ่งเมื่อยกว่า ฉันเข้าใจ แค่ขี้เกียจเท่านั้นเอง…”
“คนที่กล้าบอกว่าตัวเองขี้เกียจอย่างออกหน้าออกตาอย่างนายนี่หายากนะ” หลินเฟิงประสานมือคารวะ “ขอนับถือ”
นี่เป็นการหยอกล้อกันระหว่างเซ็นชื่อ
เมื่อกระเซ้าเย้าหยอกจบ ป๋อจิ่วก็วางขวดน้ำแร่ หลุบตาลง จากนั้นเตรียมจะ…
…………………………………………
ตอนที่ 1839
จิ่วที่อึ้งตะลึง
เสียงหนึ่งใกล้เข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ดังขึ้นข้างหูเธอว่า
“ช่วยเซ็นชื่อตรงนี้ให้หน่อยได้ไหมคะ”
ตอนแรกป๋อจิ่วไม่ได้สังเกตหน้าตาของอีกฝ่าย
แค่รู้สึกว่ากลิ่นคุ้นจมูกมาก
คุ้นมากจนเธอเริ่มใจลอย
จากนั้นเธอก็มองชุดสูทที่อยู่ใกล้แค่คืบ ยิ้มพลางเงยหน้าขึ้น ตอนกำลังจะอ้าปากพูด ก็ได้เห็นใบหน้าที่ไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึง
ทว่าบางครั้งที่เธอกดคีย์บอร์ดก็จะนึกถึงขึ้นมา
มีผู้หญิงคนหนึ่งที่มักทำซาลาเปาหมูใส่ถั่วฝักยาวให้เธอ และมักจะอุ้มเธอตอนยังเด็กมากไว้ในอ้อมแขน อีกมือหนึ่งเซ็นเอกสาร ทั้งยังจับมือเธอกดตัวอักษรบนคีย์บอร์ดเป็นครั้งแรก
ต่อมา ทุกอย่างหายไปภายในคืนเดียว
ทุกอย่างไม่มีเหลืออยู่ เหลือเพียงป้ายแผ่นหินที่อยู่ตรงภูเขาด้านหลัง
ยิ่งเป็นคนที่สำคัญมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรับไม่ได้กับจากการไปเท่านั้น
เทศกาลที่แสนสุขเคยเป็นเทศกาลที่ป๋อจิ่วไม่อยากฉลองมากที่สุด
ในฤดูหนาว เมื่อที่บ้านไม่มีเธอคนนั้นแล้ว มันก็ช่างหนาวจับใจ
ในฐานะที่เป็นนายน้อยของโลกแฮกเกอร์ ป๋อจิ่วใช้ชีวิตอย่างมีสติปัญญามาตั้งแต่ยังเด็ก
ทว่าสติปัญญาของเธอถูกซ่อนอยู่ภายใต้ความร้ายกาจชนิดที่ไม่กลัวใคร
มีเพียงยอมรับการสูญเสียคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต ถึงทำให้เธอยืนหยัดเพียงลำพังได้
ไม่ใช่ไม่เคยคิดเลย
แต่อยากให้ความฝันในก้นบึ้งจิตใจเป็นจริงก่อน
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ป๋อจิ่วตะลึงงันต่อหน้าผู้คน เหมือนเป็นเด็กซื่อบื้อเหลอหลา
ความเอื่อยเฉื่อย เจ้าเสน่ห์ อวดเก่ง โอหัง เหมือนถูกคนกดปุ่มหยุดในเวลานี้
เสียงที่ดังข้างหูถอยห่างออกไปเรื่อยๆ ไม่อาจจัดระเบียบความคิดได้เลย
ตอนที่ได้สติป๋อจิ่วก็ผุดลุกขึ้นยืนแล้ว เส้นผมสีดำสั้นเซอร์ชี้โด่เด่ด้วยเหตุที่เซ็นชื่อมานานแล้ว ทว่าไม่กระทบต่อความเท่ของเจ้าหล่อนแม้แต่นิด
จ้าวซานพั่งที่นั่งข้างป๋อจิ่วหันหน้ามามอง “เจ้าแบล็ก ทำอะไรของนาย เด้งเป็นศพคืนชีพเชียว?”
คนที่ขี้เกียจกระทั่งเซ็นชื่อกลับลุกขึ้นยืนเพื่ออะไร?
จ้าวซานพั่งมองตามสายตาเธอไป ก่อนจะผิวปากโดยอัตโนมัติ “อุว้าว สาวสวยนี่หว่า แถมยังเป็นระดับท่านประธานด้วย”
เพียะ!
ป๋อจิ่วตบกะโหลกอีกฝ่ายเข้าให้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะคุมเสียงให้เหมือนเดิมได้ “พูดจาระวังหน่อย”
“ฉันแค่บอกว่าเขาสวย ไม่ระวังตรงไหนวะ?” จ้าวซานพั่งถลึงตาใส่ “เมื่อกี้นายตะลึงงันอย่างนั้น หายแล้วเรอะ ขอบอกนะเจ้าแบล็ก ถึงแฟนคลับนายจะหน้าตาดี แต่นายก็ห้ามยุ่งกับทรงผมฉัน เข้าใจป่ะ”
ป๋อจิ่วไม่สนใจอีกฝ่าย จ้องเธอคนนั้นเหมือนเดิม
ส่วนโหลวลั่วมองเด็กวัยรุ่นที่ผมสีดำชี้โด่เด่ พลันอยากจะลูบศีรษะอีกฝ่ายกะทันหัน รู้สึกว่าน่าเอ็นดูเหลือเกิน
แต่ด้วยความที่กลัวว่าจะรบกวนเวลาของคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลัง โหลวลั่วจึงไม่หยุดอยู่นาน ออร่าความเป็นนักธุรกิจไม่จางหายไปไหน เปี่ยมด้วยความสวยสูงส่ง เธอผลักหมอนข้างไปด้านหน้า “ได้ไหมคะ? หรือว่าทางทีมไม่อนุญาต”
ป๋อจิ่วฉลาด รู้ถึงความผิดปกติบางอย่างทันที
เธอคนนั้นสาวเกินไป เหมือนกับเมื่อตอนที่จากไปเลย
ต่อให้บำรุงดีอย่างไรก็ไม่น่าเป็นถึงขั้นนี้ได้
หรือว่าแค่มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกัน?
แต่หากมีหน้าตาเหมือนกัน แล้วทำไมสไตล์การแต่งตัว วิธีการพูด รวมถึงน้ำเสียงถึงได้เหมือนกันขนาดนี้
ป๋อจิ่วเกิดอยู่ท่ามกลางโลกมืด ไม่มีวันเชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าในทันที
จนกระทั่งหางตาเธอเห็นร่างหนึ่งที่กำลังถือร่มสีดำอยู่ท่ามกลางฝูงชน…
…………………………………………….
พาคุณไปหาหนุ่มน้อยรูปหล่อ
ไม่รู้เป็นเพราะอยู่ใกล้ใบหูมากหรือไม่ เสียงนั้นต่ำทุ้มระคนแหบเครือ ดึงดูดหัวใจเหลือเกิน
โหลวลั่วไม่รู้ว่าคนรุ่นหนุ่มสาวเป็นแบบนี้กันหมดหรือเปล่า
ทุกคำที่พูดออกมาเหมือนหลอมละลายเข้าถึงหัวใจได้ จนทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลย
อุณหภูมิในรถลดลงได้อย่างยากลำบาก
รอจนเมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นมาวางบนเตียงแล้วก้มลงระดมจูบ ทุกอย่างก็เหมือนฝันที่ไม่อยากจะตื่นขึ้น
ทว่าครั้งนี้โหลวลั่วเข้าใจแล้ว เขาไม่ชอบให้เธอพูดถึงของขวัญที่มีราคากับเขา
เธออ่านใจเขาไม่ค่อยออก วันต่อมาเธอจึงไปถามเพื่อน และได้คำตอบมาเพียงว่า
“มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง ถ้าไม่วางแผนร้ายไว้ ประเภทรถคันเดียวมันกระจอกไป วิเคราะห์ตามหลักเศรษฐศาสตร์ คงเห็นว่าต้องอยู่กับเธอนานๆ ถึงจะได้มากกว่านั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ ผู้ชายคนนี้ก็นับว่าฉลาดและอดทนเก่ง หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะชอบเธอมาก คนเขาพูดเรื่องความรักกับเธอ แต่เธอดันไปคุยเรื่องเงินกับเขา นี่มันช่าง…เดี๋ยวก่อน เธอคุยเรื่องเงินกับเขาแล้วเขาไม่พอใจงั้นเหรอ?”
โหลวลั่วส่งเสียงตอบยืนยันในลำคอ ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ตัดสินใจส่งข้อความไปหาเสียเลย “ฉันให้รถคุณ คุณไม่พอใจเหรอ?”
อีกฝ่ายตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ถ้ายังไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร ก็ไม่ดีใจหรอก ท่านประธานโหลวจะทำเหมือนผมเป็นสัตว์เลี้ยงไม่ได้นะครับ ผมเป็นแฟนคุณนะ”
โหลวลั่วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดแป้นพิมพ์ “ยังมีอย่างอื่นอีกไหม?”
“อย่างอื่นงั้นเหรอ” ป๋ออิ่นนอนอยู่บนเตียง ยื่นมือออกไปสัมผัสแสงแดดที่ลอดเข้ามา คิ้วขมวดมุ่น เมื่อไม่มีเธออยู่ด้วย แสงตะวันก็ยิ่งชวนให้เขาไม่ชอบเข้าไปใหญ่
โหลวลั่วเซ็นเอกสารเสร็จก็ว่างมาตอบ “อย่างอื่นคุณที่ไม่ชอบ”
“หลายอย่างเลย” ป๋ออิ่นส่งข้อความเสียงตอบกลับ จงใจทำให้เสียงสั่นเครือเหมือนถูกเจ้าของทอดทิ้ง “คุณไปกินข้าวกับผู้ชายคนอื่น ปล่อยให้ผมรออยู่ที่บ้านคนเดียว ผมเลยไม่อยากนอนแล้ว”
โหลวลั่วชะงักนิ่ง “งานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจแบบนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก”
ตอบแบบนี้อย่างที่คิด
ป๋ออิ่นพูดต่อด้วยเสียงเอื่อยเฉื่อย “ทีดูคนอื่นเล่นเกม ดูได้เป็นชั่วโมง”
เรื่องนี้เป็นความผิดของโหลวลั่วจริง ตั้งแต่รู้จักเด็กหนุ่มผมเงินคนนั้น เธอก็เอาแต่ค้นหาคลิปการแข่งของเขามาดู
เมื่อก่อนเธอไม่รู้สึกว่าเกมน่าสนใจอะไร ทว่าหลังจากที่รู้จักแบล็กพีช Z เธอเป็นต้องอยากหัวเราะทุกครั้งที่เห็นอีกฝ่ายเล่นหนึ่งต่อสาม
ถึงแม้จะเล่นเกมได้เท่แบบนี้ ทว่ากลับน่าเอ็นดูเหมือนเสือน้อย
ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า
“แถมยังซื้อสติกเกอร์ส่งในห้องที่เขาไลฟ์สดด้วย” ป๋ออิ่นพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็ยิ่งเฉยชา “ดูเหมือนเขาจะไม่เคยไลฟ์สดนี่นา”
โหลวลั่วหัวเราะเบาๆ “ขี้หึงจริงๆ นะเนี่ย”
“หึงเหรอ กับเขาเนี่ยนะ? ไม่มีวันหรอก” ป๋ออิ่นพูดเช่นนั้น พลางเบือนหน้ามองดูหมอนข้างที่อยู่ในห้องรับแขกด้วยแววตาเฉยชา “ต่อไปถ้าคุณอยากกอดหมอนข้าง ผมจะไปถ่ายรูปตัวเองมาทำเป็นหมอนให้คุณกอด”
โหลวลั่วได้ยินอีกฝ่ายพูด ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร
“ช่างเถอะ คุณไปถ่ายมาสักภาพแล้วเอามาทำเป็นหมอนให้ผมกอดแล้วกัน” ป๋ออิ่นรับรู้ถึงแสงที่แรงกล้าขึ้นทุกขณะ ในที่สุดก็ขมวดคิ้วมุ่น เปลี่ยนตำแหน่ง น้ำเสียงของเขาแหบต่ำดึงดูดใจ “ถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วย ก็ไม่น่านอนแล้ว”
นิ้วขาวนวลของเธอชะงัก เอ่ยปลอบแผ่วเบาว่า “วันนี้ฉันจะกลับเร็วหน่อย”
“ว่าง่ายอะไรอย่างนี้” ป๋ออิ่นหัวเราะ ทำให้บรรยากาศรอบด้านมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเจอหนุ่มน้อยรูปหล่อของคุณที่มิลาน”
…………………………………….
“พรุ่งนี้?” โหลวลั่วมองตารางงานในช่วงสองวันที่จะมาถึง หยิบปากกามาทำสัญลักษณ์ลงบนการประชุมหนึ่งในนั้นแล้วเอ่ยขึ้น “อีกสี่ห้าวันถึงจะเป็นวันแข่งชิงแชมป์โลกไม่ใช่เหรอคะ”
ป๋ออิ่นลุกขึ้นดึงม่านปิด “มีงานมีทติ้งน่ะครับ”
โหลวลั่วเลิกคิ้ว ไม่ได้ถามว่าอีกฝ่ายรู้ได้อย่างไร ท่าทางเธอจะทำหน้าที่ตามข่าวไอดอลได้ไม่ดีพอ
แต่เมื่อทางทีมชาติเองไม่ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าแข่งขัน ก็หมายความว่าไม่อยากให้รู้แผนการเดินทางของพวกเขา
เลขาของเธอก็เคยบอกว่า พวกนักกีฬาอีสปอร์ตต้องรับแรงดกดดันหนักมากในช่วงก่อนการแข่งขัน
ครั้งนี้คงเพราะเป็นการแข่งขันระดับโลก เมื่อถึงที่หมายจึงเริ่มมีข่าวปล่อยออกมา
งานมีทติ้งเป็นการภายในเหรอ?
โหลวลั่วหาอ่านข้อมูลมามากมายแต่ก็ไม่เห็นข้อมูล บางทีคนบางคนอาจซื้อข่าวมาจากพวกเอาตั๋วมาขายต่อ
การเดินทางไปมิลานล่วงหน้าวันหนึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องไม่ดี
เธออยากเห็นเด็กคนนั้นจริงๆ ว่าตัวจริงจะเป็นอย่างไร
นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับโหลวลั่วมาก่อน
วันที่ 28 เดือนตุลาคม นี่เป็นวันหนึ่งที่เหล่าแฟนคลับอีสปอร์ตรอคอยมากที่สุด
ข่าวทางการแจ้งว่า ทีมนักกีฬาทุกคนเดินทางมาถึงมิลานแล้ว ทั้งยังส่งภาพในสนามบินให้ดู
ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ทำไมถึงไม่ประกาศข่าวล่วงหน้า แบบนี้พวกเขาจะได้ตามมาดูตัวจริงได้
“อิจฉาพวกนักเรียนที่ไปเรียนต่อที่นั่นอะ”
“ฉันเห็นแค่แผ่นหลังของพี่แบล็ก ไม่เห็นหน้าเลย”
“พวกเขาต้องปรับตัวให้เข้ากับเวลาที่ต่างกัน ถึงได้ไม่เตรียมคนไปต้อนรับ”
“การแข่งขันอีสปอร์ตไม่ต้องการคนไปรับที่สนามบินนะ ทุกคนมีสติกันด้วย”
แต่ด้วยเหตุจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน คนอื่นยังพอว่า
แต่จ้าวซานพั่งได้แต่นอนแผ่ที่โรงแรมอย่างอ่อนแรง ทั้งยังบอกทุกคนว่าค่อยเรียกเขาตอนไปกิน ถ้าไม่ใช่เรื่องกิน แต่เป็นการไปเดินเล่นชมเมืองอะไรทำนองนี้ เขาไม่สนใจสักนิดเดียว
“มีกิจกรรม เป็นงานมีทติ้ง” ป๋อจิ่วตบบ่าอีกฝ่าย “ไม่ออกไปแสดงความหล่อหน่อยเหรอไง”
จ้าวซานพั่งโบกมือ “งานนี้เฮียไม่ไหวจริงๆ ให้โอกาสฉินเจ้าแผนการก็แล้วกัน”
ฉินมั่วยืนอยู่ที่เดิม เสี้ยวหน้าดูสูงส่งมาก ทำเหมือนไม่ได้ยินเขา แค่สั่งเล็กน้อยก่อนเดินออกไป “ตอนนี้สภาพกระเพาะของเทพอ้วนกินได้แค่โจ๊ก พวกกินของดีๆ อะไร พวกเราก็ไม่ต้องชวนเขานะ แค่ดูๆ เขาหน่อย อย่าให้เขากินของพร่ำเพรื่อล่ะ”
“นั่นแน่นอนอยู่แล้วครับ” คุณหมอที่ดูแลทีมขยับแว่นบนดั้งจมูก
จ้าวซานพั่ง…เฮ้ย เขากำลังจะเปิดกล่องบะหมี่สำเร็จรูปมากินแก้อยากเสียหน่อย แต่เจ้าฉินจอมแผนการดันมาเบรกแผนเขาเสียได้!
ตอนห้าโมงเย็น
ยามเย็นของมิลานช่างสวยงาม ใต้สิ่งปลูกสร้างแบบยุโรป พอจะเห็นนกพิราบข้าวได้ตามบ่อน้ำพุของโรงแรม กำลังแสดงความละเอียดอ่อนมีชีวิตชีวาอย่างแช่มช้า
ด้วยเหตุที่การแข่งระดับโลกใกล้จะมาถึง ย่อมมีการทำโฆษณาตามลานจัตุรัสต่างๆ
แฟนคลับทยอยเข้ามาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกไว้ล่วงหน้า
ยิ่งไปว่านั้น หลังจากที่ทุกทีมให้สัมภาษณ์เสร็จก็มีการพบปะกันเป็นการภายใน
ทางฝ่ายประเทศจีนก็เช่นกัน
เพียงแต่พวกเขาไม่ได้แจ้งข่าว อีกทั้งยังอยู่ต่างประเทศ คนที่มาที่นี่จึงมีไม่เยอะ
ส่วนใหญ่จะวิ่งไปที่โซนสนามแข่งของทีม CST ทางซ้ายมือ
ถึงอย่างไรในสายตาของพวกเขา ทีมจีนก็ไม่น่ากลัว
แถมทางเอเชียก็ได้ทีมจีนทีมนี้ที่ลงแข่ง นั่นเท่ากับว่าเป็นโอกาสให้ทีม CST ของพวกเขาคว้าแชมป์ชัดๆ
หากดูผลงานของทีมจีนในอดีต ก็ไม่ใช่คู่แข่งของพวกเขาเลย
ทีมนี้จะมีใครกัน ไม่คุ้มให้พวกเขาเสียเวลาไปดูหรอก
…………………………….
“หือ?” ป๋ออิ่นเลิกคิ้ว ไม่พูดอะไรมาก
ทว่าแวมไพร์อย่างคุณป๋อยังทำท่าเหมือนผมก็หิวเหมือนกันขึ้นมาได้
ทักษะการแสดงยอดเยี่ยมมากจริงๆ
โหลวลั่วมองเขา แล้วยกตะเกียบให้สูงขึ้น
ป๋ออิ่นยิ้มแล้วก้มหน้ากินทันที
บะหมี่ถ้วยเดียว กินกันสองคน
แม้แต่ค่ำคืนที่หิมะตกยังดูสวยงามเหลือเกิน
ข้อความของเพื่อนๆ ยังค้างอยู่ในมือถือของโหลวลั่ว พูดประมาณว่าทำไมผู้ชายคนนี้ไม่เคยแนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้าง
โหลวลั่วหันไปมองบรรยากาศนอกหน้าต่างบานยาวระพื้น
เธอยากหาเวลาคุยกับเขาสักหน่อย เพียงแต่เธองานยุ่งมาก น้อยครั้งจะมีเวลาคิดตริตรองตอนกลางคืน
ตัวการก็คือคนข้างตัวเธอนั่นเอง
เขาชอบมองเธอจากด้านหลังเวลาที่เธอทำกับข้าว
โหลวลั่วไม่รู้ว่าคนอื่นที่มีแฟนอายุน้อยกว่าจะเป็นเช่นนี้หรือไม่ แต่แฟนของเธอคนนี้เกาะติดเธอมาก ทั้งยังบ้าอำนาจอีกด้วย
ขณะที่นึกถึงคุณสมบัติอย่างหลัง ก็มีคนส่งข้อความให้เธอ ไม่ใช่ใครอื่น เป็นแฟนเก่าเธอคนนั้นนั่นเอง
ข้อความดังกล่าวทำให้ป๋ออิ่นนัยน์ตาขรึมลึก
แม้ข้อความนั้นจะเป็นแค่เรื่องงานก็ตาม
โหลวลั่วแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวเป็น เธอออกไปพบผู้ชายคนนั้น
แต่ตอนเจอกันไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว คนอื่นๆ ก็อยู่ด้วย
ตอนเธอออกไปแฟนหนุ่มก็ยังดีๆ อยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อกินเลี้ยงเสร็จเดินออกมาก็เจอป๋ออิ่นเลย
คงเพราะใกล้จะถึงวันฮาโลวีนแล้ว ขนาดการประดับประดาตามท้องถนนก็ยังได้บรรยากาศ โคมไฟฟักทองมีอยู่ทุกที่ ทั้งยังมีคนสวมหูปลอมและหน้ากาก
มีเพียงป๋ออิ่นที่ยืนถือร่มสีดำอยู่ท่ามกลางหิมะ สายลมเย็นเฉียบพัดผ่าน
ชายหนุ่มยืนท่ามกลางผู้คน ดูโดดเด่นจากคนอื่น
เมื่อโหลวลั่วเห็นว่าเขาอยู่ที่นั่นก็ทอดสายตามอง
ผู้ชายที่ยืนข้างเธอขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเราจะไปคุยเรื่องความเสี่ยงด้านการลงทุนกับประธานหลี่”
โหลวลั่วยังไม่ได้เปิดปาก ก็เห็นป๋ออิ่นช้อนสายตาขึ้นมองเธออยู่อย่างนั้น จึงหันไปพูดกับผู้ชายคนนั้น “ไม่ละ วันหลังฉันค่อยไปกับเลขาแล้วกัน”
เมื่อพูดจบ เธอก็ก้าวเดินไปหาแฟนหนุ่ม
ครั้งนี้เขาไม่รอเธอ เมื่อเห็นเธอเดินมาหาก็หมุนตัวเดินออกไป เธอจึงรีบเดินตามหลัง ดูออกว่าเขากำลังงอน
นักธุรกิจหญิงในชุดสูทสีครีม มีเสื้อโค้ทคลุมตัว ทั้งยังสวมรองเท้าส้นสูง
ความสวยของโหลวลั่วมีกลิ่นอายอย่างนักธุรกิจ ต่างจากคนเดินถนนทั่วไปโดยรอบ
เธอเดินตามเขามาช่วงหนึ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณจะเดินอย่างนี้ต่อไปอีกนานไหม ฉันตามไม่ทัน”
ป๋ออิ่นหันมามอง ด้วยสีผิวของเขา ใบหน้านั้นทำให้คนเห็นแล้วนึกถึงคำว่าจอมปีศาจเสมอ
เขายืนจ้องเธออยู่ตรงนั้น ราวกับกำลังอธิบายข้อเท็จจริง “ผมรอคุณมานานแล้ว แต่คุณก็ไม่กลับมา”
โหลวลั่วชะงัก เดินไปกุมมือเขา รู้สึกได้ถึงความเย็นเฉียบ “ฉันส่งข้อความให้คุณแล้วว่ามีงานสังสรรค์ ต้องไปกินข้าวข้างนอก”
“ไปกินกับพวกนั้นจะอร่อยอะไรล่ะ วันนี้เป็นวันฮาโลวีนด้วย แต่คุณไม่ยอมฉลองกับผม” พูดได้ต่อต้านกันไปหน่อย “ผมยังไม่กินอะไรเลย รอคุณมาตั้งแต่ลืมตาตื่น”
โหลวลั่วชะงัก “คุณอยากกินอะไรล่ะ?”
“ไม่หิว” อย่างนี้เรียกว่างอน
โหลวลั่วมองดูเสี้ยวหน้าของอีกฝ่าย เขายังเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่ความยาวของช่วงก้าวที่เดินก็สั้นลง เหมือนจะรอคอยเธอ
โหลวลั่วใจอ่อน พูดกล่อมเขาว่า “อย่าโกรธเลยนะ จะชดเชยให้”
เขาจึงหยุดฝีเท้า หลุบตามองเธอ “ชดเชยยังไง?”
…………………………………..
ชดเชยงั้นเหรอ
โหลวลั่วคิดดูแล้วเอ่ยขึ้น “รถที่อยู่ในโรงรถน่ะ คุณชอบคันไหน?”
เธอเคยถามคนอื่นๆ ในเมื่อมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบนี้ หากไม่ให้อะไรบ้างก็จะทำให้คนรู้สึกว่าเราเป็นสายเปย์ที่ไม่ใจกว้าง
ครั้งนี้เธอไม่คิดว่าเขาจะน้อยใจขนาดนี้
เดิมทีเขาสามารถเข้าไปได้เลย แต่เพราะครั้งที่แล้วเธอพูดว่าอย่าไปปรากฏตัวที่ออฟฟิศอีก เขาก็เลยรออยู่ด้านนอกตลอด
เธอสู้คนอายุน้อยไม่ได้ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับงานเทศกาลต่างชาติ
วันฮาโลวีนเป็นโอกาสทองทางธุรกิจ แผนงานกิจกรรมทั้งหลายเหมาะที่จะจัดในเวลาแบบนี้
และคงเพราะมีช่องว่างด้านอายุ จึงทำให้เขาเป็นแบบนั้น
หลังจากที่เธอพูดจบ เขาก็หัวเราะขึ้นมาทันที “ชอบคันไหนงั้นเหรอ?”
“อื้อ เลือกมาสักคัน ต่อไปคุณก็ขับออกไปข้างนอกไง” โหลวลั่วมองเขา
ป๋ออิ่นยื่นมือไปทัดผมยาวของเธอไว้หลังหู มุมปากฉายแววร้ายกาจ แววตาไร้ความอบอุ่น ทั้งยังแดงเรื่อเล็กน้อย
มีน้อยครั้งที่เขาจะมีอารมณ์เป็นจริงเป็นจังแบบนี้
ถึงอย่างก็อยู่มานานมากแล้ว มากจนทำให้เขาไม่คิดใส่ใจอะไรมากมาย
เว้นแต่ตอนที่หาเธอไม่เจอ
คราวนี้เขาโกรธอยู่นิดๆ จริงๆ
ตอนก้มตัวลงมา มุมปากกดยิ้มลึก “ได้ งั้นผมจะเลือกสักคัน เอาคันที่ใหญ่หน่อย”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
เธอก็ถูกเขากดไว้ใต้ร่างอยู่ในตัวรถ ไม่มีโอกาสผลักชายหนุ่มให้ถอยห่างเลย
ยิ่งไปกว่านั้นลมหายใจของเขาที่โชยลงมา ทำให้เธออ่อนยวบจนรู้สึกเพียงว่าแผ่นหลังชาวาบ
ตอนมือเย็นเฉียบสอดเข้ามา โหลวลั่วชะงัก รู้สึกได้เพียงแต่รอยจูบของเขาบนซอกคอ
“อย่าทำตรงนี้สิ” ลมหายใจของเธอสับสนเป็นพัลวัน ชุดยับยู่ยี่จนขับให้ซอกคอเธอดูขาวนวลยิ่งขึ้น ทั้งยังงามระหง ชวนให้คนอยากละเมิดในเวลานี้
เธอยั้งมือเขาเอาไว้ แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงสักเท่าไร
เพราะเขาอุ้มเธอขึ้นมากอดไว้ ให้นั่งบนร่างเขาอย่างแนบชิดเป็นที่สุด พื้นที่ในรถไม่ได้แคบมาก เหมาะจะให้เขาทำเรื่องบางอย่างพอดี
โหลวลั่วรับรู้ได้ถึงความร้อนระอุของอีกฝ่ายได้โดยตรงที่สุด
เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เขาล่วงล้ำเข้าสู่ร่างเธอแล้ว
อีกทั้งได้ยินเสียงแหบเครืออยู่บ้างบอกว่า “คุณให้ผมเลือกรถเองไม่ใช่เหรอ หือ?”
ลมหายใจของเธอสับสนเป็นพัลวัน ใบหน้าแดงก่ำ เธอไม่ได้พูดอะไร ด้วยหากอ้าปากเสียงก็จะหลุดออกมากระท่อนกระแท่น
บทรักอันร้อนเร่าระคนหนักหน่วงของชายหนุ่มทำให้สมองของเธอขาวโพลน
ไม่มีใครเข้ามาในโรงรถส่วนตัวของเธอ ต่อให้ตัวรถเขย่าแรงแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็น
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เมื่ออยู่ในสถานที่แบบนี้ก็ยังได้ยินเสียงอยู่บ้าง ความรู้สึกต้องห้ามที่ต่างออกไปทำให้โหลวลั่วได้แต่พิงคนที่อยู่ด้านหลัง
เขาแทรกกายเข้ามาจากด้านหลัง เหมือนมาพร้อมกับหิมะจากนอกหน้าต่างรถ ทำให้ทั้งตัวสั่นสะท้านอย่างยั้งไม่อยู่
เมื่อความวาบหวามจู่โจมทั้งตัวเธอ โหลวลั่วก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มโกรธ โดยเฉพาะตอนที่พูดเช่นนี้
“ต่อไปก็ยกรถคันนี้ให้ผมแล้วกัน” เสียงของเขาดังข้างหูเธอ มันแหบพร่าอย่างเซ็กซี่ “ผมชอบทำกับคุณในรถ”
เส้นผมยาวของเธอปรกอยู่ข้างมือเขา เสื้อผ้าของทั้งสองยับยุ่งไปหมด
เขาจูบที่หลังหูเธอ ไม่ยอมให้เธอได้โอกาสพูดปฏิเสธ แล้วเริ่มบทรักระลอกที่สอง
เขาใช้อำนาจอย่างไม่เหลือความออดอ้อนอีกต่อไป
ตอนโหลวลั่วตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าตอนกี่โมง เธอถึงรู้ว่ายังอยู่ในรถ
เขายังคงฝังร่างไว้ในตัวเธอ หลุบตามมองเธอ หัวเราะเสียงเบาอย่างออดอ้อน “ท่าทางผมจะรุนแรงเกินไปหน่อย แต่ทำไงได้ ก็อยากกินคุณนี่นา”
…………………………………….
จิ่ว? ป๋ออิ่นชะงักไป นิ้วเรียวยาวจิ้มลงบนหมอนข้าง
โหลวลั่วรู้สึกได้ว่าเขาต่างไปจากปกติ “ทำไมเหรอคะ”
“เปล่า” เขายิ้มมุมปาก “แค่รู้สึกว่าไม่เลวเลย”
โหลวลั่วยิ้ม “คุณชมคนอื่นเป็นด้วยเหรอ น้อยครั้งจะได้ยินนะเนี่ย”
“อันนี้ต้องชมกันหน่อย” ป๋ออิ่นไม่หยุดยิ้ม เพียงแต่เสียงเบาลงเยอะมาก “เพราะเขาแย่งความรักคนอื่นเก่งมาตั้งแต่เด็กแล้ว”
โหลวลั่วไม่เข้าใจ “หือ?”
“คุณชอบเจ้าเด็กคนนี้เพราะเขามีไฝเสน่ห์หรือเปล่า” ป๋ออิ่นเอ่ยเสียงแผ่วต่ำ “ดูดีๆ แล้วมีส่วนเหมือนผม”
อธิบายอย่างนี้ก็ได้เหรอ?
แต่ดูตอนนี้ก็เหมือนอยู่นิดหนึ่งจริงๆ
โหลวลั่วมองดูหมอนข้าง
ป๋ออิ่นเอียงร่มนิดหนึ่งแล้วจูบอีกฝ่ายในท่านี้
ถึงแม้จะมีร่มกันเอาไว้ แต่พวกคนทำงานที่เดินทางอยู่ต่างสูดลมหายใจอย่างอดไม่ได้
ภาพแบบนั้นสวยงามเหลือเกิน
ส่วนโหลวลั่วอึ้งไป ได้ยินแต่เสียงหัวเราะของเขาดังข้างหูอย่างแผ่วเบา “แต่เมื่อมีผมแล้ว ก็ห้ามคิดถึงคนอื่นนะ เพราะผมจะขี้หึง”
คนที่คบผู้ชายอายุน้อยกว่าเป็นแฟนคงเป็นแบบนี้เอง อีกฝ่ายพูดอะไรได้หมด แล้วก็ต้องปิดบังเธอได้ด้วย
เหมือนกับที่พวกเพื่อนๆ พูดไว้เลยว่า เขาเคยเจอเพื่อนของเธอแล้ว แต่กลับไม่เคยพาเธอไปพบเพื่อนๆ ของเขา
พวกผู้หญิงอายุน้อยๆ คงคิดไม่ถึงในจุดนี้
เพราะหากต้องการให้ความสัมพันธ์ยืนยาว จะต้องทำให้เราก้าวเข้าไปอยู่ในชีวิตของเขา
โหลวลั่วเข้าใจดี แต่เธอเข้าใจในหลักการหนึ่งเช่นกัน
เธอและเขาไม่อาจอยู่ได้ยั่งยืน ดังนั้นแม้จะถูกจูบ เธอก็ยังยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะลูบผมเขา ท่าทางเต็มไปด้วยความเป็นนักธุรกิจ
ป๋ออิ่นเลิกคิ้วพลางยกมือขึ้น “ผมช่วยถือหมอนข้างให้คุณแล้วกัน”
“คุณถือร่มอยู่นะ” โหลวลั่วชอบหมอนข้างนี้มากจริงๆ “ผู้ช่วยบอกว่าบางอย่างก็ไม่มีวางขายทั่วไป ต้องไปดูการแข่งขันถึงจะได้ ตอนไปมิลานแล้วเจอลูกสาวเรา พวกเราก็พาแกไปดูหน่อยนะคะ”
ป๋ออิ่นมองอย่างไม่แยแส “พวกเราคงไม่ต้องพาแกไปหรอก”
โหลวลั่วได้ยินแล้วจิตใจหดหู่เล็กน้อย เธออยากมีลูกจริงๆ
แต่คำตอบนี้กำลังบอกว่าลูกที่เขาพูดถึงอาจไม่มีตัวตนก็ได้
ต่อให้ก่อนหน้านี้จะไม่ได้เชื่อจนหมดใจ ยังมีบางความรู้สึกที่พูดไม่ออก
แถมเมื่อทั้งสองขึ้นรถไปแล้ว มือถือก็เข้ามาตลอด
ทั้งหมดมาถามเรื่องความรักของเธอ
โหลวลั่วหันหน้ามา ช่วยพันผ้าพันคอให้เขาอีก “ต่อไปอย่าไปที่บริษัทอีกนะคะ”
ป๋ออิ่นได้ยินแล้วยิ้มช้าๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจ ทว่าทั้งหมดถูกเขาสะกดไว้ เหลือเพียง “ครับ”
ภายใต้แสงไฟจากข้างทาง ยังมีค้างคาวบินผ่านมาอยู่บ้าง
คืนวันนั้น โหลวลั่วโดนก่อกวนจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว
ผู้ชายคนนี้ก็ยังมีท่าทีเหมือนจอมปีศาจ แม้เธอร้องขอให้หยุด เขากลับไม่มีความคิดจะหยุด
กระทั่งเหมือนฟันจะกัดลงเส้นเลือดที่ซอกคอของเธอแล้วจริงๆ
เมื่อความวาบหวามจู่โจมเข้ามา อารมณ์ความรู้สึกและความคิดทั้งหมดก็ล่องลอย “พอแล้ว”
เขาดันเธอไว้กับหัวเตียง เอ่ยเสียงแหบต่ำเหมือนบรรยากาศท้องฟ้าค่ำคืนด้านนอก ลมหายใจผสมผสานไปกับกลิ่นกุหลาบ “ไม่พอ”
“ฉันหิวค่ะ” ลมหายใจของเธอปั่นป่วน เส้นผมสีดำแผ่กระจาย ในความสวยงามแฝงความอ่อนโยนไว้
เขาจูบลงที่ใบหูเธอแล้วหัวเราะ “กินผมสิ”
จากนั้นก็จมดิ่งลงไปอย่างไม่อยากจะถอนตัว…
…………………………………………….
เวลาตีสอง
หมอกลอยขึ้นหนาทึบอยู่นอกหน้าต่าง
ค้างคาวยังคงอยู่ด้านนอกบ้านหลังนั้นใต้เสาไฟริมทาง
โหลวลั่วนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
เธอหลับลึกมากจนไม่รู้ว่าคนที่กอดเธอหายตัวไปแล้ว กลิ่นกุหลาบหอมฉุนเหลือเกิน ราวกับผสมกลิ่นคาวเลือดไว้ด้วย
ค้างคาวตัวหนึ่งในนั้นกลายร่างเป็นเด็กน้อย คุกเข่าข้างหนึ่งลงต่อหน้าป๋ออิ่น “นายน้อยจะเริ่มแข่งวันที่ 10 ครับ แล้ววันที่ 8 จะมีงานมีทติ้งกับแฟนคลับที่มิลานด้วย ผมใส่รายชื่อคุณผู้หญิงเข้าไปแล้วครับ”
ป๋ออิ่นรับคำสั้นๆ อย่างเกียจคร้าน ก่อนจะพ่นเอาถุงเลือดออกมาจากช่องปาก
เด็กน้อยนั่นลุกขึ้นมา ก้มศีรษะบอก “ทำไมนายท่านถึงไม่ให้ผมแปลงร่างเป็นนายน้อยตอนเป็นเด็กล่ะครับ ทำแบบนี้แล้ว ถึงตอนนั้นนายท่านจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไร นายหญิงเองก็จำไม่ได้แล้ว นายท่านก็สร้างความทรงจำให้เธอได้ เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกครับที่ยอมรับได้ว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว นายท่านเป็นคนพูดเองนี่ครับ”
นิ้วเรียวยาวขาวผ่องของป๋ออิ่นกำร่มสีดำแน่น เขาในเวลานี้ต่างไปจากตอนกลางวัน ก้นบึ้งนัยน์ตาไร้ความอบอุ่น ซึ่งเป็นลักษณะโดยกำเนิด
เขาแย้มยิ้มอย่างร้ายกาจ “ห้ามปลอมเป็นจิ่วเด็ดขาด เขาเป็นลูกของพวกเรา”
“แล้วความทรงจำล่ะครับ?” เด็กน้อยทำแก้มป่อง เขายังไม่เข้าใจ
ป๋ออิ่นโยนถุงเลือดลงถังขยะ “ยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่”
“ทำไมล่ะ?” เด็กน้อยเป็นประเภทฆ่าคนได้ก็ฆ่า เพราะพวกมนุษย์เป็นแค่อาหารสำหรับพวกเขา นับประสาอะไรกับความทรงจำของมนุษย์
ป๋ออิ่นสูงโปร่ง เสื้อกันลมตัวดำสะบัดไปตามแรงลม “เพราะความทรงจำของเธอมีแต่ฉัน ความทรงจำที่สร้างขึ้นก็คือของปลอม”
เด็กน้อยเริ่มจะเข้าใจบ้างแล้ว แต่ก็ยังงงอยู่ดีว่าทำไมนายท่านถึงได้รักมนุษย์คนนี้มาก
เมื่อก่อนท่านเคยบอกว่าเป็นเพราะอุณภูมิในกายของผู้หญิงคนนั้น
ทว่าเพื่อจะชุบชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง แล้วทำให้ตัวเองต้องตื่นตลอดเวลาเช่นนี้ ต้องไม่ใช่เพราะอุณหภูมินั่นแน่นอน
ป๋ออิ่นไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องความรักของตัวเองให้ผู้อื่นฟัง
พวกแวมไพร์มักเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร
ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นป๋ออิ่น
หากไม่เพราะมีฮู้ป้องกันตัวที่ท่านจิ่วให้ไว้ บางทีโลกนี้อาจเหลือเขาเพียงคนเดียว
ตอนนี้เธอแค่สูญเสียความทรงจำไปเท่านั้น
ทั้งที่วินาทีที่แล้วป๋ออิ่นยังอยู่ใต้เสาไฟริมทาง วินาทีถัดมากลับปรากฏตัวที่ข้างเตียงได้
นี่เป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของพวกแวมไพร์ เคลื่อนย้ายในพริบตา
ป๋ออิ่นในสภาพนี้ยินดีปิดบังทุกอย่างเพื่อคนคนหนึ่ง
เขาไม่รู้ชัดว่าความรักของมนุษย์เป็นเช่นไร แต่ตั้งแต่เธอเก็บเขากลับไป เขาก็ไม่อยากปล่อยมือจากเธอไปอีกแล้ว
ป๋ออิ่นกลับไปนอนบนเตียงอย่างไร้สุ้มเสียง เอื้อมมือไปโอบกอดเธอจากด้านหลัง
ตอนแรกก็คิดว่าเธอกำลังละเมอ แต่ข้างหูกลับได้ยินว่า “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณออกไปไม่หนาวเหรอ?”
ป๋ออิ่นถึงกับมือชะงัก ก่อนจะเกลี่ยเส้นผมยาวๆ ของเธอออก พูดกลั้วยิ้มว่า “หนาวมาก รู้ว่าผมไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อไร”
“เมื่อกี้” โหลวลั่วหันมามอง
ป๋ออิ่นกอดเธอไว้ เอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “กลัวว่าคุณจะหิว ก็เลยต้มบะหมี่ให้คุณ”
เดิมคิดว่าเป็นแค่คำแก้ตัวของเขา แต่เมื่อเธอถูกเขาอุ้มโดยมีผ้าห่มคลุมตัวมาถึงหน้าโต๊ะ ก็เห็นว่ามีบะหมี่วางอยู่บนโต๊ะจริงๆ “รสหมักซอสน้ำแดงเหรอคะ”
“คุณไม่ชอบเหรอ” ป๋ออิ่นปล่อยให้เธอนั่งในอ้อมแขนเขา
“เปล่า” โหลวลั่วไม่คุ้นเคยกับความใกล้ชิดแบบนี้ “คุณไปนั่งฝั่งตรงข้ามสิ?”
“ฝั่งตรงข้ามหนาวเกินไป” ป๋ออิ่นยื่นตะเกียบให้เธอ “ลองชิมดูสิ?”
โหลวลั่วยิ้มจางๆ “คุณต้มบะหมี่เป็นอย่างเดียวเหรอไง”
“ใช่” ป๋ออิ่นเกยคางบนบ่าของเธอ เอ่ยอย่างเป็นปกติ “ถ้าคุณอยากกินอย่างอื่น ผมจะลองหัดทำดู”
โหลวลั่วหัวใจเต้นกระตุก ก้มหน้ากินซุป “ไม่ต้องหรอก แบบนี้ก็ดีแล้ว”
……………………………………..
เด็กคนนี้หล่อดี
ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาโหลวลั่วคือแม่น้ำและพุ่มไม้ในเกม รวมถึงตัวละครที่เธอดูแล้วไม่เข้าใจ
เดิมทีโหลวลั่วยิ้มนิดๆ พลางส่ายศีรษะ กำลังคิดจะปิดคลิป
แต่ในเวลานี้เอง ในคลิปมีร่างหนึ่งโผล่ออกมา วิ่งไปข้างหน้าอย่างคล่องแคล่วว่องไว
แม้ว่าปกติแล้วเธอจะไม่ดูการแข่งเกม แต่พอจะเข้าใจภาพรวมการแข่งอยู่บ้าง
ฝ่ายน้ำเงินซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามดูจะมีพลังมาก จำนวนคนก็เยอะกว่า โอกาสที่ฝ่ายแดงจะชนะมีน้อยมาก
แต่เด็กคนนั้นจะบุกเดี่ยวทั้งอย่างนี้เหรอ?
โหลวลั่วขมวดคิ้ว ไม่ได้กดปิดอีก ทว่าจิบกาแฟนิดหนึ่งก่อนจะดูไปอย่างเงียบๆ
และเวลานี้ร่างนั้นอำพรางตัวโฉบผ่านอยู่ท่ามกลางผู้คน ก่อนจะโจมตีศัตรูคนแรกก่อนอย่างไม่บอกไม่กล่าว จากนั้นก็หมุนตัวหลบการทำร้ายจากฝ่ายตรงข้ามแล้วทะยานไปข้างหน้า เกิดดับเบิลคิลและทริปเปิลคิลขึ้นตามลำดับ!
ในเวลาเดียวกัน ร่างนั้นก็ปรากฏขึ้น มาถึงแล้ว
แต่วินาทีเดียวเขาก็ยืนขึ้น พาตุ๊กตากลุ่มหนึ่งด้านหลังไปทำลายเมืองของคู่แข่ง
ได้ชัยชนะมาอย่างสวยสดงดงาม
นัยน์ตาของโหลวลั่วยิ้มไม่หยุด ทว่าเธอยังไม่ชอบเกมอยู่ดี
เพียงแต่หน้าจอวูบไหวเล็กน้อย จากนั้นกล้องจับไปที่ใบหน้าเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่หางตามีไฝเสน่ห์ มุมปากหยักยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มเบ่งบาน
สายตาของโหลวลั่วชะงักอย่างน่าประหลาด ภาพกระจัดกระจายปรากฏขึ้นในหัวเธอ แต่มันคืออะไรกันแน่ เธอจำไม่ได้สักนิด
โหลวลั่วตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วค้นหาข้อมูลมากมายของเด็กคนนั้น
มีทั้งข่าวด้านดีและไม่ดี
โหลวลั่วเป็นนักธุรกิจ เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ก็แค่ข้ามมันไป นอกจากจะมีคลิปที่เด็กคนนี้ปรากฏ ซึ่งเธอจะดูอยู่หลายรอบ ที่เหลือก็ไม่เปิดดูแล้ว
เพียงแต่เดิมทีคิดว่าจะกดลิงก์ดูแป๊บเดียว แต่ทำไปทำมากลับติดหนึบไม่เลิกรา
เมื่อสาวผู้ช่วยเข้ามา ใบหน้าหล่อนฉายแววประหลาดใจ รู้อยู่นานแล้วว่าท่านประธานของพวกเธอไม่ค่อยดูคลิปหรือโพสต์บนอินเทอร์เน็ตพวกนี้ วันนี้ท่าทางจะดูแบบไม่จบไม่เลิกรา แถมยังถามเธอเรื่องเกี่ยวกับเกมบ้างเป็นบางครั้ง
เล่นเอาเธอรู้สึกเหมือนยืนอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เพราะปกติท่านจะเป็นคนเย็นชาไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป ซึ่งไม่ได้มีความหมายไม่ดี อันที่จริงเพราะท่านประธานเป็นคนมีบุคลิกแบบนี้ สามารถตัดสินใจงานได้เด็ดขาด เน้นประสิทธิภาพสูง สวมชุดสูทเป็นทางการ ขนาดเดินตามท้องถนนยังทำให้เกิดลมได้ด้วย
ทว่าท่านกลับไม่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ มักจะยิ้มบางให้นิดๆ เป็นการยิ้มแบบที่เราเห็นแล้วจะรู้ว่าอีกฝ่ายไว้ตัว แต่ก็ไม่รู้สึกว่าขัดแย้งกัน
ท่านประธานโหลวของพวกเธอก็เป็นผู้หญิงแบบนี้
ผู้ช่วยสาวคิดไม่ออกจริงๆ ว่าวันหนึ่งจะได้เห็นท่านประธานโหลวดูอย่างอื่นที่ไม่ใช่รายงานข้อมูลธุรกิจอยู่ในห้องประชุม
ตอนแรกเธอก็ไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ รอจนผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง เธอหยิบของเข้ามาอีกทีก็อดแอบมองไม่ได้
จากนั้นก็ร้อง “อ๊ะ!” อย่างกลั้นไม่อยู่
โหลวลั่วหันไปมองทางอีกฝ่าย สาวผู้ช่วยรีบพูดว่า “ขอโทษค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ประธานโหลว”
“ไม่เป็นไร” โหลวลั่วมองเธอยกกาแฟอเมริกาโน่มาให้ “วางกาแฟไว้ก็พอแล้ว”
สาวผู้ช่วยทำตามคำสั่ง ลังเลสักพักถึงพูดขึ้น “ประธานโหลว คุณก็ชอบแบล็กพีช Z เหรอคะ”
โหลวลั่วยิ้มบางๆ ตอบว่า “อื้อ”
สาวผู้ช่วยตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ แต่ไม่กล้าแสดงออกอย่างเด่นชัด เพราะเป็นเวลาทำงานจึงต้องพูดเสียงเบา “ฉันก็ชอบค่ะ”
“อ้อ?” โหลวลั่วจิบกาแฟแล้ววางแก้วลง “งั้นก็ดีเลย เธอดูของพวกนี้สิ คนอื่นมี แต่ทำไมฉันถึงไม่มี?”
……………………………
ครอบครัวเดียวกัน
ผู้ช่วยสาวได้ยินก็ยื่นหน้าเข้าไปหา จากนั้นก็ร้อง “อ๊ะ!” แล้วเอ่ยว่า “นี่เป็นสติกเกอร์ที่แจกให้ตอนดูแข่งรอบที่แล้วค่ะ!”
“จะซื้อได้จากที่ไหน?” โหลวลั่วถามตรงๆ
ผู้ช่วยสาวอธิบายว่าสติกเกอร์เหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อขาย แต่ตอนนั้นทางทีมแจกให้ฟรี ส่วนสติกเกอร์ที่วางขายข้างนอกล้วนแต่เป็นของปลอม
“ท่านประธานไปดูในออฟฟิเชียลเวยป๋อได้ค่ะ ว่าเขามีจับรางวัลให้หมอนข้างหรือเปล่า!”
ผู้ช่วยสาวให้คำแนะนำน่าเชื่อถือเหมือนเคย
โหลวลั่วกลับคิดว่าตัวเองคงจับไม่ได้ แค่ลองๆ ทำไปอย่างนั้นเอง
ไม่คิดว่าจะได้มาจริงๆ เล่นเอาผู้ช่วยสาวอิจฉาจนอยากร้องไห้!
โหลวลั่วเองอารมณ์ดี ทว่าหมอนข้างมีขนาดใหญ่ไปหน่อย ไม่เหมาะกับบุคลิกเธอ เมื่อประคองไว้ในอ้อมแขนย่อมต้องสะดุดตา
ดังนั้นจึงส่งผลให้เกิดคำซุบซิบขึ้นมาเป็นธรรมดา
“ท่านประธานโหลวกำลังมีความรักจริงมั้ง?”
“ชัวร์ ไม่งั้นจะกอดหมอนข้างทำไม”
“ไหนบอกว่าแฟนของท่านอายุน้อยกว่าไง เป็นคนที่ให้หมอนข้างท่านได้จริงๆ นั่นแหละ”
“เหมือนเขาจะอยู่ข้างล่างตึกนะ”
“ใคร?”
“ลูกหมาน้อยของท่านประธานไง โคตรหล่อเลย!” คนพูดมีสีหน้าเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ตอนนี้เขาอยู่นอกตัวตึกน่ะ”
เมื่อเห็นผู้ชายคนนั้นมาปรากฏตัวที่นี่ โหลวลั่วก็แปลกใจอยู่บ้าง เพราะอย่างไรเขาก็ไม่เคยมาที่ทำงานของเธอ
ต่อให้มาจริง แต่ตามที่คบกันมาก่อนหน้านี้ เขาต้องบอกเธอก่อนล่วงหน้าสักคำ
ทว่าโหลวลั่วไม่ได้คิดเรื่องนี้ให้ละเอียดนัก
ชายหนุ่มเดินมาหา โดยถือร่มสีดำไว้ในมือ
ตอนเดินอยู่ท่ามกลางหิมะแรกที่ตกโปรยปราย ช่างเหมือนภาพที่จะเกิดขึ้นในการ์ตูนเท่านั้น
ทว่าเวลานี้คนที่กางร่มในเวลาแบบนี้มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย จึงยิ่งทำให้ชายหนุ่มสูงเพรียวยิ่งขึ้น
“หิมะตกแล้ว ผมมารับคุณกลับบ้าน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โหลวลั่วก็ไม่อาจพูดได้ว่าชายหนุ่มผิดข้อตกลง ทำแค่มองเสื้อกันลมตัวบางที่อยู่บนร่างของเขา แล้วช่วยพันผ้าพันคอให้เขาอีกทบหนึ่งโดยไม่สนว่าใครจะนินทาแต่อย่างใด
ถึงยังไงคนรอบข้างก็ล้วนเป็นลูกน้องเธอ
ป๋ออิ่นยิ้มมุมปาก ดูเหมือนจะชอบวิธีประกาศตัวแบบนี้
หลายคนต่างมองดูอยู่ เพราะไม่ว่าจะเป็นป๋ออิ่นหรือโหลวลั่ว ตอนยืนอยู่ตรงนั้นก็เป็นภาพที่สวยงามมาก
นับประสาอะไรกับมีข่าวลือผสมโรงอยู่ด้วย
“หล่อจริงๆ”
“หวังว่าประธานโหลวจะไม่เป็นเหมือนประธานหร่าน”
“เลี้ยงผู้ชายให้คนอื่นอะ ต่อให้หล่อแค่ไหน แต่จะไปมีประโยชน์อะไร”
“จริงด้วย ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบคนที่อายุมากกว่าตัวเองหรอก ไม่แน่ว่าอาจมีแฟนอยู่ในมหาวิทยาลัย แล้วก็หาคนเปย์ให้ตัวเองอยู่ข้างนอกด้วย”
ป๋ออิ่นยืนนิ่งตรงนั้น กดยิ้มมุมปากให้ลึกขึ้น ทำแค่หันไปหลุบตามอง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องจากทางนั้น ไม่รู้ว่าฝูงค้างคาวดูดเลือดโผล่มาล้อมพวกเขาจากที่ไหน ทำให้ตกใจกันหมด
โหลวลั่วหันไปมองตามเสียงเหล่านั้น แต่ยังไม่ได้มองให้ชัด ชายหนุ่มก็เอาร่มมากางไว้เหนือศีรษะเธอ “คุณอุ้มอะไรไว้น่ะ?”
“อันนี้เหรอ?” โหลวลั่วก็ไม่มีอารมณ์จะไปมองคนอื่น แต่ฝูงค้างคาวเหล่านั้นดึงดูดความสนใจเธออยู่บ้าง ช่วงนี้เธอเห็นค้างคาวบ่อยครั้งมากขึ้น แถมยังอยู่กลางเมืองด้วย ด้วยเหตุที่กำลังคิดเรื่องในใจ จึงตอบชายหนุ่มไปอย่างใจลอย “เป็นหมอนข้างของหนุ่มน้อยรูปหล่อคนหนึ่ง น่ารักมากเลย”
หนุ่มน้อยรูปหล่อ? น่ารักมากเลย?
นัยน์ตาดำขลับของชายหนุ่มเบือนออกไป หางตาปรากฏแสงแวววับ
ทั้งที่มุมปากเหยียดยิ้ม แต่กลับทำให้คนนึกถึงคำว่ามืดมิดได้
ทว่าในขณะที่เขาเห็นหน้าตรงของหมอนข้าง หมอกดำในก้นบึ้งนัยน์ตาก็หยุดลง…
………………………………..
เธอต้องดูคลิปของสุดหล่อของฉัน
แม่หมอตัวแข็งทื่อไปแล้ว เพราะที่เธอให้จี้พระกับโหลวลั่วก็เพื่อป้องกัน ‘เจ้าหมาน้อย’ ตรงหน้าต่างหาก หากฝ่ายนั้นเป็นคนที่ไม่มีที่มาที่ไป ก็จะได้รู้เสียทีว่าโหลวลั่วมีของป้องกันตัว
แต่เขากลับไม่กลัวพระที่ปลุกเสกแล้ว แถมยังรับเอาไปดูกับมือตัวเอง
ในขณะที่แม่หมอกำลังสงสัยว่าตัวเองคิดมากไปหรือไม่ ป๋ออิ่นก็หันไปสวมสร้อยพระให้โหลวลั่ว
สาวๆ เห็นแล้วไม่พูดอะไรกันอีก
ทว่าเมื่อโหลวลั่วจะเดินออกไป แม่หมอก็กระซิบข้างหูเธอว่า “ระวังหน่อย หมาน้อยของเธอมองยากจริงๆ”
โหลวลั่วรู้ดีว่าเพื่อนหมายถึงอะไร จึงยิ้มให้แล้วตอบว่า “ฉันเข้าใจ”
“ส่วนคลิปสุดหล่อของฉัน เธอต้องดูให้ได้นะ แล้วฉันจะส่งลิงก์ไปให้ ในเมื่อเธอจะไปมิลาน เธออาจจะได้เจอสุดหล่อของฉันก็ได้”
แม่หมอรู้ว่าโหลวลั่วเป็นคนฉลาด บางอย่างเธอไม่ต้องพูดให้มากความ
เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเป็นกังวล
ยิ่งในบรรดาพวกเธอแล้ว ตอนที่รู้จักโหลวลั่วใหม่ๆ ก็รู้ว่าเพื่อนเป็นคนใจเย็นและฉลาดรู้จักแยกแยะดีร้าย
คนทั่วไปหลอกเธอไม่ได้
ตอนนี้แม่หมอกังวลว่าพ่อลูกหมาน้อยจะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
เมื่อเดินออกมาจากร้านกาแฟ ข้างนอกก็มืดแล้ว
ท้องฟ้าในตอนเหนือมักจะมีหมอกลอยเสมอ ขนาดอ้าปากยังมีควันลอยออกมา
ทว่าผู้ชายคนนี้กลับเหมือนไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็น เสื้อตัวนอกสีดำตัวบาง เสี้ยวหน้าที่ขาวเกินไป รวมถึงกลิ่นอายจางๆ ที่พัดพาเข้ามามีกลิ่นกุหลาบ แต่ก็เหมือนกลิ่นคาวเลือดอีกด้วย
ไม่รู้ใครที่เคยบอกว่าบางครั้งเลือดก็มีกลิ่นหอมเช่นกัน
และผู้ชายคนนี้กำลังมีกลิ่นจางๆ ที่ว่านั้น
“เมื่อกี้ผมทำตัวได้ผ่านในสายตาของเพื่อนคุณไหม?” ป๋ออิ่นหลุบตาลง เหมือนถามไปอย่างนั้น
โหลวลั่วเหลือบมองเขา ก่อนจะปลดผ้าพันคอที่เขาให้ นำมาพันคอของเขาแทนทบหนึ่งแล้วตามด้วยทบที่สอง “โอเคอยู่”
ผู้หญิงที่หยิ่งทระนงอย่างโหลวลั่วเป็นที่เห็นได้น้อยมาก
รูปโฉมแบบนี้ รัศมียังเจิดจรัสเหมือนเดิม
ในชีวิตจริงมีคนมากมายพูดกันว่า ไม่ว่าผู้หญิงจะเก่งกาจแค่ไหนในอาชีพการงาน ก็ต้องรู้จักอ่อนให้ผู้ชายเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เพราะผู้หญิงที่ออดอ้อนเก่งจะเป็นพวกมีชะตาดี
แต่ชัดเจนว่าโหลวลั่วไม่ใช่ผู้หญิงประเภทดังกล่าวมาแต่ไหนแต่ไร
คนที่ตัวสูงอย่างเธอ เมื่อได้สวมเสื้อโค้ทก็มีออร่าเย็นชา ราวกับหิมะแรกที่พัดพาเข้ามา
ทว่าใบหน้าของเธอกลับไม่เย็นชา กลับยิ้มอ่อนๆ ดูเหมือนจะตามใจให้
แค่ต้องดูว่าอีกฝ่ายว่านอนสอนง่ายไหม ฉลาดหรือเปล่า
ก่อนนี้แม่หมอพูดไว้ไม่ผิด ประธานโหลวทั้งผมยาวขายาว เอวบางอกอิ่ม เดิมก็มีสัดส่วนที่ยั่วเย้า แต่บุคลิกของเจ้าตัวกลับเหมือนดอกบัวบนยอดภูเขาหิมะ กระทั่งแววตายังเฉยชาเหมือนสายน้ำ
ในวงการธุรกิจมีคนวิจารณ์เรื่องเธอ เพราะว่าเธอไม่ยอมลงสนามแข่งด้านความรักกับผู้หญิงคนนั้น จึงย่อมถูกหาว่าเป็นพวกดอกบัวขาวร้ายลึก
เธอสนใจแต่เรื่องหาเงิน เป้าหมายในชีวิตไม่ได้อยู่ในแนวทางเดียวกับคนอื่น
แต่ขนาดเธอเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่าในวันหนึ่ง
เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์พัฒนาจนลึกซึ้ง ทว่ามันก็เกิดขึ้นแล้ว
หากเขาบอกว่าเขาต้องการอะไร เธอย่อมไม่ใจร้ายกับเขา เพราะอย่างไรเขาก็อายุน้อยกว่าเธอ
“ต่อไปอย่าซื้อผ้าพันคอแพงขนาดนี้เองอีกนะ” โหลวลั่วมองดวงตาลุ่มลึกคู่นั้น “ฉันไม่ใช่คนเห็นค่าข้าวของนอกกายพวกนี้ และก็ไม่จำเป็นด้วย”
…………………………………………
ป๋ออิ่นยกยิ้ม “ทราบแล้วครับ มาดาม”
คำว่ามาดามทำให้เธอมองเขาแวบหนึ่ง นิ้วมือหยุดชะงัก “คุณ…”
ไม่รอให้เธอพูด ป๋ออิ่นแย่งพูดทันที “มาดามได้ตัวผมแล้วคิดจะทิ้งงั้นเหรอ?”
โหลวลั่วรู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร ถอนมือออกมา รู้สึกขำเล็กน้อย “คำว่าได้แล้วทิ้งนี่ใช้ในความหมายอย่างนี้เหรอ?”
ป๋ออิ่นเกี่ยวเส้นผมที่ยุ่งนิดๆ ของเธอ “ผมเป็นหมาน้อยของคุณนี่นา เจ้านายเล่นทิ้งหมาน้อยไว้ในบ้าน ถ้าไม่เรียกว่าได้แล้วทิ้งแล้วจะใช้คำไหน”
ผู้ชายคนนี้พูดสบายๆ ส่วนเธอกลับชะงัก “คุณได้ยินมามากน้อยเท่าไร?”
“ให้คุณระวังผมไง” ป๋ออิ่นดึงมือเธอมาสอดเข้าในเสื้อกันลมของเขา “อะไรที่ควรได้ยินก็ได้ยินหมดแล้ว”
โหลวลั่วหันมอง “พวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย”
“ผมเข้าใจ” ป๋ออิ่นตอบเสียงราบเรียบ “พวกเขาเป็นห่วงคุณ เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยทีเดียว”
เธอหัวเราะ ก่อนจะยื่นมือลูบศีรษะเขา “คุณเป็นผู้ใหญ่กว่าที่ฉันคิดไว้อีก”
“เพราะงั้นคุณก็อย่าไปดูคลิปไอดอลหนุ่มน้อยที่พวกเขาให้มานะ” ป๋ออิ่นยิ้มบางๆ “พวกเขาไม่น่ารักเท่าผมหรอก”
โหลวลั่วไม่คิดว่าจะวกมาคุยหัวข้อเรื่องนี้แทน แต่เมื่อได้พูดกัน เธอถึงพบว่า ‘ลูกหมาน้อย’ ก็ชอบแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเหมือนกัน
“คุณน่ารักตรงไหน?” โหลวลั่วมองดูเขาที่เดินอยู่ด้านนอกสุด ภายใต้แสงไฟริมทาง ใบหน้านั้นดูสูงส่งสง่างามยิ่งขึ้น
เขายิ้มบอก “ผมเชื่อฟังคุณจะตาย พอตอนเช้าคุณออกจากบ้าน ผมก็เอาแต่อยู่ในบ้าน ไม่ได้ไปไหนเลย”
“ไม่ต้องทำงาน?” โหลวลั่วมองอีกฝ่าย
เขาตอบเสียงเอื่อยว่า “จะพาคุณไปหาลูกไง เรื่องงานน่ะค่อยกลับมาทำก็ได้”
โหลวลั่วอึ้งไปนิด ยืนมองเขาท่ามกลางความมืด “เรามีลูกด้วยกันจริงๆ เหรอ”
“จริงสิ” ป๋ออิ่นที่สวมเสื้อกันลมยื่นมือรั้งเธอมากอดไว้อ้อมแขน “เมื่อก่อนเขาชอบดึงความสนใจของคุณไปจากผม ไม่ยอมเชื่อฟังผมเลย”
โหลวลั่วได้กลิ่นหอมจากตัวของชายหนุ่ม ความคิดเริ่มจะสับสน
แต่สิ่งที่ทำให้เธอได้สติก็คือฝูงค้างคาวที่บินไปมาอยู่ใต้เสาไฟริมทาง ดูเหมือนว่านับแต่เมื่อครู่พวกมันก็ติดตามพวกเธอมาโดยตลอด
ป๋ออิ่นมองตามสายตาของเธอไป จากนั้นดวงตาก็มีแสงแดงเรื่อวาบผ่านอย่างรวดเร็ว!
พวกค้างคาวพลันบินจากไปท่ามกลางความมืดเหมือนกับได้รับคำสั่งอะไรมา
ป๋ออิ่นถอนสายตากลับ ถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ “ทำไมเหรอ?”
“เปล่า ฉันน่าจะคิดมากไปเอง” โหลวลั่วหันมองเขา “หิวแล้ว อีกเดี๋ยวจะกินอะไรดี”
ป๋ออิ่นเหมือนไม่สนใจ “อะไรก็ได้”
โหลวลั่วกดกุญแจในมือ เปิดประตูรถออก “เลือกสักอย่างสิ”
“คุณไง” เขาจับมือเธอเอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เวลานี้เขาย่อตัวลง ลมหายใจกระทบใบหูเธอ นิ้วเรียวยาววาดผ่านร่องรอยบนซอกคอของเธอ “อยากกินคุณ”
ใช่ว่าจะไม่ต่อต้านเขา แต่ดูเหมือนว่าชายคนนี้มักทำให้คนสูญเสียความสามารถในการคิดวิเคราะห์ไป
ว่ากันว่าความงามล่อใจคน ก็คงเป็นเช่นนี้เอง
คืนนั้น โหลวลั่วก็เข้าใจในสิ่งที่คนเขาพูดกันว่าร่างกายที่อ่อนวัยดีอย่างไร แต่ก็ต้องแลกกับการที่ต้องสวมเสื้อสเวตเตอร์ปิดคอ รวมถึงเอวที่ปวดเมื่อยนิดๆ
เขาเหมือนจะไม่ชอบแสงอาทิตย์เอามากๆ เธอจึงไม่ดึงผ้าม่านเปิดออก
ทว่าด้วยคิดถึงเรื่องลูกสาวที่เขาพูดถึงอยู่เสมอ เธอจึงใส่ใจเรื่องการแข่งชิงแชมป์โลกที่มิลานมาก
ดังนั้นเมื่อพักกินข้าวกลางวัน เธอจึงเปิดคลิปที่แม่หมอส่งให้เธออย่างอดไม่ได้
นั่นเป็นคลิปการแข่งอีสปอร์ตนั่นเอง…
……………………………………..
“ดีใจจังเลยที่ได้ยินคุณชมผมแบบนี้”
เสียงนั้นแหบเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก
แทบจะดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ในทันที
ไม่ว่าใครหันกลับมามอง ต่างก็ตะลึงกันทั้งนั้น
ผู้ชายคนนั้นสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงยาวถึงข้อเท้า เผยให้เห็นถึงความขาวด้านใน ส่งผลให้คนรู้สึกถึงความลึกลับและเซ็กซี่
ร่วมด้วยใบหน้าของเขาที่หล่อเหลาคมสันจนไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไร
ร่างเขาสูงชะลูดแต่ไม่ทำให้รู้สึกถึงความเปราะบาง กลับดูลึกลับดำมืดชนิดบรรยายไม่ถูก และยิ่งเด่นชัดขึ้นตามจังหวะที่เขาเดินใกล้เข้ามา
เวลานี้ พวกเพื่อนๆ ต่างรู้สึกตรงกัน
ผู้ชายคนนี้เหมือนหมาน้อยที่ตรงไหน นี่มันหมาป่าชัดๆ
ดูแววตาก็ไม่เหมือนพวกที่ชอบออดอ้อนออเซาะเสียหน่อย
ผู้ชายคนนี้ดูอ่อนวัย แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาเป็นคนจริงจังมุ่งมั่นต่อทุกสิ่ง
โดยเฉพาะเวลาที่สายตาของเขาจับจ้องสาวน้อยคนนั้น ความรู้สึกที่ว่ายิ่งชัดเข้าไปใหญ่ เขาหยักยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เดินมาหยุดข้างตัวโหลวลั่ว
“ข้างนอกหนาวมาก ผมไปซื้อผ้าพันคอให้มาเพื่อนคุณคนละผืนแล้ว” ป๋ออิ่นว่าพลางยกมือขึ้น
ผ้าแต่ละผืนล้วนแต่เป็นยี่ห้อดัง แต่ราคาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะซื้อได้
ผู้ชายคนข้างๆ เอ่ยขึ้น “เอาเงินของโหลวลั่วมาซื้อของให้เพื่อนเขา อืม น่าสนใจจริงๆ”
ป๋ออิ่นเหลือบตามองราวกับจะหัวเราะ “สามีภรรยาใช้กระเป๋าเดียวกัน เราสองคนไม่เคยแบ่งกระเป๋าเงินกัน”
สีหน้าเยาะหยันของชายคนนั้นเด่นชัดเข้าไปใหญ่ “นายยังมีหน้าพูดอีก?”
“ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเกาะเมียเก่ง” ป๋ออิ่นพูดออกมาพลางหมุนแหวนสีดำวงเล็กบนนิ้วหัวแม่มือ “คนแบบคุณชายจางคงกำลังวุ่นอยู่กับการจัดการตัวเลขในบัญชี”
ชายคนนั้นตัวแข็งทื่อในพริบตา เจ้าหมอนี่รู้เรื่องของเขาได้อย่างไร
แต่ยังไม่ทันได้ตะคอกถาม มือถือในมือของคุณชายจางก็ดังขึ้น เป็นสายจากพ่อเขานั่นเอง ซึ่งเขาไม่กล้าที่จะไม่รับ
“ตอนนี้ผู้ชายที่มีไฝเสน่ห์ที่หางตาอยู่ตรงหน้าแกใช่ไหม”
คุณชายจางเพิ่งจะตอบยืนยัน พ่อเขาก็ลดเสียงลง “แกหาเรื่องใครไม่หา รู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร!”
คนเป็นลูกชายกำลังจะพูด แต่พ่อกลับขัดจังหวะขึ้นมาก่อน “แกรู้ว่าเขาไม่ธรรมดาก็พอ ตอนนี้แกอ่อนข้อให้เขาหน่อย แล้วรีบกลับมา”
คุณชายจางได้ยินแล้ว ก็ไม่กล้าพูดอีกแม้จะสงสัยมากแค่ไหน
คนที่ทำให้พ่อเขาต้องยำเกรงเช่นนี้ เขาถึงขั้นไม่รู้ว่าจะจินตนาการอย่างไร
แต่เจ้านี่ดูยังไงก็เหมือนเด็กที่โหลวลั่วเลี้ยงไว้นี่นา!
“พ่อไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่ไหม?”
คนเป็นพ่อตอบเพียงว่า “ฉันสั่งให้แกกลับมา!”
คุณชายจางต้องพึ่งพาครอบครัว พ่อเขาพูดอะไร มีหรือที่เขาจะไม่เชื่อฟังได้
เมื่อช้อนสายตามอง กำลังจะเอ่ยขึ้น
ฝ่ายนั้นก็พูดอีกว่า “ดูท่าพ่อคุณคงโทรมา”
สีหน้าของคุณชายจางใช้คำว่าไม่น่าดูมาบรรยายไม่ได้แล้ว ทั้งยังรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวบางอย่าง
ผู้ชายคนนี้ช่าง…
สาวน้อยคนนั้นอยากพูดขึ้นบ้าง แต่โดนคุณชายจางลากกลับไปอย่างรีบร้อน ราวกับมีสัตว์ร้ายไล่ตามหลังมา
ส่วนคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นแต่ลูกหมาน้อยที่โหลวลั่วเลี้ยงดูกำลังพูดอะไรกับฝ่ายนั้นก็ไม่รู้ แต่ทำให้คุณชายจางผู้ถือตัวว่าดีกว่าคนอื่นต้องถอยหนีและมีสภาพแบบนี้ได้
ทำให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ขี้อ้อนสักนิด แถมยังลึกลับจนคนอ่านไม่ออกอีกด้วย
……………………………………..
โหลวลั่วไปเจอคนคนนี้จากที่ไหน
ได้ยินว่าเก็บมาจากข้างทาง
มีผู้ชายหล่อเหลาเอาการแบบนี้อยู่ตามริมทางตั้งแต่เมื่อไร?
ผู้หญิงเหล่านั้นสมกับเป็นคนเก่งในวงการอาชีพ หลอกยากเป็นที่สุด
ถ้าพวกเธออายุยังน้อยอยู่ คงเชื่อว่าโหลวลั่วเก็บผู้ชายมาเลี้ยงจริงๆ
แต่พวกเธออายุขนาดนี้ มีสติปัญญามากพอแล้ว
‘ลูกหมาน้อย’ คนนี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่?
นี่คือสิ่งที่พวกเธอคิดในใจเป็นอย่างแรก
การสวมผ้าพันคอเป็นเรื่องที่พวกหนุ่มๆ ต่างคิดไม่ถึงแน่
ก่อนหน้านี้ พวกเธอได้ยินว่าโหลวลั่วเลี้ยงดูหมาน้อย ใช่ว่าจะไม่เดาว่าเขาหวังเงินตราของโหลวลั่ว
อย่างไรพวกเธอก็เคยเจอคนแบบนี้มาเยอะมาก ปกติแล้วก็เป็นเช่นนั้น
ทว่าตอนนี้พวกเธอไม่แน่ใจแล้ว
เพราะบุคลิกของอีกฝ่ายที่แม้จะเรียกตัวเองว่าเกาะเมียกินอย่างเต็มความภาคภูมิ กลับไม่อ่อนปวกเปียกเสียเลย
เรียกว่าหาได้น้อยมากในโลกนี้
หร่านชิงไม่คิดจะเก็บความสงสัยไว้กับตัว กำลังจะพูดออกไป
แต่แม่หมอที่อยู่ด้านหลังกลับกระตุกแขนเธอไว้ ใบหน้าใสซื่อซีดจนสีเลือดจางหายจากใบหน้าไปเยอะ
“ทำไม?” หร่างชิงหันกลับมามอง
แม่หมอกลัวว่าคนอื่นจะเห็นพิรุธ จึงพูดเพียงว่า “ฉันไม่ค่อยสบาย”
เดิมทีคิดว่าเป็นอย่างนี้แล้วจะไม่ถูกอีกฝ่ายจับพิรุธได้
เพราะว่าเธออ่านดวงลูกหมาน้อยของโหลวลั่วไม่ออกจริงๆ
นี่ชวนให้คนเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
ทว่าแม่หมอคิดไม่ถึงว่า เมื่อเธอจะพูดขึ้น ป๋ออิ่นก็จ้องมองมา
แม้จะมีท่าทีไม่แยแส แต่หางตากลับเห็นถึงความมืดทะมึนที่ทำให้คนขนลุกได้
ส่งผลให้แม่หมอตัวแข็งทื่อ จู่ๆ ก็อยากถามประธานโหลวขึ้นมาว่า เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นพวก ‘ลูกหมาน้อย’ ได้อย่างไร
หากว่ากันตามหลักการแล้ว คนที่ไม่มีชะตา หากไม่ใช่คนตายก็ต้องเป็นปีศาจ
แต่คนคนนี้ไม่ใช่วิญญาณที่ตายไปแล้ว มีทั้งเงาและจิตวิญญาณ
แม่หมออ่านอีกฝ่ายไม่ออก ก็ยิ่งใจหายวาบ
โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าเธอเป็นใครแล้ว
นี่ทำให้แม่หมอต้องฝืนใจ อาศัยจังหวะที่คุยกันยื่นมือส่งของให้เพื่อน “ประธานโหลว เอาอันนี้ไป”
โหลวลั่วหันไปมอง นั่นคือจี้พระสบสลักจากไม้จันท์ ทว่ากลับมีกลิ่นหอมโชยออกมารางๆ
นี่เป็นกลิ่นของธูปที่มักปรากฏตามวัดวาอาราม หากเห็นเพียงสีก็จะรู้ว่าจี้พระนี้มีคุณภาพต่างจากที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป
“นั่นมันเป็นของที่ประธานซางสั่งไว้กับเธอคราวก่อนไม่ใช่เหรอ?” โหลวลั่วไม่ได้รีบรับมา
แม่หมอว่า “ฉันค่อยไปเอาของใหม่ให้เขา ตอนนี้เธอจำเป็นต้องใช้มากกว่า”
โหลวลั่วเลิกคิ้ว “ฉันเหรอ จี้พระเนี่ยนะ?”
คนอื่นๆ ต่างหันมามอง
เพราะพวกเธอต่างรู้จักแม่หมอเป็นอย่างดี
การที่เธอให้จี้พระคนอื่นก็เพราะฝ่ายนั้นมีของสกปรกติดตัว
ทว่าโหลวลั่ว?
ป๋ออิ่นทำแค่นั่งยิ้มร้ายอยู่ที่เดิม
ราวกับสิ่งที่พูดในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาสักนิด
แต่แม่หมอที่พูดเช่นนี้ขึ้นมาขนหัวลุกแล้ว
“เอ่อ ของแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องไม่ดีหรอก แค่เอาไว้คุ้มครองเธอเท่านั้น” เธอพูดพลางหลบสายตาลุ่มลึกมืดมิดนั่นตามจิตใต้สำนึก
โหลวลั่วกำลังพินิจพิเคราะห์ ส่วนป๋ออิ่นที่นั่งข้างเธอกลับยื่นมือออกไป ข้อนิ้วขาวเห็นข้อกระดูกชัดเจนราวกับเครื่องเคลือบหยกรับจี้พระไว้ รอยยิ้มไม่น้อยลงเลย “เพื่อนคุณพูดถูก เก็บเอาไว้ป้องกันตัวเอง”
………………………………
พวกผู้หญิงแสนจะชาญฉลาด
เบอร์ส่วนตัวของโหลวลั่วดังขึ้นในเวลาอย่างนี้ แสดงว่าต้องไม่ใช่เรื่องงาน
“ลูกหมาน้อยของเธอเหรอ”
โหลวลั่วส่งเสียงตอบในลำคอ ปลายนิ้วจิ้มลงบนขอบมือถือ กดปุ่มอัดเสียงตอบ “ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บริษัท กำลังคุยกับเพื่อน คุณอยากโดนคนมุงดูไหมล่ะ?”
วินาทีถัดมาก็มีข้อความส่งเข้ามาอีก
‘ไม่เป็นไร รู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำ’
โหลวลั่วหยักยิ้มมุมปากเมื่อเห็นคำตอบ พวกเพื่อนๆ พูดไว้ไม่ผิด ลูกหมาน้อยของเธอเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมาก
แต่หากมองจากมุมการจ้างงาน ใครบ้างที่จะไม่ชอบคนที่พูดจาให้เราชอบใจ
เธอยังรู้สึกอีกด้วยว่าตลาดแรงงานยังขาดคนแบบนี้อีกเยอะ
หากเธอเจอล่ะก็ จะซื้อตัวมาทำงานในบริษัทตัวเองแน่นอน
“ประธานโหลวยิ้มด้วย” แม่หมอแซว “นั่นไง พลังแห่งความรัก”
“พูดอะไรกัน อ้อนเธออีกแล้วใช่ไหม? พวกเด็กหนุ่มตอนแรกๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ท่าทางกับเธอจะอยู่นานหน่อย”
หลังจากแชร์ที่อยู่ให้ผ่านแอพลิเคชัน โหลวลั่วก็เก็บมือถือ สบตาเพื่อนๆ “เขาจะมารับฉัน เดี๋ยวพวกเธอจะได้เห็นแล้ว”
พวกเธอสี่คนได้รู้จักกันโดยบังเอิญมาสองปีแล้ว
ไม่ว่าชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไร เมื่อพามาพบหน้าพวกเธอ อย่างน้อยสุดก็ได้รับการยอมรับแล้ว
“ได้เห็นตัวจริงหน่อยก็ดีเหมือนกัน ดูซิว่าเจ้าลูกหมาน้อยหน้าตาเป็นยังไงถึงกระชากใจของประธานโหลวได้”
โหลวลั่วหัวเราะเสียงเบา “ก็อยากถามความเห็นพวกเธอเหมือนกัน”
“ฉันรู้น่ะว่าประธานโหลวไม่ทอดทิ้งฉันหรอก” แม่หมอเอียงตัวซบบ่าอีกฝ่าย ก่อนจะ “วางใจได้ ฉันจะวิเคราะห์ให้เธอเป็นอย่างดีเลยละ!”
โหลวลั่วหันมามองอย่างไม่ใส่ใจนัก “เขาเรียนด้านภาษาซี น่าจะเพิ่งจบ”
คนที่นั่งด้วยกันต่างเข้าใจ
ก่อนหน้านี้เวลาพวกเธอคบใครก็ตามก็ล้วนมาเจอหน้ากันเสมอ
ต่อให้มีฐานะแตกต่างกัน แต่ก็ไม่เยอะมาก
ทว่าหนุ่มของโหลวลั่วคงจะไม่เหมือนกับผู้คนที่พวกเธอรู้จักเมื่อก่อน
เพราะพฤติกรรรมที่ไม่ชอบออกเที่ยว ชอบแค่รอคอยคนกลับบ้าน ไม่มีหนุ่มน้อยที่ไหนทำได้
พวกเธอเคยได้ยินโหลวลั่วรับสายจากฝ่ายนั้นสองสามครั้ง ต่างรู้สึกว่าชายหนุ่มว่านอนสอนง่ายมากอย่างน่าแปลก
แถมโหลวลั่วยังบอกด้วยว่าชายหนุ่มจบด้านภาษา C น่าจะเป็นพวกเด็กเนิร์ดสายวิทย์ที่สวมแว่นตา?
ไม่เพียงแต่พวกเธอที่คิดอย่างนี้
กระทั่งสาวน้อยคนหนึ่งที่เดินมาก็คิดเช่นเดียวกัน
หล่อนกำลังควงแขนชายที่ดูหน้าตาดีคนหนึ่ง ทว่าสายตาของชายคนนั้นเอาแต่จับจ้องที่โหลวลั่ว
และด้วยเหตุนี้ สาวน้อยคนนั้นจึงหัวเราะ “ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าจะได้เจอพี่โหลวและพี่หร่านที่นี่ด้วย เมื่อกี้พี่หร่านกำลังพูดถึงแฟนใหม่ของประธานโหลวเหรอคะ เรียนภาษา C ด้วย?”
แม่สาวคนนั้นเอ่ยพลางย่นหัวคิ้วนิดๆ “ดูไม่เหมาะกับพี่โหลวเลยนะคะ พวกที่เรียนด้านนี้ที่มหาวิทยาลัยพวกเรา ส่วนมากไม่ค่อยมีอนาคตหรอกค่ะ”
โหลวลั่วจึงออกปากบ้าง โดยยังคงถือถ้วยชาไว่ “ฉันรู้สึกว่าเหมาะสมก็พอ”
“เรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่เหมาะหรือไม่เหมาะหรอกนะคะ” สาวน้อยว่าพลางหันไปมอง เห็นสายตาของชายหนุ่มยังคงจับจ้องที่ตัวโหลวลั่ว “ต่อให้หาแฟนใหม่มารักษาแผลใจก็ควรจริงจังหน่อย เพราะพี่โหลวก็อายุตั้งขนาดนี้แล้ว”
“รักษาแผลใจ แผลของใครเหรอ?” บุคลิกของโหลวลั่วยังเป็นเช่นเดิม
แม้เธอจะนั่งอยู่ แต่ออร่าของความเป็นนักธุรกิจยังคงไม่ลดทอน
ราวกับกำลังบอกว่า หล่อนประเมินค่าตัวเองสูงเกินไปนะ
สำหรับฉันแล้ว หล่อนมันก็แค่ของเล่นเท่านั้น
มีผู้หญิงน้อยคนที่จะสร้างความรู้สึกแบบนี้ให้คนอื่น
ทว่าโหลวลั่วไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา
…………………………………….
คุณป๋อมารับ
ตัวเธอเองก็ทำให้คนสงสัยใคร่รู้ได้อยู่แล้ว เธอสามารถใช้เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปีทำให้บริษัทรุดหน้าได้อย่างที่น้อยคนจะทำได้
เวลานี้แค่เธอเลิกคิ้ว ก็ทำให้ผู้ชายคนนั้นรู้ตัวว่าไม่เคยได้เข้าใกล้เธอเลยแม้แต่น้อย
กระทั่งเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ ออร่าของเขายังถูกบดบังไปกว่าครึ่ง
พูดกันตามจริง ถ้าเอาชนะผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้ ความภาคภูมิใจในตัวเองย่อมหายไปแน่
“คุณไม่เปลี่ยนเลยสักนิดจริงๆ” ใบหน้าของชายคนนั้นหม่นหมอง แม้แต่พูดยังต้องเหน็บแนม “เธอก็แค่เสนอความเห็นเท่านั้นเอง”
สาวน้อยคนนั้นรีบคว้าโอกาส เอ่ยปลอบเสียงเบา “อย่าโกรธเลยค่ะ” พูดแล้วก็หันไปมองโหลวลั่ว “บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจพี่โหลวเลยนะคะ ยอมทิ้งผู้ชายดีๆ ไปอย่างไม่แยแส แต่กลับไปเลี้ยงดูไอ้หน้าอ่อน เดี๋ยวนี้คนที่อายุมากขึ้นชอบคนที่อ่อนกว่าทั้งนั้น หวังว่าพี่โหลวจะไม่โดนผู้ชายหลอก ต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งตัวเหมือนเพื่อนข้างๆ นะคะ”
หร่านจิ่งได้ยินแล้วอยากหยิบไม้ทันที
ทว่าโหลวลั่วตอบโต้อย่างเฉยชา “พวกเราคบกับแฟน ก็เหมือนที่ผู้ชายข้างเธอคบเธอนั่นแหละ ชอบแบบเอ๊าะๆ มันเป็นเรื่องปกติน่ะ”
สาวน้อยคนนั้นได้ยินแล้ว สีหน้าดูไม่ได้ทันที “หมายความว่าไง เอาฉันไปเปรียบเทียบกับผู้ชายที่พวกพี่เลี้ยงงั้นเหรอ?”
หากไม่ใช่เพราะคนบางคนใกล้มาถึงแล้ว ตามปกติโหลวลั่วคงไม่โต้ตอบอีกฝ่าย เพราะเห็นว่ามันน่าเบื่อและไร้สาระมาก
แต่คนบางคนกลับเห็นความสำคัญ ก็เลยคิดว่าคนอื่นต้องเป็นอย่างตัวเอง
นอกจากเพื่อนๆ แล้ว คนที่มามุงดูต่างมีสีหน้าอยากรู้อยากเห็นกันหมด เหมือนกลัวว่าจะไม่มีเรื่องอย่างนั้น
คล้ายจะเอาเรื่องไปเล่าต่อกันเรื่อยๆ
หากเธอไม่ต่อปากต่อคำ ก็โดนกล่าวหาว่าเธอยังอาลัยอาวรณ์ในตัวผู้ชายคนนี้ แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้แย่งผู้ชายคนนั้นกลับมาจากสาวน้อยก็ตาม
หากเธอต่อปากต่อคำ ก็จะโดนหาว่าไม่สำเหนียกตัวเอง ไปแย่งผู้ชายสู้กับสาวน้อย
ตลก เธอจะไปแย่งชิงอะไร ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เธอไม่สนใจทั้งนั้น
แม้แต่สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าก็เช่นกัน
แต่เพราะช่องว่างระหว่างวัย จึงมีสภาพจิตใจที่ต่างกัน
การที่ยังไม่รู้เรื่องให้ชัดเจนก็อาละวาดจนคนเข้ารู้กันหมด ในสายตาของคนอื่นอาจมองว่านี่คือความกล้าหาญ กล้าที่จะเอาสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ได้
เสียงดังเท่ากับมีเหตุผล ความคิดเช่นนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถูกกำจัดไปได้
ส่วนพวกที่ชอบซุบซิบส่งต่อข่าว คนก็ยังรู้สึกว่าไม่เลวและน่าสนุกดีเหมือนกัน
โหลวลั่วกวาดตามองคนที่เดินเข้ามาจากด้านข้าง เธอเห็นพวกนั้นกำลังถ่ายรูป รู้ว่าคนบางคนมีความสุขกับการซุบซิบนินทา กระทั่งเอาความเห็นตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วส่งต่อข่าวสารในทางไม่ดี
เธอหันไปมองพลางเอ่ยเสียงเย็นชาดังเดิม “เธอคิดมากไปแล้ว”
“พี่ไม่ต้องเอาฉันไปเปรียบเทียบ” สาวน้อยส่งเสียงหยัน “ฉันเป็นคนที่เขาเลือก นี่เป็นเรื่องจริง”
โหลวลั่วคิดว่าตัวเองอาจจะอายุมากไปแล้วจริงๆ เลยคุยกันไม่รู้เรื่อง เธอวางถ้วยชาลง “ไม่มีใครเอาเธอไปเปรียบเทียบหรอกนะ เธอไม่คิดหรือว่าวันนี้เธอพูดอย่างนี้กับฉัน พรุ่งนี้จะมีคนเอาไปลือต่อว่าพวกเราทะเลาะกันใหญ่โตเพื่อจะแย่งผู้ชายคนหนึ่ง? มันใช่เหรอ? ความจริงก็คือฉันกำลังปกป้องแฟนฉัน เขาอายุน้อยก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นไอ้หน้าอ่อน ในสายตาของฉัน เขาดีกว่าผู้ชายข้างๆ เธอมากกว่าสิบเท่าอีกนะ…”
แทบจะทันทีที่โหลวลั่วพูดจบ เสียงจากอีกฝั่งหนึ่งก็ลอยเข้ามา…
…………………………………….
ตอนที่ 1823
บทตระกูลป๋อ เขาในสายตาของเธอ
“ใครกันนะที่บอกว่าจะเลี้ยงอย่างเดียว ไม่แตะต้องเด็ดขาด”
“ทนความหนุ่มสดใหม่ไม่ไหวล่ะสิ ฉันเข้าใจ”
“เธอจะไปเข้าใจอะไร คิดว่าประธานโหลวจะเหมือนเธอหรือไง”
พวกเพื่อนๆ ก็แค่กระเซ้ากันไป ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร
หลายคนคิดว่าผู้หญิงอายุสามสิบกว่าปีคงจะสนใจแต่เรื่องซุบซิบนินทาชาวบ้าน
อันที่จริงไม่ใช่ พวกเธอมีความสง่างามกับมุกขำๆ ของตัวเอง ไปจนถึงการปลดปล่อยความเครียดอีกด้วย
บางทีก็แลกเปลี่ยนความคิดกัน ไม่ได้ทำให้ไม่สบายใจกัน
“การแต่งงานต้องแลกกับบางอย่างที่สูงค่า” หนึ่งในนั้นพักแขนไว้ที่พนักเก้าอี้ ดูสวยระคนเกียจคร้าน “ไม่เหมือนเธอที่เลี้ยงคนที่ทำให้ตัวเองสบายใจ”
“ฟังแล้วเหมือนโดนเร่งแต่งงานเลยนะ”
“คนที่บ้านอยากให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่มีการงานมั่นคง แต่พอผู้ชายพวกนั้นเห็นการแต่งตัวของฉันก็หาว่าไม่ได้ทำงานจริงจัง ไปเป็นเมียน้อยให้คนอื่นหรือเปล่า”
โหลวลั่วได้ยินแล้วก็หยิบทิชชูมาเช็ดมุมปากให้เธอคนนั้น
ฝ่ายหลังยิ้มแล้วพิงบ่าเธอ “ฉันมันรอบรู้ไปทุกอย่าง มีตรงไหนที่ไม่เหมือนคนทำงานจริงจังบ้าง โลกนี้ไม่มีใครดีกว่าประธานโหลวอีกแล้วจริงๆ ด้วย”
“เธออย่าอยู่ใกล้ประธานโหลวให้มากนักเลย เขามันคนมีหมาน้อยนะจ๊ะ” อีกคนหัวเราะเสียงเบา ถอดแว่นตาออก “ผู้รอบรู้ทุกอย่าง ตั้งแผงดูดวงที่ใต้สะพานลอย เอาจริง เธอก็ดูไม่เหมือนคนทำงานจริงจังจริงๆ แหละ”
ผู้หญิงคนนั้นอ้าปากหาว “ตอนฉันทำงาน พวกเธอก็นอน จะโทษฉันได้ไง?”
“ยิ่งฟังก็ยิ่งเหมือนพวกเปิดไนต์คลับเข้าไปใหญ่” คนคนนั้นว่า “มา ทำนายดวงให้ประธานโหลวหน่อย เขากับลูกหมาน้อยมีโชคชะตาเป็นยังไง”
ผู้หญิงคนนั้นนั่งตัวตรง ก่อนจะส่งยิ้มให้ “ของประธานโหลวดูไม่ออก บอกตรงๆ นะ ฉันสนใจลูกหมาน้อยของเขามากกว่า”
“เธอทำหน้าเหมือนอยากเป็นมือที่สามเลยนะ”
ผู้หญิงคนนั้นพูดยิ้มๆ “ฉันอยากเป็น แต่อยากแย่งประธานโหลวมาอยู่กับตัวเองมากกว่า ตอนที่ยังไม่มีลูกหมาน้อย ประธานโหลวออกจะหลงฉัน ตอนนี้ฉันว่าสถานะของฉันเริ่มไม่มั่นคงแฮะ”
“ตอนนี้ฉันก็ยังหลงเธออยู่นะ” ประธานโหลวหัวเราะ บุคลิกงามสง่า
เวลาเพื่อนฝูงพูดคุยกันเป็นต้องดึงหัวข้อจริงจังมาพูดด้วย
“เธอคิดว่าเขาน่าเชื่อถือจริงๆ เหรอ?”
โหลวลั่ววางถ้วยชาลง ความสง่างามไม่ลดทอน “ค่อยๆ ดูไป พวกเธอจะจริงจังไปทำไม?”
“เปล่า ก็เพราะว่าฉันเคยชอบคนที่อ้ายุน้อยกว่าไง เธอก็รู้นี่นา เวลาพวกนั้นชอบผู้หญิงแก่ว่าทีไรก็จะเล่นใหญ่ ชอบจริงจังแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่พอหมดชอบแล้วกลับไม่กล้าบอก เล่นย้อมผมของฉันให้เป็นสีเขียว[1]หมด แล้วที่สำคัญที่สุด ฉันเคยเห็นคนใหม่ของเขาตอนไปอบรม หล่อนเอาแต่ร้องไห้แล้วบอกฉันว่า ประธานหร่านคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ พวกลูกศิษย์มองดูอยู่เต็มไปหมดเลย กับแค่สวมเขาให้ฉันน่ะไม่เท่าไร แต่เล่นสวมเขาให้จนรู้ทั้งบริษัทฉันเนี่ยนะ ต่อไปฉันจะควบคุมลูกน้องยังไง”
พวกผู้หญิงต่างหัวเราะกันถ้วนหน้า “ฮ่าๆ ๆ ”
ส่วนคนพูดคนนั้นเก็บแล็บท็อป กวาดตามอง “แม่ครึ่งเซียนจอมหลอกลวงคนนั้นน่ะ หัวเราะพอหรือยังยะ?”
“ตอนหลังเธอก็เอาไม้ไล่ตีจนเจ้านั่นเกือบขาหักไม่ใช่เหรอ ยังไม่หายแค้นอีก?”
“นี่แหละที่ทำให้ฉันแค้นที่สุด ฉันเป็นคนมีการศึกษาสูงขนาดไหน มาบีบให้ฉันต้องใช้ไม้ไล่ตีเสียได้”
“นั่นเพราะเขารู้สึกว่าเธอไม่เกาะติดเขามากพอ เขาหาความรู้สึกภาคภูมิใจไม่เจอเมื่อต้องคบกับเธอ เลยอยากไปเล่นสนุกกับพวกสาวน้อยทั้งหลาย แต่ใครจะรู้ว่าเธอจับไต๋ได้เลยจะเลิกกับเขาเสียก่อน เขาก็ต้องยื้อความสัมพันธ์เอาไว้น่ะสิ ได้ยินว่าพ่อเขาต้องออกหน้าเอง ประธานหร่านนี่เก่งเป็นบ้า แค่เคลียร์ปัญหาเรื่องแฟน คนระดับประธานบริษัทถึงกับต้องจัดเลี้ยงอาหารค่ำในครอบครัวให้”
…………………………………
ตอนที่ 1824
แบล็กพีชเทพบุตรของฉันก็กำลังลงแข่ง
“อย่าพูดเลย ฉันปวดหัว” ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าประธานหร่านเบือนสายตาไป “ฉันแค่อยากให้โหลวลั่วคิดให้ดี หาแฟนที่เด็กกว่าบางครั้งก็เป็นความยุ่งยาก พอผ่านความสดใหม่ไปแล้วก็ยังพอว่า เธอดูอย่างฉันสิ พวกแฟนเด็กอะอยากหวนกลับมากินหญ้าเก่าดั้งเดิมอย่างฉันทั้งนั้น แล้วคนอย่างโหลวลั่ว มีใครบ้างไม่อยากอยู่กับเขาไปชั่วชีวิต”
“ใช่เลย แต่ลูกหมาน้อยของประธานโหลวมีทำตัวไม่เหมือนคนอื่น ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายหนุ่มๆ ที่ไม่อยากได้ของข้าวของเลยหลังจากที่รู้จักกันได้สองเดือนกว่า”
“จริงด้วย”
“นี่แหละคือจุดที่เขาฉลาดมาก ไม่ทำให้คนเปย์โมโห ถึงจะทำให้โหลวลั่วเลิกระแวงได้”
โหลวลั่วได้ยินแล้วหัวเราะ “เขาทำลายความระแวงในใจฉันจริงๆ แหละ เขาบอกว่าพวกเราเคยมีลูกด้วยกันด้วย”
“ลูกเรอะ!”
สาวๆ อีกสามคนบนโต๊ะต่างตาโตเป็นแถว
โหลวลั่วเติมก้อนน้ำตาลลงในถ้วยชา “พวกเธอไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ”
“เธอก็โม้เกินจริงไปหน่อยเนอะ” หมอดูสาวนั่งตัวตรง “ฉันไปไม่เป็นเลย”
โหลวลั่วหลุบตาลง ยังเต็มไปด้วยมาดนักธุรกิจ “ฉันถึงได้อยากไปดูกับเขาไงล่ะ”
“เธอ…น่าจะอยากมีลูกสักคนใช่ไหม?” ประธานหร่านเท้าคาง “ครั้งที่แล้วเห็นเธอหยุดอยู่หน้าร้านขายของเล่นด้วย”
โหลวลั่วตอบรับอย่างไม่ปิดบัง “ตอนนี้มีของขายสำหรับเด็กที่ไม่เลวเลย โดยเฉพาะคีย์บอร์ดตัวเล็กนั่น ยิ่งรู้สึกว่าถ้าฉันมีลูกจริงๆ แล้วเอาให้เขา รับรองว่าเขาต้องชอบแน่”
ประธานหร่านส่ายหน้า “ให้คีย์บอร์ดอันเล็กกับเด็กเนี่ยนะ?”
เรื่องแบบนี้คงมีแต่โหลวลั่วที่คิดได้ แต่กระทั่งเจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเห็นคีย์บอร์ดตัวเล็กแล้วถึงได้หยุดชะงัก ถือเอกสารมองค้างอยู่นาน ถึงขั้นพลาดประชุมไป
“เจ้าลูกหมาน้อยนี่ไม่เบาแฮะ” หมอดูสาวส่ายหน้า ก่อนจะดึงตัวโหลวลั่วกลับมา
ฝ่ายโหลวลั่วใช้นิ้วไล้ที่ขอบถ้วยกาแฟ “เขาบอกว่าลูกเรากำลังจะลงแข่งที่มิลาน”
“ลงแข่ง? ที่มิลาน?” แม่หมอเสยผม “บังเอิญอะไรอย่างนี้? เทพบุตรของฉันก็กำลังจะไปแข่งชิงแชมป์โลกที่มิลานเหมือนกัน”
โหลวลั่วเบือนหน้ามามอง “เทพบุตรของเธอ?”
“ก็แบล็กพีชไง! ฉันขอบอกเธอเลยนะว่าแบล็กพีชของฉันน่ะเท่จนไม่รู้จะเท่ยังไงแล้ว!” แม่หมอหลุดความหลงใหลไอดอลออกมา “โดยเฉพาะตอนที่เขากระโดดกบ เส้นผมยังชี้ยุ่ง พอยิ้มร้ายกาจที ตอนนั้นฉันเข้าใจทันทีว่าทำไมพวกเธอถึงได้ชอบผู้ชายที่อายุน้อยกว่า หล่อเท่สุดๆ หัวใจนี่เต้นตูมตาม แฟนคลับรุ่นเจ้อย่างฉันหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลย!”
โหลวลั่วไม่เล่นเกม ไม่เคยสัมผัสเรื่องพวกนี้มาก่อน จึงไม่รู้เรื่องด้วย
ทว่าน้อยครั้งที่จะเห็นเพื่อนกระตือรือร้นขนาดนี้ จึงถามกลั้วหัวเราะ “ชิงแชมป์โลกเหรอ บาสหรือว่าเทนนิสล่ะ”
“ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นอีสปอร์ต!” หมอดูคิดว่าตัวเองพูดไม่ละเอียดพอ จึงหยิบมือถือมาส่งให้เพื่อนอ่านเพื่อให้ความรู้ จะได้แบ่งปันความรู้ในตัวเทพบุตรของเธอด้วย!
คนข้างๆ พยายามห้ามไว้ “กลับมาเรื่องเดิมเถอะ โอเคไหม? ตอนนี้เราคุยกันว่าลูกของเจ้าลูกหมาน้อยมีจริงหรือเปล่า”
“ไปดูก็ไม่เลวนะ” ผู้หญิงที่สวมแว่นตากรอบทองนั่งไขว่ห้าง “ดูว่าลูกหมาน้อยเล่นลูกไม้อะไร”
โหลวลั่วไม่ได้รีบตอบ เพราะมีข้อความส่งมาที่เบอร์ส่วนตัวของเธอ
เมื่อหน้าจอสว่างขึ้น เธอยังอ่านข้อความแรกไม่จบ ก็มีอีกข้อความส่งตามมาเรื่อยๆ
‘อยู่ที่ไหน?’
‘วันนี้ลมแรงมาก ผมมารับคุณกลับบ้าน?’
………………………………………………
[1] ย้อมผมเป็นสีเขียว ในที่นี้หมายถึงถูกสวมเขา ล้อกับสำนวนจีนที่ว่าสวมหมวกเขียว
ตอนที่ 1821
เรามีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่ง
สติของโหลวลั่วเริ่มล่องลอยออกไป
ความรู้สึกที่ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้แบบนี้ ไม่ค่อยเกิดกับเธอบ่อยนัก
เธอไม่รู้ว่าคนอายุน้อยๆ ชอบกัดกันหมดหรือไม่
แต่เขาชอบมาก แถมยังไม่ทำให้คนรู้สึกอึดอัดด้วย
ตรงกันข้าม เมื่อมีเลือดก็เหมือนกับได้พบการเพรียกหาแรกสุดอย่างไรอย่างนั้น
โหลวลั่วไม่รู้จะวางมือไว้ที่ไหน ได้แต่จิกเบาะโซฟา
ตรงหางตาเหมือนจะมีแววเคลิบเคลิ้มเกินจะต้านทานเอ่อล้นออกมา
ความหวานที่เข้าสู่ช่องปากทำให้แววตาของป๋ออิ่นแดงก่ำ ทว่าเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดเป็นเธอ เขาก็กลั้นใจไว้ได้ จากนั้นรัดเอวบางของเธอไว้ หัวเราะเสียงต่ำระคนแหบเครือ “ผมบอกแล้วว่าคุณจะชอบ”
น้อยครั้งมากที่โหลวลั่วจะใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงแบบนี้ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจากโซฟาไปถึงห้องน้ำ แล้วมาจบที่เตียงอีก
กลิ่นหอมกุหลาบเบาบางที่ปลายจมูก ทำให้บางครั้งเธอถึงขั้นรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ที่นี่ เหมือนอยู่ในปราสาทเสียมากกว่า
หลังจากเสร็จกิจกรรมรักแล้ว เขาไม่ได้หนีหายไปจากเธอ
เขาดูแลคนเก่งมาก
ดูท่าทางไม่ได้เป็นครั้งแรกแน่นอน
และโหลวลั่วก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอเช่นกัน
ทว่าเธอลืมไปแล้วว่าเคยมีครั้งแรกกับใคร
คงเพราะเธอใจลอย เขาจึงยกเอวเธอขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยเสียงต่ำว่า “พวกเรามีลูกกันอีกสักคนดีไหม จะได้ช่วยให้คุณจำได้ แต่ครั้งนี้ลูกคงเหมือนผมล่ะนะ”
“ลูก?” โหลวลั่วยังไม่ได้สติกลับมาเต็มที่ ความรู้สึกหวามไหวยังค้างอยู่ที่ปลายนิ้วมือ อีกคนงั้นเหรอ?
ป๋ออิ่นตอบว่า “ใช่” จากนั้นก็จูบลงบนซอกคอของเธอ
อากาศข้างนอกค่อนข้างเย็นด้วยเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว
ทว่าภายในห้องกลับไม่รู้สึกเย็นอะไรเลย
แม้ว่าทั้งสองจะคลุมแค่ผ้าห่มผืนเดียวเท่านั้น
โหลวลั่วเป็นคนฉลาด ทั้งยังเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ เมื่อได้สติกลับมาก็เอ่ยขึ้น “เราเคยมีลูกด้วยกันเหรอ อยู่ที่ไหน?”
หากคำนวนจากอายุของเธอและเขา เด็กน่าจะยังไม่โตมาก
เธอเป็นคนรักเด็ก แม้หลายคนจะบอกว่าให้ระวังคนที่เธอกำลังเลี้ยงไว้อยู่ให้ดี แต่เวลานี้เธอทิ้งความระแวดระวังทุกอย่างไปแล้ว ถึงขั้นที่เชื่อเขาสนิทใจ
ป๋ออิ่นหลุบตาลง กอดอีกฝ่ายผ่านผ้าห่ม “รอให้คุณจำได้หมดก่อน ผมจะพาคุณไปเจอลูก”
โหลวลั่วง่วงนอนมากแล้ว แต่ไม่ได้หลับตาลง “คุณสัญญาว่าจะไม่หลอกฉัน ใช่ไหม?”
“แน่นอน” เขาจูบลงที่หางตาเธอ
โหลวลั่วไม่ยอมให้เรื่องจบเพียงเท่านี้ “งั้น เป็นลูกชายหรือลูกสาวคะ?”
“ลูกสาว” ป๋ออิ่นเอ่ยเสียงเบา “แต่เก่งเรื่องจัดการความสัมพันธ์ของผู้หญิงผู้ชายมาก”
โหลวลั่วกำลังคิดว่าเพราะเธอกับเขามีช่องว่างระหว่างวัยหรือไม่ “ผู้หญิง เก่งเรื่องจัดการความสัมพันธ์ของผู้หญิงผู้ชายมาก?”
“อื้อ” ป๋ออิ่นนึกถึงท่านจิ่วขึ้นได้ ก็ให้ข้อมูลเพิ่ม “มีผู้หญิงมาชอบลูกเราเยอะมาก คิดว่าถ้าพวกนั้นได้เจอคุณ คงต้องเรียกคุณว่าคุณแม่ผัวแน่นอน”
คุณแม่ผัว? โหลวลั่วหลุดขำ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
ป๋ออิ่นรู้ว่าเรื่องพวกนี้ต้องให้เวลาเธอค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับมัน
ระหว่างนี้เธออาจจะรับไม่ได้
ทว่าโหลวลั่วก็คือโหลวลั่ว เธอหัวเราะก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขนาดเด็กผู้หญิงยังชอบลูกสาวเรา แสดงว่าลูกต้องมีเสน่ห์มากแน่นอน”
“ก็ขี้อ้อนอยู่” ป๋ออิ่นมองเธอ “คุณเชื่อเหรอ?”
โหลวลั่วยิ้มนิดๆ กลิ่นอายนักธุรกิจยังอยู่ครบ “มีลูกสาวสักคนก็ดีเหมือนกัน ฉันชอบเด็กผู้หญิง ถึงเวลานั้นจะได้ซื้อชุดเจ้าหญิงให้ลูกใส่”
ป๋ออิ่นหัวเราะ ซบหน้าที่บ่าเธอ
โหลวลั่วไม่เข้าใจ “คุณหัวเราะอะไร?”
“เปล่า” น้ำเสียงของป๋ออิ่นเรียบเรื่อย “เมื่อก่อนคุณก็เคยคิดอย่างนี้”
………………………………………………..
ตอนที่ 1822
ผมจำได้ก็พอ
โหลวลั่วได้ยินคำพูดของชายหนุ่มแล้ว ก็เดาออกอย่างชาญฉลาดว่าคงไม่ธรรมดาแน่ “แล้วผลก็คือ?”
“ถึงเวลานั้นคุณก็ดูเองแล้วกัน” ป๋ออิ่นหัวเราะเบาๆ “ท่านจิ่วของเราเรียนรู้ที่จะทำตัวเรียบร้อยต่อหน้าคุณแล้วเหมือนกัน”
โหลวลั่วไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากฟังเรื่องของลูกให้มากกว่านี้ “ท่านจิ่วของเรา? ลูกเราชื่อจิ่วเหรอคะ?”
“ป๋อจิ่ว” ป๋ออิ่นตอบเสียงเบา หากฟังให้ดีจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์อื่นที่แฝงมาด้วย “คุณเป็นคนตั้งชื่อเอง บอกว่าอยากให้อยากอยู่กับคุณป๋อไปนานๆ”
โหลวลั่วเอนพิงร่างอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยอ่อน “ฉันจำไม่ได้”
“ไม่เป็นไร” เสียงป๋ออิ่นยังคงน่าฟังเสมอ “ผมจำได้ก็พอ”
โหลวลั่วใจเต้นแวบหนึ่ง พูดเรื่องเมื่อครู่ต่อเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอไผลไปมากกว่านี้ “ฉันอยากเจอลูกค่ะ”
“ผมจะพาคุณไปหา” ป๋ออิ่นทัดเส้นผมของเธอไว้ที่หู “แต่คุณอาจจะตกใจได้ เพราะงั้นก่อนออกเดินทาง คุณต้องเตรียมใจเสียหน่อย”
โหลวลั่วไม่ได้ถามเขาว่าต้องเตรียมใจอะไร
เธอหัวเราะเสียงเบา “มีของน้อยอย่างที่จะทำให้ฉันตกใจได้นะคะ”
“รอก่อนเถอะ” ป๋ออิ่นสางผมให้เธอ “เขาต้องลงแข่งน่ะ”
ในความคิดของโหลวลั่ว การแข่งขันที่ผู้ชายคนนี้พูดถึงน่าจะเป็นการแข่งบาสเก็ตบอลระดับประถมอะไรทำนองนั้น
แต่มันไม่ส่งผลอะไรต่อการรอคอยที่จะได้พบลูกสาวของเธอ
เธอเชื่อเขาอย่างสนิทใจแล้ว
หลายคนนินทาว่าเธอไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่เช่นเดียวกัน ใครล่ะจะเข้าใจเธอเมื่อต้องอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมาหลายปี
บางครั้งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองไม่น่าจะอายุเท่าในเวลานี้
เพื่อนๆ ต่างบอกว่าผ่านสามปี เหมือนหน้าเธอจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ต่างถามกันว่าเธอซื้อเครื่องบำรุงผิวจากที่ไหน
อันที่จริงเธอไม่ได้ใช้ยี่ห้อไหนเป็นประจำ เธอมักรู้สึกไปเองว่าตัวเองหยุดอายุไว้ที่ 31 ปี
แต่สำหรับคนอื่นๆ ผู้หญิงอายุ 31 อย่างเธอไม่ถือว่าน้อยแล้ว
แล้วเขาอายุเท่าไรกันแน่
โหลวลั่วดูไม่ออก แต่แน่ใจได้ว่าเขาต้องอ่อนกว่าเธอแน่นอน
ดูจากที่เขาสวมเสื้อยืดสีดำเมื่อครั้งที่แล้วก็รู้ได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่จุดสำคัญ
หากเขาพูดไม่จริง เธอก็ยังดีใจ เพราะการเลี้ยงคนไว้ข้างๆ คงจะความรู้สึกที่ดีเช่นนี้เอง
เพียงแต่เมื่อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เรื่องก็ออกจะละเอียดอ่อนลึกซึ้งแล้ว
ความลึกซึ้งที่ว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อตื่นในวันต่อมา
หลังจากทำงาน เพื่อนๆ เสนอให้มาเจอกันหน่อย
ปกติแล้วโหลวลั่วทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมาก เมื่อถึงตอนบ่ายสามกว่าเธอก็ออกจากบริษัทไปร้านกาแฟแถวตึกที่ทำงาน
บางครั้งสาวแกร่งที่อยู่ในละครทีวีก็ไม่เหมือนในชีวิตจริง เพราะผู้หญิงมักเน้นพูดเรื่องความรักและครอบครัว
หากมาดื่มกาแฟกินของหวานกันอย่างนี้ คนทั่วไปมักคิดว่าผู้หญิงเหล่านี้จะต้องมีสามีรวยและชอบช้อปปิ้ง
อันที่จริงก็ไม่ถึงกับเป็นอย่างนั้น
พัฒนาการด้านนิสัยเฉพาะตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง ล้วนมีความเกียจคร้านที่เป็นเอกลักษณ์เกิดขึ้นในช่วงหลังเที่ยง
พวกเธอที่นั่งบนโต๊ะล้วนแต่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการงานของตัวเอง
หนึ่งในนั้นกำลังจะหย่า
เดิมทีก็คุยกันสนุกสนาน แต่เมื่อเห็นโหลวลั่ว และเห็นร่องรอยบนคอของเจ้าตัว ก็อึ้งกันไปนิดๆ มุมปากหยักยิ้มขึ้นมา “อะไรกันเนี่ย ไหนว่าไม่ได้แตะเจ้าลูกหมาน้อยที่เก็บไปเลี้ยงที่บ้านไง”
“เหลือเชื่อที่คนอย่างประธานโหลวก็มีตอนอดใจไม่อยู่เหมือนกัน”
เวลาอยู่ในห้องทำงาน โหลวลั่วที่สวมชุดสูททำงานกลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายด้วย เมื่ออยู่สถานที่แบบนี้ เธอย่อมไม่เคร่งครัดกับตัวเอง ไม่คิดว่าพอถอดเสื้อตัวนอกออกจะเห็นอะไรบางอย่าง
“ฉันว่านะ เจ้าหมาน้อยได้กำไรไปเลย”
“ไม่ใช่แค่กัดเหรอ”
“ประธานโหลวที่รัก คุณลองบอกมาซิว่าทนไม่ไหวใช่ไหม?”
โหลวลั่วยิ้มนิดๆ ข้อมือขาวนวล เมื่อยกถ้วยชาขึ้นมายิ่งดูเนียนสวย “ใช่”
………………………………………
ตอนที่ 2219
ความสัมพันธ์ของคุณพ่อป๋อและคุณแม่ป๋อก้าวหน้าอีกขั้น
“งั้นต้องชดเชยหน่อยไหม?”
ในที่สุดก็พูดถึงเรื่องชดเชยแล้ว
โหลวลั่วกลับโล่งอก เพราะเธอจะได้บริหารความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้อย่างสมเหตุสมผลต่อไปได้
ในเมื่อเขาให้ความอบอุ่นแก่เธอ อยู่ข้างกายเธอ เธอก็จะให้ของที่เท่าเทียมกันกับเขา แบบนี้ถึงจะถูก
“อืม ควรจะให้” เธอวางมือบนศีรษะเขาอีกครั้ง รู้ว่าบางเรื่องไม่ควรพูดให้ตรงเกินไป
ก่อนหน้านี้ไม่ได้ระวัง
แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชาย
ตอนโหลวลั่วกำลังหาจุดสมดุล เธอไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้
เมื่อมาถึงที่หมาย คนขับรถก็กลับไป
บ้านทางตะวันตกไม่ได้ใหญ่มาก เป็นแบบค่อนข้างโบราณ แต่ก็ยังเป็นบ้านเดี่ยวอยู่ดี
โหลวเพิ่งผลักประตูเข้าไป เตรียมจะคุยกับเขาสักหน่อย ก็ถูกเขาโอบจากด้านหลัง จากนั้นจูบเข้าที่ต้นคอ
ลมหายใจของเขาเย็นราวกับไร้ซึ่งอุณหภูมิ
ทว่ากลับทำให้เธอสะท้านไปทั้งตัวอย่างน่าประหลาด
คงเพราะตอนฟันของเขาสัมผัสเส้นเลือดของเธอ จะทำให้เกิดความรู้สึกที่แปลกออกไปเสมอ ส่งผลให้เธอไร้แรงจะต้านทาน
“อย่าดื้อสิ อื้อ พอแล้ว” โหลวลั่วยังครองสติไว้ได้ เตือนให้เขาหยุดเพียงเท่านี้
ทว่าป๋ออิ่นกลับเอียงหน้า ลมหายใจกระทบใบหูเธอ “เมื่อกี้ทำร้ายผมแล้ว ก็ควรจะชดเชยให้ผมไม่ใช่เหรอ?”
โหลวลั่วไม่นึกว่าเขาจะใช้วิธีนี้เป็นการชดเชย พอเธอจะเงยหน้า มือของเขาก็คืบคลานเข้ามากระโปรงเธอแล้ว
เมื่อเรียวขาสัมผัสความเย็นของเขา เธอถึงกับสะดุ้ง มองแววตาอีกฝ่าย
ป๋ออิ่นหลุบตาลง ยิ้มให้นิดๆ “วางใจเถอะ แล้วคุณจะชอบ”
เสียงนั้นเหมือนการสะกดจิต ทั้งแหบต่ำและน่าลุ่มหลง คล้ายไวน์แดงที่เทลงบนก้อนน้ำแข็ง
โหลวลั่วไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไร แต่เท่าที่จำได้ ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเธอมาก่อน
เนิ่นนานที่ผ่านมา เวลาเขาอยู่กับเธอ อย่างมากก็แค่หอมแก้ม หรือไม่ก็อิงแอบ
ทว่าวันนี้กลับต่างออกไป
เธอไม่รู้ว่าตัวเองได้เตรียมใจพร้อมไว้หรือเปล่า
พูดจากในบางด้าน เธอไม่หวังให้พวกเขาพัฒนาจนมีความสัมพันธ์ประเภทนี้
เธอรู้ดีว่ามันเป็นปฏิกิริยาทางกาย
ร่างกายที่อ่อนวัยมักทำให้คนหลงใหลจริงๆ
เดิมทีเขาก็มีอิทธิพลต่อเธออยู่แล้ว
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป โหลวลั่วก็ไม่แน่ใจว่าตอนเขาจะจากไป เธอจะปล่อยเขาไปได้ไหม
“ชดเชยแบบนี้ไม่ได้” เธอมองไม่เห็นหน้าเขา เพราะเป็นจุดที่หันหลังให้ เธอได้แต่รั้งข้อมืออีกฝ่ายไว้ “ฉันไม่สะดวก”
ป๋ออิ่นเลิกคิ้ว “ไม่สะดวก?”
“ประจำเดือนฉันมา” โหลวลั่วอ้างเหตุผล เธอที่สวมชุดสูทถอยห่างจากเขาก้าวหนึ่ง ด้วยเหตุที่สวมรองเท้าส้นสูงมานานแล้ว เมื่อมาถึงโถงทางเข้าก็คิดจะเปลี่ยนไปสวมรองเท้าแตะก่อน
ยังไม่รอให้เธอก้มตัว ก็มีคนเร็วกว่าเธอหนึ่งก้าว จับข้อเท้าขาวนวลของเธอเอาไว้ แล้วถอดเอารองเท้าส้นสูงออกมา
เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น ทำให้เธอจับบ่าเขาทันทีตามสัญชาตญาณ
คงเพราะหน้าตาหล่อเหลาเกินไป ทำให้แม้จะทำกิริยาดังกล่าว เขาก็ยังไม่ดูต่ำต้อย แต่กลับร้ายกาจเหมือนพ่อบ้านปีศาจจากในการ์ตูน ออร่าไม่ถูกกลบเลยสักนิด กลับยังทำให้คนอื่นรู้สึกเกรงใจไปเสียทุกครั้ง
แม้แต่โหลวลั่วก็เช่นกัน “ต่อไปฉันถอดเองนะ”
“ได้สิ” เขาตอบรับ ทว่าในวินาทีถัดมาก็อุ้มเธอมากดไว้ที่โซฟา ก่อนจะคร่อมตัวลงมา ค้ำแขนข้างหนึ่งไว้ข้างเธอ พลางยิ้มให้นิดๆ “คุณไม่ได้ประจำเดือนมาสักหน่อย”
………………………………
ตอนที่ 2220
บทคุณพ่อป๋อ ความหวานที่ยั้งใจไม่อยู่
โหลวลั่วยังไม่ทันถามว่า ‘รู้ได้ยังไง’ เขาก็จูบเธอแล้ว
ลมหายใจจากปากของเขาเหมือนน้ำหอมที่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร
โหลวลั่วยังคิดอยู่ว่าร่างกายคนหนุ่มสาวเป็นอย่างนี้กันหมดหรือเปล่า
ชุดสูทธุรกิจบนร่างถูกเขาปลดออกแล้ว
สามารถรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น ไม่ได้มาจากเขาหรอก แต่มาจากตัวเธอนี่แหละ
เขาเหมือนไร้อุณหภูมิ ทว่าเพราะความเย็นที่ลุกล้ำเข้ามาถึงทำให้เธอตัวสั่น
โหลวลั่วไม่ได้ตั้งใจจะต่อต้าน แค่นึกสงสัยว่ามีใครบ้างที่ต่อต้านเขาได้
ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจหรือน้ำเสียง รวมถึงใบหน้าของเขา ล้วนทำให้ยากที่จะปฏิเสธ
เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ย่อมไม่ตกใจลนลาน
เหตุผลสำคัญที่สุดก็เป็นเพราะนิสัยของเธอเอง
เพียงแต่เธอไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้
คนนิสัยกระด้างเย็นชาย่อมไม่กระตือรือร้นในเรื่องทำนองนี้
เธอไม่เคยคิดมาก่อน ทั้งยังไม่เคยสนิทชิดเชื้อกับใครแบบนี้
ทว่าเธอเคยมีคู่หมั้นที่ต้องจบความสัมพันธ์ลงโดยยังไม่ทันเริ่มต้น
เพราะเขาคนนั้นเคยบอกว่าเธอดีต่อเขาไม่มากพอ
เวลายุ่งก็ไม่รู้จักตามหาเขา และยังเป็นฝ่ายรุกก่อนเองไม่เป็น
ดังนั้นทั้งสองคนอย่างมากสุดก็แค่ไปดูหนังด้วยกัน
ต่อมาเธอรู้ความคิดจิตใจของเขา หากจะบอกว่าโดนคนอื่นเข้ามาแทรกกลาง สู้บอกว่าความรักที่มีระหว่างกันมันช่างเปราะบางจะดีกว่า
บางครั้งความแปลกของผู้ชายก็อยู่ตรงที่ว่าเมื่อเราค้นพบความผิดของเขา แล้วเราจะเลิกกับเขา เขากลับอาลัยอาวรณ์ ถึงกับออกปากรั้งเอาไว้ พูดว่า ‘ผมไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย เพราะคุณชอบเป็นแบบนี้แหละ ทำให้ผมหมดความรู้สึกสดชื่น ทำไมคุณไม่ยอมให้ผมแตะต้องคุณล่ะ’
โหลวลั่วไม่ได้เข้มงวดกับเรื่องทำนองนี้
ในเมื่อเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น นี่เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว
เธอมองดูผู้ชายที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเช่นเดียวกับเธอ ก่อนจะวางปากกาลง ‘พวกเราไม่เหมาะสมกัน’
ชายคนนั้นเคยโกรธแค้น หาว่าเธอใจดำ
ทำให้ในระยะเวลาต่อมา คนที่ได้พบเธอก็ล้วนแต่บอกว่าเธอด้านชากับเรื่องนั้นหรือเปล่า
เรื่องนั้นผ่านมานานแล้ว ตอนนี้โหลวลั่วเองก็จำไม่ค่อยได้อีก
เธอจำได้ว่าตอนนั้นมีคนเสนอให้หาเด็กหนุ่มสักคน
ตอนนี้ก็สมพรปากแล้ว
โหลวลั่วเงยหน้าขึ้น ลำคอยาวระหงน่ามอง
ป๋ออิ่นกลับไม่พอใจ งับใบหูเธอเบาๆ “กำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ใส่ใจเลยล่ะ”
โหลวลั่วไม่รู้ว่าตัวเองควรจดจ่ออย่างไรแล้ว เมื่อความวาบหวามกระจายมา สมองเธอก็ขาวโพลน
โดยเฉพาะเมื่อเขาแทรกกายเข้ามา ยิ่งร้อนเร่าเข้าไปใหญ่
เขาเหมือนจะทนได้มากกว่า ซบศีรษะอยู่ที่ซอกคอเธอ “อย่าขยับนะ ผมกลัวว่าผมจะทนไม่ไหวแล้วกัดคุณเข้า”
โหลวลั่วรู้สึกได้ถึงฟันของเขา มันแหลมและระคายเคืองอยู่บ้าง เหมือนจะสูบพลังออกจากตัวจนหมดได้
เธออยากมอง ทว่าโดนเขากดข้อมือไว้ ก่อนจะประสานนิ้วทั้งสิบเข้าด้วยกัน
ความเจ็บแปลบนิดๆ ทำให้เธอสั่นเทาทั้งตัว
เขาเหมือนจะชอบปฏิกิริยาแบบนี้ของเธอมาก
จึงหัวเราะเสียงต่ำข้างหูเธอ เสียงทั้งแหบเครือและเซ็กซี่
เขาอุ้มเธอขึ้นมานั่งอยู่ในอ้อมกอดเขา เสื้อผ้ายับยุ่งไปหมดแล้ว
ลมหายใจของเขายังไล้อยู่ข้างหูเธอ เสียงนั้นไม่หยุดเอ่ย “เมื่อก่อนคุณชอบท่านี้ที่สุด”
โหลวลั่วไม่พูดอะไร ด้วยหากเผยอปาก เสียงของเธออาจจะดังกระท่อนกระแท่นออกมาได้
ร่างกายร้อนระอุ ความวาบหวามจู่โจมเข้ามาเป็นระยะๆ เขาเหมือนจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด
ทว่าเรี่ยวแรงของโหลวลั่วค่อยๆ หายไป เมื่ออยากถอนตัวออกมา เขาก็รั้งเธอกลับไปอยู่ในอ้อมแขน ริมฝีบางประทับที่ซอกคอเธออีก
“อึก…” โหลวลั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย ถูกจู่โจมเข้ามาอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ความรู้สึกที่ผู้ชายคนนี้นำมาให้ราวกับสามารถกลบลบทุกอย่างไปได้ทั้งหมด…
…………………………………………
ตอนที่ 2217
บทคุณพ่อป๋อและคุณแม่ป๋อ
ในนิยาย คำพูดแบบนี้ต้องเป็นประธานหนุ่มพูดกับนางเอกสิ
แต่ก็น่าแปลกที่โหลวลั่วพูดได้อย่างไม่รู้สึกประหลาด คงเพราะบุคลิก
ของเธอเหมือนผู้ประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจ
ทว่าแววตาของเธอกลับกระจ่างใส
ป๋ ออิ่นเอียงคอมองในท่านั้น ประทับเรียวปากลงบนใบหน้าของเธอ
“ตอนนี้ไม่อยากไปแล้ว”
โหลวลั่วไม่คิดว่าเขาจะจูบเธอ
มือที่วางไว้บนศีรษะอีกฝ่ายชะงัก
ในฐานะที่เป็นคนเกาะเมียกิน ป๋ออิ่นย่อมรู้จังหวะรุกและถอยเป็น
อย่างดี จูบนั่นแผ่วเบาพอให้รู้สึกคันนิด ๆ
โหลวลั่วนึกถึงหมาพันธุ์อลาสกันที่เคยเลี้ยงไว้ มันชอบจูบเธอแบบนี้
เหมือนกัน
ช่วงนี้เธอมักอ่านความคิดเห็นของผู้คนที่มีต่อคู่รักซึ่งผู้หญิงอายุ
มากกว่าผู้ชาย
มีน้อยรายที่จะจบลงด้วยดี
แต่สำหรับความสัมพันธ์ของพวกเธอตอนนี้ คงไม่ใช่แม้แต่ความรัก
แบบนั้น
เพราะเธอน่าจะเป็น…สายเปย์ของเขามากกว่า?
เมื่อก่อนโหลวลั่วไม่ชอบคนที่ไม่กระตือรือร้นในความก้าวหน้า
เวลาอยู่ในบริษัท เธอชอบคนที่รู้จักกฎเกณฑ์การทำงานและมุ่งมั่น
พยายาม
ทว่าชายคนนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ
เพราะอะไรกันแน่?
โหลวลั่วพยายามค้นหาสาเหตุตลอด และสุดท้ายก็ได้แต่ให้เหตุผล
กับตัวเองว่า เมื่อชายคนนั้นอยู่ข้างกาย เธอก็จะไม่รู้สึกเหงาอย่างน่า
ประหลาด
พอกลับถึงบ้านก็มีคนช่วยเธอถอดรองเท้าส้นสูงให้
โหลวลั่วเคยถามเพื่อนผู้หญิงว่าแฟนของพวกเธอเคยทำแบบนี้ให้
หรือไม่
และคำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะเบา ๆ ‘บ้าหรือเปล่า ช่วยถอด
รองเท้าส้นสูงเนี่ยนะ ช่วยถอดเสื้อผ้าน่ะยังพอว่า เชื่อฟังแบบนี้
ท่าทางจะเด็กกว่าเธอใช่ไหมเนี่ย’
ก็อายุเด็กกว่าเธอจริง ๆ
ไม่อาจมองว่าอีกฝ่ายเป็นน้องชายได้ด้วย
และเธอก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นไอ้หน้าอ่อน
หากจะบอกว่าเขาเป็นชายหนุ่ม ก็แค่เพราะออร่าอย่างคนหนุ่มสาวนั่น
ทว่าเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง
จากสายตาของเขาในบางครั้งเธอก็รู้แล้ว ความเจ้าเล่ห์ของเขาเหมือน
ทำให้คนเสพติดได้
น่าจะเป็นข้อดีของพวกคนอายุน้อย?
โหลวลั่วคิดมาถึงตรงนี้ มือก็ผละออกจากศีรษะของเขา เธอยังคงยิ้ม
จาง ๆ เหมือนเดิม “งั้นขึ้นรถดีไหม?”
“อืม” เสียงของป๋ ออิ่นยังยานคางเหมือนเดิม แต่หลังจากขึ้นรถแล้วก็
แหบต่ำอย่างมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น “คุณบอกว่าคุณจำบางอย่างได้แล้ว?”
โหลวลั่วเอารายงานการเงินที่เพิ่งหยิบมาดูกลับไปวางไว้ที่เดิม น้ำเสียง
หนักอึ้งอยู่บ้าง “ตอนนี้ยังนึกไม่ออก แต่ภาพบางอย่างมัวมาก”
ป๋ออิ่นไม่พูดอะไร แค่ดึงรายงานออกจากตักของเธอ “คุณควรจะ
บอกมันว่าตักคุณเป็นของผม”
ว่าแล้วก็เอนตัวนอนลงไปหนุนตักเธอ
โหลวลั่วก็ไม่ได้รีบจัดการเอกสาร เพราะมีเจตนามารับเขาโดยเฉพาะ
จึงปล่อยให้เขาหนุนตักไป
ขณะมองเส้นผมดำนุ่มสลวยและใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ โหลวลั่ว
ยื่นมือสางเส้นผมให้เขา บุคลิกของเธอไม่เปลี่ยนไป แต่งหน้าอย่าง
ประณีต สวยเด่นชัด ชุดสูทธุรกิจบนตัวขับให้เธอยิ่งดูเด็ดขาด
“ประธานโหลว พวกเราไปทางทิศตะวันตกหรือไปที่อื่นครับ?”
คนขับมองกระจกมองหลัง เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าท่านประธานไปหา
แฟนแบบนี้มาจากไหน?
นอกจากหน้าตาแล้ว ก็ไม่รู้สึกว่ามีคุณสมบัติอื่นใดที่เหมาะสมกันเลย
แต่ไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้น ท่านประธานเหมือนชอบบ้านทาง
ตะวันตกมากขึ้นทุกที
เพราะจัดเตรียมบ้านหลังนั้นให้ผู้ชายคนนี้อยู่นั่นเอง…
ตอนที่ 2218
ตอนพิเศษของคุณพ่อป๋อและคุณแม่ป๋อ
ท่านประธานโหลวชอบไปบ้านทางตะวันตกเพราะตอนนี้มีชายคนนี้
อยู่ด้วย
ตอนที่เธอเก็บเขากลับมาเลี้ยงที่บ้านก็เก็บมาจากที่นั่น
แต่เห็นได้ชัดว่า วันนี้ชายหนุ่มเหมือนจะเงียบขรึมกว่าเมื่อก่อน
เล็กน้อย
โหลวลั่วหลุบตาลง ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน จู่ ๆ เขาก็
เงียบไป
“เพราะฉันนึกไม่ออก คุณก็เลยไม่ชอบใจใช่ไหม?” เธอถามคนที่
นอนบนตักตัวเอง
เขาพลันหัวเราะออกมา คว้ามือเธอไว้ น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเซ็กซี่น่าฟัง
“เปล่า ขอแค่คุณจำได้ว่าต้องรับผมกลับบ้านแบบนี้ทุกวันก็พอแล้ว”
“ฉันเห็นพวกคู่รักในละครอยากให้แฟนตัวเองจำได้กันทั้งนั้น” เธอ
มองเขา ราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อก่อนเคยรู้จักอีกฝ่าย
ป๋ ออิ่นมองออก มุมปากแย้มยิ้มนิด ๆ “ได้หมดเลย ถ้าคุณจำได้
หมดแล้วผมจะพาไปเจอคนคนหนึ่ง แต่ถ้าคุณยังจำไม่ได้ พวกเราก็
กลับมาคบกันอีกสักครั้ง”
โหลวลั่วหัวเราะ เขาพูดทีไรทำให้คนรู้สึกสบายทุกที
พวกคนที่เลี้ยงเด็กเอ๊าะ ๆ ไว้ก็คงเพราะเหตุนี้ล่ะมั้ง?
เดิมทีเธอมีรายงานการเงินที่ต้องทำเสร็จที่บริษัทในวันนี้
แต่พอนึกได้ว่าเขาจะไปร่วมงานสังสรรค์ธุรกิจ เธอก็เอารายงาน
ออกมาด้วย
เพื่อนผู้หญิงของเธอรู้ทุกคนว่าเธอคบอยู่กับเขา
มีคนถามเธอว่าเขาทำงานอะไร ซึ่งทำให้เธอลำบากใจมาก
เพราะคนคนนี้ไม่ค่อยออกจากบ้านตอนกลางวัน แต่มักโผล่หน้า
ออกไปในตอนกลางคืน
“ทำงานที่ผับเหรอ?”
“หรือเป็นนักศึกษา เลยไม่ต้องตื่นเช้า”
มีคนคาดเดา ทั้งยังบอกเธอว่าผู้ชายแบบนี้ไม่น่าจะคบกับผู้หญิงอย่าง
พวกเธออย่างจริงใจ
โหลวลั่วรู้ดีว่านี่ไม่เกี่ยวกับความมั่นใจในตัวเอง
คนที่โตแล้วอย่างเขามักจะชอบผู้หญิงหวาน ๆ ที่เทิดทูนตัวเอง
ต่างหาก
แต่โหลวลั่วคิดง่าย ๆ ว่า มีเขาอยู่ข้างตัวก็ทำให้สบายจริง ๆ
เธอรู้ดีว่าขีดจำกัดคืออะไร
การจะถามอาชีพของเขาหรือไม่ ตอนนี้กลายเป็นปัญหายากอย่าง
หนึ่งไปแล้ว
เธอเห็นคนอื่นเลี้ยงดูเด็กอายุน้อยกว่า ก็ล้วนแต่ส่งเสริมการเงินให้
ทั้งนั้น
ทว่าคนคนนี้กลับไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเธอเลย
อย่างมากก็โทรหาเธอว่า ‘วันนี้กลับเร็วหน่อยได้ไหม’
มักทำให้เธอรู้สึกว่าเขาคิดถึงเธอจริง ๆ เหมือนสามีที่กำลังรอคอย
ภรรยา
เธอไม่อยากแสดงออกว่าเป็นพวกวัตถุนิยมเกินไป แม้ว่าเธอจะเป็น
พวกวัตถุนิยมก็ตาม
ทว่าเธอควรต้องตอบแทนอะไรบ้างจึงจะถูก
“คุณ” เธอพูดได้แค่นี้ก็ชะงักไป “ทำงานใช่ไหมคะ?”
ป๋ออิ่นมองเธอแล้วตอบ “อืม”
เธอก็ไม่เก็บซ่อนอะไรอีกต่อไป “เป็นงานอะไร ต้องให้ฉันช่วยไหม?”
“ผมทำด้านภาษาซีน่ะ” ป๋ ออิ่นกระเถิบเข้าชิดอีกนิด “คุณแค่เลี้ยงผม
ให้ดี ๆ พอ อย่าทิ้งผมไว้ที่บ้านคนเดียว ต้องตอบข้อความผมทันที
เวลาประชุมก็ห้ามตัดสายผมทิ้ง”
โหลวลั่วได้ยินแล้วนิ้วมือชะงัก
ไว้วันหลังแล้วกัน
วันหลังเธอจะถามพวกเพื่อน ๆ ของเธอว่า ทำไมคนที่เธอเลี้ยงจึงไม่
เหมือนหนู ๆ ที่บรรดาท่านทั้งหลายเลี้ยงดู
แต่ก็เข้าทีอยู่
เขาฉลาดที่จะทำให้เธอมีความสุข ไม่เคยเรียกร้องข้าวของนอกกาย
ไม่เหมือนกับอย่างที่เธอคิดไว้เลย
ต่อให้เขาอยากได้อะไรจริง ๆ ก็ไม่มีวันลดศักด์ิศรีลงต่ำขนาดนั้น…
คนที่เธอเก็บมาเลี้ยง จะมากจะน้อยเธอย่อมเข้าใจในตัวเขาดี
“ฉันถามตรง ๆ แบบนี้” โหลวลั่วหยิกแก้มเขาพลางหัวเราะเสียงเบา
ชุดสูทที่สวมขับให้ลำคอเธอยาวระหง “ทำให้คุณเจ็บปวดหรือเปล่า”
ป๋ ออิ่นเล่นไปตามน้ำ หลุบตาลง “ก็เจ็บปวดจริง ๆ แหละ”
ตอนที่ 2215
บทคุณป๋อ
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า ประกายในก้นบึ้งนัยน์ตาของเขามีสีแดงราง ๆ
เหมือนจอมมารจากในการ์ตูนจริง ๆ
จอมมารจะแก่ได้อย่างไรจริงไหม?
เขาหัวเราะเอ้อระเหยเหมือนเดิม “เอาละ ขอให้คุณรู้ว่าผมยังมีชีวิต
อยู่ก็พอแล้ว”
“หมายความว่ายังไง?” คุณท่านอานผู้ปราดเปรื่องขมวดคิ้ว “คุณไม่
ไปหาจิ่วหน่อยเหรอ?”
คุณป๋ อจิ่วยืนนิ่งตรงนั้น เหมือนกลมกลืนไปกับความมืดแล้ว “ผม
เคยเจอเขาแล้ว ว่าแล้วว่าท่านจิ่วของผมสวมชุดเจ้าสาวได้สวยมาก”
“คุณไปร่วมงานแต่งงานของพวกเขาที่ต่างประเทศ?” คุณท่านอาน
เงยหน้าทันที “พวกเขาจำคุณไม่ได้?”
คุณป๋อแก้ให้ “ต้องบอกว่าผมเป็นคนจัดพิธีแต่งงานให้พวกเขาเอง หึ
สองคนนี้สายตาไม่เลว เลือกโบสถ์ที่ผมนอนอยู่พอดี”
“โบสถ์ที่คุณนอน?” คุณท่านอานอึ้ง นึกถึงตอนที่เจอชายคนนี้เป็น
ครั้งแรก ก่อนจะเอ่ยว่า “มีเรื่องหนึ่งที่ผมอยากถามคุณมาตลอด คุณ
ใช้ทำวิธีไหนถึงทำให้บาดแผลที่ผมชนคุณหายไปได้”
คุณป๋ อหัวเราะเบา ๆ “คุณอานก็ มาถามเอาตอนนี้ มันสายเกินไป
ไหม?”
คุณท่านอานอยากพูดขึ้นอีก กลับได้ยินเสียงมือถือดังขึ้นมาก่อน
คุณป๋อหยิบมือถือมากดรับ เสียงพูดเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในความเซ็ก
ซี่แฝงด้วยความออดอ้อน “ผมเหรอ เหมือนจะหลงทาง อืม ไม่รู้ว่า
ตัวเองอยู่ที่ไหน จะมารับผมเหรอ ได้ งั้นผมรอที่นี่นะ คุณอย่าขับรถ
เร็วนักล่ะ หนาวนิดหน่อย เหรอ? จำบางอย่างได้ งั้นผมอยากฟังจัง
เลยว่าคุณจำอะไรได้บ้าง…”
คุณท่านจำได้ดีทีเดียว ว่าในสถานการณ์แบบไหนเพื่อนต่างวัยของ
ท่านถึงจะทำตัวเกาะเมียกินแบบนี้
และรู้แล้วด้วยว่าใครเป็นคนโทรมา
ท่านมองเพื่อนต่างวัยวางสาย แล้วมายิ้มให้พลางพูด “เดี๋ยวผมจะพา
เขาไปดูพวกลูก ๆ แข่ง จะว่าไปช่วงนี้ผมเพิ่งจะว่างดูพวกเขาสองคน
แข่ง ถึงตอนนั้นถ้าแข่งชนะ ผมว่าจะให้อะไรพวกเขาหน่อย”
หลังทิ้งประโยคนี้ไว้ ร่างสูงเพรียวก็หายไปท่ามกลางความมืดสลัว
ยามค่ำคืน
ยังสง่างามจนชวนให้รู้สึกเหลือเชื่อเสมอเลย
ทว่าคุณท่านอานไม่ได้ห้ามไว้ เพราะประโยคเดียวก็เกินพอแล้ว
อีกอย่างท่านรู้ว่าเมื่อเขาออกไปจากที่นี่ ก็จะยืนแสร้งทำตัวน่าสงสาร
อยู่ริมถนน จึงไม่ได้รั้งไว้แต่อย่างใด
ไม่ผิดคาด
คุณป๋ อทำท่าเกาะเมียกินอย่างเชี่ยวชาญจริง ๆ
เขาเดินไปริมถนน ถึงแม้บุคลิกยังเจ้าเล่ห์ เสื้อสูทตัวนอกกลับเปิดอ้า
ท่าทางเหมือนงงงวยอยู่บ้าง
เขายืนอยู่ตรงนั้น หางตากวาดมองฝูงค้างคาวที่เกาะตรงเสาไฟข้าง
ถนน
หากมีคนอื่นอยู่ด้วย รับรองว่าจะเห็นพวกมันตัวสั่นก่อนจะบินหนี
ไปแน่นอน
อันที่จริงไม่น่าจะมีค้างคาวอยู่ใกล้ผู้คนตรงกลางใจเมืองเสียด้วยซ้ำ
ฤดูกาลก็ไม่เอื้ออำนวย
ทุกคนต่างรู้ว่าค้างคาวชอบบริเวณที่มืดชื้น แล้วพวกมันมาอยู่ที่นี่ได้
อย่างไร
สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าช่างไม่เหมือนจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง
เมื่อค้างคาวบินจากไป หมอกดำรอบด้านก็จางหายไปด้วยไม่น้อย
คุณป๋อยืนอยู่ตรงดวงไฟริมถนน เงาของเขาถูกลากยาวออกไป
ลมยามค่ำคืนประจำฤดูใบไม้ร่วงพัดค่อนข้างแรง
เส้นผมสีดำของเขายุ่งนิด ๆ ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังไม่ส่งผลกระทบ
ต่อความสง่างามเฉพาะตัว แต่ทำให้ดูน่าสงสาร
โดยเฉพาะเมื่อรถจี๊ปแรงเลอร์ตรงเข้ามา เขาก็ยิ่งดูอ่อนแออย่างเห็น
ได้ชัด…
ตอนที่ 2216
บทคุณพ่อป๋อและมาดามป๋อ
คนในรถคันนั้นเห็นชายในชุดสูทดำยืนอยู่ใต้แสงไฟอย่างเอื่อยเฉื่อย
เสี้ยวหน้าถูกไฟส่องจนดูค่อนข้างซีดเซียวท่ามกลางไอหมอกเลือน
ราง
ทำให้คนที่ได้เห็นถึงกับใจเต้นกระตุก เมื่อจอดรถเธอก็ผลักประตู
ออกไป
พริบตาที่คุณป๋ อเงยหน้า มุมปากมีรอยยิ้มบาง ๆ
“ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้?”
เสียงที่ดังขึ้นแฝงด้วยความเย็นเยือกที่ดูว้าเหว่
ทว่าก็รู้สึกได้ถึงความห่วงหาอาทรผ่านน้ำเสียงด้วย
“เป็นงานเลี้ยงส่วนตัวที่ห้ามคุณเข้าไปเหรอ?”
คุณป๋ อตอบว่า “อื้อ” จากนั้นซบหน้าที่บ่าอีกฝ่ายราวกับอ้างว้าง
เหลือเกิน
เธอคนนั้นตัวแข็งทื่อ
รถที่แล่นผ่านสามารถเห็นภาพดังกล่าวได้จากกระจกหลัง
ผู้หญิงที่มีบุคลิกอย่างนักธุรกิจอย่างนี้น่าจะเลี้ยงไอ้หนุ่มหน้าตาดีไว้
ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำท่าแบบนี้
ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร มองไม่เห็นจริง ๆ เห็นแค่เรียวขา
ขาวกระจ่างซึ่งโผล่ออกมาจากกระโปรงชุดสูท รวมกับแผ่นหลัง
งดงามและส่วนโค้งเว้าที่ช่วงเอว
สิ่งที่ทำให้ผู้คนมองซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ แต่เป็นความเฉยชา
สูงส่งเหมือนดอกบัว ซึ่งพบเห็นได้น้อยมาก
ผู้หญิงแบบนี้ยังจะรับเลี้ยงผู้ชายหน้าอ่อนอีกเหรอ?
เสียดายทรัพยากรชั้นดีจริง ๆ !
อีกอย่างหากมองจากเสื้อผ้าของเธอแล้ว ก็มองออกว่าเธอไม่ได้เป็น
พนักงานธรรมดาทั่วไป
โหลวลั่วไม่ได้เป็นแค่พนักงานธรรมดาจริง ๆ ทว่าความทรงจำของ
เธอเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น
ไม่รู้ว่าเริ่มเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไร
เมื่อเขาคนนั้นหาเธอเจอ เธอค่อนข้างมึนงง เขาบอกว่าเขาชื่อป๋ ออิ่น
มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอ
ส่วนความสัมพันธ์ที่ว่าจะเป็นอย่างไร เธอจะต้องนึกให้ออกเองถึง
จะใช้ได้
โหลวลั่วไม่คิดว่าเธอเหมือนโดนคนหลอก ทว่าเขายืนเปียกฝนที่
หน้าบ้านเธอกว่าค่อนคืน ราวกับเป็นแมวราคาแพงที่ถูกเจ้าของ
ทอดทิ้ง
เมื่อเธอเปิดประตู มุมปากเขายังยกโค้ง “นึกขึ้นมาได้แล้วเหรอ?”
เธอตอบ “ยัง”
วันต่อมา ตอนเธอออกจากบ้าน ต้นไม้ที่อยู่หน้าประตูถูกตัดจนหมด
เขาปฏิเสธที่จะเข้าบ้านเธอ เอาแต่พิงกำแพง เมื่อแสงยามเช้าสาดส่อง
ใบหน้านั้นขาวซีดยิ่งกว่าในช่วงกลางคืนเสียอีก ทว่าไม่กระทบกับ
ความหล่อเหลาของเจ้าตัวเลย ใบหน้าซึ่งดูแล้วไม่น่ามีอยู่บนโลก
มนุษย์มีความมืดมิดชั่วร้ายอยู่
เขาบอกว่าเขาป่ วย ไม่อาจอยู่ใต้แสงแดดได้นาน ๆ แถมยังบอกว่าอยู่
ครู่เดียวก็ไปแล้ว
การได้นั่งที่นี่ก็จะได้อยู่ใกล้ชิดเธออีกสักนิด
เจ็ดวันผ่านไป
เมื่อมาถึงวันที่เจ็ด เธอหิ้วเขาที่เหมือนคนป่ วยเข้าบ้าน
ความระแวงของเธอที่มีต่อเขาคล้ายจะลดลงเยอะแล้วในเวลานี้ คง
เพราะเขาดูไปแล้วเปราะบางมาก
เหมือนเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า สติปัญญาของเธออนุญาตให้
เธอคบหากับผู้ชายที่อายุน้อยกว่าตัวเองได้อย่างไร เขาน่าจะเป็น
หนุ่มน้อยนะ…
เธอหลุบตามองคนที่เอาศีรษะซบบ่าตัวเอง
เพื่อให้อยู่ในท่าทางนี้ ตัวสูง ๆ ของเขาต้องก้มลงถึงจะได้
โหลวลั่วก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เรื่องแค่นี้ถึงทำให้เธอดีใจได้อย่าง
ง่ายดายมาก
กระทั่งปัญหาทางธุรกิจที่เจอในวันนี้ยังไม่ทำให้เธอปวดหัวขนาดนั้น
แม้ว่าเธอจะไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาดีอะไร แต่ก็ยังนับว่าเข้าใจความรู้สึก
ของท่านประธานผู้ชายที่หลงรักสาวน้อยได้
ความหนุ่มสาว ว่านอนสอนง่าย หน้าตาดี ทั้งยังต้องพึ่งพาเรา ใคร
บ้างล่ะที่จะไม่ชอบแบบนี้
โหลวลั่วคิดเช่นนี้พลางยื่นมือวางบนศีรษะของอีกฝ่ายอย่างเป็น
ธรรมชาติ “อยากไปจริง ๆ เหรอ ให้ฉันพาคุณเข้าไปไหมล่ะ?”
ตอนที่ 2213
ตอนพิเศษ คุณพ่อป๋อ
หากจะว่ากันจากในบางมุม
ป๋ อจิ่วไม่เคยเปลี่ยนเลยตั้งแต่เล็กจนโต
ทว่าฉินมั่วตอนเด็กไม่คุ้นชิน
มารยาทบอกเขาว่าชายหญิงแตกต่างกัน จะต้องรักษาระยะห่างไว้
แต่ตอนหลังเมื่อเขาพบว่าเธอไม่มาหาเขา ไม่มากอดเขาอีก ความรู้สึก
นั้นทรมานมาก
ทรมานจนเขาไม่อยากอยู่ห่างจากเธอ
วิธีแก้ไขปัญหานี้มีเพียงอย่างเดียวคือ เขาจะเลี้ยงเธอเอง แบบนั้นก็
หมดปัญหาเรื่องความแตกต่างระหว่างชายหญิงแล้ว
ดังนั้นการวางแผนของฉินมั่วก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ไม่อย่างนั้นวิลเลี่ยมจูเนียร์คงไม่เห็นเขาแล้วแผ่นหลังเย็นวาบ สองขา
อ่อนแรง เรียกได้ว่ากลายเป็นฝันร้ายในวัยเด็ก
ทว่าสิ่งเหล่านี้กลับสู้ความอ่อนโยนของเขาไม่ได้
คนที่รู้จักฉินมั่วต่างบอกว่า ยากจริง ๆ ที่จะคิดว่าวันหนึ่งเขาจะตัด
เล็บหรือพับแขนเสื้อให้ใครคนหนึ่งอย่างอดทน
เรื่องนี้อยู่เหนือกว่าการรับรู้ของพวกเขาไปแล้ว
ถึงจะแค่คบกันเป็นแฟนก็ไม่น่าทำถึงขั้นนั้น
มีเพียงคุณท่านอานที่ยิ้มมุมปาก ไม่พูดอะไร
ตอนนั้นท่านก็คิดว่าเพราะพวกคุณไม่เคยเห็นสองคนนี้ตอนเป็นเด็ก
ท่านยังชอบล้อหลานชายว่า ‘หลานจะเลี้ยงลูกให้ตระกูลป๋ อนี่นา’
ตอนนี้ดูอีกที เลี้ยงลูกอะไรล่ะ เลี้ยงเมียต่างหาก
เวลาทั้งสองกินข้าวด้วยกัน หลานท่านจะเป็นคนคอยดูแล ทั้งยังป้อน
ให้กับมือตัวเอง
เด็กเล็กมักจะปวดฟัน ไม่รู้หลานท่านต้องทุ่มเทตั้งเท่าไร กว่าเจ้าหล่อน
จะหยุดกินลูกอมชั่วคราวแล้วหันมากัดใบมินต์แทน
คุณท่านอานคิดถึงเรื่องนี้ทีไรเป็นต้องอยากหัวเราะทุกที
เช่นเดียวกัน ท่านพลอยนึกถึงตอนแยกจากกัน
เพื่อนต่างวัยของท่านคนนั้น
ช่างน่าเสียดายจริง ๆ
คุณท่านอานเหมือนจะถอนหายใจ คนในงานเลี้ยงไม่เข้าใจ “ประธาน
อานกลุ้มใจเรื่องอะไรเหรอครับ”
“หรือว่าเรื่องหลานชายท่าน”
“ทางผมมีคนหนึ่งไม่เลวเลย”
“เอาเถอะ คนของคุณไม่เลวก็จริง แต่จะสู้ของผมได้เหรอ”
เมื่อได้ยินคำเสนอแนะรายวันพวกนี้ คุณท่านอานคิดในใจว่าได้เวลา
จัดงานแต่งงานให้เด็กทั้งสองในประเทศจีนสักที
ยังเหลืออีกไม่ถึงสามวัน เด็กสองคนนี้ก็ต้องออกไปแข่งในนามของ
ประเทศแล้ว
คนในวงการธุรกิจต่างไม่รู้ว่าหลานท่านเล่นเกมเก่งแค่ไหน จึงยิ่งไม่
รู้ว่าหลานท่านจัดงานแต่งที่ต่างประเทศแล้ว
แถมเป็นการ ‘แต่งเข้าตระกูลป๋อ’ ด้วย
คุณท่านอานไม่คาดหวังว่าหลานชายจะมีอนาคตสดใสอะไรมาก
แล้ว
อยากเลี้ยงลูกให้ตระกูลป๋ อมาตั้งแต่เด็ก คงไม่สนใจฝั่งทางนี้แน่
ทว่าคนบางกลุ่มยังไม่รู้เรื่องการแต่งงานของฉินมั่ว…
คุณท่านอานหัวเราะ กำลังจะเอ่ยขึ้นมา
กลับมีเสียงหัวเราะร้ายกาจ ทั้งยังแผ่วต่ำน่าฟังดังขึ้น “ผมว่า ข่าวที่
ทุกท่านได้มาคงไม่อัปเดตสักเท่าไร”
เสียงหัวเราะนั้นคุ้นหูจนคุณท่านอานคิดว่าตัวเองหูแว่วไป
ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอย่างท่านชะงัก ก่อนจะหันมองด้านหลังอย่าง
ช้า ๆ
เห็นเพียงชายคนหนึ่งกำลังยืนพิงเปียโน ครั้งนี้เขาไม่ได้สวมเสื้อกัน
ลม แต่สวมชุดสูทดำแทน ดูทั้งสูงและสง่า
อายุที่แท้จริงเหมือนแทบไม่ทิ้งร่องรอยอะไรบนร่างเขา
ใบหน้าหล่อเหลานั่นยังมีเหลี่ยมมุมชัดเหมือนเดิม ทั้งยังดูแช่มช้า
ทรงเสน่ห์
ทว่าเพราะเรียวปากบางไปหน่อย ผิวก็ขาวไปนิด ทำให้คนนึกถึงคำ
ว่าจอมปีศาจ
ออร่าแวมไพร์จับอยู่ทั่วตัวเขา และดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งขึ้นเมื่อเดิน
เข้ามา
“ใครเนี่ย?” มีคนออกปากถาม
เพราะใช่ว่าใคร ๆ จะมาในงานสังสรรค์ทางธุรกิจแบบนี้ได้
เมื่อดูจากอายุของอีกฝ่าย ก็ไม่เหมือนคนที่จะมาได้เช่นกัน…
ตอนที่ 2214
ชายคนนั้นเดินเข้ามา
ไม่รู้เป็นเพราะหน้าตาหล่อเหลามากไปหรือไม่ จึงดูเหมือนว่าเขามี
หมู่ดาวแฝงอยู่ในดวงตาด้วย
“เด็กบ้านฉินแต่งงานแล้วนี่ ใช่ไหม?”
แต่งงาน?
เหล่าคนที่เอาแต่ทำธุรกิจซึ่งมีอายุมากต่างงุนงง
คนด้านข้างกำลังวิพากษ์วิจารณ์กัน
เมื่อหันไปมอง กำลังจะถามคุณท่านอานว่าจริงหรือไม่ กลับเห็นแค่
แววตาของท่านสั่นไหว
“ประธานอาน คุณรู้จัก…”
คนด้านข้างคนนั้นยังไม่ทันพูดจบ คุณท่านอานก็เดินตรงไปอ้าแขน
กอดคนที่เดินเข้ามา
เป็นมิตรภาพของเพื่อนต่างวัยของแท้
“หลายปีที่ผ่านมา คุณไปอยู่ที่ไหนมา?”
คนมาเยือนหัวเราะ ทั้งร้ายกาจและเอ้อระเหย “ตามหาคนน่ะ”
คุณท่านอานไม่เข้าใจ “หาคน? หาใคร”
“คุณคิดว่าจะเป็นใครล่ะ?” คนคนนั้นยิ้ม
แววตาของคุณท่านอานสั่นไหวหนักกว่าเดิม “เธอ เธอ…”
“ครับ” คนคนนั้นเหมือนพูดเรื่องธรรมดาทั่วไป “แต่ผมไม่เชื่อ ถึงได้
หาตามตรงทะเลเขตนั้นมาตลอด”
คุณท่านอานตกตะลึง “งั้นคุณ…”
“หาเจอแล้ว” เขายิ้มเห็นฟันขาว นัยน์ตาสดใส “แต่มีปัญหานิดหน่อย”
คุณท่านอานโล่งใจตามไปด้วย “งั้นก็ดี เพราะไม่มีอะไรที่คุณแก้ไข
ไม่ได้อยู่แล้ว”
“เรื่องที่ลูกสาวจะแต่งงาน ผมน่ะทำอะไรไม่ได้ ได้ยินว่าหลานท่าน
จะแต่งเข้ามาใช้สกุลผม” คนมาเยือนยิ้มกว้างกว่าเดิม “ท่าทางความ
ฝันของท่านจิ่วของผมจะกลายเป็นจริงแล้ว ตอนเด็กเขาอุตส่าห์เก็บ
เงินซื้อตัวหลานคุณ แล้วตอนนี้ก็ซื้อสำเร็จ”
คุณท่านอานยิ้มพลางส่ายศีรษะ เมื่อนึกถึงตอนที่สองคนนั้นยังเป็น
เด็ก ก็รู้สึกว่าช่างสนุกจริง ๆ
ทว่าคนรอบข้างต่างงงเมื่อได้ยิน
มีคนถือแก้วเข้ามาสอบถาม “ท่านประธานอาน คุณคนนี้คือ?”
ถึงอย่างไรท่านก็พูดกับคนอื่นด้วยน้ำเสียงเหมือนคนในครอบครัว
น้อยครั้งมาก
แต่ผู้ชายคนนี้ก็ดูเด็กไปหน่อย
คุณท่านอานกลับไม่ได้อธิบายมากไปกว่านี้ เพียงตอบเรียบ ๆ ว่า
“เป็นเพื่อนของผมครับ”
“งั้นที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ”
คนในที่นั้นต่างสนใจประเด็นนี้กันมาก
คุณท่านอานตอบกลั้วหัวเราะ “จริงครับ แต่ทุกคนคงจะเข้าใจหลาน
ผมดีว่ามีความคิดเป็นตัวของตัวเองมาก แล้วก็ชอบลูกสาวของคุณ
คนนี้เหลือเกิน เลยจัดงานแต่งงานที่ต่างประเทศไปเรียบร้อยแล้ว
ครับ”
“ทำไมรวดเร็วอย่างนี้?”
“ไม่ถามความเห็นชอบของท่านก่อนเหรอครับ”
“ยังไงก็ต้องทำตามขั้นตอนก่อนไหมครับ”
คุณท่านอานพูดยิ้ม ๆ “จะทำตามขั้นตอนอะไรกัน เขากลายเป็นคน
ของบ้านนั้นไปแล้ว หลานชายที่แต่งออกก็เหมือนน้ำที่สาดออกจาก
บ้าน แต่ทุกท่านวางใจได้ พอสองคนนั้นเสร็จภารกิจแล้ว ต้องกลับมา
จัดงานอีกครั้งที่เจียงเฉิงแน่นอน ถึงเวลานั้นทุกท่านต้องมาร่วมงาน
ด้วยนะ”
ทุกคนได้ยินแล้วถึงกับตะลึงงัน
เอ่อ…แต่งเข้าตระกูลคนอื่นจริง ๆ เหรอ?
สวรรค์ ครอบครัวเจ้าสาวเป็นครอบครัวแบบไหนกัน
ทำให้ทายาทหนึ่งเดียวของตระกูลฉินและตระกูลอานแต่งเข้าบ้าน
ได้?
แล้วคนทางบ้านยังเห็นด้วยอีก
มีตระกูลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วยเหรอ
ถ้ามีล่ะก็ พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกคนต่างหันไปมองคนที่อยู่ข้างตัวคุณท่านอานอีก
ครั้ง
ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่
สถานภาพครอบครัวยิ่งใหญ่มากเลยหรือ
อีกทั้งอายุของผู้ชายคนนี้ น่าจะมีลูกอายุไม่กี่ขวบ
คุณท่านอานย่อมไม่อยากให้บรรดาแขกมองชายคนนั้นด้วยสายตา
อยากรู้อยากเห็นนาน เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องปิดบังสถานะตัวเองไว้
และรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ชอบคบหาสมาคมกับคนอื่นสักเท่าไร
ดังนั้นท่านจึงไม่พูดอะไรมาก รอจนรอบด้านไม่มีใครแล้วค่อยถอน
หายใจบอก “คุณไม่แก่ลงเลยนะ”
ผู้มาเยือนเดินเข้าสู่เงามืดของสวนดอกไม้ นัยน์ตามีแสงจาง ๆ “เป็น
งั้นหรือครับ?”
ตอนที่ 2210
มั่วจิ่ว หวาน
จนท้ายที่สุดก็ไม่รู้ว่าใครเอาเปรียบใครกันแน่
ป๋อจิ่วลูบฉินมั่วจนสาแก่ใจ
ทว่าคนที่โดนกินหมดตัวกลับกลายเป็นเธอ
เพียงแต่จะให้ลืมอะไรก็ลืมไม่ได้ เสียงหอบหายใจเบา ๆ ของเขา
หลังเสร็จกิจที่ดังข้างหูเธอ รวมถึงใบหน้าหล่อเหลาคมชัดซึ่งต่างไป
จากปกติ เต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์ปุถุชน สีปากของเขาแดงเรื่อ
นัยน์ตาก็ลุ่มลึกน่ามอง
พวกนี้ป๋ อจิ่วดูได้อย่างไม่มีวันเบื่อ
ฉินมั่วรู้ดีว่าจะปรนนิบัติคนบางคนอย่างไร
เมื่อพาตัวเธอขึ้นจากน้ำ ก็เอาเสื้อคลุมชุดนอนมาห่อหุ้มเธอไว้ แล้ว
พากันนั่งมองดูแสงไฟด้านนอกอยู่ข้างหน้าต่างบานยาวระพื้น
“มือ”
อันที่จริงคราวนี้ก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก
หากเทียบกับเมื่อวาน ฉินมั่วในวันนี้ควบคุมตัวเองไว้มากแล้ว
ดังนั้นป๋ อจิ่วจึงรู้สึกสบาย โดยเฉพาะเมื่อได้อิงแอบกับใครบางคนก็
ยิ่งสบายเข้าไปใหญ่
เมื่อเธอได้ยินเสียงเขาถึงขยับตัว ไม่ค่อยเข้าใจนัก “ขอมือทำอะไร
ไม่ลูบแล้ว”
ฉินมั่วเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ “ไม่ได้ให้เธอลูบ เก็บงำ
ความคิดปลิ้นปล้อนของตัวเองหน่อย”
ป๋ อจิ่วอ้าปากหาวอย่างขี้เกียจ พิงชายหนุ่มทุกวิถีทางอยู่อย่างนั้น
เรียวปากบางแนบบนซอกคอเขา “พี่มั่ว พี่นี่ช่างไม่เข้าใจบ้างเลย การ
จะทำให้ความสัมพันธ์สามีภรรยาดีเลิศ จะต้องมีคนหนึ่งเป็นฝ่ายรุก
ฉันเห็นพี่เรียบร้อย ถ้าฉันไม่รุกอีกจะแย่เอา ฉันเข้าใจพี่ดี”
“ขอขอบคุณท่านจิ่วจริง ๆ” ฉินมั่วพูดอย่างไม่แยแส ดึงมืออีกฝ่ายเข้า
มา
ป๋อจิ่วรู้ว่าเขาจะตัดเล็บให้เธอ จึงชักมือกลับ
“จะเก็บเล็บไว้ให้เธอกัดเล่นเรอะ” ฉินมั่วกระชับร่างเธอเข้าใกล้ ลม
หายใจกระทบริมหู “หลังของฉันถูกเธอข่วนจนแดงไปหมดแล้ว”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้ว ใบหน้าก็ร้อนผ่าวอย่างเห็นได้ยาก เธอมอง ๆ ชาย
หนุ่ม ฉินมั่วรูปร่างดีจะตาย มีกล้ามเนื้อเพรียวกระชับ แผ่นหลังก็
เหยียดตรงดี ไม่มีที่ติเลย ตอนนี้มีรอยเล็บเธอบนนั้น เห็นชวนให้คิด
ลึกสุด ๆ
คนที่เป็นทหารต้องผิวหยาบหนังหนาไม่ใช่เหรอ?
มั่วมั่วโตขึ้นแล้วจริง ๆ แถมเป็นสไตล์เจ้าหญิงน้อยอีกต่างหาก
“ต่อไปฉันจะเบามือลงหน่อย” ป๋อจิ่วพูดด้วยความจริงจัง
ไม่เคยสำเหนียกว่าปกติคำพูดเหล่านี้ควรให้ผู้ชายพูดต่างหาก
ฉินมั่วหลุบตามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะคว้ามือเธอมา
ชายหนุ่มอาจจะไม่อดทนปรนนิบัติใคร แต่หากเป็นป๋ อจิ่ว เขายิ่งทำ
ได้คล่องขึ้นหลังจากที่ฟื้นความทรงจำกลับมา
ความเคยชินตั้งแต่เด็ก อยากแก้ก็แก้ไม่ได้แล้ว
นับประสาอะไรกับที่เขาไม่เคยคิดจะแก้
เธอสมควรให้เขาเลี้ยงมาตั้งแต่แรกแล้ว
ขนาดตอนที่ซ้อมรวมทีม จ้าวซานพั่งก็พูดอยู่หลายครั้ง
เช่นตอนกระโดดกบเสร็จ จ้าวซานพั่งจะบอกว่า ‘ฉินเจ้าแผนการ เจ้า
แบล็กไม่มีมือหรือไง แค่ผูกเชือกรองเท้า นายก็ต้องมาช่วยผูกให้’
แต่ทุกครั้งก็ถูกฉินมั่วเย้ยข่ม ‘คนโสดอย่างนายไม่เข้าใจหรอก’
จ้าวซานพั่งพยายามเตือนป๋ อจิ่วที่ผมชี้โด่เด่ด้วยความหวังดี ‘เจ้าแบล็ก
คนที่เปลือกนอกดูดีมีเยอะก็จริง แต่คนที่มีธาตุแท้น่าสนใจมีแค่หนึ่ง
ในหมื่น ฉินเจ้าแผนการหน้าตาพอดูได้ แต่เรื่องอื่นน่าเบื่อสุด ๆ เลย
คนอื่นเขาต้องออกไปเที่ยวในวันหยุดไม่ใช่เหรอวะ แต่ดูสิว่าเขาทำ
อะไร เอาแต่กินชาเล่นหมากล้อมอ่านหนังสือ ชีวิตเหมือนก้าวสู่วัย
ชราล่วงหน้า เจ้าแบล็กนายทนไปได้ยังไง นายมันเจ้าชายไนต์คลับ
เลยนะเว้ย!’
‘ท่านอ้วน พูดแล้วอายอ่ะ ฉันชอบคนที่เปลือกนอกดูดี’ ป๋อจิ่วเอ่ย
อย่างจริงจัง ‘ไฟในไนต์คลับไม่ดีเท่าไร ส่องเห็นหน้าไม่ชัด แต่ถ้า
เป็นที่บ้านก็ไม่เหมือนกัน เวลาเขาอ่านหนังสือ ฉันก็มองเขา อื้ม…
สุดเพอร์เฟกต์’
จ้าวซานพั่ง…แม่งเอ๊ย พูดกับพวกชอบคนหล่อคนสวยไม่รู้เรื่องจริง ๆ!
ตอนที่ 2212
มั่วจิ่ว หวาน ช่วยด้วย
คนอื่นอาจไม่รู้ว่า ฉินมั่วดูแลคนเก่งขนาดไหน
แต่คนอื่นก็คือคนอื่นอยู่วันยังค่ำ
น้อยคนที่จะยินดีโดนเขาควบคุมเหมือนอย่างป๋อจิ่ว
ใช่ว่าฉินมั่วจะไม่มีข้อเสียเลย เขาขี้หึงขั้นสุดยอด
ขนาดลั่วลั่วยังเคยถูกเขาแบล็กลิสต์ในมือถือของป๋ อจิ่ว
ไม่ว่าอย่างไรพฤติกรรมนี้ก็ทำให้คนหมั่นไส้
ทว่าป๋อจิ่วกลับตอบว่า “เรื่องเล็กน่ะ เรื่องเล็ก เดี๋ยวฉันแอบแอด
กลับมาก็ได้”
จากนั้นก็ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างนั้น
โลกนี้คงเป็นแบบนี้แหละ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
อย่างเช่นป๋ อจิ่ว เธอเหมือนสายลม เวลานี้นอนขี้เกียจในอ้อมแขนเขา
ได้ วินาทีถัดมาก็อาจจะขับแลมโบกินี่ไปก่อเรื่องอะไรขึ้นมาเช่นกัน
เธอเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ทั้งที่เป็นเพศเดียวกันและต่างเพศกัน
เวลาส่วนใหญ่ถ้าไม่ฝึกซ้อมก็เที่ยวเล่น
เหมือนกินดื่มเที่ยวเล่นเอาสนุกอย่างเดียว
ทว่าฉินมั่วเป็นเพียงคนเดียวที่คว้าสายลมได้
เธอแก้ไขความชอบเรื่องด้านมืดไม่ได้ เขาก็ไม่ให้เธอแก้
แต่เธอต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่งคือ เธอเป็นของเขา
จวบจนตอนนี้ เธอก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีแล้ว
ตอนนี้พอเจอคนหล่อ ๆ สวย ๆ ก็แค่มอง เพราะเธอค้นพบแล้วว่าไม่
มีใครสู้คนที่อยู่ข้างเธอได้
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ป๋ อจิ่วลืมตาแล้วลิ้มรสความสุขหลังแต่งงาน
ฉินมั่วหันมองเล็กน้อย คิดว่าตัวเองตัดเล็บจนกินเนื้อเธอ จึงย่นหัวคิ้ว
เบา ๆ พร้อมขยับตัว
เจ้าหญิงมองดูอยู่ด้านข้าง หน้าของมันกลมโตเป็นพิเศษ
แม้ว่าตอนนี้เจ้านายจะพยายามพามันไปด้วยทุกที่ แต่มันกลับไม่รู้สึก
ว่าเจ้านายโอ๋มันสักนิด ตอนตัดเล็บเจ้านายตัดให้มันลวก ๆ ขนาด
ไหน
แล้วมาดูเขาในตอนนี้สิ!
ตัดเล็บให้ยัยนั่นอย่างระแวดระวังราวกับอีกฝ่ายเป็นตุ๊กตากระเบื้อง!
หนำซ้ำยังเป็นอย่างนี้ประจำ
บางครั้งเจ้าหญิงก็สงสัยว่ายัยคนนี้จงใจหรือเปล่า
ตอนลงจากเตียงก็เหมือนกัน เจ้านายยังต้องเตือนให้เจ้าหล่อนสวม
รองเท้าด้วย!
ป๋ อจิ่วไม่มีอะไรต้องพูดในเรื่องนี้
เพราะเธอไม่เก่งเรื่องทักษะการดำรงชีวิตประจำวันสักเท่าไร
บางครั้งตอนคิดจะไปทำอาหารเช้า ชายหนุ่มยังต้องยืนซ้อนด้านหลัง
เธอ คอยจับมือสอนแต่ละขั้นตอนด้วยตัวเอง
ทำให้ตอนนี้ป๋ อจิ่วไม่เพียงแต่จะต้มบะหมี่เป็น ยังทำมะเขือเทศผัดไข่
ได้อย่างไม่เป็นปัญหาเลย
ฉินมั่วคงเป็นอย่างนี้เสมอ เขาเพิ่งพูดว่าเธอจะทำลายห้องครัวใช่ไหม
วินาทีถัดมาก็เข้ามาสอนเธอ
เหมือนตอนยังเด็ก เขาเคยจับมือเธอสอนเขียนหนังสือทีละขีดทีละ
เส้น
‘เธอโง่หรือเปล่า?’
‘มั่วมั่ว เรื่องงานฝีมือนี่ ฉันไม่ถนัดจริง ๆ ’
‘การเขียนหนังสือกลายเป็นงานฝีมือตั้งแต่เมื่อไร?’
‘ฉันถือว่าเป็น แถมยังเป็นงานที่ยากที่สุดด้วย’
‘นั่งดี ๆ ’
‘ยังเขียนอีกเหรอ?’
‘ไม่งั้นเธอจะทำอะไร ไปเล่นกับวิลเลี่ยมงั้นสิ?’
ตอนนั้นเธอฉลาดจะตาย กอดฉินมั่วพลางหอมไปทีหนึ่ง ‘ไม่ ฉันแค่
ไม่อยากเขียนหนังสือเท่านั้นเอง’
เดิมทีคิดว่าเธอจะเอาชนะใจเขาได้แล้ว แต่มาคิดดูก็รู้สึกว่าตอนนั้น
มั่วมั่วบริสุทธ์ิมากจริง ๆ
เขาสูดหายใจลึกด้วยใบหน้าแดงก่ำ ‘วันนี้อย่ามานอนกับฉัน ไม่
ไม่ใช่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ก็ห้ามมา”
“ทำไมอะ?’ ป๋ อจิ่วไม่เข้าใจ เธออุตส่าห์สารภาพตามตรงแล้ว
ฉินมั่วไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมถึงได้มีคนรู้จักแต๊ะอั๋งเขาตั้งแต่เป็น
เด็กเป็นเล็ก ต้องให้เขาเตือนไม่รู้กี่ครั้งว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิง
ยัยคนนุ่มนิ่มอย่างเธอซบบ่าเขา แสดงความรู้สึกผิดอย่างจริงใจมาก
‘ฉันสัญญาว่าต่อไปจะควบคุมตัวเองนิดหนึ่ง แต่มั่วมั่วสวยเกินไป
ฉันเลยไม่แน่ใจว่าจะควบคุมตัวเองได้ไหม’
ฉินมั่ว…
ตอนที่ 2208
ฉินมั่วก็ทำเช่นนั้นจริง ๆ
ในระหว่างที่ป๋ อจิ่วกำลังปลื้มปริ่มกับความสำเร็จของตัวเอง เขาเอียง
คอไปจูบต้นคอด้านหลังของเธอ
ป๋ อจิ่วพลันชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะละมือตัวเองจากใต้เสื้อเชิ้ตของเขา
อย่างหมดแรง
ไม่มันไม่ถูกต้องสิ
และในระหว่างที่เธอกำลังจะเงยหน้าขึ้น
มือขวาก็ถูกคว้าไว้แน่นทันที สิบนิ้วประสานเข้าหากัน เขาลุกขึ้นกด
เธอไว้บนโต๊ะ น้ำเสียงเซ็กซี่ดังตามมา “มีความสุขมากเลยเหรอ?”
คนฉลาดอย่างป๋อจิ่วย่อมรู้เท่าทันบางอย่างแล้ว จึงหันไปมองแก้ว
ไวน์ของเขา
ลมหายใจของชายหนุ่มไล้หลังหูเธอ “ยาออกฤทธ์ิหลังจากกินไป
ครึ่งชั่วโมง อาการคือร้อนรุ่มทั้งตัว หมดแรง ปล่อยให้คนอื่นทำ
อะไรได้ตามใจชอบ ฟังดูคุ้น ๆ ใช่ไหม?”
ป๋ อจิ่วแพ้คนได้ แต่มาดต้องจัดเต็ม ยังยิ้มจาง ๆ อยู่ “พวกคนผิวดำนี่
เชื่อใจไม่ได้เลย พี่มั่วรู้ตั้งแต่เมื่อไร”
ฉินมั่วไล้นิ้วเข้าไปข้างในเสื้อเธอแล้ว มุมปากผุดรอยยิ้ม “เธอคิดว่า
ไงล่ะ?”
รู้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอ
จริง ๆ เลย!
ป๋อจิ่วแค้นใจจริง ๆ
ทางด้านฉินมั่วเห็นเธอไม่สบอารมณ์ ก็เข้าไปใกล้อีกนิด “จริง ๆ
แล้วฉันก็รอให้เธอวางยาอยู่นี่แหละ”
ป๋ อจิ่วนึกถึงคำว่าขุดหลุมฝังตัวเอง “พี่กินยาแก้ก่อนล่วงหน้าแล้วใช่
ไหม?”
“ฉลาดจังเลย?” ฉินมั่วเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องดังกล่าวแล้ว
ปลายนิ้วสัมผัสความนุ่มหยุ่นของเธอ ลมหายใจเริ่มผิดปกติ
หางตาที่ยิ่งดูสวยของป๋อจิ่วเริ่มจะเคลิบเคลิ้ม จนปัญญาที่จะมองข้าม
ความวาบหวามที่เกิดขึ้น มองดูคนที่ยืนตรงหน้า ไม่ต้องพูดเรื่องทำ
อะไรเขาตามใจชอบเลย ตอนนี้เธอกำลังปล่อยให้เขาทำอะไรตามใจ
ชอบต่างหาก
ฉินมั่วสัมผัสได้ว่าเธอกำลังสั่นนิด ๆ นัยน์ตาพลันเคร่งขรึม ก้มตัว
แกะคอเสื้อเธอ ก่อนจะจูบอย่างละเมียดละไม แทบจะไม่ปล่อย
โอกาสให้เธอหนีเลย
เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ปิดกั้นทางหนีไว้เรียบร้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า
เขากดมือขวาเธอเอาไว้ตลอดเวลาด้วย
ป๋อจิ่วโดนจูบจนตัวรุ่มร้อนไปหมด
ความวาบหวามขยายจากปลายนิ้วไป ลุกลามไปทั่วทุกส่วน
อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ป๋ อจิ่วได้ยินเสียงชายหนุ่มข้างหู เสียงนั้นแฝงเสียงหัวเราะแผ่วต่ำไว้
ด้วย “อยากได้ฉันมากเลยเหรอ?”
สำหรับป๋ อจิ่วแล้ว บางครั้งฉินมั่วก็เหมือนปีศาจที่บำเพ็ญเพียรมา
นานหลายปี
เวลานี้ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่
เสื้อของเธอถูกเลิกขึ้นมา ช่วงเอวโผล่ออกมาครึ่งหนึ่ง โค้งเว้าเย้ายวน
ใจ เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเยาว์วัย แต่เสียงหัวเราะกลับเหมือน
ปีศาจสาว “ไม่งั้นฉันจะวางยาพี่ทำไม?”
ฉินมั่วมองด้วยแววตาลึกล้ำยิ่งขึ้น มือซ้ายโอบรัดเอวเธอ ปลายนิ้ว
เหมือนมีกระแสไฟฟ้า “ฟังไปแล้วก็เหมือนจะมีเหตุผลดี”
ป๋ อจิ่วถูกเขาปลุกเร้าจนเอวอ่อนยวบ กระทั่งลมหายใจยังร้อนผ่าว
อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เขาเข้าใจร่างกายเธอดีเสียยิ่งกว่าตัวเธอเองอีก
มือทั้งสองของชายหนุ่มเหมือนมีเวทมนตร์ สร้างความวาบหวามให้
ทุกที่ที่สัมผัส
สติของป๋อจิ่วเหมือนหลุดลอยออกไป ได้แต่ปล่อยให้เขาเป็นฝ่าย
ควบคุม
เขาเองก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้คิดอะไร ริมฝีปากบางแนบลงบน
ไหล่เธอ ทุกการกระทำเด็ดขาดอย่างที่เธอไร้ทางต่อต้าน
เธอได้ยินเสียงเข็มขัดหนังถูกแก้ออก ผสมผสานไปกับเสียงแผ่วเบา
ของเขา ทำให้ใบหูของเธอร้อนผ่าว
ลมหายใจของป๋ อจิ่วไม่เป็นจังหวะ มือหนึ่งดันบ่าเขาเอาไว้ “อย่า…
ไปที่เตียงเถอะ…”
แต่เขากลับไม่ฟัง มองเธอที่สวมเสื้อเชิ้ตของเขา รู้แต่แรกแล้วว่า
จะต้องเป็นแบบนี้ มือหนึ่งค้ำไว้บนโต๊ะ ก่อนจะพาเธอเข้าสู่จังหวะ
รักอย่างหนักหน่วง ลมหายใจตกกระทบลงมาพร้อมเส้นผม ความ
สูงส่งต้องห้ามของเขาแฝงไปด้วยความเซ็กซี่ เมื่อกลิ่นอายต้องห้าม
ถูกทำลาย ก็เหมือนมีอะไรถูกปลดปล่อยออกมา ไม่หวั่นเกรงอะไร
ทั้งสิ้น…
ตอนที่ 2209
ในระหว่างที่กำลังเคลิบเคลิ้มหลงใหล
ป๋ อจิ่วรู้สึกหวามไหวขึ้นเรื่อย ๆ ความร้อนที่กระทบข้างหูเธอก็ชัดเจน
ขึ้นทุกที
เธอโดนเขากดร่างไว้บนโต๊ะ แม้แต่ปลายนิ้วยังไร้เรี่ยวแรง
จนเมื่อเสียงเธอดังกระท่อนกระแท่น เขาถึงผ่อนจังหวะให้ช้าลง แต่
ว่าไม่หยุด รอจนได้เวลาพอแล้ว มือหนึ่งก็คว้าเอวเธอไว้ เสียงที่เอ่ย
แหบพร่า “รู้สึกดีไหม หือ?”
สิ่งที่มาพร้อมเสียงนั้นคือความร้อนระอุเหมือนจะขาดใจ
ป๋ อจิ่วตัวสั่นเทา สมองว่างเปล่า ความหวามไหวที่ปลายนิ้วยังไม่จาง
หาย
รู้ว่าชายหนุ่มเหมือนจะกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ในระหว่างที่เธอจะ
ปรือตา เขาก็ก้มลงมาจูบที่ซอกคอ
อุณหภูมิภายในห้องพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวตามจังหวะรักชัดเจน
เหมือนความหวานจะล้นปริ่มออกมาจากทุกเสียงได้
ส่วนป๋ อจิ่ว ตอนรับความหวามไหวก็แหงนหน้าขึ้น ดูสวยชนิดที่ไม่
มีใครเทียบได้
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
ไม่มีต้องสงสัยเลย เธอที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นเสมือนยาปลุกเร้าชั้น
ดีสำหรับฉินมั่ว
ยิ่งเธอกำลังสวมเสื้อของเขาอยู่ด้วย
ดังนั้นต่อให้เขาจะอดทนได้เก่งแค่ไหน ก็ยังทนรอขึ้นไปชั้นบนก่อน
ไม่ไหว
อีกอย่างเขาก็ชอบความรู้สึกแบบนี้
ความรู้สึกที่เหมือนเธอต้องพึ่งเขาเพียงคนเดียว ส่งผลให้ฉินมั่ว
ปรารถนาลึกล้ำมากขึ้น
และป๋ อจิ่วก็อ่อนยวบไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าถูกเขาเล้าโลมไปกี่ครั้งแล้ว
คืนนี้ยังอีกยาวไกลนัก…
วันต่อมา ป๋ อจิ่วตื่นขึ้นบนรถลีมูซีนคันยาว ฉินมั่วให้เธอนอนอยู่ใน
อ้อมแขนเขา
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาช่วยสวมเสื้อผ้าให้เธอ
ป๋ อจิ่วเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าสูงส่งต้องห้าม แนวคางเย็นชา ไม่
มีสภาพหักโหมจากเมื่อวานเลยสักนิด ยังคงยั่วยวนใจเหมือนเดิม
และเมื่อต้องเผชิญกับใบหน้าแบบนี้ ต่อให้เจ็บเอวยังไง ป๋ อจิ่วก็ทนได้
ยึดหลักการได้โอกาสก็แต๊ะอั๋งไปเลย ล้วงมือเข้าไปในเสื้อของเขา
ฉินมั่วหลุบตาลงมอง “ตื่นแล้วก็ทำเรื่องร้าย ๆ เลยนะ สมกับที่เป็น
เธอจริง ๆ”
“ถ้าพี่มั่วให้ความร่วมมือสักหน่อย ยิ่งว่าง่ายไม่ต่อต้านเลยยิ่งดี” ป๋อจิ่ว
พูดอย่างเจ้าเล่ห์
ฉินมั่วยกยิ้ม ชะโงกหน้าเข้าใกล้ข้างหูเธอ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ได้
ยินกันแค่สองคน “ใครให้เมื่อคืนฉันรักเธอรุนแรงอย่างนั้นล่ะ? หือ?”
ป๋อจิ่วไม่ได้พูดอะไรอีก หน้าแดงเถือกไปแล้ว
ฉินมั่วเอ่ยเสียงแผ่วต่ำว่า “สบายใจได้ พอถึงที่นั่นแล้ว ฉันจะให้เธอ
ลูบตามใจชอบเลย”
เมื่อมาถึง ป๋อจิ่วถึงได้รู้ว่าที่นั่นในความหมายของชายหนุ่มก็คือ
โรงแรมบ่อน้ำพุร้อน
ชั้นบนสุดมีแค่เธอและเขา
เขาดูจะชอบให้เธอสวมเสื้อผ้าของเขา ถึงให้เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวลงน้ำ
รอบด้านร้อนไปหมด
ด้วยเหตุที่มีไอร้อนบาง ๆ จึงไม่มีใครเห็นพวกเธอ
ฉินมั่วไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้ามา และเขาก็ทำได้ตามที่สัญญาไว้ จับ
มือเธอมากอดเอวเขา อิงอยู่ข้างบ่อน้ำร้อนอย่างนั้น เรียวปากบางยก
ยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “มิสซิสฉิน ตามสบายเลย”
ป๋ อจิ่วอยากแต๊ะอั๋งเขาแน่นอน แต่หากเธอลงมือกับเขาในตอนนี้
สุดท้ายคนที่ต้องเมื่อยเอวก็ยังเป็นเธอ
“ทำไม?” ฉินมั่วดึงเธอกลับมา “จะทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ เหรอ”
ป๋อจิ่วเอ่ยอย่างเอ้อระเหย “อยากลูบ แต่เหนื่อยมาก พี่ต้องรับปาก
ก่อนว่าจะไม่ทำ”
“ได้” ฉินมั่วหัวเราะเสียงเบา “ถ้าเธอไม่ชอบใจ ฉันก็จะไม่ขยับ”
ความจริงพิสูจน์แล้วว่า เขายึดมั่นในคำสัญญาอย่างเด็ดขาด ไม่ได้ทำ
อะไรเกินเลยสักนิด
ทว่าจูบที่ประทับบนร่างเธอกลับมาต่อกันไม่หยุด ทำให้คนไร้ซึ่งแรง
ขัดขืน
อีกทั้งจูบนั้นยังอุ่นตามอุณหภูมิน้ำ ทำให้ป๋ อจิ่วได้แต่ดื่มด่ำอยู่บนร่าง
เขาอย่างต้านทานไม่ไหว…
ตอนที่ 2206
มั่วจิ่ว ลูก ยา
ป๋อจิ่วได้ยินเสียงนั่นก็อยากกอดชายหนุ่ม
แต่ช่วงนี้ก็จริง ๆ เลย คนบางคนชอบใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ
กับเธอ
เช่นในตอนนี้ พอพูดจบก็นั่งตัวตรง จัดแขนเสื้อ ทำท่าเหมือนอย่ามา
เข้าใกล้เขา
ทว่าออร่าสูงส่งห้ามเข้าใกล้แรงเหลือเกิน ทำให้ป๋ อจิ่วคันยุบยิบในใจ
หลุดยิ้มขึ้นมา
ยังไงคืนนี้เธอก็ต้องจับเขากดให้ได้
สถานที่ที่ทั้งสองพักอยู่ในเวลานี้เป็นลอฟต์อะพาร์ตเมนต์ [1] ของ
ฉินมั่ว เพราะไม่จำเป็นต้องแยกห้องกันอีก
การรักษาความเป็นส่วนตัวระหว่างสามีภรรยา เรื่องแบบนี้ไม่เหมาะ
ที่จะใช้กับฉินมั่ว
เขาเลี้ยงป๋ อเสียวจิ่วมาตั้งแต่เด็กจนชินแล้ว
ตอนนี้ก็ยิ่งหนักขึ้นไปอีก ยัยโง่ที่ชอบอ่อยคนคนนี้ย่อมเหมาะจะอยู่
ข้างตัวเขามากที่สุด
ป๋อจิ่วกำลังครุ่นคิดว่าจะวางยาชายหนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติยังไง
กระทั่งไม่สนใจเจ้าหญิงที่เข้ามาก่อกวนเธอตามปกติ
หน้าใหญ่ ๆ ของมันมึนงงเล็กน้อย ก่อนจะยื่นกรงเล็บตะปบหาเรื่อง
ต่อ
ป๋ อจิ่วพลันยิ้มขึ้นมา หยิบเอาแก้วไวน์ออกมาสองใบ
จากนั้นก็เติมไวน์แดง เธอทำทุกอย่างด้วยกิริยาที่ดูเท่มาก
ถึงแม้ว่าการทำครัวจะไม่ได้เรื่อง แต่คนที่เข้าร้านกลางคืนบ่อย ๆ
อย่างเธอ ย่อมเป็นมืออาชีพในเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ฉินมั่วย่อมเห็นอาการของเธอแล้ว แม้แววตาจะเรียบเรื่อย แต่ก้นบึ้ง
นัยน์ตากลับขรึมลึก ทว่าเขาไม่แสดงอะไรออกมา หันไปจัดการสเต็ก
เนื้อของตัวเองต่อ
ทางด้านป๋ อจิ่วยื่นมือโอบชายหนุ่มที่กำลังเตรียมอาหารค่ำจากด้านหลัง
อย่างเป็นธรรมชาติ “ฉันช่วยพี่หั่นผักได้นะ”
“ไม่ต้องทำหรอก” ฉินมั่วหันมอง “เธอไปหยิบหอมใหญ่จากตู้เย็น
มาแล้วกัน”
ป๋ อจิ่วมีเรื่องต้องทำ จึงหลุดสมาธิเล็กน้อย จะปล่อยให้เห็นวัตถุประสงค์
ชัดไม่ได้
เวลาที่ทั้งสองอยู่ในห้องครัวก็มักจะเป็นแบบนี้
ฉินมั่วเป็นคนทำกับข้าว ส่วนป๋ อจิ่วคอยเป็นลูกมืออยู่ใกล้ ๆ
จนหลังจากนั้นอีกนาน ก็มีหนูน้อยคนหนึ่งถามว่า “หม่ามี๊ หม่ามี๊ทำ
กับข้าวไม่เป็น แต่ทำไมถึงชอบอยู่ในครัวล่ะ เปลืองวัตถุดิบจะแย่”
ป๋ อจิ่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “อะไรที่เรียกว่าเปลืองวัตถุดิบ ลูกคงยัง
ไม่ได้เรียนคำว่าเสน่ห์น่าลิ้มลองล่ะสิ หม่ามี๊ยืนตรงนี้ก็เพราะจะชื่น
ชมความหล่อของแดดดี้ลูกไง”
ดังนั้นเมื่อเด็กน้อยไปค้นหาในพจนานุกรม ก็รู้สึกว่าหม่ามี๊ของตัวเอง
ต้องเข้าใจคำว่าเสน่ห์น่าลิ้มลองผิดแน่ ๆ
เล่นใช้คำนี้มาบรรยายแดดดี้ของเขา ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง
ตอนนี้เด็กน้อยยังไม่ถือกำเนิดออกมา
ที่นี่มีแค่แมวตัวเดียว ไม่อาจส่งผลอะไรต่อแผนการชั่วร้ายของเธอ
รอจนสเต็กเข้าเตาอบ กลิ่นหอมลอยออกมา เธอเห็นว่าได้โอกาส
แล้ว จึงยื่นแก้วไวน์ใบหนึ่งให้เขา
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ The Fifth Avenue พวกเขาก็เป็นแบบนี้ จะดื่ม
ไวน์สักหน่อยก่อนกินสเต็ก
ยามสายัณห์เวลาว่าง การได้ทำอาหารทำให้คนผ่อนคลายยิ่งกว่า
ป๋ อจิ่วจึงยื่นแก้วให้เขาในเวลานี้
ฉินมั่วย่อมไม่ปฏิเสธ เขย่าแก้วเครื่องดื่มเบา ๆ คล้ายยิ้มนิดหนึ่งก่อน
จะจิบหนึ่งอึก
ป๋อจิ่วเห็นเขาดื่มแล้ว มุมปากก็ยกยิ้มน้อย ๆ
ว่าแล้วเชียว ถ้าคิดจะหลอกล่อเขา ต้องลงมือระหว่างกิจวัตรประจำวัน
แบบนี้
ทว่าฉินมั่วกลับเหมือนไม่แยแส “ดูไฟหน่อย ฉันจะไปเอาบล็อกโคลี่”
ป๋อจิ่วจะสนเหรอว่าเขาไปไหน ตอบเพียงว่า “ได้”
เวลานี้ขอแค่รออีกสักครึ่งชั่วโมง
หลังจากนั้นยาจะออกฤทธ์ิ เขาจะเริ่มไม่มีแรงต่อต้าน ถึงเวลานั้นเธอ
ย่อมจะทำอะไรได้ตามใจชอบ
ต้องบอกเลยว่าพวกคนผิวดำนี่ บางครั้งก็ช่วยเธอได้เหมือนกันนะเนี่ย
ตอนที่ 2207
มั่วจิ่ว หวานทุกวัน
บนชั้นสอง ฉินมั่วยืนอยู่ข้างเตียง มองดูเม็ดยาในฝ่ามือที่แบออก หาง
ตาเลิกขึ้น ก่อนจะส่งเข้าปากตัวเอง เรียวปากคล้ายแย้มยิ้มขึ้นมา
ป๋ อจิ่วไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เพราะอย่างไรคนเก่งประจำห้องครัวก็ต้อง
คอยดูไฟไว้โดยไม่ละสายตาแน่
เมื่อฉินมั่วกลับมาอีกที เธอยังถามว่า “ไหม้ไหม”
“ไม่” เวลาทำสเต็กเนื้อทีไร ฉินมั่วมักจะทำด้วยความชำนาญ กระทั่ง
ตอนหมักเนื้อก็ยังดูเท่ สเต็กเนื้อที่ปรุงเสร็จก็หอมมาก
แม้ว่าป๋อจิ่วจะมีแผนร้ายอื่นอีก แต่ไม่ส่งผลอะไรกับความอยากกิน
สเต็กของเธอ
เมื่อสเต็กเสร็จ ฉินมั่วก็หั่นแล้วป้อนให้เธอผู้ซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อแทบ
จะทันที
ป๋ อจิ่วกินข้าวเร็วมาแต่ไหนแต่ไร ก่อนหน้านี้ได้ฉินมั่วคอยดูแล ก็ยัง
ได้สัมผัสความหล่อของเขาแล้วค่อย ๆ กิน
วันนี้กลับแอบแวบมองเวลาบ้างเป็นบางครั้ง กิริยาท่าทางรวดเร็วมาก
ฉินมั่วถือมีดกับส้อมด้วยท่าทางเหมือนเดิม ได้มาตรฐานจนน่าไป
ถ่ายเป็นภาพโฆษณา มีแว่นตาบนดั้งจมูก
เขาไม่ค่อยใส่แว่นตา นอกจากมันจะเข้ากันกับเสื้อผ้า
พอกินได้เกือบครึ่งหนึ่งแล้ว เขาก็วางมีดและส้อม ก่อนจะยกมือนวด
หัวคิ้วตัวเอง
ป๋ อจิ่วเท้าคางด้วยมือข้างหนึ่ง ดูเอื่อยเฉื่อยมาก เมื่อเห็นเขาทำเช่นนั้น
สองตาก็เป็นประกายอย่างห้ามไม่อยู่ “เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ?”
“เปล่า” ฉินมั่วกวาดตามองเธอ “แค่ล้านิดหน่อย”
ล้าน่ะถูกต้องแล้ว
ป๋ อจิ่วยิ้ม “กินเสร็จแล้วจะพักหน่อยไหม?”
“อื้ม” ฉินมั่วหลุบตาลง ยัยคนนี้คิดว่าเขาติดกับแล้ว ดีใจขนาดนี้เลย
เหรอ?
ป๋ อจิ่วมองดูนาฬิกา คำนวณเวลาว่าตอนนี้ยาคงเริ่มออกฤทธ์ิแล้ว
แน่นอน
ในเวลาราวหนึ่งทุ่มยี่สิบนาที เธอก็เคาะ ๆ บนโต๊ะ
ฉินมั่วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต
“ร้อนเหรอ?” ป๋ อจิ่วยักคิ้ว
ฉินมั่วตอบสั้น ๆ ว่า “อืม” นิ้วเรียวยาวปลดกระดุมอีก เขาทำอย่าง
เชื่องช้า ดูสูงส่งต้องห้ามเอามาก ๆ เมื่อแอ่งชีพจรโผล่ออกมาให้เห็น
ป๋ อจิ่วดีใจจะแย่อยู่แล้ว ทว่าไม่แสดงออกมาทางสีหน้า ยังทำท่าทาง
เอ้อระเหยอยู่ “ฉันไปปรับอุณหภูมิให้นะ”
“ไม่ต้อง” ฉินมั่วเหมือนอยากลุกขึ้นยืน ทว่าเมื่อลุกขึ้นมากลับโซเซ
ต้องนั่งลงบนเก้าอี้ใหม่ คิ้วขมวดแน่นราวกับสงสัยว่าทำไมตัวเองถึง
เป็นเช่นนี้
ป๋อจิ่วก้มตัวลงเล็กน้อย เป็นกังวลอยู่บ้างจริง ๆ “ทรมานมากเลย
เหรอ?”
“เปล่าหรอก” น้ำเสียงของชายหนุ่มยังเหมือนเดิม “แค่มือไม้ไม่ค่อย
มีแรง เมื่อกี้ไวน์ที่เธอเอามาให้มีปัญหาหรือเปล่า?”
ป๋ อจิ่วรู้ว่าการจะวางกับดักชายหนุ่มไม่ได้ง่ายอย่างนั้น แต่ยังไงฤทธ์ิ
ยาก็แสดงผลแล้ว เธอจึงยอมรับหน้าตาเฉย “แค่วางยาพี่น่ะ”
ฉินมั่วมองใบหน้ายิ้มอ่อน ๆ นั่น มองไม่เห็นความรู้สึกผิดสักนิด
แถมยังมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์อีกด้วย
อีกทั้งเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีแรงแล้ว ยังเชยคางเขาขึ้นมาก่อนจะก้มลง
จูบ มุมปากหยักยิ้ม “พี่มั่ว ฉันพยุงพี่ไปที่เตียงเป็นไง?”
“เธอลืมหรือเปล่าว่าตั้งแต่เด็กคุณตาพ่อบ้านก็บอกให้เธอทำตัว
เรียบร้อย มิสซิสฉิน” ฉินมั่วพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก
ป๋อจิ่วนั่งบนโต๊ะอาหาร ก้มลงจูบนิ้วเขาด้วยท่าทางอย่างสุภาพชนผู้
งดงาม เหมือนเป็นเจ้าชายก็ว่าได้ “ฉันเรียบร้อยจะตาย ไม่ได้บังคับพี่
สักหน่อย”
ฉินมั่วมองท่าทางของเธอ เห็นต้นคอขาวนวลเหมือนหิมะเมื่อเธอก้ม
ตัว
จุดที่เขาเคยจูบมาก่อน รู้ว่าหากงับนิด ๆ ก็จะได้รับความรู้สึกหวาน
ประแล่ม ๆ และยิ่งรู้ว่าเมื่อเรียวปากเขาแนบลงไปที่จุดนั้น เธอจะสั่น
สะท้านไปทั้งตัว
…………………………………….
[1] ลอฟต์อะพาร์ตเมนต์ คืออะพาร์ตเมนต์ที่ห้องหนึ่งมีสองชั้น
ตอนที่ 2204
มั่วจิ่ว
อยากจูบคนอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
ทว่าฉินมั่วกลับก้มศีรษะซบบนไหล่เธอราวกับจงใจหลบ
เขาทำตัวสงบเสงี่ยมมาก จากนั้นผลักเธอให้ถอยห่าง แววตาไม่ค่อย
มั่นคง “ไปละ”
แค่นี้เหรอ?
ป๋อจิ่วเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจ ก้มหน้าดูปลายนิ้วตัวเอง รู้สึกว่าได้เวลา
ใช้ยาที่ได้มาจากพวกเพื่อนคนผิวดำกับท่านเทพสักที
ถึงยังไงอีกสามวันก็จะไปมิลานแล้ว
ด้วยเหตุที่ต้องเจอกับการแข่งขันระดับโลก กฎการฝึกจึงเข้มงวดมาก
นอกจากต้องให้ฝึกซ้อมได้เต็มที่ ยังต้องพักผ่อนให้มากพอด้วย
เวลาพลอดรักย่อมเหลือน้อยแน่นอน
วันนี้อุตส่าห์ได้หยุดพักทั้งที จึงไม่แปลกที่ป๋ อจิ่วจะเกิดความคิดที่ว่า
ขึ้นมา เพราะยังไงก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี
เรียวปากบางของเธอแย้มยิ้ม หลังจากกลับบ้าน เธอย่อมได้โอกาสลง
มือ
ฉินมั่วเดินอยู่ข้างหน้า รสสัมผัสเหมือนยังติดค้างอยู่ที่เอว นัยน์ตาลุ่ม
ลึกขรึมหนักกว่าเดิม มุมปากแอบยิ้ม
ในห้องโถงใหญ่
วันนี้ไม่มีเสียงพิมพ์ดังอย่างที่หาได้ยาก
จ้าวซานพั่งรู้สึกอยู่ว่าวันนี้ฉินเจ้าแผนการดูจะเสเพลชอบกล “เสื้อ
นายเป็นอะไร?”
ปกติแล้วชอบแต่งตัวเรียบร้อยนักไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างไหนบอกว่าคนไหนที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยก็ไม่ต้องมาลงแข่ง
ต้องรักษาภาพลักษณ์ เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นผู้เข้าแข่งขันทีมชาติ
จีน เป็นตัวแทนของประเทศ
ดังนั้นแม้กระทั่งเขายังเลิกสวมรองเท้าแตะเพราะต้องทำตามกฎเลย
แล้วเจ้าหมอนี่เป็นอะไรของมัน!
“วันนี้วันหยุด” ฉินมั่วพูดเสียงเรียบ
จ้าวซานพั่งหัวเราะสองครั้ง “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่เสื้อนายยับ
ล่ะ?”
“วันหยุดเป็นเวลาส่วนตัว” ฉินมั่วมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง “แล้วที่เสื้อผ้า
ยับก็เพราะโดนจิ่วยั่ว”
จ้าวซานพั่งอึ้งทันใด
โอ้โห! สาดอาหารหมาให้เขาอีกแล้ว!
“แล้วทำไมนายไม่จัดการตัวเองให้เรียบร้อยล่ะ”
ฉินมั่วไม่สนใจ “นายมันไม่มีแฟน คงไม่เข้าใจเท่าไร ว่าเวลาโดน
แฟนยั่วแบบทึ้งเสื้อผ้าเรามันให้ความรู้สึกเยี่ยมทีเดียว”
นายก็เลยไม่จัดการให้เรียบร้อยใช่ไหม!
นายเคยเห็นคู่รักบ้านไหนบ้างที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายทึ้งเสื้อผู้ชายก่อนอย่าง
พวกนาย!
ตอนนั้นมั่วเป่ ยน้อยกำลังสะพายเป้ของตัวเองอยู่ข้าง ๆ จ้าวซานพั่ง
ใบหน้าขาวใสไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “เทพอ้วนถูกโจมตีทุกครั้งเลย
ทำไมถึงกระโจนเข้าไปให้อาจารย์หญิงของฉันเล่นงานเข้าล่ะ?”
จ้าวซานพั่ง…แทงใจดำจริง ๆ !
ป๋อจิ่วข้าง ๆ กันยิ้มอย่างได้ใจ มือขวาลูบหัวมั่วเป่ยน้อย “อย่าพูด
อย่างนั้นสิ ท่านอ้วนมีแฟนคลับผู้หญิงมากที่สุดในบรรดานักกีฬา
อีสปอร์ตเชียวนะ ต้องรักษาภาพลักษณ์”
“แฟนคลับผู้หญิงงั้นเหรอ” มั่วเป่ ยน้อยย่นหัวคิ้วเล็กน้อย “โลกเราก็
ประหลาด ฉันคิดว่าทุกคนดูกันที่หน้าตาเสียอีก”
จ้าวซานพั่งแทบกระอักเลือด “หรือว่าฉันไม่หล่อ?”
“ให้พูดความจริงไหม?” มั่วเป่ยน้อยถามอย่างจริงจัง
จ้าวซานพั่งอึ้ง!
เล่นย้อนถามแบบนี้แล้วเขาจะตอบอย่างไรล่ะ!
ทว่าลั่วลั่วที่อยู่ด้านข้างกลับหัวเราะร่า สายตาจับจ้องคนตัวเล็ก ก่อน
จะช้อนสายตามองป๋ อจิ่ว “น่าเสียดายนิดหนึ่งนะ”
“หือ?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว
ตอนลั่วลั่วหัวเราะ เส้นผมยาวตกลงมาดูสวยมาก “ทีมไดมอนด์ยุบ
ไปแล้ว น่าเสียดายสำหรับ Bey มากเลย”
“นิดหนึ่งอะ” ป๋ อจิ่วหัวเราะเสียงเบา “แต่เขาจะกลับมาในวันหนึ่ง”
ลั่วลั่วหันมอง “เธอมั่นใจอย่างนั้นเลยเหรอ เขาไม่อยากแข่งแล้วนี่
นา?”
“ให้เขาห่างมันไปสักช่วงหนึ่งกำลังดี” หางตาของป๋ อจิ่วมีรอยยิ้ม
“เก่งเกินไปจะอยู่ไม่นาน ต่อไปถ้าพวกเราไม่อยู่ในวงการนี้แล้ว เขา
ยังเล่นลีกอาชีพอยู่ แล้วยังเอาแต่เล่นเป็นนักฆ่า เกิดเพื่อนร่วมทีม
อิจฉาจนหักหลังเขาขึ้นมาล่ะจะทำยังไง เขายังเด็กเกินไป”
ตอนที่ 2205
มั่วจิ่ว หวาน
สายตาของลั่วลั่วชะงักไป “คิดเสียไกลเชียว?”
“การแข่งไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียวอยู่แล้ว” ป๋อจิ่วช้อนตามอง “เธอ
เดินบนทางสายนี้ น่าจะเข้าใจดีว่าการถูกเด็กฝึกรุ่นเดียวกันกีดกันมัน
รู้สึกแย่จะตาย”
ลั่วลั่วมองคนตรงหน้า
ป๋ อจิ่วถาม “ทำไมเหรอ?”
“เปล่า” ลั่วลั่วยื่นมือออกมา “เห็นเธอหล่อดี เลยอยากบีบแก้ม”
ป๋ อจิ่วซุกมือข้างหนึ่งลงกระเป๋ ากางเกง “ตามสบาย”
ลั่วลั่วบีบจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้รู้อะไรเยอะขนาดนี้
ปกติแล้วไม่ค่อยพูดสักประโยคด้วยซ้ำ
คงเพราะเป็นคนอ่อนโยนนั่นเอง
ลั่วลั่วหันไปมองร่างเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลอีกครั้ง
ผมสีดำของเด็กคนนั้นยาวขึ้นเล็กน้อย ปรกบนเปลือกตาแล้ว กำลัง
แขวะท่านอ้วน
บางครั้งก็จะหาเวลามาเช็ดคีย์บอร์ดช่วยพวกเขา และยกน้ำดื่มมาให้
ดื่ม ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยเลย
น้ำมะระที่พวกเขาดื่มก็เป็นฝีมือของเด็ก Bey นี่แหละ
ในวันหยุด ป๋ อจิ่วจะพา Bey มาอยู่ที่ฐานฝึก
นอกจากคนในทีมแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าป๋ อจิ่วเป็นคนออกค่าอาหารให้
Bey รวมถึงตั๋วเครื่องบินไปมิลาน
อันที่จริงทีมของแต่ละประเทศมีเด็กฝึกใหม่กันทั้งนั้น โดยจะพาไป
สัมผัสงานแข่งขันชิงแชมป์ โลกในครั้งนี้ด้วย
แม้ทีมไดมอนด์จะยุบแล้ว แต่ในฐานะที่เป็นอาจารย์ ป๋อจิ่วย่อม
ปกป้องดูแลลูกศิษย์ไม่เปลี่ยนแปลง
ในเมื่อลูกศิษย์คนอื่นมี แล้วลูกศิษย์เธอจะไม่มีได้อย่างไร
และในช่วงนี้ ทุกคนต่างรู้ว่าป๋ อจิ่วพยายามฝึก Bey ให้เล่นบทบาท
อื่น ๆ นอกเหนือจากการเป็นนักฆ่า เพื่อให้มีความสามารถในทุก
ด้าน
“เธอหวังว่า Bey จะกลับมาล่ะสิ” ลั่วลั่วพูดกลั้วหัวเราะ หยิก ๆ แก้ม
บนหน้าหล่อเท่นั่น “ไม่งั้นก็ไม่เห็นจำเป็นต้องสอนขนาดนี้”
ป๋ อจิ่วนั่งอย่างเกียจคร้านอยู่ตรงนั้น ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะโดนใคร
กระชากตัวไป!
เป็นฉินมั่วนั่นเอง
มือของลั่วลั่วคว้าได้ความว่างเปล่า
ฉินมั่วกอดคนในอ้อมแขนไว้แน่น เลิกคิ้วมองเล็กน้อย ดูเหมือนจะ
ไม่จริงจัง แต่แววตาที่จ้องลั่วลั่วกลับเย็นนิด ๆ “อยากจับแก้ม ก็ไป
จับหัวหน้าเซียวของเธอไป”
ลั่วลั่วหันไปมองชายอีกคนที่เดินมาหา แก้มของหัวหน้าเซียวไม่ชวน
ให้คนอยากจับนี่นา
ฉินมั่วพาตัวคนไปแล้ว
ลั่วลั่วคิดจะบ่นกับเซียวจิ่งสักหน่อย “ฉินมั่วขี้หึงเป็นบ้า แค่บีบแก้ม
แบล็กพีชหน่อยเดียวก็ไม่ได้”
ใครจะรู้ล่ะว่า เซียวจิ่งทำแค่มองเธอแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยช้า ๆ “รู้สึกว่า
เธอกับ Z จะอยู่ใกล้ชิดกันเกินไปหน่อยนะ”
ลั่วลั่วตะลึง งุนงงนิด ๆ ขนาดเขาคงไม่…
เซียวจิ่งสวมชุดกาวน์สีขาว มีกลิ่นอายสูงส่งไม่แปดเปื้อนมลทิน
“ต่อไปถ้าอยากจับแก้ม ก็มาจับแก้มฉัน”
ลั่วลั่ว “…”
ส่วนฉินมั่วออกจากฐานฝึกแล้วขึ้นรถ กลับแสดงออกต่างไปจากคน
อื่น
หลังจากจับคางใครบางคนมานาน ปลายนิ้วก็ไล้บริเวณที่ลั่วลั่วสัมผัส
ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอกับลั่วลั่วมีอะไรกัน”
ป๋อจิ่วหัวเราะ “พี่ก็รู้แล้วนี่ เขาเป็นนางฟ้าของฉัน บอกตรง ๆ นะ พี่
มั่ว ถ้าฉันเป็นผู้ชาย รับรองว่าผู้ชายอย่างพวกพี่แพ้ชัวร์”
“อ้อ” ฉินมั่วหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะงับใบหูเธอทันที “ยังอยากเป็น
ผู้ชายอีกเหรอ?”
ป๋อจิ่วตัวแข็งเล็กน้อย อยากอ่อยคนสุด ๆ
เสียงของฉินมั่วอ้อยอิ่ง ลมหายใจกระทบหลังใบหูเธอ ชาหนึบจน
ผลักเขาให้ถอยห่างไม่ไหว “มิสซิสฉิน ช่วงนี้ฉันตามใจเธอมากไป
หน่อยใช่ไหม หือ?”
ตอนที่ 2202
ชีวิตหลังแต่งงานของมั่วจิ่ว
เท่าที่เธอรู้มา ถึงยูกิชินจะลุกขึ้นจากเตียงคนอื่นในทุกวัน แต่ไม่เคยมี
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนพวกนั้น
น่าจะเป็นเพราะแผลใจในวัยเด็ก
และเช่นเดียวกัน ความสนใจของเจ้าตัวไม่มีวันยืนยงคงกระพัน คงมี
แต่โฮชิโนะคนเดียวถึงเอาอยู่ได้
งูพิษเจ้าเล่ห์เสมอ มักแอบซ่อนตัวในพุ่มหญ้าเพื่อจะกินคน
ช่างไม่รู้เลยว่านายพรานวางตาข่ายเอาไว้นานแล้ว รอให้อีกฝ่ายจู่โจม
ก่อนแล้วค่อยรวบจับ จากนั้นก็อุ้มงูพิษกลับบ้านไป
“ไม่รู้ว่าอุ้มงูพิษไว้จะหนาวหรือเปล่า” ป๋ อจิ่ววางสาย มุมปากหยักยิ้ม
วันนี้ไม่มีใครเฝ้าพวกเธอกระโดดกบ ดังนั้นป๋ อจิ่วจึงไม่ได้สนใจสัก
เท่าไร แต่เธอเพิ่งจะพูดกับตัวเอง ก็ได้ยินเสียงลอยมา “ไม่ตั้งใจซ้อม
เหรอ?”
“เดี๋ยวสิ ฉันขอซื้อแผ่นแปะแก้ปวดเมื่อยให้โฮชิโนะก่อน แล้วจะเอา
ให้เขาตอนไปมิลาน” ป๋ อจิ่วเอนพิงรั้วด้านหลัง ดูเว็บขายของโดยไม่
เงยหน้าขึ้นมอง มืออีกข้างพาดเอาไว้ด้านข้างสบาย ๆ ปลายผมเปียก
หมาด ดูเป็นหนุ่มน้อยสะอาดและเจ้าเล่ห์
ผู้จัดการเฟิงอยากจะเตือนเธอว่าใครบางคนกลับมาแล้ว
แต่ที่ไหนได้ แค่เรียกชื่อโฮชิโนะออกมา ฉินมั่วก็ยืนมาอยู่ข้างเขา
อย่างที่คาดไว้ ส่งเสียงว่า “อ้อ?” แววตาเฉยชา “จะซื้อผ้าห่มไฟฟ้าให้
เขาด้วยไหมล่ะ”
“ผ้าห่มไฟฟ้าก็ดีหรอก มันจะทำให้ร้อน…” ป๋ อจิ่วพูดมาถึงตรงนี้ก็
สะดุด เก็บมือถือออย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะมองใบหน้าหล่อเหลา
สูงส่งตรงหน้า ตามด้วยลงไม้ลงมือโอบเอวแต๊ะอั๋งชายหนุ่ม “วันนี้
ไม่เห็นพี่ ฉันโดนลงโทษจนไม่มีแรงเลย”
ฉินมั่วเลิกคิ้ว “มิสซิสฉิน ความหน้าบางของเธอล่ะ?”
“มันหายจากบ้านไปชั่วคราว” ป๋อจิ่วเงยหน้าอย่างเกียจคร้าน
ฉินมั่วบุ้ยใบ้ให้เธอรู้ว่ารอบข้างยังมีคนอยู่
ป๋ อจิ่วเองก็สังเกตเห็นคนพวกนั้นแล้ว อย่างไรเสียลูกศิษย์ผู้น่ารัก
ของเธอก็ไม่ได้อยู่ด้วย แค่กวาดสายตามองผ่านแวบเดียว
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นยิ่งเด่นชัดขึ้น เหมือนกำลังถามว่าพวกนายไม่คิด
หรือว่าตัวเองเป็นส่วนเกินหน่อยเหรอ
จ้าวซานพั่งทนไม่ไหว เขาเคยเห็นการอวดหวานมาหลายครั้งจนไม่
รู้สึกประหลาดแล้ว ย่อมไม่ยอมเป็นก้างขวางคอใคร
นี่มันเอียนจนกินข้าวมื้อเย็นไม่ลงได้ง่าย ๆ เลยละ
ป๋ อจิ่วอมยิ้มมองคนสองสามคนนั้น มองจนพวกนั้นเดินหนีไปเอง
ก่อนจะเงยหน้าจูบใกล้ ๆ ริมฝีปากบางของชายหนุ่ม ได้กลิ่นบุหรี่อยู่
จาง ๆ
ฉินมั่วไม่ปล่อยให้เธอได้คืบแล้วเอาศอก ถึงแม้ก้นบึ้งนัยน์ตาจะยิ้ม
แย้ม ทว่าปัญหาเรื่องหลักการก็ต้องว่ากันให้ชัด “ซื้อแผ่นแปะแก้
ปวดเมื่อยให้โฮชิโนะทำไม?”
“ก็ยูกิชินตัวค่อนข้างเย็นนี่นา” ป๋อจิ่วไม่ค่อยชอบใจที่การหอมของ
เธอถูกขัดจังหวะ เลิกคิ้วเล็กน้อย “ซื้อของแบบนี้ให้ ไม่แน่อาจทำให้
ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นขึ้นก็ได้”
ฉินมั่วถามอย่างไม่ค่อยใส่ใจ “ความสัมพันธ์ของพวกเขา?”
“อื้อ พี่ไม่ต้องถามแล้ว ต่อไปอย่าคุยกับพวกเขาอีก” ป๋ อจิ่วพูดไป
ตามใจชอบ “พี่ใสซื่อจะตาย เดี๋ยวกลายเป็นเกย์เอาได้ง่าย ๆ ”
ฉินมั่วหลุบตาลง “กลายเป็นเกย์ได้ง่าย?”
“ของแบบนี้ส่งอิทธิพลถึงกันน่ะ” ป๋ อจิ่วยิ้มบาง ๆ “ฉันเคารพรสนิยม
ทางเพศของทุกคน แต่เกลียดความคิดที่ว่ามีแต่ความรักร่วมเพศถึง
จะเป็นรักที่แท้จริงมาก แล้วโฮชิโนะกับคุณชายยูกิชินนั่นก็เป็นพวก
รุกด้วย ฉะนั้นพี่มั่ว พี่ห้ามเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด”
ฉินมั่วกวาดตามองเธอ เอ่ยเสียงเรียบว่า “เอามือถือมา”
ป๋ อจิ่วเลิกคิ้ว “พี่มั่ว ไม่รู้สึกเหรอว่าตัวเองเหมือนผู้หญิงมากเลย มา
ขอดูมือถืออะไรแบบนี้”
“เอามา” ฉินมั่วย้ำอีกครั้ง
ป๋ อจิ่วจึงยื่นให้ มือถือยังค้างอยู่ที่ประวัติการพูดคุยในวีแชทของเธอ
กับลั่วลั่ว…
ตอนที่ 2203
มั่วจิ่ว
ฉินมั่วทำแค่อ่านคร่าว ๆ ก่อนสายตาจะจับจ้องข้อความท่อนหนึ่ง
ลั่วลั่ว “น้องแบล็ก รู้หรือเปล่าว่าตอนที่พวกเราไปเจอผู้ใหญ่กันสนุก
มากเลยนะ”
แบล็กพีช “สนุกยังไงเหรอ?”
ลั่วลั่ว “คุณอาผู้หญิงคิดว่าหัวหน้าของพวกพี่ชอบฉินมั่ว เพราะตั้งแต่
เล็กจนโตไม่เคยมีใครทำให้เขาสนใจได้ นอกจากฉินมั่วเท่านั้น คุณอา
ผู้หญิงยังคิดว่าพวกเราแกล้งเป็นแฟนกันเพื่อหลอกทางบ้านอีก แล้ว
ต่อมาฉินมั่วก็ดันส่งพัสดุด่วนมาพอดี คุณอาผู้หญิงหน้าซีดไปเลย จะ
ว่าไป เจ้าฉินมั่วนั่นก็ทำให้คนคิดไปได้ง่าย ๆ ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็
ได้หมด เสียงเชียร์คู่จิ้นมั่วจิ่งเลยดังมากมาตลอดไง”
ป๋ อจิ่วยิ้ม เอ่ยเสียงขี้เกียจว่า “รอให้เขากลับมา ฉันจะลงโทษเขาเอง”
สุดท้ายลั่วลั่วตอบกลับมาเป็นเสียงหัวเราะเบา ๆ “ไม่ต้องลงโทษ
หรอก ถ้าพวกเขาสองคนคบกันจริง พวกเราก็แอบหนีไปด้วยกันนะ
ยังไงเทพบุตรในหัวใจพี่ก็คือเธอตลอดกาล”
ปลายนิ้วของฉินมั่วละจากหน้าจอ ช้อนสายตาขึ้นมองบางคน
“เทพบุตร? เธอนี่นะ”
ป๋ อจิ่วแย้มยิ้มเห็นฟันขาว “ก็คนมันใช้หน้าตาหากินอะ”
“เหอะ” ฉินมั่วหัวเราะ ก่อนจะหยิกแก้มเธอราวกับวัดระดับความ
หนา เอ่ยอย่างมีนัยซ่อนเร้นว่า “เธอก็หล่อจริงนั่นแหละ”
แรงนั่นไม่ทำให้เธอเจ็บ แถมยังทำให้เธอโอบเอวเขาได้
แผนล่อทั้งนั้น!
ป๋อจิ่วรู้ดีว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าความหล่อของเขาแล้ว หัวใจก็ชอบคัน
ยุบยิบอย่างระงับไม่อยู่
“เมื่อก่อนฉันต้องกันแค่ผู้หญิง แต่ตอนนี้ดูเหมือนต้องระวังผู้ชาย
ด้วย” ป๋ อจิ่วเงยหน้า ยังยิ้มเหมือนเดิม “ความหล่อก่อหายนะจริง ๆ
แต่ว่านะพี่มั่ว เวลาพี่คุยเรื่องเทคนิคการเล่นเกมกับหัวหน้าเซียวสอง
ต่อสองนะ ห้ามคิดเลยเถิดเชียว ตอนนี้หัวหน้าเซียวมีแฟนแล้ว
ทำลายความรักของคนอื่นผิดกฎหมาย”
ฉินมั่วได้ยินคนบางคนพูดเพ้ออย่างจริงจัง สุดท้ายก็ยื่นมือจับข้อมือ
ที่โอบเอวเขาอยู่ด้านหลังของเธอ “ฉันว่าคนที่คิดเรื่องอื่นน่ะเธอ
มากกว่า”
“หือ?” ป๋อจิ่วยอมรับตรง ๆ “ฉันคิดกับพี่อะ ไม่ใช่แค่วันสองวันนะ”
โดนจับได้อีกแล้ว จู่โจมยากมากจริง ๆ
ฉินมั่วหลุบตามองใบหน้าของเธอ ก่อนจะสลับตำแหน่งกันแล้วดัน
เธอไปที่มุมหนึ่ง ดึงมือเธอมาโอบเอวตัวเองไว้ ด้านในคือเสื้อทีม
คลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ต
ตำแหน่งแบบนี้ย่อมหลบสายตาได้ง่าย ต่อให้ป๋ อจิ่วทำอะไรก็ไม่มี
ใครเห็น
มือของเธออยู่ใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา ฝ่ามือกำลังไล้ลูบกระดูกแต่ละ
ข้อ แถมยังสัมผัสโดนเนื้อเอวที่ให้สัมผัสดีอีกต่างหาก
เมื่อเจียงเฉิงเข้าสู่ช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็จะค่อนข้างเย็นแล้ว
การสัมผัสแบบนี้ทำให้เธออุ่นมือได้พอดี
ดังนั้นฉินมั่วจึงปล่อยให้มือของเธอไล้แผ่นหลังเขา
แต่การจะไม่ให้เธอทำอะไรมากกว่านี้ย่อมเป็นไปไม่ได้
ฉินมั่วรู้สึกว่ามือของเจ้าหล่อนเหมือนไฟที่ไล้ลวกบนตัวเขา
ปลายนิ้วสัมผัสที่ไหนเป็นต้องก่อเกิดไฟได้ทุกที่
ลูกกระเดือกของชายหนุ่มขยับเล็กน้อย เขาชนหน้าผากกับเธอ “อย่า
ขยับนะ”
เสียงที่ใสแจ๋ว เวลานี้แฝงความเซ็กซี่ไว้โดยไม่รู้ตัว ดังอย่างแหบเครือ
อยู่ริมหูเธอ
ความวาบหวามแผ่ลามออกมาจากหัวใจทันที
ป๋ อจิ่วเงยหน้ามองใบหน้าสง่าหล่อเหลานั้น ลมหายใจของเขาไม่
สงบนิ่งเหมือนปกติด้วยสาเหตุบางอย่าง
กระทั่งอารมณ์ตรงหางตายังเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาจับเอวเธอ ดึงลำคอของเธอมาที่ริมฝีปากตัวเอง
ความสูงส่งต้องห้ามผสมผสานไปกับความว้าวุ่น
ป๋ อจิ่วรู้เพียงว่ามีแค่เธอที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพนี้
เซ็กซี่ถึงขีดสุด กระชากวิญญาณคนออกไปได้…
ตอนที่ 2200
ยูกิชินไม่เคยรู้มาก่อนว่าหัวใจตัวเองจะเต้นเร็วขนาดนี้ เหมือนมีลม
พายุโหมพัด แค่สัมผัสปลายหูเท่านั้น ทำไมถึงได้รู้สึกรุนแรงมาก…
โฮชิโนะมองดูนัยน์ตาที่เคลิบเคลิ้มนั่น สายตาจับจ้องใบหน้าสวยจัด
กว่าในยามปกติ เส้นผมสีดำนุ่มเหมือนใยไหมกระจายอยู่ข้างมือเขา
“ช่างเถอะ” โฮชิโนะเหมือนหัวเราะ
ทว่ายูกิชินไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหัวเราะอะไร ยิ่งเดินมาถึงจุดนี้แล้ว อีก
ฝ่ายกลับบอกว่าช่างเถอะ? นัยน์ตาที่กำลังเคลิ้มค่อย ๆ หรี่ลง กำลังจะ
อาละวาด แต่พลันได้ยินคนคนนั้นพูดข้างหูเสียก่อน “เทียบกับคน
อื่นแล้ว ฉันไม่ได้ชอบนายแบบประเดี๋ยวประด๋าว”
ยูกิชินตัวเกร็งทื่อ เมื่อเห็นโฮชิโนะลุกขึ้นก็คิดว่า อะไรกันเนี่ย?
แกล้งกันงั้นเหรอ? นัยน์ตาของยูกิชินเคร่งขรึม หัวใจเหมือนถูกแช่
แข็ง พลอยลุกขึ้นตามมา แต่กิริยาต่อมาของโฮชิโนะกลับส่งอิทธิพล
ต่อเขา ด้วยเจ้านั่นกดข้อมือเขาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ยกซุปแก้เมามาให้
“นายจะไปไหน? กินอันนี้ก่อน”
“นี่มันใช่เวลากินซุปแก้เมางั้นเรอะ?” ยูกิชินกระชากคอเสื้อของโฮชิ
โนะ ก้มร่างต่ำ
โฮชิโนะตอบเสียงเรียบ “ไม่กิน งั้นนายอย่ามาเสียใจตอนที่ปวดหัว
ในวันพรุ่งนี้ละกัน”
“ไม่มีทาง ให้ฉันนอนก่อน” ยูกิชินมีท่าทางแช่มช้อยทรงเสน่ห์
“อะไร ๆ ก็เคลียร์ได้”
โฮชิโนะนั่งข้างตัวเขา กลิ่นไอเปลี่ยนไป “นายกินเสร็จก็นอนได้”
“เฮอะ” ยูกิชินหัวเราะเสียงต่ำ “นายเป็นฝ่ายจูบฉันก่อนนะ แล้ว
ตอนนี้มาบอกให้ฉันนอนในสภาพแบบนี้?”
โฮชิโนะเลิกเปลือกตา “หรือว่านายอยากไปอาบน้ำ ได้ ยังไงตอนนี้
กลิ่นน้ำหอมจากตัวนายก็ฉุนมาก ได้กลิ่นแล้วแย่เอามาก ๆ”
“กลิ่นน้ำหอม? นายล้อเล่นอะไร ฉันไม่เคยใช้น้ำหอม…” ยูกิชินพูด
มาถึงตรงนี้ก็ชะงัก “นายหึงหรือเปล่า หือ?”
สีหน้าของโฮชิโนะไม่เปลี่ยนแปลง “ฉันไม่อยากไปลากนายจาก
เตียงผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนในตอนเช้าของวันใดวันหนึ่ง ยิ่งถ้าจะ
คิดจะคบกัน นายจะต้องทำตัวให้มันดี ๆ หน่อย”
“งั้นก็นอนกับฉันสิ” ความร้ายกาจของยูกิชินออกมาจากกระดูก “ถ้า
ได้นอนกับนายแล้ว ฉันจะไม่สนใจคนอื่นอีก”
โฮชิโนะมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง “นายนี่เอาแต่คิดเรื่องแบบนี้เนอะ?”
“ตรงไปตรงมา ไม่ดีหรือไง?” ยูกิชินหัวเราะเสียงต่ำ “หรือฉันดูดีไม่
พอ?”
โฮชิโนะจ้องอีกฝ่าย
ลมหายใจของยูกิชินอยู่ใกล้มากขึ้น เขาถนัดที่จะใช้หน้าตาถ่ายทอด
ความรู้สึกออกมา แต่ไม่เคยใช้เมื่ออยู่ต่อหน้าโฮชิโนะ ทว่าวันนี้ไม่
เหมือนกัน เขาอยากได้คนคนนี้มาก ทั้งยังเชื่อมั่นว่า อีกฝ่ายไม่มีวัน
แข็งกระด้างไปได้หรอก
“ไม่อยากลองดูหรือไง?” ช่างยั่วยวนจริง ๆ แถมด้วยเรียวปากของยูกิ
ชินเพิ่งสัมผัสโยชิโนะมา และในเวลานี้ โฮชิโนะดึงผ้าห่มปิดหน้า
สวย ๆ ที่ทำให้คนใจกระตุกได้อย่างง่ายดายให้เลยไปถึงศีรษะ
“นายจะทำอะไร?” ยูกิชินหรี่ตา ดึงผ้าห่มออกมา
โฮชิโนะเอ่ยเสียงเรียบ “นอนซะ”
“มาถึงขั้นนี้แล้ว นายจะให้ฉันนอนเหรอ?” ยูกิชินนอนอยู่บนเตียง
แต่ไม่พอใจเหมือนเดิม ทว่ากลับตัวแข็งทื่อในวินาทีถัดมา เพราะอีก
ฝ่ายตามขึ้นมา นัยน์ตาดำขลับนั่นจ้องเขา “อื้อ นอนก่อน วันเวลายัง
อีกยาวไกล”
ตอนที่ 2201
รักหวานแหวว
ยังมีเวลาอีกยาวไกลเหรอ? บางครั้งยูกิชินก็รู้สึกว่าภาษาจีนมีเสน่ห์
บางอย่าง เพราะแค่ตัวอักษรไม่กี่คำก็ทำให้เขานึกถึงอนาคตที่ไม่มี
วันอยู่อย่างเย็นชา ไม่ต้องนอนไม่หลับแล้วไปตื่นขึ้นที่เตียงคนอื่น ดู
เหมือนเขาจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต เขาสามารถหาความสงบ
ได้จากตัวคนคนนี้ เป็นครั้งแรกที่โฮชิโนะมองเขาด้วยสายตาแบบ
นั้น แววตานั่นเหมือนน้ำในซอกเขา แววตานั่นยังแข็งแกร่งเหมือน
หินผา ที่แม้กลืนหิมะไปครึ่งหนึ่ง ทว่ากลับไม่รู้สึกเย็นเฉียบ ทำให้
นิ้วเขาถึงกับแข็งทื่อ
แม้ตอนนี้ยูกิชินจะเมาแล้วจะไม่มีเรี่ยวแรง ทว่าออร่ายังไม่คลายหาย
ความร้ายกาจที่มีทำให้เขาไม่ยอมอยู่ใต้ร่างใครแน่นอน นี่เป็นเหตุให้
บางคนเห็นเขาแล้วอยากลอง และบางคนเห็นแล้วก็ขอถอนตัว หลาย
คนต้องแพ้ให้กับยูกิชิน แน่ล่ะ ย่อมมีพวกตาต่ำคิดว่าเขาเป็นเด็กขาย
ตัวระดับห้าดาว จนทำให้พวกนั้นต้องมีจุดจบที่น่าอนาถ ดังนั้นฉายา
งูพิษจึงเป็นที่รู้ไปทั่ว
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบใด ขอแค่เขานั่งลงก็กลายเป็นจุดดึงดูดสายตา
ดูเหมือนกับพวกมาเฟียชั้นสูงที่หรูหรา ประเภทที่สวมมงกุฎไว้บน
ศีรษะ มีสาวสวยล้อมรอบ ทว่าเวลานี้ความรุกของยูกิชินช้าลง กลาย
เป็นคนอื่นที่ได้ควบคุมจังหวะ อันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามา
ก่อน ยูกิชินหรี่ตาลง อยากจะสร้างบรรยากาศให้คุขึ้น
ทว่าคนคนนั้นกลับยื่นมือมากอดเขาทั้ง ๆ ที่มีผ้าห่มติดตัว เสียงดัง
ข้างหู “นอนเถอะ ถ้าไม่นอนอีก ฉันจะไม่นอนเป็นเพื่อนอีก”
ยูกิชินตัวเกร็ง กระทั่งเรียวขายังไม่ขยับ ชีวิตส่วนตัวเขามั่วจะตาย ไม่
เหมือนกับโฮชิโนะ ยูกิชินไม่เข้าใจว่า ทำไมทั้ง ๆ ที่เป็นกิริยาธรรมดา
จะตาย ไม่ร้อนเร่าสักนิด แถมยังกระทำผ่านผ้าห่มอีกด้วย กลับทำให้
เขารู้สึกพิเศษ กระทั่งไม่อยากปล่อยมือไป ไม่อยากทำลายบรรยากาศ
ในเวลานี้
หากจะต้องให้บรรยายล่ะก็ มันอบอุ่นยิ่งกว่านอนกับคนแปลกหน้า
เหมือนได้กินขนมสายไหมเป็นครั้งแรกเมื่อยามเป็นเด็ก
ใช่ ในฐานะที่เป็นผู้นำมาเฟีย แม่เคยบอกเขาตั้งแต่ตอนเล็ก ๆ ว่า เขา
ไม่ควรจะกินขนมหวานจำพวกสายไหม และเมื่อพบว่าเขากิน ก็ทำ
โทษเขาอย่างหนักอย่างไม่ละเว้น แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ปลายลิ้นของ
เขาก็ยังไม่ลืมรสชาติของมัน ความหวานประแล่ม ๆ วนเวียนอยู่นาน
ยูกิชินไม่ได้ขยับ เอาแต่มองเพดาน “อื้อ”
โฮชิโนะมองดูใบหน้าสวยและเล็กอยู่นาน เลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ต่อต้าน
เรอะ?
ยูกิชินหลับจริง ๆ ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้เขากลายเป็นคนโดนกอด
ทว่าในวันต่อมา โฮชิโนะได้รับคำเชิญจากป๋ อจิ่วก็ไม่ตอบกลับ แต่
โทรหาเลยทีเดียว “พาคนในครอบครัวไปได้ไหม?”
“คนในครอบครัว?” ป๋ อจิ่วอึ้ง มุมปากยิ้มเล็กน้อย “ท่าทางคุณจะคิดดี
แล้ว ได้ดิ พามาเลย”
โฮชิโนะหัวเราะเบา ๆ “รู้ไหมว่าเป็นใคร?”
“นอกจากงูพิษตัวนั้นแล้วจะเป็นใครไปได้” ป๋ อจิ่วนั่งไขว่ห้าง เธอ
กำลังพักผ่อนหลังจากกระโดดกบเสร็จ “ยังไงคุณก็ทิ้งเขาไม่ลงอยู่
แล้วนี่ ไม่งั้นก็คงไปทำอย่างอื่นนานแล้ว ไม่เป็นที่ปรึกษาของพรรค
มาเฟียอยู่ที่นั่นหรอก? ตอนนี้พรรคนั่นเจริญขึ้นทุกที แถมยังได้
ตำแหน่งที่ปรึกษาอีก แต่โฮชิโนะ เขาจะจริงจังเหรอ?”
โฮชิโนะมองคนที่ยังหลับอยู่บนเตียงแวบหนึ่ง “ผมจะหาทางให้เขา
จริงจังให้ได้”
ป๋อจิ่วยิ้ม “ไม่รู้ว่าใครจ้องใครกันแน่…”
ตอนที่ 2198
ใครอยู่บนใครอยู่ล่าง
ช่างเถอะ ยังไงก็รับเลี้ยงแมวของยูกิชินมาแล้ว จะเลี้ยงอีกฝ่ายเพิ่มอีก
ก็ไม่ลำบากมากนัก
โฮชิโนะแย่งบุหรี่ของยูกิชินมาไว้ในมือ ก่อนจะดับลงในที่เขี่ยบุหรี่
“พวกเรามาคุยกันหน่อย”
ยูกิชินชะงัก นัยน์ตาเข้มลึก “ฉันไม่อยากคุย ยังไงนายก็ปฏิเสธฉันอยู่
แล้วนี่”
โฮชิโนะได้ยินแล้ว แววตาเหมือนสะดุดไป ทว่าออร่าไม่เปลี่ยน
“ใครบอกว่าฉันจะปฏิเสธแน่ ๆ ?”
คำตอบที่ได้มาโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้ยูกิชินชะงักอยู่ท่าเดิม แข็งทื่อ
อยู่ตรงนั้น ดวงตาพลอยเบิกกว้างไปด้วย
ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนแมวที่เลี้ยงไว้ตัวนั้น
โฮชิโนะยื่นมือจับคางอีกฝ่าย นัยน์ตาเฉยชา “พวกผู้หญิงด้านนอก
ชอบพูดว่าเวลาจูบกับนายมีความสุขมาก ท่าทางพวกเขาน่าจะไม่เคย
เห็นสีหน้านายในตอนนี้”
เมื่อโฮชิโนะเอ่ยถึง ยูกิชินก็นึกอะไรได้ แค่นหัวเราะอย่างร้ายกาจ “ก็
มีความสุขจริง ๆ นั่นแหละ อยากลองดูไหมล่ะ?”
“ไม่ต้อง ตอนนี้ฉันยังรับไม่ได้” โฮชิโนะพูดความจริง เขาชอบผู้หญิง
แต่หากเทียบกับความรู้สึกประเภทนั้น ยูกิชินสำคัญต่อเขามากกว่า
หน่อย
คงเพราะสิ่งแวดล้อมที่เติบโตมา ส่งผลให้โฮชิโนะเฉยชากับเรื่อง
ความรัก
ทว่า Z ถือเป็นกรณีพิเศษ คนคนนี้ก็เช่นกัน
โฮชิโนะเห็นได้ชัดเจนว่า แววตาอีกฝ่ายหม่นหมองลงตอนเขาพูดจบ
ไม่รู้ว่าเหตุใด เขาถึงไม่อยากเห็นยูกิชินโตแล้วยังมีสภาพเหมือนเมื่อ
ตอนเด็ก
อ้างว้าง เหมือนคนที่ไม่มีเป้าหมายของตัวเอง
โฮชิโนะชะงัก เอ่ยต่อว่า “รอให้ฉันรับได้ก่อน แล้วจะลองกับนาย”
“โฮชิโนะ นายพูดแบบนี้ เหมือนฉันเป็นตัวสำรองสุด ๆ เลยนะ” ยูกิ
ชินยิ้มอย่างไม่แยแส ฟังดูเหน็บแนมนิด ๆ “ฉันไม่รอให้นายรับได้
หรอก ถ้ามีโอกาสฉันจะลงมือ ไม่งั้นฉันก็ไม่ชอบแล้ว ทำไมฉัน
จะต้องชอบนายด้วย”
ใช่ ทำไมถึงต้องชอบคนคนนี้
ยังมีผู้คนอีกมากมายข้างนอกที่รอขึ้นเตียงกับยูกิชิน ไม่ว่าจะเป็นหญิง
หรือชาย จะหล่อหรือสวย
พวกนั้นล้วนแต่ต่อคิวรอเขาไปนอนด้วย…
เขากลับไปต้องตาคนคนหนึ่ง คนที่เขาไม่มีวันได้มาครองตลอดกาล
โฮชิโนะช้อนสายตามอง บุคลิกท่าทางบริสุทธ์ิ “นายลงมือก็ได้”
คำตอบที่เหนือความคิด ทำให้ยูกิชินหันมามองอีก “นายไม่มีวันปล่อย
โอกาสให้ฉันลงมือหรอก”
โฮชิโนะมองเห็นหลังหูของยูกิชินแดงนิด ๆ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีปฏิกิริยา
จากคำพูดของตน จึงเอ่ยเสียงต่ำว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นายว่าฉัน
จะอยู่ตรงไหน?”
ยูกิชินหัวเราะ ก่อนจะกระชากอีกฝ่ายมา “งั้นนายลองบอกมาซิว่า
ทำไมถึงยังรับไม่ได้ตอนนี้ กลัวว่าฉันจะฝีมือไม่ดีเหรอ? วางใจเถอะ
ฉันจะทำให้นายสบาย เพราะยังไงนายมันก็ไม่มีประสบการณ์”
โฮชิโนะมองยูกิชินแวบหนึ่ง นัยน์ตาลึกล้ำ “ใครสร้างความรู้สึกผิด ๆ
นี้ให้นาย ว่าฉันต้องอยู่ด้านล่าง?”
ยูกิชินหัวเราะเสียงเบา “นายคงไม่เหมือนกับคนพวกนั้นที่เห็นว่าฉัน
หน้าตาสวย ก็เลย…”
ยังพูดไม่ทันจบ เสียงของโฮชิโนะพลันดังขึ้นตามมา “เพลโตนิคเลิฟ
[1]แล้วกัน ถ้านายอยากได้แบบนั้นล่ะก็”
“เพลโตนิคเลิฟ?” ยูกิชินหรี่ตาลง กลิ่นอายอย่างงูพิษเปี่ยมล้น “ที่นาย
พูดกับฉันแบบเมื่อกี้ ฉันก็ตื่นตัวแล้วนะ นายจะให้ฉันเอาแบบเพลโต
นิคเลิฟ?”
โฮชิโนะเอ่ยด้วยอารมณ์เรียบเฉย “ทำแค่นั้น ก็เกิดความรู้สึกแล้ว?”
“ไม่งั้นนายคิดว่าฉันรับรู้ได้ยังไง…” ยูกิชินพูดมาถึงตรงนี้ก็ชะงักทันที
เพราะนิ้วของอีกฝ่ายลุกล้ำเข้ามาด้านในเสื้อของเขาแล้ว…
ตอนที่ 2199
ติดไฟ
สิ่งเดียวที่ยูกิชินรับรู้ได้คือความเย็นนิด ๆ จากปลายนิ้ว
เมื่อมันสัมผัสที่เอวเขา ความวาบหวามนั้นทำให้เขารับมือแทบไม่
ทัน แววตาชะงักงัน
โฮชิโนะเหลือบมองตาอีกฝ่าย เอ่ยช้า ๆ ว่า “แล้วถ้าเป็นแบบนี้ล่ะ?”
ยูกิชินไม่ขยับ เพราะร่างกายเกิดปฏิกิริยาก่อนสมองเสียอีก เหมือน
กำลังลุ่มหลงไปกับมัน
มือของโฮชิโนะหยุดที่กระดูกสันหลังข้อที่สอง คล้ายจะใกล้ชิดมาก
ขึ้นอีกนิด “เมื่อก่อนไม่รู้เลยว่าทำไมคนพวกนั้นถึงอยากพาตัวนาย
ไป สภาพนายแบบนี้ มันยากนะที่จะทำให้คนไม่คิดนอกลู่นอกทาง
แต่นายคิดจริงว่าจะรุกฉันได้เหรอ?”
ยูกิชินหรี่ตาในทันใด พลิกมือจับข้อมืออีกฝ่ายเอง “นายเข้าใจผิด
อะไรเรื่องแรงของฉันหรือเปล่า คิดว่าฉันจะรุกนายไม่ไหวงั้นเหรอ”
“ฉันว่าสภาพนายแบบนี้ น่าจะติดไฟง่ายมาก” โฮชิโนะไม่ร้อนรน
“ถ้าฉันจูบนายตอนนี้ แรงนายน่าจะได้หมดเกลี้ยง”
จูบเหรอ
ยูกิชินตัวแข็งเมื่อได้ยินคำคำนี้ หัวใจเต้นแรงเร็วราวกับใกล้จะระเบิด
มันเต้นจนไม่มีจังหวะเลยสักนิด ทว่าเสียงนั้นมีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่
ได้ยิน
ต่อให้ยูกิชินเป็นงูพิษแสนสวย เวลานี้เขาก็หยุดอยู่ในสภาพที่ไร้พิษ
สง
กระทั่งปล่อยให้คนอื่นเชือดได้ตามใจชอบ
โฮชิโนะเปลี่ยนทิศทางของมือ ไล่มาถึงต้นคออีกฝ่าย เอาหน้าผาก
แตะลงกับหน้าผากยูกิชิน ลมหายใจผ่อนออกช้า ๆ “ชอบฉันขนาด
นั้นเลยเหรอ ฉันพูดแค่นิดเดียว นายก็เป็นแบบนี้แล้ว”
ยูกิชินหรี่ตา หัวเราะอีก เอ่ยอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “ฉันเป็นแบบนี้กับทุก
คนไม่ใช่เหรอ?”
“นายก็รู้ตัวนี่ว่านอนกับคนมาเยอะแค่ไหน” แววตาของโฮชิโนะ
เรียบเฉย “แล้วจะให้ฉันเชื่อได้ยังไงว่าความชอบของนายจะไม่
ประเดี๋ยวประด๋าว”
อะไรนะ? ยูกิชินรู้สึกแค่ว่าอีกฝ่ายไม่เคยใกล้ชิดกับตัวเองเหมือนใน
เวลานี้มาก่อน ถึงขั้นรู้สึกได้ถึงตำแหน่งที่เรียวปากของโฮชิโนะจด
จ่ออยู่ใกล้มาก
เขาในเวลานี้ไม่รู้กระทั่งว่าโฮชิโนะพูดอะไรแล้ว
รับรู้ได้แค่ว่าผู้ชายคนนั้นกำลังจะถอนมือออกไป หางตายูกิชินยกขึ้น
เล็กน้อย จากนั้นก็จับมือนั่นให้กดลงในที่ต่ำลงไป “จะพูดมากไป
ทำไม ช่วยฉันสิ”
“ช่วยอะไร” โฮชิโนะก็ไม่รีบร้อน ทำแค่มองใบหน้าสวย ๆ นั่น รู้สึก
อ่อนไหวในแบบที่ต่างออกไป
ยูกิชินกดเสียงให้ต่ำลง “นายยังจะถามว่าช่วยอะไรอีก ฉันชัดเจน
ขนาดนี้ ต่อให้นายไม่มีประสบการณ์มาก่อน ก็ไม่น่าจะไม่รู้นะ”
โฮชิโนะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ร้อนผ่าว ทว่าแววตายังเหมือนเดิม
“นายตอบคำถามฉันก่อน”
แน่นอนว่าโฮชิโนะเข้าใจดี โลกนี้ไม่มีอาหารกลางวันเลี้ยงฟรี
ดังนั้นเมื่อเขาพูดจบประโยคนี้ ก็เอียงหน้าจูบลงบนใบหูอีกฝ่าย
ยูกิชินที่เดิมทีกำลังเคลิ้มเพราะฤทธ์ิเหล้ายิ่งรู้สึกเลือดร้อนพลุ่งพล่าน
ทั้งตัว ไม่เพียงแต่มือที่แข็งค้าง ร่างกายก็ยังสั่นสะท้านเบา ๆ
เมื่อกี้โฮชิโนะทำอะไร จูบเขาเหรอ?
ทำไมถึงไม่จูบค้างให้นานสักหน่อย
กระทั่งในขณะที่รู้สึกถึงความวาบหวามซึ่งเกิดขึ้นแวบเดียว เจ้านั่นก็
ไม่คิดจะจูบต่อให้นานอีกหน่อยแล้ว
ยูกิชินไม่เคยคิดว่ามาก่อนว่าตัวเองจะอยากให้ใครสัมผัสต่อไปเช่นนี้
ราวกับเป็นโรคโหยหาการสัมผัสจากผู้อื่น
เวลานี้ลมหายใจของเขาหอบกระชั้นวุ่นวาย
“คำถามอะไร”
สมองเขาหยุดคิดไปแล้ว เพราะจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยรู้สึกเหมือน
ในตอนนี้เลย
คนโลภมักไม่ค่อยรู้จักพอ
คงเพราะแม้แต่หัวใจของเขาก็ยังรู้ดีว่า คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น
โฮชิโนะ
……………………………………………
[1] เพลโตนิคเลิฟ (Platonic love) เป็นคำนิยามของความสัมพันธ์ที่
ไม่มีเรื่องทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง รักบริสุทธ์ิ หรือรักกันฉันมิตร
ตอนที่ 2196
ยูกิชินดูคล้ายแวมไพร์ที่กำลังหลับใหล
บนใบหน้าก็มีความงดงามที่ทำให้คนแทบหยุดหายใจราวกับกุหลาบ
เบ่งบานออกมาได้
แต่ยูกิชินก็รู้ดีว่า สภาพตัวเองในตอนนี้ไร้ซึ่งแรงดึงดูดใจอีกฝ่าย
ความคิดนี้เพิ่งจะเกิดขึ้น เสียงฝีเท้าก็หยุดลงที่ข้างหู
โฮชิโนะคว้าผ้าเช็ดตัวมาถือไว้ แล้วก้มมองคนที่อยู่ในอ่างน้ำ ดูคล้าย
พ่อบ้านผู้ดูแลในการ์ตูนอยู่บ้าง ก่อนจะเอาผ้าขนหนูมาคลุมบน
ศีรษะยูกิชิน แววตาเรียบเฉย “นายไม่พอใจเรื่องอะไร”
ยูกิชินลืมตาขึ้น ดูคมกล้าอย่างถึงที่สุด “นายไม่ยอมยกเลิกสัญญากับ
Z โฮชิโนะ นายก็รู้ว่าฉันเรียกร้องอะไรกับคนใกล้ชิด”
โฮชิโนะเอ่ยเสียงไม่ต่ำไม่สูง “อะไรล่ะ?”
“ต้องเห็นฉันในสายตาแค่คนเดียว” ยูกิชินกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย
กลิ่นเหล้าลอยคลุ้ง
โฮชิโนะหลุบตามองมือของอีกฝ่าย ยังสง่างามดังเดิม “เมื่อกี้ตอนที่
อยู่ข้างล่างฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ฉันรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้
ตอนเข้าตระกูลนาย ต่อให้ต้องตาย ก็จะมองนายแค่คนเดียว”
“สัญญาของตระกูลนี่ใช้ได้จริง ๆ” ยูกิชินยิ้มลึกล้ำขึ้น ทว่านัยน์ตา
กลับไร้ความอบอุ่น
โฮชิโนะวัดอุณหภูมิในน้ำ “น้ำใกล้จะเย็นแล้ว รีบเช็ดตัวเร็วเข้า” พูด
จบก็เหยียดตัวขึ้น
ได้ยินเสียงเสียงน้ำกระเพื่อมจากด้านหลัง
ยูกิชินพันผ้าเช็ดตัวเดินออกจากอ่างอาบน้ำ ทว่าอย่างแรกที่ทำกลับ
กอดเอวโฮชิโนะจากด้านหลังทันที
จากนั้นเสียงแผ่วต่ำดังขึ้นว่า “ไหนบอกว่าจะนอนเป็นเพื่อนฉัน นาย
ห้ามผิดคำพูดนะ”
โฮชิโนะเบือนหน้าเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงความชื้นด้านหลัง แต่ไม่ได้
สนใจการกระทำของอีกฝ่าย
แค่หันหน้าไปพูดด้วยเสียงเฉยชา “ปล่อย”
นัยน์ตาคู่สวยของยูกิชินหรี่ลง ก่อนจะเอ่ยช้า ๆ “ไม่ปล่อย”
โฮชิโนะเหมือนจะเป็นแบบนี้ตลอดเวลา ไม่เคยปล่อยให้ใครก่อเรื่อง
อาละวาด ต่อให้เป็นยูกิชินก็เหมือนกัน
เขาแกะมือที่โอบเอวตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
นัยน์ตาของยูกิชินขรึมลงตามจังหวะที่อีกฝ่ายเดินจากไป
ทว่าคนคนนั้นก็เดินกลับเข้ามา มีเสื้อคลุมอาบน้ำพาดที่ท่อนแขน
“ก้มหัว”
ยูกิชินยังมีกลิ่นเหล้าติดตัว เขาทำตามคำสั่งอีกฝ่าย
โฮชิโนะช่วยสวมเสื้อคลุมให้ มองใบหน้าที่ไม่ชอบใจของอีกฝ่าย
คิดอยู่ครู่หนึ่งถึงจะเอ่ยขึ้นอย่างเรียบเรื่อย “ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนาย
เหมือนเมื่อตอนเป็นเด็ก เท่านี้ยังไม่พออีกเหรอ?”
ยูกิชินชะงักไป ไม่ได้เงยหน้า “เหมือนตอนเป็นเด็กงั้นเหรอ”
โฮชิโนะส่งเสียงตอบรับ สง่างามนุ่มนวลดังเดิม ก่อนจะยื่นผ้าขนหนู
ให้ จากนั้นกลับไปที่ข้างเตียง
ยูกิชินอยากบอกว่า นายรู้ดีว่าฉันไม่ได้อยากได้แค่นี้ แต่ไม่ได้พูด
ประโยคนี้ออกมา
เพราะอีกเดี๋ยวก็จะได้นอนด้วยกันแล้วนี่
ในเมื่อมีช่องโหว่ให้แทรก ก็ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
อย่างมากถึงตอนนั้นก็บังคับขืนใจเสียเลย
พอคิดได้เช่นนี้ มุมปากของยูกิชินก็หยักขึ้น
ยิ้มแบบนี้เหมือนเจ้างูผู้งดงามกำลังแลบลิ้นเอามาก ๆ
แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีเสน่ห์เย้ายวนมาก ดูสวยชนิดที่แยกไม่ออกว่าเป็น
ชายหรือหญิง แต่ภายใต้สิ่งที่เจ้าตัวพยายามสร้างขึ้น กลับเรียกความ
สนใจจากอีกฝ่ายไม่ได้
ยูกิชินยิ้ม ๆ เมื่อตอนเดินออกมา ก็เห็นคนคนนั้นนอนลงบนเตียงแล้ว
เขาจึงเดินไปหาเสียเลย เริ่มจากกดข้อมืออีกฝ่ายก่อน แล้วก้มตัวลง
เล็กน้อย
ใต้เสื้อคลุมอาบน้ำคือความขาวเนียนที่เห็นได้ราง ๆ ให้สัมผัสเย็น
เมื่อได้แตะต้อง
หลายคนรู้สึกว่ายูกิชินเป็นสัตว์เลือดเย็น คงเพราะอุณหภูมิร่างกาย
ค่อนข้างต่ำ
ยูกิชินก้มตัวลง สบสายตากับโฮชิโนะ คิดจะใช้กำลังบังคับจริง ๆ
แต่ทว่า…
ตอนที่ 2197
ยูกิชินยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็โดนโฮชิโนะจับข้อมือกดลงแทน
ส่งผลให้ยูกิชินหรี่ตาลง เอ่ยช้า ๆ ว่า “ไหนบอกว่าจะรักษาสัญญา จะ
เป็นเงาของฉัน แต่กลับไม่ยอมให้ฉันแตะต้อง?”
“เมาจนไม่อยากเก็บมือไว้แล้วเหรอ?” โฮชิโนะกระซิบประโยค
เหล่านี้ข้างหูอีกฝ่าย
ยูกิชินหลุบตามอง เพราะดื่มเหล้าเมาแล้วจริง ๆ ทำให้มีแรงน้อยลง
กว่าปกติ “ทำไม? ถ้าฉันลงมือ นายจะหักมือฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”
“ไม่หรอก” โฮชิโนะมองหน้าตาสวย ๆ ที่อยู่ใกล้แค่คืบนั้นด้วยแวว
ตาปกติเหมือนเคย
คำตอบที่ว่าทำให้ยูกิชินมุดหน้ากับหมอน “งั้นก็ปล่อย ท่าทางนายคง
ประเมินอิทธิพลของนายที่มีต่อฉันต่ำเกินไป นายเล่นกระซิบข้างหู
ฉันแบบนี้ ฉันก็เกิดปฏิกิริยาสิ หึ”
เสียงหัวเราะนั่นทำให้โฮชิโนะรู้สึกอะไรได้อย่างหนึ่ง ฝ่ายนั้นไม่ได้
ล้อเล่นแต่เอาจริง
ทำให้หัวคิ้วย่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว มือก็พลอยคลายแรงลง ก่อนจะลุก
ขึ้นมา
ยูกิชินที่ถูกปล่อยก็นอนอยู่นิ่ง ๆ อย่างเกียจคร้าน ตรงหางตาเจือ
ความงามที่แสนเย็นชา “ทำไม ตกใจหรือไง?”
โฮชิโนะมองเขาแวบหนึ่ง “เริ่มตั้งแต่เมื่อไร?”
“นายไม่รู้เหรอ ฉันน่ะได้หมดทั้งชายและหญิง” ยูกิชินพูดพลางเอียง
คอจุดบุหรี่ในมือ ตอนเขาสูบบุหรี่ช่างเท่และดูร้ายกาจ
โฮชิโนะถอนสายตากลับมา กำลังจะก้าวเดิน
ทว่ายูกิชินพลันเอ่ยขึ้นอีก “จะตัดขาดฉันเหรอ หรือว่ารู้สึกขยะแขยง?”
โฮชิโนะเหลือบมอง ได้เห็นรอยยิ้มโอหังของยูกิชิน ก็นึกได้ว่าเจ้า
หมอนี่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว
เวลาเจออะไรก็เอาแต่ยิ้ม
อีกอย่างแม่ของยูกิชินมักให้เขาไปที่ตระกูลในสภาพหน้าตาเขียวช้ำ
อยู่บ่อย ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนเป็นพ่อ
ยูกิชินตอนเด็กมีหน้าตาเหมือนตุ๊กตาฝรั่ง สามารถใช้ประโยชน์จาก
บรรยากาศรอบด้าน และไม่เคยให้คนอื่นมองออกว่าเขาร้องไห้มา
ก่อน
ว่ากันว่าเด็กที่ถูกแม่แท้ ๆ เอามาใช้เป็นเครื่องมือมักจะไม่ชอบพูด
ทว่ายูกิชินต่างออกไป รอยยิ้มไม่เคยหายไปจากริมฝีปาก
ใครก็ตามที่รังแกเขา เขาย่อมเอาคืนหมด แค่จำต้องรอไปก่อน
เพราะก็แบบนี้เอง ถึงทำให้เขาเดินมาถึงในวันนี้ได้
นอกจากนั้น ยูกิชินตอนเด็กก็ไม่ชอบอะไรโฮชิโนะด้วย
โฮชิโนะสัมผัสได้ว่า ถึงแม้ยูกิชินจะยิ้มให้เมื่อเห็นเขา แต่นัยน์ตา
กลับไร้ความอ่อนโยน
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ ทั้งสองคนก็ไม่ใช่พวกฉีกหน้ากากที่สวมไว้
ออก
ความบริสุทธ์ิในวัยเด็กเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลจากพวกเขา
มาก
พูดจากในมุมมองหนึ่ง แม้ว่าตอนนั้นพวกเขาจะไม่ยินยอมอีกเท่าไร
แต่ก็อยู่เป็นเพื่อนซึ่งกันและกัน
ในเดือนแรก พวกเขาเหมือนเด็กที่รู้ความเอามาก ๆ
เมื่อยูกิชินเห็นโฮชิโนะเป็นต้องเรียก ‘โฮชิโนะ พวกเราไปซ้อมฟัน
ดาบกันเถอะ ต้องสนุกแน่ ๆ ’
ต่อมาทั้งสองต่างก็ยืนยันแน่ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามไม่บริสุทธ์ิใจนัก
โฮชิโนะเห็นอีกฝ่ายก็ไม่ทักทาย ยูกิชินก็เช่นกัน
จนเมื่อมาถึงเดือนที่สี่ พวกเขายังคงอยู่ด้วยกัน แต่มักทะเลาะกันด้วย
วิธีอย่างเด็ก ๆ
และด้วยเหตุที่โฮชิโนะเห็นแม่ของยูกิชินตีเขา ยูกิชินก็เลยข่มขู่เขาว่า
‘ถ้านายพูดเรื่องนี้ออกไป ไม่มีใครได้สงบสุขแน่’
ตอนที่ยูกิชินพูด มุมปากยังคงยกยิ้มเหมือนในเวลานี้
ทว่ามือที่กดเขาไว้กลับสั่นเทา นัยน์ตาเหมือนมีคลื่นน้ำวน
เวลานั้นโฮชิโนะรู้ทันทีว่า คนคนนี้เหมือนแมวที่ถูกทอดทิ้ง มีความ
รู้สึกไม่ปลอดภัยอันแรงกล้าอยู่
ตอนที่ 2194
ความสัมพันธ์คลุมเครือ
โฮชิโนะนั่นเอง
เขาสวมเชิ้ตตัวยาวสีขาว ใส่เสื้อสเวตเตอร์ที่มักใช้ในฤดูใบไม้ผลิทับ
ไว้ด้านนอก แถมยังอุ้มแมวมาด้วยตัวหนึ่ง หากมองดูจากไกล ๆ จะ
รู้สึกเหมือนว่าเขาเดินออกมาจากการ์ตูน ยากที่จะมองเมินผ่านไป
บอดี้การ์ดที่ไนต์คลับเผยสีหน้าเหมือนมีคนมาช่วยแล้ว
ส่วนยูกิชินกลับหางตากระตุก เรียวปากบางเอ่ยอย่างค่อยไม่ใส่ใจ
“ฉันยังอยากดื่มอยู่ ยังไม่กลับไป”
โฮชิโนะยัดแมวใส่อ้อมกอดอีกฝ่าย ยังสุภาพเหมือนเดิม “ไม่ได้ให้
นายกลับ แต่ตัวเองเลี้ยงแมวไว้ ไม่คิดจะป้อนอาหารให้มันเหรอ?”
“มันไม่อดตายหรอกน่ะ” ยูกิชินอุ้มแมวด้วยมือข้างเดียว เห็นหญิง
สาวคนเมื่อกี้กำลังจับจ้องใบหน้าของโฮชิโนะ ก็หลุดหัวเราะทันที
“ทำไม? ไม่อยากพาฉันออกไปตอนนี้ แต่อยากพาเขาไปแทนเหรอ?”
หญิงสาวถูกรู้เท่ากัน หน้าแดงแปร๊ดขึ้นทันที
ยูกิชินคร้านจะดูต่อไป หันไปมองเหล่าบอดี้การ์ดแวบหนึ่ง
ไม่นานก็มีคนเข้ามาจัดการ
ไม่ได้ทำอะไรเธอ แต่สาวสวยคนนี้ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่อีกต่อไป
แม้ว่าเสียงดนตรีจะอึกทึก แต่กลับไม่ส่งผลกระทบกับบุคลิกของชาย
หนุ่มทั้งสอง
ยูกิชินหิ้วแมวขึ้นมาสบตาตัวเอง ก่อนจะส่งเสียงขึ้นจมูก “เจ้านายแก
ไม่มีเวลาดูแลแก ถ้าไม่อยากอดตายก็ไปหากินเองไป”
เขาอารมณ์ไม่ดี ขนาดแมวก็ยังไม่คิดจะดูแล กลิ่นเหล้าคลุ้งตัวไปหมด
“คุณชายโฮชิโนะ…” บอดี้การ์ดอยากพูดแต่หยุดเอาไว้
โฮชิโนะหันไปมอง “ไปเปิดห้องเถอะ”
“ครับ!” บอดี้การ์ดคิดว่าบอสอยู่ในสภาพนี้ ก็น่าจะไปนอนจริง ๆ
ไม่งั้นจะมีพวกไม่กลัวตายดาหน้าเข้ามาอีก วันนี้ซวยกันจริง ๆ
ยูกิชินหัวเราะ ไม่แสดงความเห็น แต่ก็ไม่ให้ความร่วมมือ
เขานั่งอยู่กับที่ เลือกเหล้าแรง ๆ มาเทลงในแก้วไวน์ทรงสูง
ทว่าโฮชิโนะเอาแก้วนั้นมาดื่มเองหลังจากที่อีกฝ่ายรินเสร็จ ทำให้ยูกิ
ชินหรี่ตาลงและรินอีกแก้ว
“ไปนะ” โฮชิโนะเอ่ยเสียงเรียบ “ตามหานายจนง่วงไปหมด ถ้าดื่ม
อีกจะง่วงกว่าเดิม”
ยูกิชินช้อนตามอง พลันหัวเราะขึ้นมา “นายเป็นแบบนี้ มิน่าล่ะยัยนั่น
ถึงอยากได้นายไปด้วย น่าเสียดายที่เจ้าหล่อนไม่รู้ว่าโฮชิโนะของ
พวกเราไม่เคยเห็นใครในสายตา ยกเว้น Z”
โฮชิโนะมองอีกฝ่าย ใบหน้าของยูกิชินมีกลิ่นเหล้า หางตาแดงเรื่อ
และเย็นชามาก
“เพราะเรื่องนี้เหรอนายถึงได้…?” โฮชิโนะเหมือนจะขมวดคิ้ว ไม่
นานก็คลายออก เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังบอกเล่าเรื่องจริง
ทั่วไป “นอกจาก Z แล้ว ก็ยังมีนายนี่”
ยูกิชินอยากจะโพล่งออกมา แต่กลับหยุดชะงัก
เขายังไม่สร่างเหล้า ทว่าไม่กระทบต่อการใช้ความคิด
เขารู้ดีว่าโฮชิโนะเห็นเขาเป็นคนในครอบครัว
ทว่านี่แหละเป็นสิ่งที่ยูกิชินไม่เข้าใจที่สุด
ทั้งที่เขาเป็นคนรู้จักโฮชิโนะเป็นคนแรก
หากไม่เกิดปัญหาขึ้น แล้วเขาไม่ได้ไปอยู่ข้างกายโฮชิโนะในทันที
Z จะมีโอกาสนั้นได้ยังไง
ทว่าแม้จะเป็นในตอนนี้ โฮชิโนะก็ยังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตระกูล
ป๋ อ ทั้งยังเต็มใจอีกด้วย
แม้ว่า Z จะยกเลิกคำสัญญาที่ว่านั่นไปแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมยกเลิก
นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ยูกิชินจนปัญญามากที่สุด แต่ตอนนี้ไม่
เหมือนเดิมอีกต่อไป
Z มีฉินมั่วอยู่ด้วย ก็ตัดความคิดของโฮชิโนะไปนานแล้วเช่นกัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเขาจะร้อนรนไปทำไม
ยูกิชินหลุบตาลง หัวเราะนิดหน่อย “ฉันคิดว่านายลืมในสิ่งที่ตัวเอง
เคยพูดไปแล้ว”
“ไม่หรอก” ออร่าของโฮชิโนะยังคงไม่เปลี่ยน
ยูกิชินเข้าใกล้อีกฝ่ายเล็กน้อย “งั้นก็ทำตามที่นายสัญญาไว้ตอนมาที่
บ้านฉัน อยู่กับฉันตลอดเหมือนเป็นเงาตามตัว”
ตอนที่ 2195
ความสัมพันธ์คลุมเครือ
“ฉันไม่เคยคิดจะผิดสัญญากับใคร” โฮชิโนะยังอารมณ์สงบนิ่ง
เหมือนเดิม กระทั่งเสียงยังเรียบมาก “ในเมื่อดื่มเสร็จแล้วก็ไปนอน
ซะ”
ยูกิชินหัวเราะช้า ๆ ดูหล่อเหลาเหลือเกิน “คู่นอนฉันถูกนายล่อไป
แล้ว จะนอนยังไงอีก? นายไม่รู้เหรอว่าถ้าไม่มีเพื่อนนอนด้วย ฉันจะ
หนาวมาก”
“ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง” โฮชิโนะก้มลงอุ้มแมวขึ้นมาจากพื้น
แล้วส่งเข้าสู่อ้อมกอดอีกฝ่ายใหม่ นัยน์ตาดำขลับเหมือนหมึก
ยูกิชินชะงักทันที ก่อนจะหันไปเหมือนจะยิ้มให้ “ก็ได้”
แม้จะรู้ว่าเจ้านั่นพูดว่าอยู่เป็นเพื่อนก็คืออยู่เป็นเพื่อนจริง ๆ
ยูกิชินก็ไม่อยากพลาดโอกาสดังกล่าว
นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้นอนห้องเดียวกันตอนกลางคืน
ตอนที่อยู่ศูนย์ฝึกไม่นับ เพราะมีคนมากมาย
ตอนเด็ก ๆ เขาสองคนนอนด้วยกันบ่อย ๆ ต่อมาเจ้านั่นถึงค่อยห่าง
เหินจากเขา
นัยน์ตาของยูกิชินขรึมลง พยายามไม่ให้ตัวเองคิดเรื่องเหล่านี้
ห้องนอนอยู่ในส่วนลึกสุดของไนต์คลับ
ไนต์คลับที่มีขนาดใหญ่มักจะมีห้อง VIP ให้นอนค้าง
ทว่าห้องแบบนี้มีเพียงสี่ห้าห้อง ซึ่งปกติแล้วจะเก็บให้แขก VIP พัก
เท่านั้น
บอสกับคุณชายโฮชิโนะต่างมาที่นี่ ตอนแรกกะจะเตรียมไว้สองห้อง
ตอนนี้บอดี้การ์ดได้ยินคำพูดของทั้งสองแล้วตัดสินใจจัดไว้ให้เพียง
ห้องเดียว
หลังจากที่ยูกิชินดื่มจนเมา ร่างกายก็เริ่มมีปฏิกิริยาหนักขึ้น
ทว่าเขาดื่มเยอะมากไปหน่อย หลังจากเปิดห้องก็เข้าห้องน้ำไป ไม่
นานก็มีเสียงอาเจียนดังตามมา
พอจะเห็นได้ว่าคนเมาท่าทางจะไม่สบายตัวนัก
เกิดอะไรขึ้นครั้งนี้?
เพราะญาติที่คิดจะแย่งอำนาจพวกนั้นหรือ
ดูท่าคงได้เวลาที่จะจัดการคนของคุโรโฮมุระแล้ว
โฮชิโนะยืนอยู่ข้างหน้าต่างบานยาวระพื้น ต่อสายเข้าเบอร์ภายใน
“ให้คนไปต้มซุปแก้เมากับเคี่ยวโจ๊กไว้ แล้วเอาขึ้นมาที”
“ครับ คุณชายโฮชิโนะ” นี่ถือเป็นวันที่สงบสุขที่สุดในช่วงหลายวัน
ที่ผ่านมา
ทุกวันในเวลาแบบนี้ จะต้องมีคนอยู่ค้างคืนกับเจ้านาย
พวกเขาจำไม่ได้ว่ามีกี่คนแล้วที่ต้องเดินออกไปด้วยใบหน้าซีดเผือด
โชคดีที่วันนี้มีคุณชายโฮชิโนะอยู่ด้วย
“บอสเหมือนจะเชื่อฟังคุณชายโฮชิโนะมากเลยเนอะ สองคนนี้บารมี
เจิดจ้ามาก”
“ใช่ ไม่ดูบ้างว่าคนเขาเป็นใคร บอสเชื่อฟังคุณชายโฮชิโนะจะตาย
เพราะสองคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว”
“รู้จักกันตั้งแต่เด็ก?”
“อื้อ ฉันเคยได้ยินคนที่บ้านใหญ่พูดกัน ตอนเด็ก ๆ บอสสนิทกับ
คุณชายโฮชิโนะมาก สองคนนี้ไม่เหมือนเด็กทั่วไป ชอบนั่งอ่าน
หนังสือด้วยกันใต้ต้นไม้ ฟันดาบยิงปืนอะไรทำนองนี้ก็เรียนด้วยกัน”
“ตอนนั้นสองคนนี้ก็เป็นแบบนี้หรือเปล่า”
“บอสไม่เคยเปลี่ยน แต่คุณชายโฮชิโนะหายไปช่วงหนึ่งเพราะทาง
บ้านเกิดเรื่องขึ้น เหมือนจะไม่ได้พบกันช่วงหนึ่ง แต่พอกลับมาอีกที
หนึ่งก็ไม่สนิทกับบอสแล้ว มีคนบอกว่าเพราะเขาโตขึ้น แถม…”
คำนินทาเหล่านี้ โฮชิโนะย่อมไม่ได้ยิน เพียงแต่เห็นว่านานแล้วที่ไม่
มีเสียงใดดังออกจากในห้องน้ำ เขาจึงหลุบตาดูซุปแก้เมาและโจ๊กที่
เคี่ยวมาเป็นอย่างดี
ผ่านไปอีกสามนาที ก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไร
เขาจึงเดินเขาไปดู
เมื่อเปิดประตูก็พบว่าควันร้อนกระจายทั่วห้องน้ำไปหมด
เขาเลิกมู่ลี่ไม้ออกทันที และเห็นคนนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ น่าจะหลับ
ไปแล้ว ดวงตาปิดสนิท กำลังพิงที่ขอบอ่าง เส้นผมลอยกลางผิวน้ำ
เหมือนผ้าไหม…ตอนที่ 2194
ความสัมพันธ์คลุมเครือ
โฮชิโนะนั่นเอง
เขาสวมเชิ้ตตัวยาวสีขาว ใส่เสื้อสเวตเตอร์ที่มักใช้ในฤดูใบไม้ผลิทับ
ไว้ด้านนอก แถมยังอุ้มแมวมาด้วยตัวหนึ่ง หากมองดูจากไกล ๆ จะ
รู้สึกเหมือนว่าเขาเดินออกมาจากการ์ตูน ยากที่จะมองเมินผ่านไป
บอดี้การ์ดที่ไนต์คลับเผยสีหน้าเหมือนมีคนมาช่วยแล้ว
ส่วนยูกิชินกลับหางตากระตุก เรียวปากบางเอ่ยอย่างค่อยไม่ใส่ใจ
“ฉันยังอยากดื่มอยู่ ยังไม่กลับไป”
โฮชิโนะยัดแมวใส่อ้อมกอดอีกฝ่าย ยังสุภาพเหมือนเดิม “ไม่ได้ให้
นายกลับ แต่ตัวเองเลี้ยงแมวไว้ ไม่คิดจะป้อนอาหารให้มันเหรอ?”
“มันไม่อดตายหรอกน่ะ” ยูกิชินอุ้มแมวด้วยมือข้างเดียว เห็นหญิง
สาวคนเมื่อกี้กำลังจับจ้องใบหน้าของโฮชิโนะ ก็หลุดหัวเราะทันที
“ทำไม? ไม่อยากพาฉันออกไปตอนนี้ แต่อยากพาเขาไปแทนเหรอ?”
หญิงสาวถูกรู้เท่ากัน หน้าแดงแปร๊ดขึ้นทันที
ยูกิชินคร้านจะดูต่อไป หันไปมองเหล่าบอดี้การ์ดแวบหนึ่ง
ไม่นานก็มีคนเข้ามาจัดการ
ไม่ได้ทำอะไรเธอ แต่สาวสวยคนนี้ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่อีกต่อไป
แม้ว่าเสียงดนตรีจะอึกทึก แต่กลับไม่ส่งผลกระทบกับบุคลิกของชาย
หนุ่มทั้งสอง
ยูกิชินหิ้วแมวขึ้นมาสบตาตัวเอง ก่อนจะส่งเสียงขึ้นจมูก “เจ้านายแก
ไม่มีเวลาดูแลแก ถ้าไม่อยากอดตายก็ไปหากินเองไป”
เขาอารมณ์ไม่ดี ขนาดแมวก็ยังไม่คิดจะดูแล กลิ่นเหล้าคลุ้งตัวไปหมด
“คุณชายโฮชิโนะ…” บอดี้การ์ดอยากพูดแต่หยุดเอาไว้
โฮชิโนะหันไปมอง “ไปเปิดห้องเถอะ”
“ครับ!” บอดี้การ์ดคิดว่าบอสอยู่ในสภาพนี้ ก็น่าจะไปนอนจริง ๆ
ไม่งั้นจะมีพวกไม่กลัวตายดาหน้าเข้ามาอีก วันนี้ซวยกันจริง ๆ
ยูกิชินหัวเราะ ไม่แสดงความเห็น แต่ก็ไม่ให้ความร่วมมือ
เขานั่งอยู่กับที่ เลือกเหล้าแรง ๆ มาเทลงในแก้วไวน์ทรงสูง
ทว่าโฮชิโนะเอาแก้วนั้นมาดื่มเองหลังจากที่อีกฝ่ายรินเสร็จ ทำให้ยูกิ
ชินหรี่ตาลงและรินอีกแก้ว
“ไปนะ” โฮชิโนะเอ่ยเสียงเรียบ “ตามหานายจนง่วงไปหมด ถ้าดื่ม
อีกจะง่วงกว่าเดิม”
ยูกิชินช้อนตามอง พลันหัวเราะขึ้นมา “นายเป็นแบบนี้ มิน่าล่ะยัยนั่น
ถึงอยากได้นายไปด้วย น่าเสียดายที่เจ้าหล่อนไม่รู้ว่าโฮชิโนะของ
พวกเราไม่เคยเห็นใครในสายตา ยกเว้น Z”
โฮชิโนะมองอีกฝ่าย ใบหน้าของยูกิชินมีกลิ่นเหล้า หางตาแดงเรื่อ
และเย็นชามาก
“เพราะเรื่องนี้เหรอนายถึงได้…?” โฮชิโนะเหมือนจะขมวดคิ้ว ไม่
นานก็คลายออก เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังบอกเล่าเรื่องจริง
ทั่วไป “นอกจาก Z แล้ว ก็ยังมีนายนี่”
ยูกิชินอยากจะโพล่งออกมา แต่กลับหยุดชะงัก
เขายังไม่สร่างเหล้า ทว่าไม่กระทบต่อการใช้ความคิด
เขารู้ดีว่าโฮชิโนะเห็นเขาเป็นคนในครอบครัว
ทว่านี่แหละเป็นสิ่งที่ยูกิชินไม่เข้าใจที่สุด
ทั้งที่เขาเป็นคนรู้จักโฮชิโนะเป็นคนแรก
หากไม่เกิดปัญหาขึ้น แล้วเขาไม่ได้ไปอยู่ข้างกายโฮชิโนะในทันที
Z จะมีโอกาสนั้นได้ยังไง
ทว่าแม้จะเป็นในตอนนี้ โฮชิโนะก็ยังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตระกูล
ป๋ อ ทั้งยังเต็มใจอีกด้วย
แม้ว่า Z จะยกเลิกคำสัญญาที่ว่านั่นไปแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมยกเลิก
นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ยูกิชินจนปัญญามากที่สุด แต่ตอนนี้ไม่
เหมือนเดิมอีกต่อไป
Z มีฉินมั่วอยู่ด้วย ก็ตัดความคิดของโฮชิโนะไปนานแล้วเช่นกัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเขาจะร้อนรนไปทำไม
ยูกิชินหลุบตาลง หัวเราะนิดหน่อย “ฉันคิดว่านายลืมในสิ่งที่ตัวเอง
เคยพูดไปแล้ว”
“ไม่หรอก” ออร่าของโฮชิโนะยังคงไม่เปลี่ยน
ยูกิชินเข้าใกล้อีกฝ่ายเล็กน้อย “งั้นก็ทำตามที่นายสัญญาไว้ตอนมาที่
บ้านฉัน อยู่กับฉันตลอดเหมือนเป็นเงาตามตัว”
ตอนที่ 2195
ความสัมพันธ์คลุมเครือ
“ฉันไม่เคยคิดจะผิดสัญญากับใคร” โฮชิโนะยังอารมณ์สงบนิ่ง
เหมือนเดิม กระทั่งเสียงยังเรียบมาก “ในเมื่อดื่มเสร็จแล้วก็ไปนอน
ซะ”
ยูกิชินหัวเราะช้า ๆ ดูหล่อเหลาเหลือเกิน “คู่นอนฉันถูกนายล่อไป
แล้ว จะนอนยังไงอีก? นายไม่รู้เหรอว่าถ้าไม่มีเพื่อนนอนด้วย ฉันจะ
หนาวมาก”
“ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง” โฮชิโนะก้มลงอุ้มแมวขึ้นมาจากพื้น
แล้วส่งเข้าสู่อ้อมกอดอีกฝ่ายใหม่ นัยน์ตาดำขลับเหมือนหมึก
ยูกิชินชะงักทันที ก่อนจะหันไปเหมือนจะยิ้มให้ “ก็ได้”
แม้จะรู้ว่าเจ้านั่นพูดว่าอยู่เป็นเพื่อนก็คืออยู่เป็นเพื่อนจริง ๆ
ยูกิชินก็ไม่อยากพลาดโอกาสดังกล่าว
นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้นอนห้องเดียวกันตอนกลางคืน
ตอนที่อยู่ศูนย์ฝึกไม่นับ เพราะมีคนมากมาย
ตอนเด็ก ๆ เขาสองคนนอนด้วยกันบ่อย ๆ ต่อมาเจ้านั่นถึงค่อยห่าง
เหินจากเขา
นัยน์ตาของยูกิชินขรึมลง พยายามไม่ให้ตัวเองคิดเรื่องเหล่านี้
ห้องนอนอยู่ในส่วนลึกสุดของไนต์คลับ
ไนต์คลับที่มีขนาดใหญ่มักจะมีห้อง VIP ให้นอนค้าง
ทว่าห้องแบบนี้มีเพียงสี่ห้าห้อง ซึ่งปกติแล้วจะเก็บให้แขก VIP พัก
เท่านั้น
บอสกับคุณชายโฮชิโนะต่างมาที่นี่ ตอนแรกกะจะเตรียมไว้สองห้อง
ตอนนี้บอดี้การ์ดได้ยินคำพูดของทั้งสองแล้วตัดสินใจจัดไว้ให้เพียง
ห้องเดียว
หลังจากที่ยูกิชินดื่มจนเมา ร่างกายก็เริ่มมีปฏิกิริยาหนักขึ้น
ทว่าเขาดื่มเยอะมากไปหน่อย หลังจากเปิดห้องก็เข้าห้องน้ำไป ไม่
นานก็มีเสียงอาเจียนดังตามมา
พอจะเห็นได้ว่าคนเมาท่าทางจะไม่สบายตัวนัก
เกิดอะไรขึ้นครั้งนี้?
เพราะญาติที่คิดจะแย่งอำนาจพวกนั้นหรือ
ดูท่าคงได้เวลาที่จะจัดการคนของคุโรโฮมุระแล้ว
โฮชิโนะยืนอยู่ข้างหน้าต่างบานยาวระพื้น ต่อสายเข้าเบอร์ภายใน
“ให้คนไปต้มซุปแก้เมากับเคี่ยวโจ๊กไว้ แล้วเอาขึ้นมาที”
“ครับ คุณชายโฮชิโนะ” นี่ถือเป็นวันที่สงบสุขที่สุดในช่วงหลายวัน
ที่ผ่านมา
ทุกวันในเวลาแบบนี้ จะต้องมีคนอยู่ค้างคืนกับเจ้านาย
พวกเขาจำไม่ได้ว่ามีกี่คนแล้วที่ต้องเดินออกไปด้วยใบหน้าซีดเผือด
โชคดีที่วันนี้มีคุณชายโฮชิโนะอยู่ด้วย
“บอสเหมือนจะเชื่อฟังคุณชายโฮชิโนะมากเลยเนอะ สองคนนี้บารมี
เจิดจ้ามาก”
“ใช่ ไม่ดูบ้างว่าคนเขาเป็นใคร บอสเชื่อฟังคุณชายโฮชิโนะจะตาย
เพราะสองคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว”
“รู้จักกันตั้งแต่เด็ก?”
“อื้อ ฉันเคยได้ยินคนที่บ้านใหญ่พูดกัน ตอนเด็ก ๆ บอสสนิทกับ
คุณชายโฮชิโนะมาก สองคนนี้ไม่เหมือนเด็กทั่วไป ชอบนั่งอ่าน
หนังสือด้วยกันใต้ต้นไม้ ฟันดาบยิงปืนอะไรทำนองนี้ก็เรียนด้วยกัน”
“ตอนนั้นสองคนนี้ก็เป็นแบบนี้หรือเปล่า”
“บอสไม่เคยเปลี่ยน แต่คุณชายโฮชิโนะหายไปช่วงหนึ่งเพราะทาง
บ้านเกิดเรื่องขึ้น เหมือนจะไม่ได้พบกันช่วงหนึ่ง แต่พอกลับมาอีกที
หนึ่งก็ไม่สนิทกับบอสแล้ว มีคนบอกว่าเพราะเขาโตขึ้น แถม…”
คำนินทาเหล่านี้ โฮชิโนะย่อมไม่ได้ยิน เพียงแต่เห็นว่านานแล้วที่ไม่
มีเสียงใดดังออกจากในห้องน้ำ เขาจึงหลุบตาดูซุปแก้เมาและโจ๊กที่
เคี่ยวมาเป็นอย่างดี
ผ่านไปอีกสามนาที ก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไร
เขาจึงเดินเขาไปดู
เมื่อเปิดประตูก็พบว่าควันร้อนกระจายทั่วห้องน้ำไปหมด
เขาเลิกมู่ลี่ไม้ออกทันที และเห็นคนนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ น่าจะหลับ
ไปแล้ว ดวงตาปิดสนิท กำลังพิงที่ขอบอ่าง เส้นผมลอยกลางผิวน้ำ
เหมือนผ้าไหม…
ตอนที่ 2192
โฮชิโนะ ยูกิชิน
ฉินมั่วมองดูคนบางคนที่ยิ้มนิด ๆ ตรงมุมปาก
หลังจากที่เข้าฐานฝึกก็หามุมหนึ่ง ดันเธอติดกำแพงแล้วจูบซ้ำ ๆ
ระหว่างที่หอบหายใจ มือของป๋ อจิ่วรัดกอดเอวชายหนุ่มไว้ ลิ้นที่
ล่วงล้ำเข้ามาหวานนิด ๆ
น่าแปลกมาก
ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้จูบกันเป็นครั้งแรก แต่ความรู้สึกวาบหวามกลับไม่เคย
ลดลงเลย
ป๋อจิ่วโค้งยิ้ม ชอบเห็นเขาตอนที่ลมหายใจไม่ปกติเป็นที่สุด อารมณ์
ที่ปรากฏตรงหางตาของชายหนุ่ม มีเธอเพียงคนเดียวที่ได้รับมัน
น่าเสียดาย ไม่รู้ว่าทำไมยาที่เธอได้จากเพื่อนคนดำเมื่อครั้งก่อนกลับ
ใช้ไม่ได้ผลกับเขาเลย
ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ลิ้มรสความงามที่ยิ่งมากกว่านี้
ป๋อจิ่วคิดแล้วยิ่งแนบชิดเข้าไป
และกริยานี้ก็ทำให้ฉินมั่วจูบลึกล้ำมากขึ้น ราวกับจะดึงเอาสติทั้งหมด
ของเธอออกไปได้ กระทั่งความคิดยังขาวโพลน
จนทำให้เธอไร้เรี่ยวแรงไปหมด ตอนที่ได้แต่ซบเขารอให้ลมหายใจ
กลับคืนเป็นปกติ เขาก็ปล่อยเธอ
โดยยังอิงเธอไว้ กระซิบกระซาบกันที่มุมนั้น
จากนั้นจึงพูดขึ้นหลังจากจัดแจงเสื้อผ้าเธอให้เรียบร้อย “ฉันชื่นชมที่
เธอรักษาสถานภาพแต่งงานของพวกเรา ปกป้องต่อไปเรื่อย ๆ ละ”
เรียวปากของป๋ อจิ่วยังคงชา ๆ อยู่ ไม่ได้สังเกตจริงจังว่าฉินมั่วพูด
อะไร จูบกันนานเกินไปก็มีปัญหานี้ พอได้สัมผัสก็รู้สึกหวามไหว
ทันที
ทั้งสองไม่ได้ใกล้ชิดในสถานที่สาธารณะอีก
ทว่ายังมีจูบกันบ้างบางครั้ง แต่ไม่ได้ขัดขวางการแสดงความหวาน
ของทั้งสอง
อีกอย่างคนทั้งทีมต่างเร่งพยายามพัฒนาฝีมือให้ตัวเองในช่วงเวลาที่
เหลืออย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกาย การรับความกดดัน อีกทั้งฝีมือการเล่น
ความคิดและความเร็วมือของพวกเขา
ในฐานะที่เป็นนักเวทเลนกลาง ลั่วลั่วได้พิสูจน์แล้วว่าตัวเองไม่ได้
ขยับมือช้าลง
ใคร ๆ ต่างก็มีปัญหาที่ตัวเองต้องเอาชนะให้ได้
ขนาดเฮียเย่าก็กำลังคิดว่าจะเหนือกว่าตัวเองในตอนนี้อย่างไร ไม่ใช่
ว่าไม่ได้เข้าสู่ช่วงคอขวดเลย
ฉินมั่วเอาข้อมูลในอดีตและวิธีการเล่นของแต่ละทีมในการแข่งขัน
ชิงแชมป์โลกมาวิเคราะห์
เวลานั้นพวกเขาถึงจะนับว่าอยู่ในสภาพซ้อมหนักเพื่อเตรียมแข่ง
อย่างแท้จริง
ทั้งยังตระหนักอย่างชัดเจนว่า ต่อไปพวกตนจะพาอีสปอร์ตไปสู่
สายตาชาวโลก
ทีมที่ทุกประเทศส่งเข้าร่วมแข่งล้วนเป็นทีมแกร่งกันทั้งนั้น
พวกเขาทำได้เพียงซ้อมให้ดี เตรียมตัวให้พร้อม
สำหรับด้านอื่น พวกเขาก็ถือเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อมาถึงสนามแข่ง พวกเขาจะไม่ได้มีเพียงฝีมือระดับตอนนี้แน่นอน
นอกจากพวกเขาแล้ว ทีมอาทิตย์อุทัยก็เตรียมลงแข่งในฐานะตัวแทน
ประเทศเช่นกัน
สมาชิกที่ลงแข่งจะขาดยูกิชินและโฮชิโนะไปได้อย่างไร
ทว่าในช่วงนี้ ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หัวหน้าเหมือนจะมีเรื่องกับรองหัวหน้า ปกติหัวหน้าเป็นคนพูดน้อย
อยู่แล้ว ยิ่งเวลาที่เล่นเกม เขาแทบจะไม่ยอมพูดสักคำ
ส่วนรองหัวหน้าก็ยังใช้เวลานอนมากกว่าเวลาตื่นเหมือนเดิม
ทว่าสภาพของหัวหน้าก็ยังผิดปกติ
แม้ว่าหัวหน้าจะมีใบหน้าสวยมาก แต่ความร้ายกาจจากเนื้อแท้นั้นทำ
ให้คนมากมายอยากเตือนก็ไม่รู้จะเตือนยังไง
แถมตอนแรก ทางญี่ปุ่นเองก็ไม่อยากให้หัวหน้านำทีมด้วยซ้ำ
หากไม่ใช่เพราะรองหัวหน้าไปท้าสู้จนชนะมา พวกนั้นย่อมไม่ยอม
แน่นอน
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้หัวหน้าก็ยังดูเย็นชามาก
เหมือนจะเป็นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่ไปร่วมงานแต่งงานของแบล็ก
พีช Z
แปลกจริง
แบล็กพีช Z ก็แต่งงานไปแล้ว หัวหน้าน่าจะดีใจมากที่สุดสิ แบบนี้
จะได้ไม่มีใครแย่งรองหัวหน้าไปจากเขาอีก
แต่ทำไมหัวหน้ากลับทำเหมือนห่างเหินหนักกว่าเดิม เหมือนกับ
โดนใครปฏิเสธมาอย่างสิ้นเชิงอย่างนั้น…
ตอนที่ 2193
โฮชิโนะยูกิชินไปมาหาสู่
ที่ญี่ปุ่น พวกมาเฟียได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมตัวเองได้อย่างถูกต้อง
ตามกฎหมาย
ยูกิชินเป็นผู้นำรุ่นที่ 19
งานอดิเรกในยามปกติ นอกจากชอบเล่นเกมแล้วก็ขับรถและดื่มเหล้า
อีกทั้งเป็นที่รู้กันเกือบหมดที่นี่
ยูกิชินคนนี้อย่าไปมีเรื่องด้วยเป็นดีที่สุด
เพราะเขาเป็นสัตว์ประเภทงู แลบลิ้นงูได้
อย่าเห็นว่าหน้าตาเขาสวยแล้วจะเป็นไอ้หนุ่มหน้าอ่อนจริง ๆ
หลายคนโดนเล่นงานอย่างไรก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
เห็นไหมล่ะ มีคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจะพาตัวเขาออกไปจากไนต์คลับ
อีกแล้ว
วันนี้ยูกิชินดื่มเยอะมากจริง ๆ
เขาสวมเสื้อพื้นเมืองของญี่ปุ่น แถมด้วยเส้นผมยาว ทำให้ยากจะมอง
ออกว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่
แต่ว่าเมื่อได้เห็นดวงตาของเขา จะรู้ว่าไร้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็น
ผู้หญิง
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ยังมีคนที่ลุ่มหลงโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ
“ไปกับพี่ไหมจ๊ะ พี่มีเหล้าเยอะแยะเลย?”
คนพูดเห็นคนหน้าสวยเมาแล้วย่อมอยากจะฉวยโอกาสพาไป
ไม่คิดว่ามือจะยังไม่โดนไหล่คนสวยเลย ก็ได้ยินเสียง ‘กร๊อบ’ ข้อมือ
เขาถูกหักอย่างแรง
ตอนความเจ็บปวดลามเข้ามา ก็ได้แต่ร้องโอดโอย
ยูกิชินหัวเราะหยันพลางผลักอีกฝ่ายออกไปแล้วก้มมองจากด้านบน
เรียวปากบางพ่นคำพูดออกมาเพียงว่า “ไปซะ”
ชายคนนั้นได้ยินแล้วตกใจจนหน้าแทบถอดสี
ยูกิชินเสยเส้นผมดำขลับไปด้านหลังแล้วหันไปมองอีกทาง
ฝั่งบอดี้การ์ดรีบหยิบเหล้าขวดใหม่มาให้
เขากลัวเหลือเกินว่าบอสจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่
ทำไมลูกน้องคนอื่นถึงไม่เข้ามาข้างใน คงจะได้รับคำสั่งให้ยืนเฝ้า
รอบ ๆ
แล้วคุณชายโฮชินโนะล่ะ ทำไมไม่มา?
ขอแค่เขามา ทุกอย่างถึงจะสงบลงได้อย่างแท้จริง
ไม่งั้นไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่คนที่ต้องโดนหักมือในคืนนี้
“นายพูดมาซิว่าฉันไม่ดีตรงไหน?”
ยูกิชินโพล่งออกมา ท่าทางไม่เหมือนอยู่ในสภาวะปกติ หลังจากเมา
แล้วก็พูดงึมงำ
ใบหน้าไม่ได้โอหังอีก ทว่ายังคงหล่อเหลาดุดัน
แต่การจะให้ลูกน้องอย่างเขาบอกว่าบอสตัวเองไม่ดีตรงไหน ถือเป็น
คำถามคอขาดบาดตายเลยทีเดียว
“ไม่ตอบ?” ยูกิชินส่งเสียงขึ้นจมูก หลังจากยืนขึ้นก็หันไปมองสาว
สวยที่กำลังเต้นรำเย้ายวน แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
ที่นี่คือสถานที่อะไร?
ที่นี่เป็นสถานบันเทิง
สาวสวยคนนั้นเห็นเข้าก็เดินเข้ามาหา
ยูกิชินเชยคางเจ้าหล่อนขึ้น เหมือนกำลังหัวเราะ เขาเป็นคนที่ได้ทั้ง
ผู้ชายและผู้หญิงจริง ๆ
“เธอว่าฉันไม่ดีที่ตรงไหน?”
หล่อ หล่อมากจนทำให้คนหายใจติดขัด
ทำไมถึงมีคนแบบนี้ด้วย ทั้งที่ผมยาวกว่าเธออีก แต่กลับเย้ายวนน่า
หลงใหลเหลือเกิน
สาวสวยคนนั้นโน้มเข้าใกล้ อยากจะจูบเขา แต่กลับโดนผลักให้ถอย
ห่าง ยูกิชินส่ายนิ้ว “อันนี้ไม่ได้”
ทำไม?
สาวสวยไม่รู้สึกว่าผู้ชายอย่างนี้จะชอบผู้ชายด้วยกัน
เมื่อครู่ผู้ชายคนนั้นช่างไม่มีตาเอาเสียเลย
ทั้งที่แค่เห็นดวงตาเหมือนหมาป่ าของชายคนนี้ ก็รู้ได้แล้วว่าเขาไม่
ยอมสยบให้ใครแน่
เขามีแรงดึงดูดอย่างร้ายกาจกับผู้หญิง โดยเฉพาะเหมือนในเวลานี้ที่
เริ่มดึงคอเสื้อตัวเอง
“ร้อนมากเหรอคะ? ฉันช่วยลดความร้อนให้ได้นะ ดื่มไปเยอะขนาด
นี้ ต้องหงุดหงิดแน่เลย รถของฉันอยู่ด้านนอกน่ะค่ะ”
ยูกิชินพลันหัวเราะขึ้นมาหลังจากที่ได้ยิน ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป
ก็เห็นคนคนหนึ่งเดินเข้ามา
บุคลิกของคนคนนั้นไม่เข้ากับที่นี่ แต่กลับเข้าออกสถานที่ประเภทนี้
เป็นประจำ…
ตอนที่ 2190
ฉินมั่วนั่งสงบนิ่ง ออร่าความสูงส่งบนตัวไม่ลดลงเลย เหมือนจะมอง
พวกเขาทะลุปรุโปร่ง เอ่ยอย่างเป็นเรื่องธรรมดาว่า “ฉันส่งข้อมูลของ
ทุกคนให้คณะกรรมการแล้ว ถ้าคิดจะถอนตัวตอนนี้ ก็น่าจะมีความผิด
เรื่องทรยศบ้านเกิดเมืองนอน”
“ทรยศบ้านเกิดเมืองนอน!” จ้าวซานพั่งถลึงตามองอีกฝ่าย “ฉินเจ้า
แผนการ ฉันไม่รู้มาก่อนว่านายชอบเอามโนธรรมมาบังคับคนอื่น”
ฉินมั่วไม่สะทกสะท้าน “ตอนนี้นายรู้แล้วใช่ไหม?”
จ้าวซานพั่งส่ายหน้า “ด้านมาก ด้านจริง ๆ”
ฉินมั่วมองอีกฝ่าย พลันผุดรอยยิ้มขึ้นมา ทว่าเฉยชามาก “ท่าทางเทพ
อ้วนคงอยากชิมรสชาติของน้ำมะระแล้ว”
เล่นเอาจ้าวซานพั่งตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยิน และไม่พูดอะไรอีก!
หลังจากนั้นอีกนาน
เมื่อมีคนเบื้องบนมาดูตัวนักกีฬาทีมชาติ ต่างก็ถามว่าเมื่อก่อนพวก
เธออยู่คนละทีม แถมเป็นมือหนึ่งมือสองกันทั้งนั้น ฉินมั่วใช้วิธีไหน
กันแน่ถึงทำให้พวกเธอสมัครสมานสามัคคีกันได้
จ้าวซานพั่งตอบเพียงว่า “ใช้ความหน้าด้าน”
กระทั่งปิดตายทางหนีของพวกเขาด้วยซ้ำ
เรือโจร เรือโจรลำใหญ่ชัด ๆ
สำหรับเหล่านักกีฬาอีสปอร์ตแล้วย่อมไม่ค่อยชินกับการตื่นเช้า
ฝั่งจ้าวซานพั่งแค่ดูก็รู้แล้ว ต้องใช้พลังทั้งหมดถึงจะลุกขึ้นมาได้
ส่วนนายน้อยแห่งโลกแฮกเกอร์ป๋อจิ่วฉลาดกว่ามาก นั่งหลับคา
คอมพิวเตอร์ไปเลย
เธอสวมหูฟังสีดำ เอาเสื้อทีมมาคลุมศีรษะบังใบหน้าจนมิด เหลือ
เพียงสองตาที่เหมือนดวงดาว เส้นผมสั้นสีเงินปรกตัวลงมา
หากมองจากที่ไกล ๆ ก็ยังหล่อมาก
แต่หากอยู่ใกล้ ๆ จะเห็นเธอสัปหงกแล้วสัปหงกอีก
เสี้ยวหน้าขาวนวลดูเท่อยู่บ้าง และเหมือนแมวเหมียวกำลังงีบอยู่
ฉินมั่วเดินไปหา ละมือข้างหนึ่งไปเคาะหน้าผากเธอ
ป๋ อจิ่วสะดุ้ง ลืมตาในทันใด ความง่วงงุนยังหลงเหลืออยู่ในดวงตา
เห็นได้ชัดว่ายังไม่ตื่นดี
คิดว่าที่นี่คือปราสาทที่ต่างประเทศ จึงยื่นมือไปโอบเอวชายหนุ่ม
อย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะหยอกล้อเหมือนที่ทำในทุกเช้า
ฉินมั่วรับรู้ได้ถึงความคิดของเธอ มุมปากปรากฏรอยยิ้ม เพื่อไม่ให้
อีกฝ่ายเจ้าชู้จนลืมไปว่าอยู่ที่ไหน จึงละมือข้างหนึ่งมาประคองร่าง
เธอ ก่อนจะก้มลง “มิสซิสฉิน ตื่นเถอะ แล้วดูว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เธอ
อยากกระโดดกบกับเทพอ้วนหรืออยากได้น้ำมะระ?”
กระโดดกบ น้ำมะระ
สองคำนี้เหมือนเป็นเวทมนต์
เดิมป๋อจิ่วคิดว่าเธออุตส่าห์จบมัธยมปลายมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้อง
ออกกำลังกายด้วยการกระโดดกบอีก
การเอามือไพล่หลังแล้วกระโดดกบ มันน่าอายจะตายไป
ไม่คิดว่าคนที่แต่งงานแล้วอย่างเธอยังต้องกลับมาสัมผัสชีวิตที่คุ้นเคย
เช่นนี้อีก
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ…การกระโดดกบไม่ได้ทำในตัวตึก แต่ต้องออกไป
ทำที่ลานนอกตึกซึ่งก็เป็นเขตธุรกิจ
คนเป็นแถวกระโดดกบอยู่ตรงนั้น แถมยังสวมเสื้อทีมอีก แบบนี้
ดึงดูดสายตาคนมาก
ตอนแรกต่อให้ขายหน้าก็แค่ขายหน้าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเท่านั้น
ต่อมาพวกแฟนคลับต่างมาจับจ้องพวกเธอ มาที่ตึกทุกวันเพื่อดูว่า
วันนี้จะมีใครที่ตื่นสายต้องกระโดดกบบ้าง
ต่อให้เป็นจ้าวซานพั่งหรือป๋ อจิ่วที่ผิวหน้าหนา ก็ยังต้องการรักษา
ภาพลักษณ์ของตัวเอง
ภาพป๋ อจิ่วงับอมยิ้มพร้อมกับกระโดดกบด้วยผมยุ่ง ๆ เมื่อครั้งที่แล้ว
ยังกระจายอยู่ทั่วโลกออนไลน์จนถึงตอนนี้
เรื่องน่าอายแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกไม่ได้เด็ดขาด!
ตอนที่ 2191
กระโดดกบโชว์หวาน
แต่ทว่า การจะเอาชนะตัวเองให้ตื่นเช้าได้ช่างยากเย็นเป็นหนักหนา
วันต่อมา ป๋ อจิ่วก็ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้ถูกลงโทษ
นอกจากเธอแล้วยังมีหลินเฟิงและจ้าวซานพั่งด้วย
เรื่องการกระโดดกบ ทุกคนลองคิดถึงสภาพของจ้าวซานพั่งดูว่าเขา
จะกระโดดเป็นอย่างไร
และฉินเจ้าแผนการก็ไม่อนุญาตให้พวกเขาสวมหน้ากากปิดปากอีก
ต่างหาก!
จ้าวซานพั่งหอบหายใจหนัก พูดกับป๋ อจิ่ว “เจ้าแบล็ก ฉันไม่ใช่คนที่
ชอบยุแยงตะแคงรั่วจริง ๆ นะ นายเป็นเมียเจ้าฉินจอมแผนการแล้ว
แต่เขายังลงโทษนายอย่างนี้ ถ้าเป็นฉันล่ะก็มีหวังหย่าไปนานแล้ว!”
ป๋ อจิ่วงับอมยิ้ม กลิ่นอายรอบตัวเย็นลง มือทั้งสองไพล่ไว้ที่ท้ายทอย
กระโดดเอา ๆ ๆ เส้นผมสีเงินสั่นไหวไปตามจังหวะที่กระโดด เท่
จนสาว ๆ ด้านข้างต่างยกมือถือถ่ายรูปอยู่ตลอด แถมยังหน้าแดง
หัวใจเหมือนโดนอ่อยจนทนไม่ไหว พี่แบล็กของพวกเธอช่างเท่
เหลือเกิน อยากเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านจัง!
แต่คนที่ยืนควบคุมการลงโทษอยู่คือเทพฉิน
เขาถือน้ำเขียว ๆ ไว้ในมือ ได้ยินว่าเป็นน้ำมะระที่เหล่าลูกทีมได้ยิน
ชื่อแล้วต่างยอมสยบให้เขาในทันที
เขาช่างเหมือนจอมปีศาจเสียจริง ๆ การจะแย่งคนมาจากมือเขาก็ยาก
มาก
ป๋อจิ่วกระโดดกบเสร็จก่อนเพื่อน
จ้าวซานพั่งมองอยู่ด้านหลัง บ่นว่า “เจ้าแบล็ก ทำไมนายถึงเร็วอย่าง
นี้?”
“ก็คนมีประสบการณ์” ป๋อจิ่วเช็ดเหงื่อ มุมปากยิ้มร้าย “เคยโดนลงโทษ
บ่อยเมื่อตอนอยู่ ม.ปลาย แค่กระโดดกบยี่สิบกว่าครั้งจะหนักหนา
อะไร ฉันกระโดดรอบสนามกีฬาได้ด้วยซ้ำ”
จ้าวซานพั่งหัวเราะ “นี่มันใช่เรื่องน่าภูมิใจอะไรหรือไง?”
“เทพอ้วน” ป๋อจิ่วรับการลงโทษเสร็จ ไม่รู้ว่าไปเอาท่อนไม้มาจาก
ไหน “ฉันไม่ชอบที่มีคนมายุให้เลิกกับพี่มั่วอย่างแรง”
จ้าวซานพั่งร้องสบถ “นายเอาไม้ไปห่าง ๆ เลยนะ ฉันกำลังกระโดด
อยู่”
“ฉันแต่งงานกับทหาร ถ้าขืนทำลายความรักของเราอีก ฉันจะให้คน
จับนายซะ” ป๋ อจิ่วพูดอย่างเป็นปกติ ไม้ที่ขวางอยู่ด้านหน้าเขายังไม่
หายไปไหน “เทพอ้วนหล่ออย่างนี้ แค่กระโดดข้ามไม้จะยากอะไร”
จ้าวซานพั่งกระโดดต่อไม่ไหวแล้ว หันไปตะโกนอย่างอดไม่ไหว
“ฉินเจ้าแผนการ มาเดี๋ยวนี้เลยนะ รีบมาจัดการคนของตัวเองเร็ว!”
ฉินมั่วได้ยินแล้วเดินเข้าไปหา สายตาจับจ้อตัวป๋อจิ่ว
เธอก็เลยฟ้อง “เขาจะให้พวกเราหย่ากัน”
ชายหนุ่มจึงถอนสายตากลับ เอ่ยเสียงเรียบว่า “กระโดดต่อไป”
จ้าวซานพั่ง ….ให้กระโดดกบก็ยังพอว่า แต่จะให้กระโดดแบบนี้อีก!
เมื่อก่อนป๋อจิ่วมีนิสัยเสียที่ชอบอวดหวานไปทั่ว
ขนาดเสี่ยวเฮยที่เป็นรถอัจฉริยะยังทนเจ้านายอย่างเธอไม่ไหว
จ้าวซานพั่งไม่รู้ข้อเสียในด้านนี้ของเธอจริง ๆ
ทุกคนต่างเห็นเด็กวัยรุ่นสุดเท่ คาดผ้าสีดำไว้บนผมสีเงิน หน้าผากขา
วนวลมีหยดเหงื่อเกาะอยู่ กำลังถือท่อนไม้มาขวางเทพอ้วนเอาไว้
อย่างนั้น
ทั้งยังไม่ลืมพูดว่า “ทุกครั้งที่ลงโทษฉัน เขาจะให้รางวัลฉัน เช่นอม
ยิ้มหรือจุ๊บแก้มอะไรทำนองนี้ ฉันก็เลยรู้สึกว่าการกระโดดกบเป็น
เรื่องไม่เลว แค่น้ำมะระรสชาติแย่ไปหน่อย แต่ถ้าเทพอ้วนยังกระโดด
ไม่เสร็จ ฉันเตรียมให้นายเพิ่มอีกหลายแก้วได้นะ”
จ้าวซานพั่ง…แม้เขาจะไม่เคยมีแฟน แต่ก็เคยเห็นคนอื่นมีความรัก
มีใครบ้างที่ยอมทำผิดให้โดนลงโทษเพื่อจะได้จูบจากแฟนหนุ่ม!
เมื่อกี้เขาไม่น่าพูดออกไปเลย
เจ้าแบล็กเวลาอยู่ต่อหน้าฉินมั่วมักจะดูเป็นเด็กดีมาก แต่แท้จริงแล้ว
ร้ายลึกทั้งนั้น!
ป๋อจิ่วพูดจบก็ไม่สนว่าเขาจะคิดอย่างไร โยนไม้ทิ้งแล้วหันไปรับ
รางวัลจากผู้ชายของตัวเอง
ไม่รู้ว่าวันนี้เขาจะปลอบใจเธออย่างไร?
ตอนที่ 2188
ภายในเวลาไม่นาน
ไอดีที่ถูกทิ้งไปแล้วส่วนหนึ่งวิ่งกระจายเต็มหน้าจอ
“ฉันอยู่ที่เจียงเฉิง รอให้เธอกลับมา”
“ฉันอยู่อานเฉิง รอให้เธอมา”
“ฉันอยู่ที่เปียนเฉิง รอให้เธอกลับมา”
“ฉันอยู่…”
เวลาสั้น ๆ แค่หนึ่งนาทีก็มีคอมเมนต์โผล่มาต่อกันเป็นพันประโยค
สามารถมองเห็นความเร็วของคอมเมนต์ที่ปรากฏได้ด้วยตาเปล่า
มีคนบอกว่านี่ต่างหากคือแฟนคลับแบล็กพีชตัวจริง
พวกคนที่วิ่งเต้นหาคนที่เหมือนกับเธอไปทั่วทุกที่ ชอบเพียงรูปลักษณ์
และความเท่ของเธอ
ดังนั้นเมื่อเห็นคนคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกันหน่อย ก็จะคิดว่าเป็น
คนในดวงใจของตัวเอง
นี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการทำให้ตัวเองมีความสุขนั้น
สำคัญที่สุด จะไปสนใจทำไมว่าคนที่ชอบเป็นใคร
ทว่าแฟนคลับแบล็กพีชตัวจริงจะปรากฏตัวในเวลาแบบนี้เท่านั้น
พวกเขามีทั้งนักเรียน คนวัยทำงาน บางคนเป็นผู้ชายที่เพิ่งจะก้าวเข้า
สู่สังคม
ทุกคนพลันหยุดนิ่ง
อารมณ์ที่ไม่เคยจางหายเอ่อล้นจากนัยน์ตา
คนกลุ่มนั้นใช้การแข่งขันนัดต่อนัดมาบอกทุกคนว่าอะไรคือการใช้
ชีวิตแบบแหวกกระแส อะไรคือความแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเจอเรื่องยาก
เมื่อเติบโตขึ้น เราจะเข้าใจว่าโลกนี้ไม่เคยมีอะไรง่าย
ทว่าเราต้องเชื่อว่ามนุษย์เราเป็นเหมือนหิ่งห้อยบนพื้นโลก ยังไม่
มอดไหม้ก็ลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง เก็บดวงดาวทั้งหมดมา
หากเหนื่อยแล้วจริง ๆ ก็ลองถามว่าความฝันในใจของเราจะกลับมา
อีกครั้งเพราะคนกลุ่มนี้ได้หรือไม่…
พอข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป แบล็กพีช T ที่เพิ่งโดนหักหน้ามายังไม่
ค่อยเชื่อ
แต่นี่ไม่ส่งผลกระทบกับการจะเกาะกระแสของแบล็กพีช Z ต่อไป
แบล็กพีช T คิดจะเกาะติดแบล็กพีช Z ไปตลอด
แต่ใช่ว่าคนทุกคนจะชอบเปลือกนอกเหมือนคนพวกนี้
แบล็กพีช T ยังไม่เข้าใจ แฟนคลับที่แท้จริงของแบล็กพีช Z ไม่สนใจ
เธอเลย ดังนั้นคราวนี้จึงไม่เกิดผลแต่อย่างใด
คนพวกนั้นรออย่างเดียว
จริงเหรอ? คนกลุ่มนั้นจะกลับมาแล้ว
เป็นเรื่องจริงเหรอ?
และในเวลาเดียวกัน
ที่ใจกลางเจียงเฉิง ภายในตึกสูงระฟ้า แต่ละคนทยอยกันเดินเข้าไป
เมื่อเสียงพรึ่บดังขึ้น ประตูฐานฝึกก็เปิ ดออก แสงสว่างลอดเข้ามา
เหราหรงนั่งยังอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ มีหูฟังคาดทับผมสีดำ พักมือ
ไว้ด้านข้าง
ส่วนฉินมั่วคลุมเสื้อทีมสีดำ ยืนหันหลังอยู่ตรงกลาง ชื่อประเทศที่อยู่
ด้านหลังเขาโลดแล่นร้อนแรง เหมือนจะสามารถได้ยินเสียงเต้นของ
หัวใจ
เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดดังขึ้น เขาหันกลับไปมอง
ในสายตามองเห็นป๋อจิ่ว เซียวจิ่ง หลินเฟิง อวิ๋นหู่ ลั่วลั่ว เฟิงซ่าง โค
โค่ หลินเฉินทาว อินอู๋เย่า จ้าวซานพั่ง
คนเหล่านี้ยังเหมือนในความทรงจำ ช่วงเวลาวัยรุ่น พลังชีวิตเต็ม
เปี่ยม
พวกเขาสวมชุดทีมแบบเดียวกัน มีตราสัญลักษณ์ของประเทศอยู่ที่
แขนเสื้อ
ทั้งหมดยืนเรียงหน้ากระดานอยู่หน้าประตู แขนเสื้อสะบัด ต่างยิ้ม
เหมือนไม่ได้ยิ้มออกมา
“มากันแล้ว” ฉินมั่วออกปาก น้ำเสียงเรียบเรื่อยราวกับทักทายเพื่อน
เก่า “งั้นก็เริ่มกันเลยเถอะ”
ประโยคสั้น ๆ นี้เหมือนจะทำให้บางอย่างสะเทือนได้
อำนาจบารมีที่มาด้วยกันยิ่งทำให้ผู้ช่วยที่อยู่ด้านหลังตะลึงงันอยู่กับ
ที่ แต่ก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร
เพราะเบื้องบนบอกมาแล้วว่าให้เขาดูแลความเป็นอยู่ของนักกีฬา
อีสปอร์ตเหล่านี้
ทว่าภาพตรงหน้าเท่เกินไปแล้ว เท่จนผู้ช่วยอดไม่ไหวยกมือถือมา
ถ่ายรูป
ได้ยินเสียงแชะ ถ่ายภาพได้สำเร็จ
ฉินมั่วยืนอยู่ด้านหน้าสุด แววตาของทุกคนที่อยู่ด้านหลังต่างเป็น
ประกาย
ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในเวยป๋ อทางการ
มีคำอธิบายประกอบว่า ‘ทีมชาติจีนตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ!’
ตอนที่ 2189
ในหัวใจของหลาย ๆ คน นี่แหละคือกลุ่มท่านเทพอย่างแท้จริง
รวบรวมนักกีฬาอีสปอร์ตที่เก่งที่สุดของทั้งจีนมาตั้งเป็นทีมชาติ
เพียงแค่เห็นรูปถ่ายและชื่อ ก็ทำให้อยากรู้กันถ้วนหน้าว่าพวกเขาจะ
เล่นให้เข้ากันได้อย่างไร เมื่อเหลืออีกเดือนก็จะได้เวลาแข่งชิงแชมป์
โลกแล้ว?
แน่นอนว่าแต่ละคนหล่อเท่มาก
จ้าวซานพั่งมั่นใจว่าตัวเองเท่ที่สุด
ทว่า!
“ฉินเจ้าแผนการ นายเข้าใจผิดหรือเปล่า ให้ฉันตื่นแปดโมงครึ่งเนี่ย
นะ?”
จ้าวซานพั่งมองดูตารางเวลาตรงหน้าแล้วเกิดความรู้สึกอยากมุดเข้า
ผ้าห่มตลอด
ส่วนฉินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “เราพิจารณาด้านสุขภาพร่างกายของทุก
คนเป็นหลัก ต่อไปต้องตื่นเวลานี้เท่านั้น”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ นายต้องล้อเล่นแน่เลย” จ้าวซานพั่งหันไปมองคนข้าง ๆ
“ลองถามพวกนี้ดูสิว่ามีกี่คนที่ตื่นไหว”
ป๋ อจิ่วยกมือขึ้นอย่างเกียจคร้าน ยิ้มร้ายกาจให้เล็กน้อย “ฉัน…ตื่นไม่
ไหว”
จ้าวซานพั่งบอก “เห็นไหม!”
ฉินมั่วกวาดสายตามอง
ป๋อจิ่วจึงเอ่ยด้วยสีหน้าขึงขัง “แต่มาคิดดูอีกที ถ้ามีคนมาปลุกฉันทุก
วันก็อาจตื่นไหว เพราะสิ่งที่เรียกให้ฉันตื่นไม่ใช่ความฝัน แต่เป็น
ความหล่อ”
จ้าวซานพั่งมุมปากกระตุก ไม่น่าหวังอะไรกับเจ้าแบล็กเลย!
เรื่องแบบนี้ยังกล้าพูดออกจากปากอีก!
“แต่เรื่องอีสปอร์ตไม่ได้วัดกันที่การตื่นเช้า” อินอู๋เย่าก็แสดงความเห็น
ว่าเรื่องนี้ต้องมีการเจรจา
ส่วนโคโค่อ้าปากหาวแสดงความคิดของตัวเอง
ฉินมั่วช้อนตาขึ้นมอง “สายสุดได้แค่เก้าโมงเช้า ฉันต้องเห็นทุกคน
อาบน้ำเสร็จแล้วกำลังกินข้าวเช้าอยู่ที่ห้องนั่งเล่น”
“ช่วงนี้ฉันลดความอ้วน ไม่กินข้าวเช้า น่าจะสายได้สักนิดนะ” จ้าว
ซานพั่งสู้เพื่อจะได้นอนนานอีกสักหน่อย
ฉินมั่วนั่งนิ่งไม่สนสิ่งใด “ได้ยินว่านายโคตรไม่ชอบกินมะระใช่ไหม
เทพอ้วน”
“ใคร ๆ ก็ไม่ชอบกินทั้งนั้นแหละ” จ้าวซานพั่งกะพริบตา “ทำไม?
ฉินเจ้าแผนการ นายคิดจะเปลี่ยนอาหารของพวกเราเหรอ?”
เวลานี้หลินเฟิงและอวิ๋นหู่เงียบสงบเป็นพิเศษ
อืม ไม่พูด เอาแต่มองดูอ้วนหล่ออันดับหนึ่งของโลกกระโดดลง
หลุมพรางเองอย่างเงียบงัน
อันที่จริงตอนแรกหลินเฟิงก็อยากพูด เขาอยากพูดเรื่องการออกกำลัง
กาย การจะให้เขาต้องวิดพื้นสี่สิบครั้งก่อนนอนนี่ เรื่องนี้เอาจริงดิ?
และในระหว่างที่เขากำลังจะเอ่ย อวิ๋นหู่ก็รั้งข้อมือเขาไว้ก่อนจะยัก
คิ้ว สื่อให้เขาลองสังเกตดูก่อน ลองพิจารณานิดหนึ่งแล้วค่อยเสนอ
ความเห็นกับหัวหน้า
ก็ได้เห็นจ้าวซานพั่งพูดขึ้นอย่างไม่กลัวตาย กระทั่งเรื่องที่ตัวเองไม่
ชอบกินมะระก็ยังยอมรับ
จ้าวซานพั่งไม่รู้หรือว่าอย่าหลุดจุดอ่อนตัวเองออกมาต่อหน้าหัวหน้า
เพราะเขาจะเอามาใช้แน่นอน หลังจากนั้น…
หลินเฟิงยังไม่ได้คิดตก ฉินมั่วก็เอ่ยอีกด้วยเสียงเนิบช้า “ไม่อยากตื่น
เช้าก็ได้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปฉันจะให้ Bey เตรียมน้ำมะระให้ทุกคน
คนละสามแก้ว ถ้าเก้าโมงยังไม่มีคนตื่นก็กินมันซะ”
สามแก้ว…น้ำมะระ?
จ้าวซานพั่งถึงกับหน้าถอดสี
ล้อเล่นน่า!
“เราจะเก็บตัวฝึกซ้อม เริ่มตั้งแต่เก้าโมงครึ่งจนถึงเที่ยง ตอนพัก
กลางวันถ้าไม่อยากวิ่งก็ได้ แต่ต้องกินน้ำมะระสามแก้วเหมือนกัน
แล้วยังมีวิดพื้นสี่สิบครั้งตอนค่ำ…” ฉินมั่วพูดมาถึงตรงนี้ก็กวาดตา
มองคนฝั่งตรงข้าม “ในฐานะที่ไปแข่งเป็นตัวแทนประเทศ เราต้อง
รักษาภาพลักษณ์ให้ดีหน่อย พวกนายว่าไง?”
พวกเขาอยากบอกว่านี่มันรังโจรชัด ๆ !
จ้าวซานพั่งกับหลินเฟิงสบตากัน ไม่รู้ว่าถอนตัวตอนนี้จะทันไหม!
ตอนที่ 2186
เมื่อดูการไลฟ์ สดจนมาถึงตอนนี้ ก็มีคนเริ่มพูดแล้ว “เลนบนเป็น
อะไร? ทำไมตอนนี้ถึงไม่มาช่วย?”
“คิดไปเองหรือเปล่านะ? แต่รู้สึกว่าเหมือนมาเล่นละครเลย”
“เมื่อกี้มีคนบอกว่าเป็นเกมระดับล่างไง เกมระดับล่างก็มีนักแสดง
ด้วยเหรอ?”
ความสงสัยของผู้ชมมีมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในเกมกลับเกิดการรุมฆ่าแล้ว ทุกคนคิดว่าร่างนั้นจะต้องตายแน่ ๆ
ทว่าเขาเหมือนคาดการณ์ตำแหน่งของคู่แข่งได้แล้ว จึงตวัดทวนยาว
แต่ไม่ได้กระโดดขึ้นไป กลับถือทวนข้ามไปยังด้านหลังของคู่แข่ง
พวกนั้น
เมื่อทวนยาวสีขาวเงินตวัดลง แขนเสื้อยาวสะบัด มังกรคำรามคม
ดาบจู่โจม ก็ฆ่าแนวหลังได้ถึงสองคนทันที!
ตัว ADC กับตัวสนับสนุนตั้งตัวไม่ติดสักนิด
ส่วนแบล็กพีช T ที่บุกอยู่แนวหน้ายิ่งคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเล่นแบบนี้!
เมื่อหันหลังจะไปสู้กลับ พบว่าตัว ADC ถูกคู่แข่งฆ่าตายแล้ว
ทุกคนต่างเห็นว่าร่างนั้นบนจอลอยตัวขึ้น โจมตีและฆ่าทันทีอย่าง
คล่องตัว
ฆ่าได้หนึ่งชีวิตจากห้าคน
และหลังจากที่ฆ่าคนนั้นเสร็จ ยังโฉบมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นหันมา
ฆ่ากลับอีกหนึ่งชีวิต!
คมทวนคมกริบ ไม่มีใครรับมือได้ทัน
แม้จะไม่ได้อยู่ในสนามแข่งด้วย แต่คนที่ดูไลฟ์ สดนัดนี้ก็รู้ได้ว่า
ความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร
หากมีเขาลงสนามสู้ ต้องฆ่าได้สักรายแน่นอน
อีกอย่างพวกเขาแรกเริ่มมีถึง 5 คน ทว่าคนทั้งห้ากลับต้านฝ่ายตรง
ข้ามไม่อยู่!
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้คนยังเห็นกันชัดเจน
First kill
Second Kill
Triple Kill!
และภายใต้สถานการณ์ที่ผู้คนต่างคาดไม่ถึง ร่างนั้นเหมือนลมที่ใคร
ก็ห้ามไม่อยู่
การประเมินล่วงหน้า การเดินตำแหน่ง เซ้นส์ที่ประหนึ่งเป็นแชมป์
ใช่ว่าเขาจะไม่โดนฝ่ายตรงข้ามทำร้าย แต่ทุกครั้งที่โดนเป็นต้องปลิด
ชีวิตคู่แข่งได้หนึ่งชีวิต
ลั่วลั่วไม่ว่างเป็นหนึ่งในนั้น
ความเร็วของคู่แข่งสูงมาก…
มากจนแบล็กพีช T เห็นว่าร่างนั้นเหลือเลือดไม่ถึงหนึ่งในสามก็คิด
ว่าโอกาสมาแล้ว!
จึงให้ตัวแทงค์วิ่งไปหาแล้วสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงก่อน!
ส่วนตัวเองค่อยเสือกทวนยาวใส่ เพื่อจะฆ่าเจ้านั่นสักครั้งเป็นการสั่ง
สอน!
ไม่มีเหตุผลเลย
พวกเขาต่างใช้ตัวละครแชมเปี้ยนใกล้เคียงกัน เมื่อต้องเผชิญหน้า
คู่แข่งที่เก่งกว่าตัวเองมาก ต่อให้มีเทคนิคดีเยี่ยม ตอนนี้เจ้านั่นก็เหลือ
เลือดเพียงน้อยนิด แค่ไล่ถามทันก็เด็ดชีวิตได้แล้ว
แบล็กพีช T ฆ่าดะจนตาแดง ไม่สนว่าป้อมฝั่งตัวเองจะล้มจนเหลือ
ไม่เท่าไรแล้ว
โดยเฉพาะเลนล่างที่ถูกดันขึ้นไปถึงที่สูงแล้ว
ในสายตาคิดเพียงแต่จะฆ่าคนให้ได้!
คนที่ดูไลฟ์ สดเข้าใจเช่นกันว่าแบล็กพีช T อยากจะทำอะไร
ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้พวกเขาที่ดูการแข่งอยู่ต่างหวังว่าร่างสีขาวนั่นจะ
ไม่โดนจับได้
แต่ใคร ๆ ต่างก็คิดไม่ถึง
ทั้งที่รู้ว่าโดนฝ่ายตรงข้ามไล่ล่า แค่คนคนนั้นยังคงใช้ทวนยาวตวัดล่า
เรดบัฟ
“หนีเร็ว”
“ฆ่าได้สามคนแล้ว พอเถอะ”
“สภาพเมื่อกี้อะ หนึ่งต่อห้า แถมฆ่าได้สามคน เจ๋งเป็นบ้าเลย!”
ทว่าในวินาทีถัดมา ทุกคนถึงได้รู้ว่าเขาล่าเรดบัฟทำไม
เขาไม่ได้ทำเพราะต้องการ แต่ทำเพื่อจะดูดเลือดต่างหาก!
และในเวลานี้เองแบล็กพีช T กระโดดเข้ามาในเขตเรดบัฟ
เดิมทีคิดจะทำความเสียหายให้คู่แข่ง ทว่าร่างนั้นทำแค่เบี่ยงตัว เดิน
ตำแหน่งอย่างหลักแหลม
พลังชุดใหญ่ของแบล็กพีช T ไม่โดนตัวเขา แต่โดนเรดบัฟแทน
ยังไม่จบ ตอนแรกคิดว่าอีกฝ่ายจะหนีไป ใคร ๆ ต่างก็คิดไม่ถึงว่าเขา
จะฉวยจังหวะนี้ใช้สกิลตีมอนสเตอร์คว้าเอาเรดบัฟมาไว้ในมือ!
แบล็กพีช T นั่นหน้าค้างเลยทีเดียว!
ตอนที่ 2187
แบล็กพีช Z กลับมาแล้ว
“เฮ้ย! เขาให้แบล็กพีช T ช่วยตีเรดบัฟให้เหรอ?”
“ให้คู่แข่งตีเรดบัฟให้ตัวเอง แผนร้ายกาจจริง ๆ !”
“พวกนายเห็นผลงานเขาไหม เหมือนจะเล่นไม่กี่นัดเองนะ”
“เห็นแล้ว ๆ ไม่กี่นัด แต่ได้เป็น MVP ทุกรอบ ไม่เคยตาย เห็นแล้ว
ฉันอิจฉาจริง ๆ !”
“แต่ก่อนหน้านี้เขาเล่นเป็นตัว CC นี่นา ทำไมครั้งนี้มาเล่นเป็นนักฆ่า
ล่ะ”
“ในฐานะที่เป็นตัว CC เหมือนกัน รู้สึกว่าเมื่อก่อนที่ตัวเองเล่นมา
ไม่ได้เรื่องเลย!”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ดูต่อเร็ว ๆ !”
ดูอะไร?
ความสงสัยของทุกคนอยู่เพียงแค่ชั่วพริบตา
แสงเงินโปรยอยู่บนหน้าจอ
ร่างนั้นได้ตัวเรดบัฟไปแล้วก็คว้าทวนยาวโฉบไปใกล้ ตวัดร่างคู่แข่ง
ให้ลอยขึ้นฟ้า จากนั้นหันตัวกลับมาโจมตีสังหารราวกับเป็นมังกรสี
เงิน
พอจะมองออกว่าแบล็กพีช T อึ้งงันไปเลย แม้แต่สีหน้ายังซีดขาว
ราวกับไม่คิดว่าตัวเองจะโดนฆ่ากลับ
และด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ แบล็กพีช T จึงประกาศว่า “แกใช้โปรแกรม
ช่วยนี่ ฉันจะร้องเรียนแน่! มันจะเป็นไปได้ยังไง เหลือเลือดแค่นั้นเอง
ฉันเล่นงานตั้งนานแล้วยังไม่ตายอีก จะเป็นไปได้ยังไง?”
ระหว่างที่แบล็กพีช T โวยวายอยู่ เสียงเอฟเฟกต์เกมก็ดังขึ้นมาอีก
Penta Kill!
Penta Kill เชียวนะ เขาได้ Penta Kill!
กระทั่งตัวแทงค์เมื่อกี้ยังโดนฆ่าด้วย?
แบล็กพีช T ที่ปากด่ากราดอยู่เหมือนถูกแช่แข็งทันที
ทางเลนล่างถูกโจมตีไปถึงกลางเมืองแล้ว
ร่างขาวถือทวนยาวยังคงไม่ขยับในตอนนี้ ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงนั้น
แขนเสื้อกว้างสะบัดพลิ้ว
ตัวอักษรพลันปรากฏบนหน้าจอในตอนนี้เอง
“พวกเธอเป็นผู้เล่นอาชีพได้ยังไง?”
ประโยคดังกล่าวมีพลังทำลายล้างสูงกว่าการที่มีชื่อเหมือนกันหลาย
หมื่นเท่า
บางคนที่ดูไลฟ์สดต่างรู้ตัวกันบ้างแล้ว
ก่อนหน้านี้พวกเธอยังไม่รู้สึกอะไร แต่ครั้งนี้แบล็กพีช T โดนอีก
ฝ่ายเล่นจนยับเยิน
พวกเขาชอบคนคนนี้ก็เพราะให้ความรู้สึกว่าเท่มาก
ตอนนี้มาดูอีกที ประกายความเด่นที่ว่าเหมือนจะหายไปไม่น้อยเลย
ยังมีคนส่วนหนึ่งคิดว่าคนคนนี้เหมือน Z เมื่อ Z ไม่อยู่แล้วก็มีคนมา
ใหม่ ให้พวกเขาได้ติดตามพอดี
เวลานี้ไม่รู้เพราะอะไร พวกเขาไม่ชอบอีกแล้ว
ไม่เพียงแค่ไม่ชอบ พอลองคิดดูดี ๆ ตอนที่แบล็กพีช Z แข่ง เขาจะ
เดินเข้าโซนป่ าคนเดียวทุกครั้ง ล่าบลูและเรดบัฟจนหมดแล้วกลับมา
ไม่ว่าตอนไหนก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างกล้าหาญ
เวลาเหนื่อยก็อาจทะเลาะกับคนอื่น พูดจารุนแรงกว่าเดิม สองตาเต็ม
ไปด้วยความทะเยอทะยาน
แต่เธอไม่เคยพูดหยาบคาย
ทว่าแบล็กพีช T นี่สิมีทุกอย่าง
ยังมีคนบางส่วนที่มาดูเพราะหน้าตาแล้วชอบลักษณะนิสัยแบบนี้
บอกว่า “มีสิทธ์ิอะไรมาสงสัยความสามารถในการเล่นอาชีพของ
เทพ T ฮะ”
ทว่าเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือการเล่นเกมที่แท้จริง คนดูการ
แข่งรู้ว่ากระจอกก็คือกระจอก วงการอีสปอร์ตจะเอาคนเล่นกระจอก ๆ
ไปทำบ้าอะไร?
หลังจากที่การแข่งจบลง ฉินมั่วปลดหูฟังสีดำออก
แบล็กพีช T ยังคิดจะหาทางว่าร้ายแฟนคลับของแบล็กพีช Z
เวลานี้ พี่กุยออกโรงเอง
เธอพูดเพียงว่า “สามเดือนที่เธอหายไป สามเดือนนี้มีคนบอกว่าพวก
เราไม่สงบเสงี่ยม ความไม่สงบเสงี่ยม ความชอบ ความรัก ความขยัน
และการติดตามของพวกเรา ขอมอบให้กับคนที่ทำให้เราฮึกเหิม
เลือดร้อนเท่านั้น อุตส่าห์เงียบกันมานาน เวลานี้การแข่งชิงแชมป์
โลกเริ่มขึ้นแล้ว แฟนคลับแบล็กพีช Z ที่รอการกลับมาของเทพ Z
พวกคุณอยู่ที่ไหนกัน?”
ตอนที่ 2184
เทพฉินลงมือ
คอมเมนต์โผล่ในไลฟ์สดว่า “เท่อะ!” มาไม่ขาดสาย
เหราหรงงงงันไปชั่วขณะ โม้เก่งก็เท่แล้วเหรอ?
อย่างนั้นจ้าวซานพั่งก็เท่ที่สุดในโลกเลยสิ เพราะเจ้านั่นขี้โม้เป็นประจำ
“แบล็กพีชหลงตัวเองมากเลยเหรอ?” เหราหรงถามฉินมั่ว
ฉินมั่วตอบเพื่อนพลางเริ่มคลิกเมาส์ “เขาเหรอ ชอบชมตัวเองว่าเท่
แบบหน้าตาเฉยเลยละ”
“มิน่าล่ะ” เหราหรงลูบคาง “ก็เลียนแบบเก่งจริงแหละ”
ฉินมั่วหัวเราะเสียงต่ำ เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ ทว่าสีหน้าไม่ค่อย
เหมือนเดิม
เหราหรงกินอาหารหมาอยู่เงียบ ๆ ก็เห็นคนข้างตัวหันไปหลบที่พุ่ม
ไม้ในโซนป่าแล้ว
เหราหรงคิดในใจว่าร้าย ร้ายมาก ๆ
มิน่าล่ะจ้าวซานพั่งถึงได้เรียกอีกฝ่ายว่าฉินเจ้าแผนการ
เขารู้ว่าแล้วฉินมั่วจะวางแผนอะไร ถึงได้ไปหลบอยู่ที่พุ่มไม้
เห็นได้ชัดว่านักแสดงที่เตรียมไว้ทางนี้ก็ไม่ได้มีฝีมือระดับสูงอะไร
คิดแต่จะส่งตัวเองไปตาย
กระทั่งนักฆ่าทีมตัวเองทำอะไรก็ยังไม่เข้าใจ
จนถึงตอนนี้ แบล็กพีช T และลั่วลั่วไม่ว่างใช้วิธีเล่นแบบนี้ได้มา
หลายคะแนนแล้ว
ถึงอย่างไรพวกเขาสองคนก็เป็นนักเล่นลีกอาชีพ เล่นเกมระดับล่าง
แบบนี้ได้สบาย
แค่ส่งนักแสดงคนหนึ่งไปเล่นเป็นนักแสดงฝ่ายคู่แข่ง เพราะอยากจะ
เล่นให้ได้สวยยิ่งขึ้น
ต้องรู้ไว้ว่า เดี๋ยวนี้คนชอบพวกเขาก็เพราะรู้สึกว่าพวกเขาเท่
ความเท่ที่ว่านี้จะเสียไปไม่ได้
“ตอนนี้พวกเราจะแย่งบลูบัฟของคู่แข่งนะ” แบล็กพีช T พูดพลาง
สร้างความเสียหายให้คู่แข่ง
ลั่วลั่วไม่ว่างหัวเราะ เหมือนเกมนี้ง่ายสำหรับพวกตนเหลือเกิน
แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะมีร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากพุ่มหญ้าทันที!
จากนั้นใช้พลังสไมท์
ทำให้บลูบัฟที่พวกเขาล่ามานานกลายเป็นการล่าฟรีไป!
แบล็กพีช T โมโหแทบระเบิด “แมร่ง ไอ้ชั่วนี่!”
“ใช่ ชั่วเกินไปแล้ว!” คอมเมนต์บนหน้าจอเข้ามาเสริม
ทว่าก็มีคนเล่นเกมเป็นเหมือนกัน เห็นว่านี่เป็นเหตุการณ์ปกติ
การแย่งบลูบัฟแล้วแย่งไม่สำเร็จ ก็ธรรมดานี่นา?
ทำไมคนเล่นต้องโมโหด้วย?
แถมยังหลุดคำหยาบมาอีก?
รู้สึกว่า…
ยังไม่ทันได้บรรยายความรู้สึกออกมา คนที่ดูการไลฟ์ สดก็อึ้งกัน
เกือบหมด
เพราะร่างในพุ่มไม้เอาบลูบัฟไปแล้วกลับยังไม่ล่าถอย กลับยังโจมตี
แบล็กพีช T อีก
แบล็กพีช T จึงร่วมมือกับลั่วลั่วไม่ว่างเอาคืนเหมือนถูกยั่วโมโห
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อซัดสกิลออกไป กลับเสียไปเปล่า ๆ !
แล้วคนล่ะ? คนอยู่ที่ไหน?
แบล็กพีช T ไม่ได้เห็นภาพทั้งหมดเหมือนผู้ชม
จึงไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเดินตำแหน่งอย่างไรหรือกระทั่งหลบพลังที่พวก
เขาสองคนซัดไปแบบไหน
เมื่อตวัดทวนยาวกระโดดไปยังตำแหน่งที่ดีเยี่ยม
แบล็กพีช T ถามด้วยว่า “เขาอยู่ไหน?”
แต่กลับถูกทวนสีขาวเงินตวัดลอยไปกลางอากาศ
ท่ามกลางแสงสีเงินที่โปรยปรายลงมา แบล็กพีช T เป็นงง
สิ่งสำคัญที่สุดคือเมื่อลั่วลั่วไม่ว่างใช้สกิลเล่นงาน กลับแช่แข็งคนคน
นั้นไม่ได้
คนคนนั้นก็เหมือนรู้ว่าเธอจะเล่นอย่างไร หลบทันก่อนหน้าที่จะ
โดนซัดพลังก้าวหนึ่ง!
บนหน้าจอ ร่างนั้นหลอกล่อไปมาด้วยความเร็วสูงจนตาลาย ถึงขั้น
ไม่ปล่อยให้แบล็กพีช T มีโอกาสทำอะไรตัวเองกลับ
ขนาดคนดูการไลฟ์ สดยังตะลึงพรึงเพริดไปกับตำแหน่งการเดินและ
ความเร็วมือของคู่แข่ง ไม่มีคอมเมนต์ปรากฏออกมาอยู่นาน
ทว่าในระหว่างสามถึงห้าวินาที เสียงเอฟเฟกต์ที่คุ้นเคยดีแต่ไม่น่าจะ
ดังในเวลานี้กลับดังมาจากในเกม!
ตอนที่ 2185
First Blood!
First Kill!
First Blood เลยเรอะ!
ท่ามกลางแสงเงินที่กระจายทั่ว เงาของทวนยาวทอดอยู่บนพื้น
ห้องไลฟ์สดเงียบกันถ้วนหน้า
แบล็กพีช T ตายแล้ว?
เปิดเกมมายังไม่ถึงสองนาทีก็ตายแล้ว?!
แบล็กพีช T ชะงักมือไปนิด วินาทีถัดมาก็เอ่ยขึ้นว่า “ลั่วลั่ว เป็น
อะไรไป เมื่อกี้น่าจะจับเขาแช่แข็งได้แล้วนี่นา?”
คนที่ใช้ชื่อว่าลั่วลั่วไม่ว่างก็ชื่อลั่วลั่วเหมือนกัน
ผู้หญิงคนนั้นอึ้งเช่นกัน ไม่คิดว่า T จะตาย พอรู้สึกตัวก็แลบลิ้นเอ่ย
แค่ว่า “ขอโทษด้วย เมื่อกี้ฉันยิงสกิลผิด แค่เล่น ๆ น่ะ”
อธิบายแบบนี้พอจะเอาตัวรอดได้
มีคอมเมนต์ผ่านหน้าจอว่าต่อไปอย่าเล่น ๆ แบบนี้อีก เทพ T ตายเลย
เห็นไหม เป็นต้น
ทว่าคอมเมนต์จำพวกนี้ปรากฏได้ไม่กี่ประโยค
เสียงเอฟเฟกต์ก็พลันดังขึ้นอีก!
Double Kill!
ดับ ดับเบิลคิล?!
พวกเขาต้องได้ยินผิดไปแน่นอน!
Double Kill?
Double Kill เชียวนะ!
แววตาทุกคนสั่นไหว ร่างนั้นบนหน้าจอเหมือนจะเหาะไปยังพุ่มไม้
อีกฝั่งหนึ่งอย่างสบาย ๆ เมื่อข้ามกำแพงก็ตีมอนสเตอร์ตรงแม่น้ำไป
ด้วยตัวหนึ่ง
อีกทั้งปริมาณเลือดของเขาที่ใกล้หมดแล้ว ตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นมา
คนที่เข้ามาดูเกมมาเพื่อดูแบล็กพีช T โดยเฉพาะ
รอจนเห็นฉากดังกล่าว ต่างก็คลิกดูจากมุมมองของคู่แข่งอย่างห้าม
ใจไม่ได้
หมายความว่าหากคนคนนี้ไปที่ไหน พวกเขาก็จะตามไปด้วย
แบล็กพีช T กับลั่วลั่วไม่ว่างใจฝ่อเล็กน้อย
โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่อย่างไรก็ไม่คิดว่าตัวเองจะพลอยตายไปด้วย
แบล็กพีช T รีบบอกว่า “ลั่วลั่ว ระบบฝั่งเธอแฮงก์อีกแล้วใช่ไหม?”
“อื้อ ๆ ๆ ของฉันแฮงก์อีกแล้ว”
ลั่วลั่วพูดจบ แบล็กพีช T ก็ว่าต่อ “ฉันก็รู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”
ทว่าตายครั้งแรกยังโทษระบบได้
แต่เมื่อถึงครั้งที่สอง ทุกคนต่างดูเกมจากมุมมองของคู่แข่ง
เมื่อได้เห็นว่าแบล็กพีช T กับลั่วลั่วไม่ว่างถูกร่างสีขาวฟันฆ่าทีเดียว
สองชีวิต ห้องไลฟ์สดพลันตกอยู่ในความเงียบงัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ทำไม T ตายอีกแล้วล่ะ”
“ท่าทางระบบไม่ได้แฮงก์หรอก”
“ฉันก็คิดว่ามันไม่ได้แฮงก์”
“ฝ่ายนั้นเล่นเร็วมากเกิน ใครเห็นบ้างว่าเขาออกมายังไง ฉันดูตั้งนาน
ก็ยังไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นออกมายังไงเลย?”
“พวกเธอดูตัวนักฆ่าที่เขาเล่นสิ ก้าวเคลื่อนสามจังหวะ เดินทะลุ
กำแพงได้ แล้วจู่ ๆ ก็โผล่ออกมา ก็ปกติดีนี่นา”
เวลานี้แบล็กพีช T หน้าถอดสีไปแล้ว
เจ้าตัวโมโหอย่างหนักจริง ๆ จะเข้าไปช่วยทีมสู้ในตอนนี้ย่อม
เป็นไปไม่ได้
เนื่องจากไม่ใช่เกมระดับสูง ถ้าไม่มีความสามารถในการนำลูกทีมอีก
สี่คน แล้วมาเจอคนแบบนี้เข้า ก็ต้องหาทางออกแล้ว
“คู่แข่งต้องใช้ไอดีรองเล่นแน่เลย!”
“แต่ต่อให้เป็นไอดีรอง แต่ T ก็ไม่น่าจะเล่นแย่นี่นา”
“ไอดีรอง? คนที่แค่เข้ามาดูสกิลการเล่นอธิบายหน่อย ทำไมถึงยังใช้
ไอดีรอง? ไม่ใช่ระดับสูงนี่นา”
“T ไม่ชอบเล่นเกมระดับสูง แค่ฝึกตามปกติก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว
ตอนนี้พวกเขาเล่นระดับล่างนะ”
เมื่อพูดออกมา บนหน้าจอก็มีเสียงเอฟเฟกต์เกมดังขึ้นอีก
สามครั้ง สามครั้งแล้วที่ถูกฆ่า!
แบล็กพีช T จะยอมได้ยังไง จึงส่งสัญญาณรวมตัว
ไม่สนป้อมอีกต่อไป พาเพื่อนร่วมทีมทั้งสี่ตรงไปยังร่างที่อยู่ในโซน
ป่านั่น!
ครั้งนี้อีกฝ่ายต้องตายแน่!
ทุกคนต่างคิดกันอย่างนี้!
เล่นแบบ 1 ต่อ 5 เพื่อนร่วมทีมก็ไม่คิดจะมาช่วย
โดยเฉพาะที่เลนบน ทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้กันแค่นี้ กลับไม่ขยับเลยสักนิด
ตอนที่ 2182
สร้างเกียรติภูมิให้ประเทศ
การใช้ชื่อไอดีในเกมชนกันเป็นเรื่องปกติมาก
ประเภทเธอเหมือนกับฉัน ฉันเหมือนกับเธอ บางครั้งเหมือนกันเปี๊ยบ
ก็ไม่เห็นเป็นอะไร
แฟนคลับบางคนใช้วิธีนี้แสดงความชอบของตัวเองที่มีต่อไอดอล
อย่างเมื่อก่อนเวลาที่เหราหรงเล่นเกม ก็จะเจอไอดีที่ชื่อว่า ‘ฉันชื่อ
เหราหรง’
เรื่องแบบนี้ปกติมากนัก
ดังนั้นฉินมั่วย่อมไม่ลงทุนแข่งเองเพียงเพราะแค่ปัญหาเรื่องชื่อไอดี
เหราหรงหันมองเล็กน้อย ในระหว่างที่กำลังจะดูต่อก็กวาดตาไป
เห็นชื่อไอดีหนึ่ง ‘ลั่วลั่วไม่ว่าง’ คำว่าไม่ว่างมีนัยจงใจที่จะลบหลู่
เหมือนว่ามีก็อยู่เหมือนไม่มีแบบนั้น
แน่นอน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เรื่องสำคัญอยู่ที่ฝีมือการเล่นของพวกเขาสองคน
เช่นแบล็กพีช T เลือกเล่นตัวละครนักฆ่าซึ่งตอนนั้นแบล็กพีช Z ใช้
ถนัดมือที่สุด
ทางด้านลั่วลั่วไม่ว่างก็เลือกตัวละครนักเวทที่ลั่วลั่วถนัดเล่น
อีกทั้งเด็กผู้หญิงที่ใช้ชื่อแบล็กพีช T คนนั้นยังย้อมผมสีเงินทั้งหัว ไม่
มีไฝเสน่ห์ก็อุตส่าห์เติมให้ตัวเอง
เธอเงยหน้ามองกล้อง เสียงพูดฟังเหมือนเรียบมาก “ทุกคนก็รู้ว่าช่วงนี้
ฉันรำคาญมากแค่ไหน พวกแฟนคลับแบล็กพีช Z อย่ามาปากพล่อย
กับฉัน ถ้าไม่อยากดูฉันเล่นเกมก็ไสหัวไปซะ”
เหราหรงได้ยินแล้วหันไปมองฉินมั่ว
เรื่องนี้ไม่สำคัญอะไรในสายตาของเขา ฉินมั่วน่าจะเป็นเช่นเดียวกัน
แต่ถึงขั้นลงทุนทำแบบนี้ ไม่ได้แค่แข่งธรรมดาแน่นอน
ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้ฉินมั่วตัดสินใจทำแบบนี้
ความคิดของเขายังไม่ทันตกผลึก ก็มีเหล่าคอมเมนต์โผล่ขึ้นมาทาง
ห้องไลฟ์สด
“เทพ T เท่จัง พวกเราเป็นแฟนคลับแบล็กพีช Z ที่มีมารยาท ไม่ใช่
พวกที่มาอาละวาดนะ”
“เหมือนคอนเมนต์บน ฉันชอบแบล็กพีช Z แล้วก็ชอบแบล็กพีช T
ด้วย”
“ในหัวใจของฉัน ไม่มีใครที่จะมาแทนที่ทีมไดมอนด์กับแบล็กพีช Z
ได้ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคที่จะสนับสนุนเทพ T”
“เทพ T สู้ ๆ !”
เหราหรงเห็นถึงตรงนี้ก็หลุดหัวเราะออกมา มุมปากหยักยิ้มนิด ๆ
“เป็นแฟนคลับของแบล็กพีชเหรอ”
“แต่งตั้งตัวเอง” ฉินมั่วตอบสั้น ๆ
เหราหรงหัวเราะเบา ๆ “น่ากลัวว่ายังมีคนที่ชอบแบล็กพีชจริง ๆ ไม่
งั้นคงไม่บอกว่าไม่มีใครมาแทนที่ได้ แต่ก็บอกอีกว่าสนับสนุนฝ่าย
โน้นด้วย ตลกดี”
“ก็ปกติ” ฉินมั่วลงทะเบียนเข้าใช้อย่างไม่แยแส “ความชอบแบบนี้
นายคิดว่าเป็นของแท้เหรอ?”
เหราหรงแววตาเรียบนิ่ง “ก็ปวดใจอยู่แหละ”
“ฉันยังคิดว่านายหมดใจไปแล้วในตอนนั้นซะอีก” ตอนนั้นที่ฉินมั่ว
เอ่ยถึง เหราหรงเข้าใจทันทีว่าตอนนั้นคือตอนไหน เขาลุกขึ้นมาสู้
ใหม่ได้อย่างไร มีเพียงเขาที่รู้ดี
รู้สึกหลายครั้งว่าการมีชีวิตอยู่ในความมืดมิดก็ไม่เห็นเป็นอะไร
เพราะโลกเราเดิมทีก็เป็นแบบนี้
อะไรคือความเป็นมนุษย์น่ะหรือ
เวลาที่เรารุ่งเรือง พวกเขาแห่เข้ามาปกป้อง
เวลาที่เราล้มลง พวกเขาเหยียบย่ำซ้ำเติม
คนที่บอกว่าชอบเรา กลับไม่รู้ว่าเราหมดหวังที่ตรงไหน
เราไม่อาจแสดงความรู้สึกในใจออกมา เพราะไม่มีใครเข้าใจสำนวน
ที่ว่า ‘ลิ้นคนมีสัตว์ร้าย ฆ่าคนตายอย่างเลือดเย็น’
ความชอบของพวกเขาอาจกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความ
มุ่งมั่นในตอนแรกของเราย่อยยับ
คนที่ทำร้ายพวกเราไม่ใช่ศัตรูมาแต่ไหนแต่ไร
แต่คือคนที่เราประนีประนอมให้ แล้วกลายเป็นแบบเดียวกับฝ่ายตรง
ข้าม
ทว่ายังดีที่เขาหลุดออกมาได้แล้ว
ไม่ผูกใจอยู่กับมัน ไม่กลัวอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
เพราะเหราหรงเข้าใจดีว่า ในโลกนี้มีความเป็นมนุษย์ที่เราไม่อาจ
อธิบายได้
ถึงแม้เราจะแค่นั่งอยู่ที่นี่ ก็ทำให้ทุกคนนึกขึ้นได้ว่าทำไมเราถึงได้สู้
สุดชีวิต แล้วไปร่วมแข่งขัน
เพราะมีพวกเขาที่ร่วมแข่งอยู่ด้วยกัน
เพราะอยากมีวันหนึ่งที่จะได้สู้เพื่อประเทศชาติ
เพราะต่อให้กินน้ำแข็งมานานสิบปี คนที่ยังคงมีเลือดร้อนไม่เสื่อม
คลายก็ไม่ได้มีแค่เรา ยังมีคนที่นั่งข้างเรา เดินออกมาจากความมืด
เช่นกัน ทั้งยังกล้าที่จะจับเมาส์ใหม่อีกครั้ง
บางทีคนที่เดินออกมาได้อาจมีแค่พวกเขา
แต่เหราหรงเชื่อว่ายังมีคนหน้าใหม่อีกหลายคนที่ซ้อมข้ามวันข้ามคืน
และมีความรู้สึกร่วมกันกับพวกเขา
พวกเขาไม่ใช่ความศรัทธา และยิ่งไม่ใช่ผู้พิเศษเฉพาะ
โลกนี้กว้างใหญ่ ใคร ๆ ต่างก็มีความฝันจะเป็นฮีโร่ในใจ
ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชายก็ตาม…
ตอนที่ 2183
ตบหน้าก้าวแรก
ตึก!
เสียงกดปุ่ม Enter ดังขึ้น
ฉินมั่วเข้าสู่หน้าเกม แล้วเข้าสู่สนามแข่งตามพื้นที่ที่บอร์ดไลฟ์ สด
ประกาศไว้
เป็นการแข่งประเภททีม 5 ต่อ 5
ตอนที่คลิกเข้าไป ก็ได้อยู่ฝั่งเดียวกับลั่วลั่วไม่ว่างและแบล็กพีช T
แต่ในวินาทีถัดมา เขากลับกดเมาส์ไปอยู่ฝั่งคู่แข่งแทน
“ไอดีอันนี้ของฉันเลเวลไม่สูงนะ พวกนายจะเล่นเกมด้วยกันได้
เหรอ?”
เหราหรงถามอย่างมีเหตุผลทีเดียว
ในเกมเลเจนด์ จะต้องมีเลเวลที่เท่าเทียมกันเท่านั้น ถึงจะเข้าไปแข่ง
ในพื้นที่ที่กำหนดได้
เว้นแต่จะเล่นเดี่ยว ซึ่งจะไม่มีข้อกำหนดเหล่านี้
หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการอัปเลเวล จะพิจารณาคนที่อยู่ระดับเดียวกัน
ว่ามีความสามารถเป็นอย่างไร จะให้ผู้เล่นใหม่เข้ามาก็เจอคนเก่ง
โดยไม่มีประสบการณ์การแข่งเลยไม่ได้
ทว่าเมื่อทั้งสองได้รับคำชื่นชมว่าเก่งมาก อย่างน้อยสุดก็น่าจะเล่นกับ
คนในเลเวลสูงพอควรถึงจะถูก
แล้วทำไมถึงเล่นกับคู่แข่งที่เลเวลต่ำกว่า?
นอกเสียจากพวกเขาก็มีเลเวลไม่ต่างกัน
นั่นไงล่ะ เหราหรงพิจารณาเลเวลของสองคนนั้น ยิ่งอยากหัวเราะ
มากกว่าเดิม “ไม่น่าล่ะถึงได้ชนะบ่อยมาก มีฝีมือแค่นี้ ถ้าเจ้าแบล็ก
มารับรองได้ว่าฆ่าทีเดียวตายห้าได้สบาย ๆ”
“ไม่ชัวร์” ฉินมั่วพูดเสียงเรียบ
เหราหรงขมวดคิ้ว “ไม่ชัวร์เหรอ”
“ถ้าเพื่อนร่วมทีมเป็นพวกการละคร ก็ไม่แน่ว่าจะฆ่าได้ห้า” ฉินมั่ว
ไม่สนใจเพื่อนร่วมทีมที่เซ้าซี้ให้เขาเปลี่ยนตัวละครไปเลือกเล่นตัว
แชมเปี้ยนที่จะตีแบล็กพีช T ได้ก็ต่อเมื่อประจันหน้าเท่านั้น กดปุ่ม
คอนเฟิร์มทันที
เหราหรงเงียบ แหงนหน้ามองเพดาน “ที่แท้คะแนนก็มาจากการวาง
บทมานี่เอง แต่ระดับนี้ไม่ต้องกุขึ้นมาหรอกมั้ง”
“ต้องอธิบายในทางกลับกัน” ฉินมั่วพูดแค่นี้ก็หยุด
เหราหรงสงสัย “หือ?”
“กระจอก” คำตอบช่างไม่แยแส
เหราหรง “…”
“เอาเถอะ แต่ว่านะ ทำไมไม่มีใครดูออกว่ามีนักแสดงด้วย”
ฉินมั่วคิดครู่หนึ่ง รอเข้าเกมแล้วก็มีเวลาว่างพอ จึงเอ่ยขึ้นมาเหมือน
ไม่มีอะไร “เดาว่าเหมือนอย่างที่นายพูดนั่นแหละ ไม่คิดว่าการแข่ง
ในระดับแค่นี้ยังอุตส่าห์เชิญนักแสดงมาด้วย อีกอย่างดูไม่ออกเลย
จริง ๆ อุตส่าห์เป็นถึงแฟนคลับจิ่วของฉัน แต่กลับไม่เข้าใจเทคนิค
การเล่นพื้นฐาน”
เหราหรงไอครั้งหนึ่ง เกือบจะสำลัก “นายพูดประชดนี่?”
“ประชดสิ” ฉินมั่วบิดขวดน้ำแร่ “ถ้าเป็นแฟนคลับเขาจริง จะดู
เทคนิคไม่ออกได้ยังไง”
เหราหรงได้ยินแล้ว แอบคิดว่าคนมีเมียแล้วน่ากลัวจริง ๆ
โดยเฉพาะคนอย่างฉินมั่ว มีเมียแล้วยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
ภายในห้องไลฟ์ สด ไม่มีใครคิดว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ต่างทำตามปกติ แบล็กพีช T เปิดเกมมาก็วิ่งไปที่โซนป่ าของคู่แข่ง
พาลั่วลั่วไม่ว่างไปด้วยอย่างดุดันเกรียงไกร
คอมเมนต์โผล่บนหน้าจอไม่ขาดสาย “เท่อะ เท่อะ แบล็กพีช T ของ
ฉันเท่มาก”
ก่อนเข้าสู่การแข่งขัน ฉินมั่วปิดแพลตฟอร์มไลฟ์สดการแข่งขันไป
แล้ว
ทว่าเหราหรงรู้สึกว่าน่าสนุก จึงหยิบมือถือมาเสิร์ชหา หลังจากเข้า
ไปดูก็เห็นภาพฉากนี้
ไม่ได้เลียนแบบแบล็กพีช Z จริง ๆ เหรอ?
กระทั่งสไตล์ของแบล็กพีช Z ที่ล่ามอนสเตอร์ทันทีที่เข้าเกมก็ยังทำ
เหมือนกัน
แต่นี่พอจะเข้าใจได้ เพราะพวกที่ล่ามอนสเตอร์แบบสัตว์กินเนื้อ
ชอบบุกก่อนเสมอ
ผู้เล่นหลายคนก็มีคุณลักษณะพิเศษนี้
พอเปิดเกมก็ชิงบลูบัฟกันเลย คงเพราะแบล็กพีช T เล่นไปพลาง
ประกาศด้วยว่า “โซนป่าของนายคือบ้านของฉัน”
นี่มัน…ขอโทษนะ เหราหรงอยากหัวเราะ
จะมีนักฆ่าที่เก่งกาจที่ไหนกล้าอวดความเก่งออกมาอย่างนี้
ใช่ เว้นแต่แบล็กพีช Z เท่านั้น เธอทำได้จริง ๆ
เพราะนิสัยเธอก็เป็นแบบนี้ ร้ายกาจชัดเจน โอหังไม่กลัวใคร ทั้งยัง
ไม่เห็นหัวใครและน่ารังเกียจ
ทว่าคนเลียนแบบตรงหน้านี้ คว้าบลูบัฟแล้วพานักเวทไปด้วยน่ะช่าง
เถอะ ไม่เห็นจะเก่งตรงไหน แต่ดันโม้ขึ้นมาเสียแล้ว…
ตอนที่ 2180
เพื่อประเทศ
หัวหน้าหยางถึงกับหน้าถอดสี อยากจะปฏิเสธออกมา
ปกติแล้วคนอื่นพูดกันว่าสองคนนี้มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะ เป็นแสง
สว่างแห่งอนาคตของวงการอีสปอร์ต ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแบล็กพีช Z
หรือลั่วลั่วแม้แต่น้อย
แค่ชื่อคล้ายกันเท่านั้น ต่างก็ใช้ไม้นี้กันหมด
ทว่าหัวหน้าหยางรู้ดีแก่ใจ เพราะเคยเห็นสองคนนี้แข่งมาก่อน จึงรู้
ว่ามีเงาของแบล็กพีช Z และลั่วลั่วในตัวสองคนนั่น
ในเมื่อหลายคนชอบแบล็กพีช Z มาก แบบนนั้นก็เอามาใช้หาประโยชน์
ได้
และลั่วลั่วเองก็มีประเด็นวิจารณ์เยอะ
เขาเลือกสองคนนี้เพราะทั้งสองฉลาด หาจุดเด่นของฝ่ายตรงข้ามเจอ
พวกเขาบอกว่า ‘พวกเราไม่รู้จักแบล็กพีช Z กับลั่วลั่ว แฟนคลับของ
สองคนโปรดถอยไปด้วย’ ซึ่งเป็นคำโกหกที่คนมองออกทันทีที่พูด
ออกมา หลายคนมีความเห็นว่าไม่ฉลาดสักเท่าไร
อันที่จริงจะฉลาดหรือเปล่าอยู่ที่ตรงนี้ ไม่ว่าแฟนคลับของแบล็กพีช
Z หรือของลั่วลั่วจะไปจริงหรือไม่ แต่แค่พูดคำดังกล่าวออกมาก็
เท่ากับเป็นเชือกรัดตัวเองแล้ว
เมื่อเล่นมัดตัวเองเข้ากับแบล็กพีช Z และลั่วลั่วมาได้ตลอด ความโด่ง
ดังย่อมตามมา
แถมยังทำให้คนอื่นคิดว่าแฟนคลับของสองคนนั้นวิ่งพล่านไปทั่ว
ถ้าพูดตรง ๆ ก็คือแบบนี้
พวกเขาหวังให้แฟนคลับของแบล็กพีช Z ออกมาอาละวาดจริง ๆ
น่าเสียดายที่พวกนั้นเลือกที่จะเงียบ ไม่ออกมาส่งเสียงอะไร
หากเป็นเช่นนั้น แฟนคลับย่อมไม่ได้มีเพียงเท่านี้แน่นอน
หากฉินมั่วใช้ไอดีหลักแข่งกับพวกเขาสองคน หัวหน้าหยางย่อมไม่
ปฏิเสธแน่ เพราะยังไงก็แพ้อยู่แล้ว หัวข้อข่าวนั้นก็จะกระพือขึ้นมา
ความดังของพวกเขามีแต่จะเพิ่มขึ้นแน่นอน
แต่ตอนนี้ฉินมั่วกลับใช้ไอดีรองแข่งด้วยตอนพวกเขาไลฟ์ สด นี่
เท่ากับตบหน้ากันชัด ๆ
หัวหน้าหยางตาลีตาเหลือก ตะโกนออกมาโดยไม่สนใจว่ามือถือจะ
ยังอยู่ในมือของฉินมั่ว “ท่านผอ.ครับ มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจของ
เด็กใหม่เกินไปนะครับ ไม่ใช่วิธีที่ดีเลย!”
ฉินมั่วกวาดตามองด้วยความเฉยชา น้ำเสียงที่เอ่ยไม่แสดงอารมณ์ใด
ออกมา “เพราะงั้น ผอ.จางคิดจะทำยังไงเหรอครับ”
ผู้อำนวยการจางหายใจเข้าลึก “ผมเข้าใจแล้ว ผมจะส่งคนไปใหม่
คุณช่วยหาคนมาให้ครบทีม สามวันหลังจากนี้ พวกเขาจะไลฟ์ สด
คุณก็เข้าไปแข่งด้วย”
หัวหน้าหยางได้ยินแล้วอึ้งทันที แบบนี้ต่อไปจะทำอย่างไร
ผู้อำนวยการจางนวดศีรษะ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก่อเรื่องแบบนี้
ตั้งแต่เมื่อไร
หัวหน้าหยางคิดอย่างไร เขาย่อมรู้ดีเช่นกัน เจ้าตัวเดินผิดทาง แถมยัง
เลือกผิดสถานที่
นี่เป็นการแข่งตัวแทนประเทศเชียวนะ!
ผู้อำนวยจางคิดว่าเอ่ยแบบนี้แล้วจะทำให้ทางนั้นสงบลงได้
แต่ฉินมั่วก็ยังคงเป็นฉินมั่ว คนฉลาดอย่างเขาย่อมอ่านเกมขาด
เขาเงยหน้าเอ่ยปาก “หาคนมาให้ครบทีม?”
ผู้อำนวยจางอึ้งไป “ไม่ใช่ คุณทำลิสต์รายชื่อมา ผมจะให้พวกเขาสั่ง
คนไปเชิญมาเอง”
ฉินมั่วกระแอมในลำคอ “ผอ.ครับ คุณรู้ดี แต่หัวหน้าหยางเหมือนจะ
ยังไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นผมหรือว่าคนอื่น การเข้าแข่งในครั้งนี้เป็น
การทำเพื่อประเทศจีน ถ้าพวกคุณยังอยู่ที่นี่ รับรองว่าไม่มีใครกลับมา
หรอกครับ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อำนวยการจางรู้สึกถึงรสชาติของการพูดไม่ออก
สับสนในหัวใจมาก
ฉินมั่วมองหัวหน้าหยาง อารมณ์ไม่เปลี่ยนแปลง “พวกคุณควรจะดี
ใจนะที่ครั้งนี้อ้างประเทศชาติได้ ไม่อย่างนั้นคนอย่างพวกคุณโดน
ผมไล่ไปนานแล้ว”
หัวหน้าหยางได้แต่โกรธ ทว่าผู้อำนวยจางที่อยู่ปลายสายได้ยินความ
เคลื่อนไหวของอีกด้านก็ถึงกับสะดุ้ง
เขารู้ดีว่าฉินมั่วไม่ได้จงใจพูดให้หัวหน้าหยางฟังเท่านั้น แต่บอกเขา
ด้วยเช่นกัน
เพื่อประเทศชาติแล้ว พวกเขายอมลงแข่งแน่ แต่อย่าได้ใช้เล่ห์เหลี่ยม
แอบแฝงอีก
การจะยัดคนเข้ามายิ่งทำไม่ได้
ตอนที่ 2181
เวลานี้ สามวันผ่านไปแล้ว
แต่ละคนได้รับคำสั่งให้กลับไปรวมตัว
ฉินมั่วไปตามเหราหรงจากอินเทอร์เน็ตบาร์ ไม่ได้ไปที่ไหนอีก
หลังจากขึ้นรถก็โยนเสื้อทีมให้เหราหรงชุดหนึ่ง “ไปแข่งเกมกับฉัน
ก่อน”
เหราหรงเลิกคิ้ว “นายแข่ง? แข่งเองเลยเหรอ?”
ฉินมั่วตอบรับเสียงเรียบ “อื้อ”
เหราหรงรู้สึกอัศจรรย์ใจมาก “ใครทำให้นายลงแข่งได้เนี่ย?”
“แมลงวัน” ฉินมั่วหันไปมอง “ก่อนทุกคนจะกลับมา ต้องเก็บกวาด
ให้เรียบร้อย”
เหราหรง…ฮ่า ๆ ๆ เขาผิดเอง เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายว่างไปสามเดือนน่าจะ
เป็นคนดีขึ้นมาบ้าง แต่ท่าทางสันดานปากร้ายจะแก้ไม่หาย
จากอินเทอร์เน็ตบาร์มาถึงตึกใหญ่ ใช้เวลาเดินทางครึ่งชั่วโมงโดย
ประมาณ
เหราหรงช้อนตามอง “ต่อไปที่นี่จะเป็นฐานของพวกเราสินะ รู้สึกว่า
เคร่งนิดหน่อย กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ไหม”
“ได้” ฉินมั่วชินกับนิสัยประหลาดของคนพวกนี้มานานแล้ว
เฟิงอี้เข้าตึกมาก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ทุกเรื่องจึงถูกเตรียมไว้พร้อม การ
กินบะหมี่จึงไม่ใช่เรื่องยาก
เหราหรงรู้ว่าการแข่งครั้งนี้ต่างจากครั้งอื่น ๆ ได้รับความสนใจจาก
ทุกรอบด้าน
ทว่าการตกแต่งของฐานฝึกที่นี่กลับอยู่เหนือความคาดหมายของเขา
มาก “มีฟิตเนสด้วยเหรอ?”
“ตอนที่การแข่งขันดุเดือด พวกนายจะต้องเก็บแรงไว้ ยิ่งต้องไป
ต่างประเทศด้วย ต้องเจอกับความแตกต่างด้านเวลาอีก” ฉินมั่วหัน
มอง “ต่อไปจะมีคนคอยดูสุขภาพกับความสามารถในการรับแรง
กดดันของพวกนาย”
เหราหรงหัวเราะเบา ๆ “ไม่เลวนี่”
ฉินมั่วมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดเงื่อนไขอื่นอีก และไม่ได้
เริ่มต้นพูดอย่างเป็นทางการ
รอให้ทุกอย่างแน่นอนก่อน ค่อยประกาศรายละเอียด ป้องกันไม่ให้
พวกนี้วิ่งหนีไปก่อน
“ได้เวลาแล้ว” ฉินมั่วซุกมือข้างหนึ่งลงในกางเกง มองเข็มนาฬิกา
บนข้อมือ “ไปห้องซ้อมกันเถอะ”
นี่จะเริ่มแข่งแล้วใช่ไหม?”
เหราหรงพูด “ดีเหมือนกัน ฉันจะไปลองคีย์บอร์ดตัวใหม่ก่อน”
สถานฝึกซ้อมใหม่ใหญ่มาก อยู่ในตัวตึกนี่เอง
ไม่ว่าจะเป็นห้องซ้อมหรือห้องออกกำลังกายล้วนแต่มีพื้นที่กว้างขวาง
ทั้งยังออกแบบได้เหมาะสม
เมื่อฝึกซ้อมเสร็จก็เข้าห้องออกกำลังกายที่อยู่ด้านข้างได้เลย
เวลาออกกำลังกายก็ยังดูสถานการณ์ในห้องฝึกซ้อมได้อีก
คอมพิวเตอร์ทั้งหมดสิบสองเครื่องวางอยู่ที่นั่น แต่ละเครื่องวางห่าง
กันไม่ไกลมากนัก
เก้าอี้ก็ผ่านการปรับเป็นพิเศษ ชนิดที่นั่งฝึกซ้อมกว่าสิบสองชั่วโมงก็
จะไม่ปวดคอรุนแรงมาก
เหราหรงนั่งลงก็รู้สึกได้เลย “สบายจัง”
ส่วนฉินมั่วเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง แล้วเอาหูฟังมาครอบบนเส้น
ผมสีดำ
เมื่อพิมพ์ลงแป้นพิมพ์ก็จะให้เสียงที่ต่างจากแป้นพิมพ์ธรรมดา
เหรงหรงทดลองพิมพ์ดู แล้วหันมองฉินมั่ว
ฉินมั่วมองดูหน้าเกม “ขอไอดีสำรองหน่อย”
ในส่วนไอดีสำรอง เหราหรงมีเยอะมากจึงให้ไปชื่อหนึ่ง
หลังจากที่ฉินมั่วลงทะเบียนเข้าใช้ก็เหลือบมองข้อความบนมือถือ
จากนั้นเปิดโปรแกรมไลฟ์ สด
เหราหรงยิ่งสงสัยหนักขึ้น “นายเริ่มไลฟ์ สดตามกระแสตั้งแต่เมื่อไร?”
“เปล่า” ฉินมั่วจ้องหน้าจอ “แค่เพิ่งมาศึกษาเอาตอนนี้”
เหราหรงเพิ่งอยากพูดอะไรอีก ก็เห็นหน้าจอเกมที่ไลฟ์ สดมีไอดีหนึ่ง
ปรากฏขึ้นมาก่อน
แบล็กพีช T?
นับตั้งแต่ทีมไดมอนด์ยุบไปแล้ว เหราหรงก็ไม่ได้ดูคลิปที่เกี่ยวกับ
อีสปอร์ตอีก
มีเด็กผู้ชายมาเล่นเกมที่ร้านเยอะมาก แต่พวกเขาดูสกิลการเล่น
เมื่อไรก็ตามที่เข้าไปดูการจัดอันดับในบอร์ด ถึงจะดึงดูดความสนใจ
ของพวกเขาได้
เช่นในตอนนั้น คนที่เล่นทีไรต้องได้เฟิร์สคิลทุกทีอย่างแบล็กพีช Z
คนที่เข้าเล่นโซน C ต้องได้เห็นไอดีดังกล่าวทุกวัน
เธอคนนั้นเติบโตขึ้นด้วยระดับความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ไม่ว่าจะเล่นงานบอสที่ซ่อนไว้หรือลงดันเจี้ยนคว้าเฟิร์สคิล ล้วนแต่
เป็นฝีมือของแบล็กพีช Z ทั้งนั้น…
ตอนที่ 2178
ทีมจีนรวมตัว
ประเทศจีน!
ตัวอักษรผงาดทรงพลังอยู่ด้านหลัง!
ลั่วลั่วเห็นไฟที่ลุกโชนจากในดวงตาของชายหนุ่มได้ชัดเจน
ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่คาดหวังว่าความขยันและมุ่งมั่นของตัวเองจะ
ถูกนำมาใช้เพื่อเกียรติภูมิของประเทศชาติ
และวันนี้ก็มาถึงแล้ว!
ข่าวถูกประกาศทั้งทางโลกออนไลน์และทางทีวี
ปัจจุบันนี้มีคนลงทะเบียนเล่นเกมในจีนถึงห้าร้อยล้านกว่าแอคเคาท์
แสดงให้เห็นแล้วว่าการแข่งขันอีสปอร์ตในประเทศจีนเริ่มเป็นที่
รู้จักกันแล้ว
แต่แค่เป็นที่รู้จักยังไม่เพียงพอ
เพราะหลายคนคิดว่ามีแต่เด็กวัยรุ่นเสพติดอินเทอร์เน็ตที่ทำเรื่องแบบนี้
การหลงใหลในการเล่นเกมไม่เป็นที่สนับสนุน
แต่หากอยู่ในฐานะอีสปอร์ต จะคิดกันว่าต้องสู้ให้สุดตัว
บางทีอาจไม่มีใครรู้ว่า ในปี 2005 เคยมีเกมเมอร์ระดับแชมป์ คนหนึ่ง
คลุมธงชาติไว้บนตัว สามารถเอาชนะและสร้างเกียรติภูมิได้ไม่รู้จบ
เสียงพิธีกรดังมาเนิบ ๆ เหมือนกำลังเล่าเรื่องให้ฟัง
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ชัยชนะก็ไม่เคยเป็นของทีมชาติจีนอีกเลย
“ผมเชื่อว่าปีนี้จะไม่เหมือนเดิม”
นี่เป็นสิ่งที่ผู้บรรยายเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นหน้าจอ
และในเวลาเดียวกัน
ที่ตึกหลินกรุ๊ป ห้องประชุมมหาวิทยาลัย A ตำบลเล็ก ๆ ห่างไกลใน
เขตธิเบต สวนสนุกของลูกเศรษฐี คฤหาสน์ของตระกูลเฟิง รวมถึง
ท่ามกลางเรือกสวนไร่นา
หลินเฟิง อวิ๋นหู่ อินอู๋เย่า โคโค่ เฟิงซ่าง และหลินเฉินทาวล้วนแต่
ได้รับแท็บเล็ตในเวลาเดียวกัน
เมื่อเปิดออกดู เห็นบนนั้นมีประโยคเดียวเขียนไว้เท่านั้น
สามวันก่อน ฉินมั่วถูกเรียกตัวกลับประเทศ
ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าน่าจะมีภารกิจให้ทำ แต่ไม่คิดว่าพ่อเขาไม่ได้
เรียกกลับมาเพราะเรื่องทางการทหาร ทว่าพาคนอื่นมาหาเขา
ฉินมั่วรู้จักคนคนนั้น แววตาเขาเฉยชา เอ่ยเพียงว่า “ไม่สร้างทีมใหม่”
คนคนนั้นยังไม่ทันได้เอ่ยปากก็ถูกอุดปากเสียแล้ว ต้องออกไปโทรศัพท์
แล้วกลับมาเอ่ย “ไม่สร้างทีมใหม่ครับ คุณฉินมั่ว คุณยินดีกลับมาไหม
กลับมาสร้างทีมจีน แล้วพานักกีฬาของพวกเราลงแข่งเป็นตัวแทน
ประเทศ”
ฉินมั่วชะงักไปนิด “ให้ผมนำทีม? ใครเป็นคนเลือกลูกทีม ผมหรือ
เปล่า”
“เอ่อ…” คนคนนั้นออกไปโทรศัพท์อีกครั้ง เมื่อกลับมาก็ตอบว่า “ขอ
แค่อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ก็แล้วแต่คุณฉินจะเลือกเลย ทางเรามีลิสต์
รายชื่อให้”
ฉินมั่วลุกขึ้นยืน “รายชื่อที่พวกคุณเสนอมา ผมไม่สนใจสักคน ใน
การแข่งอีสปอร์ต การเล่นเข้ากันได้รวมถึงชัยชนะเป็นสิ่งที่สำคัญ
ที่สุด คุณคิดว่ายังไง?”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ” คนคนนั้นยังคิดจะแนะนำเด็กใหม่ให้อีก “แต่
สองคนนี้ไม่เลวเลย คุณฉินมั่วจะดูก่อนไหม?”
ฉินมั่วขมวดคิ้ว กวาดตามองกระดาษในมืออีกฝ่าย หนึ่งในนั้นมีชื่อ
แบล็กพีช T และลั่วลั่วอู๋เสียอยู่ในลำดับต้น ๆ
เขาเงยหน้าขึ้นมองคนคนนั้น บารมีน่าเกรงขามจนไม่มีใครกล้าสบตา
ด้วย “นี่เป็นรายชื่อที่พวกคุณเสนอมาเหรอ?”
คนคนนั้นเอ่ย “เด็กใหม่พวกนี้ฝีมือใช้ได้เลย ชื่อเสียงก็ดีด้วย คุณฉิน
ผมรู้ว่าคุณผูกพันกับคนกลุ่มนั้น ย่อมต้องอยากเลือกคนที่คุ้นเคยมา
ร่วมแข่งด้วย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน หวังว่าคุณจะเห็นแก่ส่วนรวม
เป็นหลัก”
“แน่ใจนะครับว่าทางคณะกรรมการคิดอย่างนั้น” ฉินมั่วฟังจบแล้ว
เอ่ยเสียงเฉยชากว่าเดิม “มาหาผม ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของผม”
คนคนนั้นหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน แต่นอกจากการแข่งขันแล้ว การ
สนับสนุนเด็กใหม่ก็สำคัญมาก จริงไหมครับ?”
“ได้” ฉินมั่วเหลือบมอง “งั้นให้พวกเขาสองคนร่วมมือกันเอาชนะ
Bey ให้ได้ก็พอ”
คนคนนั้นอึ้งไป “เอ่อ มันยากไปหน่อยมั้งครับ”
“ไหนว่าจะให้สนับสนุนเด็กใหม่ไง?” แววตาฉินมั่วลึกล้ำ “หรือจะ
ให้ผมสอนเองกับมือ”
สีหน้าของคนคนนั้นน่าดูชม “เรื่องนี้…”
ตอนที่ 2179
ฉินมั่วกวาดตามอง รูปคางยังคงดูดีมากเหมือนเดิม “นี่อะไร?”
คนคนนั้นยิ้มตอบ “สองคนนี้ประสบการณ์น้อยแต่มีอนาคตไกล รอ
จนคุ้นเคยแล้วค่อยให้พวกเขาลองแข่งกับคุณก็ได้”
“ได้” ฉินมั่วซุกมือข้างหนึ่งลงกระเป๋ ากางเกง ก่อนเดินไปหา “คุณ
ไปบอกกับคณะกรรมการนะว่า เมื่อไรที่คุณโดนไล่ออก เราค่อยมา
คุยกันเรื่องการแข่งอีกครั้ง”
คนคนนั้นหน้าแข็งทื่อ “คุณฉิน นี่คุณคิดจะรังแกเด็กใหม่เหรอ”
“รังแก?” ฉินมั่วหันไปมองแล้วพลันหัวเราะขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วย
ความเย็นชา “ผมเกลียดคนที่ชอบแอบเล่นลูกไม้ หน้าไหว้หลังหลอก
อย่างพวกคุณเป็นที่สุด”
คนคนนั้นแก้ตัวอย่างรวดเร็ว “คุณฉินมั่ว อันที่จริงถ้าคุณไม่เห็นด้วย
กับสิ่งที่ผมเสนอ คุณไม่ต้องรับก็ได้ ไม่เห็นต้องพูดแบบนี้เลย ยังไง
ผมเองก็เป็นแฟนคลับที่ชอบพวกคุณนะ”
ฉินมั่วซุกมือข้างหนึ่งในกระเป๋ ากางเกง เอ่ยเสียงราบเรียบว่า “อ้อ?
ชอบ งั้นก็พูดกันง่ายหน่อย คุณไสหัวไปแล้วผมจะกลับมา”
คนคนนั้นรีบสะบัดตัวเดินไปพลางต่อสายแจ้ง บอกว่าฉินมั่วไม่ยินดี
ลงแข่ง หยิ่งโอหังเกินไป เขากล่อมอย่างไรก็ไม่ฟัง
ฉินมั่วได้ยินแล้วสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงเลย
ผ่านไปหลายนาที คนคนนั้นก็โดนหิ้วกลับมา
ฉินมั่วจัดแขนเสื้อ มองอีกฝ่ายด้วยแววตาเรียบนิ่งทว่าเย็นเยียบมาก
คนคนนั้นกำลังคิดจะลุกขึ้น ฉินมั่วก็เดินไปหยุดตรงหน้า มือขวาถือ
โทรศัพท์มือถือโทรออกต่อหน้าคนคนนั้น
เมื่อเห็นเบอร์ที่ชายหนุ่มโทรออก ชายคนนั้นหน้าซีดเผือด “คุณฉิน
มั่ว ผม…”
“ฮัลโหล” ฉินมั่วไม่สนอีกฝ่าย พูดด้วยเสียงเรียบเหลือเกิน
“ผู้อำนวยการจางครับ ผมเอง”
“ได้ยินหัวหน้าหยางบอกว่าคุณไม่ยอมลงแข่ง มีปัญหาอะไรที่ยังไม่ได้
แก้ไขหรือเปล่า?” เสียงจากปลายสายดูจะเสียดายมาก
ฉินมั่วมองหน้าผากของคนบางคน มองอีกฝ่ายที่ไม่สบายใจโดยจิต
ใต้สำนึก อารมณ์ของชายหนุ่มยังไม่เปลี่ยนแปลง “หัวหน้าหยาง
แนะนำคนใหม่ให้ผมรู้จักสองคน ผมฟังแล้วอยากจะแข่งกับพวกเขา
ก่อนน่ะครับ เพราะยังไงหัวหน้าหยางก็บอกว่าคนเก่า ๆ ไม่ไหวแล้ว
ได้เวลาเอาสายเลือดใหม่เข้ามา ไม่งั้นจะถือว่าคนเก่า ๆ อย่างพวกผม
ข่มคนใหม่”
ผู้อำนวยการจางได้ยิน ก็รู้ว่าลูกน้องทำเสียเรื่องแล้ว
ทำไมถึงไปหาฉินมั่ว? หัวหน้าหยางไม่เข้าใจหรือไง!
นอกจากชายหนุ่มแล้ว ไม่มีใครแบกธงชาติของประเทศลงแข่งอี
สปอร์ตระดับประเทศได้
อยากจะให้คนเหล่านั้นกลับมา มีแค่ฉินมั่วเท่านั้นที่ทำได้!
แล้วนาทีหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ยังจะยัดคนเข้ามาอีก!
ผู้อำนวยการจางรู้เรื่องภายในเป็นอย่างดี มีคลับและทีมที่อยากอยู่
เหนือทีมไดมอนด์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก
เป็นไปไม่ได้ที่จะเหมือนเดิมทั้งหมด
แต่เรื่องแบบนี้หากเกิดขึ้นตอนปกติก็ยังพอว่า ทว่านี่เป็นการแข่งที่
ใหญ่ขนาดไหน หัวหน้าหยางไม่รู้เลยหรือ?
ผู้อำนวยการจางสูดลมหายใจลึก “รอให้เขากลับมาแล้ว ผมจะให้เขา
เขียนใบลาออก”
“ใบลาออกน่ะต้องเขียนอยู่แล้ว” เสียงของฉินมั่วยังไม่เปลี่ยนแปลง
“แต่ผมคิดดูแล้ว มีอย่างหนึ่งที่หัวหน้าหยางพูดถูก การแข่งชิงแชมป์
โลกในครั้งนี้ไม่สามารถเลือกจากประสบการณ์การแข่งของผู้เล่นได้
ถ้าจะเข้าทีมต้องแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา แต่เมื่อหัวหน้าหยางรู้สึก
ว่าคนเก่าแก่อย่างพวกผมกำลังรังแกเด็กใหม่ แฟนคลับบางคนจะกลัว
ก็ถูก”
หัวหน้าหยางได้ยินแล้วไม่ค่อยเข้าใจ นี่แก้ตัวแทนเขาเหรอ?
ผู้อำนวยการจางกลับขมวดคิ้ว “แล้วคุณคิดจะทำยังไง?”
“บอกผมหน่อยว่าพวกเขาจะไลฟ์สดเมื่อไร” ฉินมั่วเข้าใกล้ ก้มลง
มองหัวหน้าหยาง “ผมจะใช้แอคเคาท์สำรองไปเล่นกับเด็กใหม่ทั้ง
สองคน จะได้ไม่เสียแรงที่หัวหน้าหยางอุตส่าห์ลำบาก”
ตอนที่ 2176
บทสรุปที่ลงตัว (หวานนิด ๆ )
“คู่จิ้นฉินจิ่งน่ะเหรอ” ลั่วลั่วหลุดหัวเราะออกมา “พวกหัวหน้าดัง
ออก ฉันเกือบเป็นแฟนคลับคู่จิ้นของหัวหน้าด้วย คุณอาทั้งสองเลี้ยง
หัวหน้าไม่เหมือนพ่อแม่คู่อื่นเลย คงเพราะตอนนั้นหัวหน้าเอาแต่
สนใจฉินมั่วใช่ไหม”
เซียวจิ่งหันมอง “ก็แค่วิเคราะห์คู่แข่งเท่านั้น น่าตลกมากเหรอ?”
“นิดหน่อย” ลั่วลั่วเป็นคนที่พูดอะไรตรง ๆ ต่อหน้าเขาเสมอมา ฟัน
ขาวนัยน์ตาสดใสดูสวยมาก “แล้วคุณอาทั้งสองยังทำอะไรอีกบ้าง
เพราะเรื่องนี้”
มือของชายหนุ่มไม่ห่างจากเส้นผมเธอเลย เอาแต่พันนิ้วเล่นอยู่นั่น
“ก็ถามอ้อม ๆ ว่าฉินมั่วมีความสำคัญในหัวใจฉันเท่าไร”
ลั่วลั่วได้ยินแล้วขำจนไหล่สั่น “ก็เหมือนเกย์จริง ๆ นั่นแหละ”
น่าจะอัดเสียงไว้ให้จิ่วฟัง
เซียวจิ่งมองคนข้างตัว กระเถิบเข้าใกล้ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วต่ำ “คืนนี้
ลองดูสิ”
“ลอง?” ลั่วลั่วตั้งตัวไม่ทัน ยิ้มด้วยความสงสัย
เจียงจั่วประทับรอยจูบลงบนเส้นผมเธอ “ลองทดสอบกับเธอดู ว่า
ฉันเป็นเกย์หรือไม่ใช่กันแน่”
ห้วงเวลานั้น ลั่วลั่วเหมือนโดนอะไรร้อน ๆ ลวก
หัวใจสั่นไหวหน่อย ๆ ใบหน้าร้อนนิด ๆ
เซียวจิ่งเห็นเสี้ยวหน้าเธอแดงฉ่า เรียวปากบางก็หยักยิ้ม “เจอผู้ใหญ่
ครบหมดแล้ว น่าจะได้แล้วมั้ง”
ทำไมถามเรื่องแบบนี้กับเธออีก
ลั่วลั่วกำลังจะลุกขึ้น เขาก็คว้าข้อมือเธอไว้ก่อน “ไปไหน?”
“กินน้ำ” ลั่วลั่วเบือนสายตาไปอีกทาง ไม่มองหน้าเขาอีก
นี่มันเล่นผิดกติกาชัด ๆ ก็รู้อยู่ว่าเธอต้านทานเสน่ห์เขาไม่ไหว
เซียวจิ่งหัวเราะเบา ๆ “เอาถ้วยชาของฉันไป”
ลั่วลั่วรับมา คิดจะใช้วิธีดื่มชาเบี่ยงเบนประเด็น
เซียวจิ่งเอียงเหลือบมอง “ไม่อยากถามแล้วเหรอว่าต่อมาพ่อแม่ฉัน
พูดอะไรบ้าง?”
“พูดอะไร?” ขอแค่ไม่พูดประเด็นเดิมเป็นพอ
เซียวจิ่งพูดเสียงเรียบ “ถึงเจ้าเด็กตระกูลมั่วจะหน้าตาดี แต่ก็มีแฟน
แล้ว ให้ฉันเตรียมใจไว้หน่อย”
ลั่วลั่วอยากหัวเราะอีก แต่เวลานี้กลับมีเสียงดังขึ้นมาก่อน
“เซียวจิ่ง ลูกพูดอะไรเหลวไหลกับลั่วลั่ว”
คุณแม่เซียวนั่นเอง ตั้งแต่รู้ว่าลูกชายจะพาแฟนสาวมาที่บ้าน หัวใจก็
เบิกบานจนแทบจะโบยบิน
บ้านตระกูลเซียวมาสายงานศึกษาวิจัย นอกจากเรื่องการแพทย์แล้ว
ยังมีเรื่องที่ใช้ได้ในกองทัพ ซึ่งเป็นความลับพอสมควร
ด้วยความที่เป็นคนในเขตทหารด้วยกัน เมื่อลูกชายกลับมาที่บ้านใหญ่
ครั้งนี้ พวกท่านยังกังวลว่าจะกลับมาเพื่อมาหาฉินมั่วเลย
ต้องรู้ไว้ว่าเมื่อสองครั้งก่อน ลูกชายเธอก็กลับมาเพื่อเช็กของให้เจ้า
เด็กฉิน
การปรากฏตัวของลั่วลั่วเปรียบเสมือนดาวช่วยชีวิตโดยแท้
คุณแม่นั่งลง เริ่มบรรยายเรื่องของลูกตัวเองว่าเป็นคนอึมครึมและน่า
เบื่อ แถมไม่รู้จักคำว่าโรแมนติก ขอให้ลั่วลั่วเข้าใจหน่อย ยังพูดอีก
ว่าพวกเธอเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน อาก็ยิ่งสบายใจ
รวมถึงเขาชอบเล่นเกม
สรุปคือพูดเยอะมาก
ลั่วลั่วรู้ดีว่าเหตุการณ์เป็นแบบนี้เพราะใครบางคนในประเด็นที่ยกมา
ล่าสุด
คุณผู้หญิงเซียวใช่ว่าจะไม่เคยคิดมาก่อน ว่าต่อไปจะให้ลูกชายแต่ง
กับคนในแวดวงเดียวกัน
ศาสตราจารย์สองสามคนเองยังเคยพูดกับเธอว่าผู้หญิงที่ทำงานวิจัย
กับเซียวจิ่งไม่เลวเลย
แต่กลับต้องตกใจเพราะปฏิกิริยาของลูกชาย
ทุกครั้งจะบอกว่า ‘ไม่สน’ ตลอด
จะพูดถึงผู้หญิงคนไหนให้ฟังลูกชายก็ไม่สนใจ
เว้นแต่เจ้าเด็กตระกูลฉินที่ทำให้ลูกชายพูดได้สักสองสามประโยค
โดยที่คนอื่นทำไม่ได้
คุณผู้หญิงเซียวกังวลจริง ๆ
ตอนนี้เธอมองหน้าลั่วลั่ว “ว่าแล้วเชียว อาแนะนำคนให้เขารู้จักตั้ง
เยอะ แต่เขาไม่สนใจสักคน”
และในระหว่างที่ลั่วลั่วไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี กริ่งประตูพลันดัง
ขึ้นมา…
ตอนที่ 2177
กลับไปด้วยกัน
“คุณผู้หญิงครับ พัสดุด่วนครับ”
พัสดุด่วน?
คุณผู้หญิงเซียวย่นหัวคิ้ว
เธอไม่ได้เรียกเจ้าหน้าที่พัสดุด่วนมารับของ แถมไม่เคยสั่งของทาง
อินเทอร์เน็ตด้วย ทำไมถึงมีพัสดุได้
“ส่งผิดหรือเปล่า?”
คุณผู้หญิงเพิ่งจะลุกขึ้น ก็ได้ยินเสียงพนักงานส่งของด่วนดังมา “คุณ
ฉินให้ผมเอามาส่งครับ ผมเป็นคนจากบริษัทเมสเซนเจอร์ เขามีของ
จะให้คุณเซียวจิ่งครับ”
เจ้าเด็กตระกูลฉิน?
คุณผู้หญิงมองลูกชายตัวเอง ไหงเจ้าเด็กตระกูลฉินถึงโผล่มาอีก หรือ
ว่าแม้แต่ลั่วลั่วก็เป็นคนที่ลูกเธอ…!
เซียวจิ่งย่อมรู้ว่าแม่ตัวเองคิดอะไรอยู่ “ผมกับลั่วลั่วไม่ได้หลอกใคร
นะครับ ผมไม่ได้เอาเขามาเป็นโล่บังหน้า ต่อไปคิดเชื่อมโยงให้
น้อยลงหน่อยเถอะครับ”
คุณผู้หญิงถูกลูกตัวเองเปิดเผยความคิดก็ไอเบา ๆ “เด็กคนนี้นี่ แม่ไป
คิดเรื่องพรรค์นั้นตั้งแต่เมื่อไร”
ลั่วลั่วที่อยู่ด้านข้างหลุดยิ้มออกมา “เพราะหัวหน้าสนิทกับฉินมั่ว
มากเกินไป จะโทษที่คุณอาเผลอคิดไม่ได้หรอก”
“จริงไหมล่ะ” คุณผู้หญิงหาคนช่วยแก้ตัวให้ได้สักที
เซียวจิ่งเหลือบมอง “ทีเธอซี้กับ Z ฉันยังไม่เคยพูดทำนองนั้นเลย”
ลั่วลั่ว “…”
เซียวจิ่งลุกขึ้นเดินไปหน้าประตู ก่อนจะรับของจากพนักงานส่งของ
ด่วน
เมื่อแกะพัสดุชั้นแรกออก ก็เห็นถุงที่หุ้มสิ่งของเอาไว้ชั้นถัดมา
เขาลูบของผ่านถุงนั้น เซียวจิ่งไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ด้านใน
ดังนั้นจึงมองของที่คล้ายกับแท็บเล็ตก่อนเป็นอย่างแรก
“อะไรเหรอ” ลั่วลั่วเดินมาเช่นกัน
เซียวจิ่งให้เธอดูของในมือ นิ้วเรียวยาววาดผ่าน ก่อนกดเข้าสู่หน้าจอ
แววตาของลั่วลั่วตะลึงอย่างชัดเจน
เธอหันมองสีหน้าของชายหนุ่มตามสัญชาตญาณ เหมือนมีอารมณ์
บางอย่างพัดโหมในหัวใจ
เซียวจิ่งกดปุ่มหยุด นัยน์ตาลุ่มลึกจับจ้องที่ใบหน้าของเธอ
ลั่วลั่วเอ่ยเร่งเขา “ทำไมไม่ดูให้จบล่ะ”
เซียวจิ่งตอบเสียงเรียบ “ก็ลาออกแล้ว ไม่มีอะไรน่าดู”
เธอยังคงมองชายหนุ่ม ก่อนจะยิ้มให้ “หัวหน้ากลัวว่าไม่มีฉันใน
รายชื่อ แล้วฉันจะเสียใจล่ะสิ ถึงได้ไม่ดูต่อ”
มือที่จะวางแท็บเล็ตกลับไปของเขาชะงัก นัยน์ตาหนักอึ้ง “ถ้าไม่ได้
เล่นด้วยกันแล้วจะมีความหมายอะไร”
ลั่วลั่วมองเขา มีไฟลุกโชนในดวงตา “จะไม่มีความหมายได้ยังไง ต่อ
ให้ฉันไม่ได้ลงแข่งในฐานะสมาชิกทีม ก็ยังไปเป็นแฟนคลับหัวหน้า
ได้ อย่างน้อยก็ยังไปสมัครเป็นผู้ช่วยได้ เพราะฉันมีพื้นฐานการเล่น
เกมอยู่”
“ฉันเข้าใจ” เซียวจิ่งดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆ “งั้นก็ดี ฉันจะ
กลับไป”
ลั่วลั่วหัวเราะ คึกคักเหมือนไฟที่โหมไหม้ ใบหน้าสวยราวภาพวาด
เหมือนตอนที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนเป็นครั้งแรก มีคนเคยบอก
ว่าเธอหน้าตาเหมือนตัวละครในเกมบางตัวที่สุด
ในเวลาที่ตัวละครของเธอถือไม้กายสิทธ์ิหรือแบกปืนกลเข้าโจมตี
ในเกม ไม่มีใครไม่ตกใจออร่าที่แข็งแกร่งบนตัวเธอ
จะสมัครเป็นผู้ช่วยเหรอ
เซียวจิ่งหลุบตาลง “ในรายชื่อต้องมีเธอแน่”
ลั่วลั่วยังไม่ทันพูด เซียวจิ่งไม่ได้แตะแท็บเล็ตอีก แต่ทำตามที่คำแนะนำ
ด้านบน หิ้วถุงพัสดุส่งด่วนด้านข้างมาแล้วแกะออก
จากนั้นของที่อยู่ด้านในก็ร่วงลงมา
“นี่มัน…เสื้อทีมนี่?” ลั่วลั่วหยิบขึ้นมาดู
แววตาของเซียวจิ่งเป็นประกาย “จริงด้วย เป็นเสื้อทีม แล้วมีสองชุด”
สองชุด ก็หมายความว่า…ลั่วลั่วเงยหน้า
เซียวจิ่งคลี่ชุดสีดำสลับแดงออก ชื่อทีมตัวใหญ่ปรากฏตรงหน้า
ไม่ใช่เซียงหนาน แล้วก็ไม่ใช่ไดมอนด์ แต่เป็น…
ตอนที่ 2174
เรายังแข่งไม่เสร็จ
ห้วงเวลาดังกล่าว หมอกหนาทึบในใจที่อยู่มานานจางหายไป
นับจากวันที่ลั่วลั่วลาออก หัวใจของจ้าวซานพั่งก็เหมือนไร้พลัง
นักเวทอันดับหนึ่งของเซิร์ฟระดับประเทศกลับต้องมาลาออกด้วยวิธีนี้
นอกจากพวกเขาแล้วไม่มีเข้าใจหรอกว่าสามเหลี่ยมทองคำหมายความ
ว่าอย่างไร
สำหรับคนที่ชอบดูละคร ขอแค่ละครเหล่านั้นมีลักษณะคล้ายกันก็ยัง
ชอบได้
ดังนั้นจึงไม่เป็นอะไรเมื่อใครจากไป
แต่สำหรับเขาแล้ว นั่นคือลั่วลั่ว มีแต่ลั่วลั่ว
ต่อไปมีใครมาแทน ก็ไม่มีวันเป็นสามเหลี่ยมทองคำได้
จ้าวซานพั่งปลดผ้ากันเปื้อนออก แววตาลุ่มลึก “ฉันถามนายหน่อย
ทำไมนายไม่จัดการคนพวกนั้นซะ ไม่น่ายากสำหรับนายนี่นา”
ป๋อจิ่วหันมอง ตรงหางตามีประกาย “คนเขาขุดหลุมให้นายกระโดด
นายก็จะกระโดดงั้นเหรอ?”
จ้าวซานพั่งทำเสียงจิ๊จ๊ะ “นายพูดให้ชัดหน่อยซิ”
“ฉันหมายความว่า นายอย่าไปถือสากับความชอบของคนเลย” หน้า
สวย ๆ ของเธอประดับรอยยิ้มบาง “บางคนวันนี้ชอบเรา พรุ่งนี้ก็ชอบ
คนอื่นได้ นายไม่เข้าใจถ่องแท้ การที่นายกับเทพเซียวลาออกด้วยกัน
ก็เพราะตามไม่ทันรูปแบบของโลกในตอนนี้ มีคนเหมาะสมกว่าพวก
นาย พวกเขารู้ดีว่าจะเดินแต่ละก้าวยังไง ถึงได้เกิดสถานการณ์แบบนี้
ขึ้น ถ้าฉันกระโดดลงไปก็เท่ากับช่วยสร้างความโดดเด่นให้พวกนั้น
น่ะสิ? ท่านอ้วน ความชอบบางอย่างก็แค่เพราะพวกเขาชอบตัวเอง
ตอนที่ไล่ตามเท่านั้นเอง ดังนั้นตอนพวกเขาบอกว่าไม่มีใครแทนที่
นายได้ ก็จะหาคนที่คล้ายนายเพื่อสนองความชอบของตัวเองด้วย มัน
ก็ปกติจะตายไม่ใช่เหรอ ถ้านายผูกมัดตัวเองด้วยเรื่องแบบนี้ ต่อไป
จะกุมเมาส์เล่นเกมยังไง?
แววตาจ้าวซานพั่งอ่อนลงเล็กน้อย “เราถึงทำอะไรคนพวกนั้นไม่ได้
งั้นเหรอ”
“ท่านอ้วน” แววตาของป๋อจิ่วลุ่มลึก “เคยดูเรื่อง Animal World ไหม?”
จ้าวซานพั่งเอ่ย “หนังเรื่องนั้น?”
ป๋ อจิ่วยิ้มร้าย “มันสร้างมาจาการ์ตูน สงครามที่ต้องสู้ พวกเรายังสู้ไม่
จบศึก บางทีวันหนึ่งอาจต้องพ่ายแพ้ แต่พวกเราก็ต้องรักษาหลักการ
ของตัวเองเอาไว้ ไม่ใช่ว่าทำอะไรพวกนั้นไม่ได้ แต่ไม่อยากเป็นคน
ประเภทเดียวกับพวกนั้นต่างหาก”
จ้าวซานพั่งสะท้านไปทั้งตัว ช้อนตาขึ้นมองนิด ๆ “ฉันจะกลับไป”
“ได้” ป๋ อจิ่วบิดขี้เกียจ “ถือว่าภารกิจสำเร็จแล้ว ได้ฝึกฝีปากเยอะเลย”
จ้าวซานพั่งบอก “นายยังต้องฝึกฝีปากอีกเหรอ แล้วทำไมเป็นนาย
ที่มาหาฉัน เจ้าฉินจอมแผนการล่ะ เขาควรรับผิดชอบเรื่องนี้สิ”
“ฉันมาก็ไม่แตกต่างกันไม่ใช่เหรอ” เสียงพูดของป๋ อจิ่วยานคาง “ยังไง
เขาก็เป็นผู้ชายของฉันนี่นา”
จ้าวซานพั่งหัวเราะ “แล้วเขาล่ะ?”
ป๋อจิ่วเคาะแท็บเล็ตที่อยู่กลางมืออีกฝ่าย “ก็ต้องไปหาคนอื่นน่ะสิ…”
ตอนบ่าย ที่เจียงเฉิง
“แกรก แกรก!”
เสียงพิมพ์จังหวะรุนแรงดังสะท้อนอยู่ในอากาศ
บรรยากาศของอินเทอร์เน็ตบาร์เหมือนจะเป็นแบบนี้กันหมด
มีกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
รวมถึงเสียงที่ดังขึ้นมาเป็นระยะ ๆ “มังกร มังกร มังกร! พวกเขา
กำลังตีมังกร!”
พนักงานดูแลที่เดินผ่านสะดุ้งตกใจ
“เผลออีกแล้ว?”
“ต้องเล่นสกปรกหน่อยจริง ๆ แหละ”
“น้อง ขอโค้กกระป๋ องหนึ่ง!”
“รอแป๊ บ!” พนักงานดูแลร้านเป็นคนใหม่ที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึง
ครึ่งเดือน ก็คิดแล้วอยู่ว่าเจ้าของบาร์ดูไม่เหมือนเจ้าของเอาเสียเลย
เอาแต่นั่งนัยน์ตายิ้มอยู่ที่เคาน์เตอร์ ทว่าวินาทีถัดมากลับทำให้รู้สึก
ถึงความกดดันแบบที่ต่างไปจากเดิม
“เฮีย”
“เฮียยังไม่กลับมา เรียกฉันว่าตัวแทนเฮีย”
พนักงานส่งเสียงรับรู้ “ตัวแทนเฮีย ช่วงนี้เหมือนมีหลายคนรวมตัว
กันเล่นเกมเลเจนด์อะ เพราะอะไรเหรอ”
เพราะอะไร?
เหราหรงชะงักมือ ก็เพราะ…
ตอนที่ 2175
เหราหรงกำลังจะตอบ
เสียงประตูเปิดพลันดังมาจากอีกด้าน
คนดูแลร้านหันไปมองก็เห็นคนเดินเข้ามา
ชายคนนั้นสวมชุดกันลมสีเข้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไว้ด้านใน ให้
ความรู้สึกว่าสูงส่งต้องห้าม
ใบหน้าหล่อคมสันถูกผ้าปิดปากสีดำบดบังไปครึ่งหนึ่ง ผิวที่ขาว
สะอาดและรูปร่างสมบูรณ์แบบเหมือนหยกลายคราม ทำให้เจ้าตัว
เหมือนตัวละครที่เดินออกจากในการ์ตูน ขาของเขาเรียวยาว ร่างสูง
ตรง แววตาเคลือบความเฉยชาไว้บาง ๆ
แม้จะมีเสียงดังรอบด้าน แต่เหมือนจะไม่ส่งผลอะไรต่อเขา
ผู้ดูแลร้านยังนึกว่าทำไมคุณชายตระกูลสูงศักด์ิแบบนี้ถึงมาที่
อินเทอร์เน็ตบาร์ได้?
จากนั้นจึงเห็นชายคนนั้นเดินเข้ามาช้า ๆ
ผู้ดูแลยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่บรรยายไม่ถูกเสีย
แล้ว
เหมือนพวกบอสใหญ่ในการ์ตูนเกินไปแล้ว
“คุณลูกค้า…” ผู้ดูแลยังพูดไม่จบ ก็ได้ยินเจ้านายพูดด้วยเสียงกลั้วยิ้ม
ดังมาเนิบ ๆ “ทำไมถึงกลับมาล่ะ?”
รู้จักกันด้วย?
ผู้ดูแลร้านร้องในใจ เจ้านายไม่เหมือนเจ้าของอินเทอร์เน็ตบาร์จริง ๆ
ด้วย กระทั่งคนที่รู้จักยังไม่ธรรมดา
ชายคนนั้นถอดผ้าปิดปากออก ความรู้สึกหนาวเหน็บยิ่งเด่นชัดขึ้น
หากไม่ใช่ฉินมั่วแล้วยังจะเป็นใครไปได้ “จะคุยตรงนี้หรือเปล่า?”
หน้าจอยักษ์ของร้านกำลังฉายคลิปที่เขาใช้สกิลสามพันดาบประหาร
ตอนแข่งระดับเอเชีย รวมถึงเสี้ยวหน้าที่โผล่แวบหนึ่งในเวลานั้น
ผู้ดูแลมองหน้าจอแล้วหันกลับมามองชายหนุ่ม ตาเบิกถลน
เขา เขาคือ…ท่าน ท่านเทพ!?
“ผู้ดูแล โค้กฉันล่ะ!”
คนทางโน้นลุกขึ้นมา
ผู้ดูแลร้านคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า ตอนหยิบโค้กเย็น ๆ ก็
ยังรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง สะดุดขาโต๊ะไปถึงสองครั้ง
รอจนเขากลับมาอีกที ชายคนนั้นก็ไม่อยู่ที่เคาน์เตอร์แล้ว แม้แต่เจ้านาย
ก็พลอยหายไปด้วย
อะไรกันเนี่ย?
เขาเพิ่งจะได้เห็นเทพฉินจริง ๆ ใช่ไหม
เขาก้มหน้าโพสต์ลงในโมเมนต์ของวีแชท ‘ฉันฝันไปหรือเปล่า ได้
เห็นเทพฉินในร้านเน็ตด้วย! บ้าเอ๊ย ตัวจริงหล่อเป็นบ้า!’
ไม่นานก็มีคนตอบกลับ ‘เพื่อนเอ๊ย นายมันฝันว่ะ จะเป็นไปได้ยังไง’
อันที่จริงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเบื้องหลังของร้านนี้เป็นที่รับรู้
กันแค่แฟนคลับทีมไดมอนด์ในช่วงเวลานั้น
ต่อมาเมื่อเปลี่ยนผู้บริหารร้านก็ไม่ได้มีใครมาที่นี่โดยเฉพาะอีก
ทว่าพวกเขาไม่รู้ คนบริหารร้านที่มาใหม่ก็คือเหราหรง หนึ่งในสาม
สุดยอดหัวหน้าทีม ตัว CC อันดับหนึ่งของเซิร์ฟประเทศ
และในเวลาเดียวกัน ที่บ้านตระกูลเซียว
แต่ละคนยิ้มแย้มแจ่มใสกันหมด
“คุณชายกับคุณนายน้อยรอสักครู่ คุณผู้หญิงรออยู่ข้างบนครับ เตรียม
ตัวอยู่เดี๋ยวจะลงมา”
“ได้” เซียวจิ่งพาคนไปนั่ง
ใบหน้าของลั่วลั่วร้อนผ่าวเพราะคำเรียกว่าคุณนายน้อย…
สามเดือนแล้ว
ตอนลั่วลั่วรู้ว่าต้องไปเจอพ่อกับแม่ของหัวหน้า หัวใจก็ตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ
เพราะครอบครัวส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการศึกษา
ตอนนี้เธอตึงเครียด พูดกับเซียวจิ่งว่า “ต้องโทษที่เมื่อก่อนฉันไม่
ตั้งใจเรียน”
เซียวจิ่งมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะรั้งเธอมาแล้วก้มลงจูบ “แค่ฉัน
ไม่ได้เป็นเกย์ พวกท่านก็ดีใจมากแล้ว”
คนที่พูดอ้างแบบนี้ได้เพื่อปลอบใจคนรัก คงมีแค่เซียวจิ่งคนเดียว
ลั่วลั่วยิ้ม ๆ สวยหวานเหลือเกิน “คุณอาผู้ชายกับคุณอาผู้หญิงสงสัย
ว่าหัวหน้าเป็นเกย์เหรอ?”
“นอกจากจะสงสัยว่าฉันเป็นเกย์ ยังวางหนังสือวิชาการด้านนี้ไว้ให้
ฉันอ่านเยอะแยะ ตอนเรียนมอปลายยังจงใจวางไว้ตรงที่ฉันจะมองเห็น
กลัวว่าฉันจะมีอะไรกับฉินมั่ว” ชายหนุ่มม้วนเส้นผมอีกฝ่ายเล่น
เวลานี้เขาที่สวมชุดกาวน์ไม่เหมือนนักวิชาการขนาดนั้นแล้ว แต่
กลับชวนให้คนเห็นคันยุบยิบที่ใจเพราะรอยยิ้มตรงมุมปาก…
ตอนที่ 2172
เธอไง สาวน้อยป๋อจิ่ว
อ้วนหล่ออันดับหนึ่งของโลก?
คำเรียกนี้ทำให้จ้าวซานพั่งที่กำลังหันหลังเดินเข้าครัวตัวแข็งทื่อ
กลางทรวงอกที่เย็นวาบเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังร้อนขึ้น
จ้าวซานพั่งกำมือแน่น หันกลับมาดู พลันมีแสงอ่อน ๆ สาดส่องเข้ามา
เวลานั้นเหมือนจะมีไฟลุกโชน
คล้ายมีแสงสว่างสะท้อนเข้าสู่นัยน์ตาดำขลับของคนคนนั้น
อีกฝ่ายยังมีรูปร่างเป็นเด็กวัยรุ่น สวมชุดเครื่องแบบของพนักงานส่ง
ของด่วน ร่างสูงเพรียว บนหัวสวมหมวกไว้ พอจะเห็นบางอย่างสี
เงินโผล่ออกมา
ตรงใบหูยังสวมตุ้มหูดำ กำลังเปล่งประกายแวววาว
ปีกหมวกปิดบังเสี้ยวหน้ามีเหลี่ยมมุมไว้ เหลือเพียงแนวคางน่าหลงใหล
โผล่ออกมาเท่านั้น
เห็นเพียงคนคนนั้นยกริมฝีปากบางยิ้มอย่างร้ายกาจ ปลายเท้าเหมือน
เหยียบอยู่บนทางช้างเผือก
ตอนมองเขามีท่าทีเกียจคร้านปนหยอกล้อ
“เฮ้ย เฮ้ย!”
นี่คือสิ่งแรกที่จ้าวซานพั่งทำ
จากนั้นก็ปลดผ้าปิดปากอย่างตื่นเต้น ลืมกระทั่งคนรอบด้านไป “เจ้า
แบล็ก! เป็นนายได้ไง! กลับมาตั้งแต่เมื่อไร?”
เจ้าแบล็ก?
เหล่าเด็กสาวที่กินข้าวกันอยู่ได้ยินแล้วหันมามองทางนี้ทันที เห็นแต่
‘พนักงานส่งของ’ ยกมือถอดหมวก เส้นผมสีเงินปรกลงมาเหมือน
แสงสาดสว่าง
เด็กวัยรุ่นคนนั้นเสยผมสีเงินไปด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าสมบูรณ์
แบบเหมือนปีศาจร้าย
นัยน์ตาคู่นั้นสวยเหลือเกิน
เก่งเรื่องการปลอมตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“ตอนแรกคิดจะมาส่งพัสดุให้แบบเงียบ ๆ เห็นนายหล่อขนาดนี้ ก็
เลยอดโผล่หน้าออกมาไม่ได้” ป๋อจิ่วแยกยิ้มบางตรงมุมปาก ซุกมือ
ซ้ายลงกระเป๋ า มือขวาถือกล่องไม้เล็ก ๆ ไว้ คล้ายกับผู้นำปีศาจใน
การ์ตูน
เหล่าสาว ๆ มองจนตะลึง ทุกอากัปกิริยาเหมือนเป็นภาพช้า
แบล็ก แบล็กพีช Z!
แบล็กพีช Z จริง ๆ ด้วย!
ป๋อจิ่วไม่มองพวกเธอ เดินช้า ๆ ไปหาจ้าวซานพั่ง เลิกคิ้วเล็กน้อย
“ท่านอ้วนไม่ดูหน่อยเหรอว่าฉันเอาอะไรมาให้?”
“เดี๋ยวก่อน!” จ้าวซานพั่งมองด้านหลังเธอ “นายไม่ได้มาคนเดียวแน่
คู่ปรับตัวร้ายของฉันล่ะ เจ้าฉินจอมวางแผน ฉินหน้าไม่อายล่ะ เขา
อยู่ไหน?”
ป๋ อจิ่วคล้ายรู้สึกปวดหัว “ช่วงนี้เขาเย็นชากับฉันมาก หมาโสดอย่าง
นายไม่มีวันปวดหัวเหมือนฉันหรอก”
จ้าวซานพั่ง…ฉันถามว่าเขาอยู่ไหน ไม่ได้ให้นายมาเอามีดมาเสียบ
หัวใจฉัน ตอนนี้อยากโยนเจ้านี่ออกไปจังทำไงดี!
“แต่ฉันไม่ได้มาแค่คนเดียวจริง” ป๋อจิ่วหันไป มีเด็กสะพายเป้เดินเข้า
มาจากอีกฝั่งหนึ่ง พร้อมถือถุงของกินไว้ในมือ เป็นของที่อาจารย์เธอ
ซื้อจากข้างทางให้ทั้งนั้น ทำให้เด็กน้อยอยากถอนใจเหลือเกิน
แต่เพราะใบหน้านั่นสวยได้รูป ไร้ซึ่งอารมณ์ ดู ๆ แล้วจึงทำให้คน
รู้สึกว่าน่ารักไปอีกแบบ
“น้องหน้านิ่งก็มาด้วยเหรอ!” จ้าวซานพั่งทำท่าจะเข้าไปลูบหัว ต้องรู้
นะว่าเขาชอบเจ้าเด็ก Bey จะตาย
ป๋ อจิ่วออกมาขวาง “ท่านอ้วน นี่มันลูกศิษย์ฉัน จะลูบหัวก็ได้ แต่ครั้ง
ละร้อยหยวนนะ”
จ้าวซานพั่งได้ยินแล้วมุมปากกระตุก ความชั่วร้ายสามารถสืบต่อกัน
ได้เป็นพันปีจริง ๆ ด้วย ความบ้าเงินก็เช่นกัน
“พูดเป็นจริงเป็นจังนะ นายกลับมาทำไม หรือว่า…” จ้าวซานพั่งมอง
พวกเด็กสาวที่ไร้วิญญาณแวบหนึ่ง “เพราะเรื่องพวกนี้?”
ป๋อจิ่วพลันหัวเราะตามจังหวะที่อีกฝ่ายหันไปมอง
รอยยิ้มนั่นยั่วยวนเหลือเกิน
“ท่านอ้วน” ป๋ อจิ่วเอ่ยช้า ๆ ดูร้ายกาจ “ในสายตาของฉัน พวกนี้ก็แค่
ทำตามวิสัยมนุษย์ มีคนสร้างเรื่องดราม่าก็มีคนตามดู นายว่ามีค่า
พอจะให้ฉันวิ่งแจ้นมาเหรอ ฉันมาก็เพราะนายต่างหาก”
ตอนที่ 2173
กลับมาเขย่าบัลลังก์อีสปอร์ตอีกครั้ง
จ้าวซานพั่งไม่เข้าใจและเลิกคิ้วขึ้น “เพราะฉัน? นายคงไม่ได้หลงใน
ความหล่อของฉันหรอกนะ ฉันรู้ว่าฉันหล่อมาก แต่ตอนนี้ยังไม่คิด
จะแย่งแฟนของฉินเจ้าแผนการ”
ป๋ อจิ่วหัวเราะครั้งหนึ่ง “ท่านอ้วน วางใจเถอะ นายหล่อขนาดนี้ ฉัน
ไม่บังอาจหรอก”
“งั้นเพราะอะไร อยากเรียนทำครัวเหรอ” นิสัยพูดเยอะของจ้าวซานพั่ง
กำเริบอีก “งั้นนายก็มาถูกที่แล้ว จะบอกให้นะว่าฉันทำมะเขือเทศผัด
ไข่ได้อร่อยสุด ๆ”
ป๋ อจิ่วไม่แยแส “คนมีแฟนแล้วไม่จำเป็นต้องเรียนทำกับข้าว ยิ่งฉัน
ยังมีลูกศิษย์คนเก่งอีก”
จ้าวซานพั่ง…คุยต่อไปไม่ไหวแล้วเว้ย!
“ดูพัสดุก่อนเถอะ” ป๋ อจิ่วยิ้มมุมปาก “แล้วจะเข้าใจทั้งหมด”
พัสดุเหรอ
จ้าวซานพั่งมองกล่องไม้เล็ก ๆ ในมือขวาของเธอ
เขารู้สึกว่าการที่ฉินเจ้าแผนการไม่มาด้วย ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ แล้ว
กล่องไม้นี่ใส่อะไรเอาไว้กันแน่?
จ้าวซานพั่งยื่นมือไปเปิดออก ก็เห็นของที่คล้าย ๆ แท็บเล็ต แต่ดูบาง
เล็กกว่าไอแพดที่เห็นกันทั่วไปมาก
เขาเงยหน้ามองป๋ อจิ่ว “นายทำเองเรอะ”
ป๋อจิ่วเอ่ยเสียงยานคาง “สาระสำคัญคือสิ่งที่อยู่ด้านใน”
“ด้านในอะไรวะ…” จ้าวซานพั่งพูดได้ถึงตรงนี้ก็ชะงักทันที สองตา
ค่อย ๆ เบิกกว้าง ภายในเหมือนมีคลื่นลมโหมพัดขึ้นมาได้ ชัดเจนจน
ดวงตาเขาสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด “นะ นี่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร?”
“สามวันก่อน” ป๋ อจิ่วนั่งลงเอามือข้างหนึ่งเท้าคาง เส้นผมสั้นสีเงิน
ปรกลงมา ดูเหมือนแวมไพร์จากฝั่งตะวันออก “เป็นไง? จะกลับมา
ไหม?”
จ้าวซานพั่งพยายามข่มความรู้สึกที่โหมพัดในช่องอก เอ่ยเสียงแหบ
เครือว่า “กลับไปทำไม? ลาออกมาแล้ว นายก็รู้ว่าพวกนั้นทำอะไรกับ
ลั่วลั่วบ้าง แล้วก็รู้ด้วยว่าทำไมพวกเราสามคนถึงถอนตัว ยิ่งตอนนี้
ได้ยินที่พวกนั้นพูด จะกลับไปทำไมอีก?”
“ถามฉันเรอะ คำตอบฉันก็ง่าย ๆ” ป๋ อจิ่วลุกขึ้นมา เสี้ยวหน้าสวยที่
เรียบเฉยหันมานิด ๆ “กลับมาเขย่าวงการอีสปอร์ตด้วยกันอีกครั้งไง
แล้วบอกพวกเขาให้รู้ว่า พ่อก็เป็นพ่ออยู่วันยังค่ำ”
จ้าวซานพั่งอึ้งไปป เมื่อเงยหน้าอีกครั้ง พายุในดวงตากำลังโหมพัด
ส่วนพวกเด็กสาวที่นั่งด้านข้างงงงัน
ป๋อจิ่วเดินเข้ามา พลางยิ้มให้นิด ๆ “อันที่จริงฉันไม่สนหรอกว่าพวก
เธอจะพูดอะไร แต่มีอย่างหนึ่ง พวกเธอจะให้แฟนคลับฉันเป็นแพะ
รับบาปอะไร มีคนบอกว่าชอบทีมเซียงหนานใช่ไหม ก็คนที่ยืนตรง
หน้าพวกเธอนั่นแหละคือจ้าวซานพั่งของทีมเซียงหนาน อ้อ ไม่สิ
ตัวแทงค์อันดับหนึ่งของทั้งเซิร์ฟเวอร์ แชมป์ สามสมัยซ้อน ถึงแม้ว่า
เกมสุดท้ายทีมไดมอนด์ของพวกฉันจะเอาชนะได้ก็เถอะ”
จ้าวซานพั่ง…ถ้านายไม่พูดประโยคสุดท้าย ฉันก็คงนึกว่านายชมฉัน
หรอก!
“แต่เขาก็ยังเป็นอันดับหนึ่งของเซิร์ฟอยู่ดี” ป๋ อจิ่วค่อย ๆ ก้มเข้าไป
กระซิบข้างหูของหนึ่งในนั้น “คนที่ให้กำลังใจพวกเราจนมาถึง
ตอนนี้ ไม่เคยมีใครเหมือนพวกเธอหรอก”
ว่าแล้วเธอก็เงยหน้ามองจ้าวซานพั่ง “ท่านอ้วน นายรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า
เพราะคนส่วนหนึ่ง ก็เลยจะไม่กลับมางั้นเหรอ? ฉันชอบลั่วลั่วมา
ตลอด เขารู้ว่าโลกนี้เป็นยังไง แต่ก็ยังถือไม้กายสิทธ์ิยืนอยู่กลางแผนที่
เมื่อมีเขาอยู่ด้วย เวลาพวกเราสู้กับทีมเซียงหนานที เป็นต้องคิดหนัก
ว่าจะฝ่าไปได้ยังไง จะเผลอโดนเขาควบคุมหรือเปล่า เขาไม่ได้ลาออก
เพราะคนพวกนี้นี่”
ป๋อจิ่วค่อย ๆ เหยียดตัวตรง ยืนหันหลังให้แสงสว่าง “เขารู้สึกว่า
ตัวเองขยับมือช้าลง ตามไม่ทันทีม เขาน่ะอยากให้พวกนายชนะ”
ตอนที่ 2170
ทีมไดมอนด์กลับมารวมตัว
เซวียเหยาเย่าได้ยินมาถึงตรงนี้ กำลังจะเอ่ยปาก
พนักงานเสิร์ฟก็พลันพูดขึ้นก่อน “มาถึงแล้วครับ”
ตรงนั้นเป็นห้องพิเศษที่อยู่ติดหน้าต่าง เจียงจั่วนั่งอยู่ที่นั่น เมื่อเห็น
พวกเธอเดินเข้ามาก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะรับกระเป๋ าจากมือเหยาเย่า ใน
รอยยิ้มเก็บซ่อนความหวานเอาไว้ “มาเวลาอย่างนี้รถติดหรือเปล่า?”
“โอเคอยู่” เซวียเหยาเย่าเคยชินกับการกระทำอย่างนี้แล้ว
ทว่าคนข้าง ๆ ที่เห็นภาพนี้เกือบวิญญาณหลุดหายไป
นะ…นี่มันอะไรกันเนี่ย?
ขนาดนั่งลงแล้ว พวกเธอยังเหมือนอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ
แฟนของเหยาเย่าล่ะ? อยู่ที่ไหน?
ไม่…ไม่น่าจะเป็นคุณทีเอละมั้ง?
เจียงจั่วรินน้ำชาให้พวกเธอ ก่อนจะส่งยิ้มแล้วเล่าเรื่องราวระหว่าง
เขากับเซวียเหยาเย่าให้พวกเธอฟังทั้งหมด
หลี่เถาได้ฟังแล้วโพล่งออกไปว่า “แล้วที่คุณมามหาวิทยาลัย C?”
“ก็เพราะเขา” คำตอบสั้นแต่กินใจมาก
หากบอกว่าช่วงแรก ๆ เหล่ารูมเมทกำลังงง
ถ้าอย่างนั้นเมื่อมาถึงช่วงหลังก็กินกันเต็มที่ เพราะอย่างไรก็เป็นคุณ
ทีเอ แถมรู้จักกันมานานพอควร จะกินมากหน่อยก็ไม่เห็นเป็นอะไร!
กว่าเจียงจั่วจะเชิดหน้าชูตาเป็นหมายเลขหนึ่งในหัวใจของเหยาเย่า
ได้ มันไม่ง่ายเลยทีเดียว
จู่ ๆ พนักงานเสิร์ฟของร้านเดินมาหา เพราะแต่งตัวย้อนยุคจึงเหมือน
เสี่ยวเอ้อร์ในยุคโบราณ
ทว่าเขากลับประคองแท็บเล็ตเครื่องเล็กขนาดเท่าฝ่ามือเข้ามาด้วย
เห็นแวบแรกก็รู้ว่าไม่ได้มีวางขายในท้องตลาด “ขอถามครับว่าท่าน
ไหนคือคุณเซวียเหยาเย่า?”
เซวียเหยาเย่าวางตะเกียบลง ช้อนสายตามองอีกฝ่าย “ฉันเองค่ะ”
“แขกท่านหนึ่งวางของไว้ที่นี่ครับ บอกว่าพวกคุณนัดกินข้าวกันที่นี่
พอคุณมาให้เอามาให้”
เจียงจั่วได้ยินแล้ว นัยน์ตาสว่างวาบ
มีคนรู้กระทั่งว่าพวกเขากินข้าวอยู่ที่ไหนด้วย
“เป็นพวกหลอกลวงหรือเปล่า?” หลี่เถาและเพื่อน ๆ จะกังวลก็ไม่ไร้
เหตุผล
เซวียเหยาเย่าไม่ได้เชื่อหมดใจ แต่เมื่อเธอเห็นสัญลักษณ์บนแท็บเล็ต
เครื่องนั้น สองตาก็เหมือนสั่นไหวเล็กน้อย
นี่มันสัญลักษณ์…ของทีมไดมอนด์นี่นา!
นิ้วของเธอสั่นเทาเบา ๆ เมื่อสไลด์หน้าจอก็เห็นตัวอักษรเรียงเป็น
ประโยคปรากฏสู่สายตา
ประโยคนี้ทำให้เธอยกมือปิดปาก นัยน์ตาถึงขั้นแดงเรื่อ
แต่เธอข่มอารมณ์เหล่านั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาของเธอเหมือนกำลังมีเพลิงลุก
โหม
เจียงจั่วไม่ต้องหันไปดู ก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งของพวกนี้มา
แบล็กพีช Z นั่นเอง
ทว่าเนื้อหาที่ปรากฏบนแท็บเล็ตกับไม่ใช่เรื่องดี
เมื่อเขาเห็นหน้าเพจในแท็บเล็ตนั่นก็ถึงกับอึ้ง
หลี่เถาและเพื่อน ๆ ไม่รู้ว่าเครื่องแท็บเล็ตฉายข้อมูลอะไร รู้เพียง
ความไม่พอใจกำลังกระจายออกจากร่างของเหยาเย่า
ในเวลานี้ เมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ติดทะเลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย C
หลังจากที่สามเทพแห่งทีมเซียงหนานลาออกจากวงการ ทางทีมก็รับ
คนใหม่เข้ามามากมาย หนึ่งในนั้นน่าสนใจมาก
นักเรียนบางคนตื่นเต้นกันเป็นพิเศษ กระทั่งตอนกินข้าวก็ยังพูดกัน
“ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนเทพ Z เปี๊ยบเลย เท่สุด ๆ”
“เทพ T ก็คือเทพ T อย่าเห็นว่าเกมเมอร์หน้าใหม่หล่อแล้วต้องเหมา
ว่าเหมือนเทพ Z ไปหมด ถึงฉันก็ชอบเทพ Z แต่ก็รับไม่ได้นะ”
“ตั้งแต่ทีมไดมอนด์ยุบไป พวกแฟนคลับแบล็กพีชก็น่าจะหายไป
แล้วมั้ง”
“หรือว่าแค่ย้อมผมเป็นสีเงิน แล้วตั้งชื่อว่าแบล็กพีช T ถูกชื่นชมว่า
เป็นแสงสว่างแห่งอนาคต ก็เลยโดนว่า? แต่ยังไงซะ ฉันก็ชอบทั้ง
สองคนนั่นแหละ”
“ฉันก็เหมือนกัน พวกแฟนคลับแบล็กพีช Z น่าจะหยุด ๆ บ้าง บ้ากัน
อยู่ได้น่ารำคาญชะมัด”
พ่อครัวที่เอาอาหารมาเสิร์ฟได้ยินแล้วหลุดหัวเราะออกมา บนใบหน้า
อ้วนกลมมีผ้าปิดปากที่พ่อครัวชอบใช้ “ขอฉันถามนิดหนึ่งนะ การที่
เทพ T คนนี้ชื่อว่าแบล็กพีช T แล้วแฟนคลับคิดถึงแบล็กพีช Z บ้าง
ก็ธรรมดาจะตายไม่ใช่เหรอ?”
ตอนที่ 2171
การกลับมาของทีมไดมอนด์ แหล่งรวมท่านเทพ
“แค่ใช้ชื่อซ้ำ ก็เป็นปัญหาแล้วเหรอ?”
พ่อครัวเลิกคิ้ว “คนมีปัญหาคือแฟนคลับของแบล็กพีช Z เหรอ?”
“ก็จ้องแต่เรื่องชื่อ ถ้าไม่ใช่แฟนคลับเขาแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะลุง?”
คนที่โดนเรียกว่าลุงถึงสะดุ้งนิดหนึ่ง แต่ไม่ยอมแพ้ “ฉันหล่อขนาดนี้
พวกเธอมาเรียกฉันว่าอาได้ไง?”
“ก็ลุงเป็นลุงจริง ๆ นี่นา”
“เออ ๆ เขาสูดลมหายใจลึก “มา พวกเราวิเคราะห์กันหน่อย คนคน
นั้นชื่อแบล็กพีช T ใช่ป่ ะ? ชื่อซ้ำน่ะไม่เป็นไรหรอก การที่ชื่อบังเอิญ
ตรงกันก็เป็นเรื่องปกติ ฉันขอบอกว่าเวลาเกิดเรื่องแบบนี้ ต้องแก้
ด้วยวิธีทำให้เรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก แล้วทำให้เรื่องเล็กหายไป ถึง
ยังไงทีมไดมอนด์ก็ยุบแล้ว แบล็กพีช Z เองก็ไม่โผล่หน้ามาตั้งสาม
เดือน ทำไมต้องโยงเรื่องกล่าวหาแฟนคลับเขา? เท่าที่ฉันรู้มา แฟน
คลับมากมายของเขาเงียบหายตามไปด้วยนี่นา เอาละ เทพ T ของ
พวกเธอดังมาก ดังขนาดที่เรียกคนกลุ่มนี้มารวมกันได้ งั้นฉันถาม
หน่อย ตอนนี้คนแข่งถ้าเป็นผู้หญิงต้องแต่งชายด้วยใช่ไหม? เวลาจะ
ตั้งชื่อไอดีก็ต้องตั้งเหมือนกันไหม? เรื่องพวกนี้ยังพอว่า ไม่เป็นไร
เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจแฝงอยู่ด้วย ไม่มีใครว่าอะไร ใช่ไหม
ล่ะ แต่ตอนหลังมันตลกอยู่ เทพ T ของพวกเธอ แสงสว่างแห่งอนาคต
เป็นผู้เล่นอาชีพแต่ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อแบล็กพีช? อืม เล่นเจ๋งมาก
ฉันก็นับถือเหมือนกัน”
“หมายความว่าไง?” เด็กผู้หญิงเหล่านั้นต่างสบตากัน “ลุงเพี้ยนหรือ
เปล่า”
พ่อครัวชี้ตัวเอง “ฉันเนี่ยนะเพี้ยน ฉันเพี้ยนตรงไหน?”
“ยังไงแฟนคลับแบล็กพีชอย่างพวกเราก็เข้าใจ คราวนี้พวกเราผิดเอง
ฉันก็ชอบเทพ T นะ แต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง โอเคปะ ลุง
ไม่เข้าใจก็อย่าพูดเลย”
เขาเนี่ยนะไม่เข้าใจ?
อ้วนหล่อสุดอันดับหนึ่งอย่างเขาจะไม่เข้าใจเรอะ
เขามาจากทีมเซียงหนานแท้ ๆ !
นับตั้งแต่ออกมาเขากับหัวหน้าก็รู้ซึ้งดี ทีมเซียงหนานจะไม่มีวันเป็น
เหมือนเดิมอีก
ส่วนคำว่าชอบ คำนี้ไร้ราคามากจริง ๆ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ แฟนคลับแบล็กพีชตัวจริงไม่เคยออกหน้า แต่กลับ
ต้องมารับกรรมในเรื่องนี้
รู้แล้วล่ะสิว่าคำว่าชอบนี้เป็นของแบบไหน ใช้พูดให้คนอื่นถูกใจได้
ง่ายดายมาก
เขาไม่เคยบอกว่าจะไม่มีวันลืมแบล็กพีช ไม่มีวันลืมวันที่เซียงหนาน
แข่งกับทีมไดมอนด์ แต่เขาเข้าใจดีเหลือเกินว่า คนคนนั้นและทีมนั้น
ไม่มีวันที่ใครจะมาแทนที่ได้ และยิ่งไม่มีวันพบเงาพวกเขาจากที่อื่น
อีก
พวกเขายังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำเขา แม้ว่ามือที่จับเมาส์จน
คล่องของเขาจะเปลี่ยนมาเป็นมีดหั่นผักทำกับข้าวแทนแล้วก็ตาม
เขาส่ายหน้า
อันที่จริงก็ไม่มีอะไรน่าพูด เพราะเขาใกล้จะกลายเป็นลุงจริง ๆ แล้ว
…
ในใจรู้สึกทรมานอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อลั่วลั่วออกไป สามเหลี่ยมทองคำของทีมเซียงหนานก็หายไปด้วย
ตอนทีมไดมอนด์ยุบทีม จ้าวซานพั่งเข้าใจแล้วว่าของบางอย่างจะ
ค่อย ๆ ถูกแทนที่
เหลือเพียงเลือดร้อนที่ยังอยู่
ถึงอย่างไรพวกเขาต่างก็เคยมีอดีตมา
ตอนนี้จ้าวซานพั่งไม่รู้ว่าเลือดร้อนนั้นจะยังคงอยู่หรือไม่
คงเพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้ลงแข่ง ซึ่งอันที่จริงยังไม่ถึงสามเดือน
ด้วยซ้ำ…
ภายในร้าน ร่างอ้วนที่ไม่ดึงดูดสายตากำลังหลุบตาลง มองมือตัวเอง
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมันถึงได้สั่นนิด ๆ
เด็กสาวที่อ้างว่า ‘ฉันชอบทีมเซียงหนานมาก ฉันชอบเทพ T’ เอย
พวกนั้น ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่
เริ่มจากไม่ได้รับการยอมรับในตอนต้น กลายเป็นแชมป์สามสมัย
ซ้อน จนสามเหลี่ยมทองคำนี้หายไป
ความฝันของพวกเขาแหลกสลายครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะค่อย ๆ
ปะติดปะต่อกลับคืนมา
ทว่าครั้งนี้จ้าวซานพั่งไม่รู้ว่าจะต่ออย่างไร
อาจเป็นเพราะเขาใสซื่อกันไป ยังคงคิดอยู่ว่าความหลงใหลนั้นจะ
ยังคงอยู่…
“นี่คุณ คนที่ใส่หมวกเชฟอะ คุณอ้วนหล่ออันดับหนึ่งของโลก”
ตอนที่ 2168
ชดเชยให้ฉัน
เซวียเหยาเย่ารีบหยิบมือถือเป็นอย่างแรก
กลับพบว่าแม้แต่มือถือที่ไม่ได้ทดสอบเกมก็แบตฯ หมดแล้ว ยังดีที่
ที่นี่มีเครื่องชาร์จเยอะ
เซวียเหยาเย่ารีบเอามาชาร์จ เมื่อเห็นสายโทรเข้ามาเยอะขนาดนั้น ก็
รู้สึกวูบโหวงในใจมาก
ฝ่ายหลินหยางเก็บข้าวของเสร็จแล้วหันมาพูดกับเธอ “ดึกมากแล้ว
ฉันพาเธอไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยส่งเธอกลับแล้วกัน”
“ไม่ต้องค่ะรุ่นพี่” เซวียเหยาเย่ารีบกดมือถือ “ฉันจัดการเองได้”
หลินหยางเห็นท่าทางเธอก็รู้ว่าต้องมีนัดแน่นอน
อันที่จริงเขามองออกตั้งนานแล้วว่าผู้ชายคนนั้นมีความสำคัญใน
หัวใจเธอ
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เงยหน้ามองเขาสักแวบไม่ว่าเขาพูดอะไร
เซวียเหยาเย่าไม่มีเวลาสนใจคนอื่นจริง ๆ รอจนข้อมูลมาครบ เธอก็
รีบโทรหาเจียงจั่วทันที
ปิดเครื่อง?
เธอคิดว่าถ้าไปร้านอาหารตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
เวลาสี่ทุ่มต้องปิดร้านแล้วแน่ ไปดูหอพักที่อยู่ด้านหลังก่อนดีกว่า
แต่พอจะออกไปก็กลัวว่ามือถือจะดับ รอจนชาร์จแบตฯได้ 10% เธอ
ถึงได้ออกมา
ทว่าเมื่อจะวิ่งไปก็พลันเห็นคนคนหนึ่งยืนมองเธออยู่ที่ใต้เสาไฟ
เซวียเหยาเย่าที่หอบหายใจกำลังจะอธิบาย ก็โดนเขาดึงเข้าสู่อ้อม
กอดเสียก่อน เสียงต่ำเล็กน้อยเอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะไม่ยอมรับข้ออ้างที่
รู้สึกว่าไม่เหมาะสมหลังจากลองพูดมาแล้ว”
“ฉัน…” เซวียเหยาเย่าอ้าปากค้าง
เจียงจั่วซุกหน้าที่ซอกคอเธอ “ฉันเห็นในโมเมนต์แล้ว”
“เห็นอะไร?” เซวียเหยาเย่างงงัน
เสียงของชายหนุ่มฟังแล้วเหมือนไม่ได้ขึ้นสูง “ภาพที่พวกเธอกำลัง
เทสเกมด้วยกัน”
เซวียเหยาเย่าจึงได้สติกลับมา “ใช่ ฉันกำลังจะบอกว่าฉันเทสเกมอยู่
จริง ๆ พอเห็นข้อผิดพลาดเยอะแยะก็คิดแต่จะบันทึกช่องโหว่กับ
ความรู้สึกที่ได้ ทำไปทำมาก็ลืมเวลา”
“เหยาเย่า” เจียงจั่วเหมือนจะหัวเราะ “ฉันรู้ดี เธอไม่เหมือนเมื่อก่อน
ที่จะเห็นฉันสำคัญที่สุดไม่ว่าเรื่องอะไร ถึงได้ลืมนัด”
เซวียเหยาเย่าไม่เถียง เธอไม่ได้ทุ่มเทความคิดให้ความรักจนสุดตัว
เหมือนอย่างที่เคยเป็น
“งั้นแบบนี้คุณรู้สึกเหนื่อยไหม?” เซวียเหยาเย่าพินิจดูแล้ว ช่วงนี้เขา
ทุ่มเทมาก
เสียงของเจียงจั่วทุ้มหนักขึ้น “รู้สึกไม่มีแรง แต่ถ้าเทียบกับสถานการณ์
ตอนนี้แล้ว ฉันกลัวมากกว่าว่าเธอจะรู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้น”
“คนไหน?” เซวียเหยาเย่ายื่นมือออกไปแล้วชะงักค้างครู่หนึ่ง ก่อน
จะวางบนแผ่นหลังเขา “หมายถึงรุ่นพี่เหรอ ฉันกับเขาเป็นไม่ได้
หรอก แล้วฉันก็ปฏิเสธเขาตั้งแต่แรกแล้ว คุณก็รู้”
นัยน์ตาของเจียงจั่วเข้มขึ้น “รู้น่ะรู้ แต่พอเห็นภาพนั่นแล้ว ก็รู้สึกว่า
ทำไมคนเล่นเกมเป็นถึงไม่ใช่ฉัน เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันเป็นพวกนัก
ธุรกิจ สู้เด็กเรียนเก่งอย่างพวกเขาไม่ได้หรอก”
“คุณนี่…” เซวียเหยาเย่าหัวเราะเสียงเบา “หึงเป็นด้วยเหรอ?”
เจียงจั่วช้อนตามอง “ทำไมฉันจะหึงไม่เป็น?”
คำตอบจากเธอหยุดคำพูดของเขาทันที “เพราะคุณเป็นผู้ใหญ่”
เจียงจั่วหัวเราะอีก นัยน์ตาสะท้อนดอกท้อ “ฉันรู้สึกว่าเธอรับมือฉัน
ได้เก่งขึ้น”
เซวียเหยาเย่าขอโทษอย่างจริงใจ “วันนี้ฉันผิดเอง”
เจียงจั่วหลุบตาลง “งั้นควรจะชดเชยหน่อยไหม?”
เซวียเหยาเย่าเลิกคิ้ว “ชดเชยเหรอ”
เสียงเจียงจั่วดังข้างหู “เธอจะคิดว่าฉันไม่มีค่าพอให้พึ่งพิงก็ได้ แต่
อย่าไปชอบคนอื่น และอย่าเห็นว่าฉันทำไม่ดีที่ตรงไหนแล้วไม่ยอม
พูด ไม่พูด แต่ก็คิดว่าพอลองคบกันแล้วไม่ผ่าน”
ตอนที่ 2169
ให้เจียงจั่วผ่านโปรแฟน
เซวียเหยาเย่าอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะหลุบตาตอบเพียง “อื้อ”
เธอคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนไม่ผ่านโปร
คนที่ไม่ผ่านต้องเป็นเธอมาว่า
เซวียเหยาเย่าโชคดีอย่างไร้ข้อกังขา
ในขณะเดียวกัน เธอก็จะไม่ทำให้คนที่อยู่กับเธอรู้สึกไม่มั่นคง
ในเมื่อคิดจะคบกันอีกครั้ง ย่อมต้องแสดงความเชื่อมั่นให้เห็น
โดยเฉพาะตอนกินของมื้อดึก เธอเห็นเจียงจั่วโพสต์ลงในโมเมนต์
ของวีแชท และได้รู้ว่าเขาเตรียมตัวอะไรไว้มากมาย
ความคิดดังกล่าวก็ยิ่งจริงจังขึ้น
เซวียเหยาเย่าเป็นคนอ่อนโยนมาแต่ไหนแต่ไร
บางทีในสายตาคนอื่นอาจเหมือนว่าเธอไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง
แต่สำหรับเจียงจั่วแล้ว เขารู้ดีว่านี่คือความเข้าใจความรู้สึกนึกคิด
ของคนอื่น
เมื่อก่อนเขาไม่รู้จักการทะนุถนอมเป็นที่สุด
ดูเหมือนว่าคู่แท้ในโลกมักเป็นเช่นนี้ หลังจากเลิกจากกัน เขาถึงได้
วิเคราะห์อย่างใจเย็นถึงสาเหตุของความเข้าใจผิดที่มีระหว่างกัน
แม้ครั้งนี้เธอจะยุ่งมากจนลืมเรื่องนัด ทว่าเมื่อเรื่องผ่านพ้นไป ช่องว่าง
ที่คล้ายมีอยู่แต่ก็คล้ายไม่มีระหว่างกันก็มลายหายไป
ในสายตาของหลี่เถา เธอรู้สึกว่าเหยาเย่าสวยขึ้นเรื่อย ๆ
เซวียเหยาเย่าทำแค่หัวเราะ “วันนี้ให้เขาเลี้ยงข้าวทุกคนสิ”
“เขา?” หลี่เถาตาโตเลยทีเดียว “ผู้ชายในดวงใจเธอเหรอ”
“บอกมาตามตรงพวกเธอคบกันแล้วใช่ไหม? เหยาเย่า เวลาเธอพูดถึง
เขาทีไร สีหน้าเปลี่ยนไปทุกที”
เซวียเหยาเย่าไม่ปฏิเสธ “ก่อนหน้านี้ก็อยากบอกพวกเธอเหมือนกัน
แต่ตอนหลังคิดว่าควรจะให้เป็นทางการสักหน่อย ช่วงนี้เทสเกมจบ
แล้ว ทุกคนจะได้กินข้าวพร้อมกันพอดี”
“ไม่มีปัญหา”
“ต้องกินแน่นอน!”
พวกเธอต้องเห็นให้ได้ว่าใครที่เอาชนะพี่เดือนสุดหล่อได้ แถมยัง
เป็นแสงสว่างในใจของเหยาเย่า
เซวียเหยาเย่ารู้สึกว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับเจียงจั่วก่อน จึงโทรไปหา
ชายหนุ่มอึ้งไปก่อนหลังจากที่รู้ จากนั้นมุมปากหยักโค้งอย่างอดไม่
อยู่ “เธอจะให้ฉันผ่านโปรเหรอ”
เซวียเหยาเย่าหน้าบาง สองแก้มแดงเรื่อ “ค่ำนี้ว่างไหม?”
“ฉันจัดการเอง แล้วเธอไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น พอถึงตอนนั้นฉัน
จะเป็นพูดเอง” เจียงจั่วหัวเราะเสียงต่ำ “รูมเมทเธอเป็นพวกชอบกิน
งั้นไปที่ที่บรรยากาศดีหน่อย แล้วมีปริมาณอาหารเยอะ ๆ”
เซวียเหยาเย่ารู้สึกโชคดีที่ไม่ได้เปิดลำโพงคุยกัน อะไรที่เรียกว่ารูม
เมทเธอเป็นพวกชอบกิน
แต่หลี่เถาที่อยู่ใกล้สุดกลับได้ยิน จึงมองด้วยสีหน้าสงสัย “แฟนเธอรู้
ได้ไงว่าพวกเราชอบกิน?”
เพราะคนที่เตรียมของว่างให้ทุกบ่ายเป็นเขาอย่างไรล่ะ ทว่าเซวีย
เหยาเย่าไม่ได้พูดออกไป แค่เอ่ยอย่างอ่อนใจ “เธอไม่คิดจะเถียงบ้าง
เหรอ?”
“ก็ฉันชอบกินจริง ๆ นี่” หลี่เถาขมวดคิ้ว “ทำไมฉันถึงคุ้นเสียงเขา
ทางนั้นจังเลย”
เซวียเหยาเย่ารู้ตัวว่าพูดไม่เก่ง จึงไม่พูดมากอีก “เดี๋ยวก็รู้เองตอนกิน
ข้าว”
เจียงจั่วเลือกร้านอาหารที่เปิดเป็นการส่วนตัว[1]
แม้จะดูไม่แพง แต่ความจริงแสดงให้เห็นความล้ำลึกของคนเลือก
การมากินอาหารในร้านแบบนี้กลับไม่ทำให้คนรู้สึกว่าอวดรวย
คนที่ตาถึงเท่านั้นถึงจะรู้ว่าแฟนของเหยาเย่าเลือกที่นี่เพื่อดูแล
นักศึกษาสาว ๆ เหล่านี้
หลี่เถากระทุ้งตัวเหยาเย่าเบา ๆ “แฟนเธอไม่เลวเลยนี่ แต่มากินที่
แบบนี้ คงจะอายุมากกว่าเธอเยอะเลยใช่ไหม”
เซวียเหยาเย่าแย้มยิ้ม “คิดอะไรของเธอเนี่ย”
“อันที่จริงพวกเราเคยเดากันไว้แล้ว แถมเธอยังไม่ให้พวกเราดูรูปถ่าย
เขา ก็เลยคิดว่าเขาน่าจะทำงานมานานแล้วหรือเปล่า อายุน่าจะห่าง
จากเธอมาก” หลี่เถาแลบลิ้น “เหยาเย่า เธออย่าถือสาเลยนะ เพราะ
เดี๋ยวนี้คนที่คบกันแบบนี้มีเยอะ พวกเราเป็นห่วงว่าเธอจะคิดมากเลย
ไม่กล้าพูด ไหนจะยังคุณทีเอนั่นอีก เธอกลัวเขารู้แล้วไม่อนุมัติใช่
ไหม?”
[1] ร้านอาหารที่เปิดเป็นการส่วนตัว เป็นร้านที่เปิดขายอาหารใน
บ้านตัวเอง บ้างก็เปิดในตึกออฟฟิศ เจ้าของร้านมักจะมีอาหารเด็ด
ประจำตระกูล ไม่ค่อยทำการโฆษณา แต่จะเป็นที่รู้จักด้วยการพูด
ปากต่อปาก
ตอนที่ 2166
“เขาเพิ่งเรียนปีหนึ่งเอง รอคนอื่นเลิกอยากรู้เรื่องเขาก่อนแล้วค่อยว่า
กัน”
“อยากรู้?”
“ก็เดือนของพวกนายเล่นประกาศรักใต้ตึกแบบนี้ ใคร ๆ ก็ต้องอยาก
รู้เรื่องเขาอยู่แล้ว”
“…” ทำไมฟังแล้วเหมือนหึงเลยแฮะ
เจียงจั่วยังคงพูดด้วยเสียงเรียบ “ต่อไปก็พัฒนางานของพวกนายให้ดี
เถอะ เจ้าสี่ของพวกนายมีอะไรก็ให้มาหาฉันเป็นการส่วนตัว หรือจะ
ไปหาเหยาเย่าก็ได้ ธรรมดาแล้วพวกผู้หญิงไม่สนใจเรื่องอยากรู้หรือ
ไม่อยากรู้อะไรนี่หรอก แต่เหยาเย่าไม่เหมือนคนอื่น คนที่ไม่รู้เรื่อง
อะไรต้องนินทาเขาแน่ เพราะงั้นหวังว่าพวกนายจะเก็บเป็นความลับ
ให้”
“ไม่มีปัญหา” ชายคนนั้นได้ยินแล้วเข้าใจทันที ความชอบของเจียงจั่ว
ดูจะลึกซึ้งกว่าเจ้าสี่อีก
สำหรับเจ้าสี่แล้ว พวกเขายังคงดื่มเหล้าด้วยกัน
ในสถานการณ์แบบนี้ ใช่ว่าเจ้านั่นจะไม่มีโอกาสแย่งเหยาเย่ากลับมา
เพราะพี่เจียงยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ
การลองกลับมาคบกันใหม่นี้ผ่านมาได้สองอาทิตย์แล้ว
ทั้งสองคนลองคบหากัน
ทดลองกันจริง ๆ
เจียงจั่วยังคงส่งของไปที่หอพักของเหยาเย่าเหมือนเดิม
เพียงแต่สภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปแล้ว
เวลาเห็นของเหล่านั้นต้องยิ้มแล้วแบ่งให้เพื่อนรูมเมท
ดูเหมือนทุกคนที่มีแฟนแล้วมักจะใส่ใจการแต่งตัวมากขึ้นเมื่อต้อง
ออกไปข้างนอก
เซวียเหยาเย่าก็เช่นกัน แต่แค่แต่งตัวให้เหมาะสมเท่านั้น
แถมเธอเริ่มเรียนหนักขึ้นทีละน้อย มีโปรเจกต์ต้องทำอีก
บางครั้งถึงกับทึ้งผมตัวเองเวลาทดสอบ แล้วก็หลุดเข้าไปในเกม
เจียงจั่วเป็นทีเอ เวลามาหาแล้วเห็นสภาพเธอนี้ ก็จะวางขวดน้ำให้
ด้านข้าง ไม่แสดงอะไรออกมา แต่กลับทำให้รู้สึกว่าระหว่างทั้งคู่ดู
สนิทสนมกันอย่างน่าประหลาด
เวลาเดียวที่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ก็คือตอนกลับจากห้องทดลองไป
ยังหอพักซึ่งเป็นเวลาไม่ถึงสิบนาที เป็นช่วงที่เจียงจั่วเดินไปส่งเซวีย
เหยาเย่า
“ฉันก็อยากมีพี่ชายสักคน”
หลี่เถาถือขนมเค้ก ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีที่ได้เป็นรูมเมทของ
เซวียเหยาเย่า
ถึงแม้เธอจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงไม่รับรักพี่เดือนมหาวิทยาลัย
สุดหล่อ
“ฉันไม่เคยดูออกเลยว่าเหยาเย่าเป็นลูกเศรษฐี ตอนนี้มาเห็นมาดคุณ
ทีเอแล้ว รวยมาก รวยของจริง”
เหยาเย่าพูดยิ้ม ๆ “ฉันดูจนมากเลยเหรอ?”
“ก็ไม่เห็นชัดเท่าคุณทีเอนี่นา ตอนนี้มีคนโพสต์ภาพเขาในเว็บของ
ทางมหาวิทยาลัยแล้วนะ ตอนแรกอยากซื้อสร้อยแบบเดียวกับเขา
แต่พอทุกคนเสิร์จหาราคาแล้วก็โบกมือบ๊ายบายเลย” หลี่เถาส่ายหน้า
“ใช่แล้ว เหยาเย่า วันนี้เป็นวันไวต์เดย์[1] เธอจะฉลองยังไง? นัดพวก
รุ่นพี่ออกมาเจอกันดีไหม พวกเราจะได้เจอกันหน่อย”
เซวียเหยาเย่ากินขนมเค้กด้วย “วันนี้ฉันมีนัดแล้ว พวกเธอไปกันเถอะ”
“มีนัดแล้ว?” รูมเมทที่เหลือต่างตาโต
เซวียเหยาเย่าหัวเราะเสียงเบา “ใช่”
“เธอเพิ่งปฏิเสธรุ่นพี่ไปไม่ใช่เหรอ?”
เซวียเหยาเย่าส่งเสียงตอบรับ หันไปมองพวกเธอ “ไม่เกี่ยวกับเขา
แป๊บนะ มีสายเข้า”
สายที่โทรเข้าเป็นสายจากห้องทดลอง บอกว่ามีทดสอบรอบพิเศษ
เข้ามาด่วน
เธอคุยโทรศัพท์เสร็จก็ไม่คิดแม้แต่จะกินขนมเค้กต่อ หยิบกระเป๋า
แล้วรีบร้อนออกจากหอพักทันที
เพื่อนรูมเมทได้แต่ทำหน้างง เหยาเย่านัดกับใครในวันพิเศษแบบนี้
กันแน่
และด้วยเหตุที่ต้องทดสอบกะทันหัน ทางนั้นจึงมีคนไม่เยอะ
แถมเวลาที่ต้องทดสอบรายละเอียดในเกม เหยาเย่าจะลืมทุกอย่างจน
หมดสิ้น
รวมถึงนัดเดทในวันนี้ด้วย…
[1] วันไวต์เดย์ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นหนึ่งเดือนหลังวันวาเลนไทน์
หากว่าใจตรงกันและต้องการตอบรับความรู้สึกของอีกฝ่าย ในวันนี้
ผู้ชายที่เคยได้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์จะมอบของขวัญตอบ
แทนให้กับฝ่ายหญิง
ตอนที่ 2167
นอกมหาวิทยาลัย C
เจียงจั่วเลือกร้านอาหารแห่งหนึ่ง
แม้ไม่ได้เหมาทั้งร้านเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ว่าที่นี่ก็มีบรรยากาศ
สงบจริง
สถานที่แบบนี้ คนทั่วไปจ่ายไม่ไหวแน่ แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ เมื่อผู้คน
ค่อย ๆ ออกไปจะยิ่งเงียบสงบมากขึ้น
ร้านอาหารแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยกำแพงกระจก ตำแหน่งของเจียง
จั่วแค่หันมองนิด ๆ ก็เห็นโคมดอกไม้ที่ประดับไว้ด้านนอกได้
สิ่งเหล่านี้เป็นแผนของเขาเอง รวมถึงรถฟักทองที่มีหลอดไฟพัน
รอบและดอกกุหลาบที่ตกแต่งเป็นแถบตรงลานด้านนอกด้วย
ทั้งสองเคยคบกันก็จริง แต่ไม่เคยฉลองเทศกาลเหมือนคู่รักทั่วไป
แบบนี้
ดังนั้นเจียงจั่วจึงไม่ได้เตรียมการณ์เหล่านี้แค่วันสองวัน
ขนาดพวกบริกรในร้านก็ยังไม่เคยเห็นความเอาใจใส่เช่นนี้เลย ยัง
พลอยนึกว่าเป็นการขอแต่งงานด้วยซ้ำ
การทุ่มเทแรงกายแรงใจมากมายเพื่อฉลองวันไวต์เดย์ขนาดนี้ เป็น
เรื่องที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก
หากมองข้างนอกจากจุดที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ จะเห็นว่าบรรยากาศสวย
มาก
หลายโต๊ะที่มากินข้าวเป็นคู่รักกัน ยังคิดว่าทางร้านตกแต่งเพื่อให้ขับ
บรรยากาศวันแห่งความรักโดยเฉพาะ ต่างถ่ายรูปเก็บไว้แทบทุกคน
ทว่าเมื่อถ่ายออกมา เหมือนจะเห็นตัวอักษร ‘เหยา’ อยู่บนโคมไฟ?
พวกเขานึกว่าเข้าใจผิดกันไปเอง เพราะอย่างไรก็มีรถม้าอยู่ด้วย
ทางร้านเปิดเสียงเพลงคลอเบา ๆ
บริกรเดินมาหาหลายครั้งแล้ว “คุณลูกค้า เติมน้ำมะนาวครับ”
เพราะเหตุที่เป็นลูกค้าใหญ่ เขาจึงไม่ได้เร่งลูกค้าให้สั่งอาหาร
แถมทางครัวจัดเตรียมวัตถุดิบของอาหารที่ลูกค้าคนนี้สั่งไว้แล้ว ขอ
แค่ได้รับคำสั่งจากชายหนุ่ม ทางร้านก็เริ่มทำได้เลย
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ
เจียงจั่วได้ยินเสียงจากปลายสายว่า ‘ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลข
ที่ท่านเรียก’ พลางหันไปมองนาฬิกาแบบโบราณที่ติดตั้งกลางร้าน
สามทุ่มแล้ว
และพวกเขานัดเจอกันตอนหนึ่งทุ่ม
บริกรเดินเข้ามาหาอีกครั้ง “คุณครับ ให้เสิร์ฟขนมปังก่อนไหมครับ”
“ได้” แววตาชายหนุ่มหมองลง
คนที่นั่งตามลำพังอย่างเขาไม่รู้ว่าทำไมบรรยากาศยิ่งสวยงาม ก็ยิ่งดู
อ้างว้างขึ้น
ลูกค้าชุดที่สองต่างเอาแต่สงสัย ทำไมหนุ่มหล่อคนนี้นั่งที่ดีที่สุด แต่
ที่นั่งตรงข้ามกลับว่างเปล่า
เมื่อถึงเวลาสามทุ่มครึ่ง
บริกรเดินมาหาอีกครั้งด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย “คุณลูกค้า เชฟ
ของพวกเราเลิกงานตอนสี่ทุ่มครับ ให้เราเอาอาหารที่คุณสั่งไว้มา
เสิร์ฟก่อนไหมครับ?”
เจียงจั่วมองดูหน้าจอมือถือที่ไม่เปลี่ยนแปลง
ทางฝั่งบริกรก็ยังรออยู่ “หรือว่าคุณจะติดต่อเพื่อนคุณก่อน?”
“เสิร์ฟอาหารก่อนเถอะ” เสียงของเจียงจั่วเหมือนจะไม่แสดงอารมณ์
ใด ๆ
“ได้ครับ”
เมื่อใกล้จะสี่ทุ่ม แขกโต๊ะสุดท้ายกลับไปแล้ว
โต๊ะของเจียงจั่วเต็มไปด้วยอาหาร วัตถุดิบทั้งสดใหม่และราคาแพง
แต่เขายังคงไม่ขยับ เดิมทีคิดจะโทรหาเธออีกครั้ง ตอนกำลังเปิดดู
โมเมนต์ในวีแชท นิ้วมือก็ชะงักกึก
รุ่นน้องที่ทำโปรเจกต์อยู่ทางนั้นโพสต์รูปเขียนว่า ‘นัดกินข้าวกัน
สองหอพักเป็นครั้งที่สอง สนุกจริง ๆ สองคนนี้เป็นเป็ดแมนดาริน
[1]ที่ลำบากจริงจริ๊ง ยังต้องทดสอบเกมอีก เดาว่าทดสอบเสร็จน่าจะ
มีอะไรดี ๆ ให้ชม’
เจียงจั่วมองดูภาพนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนิ้วมือถึงเย็นวาบ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอุณหภูมิที่มาจากกลางอก
เขาไม่รออีกต่อไปแล้ว
วางผ้ากันเปื้อนลงแล้วลุกขึ้นเดินออกไป บริกรคนนั้นเห็นแล้วยังบ่น
ในใจว่าคนรวยชอบฟุ่มเฟือย
ส่วนอีกด้าน
เซวียเหยาเย่าเสร็จงาน ถึงพบว่าเป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
เธอชะงักไปนิด ราวกับนึกอะไรออก จากนั้นใช้มือทึ้งเส้นผม…แย่
แล้ว
……………………………………….
[1] เป็ดแมนดารินมักถูกนำมาเปรียบเทียบว่าเป็นคู่รักในภาษาจีน
ตอนที่ 2164
ทำเอาช็อก
คนแถวนั้นเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ต่างไม่ค่อยเข้าใจ
ทั้งสองคนคุยอะไรกัน
จนท้ายที่สุดมีคนพูดว่าคุณทีเอน่าจะมีไข้ น้องสาวก็เลยใจร้อน จึงไม่
อาจไปสนใจเดือนมหาวิทยาลัยที่สารภาพรักตัวเองได้
ส่วนเรื่องกอดนั่นก็เข้าใจได้ง่าย ๆ ถึงอย่างไรคุณทีเอก็เป็นห่วง ‘น้อง
สาว’ มากมาตลอด
ทว่าหลินหยางที่ยืนอยู่ตรงนั้นเข้าใจดีว่าอะไรเป็นอะไร
เหตุใดเหยาเย่าจึงปฏิเสธเขาอย่างไม่ใยดีก็ชัดเจนอยู่แล้ว
เขารู้ว่าต่อให้ไม่มีเจียงจั่ว เหยาเย่าก็ไม่ตกลงปลงใจกับเขา
เขายังไม่อยากยอมแพ้อยู่บ้าง
แต่ไม่ยอมแล้วจะทำอย่างไรได้
ความรักเป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ นี่คงเป็นเรื่องที่หลินหยางและ
เจียงจั่วต่างกัน
ตอนแรกเจียงจั่วพยายามดึงดันกับเหยาเย่า บางทีการดึงดันแบบนี้
อาจไม่เหมาะกับคนอื่น
แต่เมื่อใช้กับเธอกลับพอดีแล้ว
และก็เพราะเจียงจั่วพยายามดื้อรั้น ความสัมพันธ์จึงดำเนินต่อไปได้
ในเรื่องความรัก บางครั้งคนที่ดึงดันพยายามถึงจะเป็นคนที่รักอย่าง
บริสุทธ์ิและลึกซึ้งที่สุด
เมื่อพาเจียงจั่วไปฉีดยาเสร็จ เซวียเหยาเย่าก็กลับหอพัก
การเพิ่งกลับมาคบกันอีกครั้งไม่ได้หวานชื่นมากมายอย่างที่คนอื่นคิด
เจียงจั่วแม้จะอาวรณ์แค่ไหน แต่ก็จำต้องส่งเธอกลับไป
หลังจากที่เซวียเหยาเย่าเข้าหอพักไป หลี่เถาก็เข้ามาหาอย่างไม่ค่อย
เข้าใจ “เหยาเย่า ทำไมไม่ตอบรับรุ่นพี่ล่ะ?”
“เพราะไม่เหมาะสม” เซวียเหยาเย่าเดินไปข้างหน้าพลางหัวเราะเสียง
เบา
หลี่เถาเกาศีรษะตัวเอง “ฉันว่าเธอกับรุ่นพี่เหมาะสมกันดีออก ก่อน
หน้านี้ดาวมหาวิทยาลัยมาหาเรื่องเธอก็เพราะรุ่นพี่ แต่เธอเล่นปฏิเสธ
แบบนี้ ทำเอาคนผิดคาดเอามาก ๆ”
“มีอะไรที่ผิดคาด” คนที่นอนเอนบนเตียงหันมามอง “เหยาเย่าก็บอก
แต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขาไม่สนใจพี่เดือน”
“ทำไมล่ะ รุ่นพี่ดีออกขนาดนั้น” แววตาของหลี่เถาหม่นหมองเล็กน้อย
กระทั่งเสียงยังเศร้าไปด้วย
เซวียเหยาเย่าเงยหน้ามองอีกฝ่าย “เพราะในใจฉันมีคนอื่น เมื่อก่อน
เราเข้าใจผิดกัน ตอนนี้น่าจะคืนดีกันแล้วล่ะมั้ง”
“มีคนอื่น? ใครเหรอ?” หลี่เถากับรูมเมทคนอื่นสบตากันด้วยความ
สงสัย พวกเธอไม่เคยเห็นเหยาเย่าส่งข้อความหาใคร ทำไมถึงมีคน
อื่นไปได้
เซวียเหยาเย่าหยิบอุปกรณ์ที่ใช้อาบน้ำ “ต่อจากนี้พวกเธอก็รู้แล้ว ฉัน
ไปอาบน้ำก่อนนะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่มีน้ำร้อน”
ในหอพักจะไม่มีน้ำร้อนให้อีกหลังจากเลยเวลาที่กำหนดไว้
เซวียเหยาเย่าไม่ได้โกหกจริง ๆ
ทว่ายังคงมีคนรอคำตอบจากปลายสายของหลี่เถา
“ว่าไง? ได้ข่าวคราวอะไรบ้างไหม? ทำน้องเหยาเย่าถึงไม่ตอบตกลง
กับเจ้าสี่ของพวกเรา?”
หลี่เถาส่งกลับไปเพียงว่า “เหยาเย่าบอกว่า หัวใจเขามีเจ้าของแล้ว”
“เฮ้ย! ไม่มั้ง ฉันคิดว่าน้องเหยาเย่าใช้เป็นข้ออ้างไม่ให้มีคนมาจีบ ไม่
คิดว่าจะมีคนในใจจริง ๆ ในมหาวิทยาลัยของเรายังมีคนที่น่าสนใจ
กว่าเจ้าสี่อีกเหรอ ฉันคิดไม่ออกเลยว่าเป็นใคร”
หลี่เถาตอบกลับ “คุณทีเอเจียงไงที่น่าสนใจกว่า”
“เออ ๆ รู้น่ะว่าพวกเธอเป็นแฟนคลับของพี่เจียง อ้อ ใช่แล้ว! พี่เจียง
ต้องรู้แน่ว่าเป็นใคร เพราะเขาเป็นพี่น้องกัน” พูดจบผู้ชายคนนั้นก็
มองเจ้าสี่ที่ดื่มเหล้าอยู่ จากนั้นก็กดหมายเลขโทรออก
“ฮัลโหล” เจียงจั่วเพิ่งเดินเรื่องโอนย้ายมาทำงานเสร็จ เรียวปากยังซีด
อยู่บ้าง
“พี่เจีย พี่กับเหยาเย่าเป็นพี่น้องกันใช่ไหม พี่น่าจะรู้เรื่องของเขาหมด
เนอะ?”
เจียงจั่วพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการถามอะไร จึงวางปากกาลงโดย
ไม่แสดงอาการผิดปกติออกมา…
ตอนที่ 2165
“ฉันกับเหยาเย่าไม่ได้ใช้แซ่เดียวกัน นายก็รู้ใช่ไหม?”
เสียงของเจียงจั่วดูเรียบเรื่อยอย่างบอกไม่ถูก
อีกฝ่ายตอบกลับ “รู้ ก็คนหนึ่งใช้แซ่ของพ่อ อีกคนใช้แซ่ของแม่ ฉัน
ว่าทันสมัยดีออก”
“ทันสมัยงั้นเรอะ” เจียงจั่วหัวเราะเสียงเบา “นั่นเพราะพวกเราไม่ได้
มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันต่างหาก ถึงได้ใช้คนละแซ่”
ชายคนนั้นตะลึงงันทันที “ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด?”
“ใช่ ครอบครัวของเราแต่งงานใหม่กันน่ะ” นัยน์ตาดอกท้อของเจียง
จั่วเป็นประกาย “ฉันรู้จักกับเขามาสามปี คุณน้าเซวียแต่งงานกับพ่อ
ฉันแค่ปีเดียว น้องชายแท้ ๆ ของเหยาเย่าก็เรียกฉันว่าพี่”
ชายคนนั้นกุมมือถือไม่อยู่ “ปะ เป็นอย่างนั้นเองเหรอ”
เจียงจั่วหัวเราะเบา ๆ “แต่ฉันพอจะรู้เรื่องของเขาอยู่บ้าง นายอยาก
ถามอะไรก็ถามมาเถอะ”
แม้ผู้ชายคนนั้นจะรู้ว่าความลับนี้ยิ่งใหญ่มาก ถึงกับช็อกอยู่นิด ๆ ในใจ
แต่สิ่งที่ควรถามก็ต้องถาม
“เอ่อ น้องเหยาเย่าบอกว่าเขามีคนในใจแล้ว ก็เลยปฏิเสธเจ้าสี่ของ
พวกเรา พี่เจียง คนคนนั้นเป็นใครเหรอ พี่รู้ไหม”
แววตาของเจียงจั่วล้ำลึก ตอบออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม “รู้สิ ก็ฉันไง
ล่ะ”
ผู้ชายคนนั้นนิ่งไป
ความเงียบเข้าครอบงำชั่วขณะหนึ่ง
ลิ้นออกจะพันกันอยู่บ้าง “พะ พี่เองเหรอ?” อยากวางหูจัง ทำยังไงดี
เสียงของเจียงจั่วดังมาอีก “เราสองคนเข้าใจผิดกัน เพราะพ่อฉันจะ
แต่งงานกับแม่เขา ฉันคิดมาตลอดว่าพวกเขาอยากได้เงินก็เลยเข้ามา
ใกล้ชิดครอบครัวฉัน แล้วฉันก็ไม่อยากเป็นพี่น้องกับเขา ก่อนหน้าที่
ฉันจะมา เรื่องพวกนี้เคลียร์ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พ่อฉันถอนชื่อฉัน
ตามกฎหมายเรียบร้อย ฉันถึงคบกับเขาได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องกังวล
อะไรอีก แต่เขาเป็นผู้หญิงเลยต่างออกไป ฉันคิดว่าเขาไม่อยากบอก
ให้ใครรู้เรื่องนี้ ถ้าทำได้ล่ะก็ พวกนายอย่าพูดออกไปเด็ดขาด ใน
มหาวิทยาลัยมีคนเยอะแยะ ไม่เข้าใจชัดเจนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึง
ตอนนั้นเดี๋ยวจะมีคนพูดว่าเขาไม่ควรคบกับฉัน เพราะยังไงก็เป็น
ครอบครัวที่มาเกี่ยวดองกัน”
ปลายสายไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีจริง ๆ ถูกโจมตีหนักมาก
เจียงจั่วขำนิด ๆ “ถ้าทำเพื่อเจ้าสี่ของพวกนาย นั่นยิ่งไม่จำเป็นเข้าไป
ใหญ่ เขาฉลาดออกขนาดนั้น น่าจะรู้แล้ว ถึงได้หวังว่าพวกนายจะ
ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
ฝ่ายนั้นอ้าปาก “แล้วพวกพี่ตอนนี้?”
“คืนดีกันแล้ว” เจียงจั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ก็บอกตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
ไม่ใช่เหรอว่าฉันมาที่นี่เพราะเขา”
อีกฝ่ายกระแอมเบา ๆ “พี่เจียง ฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิง ไม่ต้องโปรยเสน่ห์
ใส่หรอก พี่จะเป็นอย่างนี้อีกนานเท่าไร มีคนชอบน้องเหยาเย่าเยอะ
มากนะ พี่ไม่เปิดเผยแบบนี้ ไม่กลัวบ้างหรือไง? คนที่ชอบพี่ก็เยอะ
จะตาย พวกพี่อาจเข้าใจผิดจนเลิกกันก็ได้นะ”
ปัญหานี้เสียดแทงใจและอาจเกิดขึ้นได้ เจียงจั่วกำมือ แววตากระด้าง
“รอให้เขาปรับตัวได้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
ปลายสายได้ยินแล้วส่ายหน้า “พี่เจียง ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าพี่น่าสงสาร
ละ มีแฟนก็ประกาศให้ใครรู้ไม่ได้ เทียบกับหมาโสดอย่าพวกเรา
แล้วพี่ย่ำแย่กว่าเยอะ ยังดี ๆ ถ้าตอนพี่สอนพวกเราแล้วยังสวีทกับ
น้องเหยาเย่าอีก เจ้าสี่คงไม่ต้องวิจงวิจัยอะไรแล้ว พี่เจียง บอกตรง ๆ
นะ ตอนนี้พี่กลัวว่าจะมีคนบอกรักน้องเหยาเย่าทุกวันเลยใช่ไหมล่ะ”
เจียงจั่วชะงักไป “อื้ม”
ผู้ชายคนนั้นไม่คิดว่าเขาจะสารภาพตรง ๆ แถมยังพูดต่อด้วยเสียง
เรียบอีกว่า “ไม่ใช่แค่กลัวหรอก”
เขากังวลยิ่งกว่าว่าถ้าลองแล้วยังไม่เข้ากันอีก ก็จะไม่เหลือโอกาสอีก
ต่อไป…
ตอนที่ 2162
ความเข้าใจผิดถูกแก้ไข
เจียงจั่วชะงักฝีเท้าทันที
ท่าทางเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นัยน์ตาที่หลุบลงเงยขึ้นมอง
ยังไม่ทันให้อีกฝ่ายพูดอะไร เขาก็รั้งเธอมาไว้ในอ้อมกอด
เดิมทีบริเวณนี้ก็เป็นหอพักหญิง แถมเดือนมหาวิทยาลัยสุดหล่อก็
เพิ่งมาสารภาพรัก
คนแถวนั้นจึงยังไม่ไปไหน ต่างยกมือปิดปากเมื่อเห็นเหตุการณ์
ดังกล่าว
“เกิดอะไรขึ้น?” หลี่เถางงด้วย
มีเซวียเหยาเย่าคนเดียวที่ยังมีสติ
เธอรับรู้ได้ว่าอุณหภูมิของเขาสูงกว่าปกติ จึงผลักออก
ทางคนถูกผลักก็หัวเราะเหมือนไม่แคร์ รู้ดีว่าตัวเองถูกผลักแต่ก็ยัง
อยากกอดอีกครั้ง คงเพราะต้องการได้แรงใจที่จะเดินออกมาสักหน่อย
แต่ไม่ทันได้ขยับ ก็พลันถูกคว้าข้อมือเอาไว้ “ทำอะไรเนี่ย ไข้ยังไม่
ลดก็ออกมาเดินแล้ว”
เจียงจั่วได้ยิน ก็เหมือนมีแสงฉายในนัยน์ตาดอกท้อ ดูสวยเหลือเกิน
“เธอเป็นห่วงฉันเหรอ?”
“คุณเป็นพี่ฉัน ต่อให้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ยังใช่” เซวียเหยาเย่า
ช้อนตามอง
เจียงจั่วพิงต้นไม้ ท่าทางยังเท่เหมือนเดิม “ฉันไม่อยากเป็นพี่เธอ เธอ
ว่าทำไมตอนที่คุณน้าเซวียจะแต่งงานเข้ามา ถึงไม่ยอมให้ฉันตามจีบ”
เซวียเหยาเย่าชะงัก “มุกนี้ไม่ตลกนะ”
“มุกตลกที่ไหน?” เจียงจั่วหลุบตาลง “ฉันชอบเธอ เธอไม่รู้เหรอ?”
เซวียเหยาเย่ามองเขา “ตอนนั้นคุณไม่เคยคิดจะจีบฉันด้วยซ้ำ ฉันอ้วน
จะตาย ไม่ใช่เหรอ คุณเองยังบอกกับทุกคนว่าไม่สนิทกับฉัน”
“เพราะตอนนั้นฉันรู้ว่าคุณน้าเซวียจะมาเป็นแม่เลี้ยงฉัน” เรียวปาก
ของเจียงจั่วไร้สีเลือด “ตอนนั้นฉันมันบ้า แต่ฉันก็อยากจีบเธอ ไม่ได้
ล้อเล่นนะ ไม่งั้นเธอคิดว่าใครเป็นคนส่งดอกไม้ให้เธอ?”
เซวียเหยาเย่าชะงักไป “คุณคือคนส่งดอกยิปโซมาให้ฉัน?”
“อื้อ” เจียงจั่วหัวเราะเบา ๆ “ไหนบอกว่าไม่เคยมีใครฉลองวันเกิดให้
เธอไง?”
เซวียเหยาเย่ากำมือนิด ๆ “แล้วทำไมตอนนั้นถึงไม่บอก”
“เพราะฉันคิดว่าเธอหักหลังฉัน” เจียงจั่วกดเสียงให้ต่ำลง “ความลับ
ที่เราพูดกัน เธอก็รู้ว่าฉันเกลียดคนที่เข้าหาพ่อฉันที่สุด แต่เธอไม่บอก
ฉันว่าแฟนใหม่ที่คุณน้าเซวียคบอยู่เป็นพ่อฉัน”
เซวียเหยาเย่าอ้าปาก ก็จริง
จะว่าไปตอนนั้นเธอกลัวว่าเขาจะเกลียดเธอ จึงไม่ได้พูดออกไป
“ฉันรู้ก่อนคุณวันเดียว”
เธอพูดความจริง ตอนนั้นเธออ่อนแอมาก เคยคิดว่าจะบอกเขาในวัน
ต่อมา
แต่พอตื่นขึ้น น้องชายก็เริ่มปวดท้อง เธอต้องส่งเขาไปให้น้ำเกลือที่
โรงพยาบาล
รอจนได้เจอเจียงจั่วอีกครั้ง ก็มีคนเอาไดอารี่ที่เธอเขียนมาโพสต์ลง
ในเว็บบอร์ดของโรงเรียน
คนทั้งโรงเรียนจึงรู้ว่าเธอชอบรุ่นพี่ที่มีฐานะสูงส่ง
พวกนั้นหาว่าเธอเป็นคางคกริจะกินเนื้อหงส์ฟ้า หน้าตาก็แย่ตัวก็อ้วน
อย่าคิดจะเหิมเกริมเลย
ความรู้สึกเหล่านั้น เซวียเหยาเย่าแค่เขียนให้ตัวเองอ่าน เพราะเธอรู้ดี
ว่าตัวเองแตกต่างกับเขามากแค่ไหน ไม่เคยคิดเป็นจริงเป็นจังสักนิด
เซวียเหยาเย่าในตอนนั้นแค่ถือว่าเขาเป็นเป้าหมายให้เธอตั้งใจ แต่
เมื่อไดอารี่เธอถูกประกาศออกมา เธอก็อยากจะหนีไปจริง ๆ
ส่วนเขากลับไม่มองเธอแม้แต่แวบเดียว
เธอคิดว่าเขาเกลียดที่ยัยอ้วนอย่างเธอไปชอบเขาถึงได้ทำแบบนั้น
ราวกับว่าการที่เธอไปชอบเขา ฝันร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็
กลายเป็นความจริง
แท้จริงแล้วไม่ใช่เหรอ?
เป็นเพราะเหตุอื่นอย่างนั้นเหรอ?
เซวียเหยาเย่ารู้สึกฝาดเฝื่อนในลำคอ “คุณรู้เรื่องนั้นในวันที่ฉัน
กลับไปโรงเรียนงั้นเหรอ? ถึงไม่ได้อยากพูดกับฉัน?”
ตอนที่ 2163
ลองดูอีกที
เจียงจั่วตอบรับ “อื้ม” แล้วเอ่ยต่อ “หลังจากนั้นอีกนานมากฉันถึงได้
เข้าใจ เรื่องที่คุณน้าเซวียแต่งเข้าตระกูลเจียงเป็นสิ่งที่เธอควบคุม
ไม่ได้ เพราะขนาดฉันก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย”
“มันผ่านไปแล้ว” เซวียเหยาเย่าหันไปมอง เหมือนจะสูดลมหายใจ
ลึก “ไปที่ห้องพยาบาลก่อนเถอะ”
เจียงจั่วหลุบตาลง ไม่ขยับเขยื้อน “แต่สำหรับฉันมันยังไม่ใช่สิ่งที่
ผ่านไป เพราะฉันยังชอบเธออยู่”
เซวียเหยาเย่าพลันมือแข็งค้างไปนิด
เจียงจั่วมองเธอแล้วยื่นมือไปหา เอ่ยเสียงต่ำว่า “ฉันอยากต่อสัญญาที่
เราเคยเซ็นกันเอาไว้ ครั้งนี้ให้เธอเป็นคนร่างกฎเอง จะให้ฉันทำอะไร
ก็ได้ ถ้าคิดว่าเมื่อก่อนฉันมันชั่วช้านักก็เล่นงานให้สะใจเลย แต่เธอ
ต้องเป็นของฉัน เธออยากต่อสัญญากับฉันไหม?”
เซวียเหยาเย่านิ่งเงียบ
เจียงจั่วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น รู้สึกแค่ท่อนแขนที่ค้างกลางอากาศหนัก
เหลือเกิน
หนึ่งวินาที
สองวินาที
เกือบสิบวินาทีผ่านไป
เจียงจั่วพอจะรู้ได้จากท่าทีของเธอแล้ว แต่เขาไม่อยากยอมรับ
หัวใจเหมือนถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง รู้สึกหนาวเหน็บว่างเปล่า
ทว่าในขณะที่เขาใกล้จะผิดหวัง กลับมีภาพในอดีตมากมายฉายผ่าน
ในหัวของเซวียเหยาเย่า
สุดท้ายหยุดลงบนภาพที่เขาเรียกเธอว่า ‘ยัยอ้วนเหยาเย่า’
ดังนั้นในระหว่างมือของเจียงจั่วผล็อยตก เธอก็จับขึ้นมาทันที ก่อน
เอ่ยอย่างวู่วามเล็กน้อยว่า “ถ้าต่อสัญญากันแล้วฉันกลับไปอ้วนอีก…”
“กลับไปอ้วนเหมือนเดิมก็ดีสิ จะได้ไม่มีใครแย่งเธอไปจากฉัน”
เจียงจั่วตัดบทคำพูดเธอก่อนก้าวหนึ่ง
นัยน์ตาดำขลับของเซวียเหยาเย่าสว่างวาบ “คุณก็รู้ว่าฉันเป็นคนมีปม
ด้อย ชอบคิดอะไรไปเอง”
“งั้นเธอก็คงรู้ว่าท่าทางฉันเหมือนเป็นคนเจ้าชู้ เลยมีผู้หญิงมาชอบ
มากมาย เธอจะต้องระวังพวกนั้นหน่อย” เจียงจั่วหลุบตาลง “ระวัง
พวกเขาเป็นพอ ไม่ต้องระวังฉันหรอก”
เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้ “พวกเขาชอบคุณเพราะหน้าตา
เหรอ?”
เขาเคยบ่นเรื่องนี้ที่ดาดฟ้ามานานแล้ว
“ตอนนี้เป็นเพราะมีเงิน” พูดได้ว่าคุณชายเจียงพูดตรงมาก
เซวียเหยาเย่าหลุบตาลง “ฉันไม่รับประกันว่าจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน
แต่พวกเราจะลองดูก็ได้”
“ลองแล้วไม่ดีก็อยากคืนสินค้าใช่ไหม?” เจียงจั่วขมขื่นในใจ แต่
กลับขลาดกลัวมากกว่า “ฉันจะไม่ยอมให้เธอมีโอกาสนั้นหรอก”
เซวียเหยาเย่าหัวเราะแผ่วเบา “บางทีผู้หญิงคนอื่นอาจจะให้โอกาส
นั้นกับฉัน เช่นเข้าใกล้คุณแล้วคุณคุมตัวเองไม่อยู่ มันเป็นไปได้
ทั้งนั้น”
เจียงจั่วดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอด ก้มตัวลงกระซิบข้างหูว่า “ก่อนหน้า
นี้พวกเราคบกันตั้งนาน ใช่ว่าเธอจะไม่เคยนอนในห้องทำงานฉัน
เห็นไหมล่ะว่าฉันมีเลขาฯ เป็นผู้หญิงบ้างหรือเปล่า”
เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้ว ต้นคอด้านหลังแดงเรื่อ
“ไม่มี” เจียงจั่วเหมือนกอดเธอเบา ๆ กระทั่งเสียงยังแฝงความทอด
ถอนใจไว้ “มีเธอแค่คนเดียว ตลอดมาฉันมีแค่เธอคนเดียว”
เซวียเหยาเยารู้ดีว่ากับคนคนนี้ อย่างไรก็เหมือนจะตัดเขาไม่ขาด
ยังดีที่ตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน
เธอในตอนนี้ไม่ถึงกับหลงใหลจนเสียสติเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
แล้ว
หัวใจยังเต้นตึกตัก และหวานอยู่นิด ๆ
ที่แท้ความรักที่อยู่ในจุดที่เหมาะสม มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ก่อนหน้ารีบวางใจไม่ได้จริง ๆ
เธอถึงขั้นไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะรักกันไปได้ถึงขั้นไหน
ลองดูสักครั้ง อยากให้โอกาสตัวเองบ้าง
หากทำยังอะไรไม่ได้อีก ก็วางมืออย่างแท้จริงได้แล้ว
เซวียเหยาเย่าคิดอย่างไร คนฉลาดอย่างเจียงจั่วไม่มีวันไม่เข้าใจ ถึง
ได้ทั้งหวานชื่นในอกระคนหวั่นใจ…
ตอนที่ 2160
เจียงจั่วลุกขึ้นนั่ง ผ้าขนหนูสีขาวที่วางบนหน้าผากร่วงลงมา ทำให้
แววตาเขาเปลี่ยนไป
ขณะที่ยังมึนงง ชายอีกคนด้านข้างยกบะหมี่น้ำมาให้ “เฮ้ย นายตื่น
เสียที รีบกินบะหมี่เร็ว ฉันสั่งใส่กล่องกลับมาให้นาย รับรองว่าไม่ได้
ทำจากน้ำมันท่อแน่”
คนพูดเป็นรูมเมทที่เป็นทีเอด้วยกัน และด้วยเสียงนี้ทำให้ชายหนุ่ม
คิดว่าตัวเองควรตื่นได้แล้ว
เขาคงไข้ขึ้นสูงเกินไปจริง ๆ ถึงได้เห็นว่าเหยาเย่ามาเยี่ยม
น่าจะฝันมากกว่า
เจียงจั่วไม่ทำอะไรมากไปกว่านั้น กลับลงไปนอนดังเดิม และยกมือ
ทาบหน้าผากตัวเอง “ฉันไม่หิว”
“นายบอกว่าไม่หิวอีกแล้ว” ชายคนนั้นส่ายหน้า “คุณชายเจียง นาย
ต้องกินอะไรบ้างนะ ถึงฟื้นไข้แล้วจะไม่อยากอาหารก็เถอะ นายดู
ตัวเองสิ เมื่อกี้ให้นายกินข้าว นายก็ไม่กิน เป็นไงล่ะป่ วยหนักขึ้นเลย
ถ้าไม่ใช่น้องสาวนาย…”
“น้องสาว? น้องสาวอะไร” เจียงจั่วพูดแทรกขึ้นมาก่อนโดยไม่รอให้
อีกฝ่ายพูดจบ
อีกฝ่ายงงเล็กน้อย “ก็น้องนายไง น้องเหยาเย่า”
เจียงจั่วผุดลุกขึ้นมา เสียงค่อนข้างแหบเครือ “เหยาเย่ามาเหรอ?”
“อื้อ” คนคนนั้นพยักหน้า เป่ าบะหมี่กินพลางพูดต่อ “เขาเพิ่งกลับไป
แถมยังทิ้งยาไว้ให้นายด้วย บอกว่าถ้านายตื่นแล้วให้ฉันเรียกนายไป
กินข้าว กินเสร็จค่อย…เฮ้ย เดี๋ยว คุณชายเจียง จะไปไหน!”
เจียงจั่วไม่ได้หันกลับมา คว้าเสื้อคลุมได้ก็ออกไปเลย
ทำให้ชายคนนั้นเป็นงง “คุณชายคนนี้รู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองเพิ่งจะ
หายไข้”
เวลานี้เจียงจั่วไม่แคร์เรื่องเหล่านั้นอีกแล้ว
ในเมื่อเธอมาหาเขา ก็แสดงว่าเขายังมีโอกาสอยู่ใช่ไหม
นี่เป็นสิ่งเดียวที่เจียงจั่วใส่ใจ
วันนี้ใต้ตึกหอพักหญิงมีคนเยอะมาก เพราะมีคนคนหนึ่งยืนอยู่ใต้
ต้นไม้
คนคนนั้นยิ้มมุมปาก ดูเหมือนเพิ่งเล่นบาสเสร็จ ยังไม่ดึงผ้ารัดข้อมือ
ออกด้วยซ้ำ มือถือดอกไม้ไว้ช่อหนึ่ง และกำลังพูดกับเซวียเหยาเย่า
คนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเดือนมหาวิทยาลัยสุดหล่อที่พวกเธอ
อยากเห็นนั่นเอง
“ในเมื่อเธอไม่มีเวลา ฉันเลยได้แต่มาหาเอง” ชายคนนั้นยิ้ม “ตอน
แรกกะว่าจะค่อย ๆ บอกเธอ แต่เห็นทีถ้าไม่พูดในตอนนี้ ต่อไปคง
ไม่มีโอกาสแล้ว เธอเองก็คงรู้”
เซวียเหยาเย่ายืนนิ่งไม่พูดอะไร
“เธอบอกว่าเธอมีแฟนแล้ว ฉันติดตามทีมไดมอนด์มานาน ไม่เคยได้
ยินข่าวว่าเธอมีแฟนมาก่อน แต่พอทีเอนั่นมา ฉันก็ยิ่งแน่ใจว่าเธอยัง
ไม่มีแฟน”
“สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้ ฉันหวังว่าจะไม่ทำให้เธอลำบากใจ ถ้าเธอรู้สึก
ว่าได้ยินแล้วไม่รู้จะคบหาฉันต่อไปยังไง ก็ถือเสียว่าฉันไม่ได้พูดก็
แล้วกัน”
“เหยาเย่า ฉันชอบเธอ”
เมื่อเขาพูดถึงตัวอักษรตัวสุดท้าย คนที่เดินไปมาแถวนั้นแทบจะได้
ยินกันหมด
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าที่นี่คือหอพักหญิง
ข่าวที่ส่งต่อกันย่อมเร็วมาก กระทั่งมีคนป้องปากกระซิบ แถมยังมี
คนผิวปากอีกต่างหาก
หากเป็นเมื่อก่อน คงไม่มีใครเชื่อว่าเดือนสุดหล่อจะสารภาพรักใคร
และยิ่งไม่น่ามารอใครที่ใต้ตึก
แต่เวลานี้ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ๆ เหมือนเป็นภาพที่น่าจะเกิดขึ้น
แค่ในละคร
หญิงสาวที่ถูกสารภาพรักโชคดีเหลือเกิน
มีคนป้องปากตะโกนว่า “ตอบตกลง ตอบตกลง ตอบตกลง”
ความสวยงามและครึกครื้นทั้งหมดคือสิ่งที่เจียงจั่วซึ่งหน้าซีดขาว
เห็นเมื่อถือเสื้อคลุมเดินมาถึงที่นี่
ตอนที่ 2161
คบกันนะ
ไม่มีหวังแล้วใช่ไหม
เขากัดริมฝีปากล่าง สองขาเหมือนถูกอะไรถ่วงไว้ ทั้งหนักอึ้งและอึด
อัด
เขามองเห็นอนาคตและวัยหนุ่มสาวจากตัวของคนทั้งสอง
หากคิดให้ดี เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเธอกับเขา
นอกจากการทำร้าย อดีต รวมถึงความบ้าที่ไม่อยากจะคิดถึง
เจียงจั่วไม่เคยมองออกว่าปัญหาของตัวเองอยู่ที่ตรงไหน
เขาอยากถามเธอเหลือเกิน
การที่เขารักใครไม่เป็นถือเป็นความผิดงั้นเหรอ
แต่ตอนนี้พิสูจน์ชัดแล้ว การชอบใครไม่เป็นถือเป็นความผิดของเขา
เพราะเขาไม่เคยคิดจะถนอมค่าของมัน แล้วก็ยังไม่เชื่อใจใคร
ทว่าเขาดีโดยสิ้นเชิงกับคนคนหนึ่ง
เจียงจั่วหลุบตาลง
เขาเป็นนักธุรกิจ ทั้งที่อยู่ในวัยเดียวกัน แต่มีความคิดซับซ้อนยิ่งกว่า
หากเทียบกับดีงามของคนอื่น เขากลับเหมือนจะคิดเพียงผลประโยชน์
ไม่ว่าจะทำอะไร เขามักคำนึงถึงผลได้ผลเสียก่อน
มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไรกัน
น่าจะเป็นหลังจากที่แม่เขาเสียชีวิตแล้วเขาต้องรักษาตระกูลเจียงเอาไว้
ผู้หญิงหลายคนอยากแต่งงานกับพ่อเขา หากเขาไม่คำนึงผลได้ผลเสีย
แล้วจะต่อสู้กับพวกนั้นได้อย่างไร
เขาไม่ยอมให้ใครแตะต้องสมบัติของตระกูลเด็ดขาด
ไม่ใช่ว่าเขาอยากเป็นคุณชายตระกูลเจียง แต่ของเหล่านั้นควรต้อง
เป็นของของแม่เขา
ดังนั้นต่อมาเขาจึงกลายเป็นคนละคน
เจียงจั่วก้มหน้าหัวเราะ
ครั้งนี้เขาไม่อาจทำตามวิธีของตัวเองได้ นอกจากจะไม่อยากบังคับ
เธออีก ยังมีอีกอย่างนั่นคือ เขาอาจเป็นแบบนี้มานานแล้ว
เป็นเขาที่เอาแต่ยึดติดกับอดีต
จำได้ว่าในวันคริสมาสต์ตอนอายุสิบขวบ ฉินมั่วยืนที่หน้าประตูบ้าน
ของพวกเขา คนที่ไม่แตะต้องงานศิลปะอย่างเขาคนนั้นกลับตกแต่ง
ต้นคริสมาสต์
ทั้งที่เป็นเทศกาลของคนต่างชาติ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาสักนิด
ยิ่งเป็นตระกูลฉิน ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับวันเทศกาลของประเทศ
จีนมากกว่า
ความเคยชินเล็กน้อยเหล่านี้ ฉินมั่วจะต้องทำทุกปีนับตั้งแต่ที่เขารู้จัก
อีกฝ่าย
ตอนนั้นเขาถามเพื่อนว่า ‘นายทำเรื่องพวกนี้ทำไม’
ฉินมั่วบอกว่า ‘เคยมีคนชอบ’
เขารู้คำตอบทันที ‘เคยมี แสดงว่าคนคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว’
ฉินมั่วเงยหน้า แววตาไม่เปลี่ยนไป ‘ตอนนี้ไม่อยู่ แต่แค่ฉันรอเขาที่
เดิม เขาต้องกลับมาสักวัน’
ตอนนั้นหากจะบอกว่าเขานับถือฉินมั่ว ไม่สู้จะบอกว่าเขาอิจฉา
เพื่อนที่มีคนให้รอคอย
หากยืนอยู่ที่เดิม คนคนนั้นแค่หันกลับมาก็จะมองเห็น
หลายคนบอกว่าคนที่ยืนอยู่ที่เดิมไม่ง่ายเลย เพราะไม่มีใครจะยืนหยัด
ได้โดยไม่เปลี่ยนไป
ใช่ ฉินมั่วไม่เคยเปลี่ยนเลยในตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะเกิดเรื่อง
ขึ้น ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่เปลี่ยน
แต่มีคนรู้บ้างไหมว่า คนบางคนไปแล้วก็ไปลับ ไม่มีวันหันกลับมา
มองว่ามีคนรออยู่ด้านหลัง
เพราะแต่ละคนแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ย่อมต้องสร้างชีวิตใหม่ของตัวเอง
มีแต่คนอย่างฉินมั่ว
เธอคนนั้นหันกลับมา แถมยังใช้วิธีวิ่ง…วิ่งย้อนหลังมาเรื่อย ๆ เพื่อจะ
ได้กลับมาเจอฉินมั่ว
เมื่อรู้ว่า Z คือคนที่ฉินมั่วรอคอยมาหลายปีนี้ เจียงจั่วอิจฉามาก
เขาเองก็ไม่เปลี่ยน แต่เขาไม่รู้จักถนอมค่า ถึงได้ไม่มีใครหันกลับมา
มอง
เจียงจั่วหันหลัง ก้าวเท้าออกเดินไปยังทางตรงข้ามกับหอพักนักศึกษา
เขาไม่ได้ยินคำปฏิเสธของเหยาเย่า
เสียงเหมือนหายไปจากหู
ทำให้เซวียเหยาเย่าร้อนรน เมื่อหันมาเห็นเขาก็เร่งฝีเท้ามาขวางไว้
ด้านหน้า “คุณจะเดินไปจนถึงเมื่อไรถึงจะยอมหยุด”
ตอนที่ 2158
เจียงจั่วที่คิดว่ารูมเมทกลับมาอีกชะงักกึกเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่หน้า
ประตูคือเซวียเหยาเย่า
เซวียเหยาเย่าเห็นสภาพเขาแล้ว ก็รู้ว่าไข้ของเขายังไม่ลดโดยไม่ต้อง
ใช้มือวัดอุณหภูมิ และก็ไม่ได้โวยวายไร้เหตุผลแล้ว เธอจึงดึงเขาไป
ข้างเตียง “คุณนอนก่อนแล้ววัดซะ ถ้าไข้สูงก็กลับไปที่ห้องพยาบาล
ถ้าไข้ไม่สูงก็กินยา ฉันจะไปรินน้ำให้”
เจียงจั่วถูกเธอลากก็มึนศีรษะเล็กน้อย จนเมื่อถูกปล่อย เขาถึงหลุบตา
มองดูข้อมือตัวเอง
นานแล้ว นานมากแล้วจริง ๆ
เธอเป็นฝ่ายแตะต้องเขาก่อน
ไม่ใช่เห็นเขาทุกครั้งแล้วอยากวิ่งหนี
ครั้งนี้ห่างจากครั้งที่แล้วมานานมาก
เขาหันไปมองร่างที่ยุ่งวุ่น เรียวปากยังขาวซีด ไม่มีแรงพูดอย่างแท้จริง
หากเธอไม่เคาะประตูอย่างต่อเนื่อง เจียงจั่วคงไม่ลุกขึ้นมา
เมื่อคิดตอนนี้ ก็รู้สึกว่าโชคดีจริง ๆ ที่ลุกขึ้นมาเปิดประตู
พอเซวียเหยาเย่าเดินกลับมา นอกจากยาและน้ำอุ่นแล้ว เธอยังมีผ้าบิด
น้ำหมาด ๆ ติดมือมาด้วย จากนั้นจึงเอี้ยวตัวมาวางไว้บนหน้าผากเขา
ตอนนี้เจียงจั่วเข้าใจเสียทีว่าทำไมฉินมั่วชอบใช้แผนเจ็บตัวเรียกร้อง
ความสนใจ
แต่มาถึงเวลานี้ เขาไม่อยากใช้เล่ห์กลกับเธออีกต่อไปแล้ว
หากเธอคิดว่าเป็นการทำร้าย เขาก็จะอยู่นิ่ง ๆ ขอแค่คนอื่นอย่าเข้า
ใกล้เธอก็พอ
คงไม่มีใครเข้าใจว่าเขาหวั่นใจที่ตรงไหน
เจียงจั่วกลัวว่าเธอจะเริ่มชีวิตใหม่ของตัวเองในรั้วมหาวิทยาลัย แล้ว
ชีวิตใหม่นั้นไม่มีเขาอยู่
อีกอย่างเขารู้ดีด้วยว่าเดือนมหาวิทยาลัยรูปหล่อนั่นคิดอะไรกับเธอ
หากอีกฝ่ายเป็นแค่หนุ่มน้อยไร้เดียงสาก็ยังพอว่า แต่ฝ่ายนั้นกลับพูด
กล่อมให้เธอกลับมาแตะเกมได้อีกครั้ง
เจียงจั่วกลัวจริง ๆ ถึงขั้นที่ยังไม่จัดการเรื่องที่บ้านก็แล่นมาที่นี่ กระทั่ง
ไม่สนว่าจะได้ตำแหน่งทีเอหรือไม่
แม้ว่าทุกวันต้องเฝ้ามองว่าอาจจะสูญเสียเธอไปจริง ๆ
เหมือนนี่จะยังดีกว่าการวิตกไปเอง
แต่ดูเหมือนเขาจะรับไม่ได้
เธอไปกินข้าวกับผู้ชายคนนั้น ทดสอบเกมด้วยกัน พูดกันในสิ่งที่เขา
ไม่รู้เรื่องเลย
เวลานี้เขาเสียใจมาก ทำไมถึงไม่ให้เจ้าฉินมั่วนั่นสอนเขาเล่นเกม
ทว่าโลกนี้ไม่มียารักษาอาการเสียใจภายหลังวางขาย
เขาเป็นนักธุรกิจ ย่อมมีความแตกต่างด้านเนื้อแท้กับคนที่มีความฝัน
อยู่ในใจอย่างพวกเขา
เจียงจั่วเอาแต่คิดอยู่อย่างนั้นมาตลอด ไม่ได้เคยบอกเธอว่าความฝัน
ของเขาก็คือเธอ
เขาอยากได้คนคนหนึ่งมาครอง ต้องการมาก
ถึงได้คิดว่าตัวเองโดนหักหลังในช่วงเวลาที่ไร้เดียงสาไปเสียทุกเรื่อง
และเมื่อจะรั้งเธอไว้ กลับใช้วิธีการที่เป็นนักธุรกิจที่สุด
เขาอยากพูดกับเธอเหลือเกินว่ากลับมาคบกันอีกได้ไหม
เธอไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักให้ผอมลง อันที่จริงไม่ว่าจะสวยหรือไม่
เธอก็ยังคงเป็นเธอในสายตาเขา
เจียงจั่วไข้ขึ้นจนคิดเหลวไหลเลอะเทอะ
เซวียเหยาเย่าดูอุณหภูมิที่วัดได้อยู่ข้างเขา อยากจะดึงตัวเขาให้ลุกขึ้น
แต่ก็ทำไม่ได้
ทำได้แต่ให้เขาดื่มยา ก่อนหาตัวช่วยมาลดอุณหภูมิให้
ยังดีที่เธอไปขอแอลกอฮอล์จากห้องพยาบาลมา
ห้องพักของผู้ช่วยสอนมีตู้เย็น เธอเอาน้ำแข็งจากช่องฟรีซที่อยู่ชั้น
ล่างมาใส่ในห่อผ้า จากนั้นก็วางไว้บนหน้าผากชายหนุ่ม อย่างไรก็
ทำให้อุณหภูมิลดลงได้บ้าง
คงเพราะรู้สึกว่ามีคนเข้าใกล้ เจียงจั่วลืมตาขึ้น นัยน์ตารูปดอกท้อน่า
มองมาก จากนั้นก็กุมมือเธอไว้ “ยัยอ้วนเหยาเย่าเหรอ?”
ตอนนั้นเขาเคยเรียกเธออย่างนี้
เมื่อเซวียเหยาเย่าตอบรับ ก็ได้ยินเขาพูดว่า “โกหก เขาไม่สนใจฉัน
แล้ว”
ตอนที่ 2159
ไม่ไหวก็ยอมรับ
เจียงจั่วไข้ขึ้นจนไม่ได้สติแล้ว
ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดออกมาอย่างนี้ และยิ่งไม่น่าจะจับมือเธอให้ห่าง
จากตัวด้วย
ทว่าเขาคิดว่าเธอไม่ใช่เซวียเหยาเย่าจริง ๆ
ดังนั้นเมื่อพูดจบ เขาจึงหลับตาลง หน้าหล่อเหลาที่ซีดขาวเริ่มจะแดง
อย่างผิดปกติ
ดูก็รู้ว่าเป็นเหตุมาจากไข้ที่ขึ้นสูง
คงเพราะไม่ค่อยสบาย กระทั่งคิ้วก็ยังขมวดมุ่น ลมหายใจร้อนผ่าว
เซวียเหยาเย่านั่งอยู่ข้างเขา หัวใจพลันเหมือนโดนเข็มทิ่มแทง
ตั้งแต่ตอนที่เข้าประตูมา เธอก็เห็นแล้วว่าสภาพแวดล้อมรอบด้าน
เป็นอย่างไร
หากเป็นเขาเมื่อก่อน รับรองว่าไม่ยอมอยู่ในห้องที่มีสภาพแบบนี้แน่
เพราะมันซอมซ่อมาก กระทั่งด้านนอกยังมีใยแมงมุม เนื่องจากที่นี่
เป็นวิทยาเขตที่เก่าแก่
ภายในห้องสะอาด แต่ก็ต่างไปจากกับสถานที่ที่เขาเคยอยู่ราวฟ้ากับ
เหว
ใช่ว่าเซวียเหยาเย่าจะไม่เคยคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อใคร
ทว่ามันสายไปแล้ว เธออยากบอกเขาเช่นนี้
แต่คำว่า ‘ยัยอ้วนเหยาเย่า’ ทำให้เธอชะงักไปนิด
ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจถึงได้อบอุ่นมาก
คนอื่นอาจไม่เข้าใจ หลายคนเริ่มชอบเธอเพราะรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป
ในตอนนี้ของเธอ
ความมั่นใจที่ได้มาด้วยตัวเอง การรู้จักแต่เนื้อแต่งตัว กระทั่งน้ำหนัก
ที่ลดลงถึงสิบกิโลกรัม
เดี๋ยวนี้เธอสามารถแก้ไขทุกอย่างได้เมื่อเจอปัญหา ไม่เงอะงะโง่เง่า
อีก
พยายามทำให้ตัวเองดียิ่งขึ้น ตั้งใจให้มากพอ จึงจะได้ความเคารพ
อย่างเท่าเทียมกัน
ทว่านอกจากฝ่าบาทจิ่วแล้ว ยังมีอีกคนที่ไม่ว่าจะเกลียดหรือชอบก็
ล้วนแต่มาจากความรู้สึกที่มีให้เธอในอดีต
คนที่น้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองจนน่าละอาย แก้ไขปัญหาไม่ได้สักเรื่อง
ทั้งอ้วนและขี้เหร่ กระทั่งทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง
ตอนนั้นเขายังหัวเราะพลางบอกว่า ‘ไม่มีอะไรถูกต้องสักอย่างหรอก
สบายใจดีออก แต่มันก็หนักจริง ๆ ยัยอ้วนเหยาเย่า’
เหตุที่เธอชอบเขา ก็เพราะเขาให้ความกล้าหาญแรกสุดกับเธอ
ดังนั้นเมื่อต้องเจ็บปวด ถึงรู้สึกว่าใจสลาย
ทว่าใครกำหนดว่าตอนนั้นเขาจะต้องชอบเธอ
เซวียเหยาเย่าหันไปมองเขา ความรู้สึกหลายอย่างที่ผู้ชายคนนี้เคย
มอบให้เธอสับสนซับซ้อนจนราวกับเป็นเงามืดในช่วงวัยรุ่น
เขาเคยเห็นสภาพน่าสังเวชของเธอ
ทำลายความฝันของสาวน้อยอย่างเธอ
แต่เมื่อผ่านหลายเรื่องราวมาได้ เซวียเหยาเย่าจึงเข้าใจหลักการหนึ่ง
ความฝันของสาวน้อยอย่างไรก็เป็นแค่ฝันหวาน
ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพน่าสังเวชหรือดีเลิศ ใช่ว่าจะมีคนยินดีไปด้วย
ได้
คนหลายคนบอกว่าชอบอย่างนั้น ทว่าเซียวเหยาเย่ากลับเห็นเหตุการณ์
ที่เลวร้ายที่สุดจากคำว่าชอบนั้น
กระทั่งเมื่อมีคนรู้ว่าเทพฉินบาดเจ็บที่มือ พวกที่อ้างคำว่าชอบกลับถึง
ขั้นอยากให้เขาออกจากทีมตอนที่เขาฟอร์มตก
การชอบมันง่ายนัก แค่หนึ่งสายตา ใบหน้า และคำพูด ล้วนแต่ทำให้
คนเพ้อฝันได้หมด
แต่เมื่อความฝันถูกทำลาย กลับมีคนกล่าวหาว่าเทพหลินหลอกผู้หญิง
มาแต่งงาน แค่เขาบอกว่าตัวเองเป็นเกย์ ก็ไม่อาจแก้ข้อกล่าวหาได้แล้ว
ฉะนั้นสิ่งที่ยอมรับได้ยากที่สุดของความชอบคือ มันเดินสวนทางกับ
ความฝันนั่นเอง
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้
นอกจากทีมไดมอนด์แล้ว มีเพียงเขาที่ไม่เคยบอกให้เธอปรับปรุง
ตัวเอง
กระทั่งยังบอกด้วยว่า ‘หน้ามีเนื้อเยอะ ๆ เวลาหยิกแก้มมันมันมือดี”
ยัยอ้วนเหยาเย่าเหรอ?
เซวียเหยาเย่าวางมือไว้บนหน้าผากเขา ดวงตาสะท้อนเงากิ่งไม้ด้าน
นอก
เจียงจั่วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้วยไข้ขึ้นสูงถึง 40 องศา รู้สึกหนักศีรษะอยู่บ้าง หากไม่เพราะมีคน
คอยใช้ตัวช่วยลดไข้ให้ตลอด มีหวังเขาต้องหนักแน่นอน
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกที ท้องฟ้าก็มืดมิดแล้ว ทว่ามีคนเปิดไฟในห้อง
ให้สว่าง…
ตอนที่ 2156
เซวียเหยาเย่าไม่ได้พูดอะไร เสไปมองผลไม้เหล่านั้น
ทุกอย่างล้วนแต่เป็นของโปรดของเธอ
เธอเคยคิดว่าเขาคงจำสิ่งที่เธอพูดไม่ได้ เพราะตอนที่เธอพูดกับเขา
เธออ้วนมาก
เวลานั้นต้องไม่มีใครสนใจว่าเธอพูดอะไร ทำอะไร หรือชอบอะไรสิ
ถึงจะถูก
“เหยาเย่า?” หลี่เถาหันมามอง
เซวียเหยาเย่าถึงได้สติ ตอบว่า “อื้อ” สั้น ๆ
หลี่เถาถอนใจยาว “มีพี่ดีเลิศขนาดนี้ ต้องกดดันมากแน่ ๆ พวกนั้น
เคยถามฉันว่าจะตีซี้กับเธอยังไงดีถึงจะได้ข้อมูลติดต่อของคุณทีเอ”
เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้วยิ้มขึ้นมา “เมื่อก่อนเคยมีคนมาขอกับฉัน
เหมือนกัน” แต่ไม่ได้มาอย่างมีมารยาทแบบนี้
หลี่เถาพูดต่อ “เหมือนคุณทีเอกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้เธอ ก่อนหน้า
นี้ฉันเคยเห็นเขาบอกผู้หญิงคนหนึ่งว่าอย่ารบกวนเธอ ผู้หญิงคนนั้น
เกือบร้องไห้เลย”
เซวียเหยาเย่าหลุบตาลงเพื่อจะเลี่ยงการคุยเรื่องนี้
ทว่ากลับเห็นร่างหนึ่งที่สูงโปร่งแสนสำราญสลัดคราบคุณชายจอม
เจ้าชู้ไม่หลุดยืนอยู่ใต้ต้นไม้
ครั้งนี้เขายืนอยู่คนเดียว เงยหน้ามองมาทางห้องเธอ
เขาปัดใบไม้ที่ร่วงจากต้นมาอยู่บนเส้นผมดำขลับ แต่ยังไม่จากไป
ไหน เอาแต่พิงต้นไม้อยู่อย่างนั้น
เซวียเหยาเย่าหลุบตาลง ดึงม่านหน้าต่างปิด
ไม่รู้ว่าวันนั้นฝนตกหรือไม่ ถึงทำให้เขามองท่าทีของเธอออก
เจียงจั่วไม่ปรากฏตัวในวันต่อมา แต่ผลไม้ก็มาถึงอยู่ดี แถมมีขนม
หวานให้อีกสี่ชุด เหล่ารูมเมทกินกันอย่างมีความสุข
“เป็นคนรักน้องนะเนี่ย”
“เป็นคนรักน้องของแท้เลย เธอว่าถ้าต่อไปเหยาเย่ามีแฟน คุณทีเอจะ
ต่อยผู้ชายคนนั้นไหม”
“มีคุณทีเอคนเก่งเป็นพี่ชาย ใครอยากจะจีบเหยาเย่าก็ต้องคิดแล้วว่า
ตัวเองมีสิทธ์ิไหม”
หลี่เถาหัวเราะ ชนบ่าเหยาเย่าเบา ๆ “ดูสิ มีคนพิจารณาตัวเองแล้ว แถม
คิดว่ามีสิทธ์ิด้วย เหยาเย่า เดือนสุดหล่อของเราเชิญเธออยู่ในเกมย่ะ”
“งานทดสอบเกมน่ะ” พูดจบเธอก็ออนไลน์
เธอมุ่งมั่นกับการหาบัคจากการเล่นและอาการแฮงก์ที่อาจเกิดขึ้นมา
เกือบชั่วโมงกว่าแล้ว
หลี่เถาและเพื่อน ๆ ซักผ้าเสร็จก็ซื้ออาหารกลับมาพอดี พอเข้ามาถึงก็
ดึงแขนเสื้อเธอ “เหยาเย่า เธอรู้ไหมว่าคุณทีเอไข้ขึ้น”
เซวียเหยาเย่าที่กุมมือถืออยู่ชะงัก “ไข้ขึ้นเหรอ”
“อื้ม ได้ยินว่าหนักเอาการนะ อาจเป็นเพราะเมื่อวานตกฝนหรือเปล่า
ก็ไม่รู้” หลี่เถาเอ่ยเสียงเบา “ตอนนี้เหมือนจะอยู่ในห้องพยาบาล
พวกเพื่อน ๆ พูดกันอยู่ เหยาเย่า พี่เธอกลัวว่าเธอจะเป็นห่วงหรือ
เปล่า ถึงได้ไม่บอกเธอว่าตัวเขาไข้ขึ้นอะ”
เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้วแววตาเคร่งขรึม
เสียงของหลี่เถาเหมือนอยู่ห่างไกลจากตัวเธอไปเรื่อย ๆ
“มิน่าล่ะวันนี้คุณทีเอถึงไม่มา”
เซวียเหยาเย่าลุกขึ้น จัดการงานที่เหลืออยู่ให้เสร็จ “ฉันจะไปดูเขาที่
ห้องพยาบาลหน่อย”
“อื้ม ๆ ไปเถอะ ไปเถอะ”
ก็พี่ชายแท้ ๆ ไม่สบาย คงพิลึกถ้าไม่ไปดูสักหน่อย
เซวียเหยาเย่าไม่ได้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกันให้คนอื่นรับรู้
ทว่าเมื่อเดือนมหาวิทยาลัยชวนเธอกินข้าว เธอกลับตอบเพียงว่า “ที
เอเขาไม่สบาย ฉันต้องไปดูเขาหน่อย”
ทีเอ?
เรียกพี่ตัวเองแบบนี้ หลินหยางชะงักมือ เอ่ยกลั้วยิ้มว่า “เหมือนจะไม่
เคยได้ยินเธอเรียกคุณทีเอว่าพี่เลยนะ”
“พวกเราไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันน่ะ” เซวียเหยาเย่าคิด ๆ แล้วก็บอก
ความจริงกับอีกฝ่ายในที่สุด “พวกเราเป็นพี่น้องเพราะพ่อเขากับแม่
ฉันแต่งงานใหม่กัน”
ตอนที่ 2157
มาเยี่ยมเจียงจั่ว
ประโยคเดียวของเซวียเหยาเย่าทำให้แววตาของหลินหยางสะดุดกึก
ลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นตอนเห็นผู้ชายคนนั้นเป็นครั้งแรกกลับคืนมาอีก
ครั้งในเวลานี้
ผู้ชายคนนั้นชอบเหยาเย่าเหมือนdyo
ต่อให้คนคนหนึ่งปิดบังสักเท่าไร สายตาก็ปิดบังไม่มิด
นับตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นปรากฏตัว สายตาก็เหมือนจะมีแค่เซวียเหยาเย่า
คนเดียว
ตอนที่เขาได้ยินว่าฝ่ายนั้นเป็นพี่ชายของเธอก็โล่งอก แต่ตอนนี้ดู
เหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว
เหยาเย่ารู้ตัวไหม?
พี่ชายต่างสายเลือดชอบเธออยู่
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลินหยางคิดว่าเธอรู้แน่นอน
ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของเธอแล้วจะห่างเหินกับพี่ชายตัวเองขนาดนั้น
หลินหยางคิดเสมอว่าเขาใช้วิธีค่อย ๆ ใกล้ชิดจะดีกว่า
แต่ตอนนี้เขาไม่คิดเช่นนั้นแล้ว
ชายหนุ่มหลุบตาลง เสี้ยวหน้าหล่อเหมือนหนุ่มยุคโบราณ “เหยาเย่า
พวกเราเจอกันหน่อยไหม”
เซวียเหยาเย่าย่นหัวคิ้ว “ตอนนี้เหรอ?”
หลินหยางตอบ “ใช่”
เซวียเหยาเย่าคิดครู่หนึ่ง “พี่มีงานอะไรที่ต้องการเจอฉันเหรอ?”
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ “เปล่า แค่อยากชวนเธอกินข้าว”
เซวียเหยาเย่าตอบมาด้วยข้อความเสียง “ต้องขอโทษด้วยนะ ฉันมี
ธุระพอดี ถ้าไม่ใช่ปัญหาเรื่องงาน ฉันขอไม่ไปนะคะ”
หลินหยางไม่ล้มเลิกความตั้งใจ “งั้นพรุ่งนี้เจอกันตอนเลิกเรียน ฉัน
จะรอเธอที่ห้องสมุด”
“อืม” เซวียเหยาเย่ากำลังพะวงเรื่องอื่นในใจ จึงรับปากไปโดยไม่ได้
คิดมาก เพราะอย่างไรเธอก็ต้องเจอกับเขาเป็นการส่วนตัวบ่อย ๆ
เรื่องข้อมูลฟีดแบคที่ได้รับ
ตอนนี้เธอกำลังคิดว่านักศึกษาอย่างเธอจะเข้าหอพักของคุณทีเอได้
อย่างไร
เธอไปที่ห้องพยาบาลมาแล้ว และได้รับคำตอบมาแล้ว
ครูห้องพยาบาลบอกว่าไข้ขึ้นหนักเพราะเปียกฝน ต่อจากนี้ต้อง
พักผ่อนมาก ๆ
หลังจากกล่าวคำขอบคุณ เซวียเหยาเย่าก็ไปที่หอพักเจ้าหน้าที่ของ
มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นตึกสองชั้นของวิทยาเขตเก่า
มหาวิทยาลัย C มีขนาดใหญ่ แต่กลับมีทีเอไม่กี่คน
เธอถือยาและผลไม้ที่ซื้อมาด้วย คิดว่าหากเข้าไม่ได้จริง ๆ ก็จะอ้างว่า
เป็นญาติเอาของมาฝากให้คนอื่นเอาขึ้นไปให้
โชคดีที่เธอมีสถานะพิเศษ
“น้องสาวของทีเอเจียงนี่นา มาเยี่ยมพี่ชายเหรอ?” มีคนเดินลงมาเห็น
เธอเข้าพอดี จึงยิ้มให้
เซวียเหยาเย่าตอบรับก่อนจะถาม “ทราบไหมคะว่าพี่ชายฉันอยู่ห้อง
ไหน?”
“ห้องแรกที่อยู่ซ้ายมือ ฉันอยู่ห้องเดียวกับเขา” ชายคนนั้นยิ้มบาง ๆ
“กำลังจะไปซื้อยาให้เขาพอดี ในเมื่อเธอมาแล้ว งั้นฉันก็ไม่แบกสังขาร
ละ เพราะยังต้องเขียนข้อมูลที่ใช้สอนด้วย ขอไปห้องสมุดก่อนแล้ว
กัน”
เซวียเหยาเย่าเว้นทางให้ “รบกวนแล้วค่ะ”
“ก็ฝึกงานด้วยกัน ไม่รบกวนอะไรหรอก แต่พี่เธอเป็นกรณีพิเศษ”
ชายคนนั้นว่าแล้วก็โบกมือเดินจากไป
เธอจึงหิ้วข้าวของขึ้นไปข้างบน
ด้วยเหตุที่เป็นวิทยาเขตเก่า ผนังจึงกระดำกระด่าง บันไดก็เป็นแบบ
สมัยก่อน เหยียบทีส่งเสียงดังเล็กน้อย
ระเบียงยาวทอดตัวผ่านสี่ห้องด้วยกัน เธอหาห้องแรกที่อยู่ซ้ายมือ
เจอก็ยกมือเคาะประตู
แต่ไม่มีใครตอบรับ
เซวียเหยาเย่าขมวดคิ้วเบา ๆ พลางบ่นในใจ ตามที่ทีเอคนเมื่อกี้พูด
แสดงว่าต้องมีคนอยู่ด้านในสิ หรือว่าเขาป่วยหนักมาก?
เซวียเหยาเย่าเคาะประตูอีกเมื่อคิดมาถึงตรงนี้
เวลานี้เธอเพิ่งได้ยินเสียงฝีเท้า
เมื่อประตูเปิดออก ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวพลันปรากฏออกมา เขา
ดูต่างไปจากเวลาปกติ แม้จะสูงส่งเย็นชา แต่ดูอ่อนแรงด้วยอาการ
ป่ วยไข้ เสียงแหบเครือหนักอึ้งกว่าตอนปกติมาก “ไม่ได้เอากุญแจ
ไปด้วยเหรอ…”
ตอนที่ 2154
หิวแทบทนไม่ไหวแล้ว?
เมื่อกี้เขาเพิ่งกินข้าวที่โรงอาหารไม่ใช่เหรอ?
เซวียเหยาเย่าหลุบตาลง ไม่ได้พูดอะไร คงเพราะเข้าใจว่าอะไรเป็น
อะไร แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ ๆ เขาถึงทำเพื่อเธอ
ส่วนคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอก็เปลี่ยนท่าทีไป ดู
กระตือรือร้นกันมาก
“งั้นพวกเราก็ยินดีทำตามคำสั่ง ยอมให้ทีเอเลี้ยงมื้อนี้”
เจียงจั่วหัวเราะ “อยากกินอะไร”
“ไม่ต้องคิดเลยครับ ต้องเป็นอย่างเดิม ช่วนช่วน! พวกเราสนิทกับ
น้องเหยาเย่าเพราะกินช่วนช่วนนี่แหละครับ”
เหยาเย่าที่ถูกเอ่ยชื่อขึ้นมาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ จึงตอบรับไปสั้น ๆ
เจียงจั่วเกี่ยวเสื้อคลุมไว้ มองเธอพลางหัวเราะ “เหยาเย่า เรียกรูมเมท
เธอมาให้หมดเถอะ เราจะได้รู้จักกันหน่อย”
เซวียเหยาเย่ากำลังจะอ้าปาก รุ่นพี่กลับเอ่ยก่อน “ใช่ ๆ ๆ เรียกพวก
หลี่เถามาให้หมดเลยนะ ช่วงนี้เรายุ่งกันมาก จะได้นั่งเล่นเกมด้วยกัน”
เซวียเหยาเย่าถอนสายตากลับ
เจียงจั่วทำแค่ยิ้มทรงเสน่ห์
ทำยังไงได้ อย่างไรเขาก็มีฐานะเป็นพี่เธอ ดังนั้นเมื่อสามสาวได้รับสาย
ก็ตอบตกลงเป็นธรรมดา
คนจากหอพักทั้งสองต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
แต่สำคัญที่สุดก็ตรงที่ ‘พี่ของเหยาเย่าจะเลี้ยงข้าว’ นั่นยิ่งต้องไปให้ได้
แต่พี่น้องคู่นี้อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ถือว่ามีวาสนาเอามาก ๆ
แต่การที่น้องสาวมาก่อนพี่ชายนี่สิเป็นเรื่องที่พวกเธอคิดไม่ตก
รอจนมาถึงร้านช่วนช่วนแล้ว เมื่อเห็นเดือนมหาวิทยาลัยก็ยังไม่เท่าไร
แต่พอเห็นหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์นี่สิ พวกเธอต่างตะลึงพรึงเพริดไปตาม ๆ
กัน
ชายคนนั้นมีดวงตาเรียวคล้ายดอกท้อ ยกยิ้มให้เมื่อเห็นพวกเธอ
“พวกเธอคงเป็นรูมเมทของเหยาเย่าสินะ ฉันเป็นพี่เขา แล้วก็เป็นทีเอ
ที่เพิ่งมาใหม่ด้วย”
ทีเอที่เพิ่งมาใหม่?
หลี่เถาแทบหยุดหายใจ หากเธอได้ถ่ายภาพในตอนนี้แล้วโพสต์ลง
เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยล่ะก็ จะมีคนมารุมดูมากแค่ไหนกัน
ว่าแล้วว่าเว็บไซต์ของทางมหาวิทยาลัยไม่เคยหลอกใคร ทีเอแสน
น่ารักคนนี้หล่อจริง ๆ !
หลี่เถาดึง ๆ แขนของเหยาเย่า กระเถิบเข้าไปกระซิบว่า “เหยาเย่า เธอ
เจ๋งเป็นบ้าเลย ตอนแรกฉันอยากให้เธอแอบถ่ายรูปทีเอสุดหล่อให้
หน่อย แต่กลายเป็นได้เห็นตัวเป็น ๆ เลย แถมยังเลี้ยงข้าวพวกเรา
ด้วย และที่สำคัญคือเขาเป็นพี่เธอด้วยอะ!”
เซวียเหยาเย่าพยายามสงบอารมณ์ “เรื่องนี้มันยาว ไม่ใช่อย่างที่เธอ
คิดหรอก”
“เธออุตส่าห์มีพี่แบบนี้ด้วย มิน่าล่ะเธอถึงบอกว่าตัวเองหน้าตาธรรมดา”
หลี่เถาเข้าใจ “อันที่จริงเธอสวยมากนะ แต่พี่เธอหล่อสุด ๆ ไปเลย
รู้สึกว่าพวกเธอไม่เหมือนพี่น้องกันจริง ๆ”
เซวียเหยาเย่าตอบ “อื้อ” ยังไม่ทันได้อธิบาย
พวกรุ่นพี่ก็เอาอาหารเข้ามาให้แล้ว “มา นั่งกันเถอะ นั่งเลย”
เธอนั่งด้านขวาเหมือนเดิม
แต่ไม่คิดว่าหลี่เถาจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ “เป็นพี่น้องกันก็มานั่ง
ด้วยกันเถอะ”
เซวียเหยาเย่ามองเจียงจั่วที่ปลดกระดุมจนเห็นแอ่งชีพจร รู้สึกข้ออ้าง
ของคำว่า ‘พี่ชาย’ ทำให้หมดปัญญาจะอธิบายหลาย ๆ เรื่อง
ถึงแม้ว่าจะนั่งในร้านอาหารเล็ก ๆ แต่ความเป็นคุณชายสูงศักด์ิของ
เขากลับไม่ลดลงเลย
ทว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนไป เป็นสิ่งที่เธอเองก็บอกไม่ถูก
“เหยาเย่า เธอรีบนั่งสิ นั่งเลย เดี๋ยวฉันหยิบน้ำจิ้มมาให้”
เซวียเหยาเย่าตั้งตัวไม่ทัน หลังจากที่นั่งลง ไหล่ของทั้งสองก็กระทบ
กัน
ตอนที่ 2155
ไหล่
ความร้อนถูกส่งต่อมา
เซวียเหยาเย่าช้อนสายตามอง เจียงจั่วก็หันมาพอดี นัยน์ตาที่ลึกซึ้ง
นั่นทำให้นึกถึงเขาในเวลาที่ไม่ได้อยู่ต่อหน้าคนได้อย่างง่ายดาย
การจะสลัดตราประทับของใครสักคนทิ้งไป ช่างไม่ง่ายเลยจริง ๆ
เซวียเหยาเย่าหลุบตาลง คิดว่าจะพูดกับชายหนุ่มว่าอย่างไรดี
คนฝั่งตรงข้ามก็กินพลางถามขึ้นมาว่า “ทีเอก็แซ่เซวียเหรอ?”
เธอหยุดชะงัก มีคนสังเกตเห็นเข้าแล้ว
“ไม่นี่” หลี่เถานึกถึงข้อมูลที่เธอค้นเจอ “ได้ยินว่าแซ่เจียง”
“แซ่เจียง แล้วเหยาเย่า…” รุ่นพี่คนนั้นงงงัน ยังไม่ทันได้พูดว่าเป็น
ลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งแม่
เจียงจั่วพลันหัวเราะเสียก่อน “ฉันใช้แซ่ของพ่อ ส่วนเขาใช้แซ่ของ
แม่”
เขาพูดถูก เพราะเหยาเย่าเริ่มใช้แซ่ของแม่ตั้งแต่เด็ก จึงไม่ต้องอธิบาย
อะไรให้มาก
เหยาเย่าเงยหน้าขึ้น หลี่เถายิ้มให้ “เหยาเย่า บ้านเธอทันสมัยมาก ต่อไป
ถ้าฉันมีลูกนะ คนหนึ่งจะให้ใช้แซ่พ่อ ส่วนอีกคนจะให้ใช้แซ่ของแม่”
เซวียเหยาเย่ามองดูคนบนโต๊ะ ไม่ได้บอกว่าแม่ฉันแต่งงานใหม่กับ
พ่อเขา ไม่ใช่เพราะว่าอาย แต่เห็นว่าบรรยากาศไม่เหมาะสม
เจียงจั่งนั่งอยู่ข้างเธอ หยิบไม้ช่วนช่วนมาแล้วถอดอาหารออกจากไม้
ก่อนจะเอาเนื้อวัวใส่ในถ้วยของเธอ
ทุกคนที่กินกันอยู่เห็นเขาทำแบบนี้ก็อึ้งไปนิด
หลี่เถาตะลึงงัน “เห็นไหมล่ะ พี่บ้านอื่นดีเสมอ พี่ฉันไม่เคยคีบอะไร
ให้ฉันเลย เวลาอยู่บ้านก็เอาแต่แย่งหมูราดซอสน้ำแดงจากฉันอยู่นั่น
แหละ เหยาเย่า พี่เธอประเสริฐมากเลยนะ”
ด้วยเหตุนี้เซวียเหยาเย่าจึงไม่อาจคีบเนื้อวัวคืนเขาได้ แถมเธอเองก็
ชอบกินมากด้วย เมื่อก่อนเวลาที่กินด้วยกัน ฝ่าบาทจิ่วมักจะช่วยแย่ง
ให้เธอเสมอ
“คิดถึงพวกเขาเหรอ?” เจียงจั่วหันมามอง พลางเอ่ยเสียงเรียบ “อยาก
ไปเยี่ยมที่ต่างประเทศไหม”
มาตั้งนานแล้ว เธออุตส่าห์ข่มความคิดถึงเอาไว้
แต่เวลานี้เหมือนมีคนที่เข้าใจตัวเธอ
แม้ประโยคต่อมาของเขาจะเหมือนเดิม “แต่ขอเตือนว่าอย่าไปเจอกับ
คนคนนั้นเลย เพราะคนบางคนขี้หึงมากแค่ไหน เธอก็รู้ดี”
เซวียเหยาเย่ารับคำสั้น ๆ คีบเนื้อวัวใส่ปาก อร่อยดี
คงเพราะมีคนคุยกับเธอเรื่องพวกเขา เดิมทีเธอคิดว่าจะคุยกับเขาสัก
หน่อยหลังจากที่กินเสร็จ แต่อีกฝ่ายกลับผิดปกติ ไม่ปล่อยโอกาสให้
เธอได้คุยกับเขาตามลำพัง
ตอนที่ส่งพวกเธอกลับหอพัก เขากลับยิ้มพูดกับรูมเมทเธอว่า “ต้อง
รบกวนพวกเธอให้ดูแลเหยาเย่าแล้ว”
เวลานี้หลี่เถากลายเป็น ‘แฟนคลับคุณทีเอ’ ตัวจริงเสียงจริง ทิ้งเดือน
สุดหล่อไปแล้ว
ว่าแล้วเชียว เธอชอบผู้ชายลุคแบดบอยที่จริง ๆ แล้วรักน้องมาก
ต่างหาก!
เจียงจั่วรู้ดีว่าเหยาเย่าอยากพูดกับตัวเองตามลำพัง เขาไม่พูดด้วยเพราะ
ยังอยากเหลือความเป็นไปได้ให้ตัวเอง ได้โอกาสอยู่ข้างเธอ รวมถึง
กำจัดคนที่จะมาเกาะแกะเธอ
เขาคงไม่มีวันเป็นคนดีไปทั้งชาติแล้ว
วิธีการตามจีบแบบนี้ก็ไม่มีใครรับได้
แต่เขาจะไม่บีบบังคับเธอเหมือนเมื่อก่อน
เธอไม่อยากให้เขาโผล่หน้ามา เขาก็จะไม่โผล่หน้ามา
เธอชอบอะไร เขาก็จะให้สิ่งนั้น
วันเวลาหลังจากนั้น เจียงจั่วทำได้จริง ๆ
เมื่อเซวียเหยาเย่าผลักประตูห้องเข้าไป หลี่เถาจะบอกว่า “เหยาเย่ามา
นี่เร็ว พี่เธอเอาผลไม้มาให้พวกเราที่หอพักด้วย เอามาให้ด้วยตัวเอง
เชียวนะ สาว ๆ ในหอเราอิจฉากันใหญ่เลย แต่เหมือนพี่เธอจะรู้ว่า
เธอไม่อยากเห็นเขา ก็เลยไม่อยู่นาน เหยาเย่า เธอคิดว่าพี่เธอหล่อมาก
ก็เลยส่งผลเสียต่อเธอเหรอ?”
ตอนที่ 2152
“พวกนายเก็บกวาดเสร็จหรือยัง พวกอาจารย์มาแล้วนะเว้ย!”
“เฮ้ย ใจร้อนไปทำไมวะ ใจเย็น ใจเย็น ให้เจ้าสี่กับน้องเหยาเย่าไป
ต้อนรับก่อน”
เซวียเหยาเย่ามึนกับคำว่า ‘ต้อนรับ’ จะแย่
ยังเหลือขยะด้านหลังที่ต้องเก็บอีก
อันที่จริงก็ควรออกไปต้อนรับสักนิด
หลินหยางวางของในมือลง ช้อนสายตามองเซวียเหยาเย่า “พวกเรา
ออกไปกันเถอะ”
“อื้อ” เซวียเหยาเย่าวางผ้าขี้ริ้วในมือลง เช็ดมือแล้วหยิบมือถือออกมา
มีแอพพลิเคชันเกมขั้นพื้นฐานอยู่บนหน้าจอ
ด้านนอกห้องทำงาน ศาสตราจารย์ป๋ ายกำลังโอ่กับทีเอที่อยู่ข้างตัว
“ดูสิ มหาวิทยาลัย C ของพวกเรารู้จักใช้ชีวิตมากกว่ามหาวิทยาลัย A
ของเธออีกใช่ไหม พวกเขาปลูกต้นไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้เอง”
ผู้ช่วยอาจารย์กวาดตามอง มุมปากยิ้มอย่างคุณชายเจ้าสำราญ “คุณ
อาป๋ายครับ พวกโปรแกรมเมอร์ไม่ค่อยมีเวลาเก็บกวาดหรอกนะ
ครับ ยิ่งไม่น่าจะว่างมาปลูกดอกไม้ต้นไม้อะไรทำนองนี้ คงไปขน
จากที่ไหนมาเพื่อตกแต่งบังหน้ามากกว่า ตรงนั้นเป็นโบว์ที่พวก
ผู้หญิงชอบไม่ใช่เหรอครับ สงสัยว่าไปเอามาจากหอพักพวกผู้หญิง”
ศาสตราจารย์ป๋ ายอึ้ง
ฝ่ายทีเอหัวเราะ “ผมไม่ควรจะรู้ทันเลยนะครับเนี่ย”
ศาสตราจารย์ป๋ ายกำลังจะพูดขึ้น
แต่กลับมีเสียงดังขึ้นจากทางหนึ่ง “อาจารย์ครับ” เป็นศิษย์รักของเขา
นั่นเอง
ศาสตราจารย์ไป๋ เงยหน้าขึ้น “พวกเธอ?”
“มาต้อนรับอาจารย์กับคุณทีเอครับ” หลินหยางแย้มยิ้ม สายตาจับ
จ้องร่างสูงของอีกคน “ต้นไม้พวกนี้เอามาจากหอพักผู้หญิงจริง ๆ
ครับ พอดีทีมเรามีน้องผู้หญิงมาเพิ่มคนหนึ่ง”
ศาสตราจารย์ป๋ายได้ยินแล้วยินดีมาก “ถึงว่าล่ะ พวกเธอดูมีรสนิยม
ขึ้นมาเชียว”
ทว่าทีเอรูปหล่อข้างตัวเขากลับไม่ได้พูดอะไร เอาแต่จ้องคนคนหนึ่ง
แสงสว่างทั้งหลายเหมือนแผ่ออกจากดวงตาของเขา ราวกับแสงสี
ทองของเวลาที่หมุนวน
หากเทียบกับเมื่อก่อนแล้วจะมีความรู้สึกมากขึ้น ทว่าเสียงยังเรียบ
เหมือนเดิม “ฉันรู้ ฉันมาที่นี่เพราะผู้หญิงในทีมนายนั่นแหละ”
เซวียเหยาเย่ายืนนิ่งอยู่กับที่ มองทีเอคนใหม่ที่เป็นที่ฮือฮา ในหัวว่าง
เปล่า แทบจะไร้ภาพใด ๆ
เป็นเขาไปได้ยังไง
ในตอนนี้เธอคิดได้เพียงเท่านี้
ทว่าเธอไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว จึงไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา
หากเทียบกันแล้ว กลับเป็นหลินหยางที่มือแข็งทื่อไปนิด มองคนข้าง
กายแล้วหันมองร่างที่อยู่ใต้เงาแสง รอยยิ้มบนใบหน้าค่อย ๆ หายไป
เพราะความสัมพันธ์ที่เหมือนมีแต่ก็เหมือนไม่มีของทั้งสอง แม้จะ
ไม่ได้ยืนอยู่ด้วยกัน แต่ยังคงรับรู้ได้ ราวกับมีเส้นเชื่อมบาง ๆ ที่ตัด
ไม่ขาด
ศาสตราจารย์ป๋ายจนปัญญา เจ้าหนุ่มนี่จีบสาวก็อย่าชัดเจนเกินไปได้
ไหม
“อะแฮ่ม” ในฐานะที่เป็นอาจารย์ ศาสตราจารย์ป๋ายกระแอมเบา ๆ
“เอาล่ะ เจียงจั่ว อย่าเอาความเคยชินของเรามาใช้ที่นี่ มานี่ อาจารย์จะ
แนะนำให้รู้จักกันก่อน”
เจียงจิ่วยิ้ม เดินออกจากใต้ร่มเงา
เวลานี้เซวียเหยาเย่าเห็นอีกฝ่ายชัดเจนยิ่งขึ้น ชัดตั้งแต่ดวงตาและ
ส่วนอื่นของใบหน้า ชัดเจนยิ่งกว่าอะไร
“ไม่ต้องแนะนำหรอกครับ” เจียงจั่วช้อนสายตาขึ้นมอง “ก่อนมาผม
เช็กข้อมูลดูแล้ว คุณชายหลิน คะแนนอยู่ระดับท็อปของมหาวิทยาลัย
เป็นศิษย์รักที่สุดของอาจารย์”
ศาสตราจารย์ป๋ ายอยากสั่งสอนเจ้าเด็กผู้เหิมเกริมคนนี้จริง ๆ
เจียงจั่วยื่นมือออกมา “ฉันเจียงจั่ว ต่อไปจะเป็นทีเอของพวกเธอ แล้ว
ก็เป็นคนติดตามโปรเจกต์ของพวกเธอด้วย”
การอบรมมารยาทของตระกูลเจียงยังถึงขั้นจริง ๆ
หากต้องเทียบผู้ชายทั้งสองคนแล้ว
เจียงจั่วจะดูมีชั้นเชิงมากกว่า เพราะบุคลิกที่ขัดแย้งของเขาชัดเจน
มาก
ทั้งที่มีรูปลักษณ์เป็นคุณชายจอมเจ้าชู้ แต่ก้นบึ้งดวงตากลับอ้างว้าง
อย่างที่บรรยายไม่ถูก…
ตอนที่ 2153
เขาเงยหน้ามองเซวียเหยาเย่า ก่อนจะยิ้มให้ แม้อากาศร้อนจัด แต่
กลับสู้ความร้อนแรงในดวงตาเขาไม่ได้ “เธอสวยขึ้น แล้วก็ผอมลง
ด้วย?”
ศาสตราจารย์ป๋ ายไม่อยากพูดอีกต่อไปแล้ว มีคนอยู่เยอะขนาดนี้
รู้จักสำรวมบ้างได้ไหม
คนบางคนกลับไม่สำรวม ท่านจึงได้แต่พูดระคนหัวเราะ “เธอกำลัง
ตีซี้ผู้หญิงใช่ไหม?”
แต่กลับมีผู้หญิงที่ได้เห็นชายหนุ่มรูปหล่อแล้วยังเรียบนิ่งได้เหมือนเดิม
หาได้ยากจริง ๆ
ทำให้ศาสตราจารย์ป๋ ายอดมองเธอไม่ได้
รอยยิ้มของเจียงจั่วมีหลายอารมณ์ปะปนกัน “อาจารย์ไม่เคยเห็นเขา
ถึงได้ไม่รู้ว่าเขาเป็นน้องสาวผมเอง จะเรียกว่าตีซี้ได้ยังไง”
น้องสาว?
ไม่เพียงแต่ศาสตราจารย์ป๋ าย กระทั่งพวกที่แอบฟังแถวหน้าประตูยัง
มีสีหน้าช็อกตามไปด้วย
ทีเอคนใหม่ที่ไม่ธรรมดา แถมหล่อกว่าพวกเขารวมกับเจ้าสี่ ที่แท้
เป็นพี่ชายของน้องเหยาเย่า?
ทำไมถึงได้กลับตาลปัตรขนาดนี้
มีว่าที่พี่เมียแบบนี้ เจ้าสี่เอ๊ย เส้นทางรักของนายไม่ราบรื่นแล้ว!
ต้องบอกว่าหลายคนก็จินตนาการกันมากเกินไป
แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เมื่อหลินหยางได้ยินคำพูดดังกล่าวแล้วโล่งใจ
ขึ้น
มีเพียงเซวียเหยาเย่าคนเดียวที่ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ เพราะเขาไม่
เคยยอมรับว่าเธอเป็นน้องเขา และไม่เคยยอมรับในตัวแม่เธอที่แต่ง
เข้าตระกูลเจียง
สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
กระทั่งเซวียเหยาเย่ายังค่อยไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
ก่อนหน้านี้เธอคิดจะบอกว่าเป็นเพื่อนกันเท่านั้น แต่กลับไม่มีโอกาส
ได้ใช้
ศาสตราจารย์ป๋ ายเข้าใจทันใด “ที่แท้เธอก็…” พูดได้แค่นี้ก็อึ้ง เพราะ
คำพูดต่อไปอาจแตะต้องเรื่องครอบครัวของคนอื่นได้ จึงยิ้ม ๆ
เปลี่ยนไปพูดว่า “เก่งจริง ๆ คนที่มาทำโปรเจกต์นี้มีแต่พวกหัวกะทิ
ทั้งนั้น มานี่สิ เธอบอกหน่อยว่ารับผิดชอบด้านไหน?”
เซวียเหยาเย่านึกขอบคุณที่ศาสตราจารย์ป๋ายกลับมาพูดเรื่องจริงจัง
เสียที “หนูเป็นคนทดสอบเกมค่ะ หลัก ๆ จะทดสอบเรื่องวิธีการเล่น
ประสบการณ์ของผู้เล่น แล้วก็ความสนุกค่ะ นอกจากนี้ก็หาปัญหา
ในการเล่น รวมถึงจะเล่นให้ถึงระดับความยากที่ระดับไหน”
ศาสตราจารย์ป๋ายฟังเพลิน เขาถนัดด้านทฤษฎีมากมาย แต่ไม่ค่อย
เข้าถึงการใช้งาน
ปกติแล้วพวกศาสตราจารย์จะมีความเป็นวิชาการสูง
เวลานี้เมื่อเห็นโมเดลเกม ระบบที่สร้าง รวมถึงหน้าเพจทดสอบก็
รู้สึกสนใจ
ทำให้พวกหนุ่ม ๆ ต่างรู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาทุ่มเทได้ผลแล้ว
แม้ว่าตอนที่อาจารย์ทดสอบ หนึ่งในพวกเขายังเตะถังขยะหลบเข้า
ไปด้านใน
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำคัญตรงที่ว่าเมื่อศาสตราจารย์ป๋ายเดินออกไป
แล้ว
ทีเอที่ทำให้มหาวิทยาลัยฮือฮาได้ยังไม่ไปไหน แต่ยิ้มแล้วถอดเสื้อ
คลุมออก ก่อนจะมองพวกเขาอีกครั้ง
ทั้งที่อายุเท่ากันแท้ ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มีบารมีอย่างที่
ไม่เห็นเป็นรูปร่าง
“ทุกคนพอจะมีเวลาไหม? คงไม่ต้องปัดกวาดทำความสะอาดแล้วใช่
หรือเปล่า”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” คนที่ถูกรู้ทันหัวเราะ “มีสิ ทีเอมีอะไรจะแนะนำไหม?”
เจียงจั่วเป็นนักธุรกิจ ย่อมอ่านใจคนเป็น “จะมีคำแนะนำได้ยังไง แต่
ในฐานะที่เป็นพี่ของเหยาเย่า อยากเลี้ยงข้าวพวกนายหน่อย ฉันมาช้า
หลายวัน อยากจะขอบคุณพวกนายที่ช่วยดูแลเขา”
เลี้ยงข้าว
พี่ชายของน้องเหยาเย่า แถมยังเป็นทีเออีก ย่อมต้องไปแน่นอนอยู่แล้ว
“ฮ่า ๆ ๆ ต้องเกรงใจอย่างนั้นด้วยเหรอ?” ก็แค่ถ่อมตนไปตามมารยาท
น่ะ
เจียงจั่วดึงคอเสื้อด้วยมือข้างหนึ่ง ยิ่งเพิ่มบารมีให้ไม่เหมือนเดิม “ไม่ได้
เกรงใจหรอก อยากให้พวกนายพาฉันไปกินของแถว ๆ นี้ด้วย ตั้งแต่
มาถึงฉันก็ยังไม่ได้กินสักมื้อเลย ตอนนี้หิวมากแล้ว”
ตอนที่ 2150
“เธอ!” ผู้หญิงคนนั้นถลึงตาใส่
จากนั้นก็ได้ยินเสียงฮือฮาดังจากที่ไม่ไกล
“เป็นอาจารย์เหรอ?”
“คนที่เดินข้างเขาเป็นใครอ่ะ?”
“ไม่รู้สิ”
“พระเจ้า หล่อมากมาก”
“อาจารย์บอกว่าจะมีทีเอ[1]มาช่วยสอนไม่ใช่เหรอ? หรือว่าจะเป็น
คนนี้”
ไม่รอให้คนอื่นเดาจบ
เวินหวั่นชิงก็รู้แล้วว่าไม่เหมาะจะพูดต่อที่นี่ “ไม่ได้รุนแรงเหมือน
อย่างที่น้องคิดหรอก แต่ชมรมเราเห็นว่าน้องโอเคมาก เลยอยากจะ
คุยหน่อยว่าน้องจะมาเข้าชมรมเราไหม แต่ในเมื่อน้องไม่อยาก เราก็
ไม่บังคับ”
พูดจบเธอก็พาเพื่อน ๆ เดินตรงไปข้างหน้า
ถึงอย่างไรก็เป็นตึกเรียนของนักศึกษาปี 1 การที่นักศึกษาปี 3 อย่าง
พวกเธอมาออกันตรงหน้าประตูเห็นทีจะไม่เหมาะ
ถ้าไม่มีคนมามุงดูเยอะแยะก็ยังไม่เท่าไร แต่ถ้าเกิดพวกอาจารย์สนใจ
มามุงด้วยคงไม่ดี
ทว่าทุกคนไม่ได้ทุ่มความสนใจยังจุดนี้ เพราะ ‘ทีเอคนใหม่หล่อมาก’
กลายเป็นจุดสนใจให้เหล่าเด็กปีหนึ่งได้พูดคุยกันไปแล้ว
เซวียเหยาเย่ากินข้าวกับหลี่เถา ในฐานะที่เป็นผู้ศึกษาเว็บไซต์ของ
ทางมหาวิทยาลัย หลี่เถาสนใจทีเอคนใหม่มาก
“เทพมาก ฮือฮากันสนั่นหวั่นไหวขนาดนี้ แต่กลับไม่มีซักรูปในเว็บ
ของมหาวิทยาลัย” หลี่เถางับตะเกียบ มองดูถาดอาหารตรงหน้า
“เหยาเย่า เธอว่าผู้ช่วยอาจารย์คนใหม่เป็นใครมาจากไหน เก็บข้อมูล
เขาซะมิดเชียว”
เซวียเหยาเย่ากินข้าวพลางหัวเราะเบา ๆ “เขาเป็นทีเอ ต้องทำตัวให้
คุ้นเคยกับอาจารย์ก่อน คงไม่มีใครกล้าถ่ายรูปเขาไว้หรอก”
“จริงด้วย” หลี่เถายอมรับ แต่ก็ยังบอกว่า “ไม่ใช่ไม่กล้าถ่ายหรอก แค่
ไม่มีรูป แต่เขาจะลึกลับยังไงก็ไม่สู้ฝีมือการขุดคุ้ยของเหล่าผู้หญิงใน
มหา’ลัยอย่างพวกเราหรอก”
เซวียเหยาเย่าระอาใจ “เธอให้คำจำกัดความยังไงเนี่ย”
“จริง ๆ นะ อย่าไม่เชื่อเชียว ในเว็บบอกแล้วว่าทีเอคนใหม่ไม่ธรรมดา
ชัวร์ ไม่งั้นพวกเราจะหาอะไรไม่เจอได้ยังไง ต้องมีแบ็กกราวน์ไม่
เบาแน่” หลี่เถาพูดเป็นจริงเป็นจัง “สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ คนที่เคย
เห็นคุณทีเอบอกว่าตำแหน่งของพี่เดือนสุดหล่อสะเทือนแน่”
เซวียเหยาเย่าวางตะเกียบลง “ดูท่าจะหล่อมาก
“ไม่ใช่แค่หล่อ พอแต่ใส่เครื่องแบบทีเอแล้วหยีตายิ้มนิดเดียว ก็ทำให้
นึกถึงคุณชายสักตระกูล ความเจ้าชู้และเอาแต่ใจตัวเองอยู่บนหน้า
หมด”
เซวียเหยาเย่าลุกขึ้น ยิ้มนิดหน่อย “เธออุตส่าห์ร่ายเป็นสำนวนได้อีก”
“ฉันพูดจริงนะ” หลี่เถาเก็บข้าวของบนโต๊ะด้วย “ใช่แล้ว เธอจะไป
ทำงานพิเศษให้พี่เดือนสุดหล่อใช่ป่ ะ?”
เซวียเหยาเย่าตอบรับ เพราะไม่สะดวกพูดออกไป เธอจึงบอกรูมเมท
แค่ว่าไปทำงานพิเศษแทนการบอกรายละเอียดในสิ่งที่ทำอยู่
“อีกเดี๋ยวคุณทีเอคนใหม่ก็จะตามอาจารย์ไปด้วย” หลี่เถารีบวิ่งตาม
เธอไป “ในเว็บบอกว่าเขาสนใจโปรเจกต์ของพวกเธอมาก อยากให้
อาจารย์พาไปดู”
เซวียเหยาเย่าถอนใจยาว “พวกเธอรู้กระทั่งว่าเขาคุยอะไรกับอาจารย์
ด้วยเหรอ?”
“เธอต้องเชื่อในพลังมุ่งมั่นที่มีต่อหนุ่มหล่อของพวกเรานะ” หลี่เถา
หัวเราะ ดูทะเล้นนิด ๆ “อาจารย์พาเขาไปกินข้าวในโรงอาหารที่แพง
ที่สุด มีเพื่อนผู้หญิงไปได้ยินมา เห็นไหมล่ะ โปรเจกต์ของพี่เดือนรูป
หล่อดังมาก”
เซวียเหยาเย่าไม่ปฏิเสธ
หลี่เถากระทุ้งเธอเบา ๆ “เดี๋ยวตอนที่เจอคุณทีเอ ถ้าสะดวกก็ถ่ายรูป
ให้หน่อยนะ?”
[1] ทีเอ ย่อมาจาก Teacher Assistant หรือผู้ช่วยอาจารย์
…………………………..
ตอนที่ 2151
“ถ่ายรูป?” เซวียเหยาเย่าย่นหัวคิ้ว “มีอาจารย์อยู่ด้วย คงไม่ดีมั้ง”
หลี่เถาคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเก้อ ๆ “จริงด้วย แต่ถ้าเป็นไปได้ก็
ถ่ายมาสักใบนะ ไม่บังคับ แค่อยากเห็นคนหล่อ ๆ”
เซวียเหยาเย่ารู้จักนิสัยรูมเมทของตัวเอง พลอยหัวเราะตามไปด้วย
“ถ้ามีโอกาสล่ะก็จะถ่ายให้แน่นอน เพราะฉันก็ชอบคนหล่อ ๆ
เหมือนกัน
“ใช่ป่ะ ใช่ป่ะ”
เสียงของหญิงสาวสองคนเบาลงเรื่อย ๆ ก่อนจะหายไปกับสายลม
ไม่ต่างจากเด็กใหม่ทุกคน
การชอบผู้ชายหล่อ ๆ ถือเป็นเรื่องปกติ
ส่วนอีกด้าน
ที่โรงอาหาร อาจารย์ก็รู้สึกได้ว่านักเรียนใหม่ในความดูแลของตัวเอง
มีเสน่ห์แรงขนาดไหน จึงหัวเราะเบา ๆ พลางเปรยขึ้นว่า “พอเธอมา
เด็กผู้หญิงในมหาวิทยาลัยของเราก็มีเป้าหมายใหม่ทันที ขนาดกิน
ข้าวยังมาล้อมวงอยู่ด้านล่าง พ่อเราน่ะกลัวว่าเราจะหาแฟนไม่ได้ อา
ว่าไม่น่ากังวลเลยนะ”
“ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าคุณอาป๋ ายอยู่ที่นี่ ผมยังรอให้ทางมหาวิทยาลัยออก
หนังสืออยู่เลย” ผู้ชายคนนี้นั่งหันหลังให้แสงแดด แม้จะสวมชุดฟอร์ม
ของทีเอ แต่ก็ยากจะกลบกลิ่นอายนักธุรกิจจากตัวเขา ออร่ายังคงเจิด
จ้า “ยังดีที่มาได้”
ศาสตราจารย์ป๋ายหัวเราะอีก “อาศัยความสามารถเฉพาะทางของเธอ
ก็จัดการเรื่องเองได้แล้ว อาสงสัยจริง ๆ ว่าทำไมเธอถึงรีบย้ายมาที่
มหาวิทยาลัย C ทางนี้ ไม่เสียดายเลยเหรอ? เพราะสาขาเธอที่
มหาวิทยาลัย A น่ะดังมากเลยนะ”
“ผมมาเป็นทีเอนะครับ ไม่เห็นต้องเสียดายเลย” ชายคนนั้นวางตะเกียบ
ลง
ศาสตราจารย์ป๋ ายเลิกคิ้ว “คิดว่าอาจะเชื่อเธองั้นสิ?”
“เอาละ ผมขอสารภาพ” ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด อยู่ในสถานะไหน ชาย
คนนี้ก็ยังมีบุคลิกของคุณชายเจ้าสำราญ “ผมมาตามจีบคนครับ”
ศาสตราจารย์ป๋ายตะลึงเล็กน้อย “ตามจีบ? เธอมาตามจีบใคร?”
ชายคนนั้นตอบรับ ตอนที่ยิ้มออกมา สาว ๆ ด้านล่างต่างอยากถ่ายรูป
เสียเหลือเกิน
ศาสตราจารย์ป๋ ายยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ “ใครกันนะที่ทำให้เธอข้าม
มณฑลตามมาหาได้? นักศึกษาใหม่ของมหา’ลัยเราเหรอ? เมื่อก่อน
เธอไม่เคยตามจีบใครเลยนี่นา ยังบอกว่าโดนตามจีบสนุกกว่ากันเยอะ”
ชายคนนั้นหลุบตาลง “เมื่อก่อนผมยังไม่ประสา”
“ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย คนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ประสาได้เนี่ย อาละ
อยากเห็นว่าเขาคนนั้นเป็นใครจริง ๆ” ศาสตราจารย์ป๋ ายยิ้มพลางจิบ
ชา “พ่อเธอยังไม่รู้ล่ะสิ”
ชายคนนั้นเสมองอีกทาง “ไม่ทราบครับ ไม่อยากบอกเขา”
ศาสตราจารย์ป๋ ายเห็นดังนั้นจึงหยุดถาม เพราะเขารู้ความสัมพันธ์
ของสองพ่อลูกดีว่าตึงเครียดมากจริง ๆ
“เอาละ กินกันมานานแล้ว อาจะพาเธอไปดูโปรเจกต์ของทางมหา’ลัย
เสียหน่อย เธอบอกว่าสนใจเรื่องการพัฒนาเกมไม่ใช่เหรอ?”
ศาสตราจารย์ป๋ ายลุกขึ้นมา
ชายคนนั้นก็ลุกตาม เขาในชุดทีเอให้อารมณ์เป็นพวกไฮโซจริง ๆ
ภายในห้องที่ทำโปรเจกต์
ทุกคนต่างเก็บกวาดทำความสะอาด ซึ่งผิดจากปกติ
เพราะอย่างไรเวลาสร้างเกม ลูกผู้ชายอย่างพวกเขามักละเลยเรื่อง
ความสะอาดเสมอ
หากมีเวลาก็เอามาเขียนโปรแกรมไม่ดีกว่าเหรอ
แน่นอน หลังจากที่รุ่นน้องเหยาเย่ามาร่วมทีมด้วยก็ดีขึ้นมามากแล้ว
แต่ยังหยุดความสกปรกของพวกเขาไม่ได้
ตอนนี้อาจารย์ใกล้จะมาแล้ว เพื่อให้อาจารย์รู้ เพื่อให้ทีเอที่เก่งขนาด
ที่สามารถชนะเจ้าสี่ของพวกเขาได้รู้ว่าโปรเจกต์นี้ไม่ใช่ว่าใครก็ทำ
ได้
ดังนั้นจะละเลยเรื่องความสะอาดไม่ได้เด็ดขาด!
ในระหว่างที่มีคนเก็บกวาด ก็มีคนผิวปาก “บ้าเอ๊ย มาแล้ว มาแล้ว!”
ตอนที่ 2148
น้องเป็นท่านเทพ
คำพูดของเซวียเหยาเย่าช่วยคลายความอึดอัดในตอนนั้นได้เป็น
ผลสำเร็จ
คนคนนั้นถอนใจยาวอีกครั้งว่าน้องเขาไม่เลวจริง ๆ ไม่ใช่ดอกบัว
ขาวที่ทำสวยใสแต่แอบร้าย
แต่น่าเสียดายที่ไม่ชอบเจ้าสี่
ถ้าไม่ชอบเจ้าสี่จริง ๆ แล้วทำไมถึงโผล่มาอยู่ที่นี่
“เอาเถอะ” หลินหยางดึงมือเขาออกไป “เลิกล้อเล่นได้แล้ว ฉันขอ
แนะนำหน่อย นี่คือคนที่จะมาเทสเกมของเรา ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้น
ไป พวกเราจะทำงานด้วยกัน”
“คนเทสเกมเหรอ? เจ้าสี่ นายบ้าไปแล้วหรือไง จริง ๆ นะ ถ้าน้อง
เหยาเย่าไม่ได้บอกว่าเขามีแฟนแล้ว ฉันละยังสงสัยว่าที่นายพาเขามา
ด้วยเพราะจะได้จีบง่าย ๆ เมื่อวานน้องเถาจื่อบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า
น้องเขาเล่นเกมไม่เก่ง นายไม่รู้เหรอว่าเวลาผู้หญิงเล่นเกมจะเป็น
ยังไง?”
เซวียเหยาเย่าสงสัย “เป็นยังไงเหรอ?”
“ซวยไง!” ผู้ชายคนนั้นหันหน้ามา อยากจะต่อยตัวเองจริง ๆ “น้อง พี่
ไม่ได้หมายความว่าน้องเป็นตัวซวยนะ พี่หมายความว่า เอ่อ งานเทส
เกมอะ ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปทำได้ ต้องพิมพ์เร็วมาก อย่างน้อยต้อง
เป็นท่านเทพ แบบไม่ใช้โปรแกรมช่วยอะ”
ความจริงแล้ว เซวียเหยาเย่าไม่ได้พิมพ์เร็วมาก
ฝีมือเธอถือว่าธรรมดามากเมื่อเทียบกับสมาชิกในทีมไดมอนด์
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเธอต้องทุ่มเทเวลานานมากที่สุด จึงไม่น่าจะกังวลด้าน
การพิมพ์เร็วในระดับอาชีพ
“ฉันทำได้”
หลังจากที่เธอพูดจบ ผู้ชายคนนั้นเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ยังไม่ได้พูดก็
ถูกหลินหยางขัดจังหวะ “พวกเธอลองเล่นกันสักตา”
“ให้ฉันเล่นกับน้อง? สู้เดี่ยว?” ชายคนนั้นโบกไม้โบกมือ “ไม่อะ ฉัน
ไม่ได้ทุ่มสุดตัวเหมือนเป็นบ้าอย่างนายนี่นา ไม่แข่งกับน้องหรอก
ฉันเป็นสุภาพบุรุษจะตาย”
หลินหยางหัวเราะหึ ๆ
อีกฝ่ายจึงเปลี่ยนท่าทีทันที “ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์? มือถือแล้ว
กัน ดีกว่าเนอะ ถ้าใช้มือถือเล่น อย่างน้อยน้องจะได้ดูแผนที่”
“คอมพิวเตอร์เถอะ” เซวียเหยาเย่าหัวเราะเสียงเบา “จะได้วัดความเร็ว
มือได้ชัดหน่อย”
“เล่นจริงอะ?”
หลินหยางขมวดคิ้ว “ทำไม? กลัวแพ้เหรอ?”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ฉันกลัวจะแพ้ให้น้องเหรอ เจ้าสี่ล้อเล่นอะไรเนี่ย แต่
ฉันจะสู้เต็มที่เพราะคำพูดนายนี่แหละ!”
ด้วยเหตุนี้ หลังจากเปิดคอมพิวเตอร์ก็เข้าสู่หน้าเกม
ยี่สิบนาทีต่อมาก็แพ้แล้ว…
ชายคนนั้นดูคะแนนบนหน้าจอ ไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้น
ใครบอกเขานะว่าน้องเหยาเย่าเล่นเกมไม่เก่ง มโนธรรมไม่สะเทือน
บ้างหรือไง? เขาโดนเล่นงานเสียเละเทะเลย
“รุ่นพี่ ฉันผ่านการทดสอบไหม?”
เซวียเหยาเย่าถอดหูฟัง เสี้ยวหน้าสวยสด
“ไม่ใช่แค่ผ่าน ขอคุยด้วยหน่อย น้องอย่าเอาเรื่องที่เอาชนะพี่ได้ไป
เล่าให้คนอื่นฟังนะ พี่ยังอยากหาแฟนในมหาวิทยาลัยให้ได้…” ชาย
คนนั้นก้มหน้าพูดได้ครึ่งเดียวก็มองหลินหยาง นึกอะไรออกในทันใด
“เมื่อวานที่นายบอกว่าได้คนมาแล้ว ก็คือ…”
“ก็เขานี่แหละ” หลินหยางพูดต่อจากเพื่อน
ชายคนนั้นเบิกตาโต มิน่าล่ะพวกเขาถึงได้รู้สึกว่าเจ้าเพื่อนคนนี้สนใจ
น้องเหยาเย่ามาก
ที่แท้เพราะรู้ว่าเป็นคนเก่งนี่เอง
“ไม่สิ นายรู้ได้ไงว่าน้องเหยาเย่าเขาเล่นเกมเก่ง”
หลินหยางจ้องเซวียเหยาเย่าครู่หนึ่ง ไม่ได้อธิบายอะไรมาก “บังเอิญ
เคยเห็นน้องเขาเล่น”
“อ๋า ฉันรู้แล้ว แบบนายไปเจอน้องเขาที่อินเทอร์เน็ตบาร์แบบใน
นิยายใช่ป่ะ”
“อื้อ”
“เจ๋งนี่หว่า!”
เซวียเหยาเย่าห้ามไม่ให้ตัวเองยิ้ม เชื่อเลยจริง ๆ ที่แท้ผู้ชายก็อ่าน
นิยายหวานแหววเหมือนกัน
ทำให้เธอใช้อธิบายเรื่องบางเรื่องได้พอดี แถมหลินหยางช่วยปกปิด
สถานะที่แท้จริงให้เธอด้วยเงียบ ๆ
ด้วยเหตุนี้ เหยาเย่าจึงกลายมาเป็นคนทำงานเบื้องหลัง…
ตอนที่ 2149
การโต้กลับของเหยาเย่า
งานทดสอบเกมเหมาะกับเซวียเหยาเย่ามากจริง ๆ
ไม่เพียงแต่ตัวเนื้องาน แต่ยังมีอารมณ์ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเกม
ด้วย
ด้วยเหตุที่ก่อนหน้านี้ในทีมมีแต่ผู้ชาย จึงปฏิบัติตัวกับเหล่ารุ่นพี่
ผู้ชายได้ไม่ลำบาก
และฐานะของเธอก็ไม่เป็นที่เปิดเผย นี่น่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่อย่าง
แท้จริง
แต่ก็ยังเกิดเรื่องอื่นขึ้น
เช่นกรณีโปรเจกต์ของเดือนมหาวิทยาลัย มีเธอที่เป็นผู้หญิงเพียงคน
เดียว
แถมยังเป็นน้องใหม่อีก จึงกลายเป็นเรื่องซุบซิบนินทาในสายตาคน
อื่น เหมือนพล็อตในนิยายเลยทีเดียว
วันต่อมาเมื่อเลิกเรียน ในขณะที่เธอกำลังจะไปกินข้าวกับรูมเมท
กลับถูกรุ่นพี่ผู้หญิงปีสามขวางเอาไว้
“พวกเธอคนไหนที่ชื่อเซวียเหยาเย่า” สามคนนี้สวยทุกคน
หลี่เถาจับแขนเหยาเย่าไว้
ส่วนเซวียเหยาเย่าก็ยิ้ม ช้อนสายตามอง “ฉันเอง”
“ไปคุยกันหน่อยสิ?” หนึ่งในนั้นคลี่ยิ้ม ให้ความรู้สึกเป็นเด็กสาย
ศิลป์มาก ปกติแล้วคนทั่วไปจะไม่ปฏิเสธ
แถมด้วยคนแถวนั้นก็รู้ด้วยว่าเธอเป็นใคร
หลี่เถาก็รู้ดี และเพราะรู้ดีจึงจับแขนเสื้อของเหยาเย่าไว้
ตามที่เว็บไซต์มหาวิทยาลัยว่าเอาไว้ เธอคนนี้เป็นคนเด่นดังที่เหมาะ
กับเดือนมหาวิทยาลัยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก หรือ
ว่าฐานะทางครอบครัว
ทั้งสองเคยเป็นพิธีกรร่วมกันในงานรับร้องใหม่ ได้ยินว่ามีความ
สัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีต่อกันไม่เลว
คงเพราะเป็นคนเดียวที่พูดกับเดือนมหาวิทยาลัยได้ ดังนั้นในเว็บไซต์
ถึงบอกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน
ตอนที่เข้ามาใหม่ ๆ หลี่เถาก็อ่านข่าวลือแบบนี้มา และเชื่อด้วย
แต่ตอนนี้รุ่นพี่เดือนมหาวิทยาลัยไล่ตื้อเซวียเหยาเย่าจนออกนอกหน้า
ถ้าเขาไม่ใช่ชายชั่ว ก็แสดงว่าพี่สาวคนสวยสายศิลป์ตรงหน้าน่าจะ
รักเขาข้างเดียว
ความรักข้างเดียวนี่แหละที่ก่อปัญหาได้อย่างง่ายดาย
หลี่เถาตามเหยาเย่าไปติด ๆ กำลังจะอ้าปากพูด
ก็ได้ยินเหยาเย่ายิ้มบอก “ต้องขอโทษด้วยนะ ฉันจะไปกินข้าวกับ
เพื่อน ถ้ามีธุระจริง ๆ ก็พูดกันตรงนี้เลยได้ไหม?”
เวินหวั่นชิงไม่คิดว่าจะเจอคนที่ปฏิเสธตัวเองเอาตรง ๆ สองตาจับ
จ้องใบหน้าของเซวียเหยาเย่า
ส่วนอีกคนที่ยืนด้านข้างกลับหัวเราะ “ฉันละเชื่อเลย…เด็กใหม่ปีนี้มี
ปัญหาเยอะจัง ทำไมไม่เข้าใจอะไรเลย ชมรมศิลปะและวรรณกรรม
ของพวกเราขอคุยด้วยหน่อย เธอก็ทำแบบนี้เหรอ?”
เซวียเหยาเย่ามองใบหน้าสวยสดนั่น
ตอนเข้ามัธยมต้น เธอเคยประสบกับเรื่องแบบนี้มาแล้วเพราะเจียงจั่ว
เธอถูกนัดไปคุยนอกรอบแบบนั้นเหมือนกัน
หลังจากผ่านเรื่องแบบนั้นไป เวลาเจอผู้หญิงหน้าตาดี ๆ จิตใต้สำนึก
ก็มักจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ
ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ในขณะที่เธอคิดว่าจะต้องมีชีวิตเช่นนี้ตลอดไป
คนที่หน้าตาดียิ่งกว่าก็จะปรากฏตัวขึ้น
ตอนคนคนนั้นสวมชุดนักเรียน จะเหมือนหนุ่มน้อยรูปหล่อ เวลา
สวมชุดลูกไม้สีดำ จะเหมือนนางมารสาวแสนสวย
ต่างกันตรงที่ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน เธอจะยืนหันหลังย้อนแสง
แบกรับทุกอย่างไว้โดยไม่ผิดพลาด
เซวียเหยาเย่าเข้าใจสิ่งหนึ่งแล้ว หากอยากให้คนอื่นนับถือตัวเอง สิ่ง
ที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้องนับถือตัวเองก่อน
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหน้าตา
แต่เมื่อเรามองคนเหล่านั้นทะลุปรุโปร่ง จะรู้ว่าต่อให้รูปลักษณ์ดีแค่
ไหนก็เป็นแค่เปลือกเท่านั้น
เซวียเหยาเย่าตอบอย่างใจเย็น “รุ่นพี่คะ ตอนนี้แต่ละชมรมยังไม่เปิด
รับเด็กใหม่ ทางมหาวิทยาลัยเองก็ไม่บังคับนักศึกษาให้เข้าชมรมอะไร
ทั้งนั้น พี่มากันหน้าห้องเรียน บอกว่าจะคุยกับฉัน ไม่เหมาะสมเท่าไหร่
นะคะ ตอนนี้เอาชมรมศิลปะวรรณกรรมมาบังหน้าอีก พี่ต้องการทำ
อะไรกันแน่คะ?”
ตอนที่ 2146
เหยา สุดยอดเกมเมอร์
“เล่นไม่เก่งก็ไม่เป็นไร มีคนช่วย จะไปกลัวอะไร” หลี่เถากระทุ้งเบา ๆ
ที่แขนของเหยาเย่า
เซวียเหยาเย่าเขย่าอุปกรณ์ล้างหน้าอาบน้ำในมือ “พวกเธอเล่นกันเถอะ
ฉันจะไปอาบน้ำก่อน”
“งั้นจะรอจนกว่าเธอจะออกมานะ!” หลี่เถามองแผ่นหลังของอีกฝ่าย
แล้วยิ้ม
ส่วนจื่อซวนที่อยู่ด้านข้างออกปาก “เขาไม่อยากเล่นก็ไม่ต้องรอหรอก”
“มีพี่เดือนสุดหล่ออยู่ด้วยนะ ไม่เล่นเหรอ?” หลี่เถาส่ายหน้า “นั่นไง
มีฉันคนเดียวที่ชอบคนหล่อเหรอ?”
จื่อซวนหยิบกระจกมา “ไม่แน่ คนบุคลิกอย่างเหยาเย่าฉันไม่ค่อยเห็น
นักหรอก บอกได้แค่ว่าคนที่หลงรักหัวปักหัวปำกลายเป็นพี่เดือนสุด
หล่อนี่เองแหละ”
คำพูดนั้นเป็นจริง
เมื่อหลินหยางเห็นว่าคนที่เล่นเกมด้วยกันไม่มีเซวียเหยาเย่าก็หมด
ความสนใจ กระทั่งคนในห้องพักยังแปลกใจ
“รุ่นน้องคนนั้นไม่หวั่นไหวกับเจ้าสี่เลยเหรอ?”
“หรือว่าทำเป็นไม่สนใจเพื่อจะล่อให้หลง?”
“เฮีย คำนั่นไม่เหมาะจะใช้ในสถานการณ์แบบนี้นะ ฉันว่าเขาไม่ชอบ
ว่ะ”
“ใช่ ฉันว่าเขาไม่ชอบ ฉันอุตส่าห์ได้เห็นเจ้าสี่โดนปฏิเสธ ความรู้สึก
นี้มันช่าง…เฮ้ย เดี๋ยวก่อน คอมฉันเป็นไรวะ? แย่แล้ว!”
หลินหยางหัวเราะ แต่ไม่ได้สุขใจสักเท่าไร “นายมันพูดมาก”
“ฉันพูดมากเรอะ? ฉันว่าเพราะฉันพูดแทงใจดำนายมากกว่า เจ้าสี่”
หลินหยางแค่อมยิ้มมองเขา
ฝ่ายนั้นจ๋อยไปเลย จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ใช่แล้ว เจ้าสี่ นายให้ฉันหาคน
เล่นพิเศษให้ ฉันหาได้แล้ว อย่าใจร้อนนะ นายให้ค่าตัวแพงขนาด
นั้น ต้องมีคนมาแน่ แค่ตอนนี้ต้องคัดคนที่เหมาะสม”
“ไม่ต้อง” หลินหยางหลุบตาลง “ฉันหาเจอแล้ว”
“เจอแล้วเหรอ? ใคร?” เจ้าสี่หาคนเล่นเกมเก่ง ๆ เจอแล้วเหรอ?
หลินหยางไม่พูดอะไร
ตอนเข้านอน เขาก็ซึมเหมือนกัน แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขาสนใจมากกว่า
พรุ่งนี้ต้องไปคุยกับเธอเสียหน่อย
ดังนั้นในวันต่อมาจึงเกิดความฮือฮาที่ห้องสมุด
เซวียเหยาเย่ากำลังอ่านหนังสือ โดยมีหลินหยางนั่งด้านข้าง ไม่ทัน
ได้ตั้งตัวเล็กน้อย
เมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นเขา มือถึงกับแข็งทื่อ “รุ่นพี่?”
ด้านข้างมีคนเริ่มซุบซิบกันแล้ว
หลินหยางถือกาแฟสองแก้ว แล้วยื่นแก้วหนึ่งให้เธอ พอจะมองออก
ว่าไม่ค่อยทำแบบนี้บ่อย “หวังว่าจะไม่รบกวนเธออ่านหนังสือนะ”
เซวียเหยาเย่าได้ยินเสียงซุบซิบรอบข้างแล้ว ลังเลอยู่นานกว่าจะตอบ
“เหมือนจะส่งผลกระทบนะ”
ตอบแบบนี้ไม่คลุมเครือเลยสักนิด ทำให้หลินหยางยิ้ม ทั้งสดใสและ
สะอาดสะอ้าน “อยากจะคุยอะไรกับเธอหน่อย”
“หือ?” เซวียเหยาเย่าคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีธุระอะไรมาหาเธอ
หลินหยางเห็นคนมาที่ห้องสมุดมากขึ้นเรื่อย ๆ ครุ่นคิดแล้วก็เสนอ
ขึ้นว่า “พวกเราเปลี่ยนที่กันไหม?”
“ได้” เซวียเหยาเย่าคิดว่าโดนมุงอย่างนี้ก็กดดันเหมือนกัน
หลังจากออกจากห้องสมุดมา พวกเขาก็ไปยังใต้ร่มไม้ข้างทะเลสาบ
ด้วยอากาศร้อนมาก การเดินริมทะเลสาบย่อมดีว่านั่งหน่อย อย่างน้อย
ก็มีลมพัด
รอจนเมื่อคนน้อยลง เขาก็บอกวัตถุประสงค์ตรง ๆ “ฉันเรียนเอกการ
พัฒนาระบบ ตอนนี้มีเกมหนึ่งที่ต้องการคนพิมพ์เร็วมาช่วยทดสอบ
แต่เพราะเงินไม่เยอะมาก เมื่อวานเลยคิดอยู่นานว่าจะพูดดีไหม แต่
คิดไปคิดมาก็คิดว่าเธอเหมาะสมที่สุดแล้ว ชั่วโมงละหนึ่งร้อยหยวน
ถ้าหาปัญหาเจอ เราจะเลี้ยงมื้อเที่ยงด้วย ใช้เวลาทดสอบยี่สิบกว่าวัน
สนใจไหม?”
ตอนที่ 2147
เธอคือทีมไดมอนด์…
“ทำไมถึงมาหาฉันด้วยเรื่องแบบนี้?” เซวียเหยาเย่าอยู่ในทีมไดมอนด์
มานาน เรียนรู้จากจิ้งจอกเฟิงมาเยอะ พอจะเดานัยที่ซ่อนเร้นในคำพูด
เหล่านั้นออก
หลินหยางมองเธอ “เพราะไม่มีใครในมหาวิทยาลัยเราที่เหมาะสม
มากไปว่าเธอ และเพราะเธอเล่นอาชีพ”
“พี่รู้จริง ๆ ด้วย” แววตาของเซวียเหยาเย่าเฉยชา “ฉันขอปฏิเสธ”
หลินหยางหัวเราะ ไม่ร้อนรนสักเท่าไร “เหยาเย่า เธอเคยคิดบ้างไหม
ว่าการไม่เล่นอาชีพต่อสิ้นเปลืองความสามารถของเธอมาก แต่ถ้าไม่
เล่นเกม เราก็ยังเป็นคนสร้างมันได้นี่ หลายคนบอกว่าเกมไม่เห็นจะมี
อะไรดี พวกเราเล่นเกมเตตริสมาตั้งแต่เด็ก ช่วยเพิ่มไอคิวให้เรา ก่อน
หน้านี้ประเทศเรายังไม่เคยมีเกมแบบนี้เลย ถ้าเอาของที่เราชอบไปให้
คนที่ไม่น่าเชื่อถือสร้าง สู้เราทำเองไม่ดีกว่าเหรอ จะได้วางใจหน่อย?”
เซวียเหยาเย่าไม่เคยได้ยินคำพูดทำนองนี้มาก่อน
เดิมที่จะเดินจากไปกลับหยุดชะงัก ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไร
ส่วนหลินหยางมายืนอยู่ข้างเธอ เอ่ยเสียงเป็นจังหวะจะโคน “ฉัน
ชอบดูทีมไดมอนด์แข่งมาตั้งแต่ฟอร์มทีมจนยุบทีม ตอนที่เข้าเรียน
ใหม่ ๆ ฉันก็คิดนะว่า ถ้าวันหนึ่งของที่ฉันพัฒนาขึ้นมาไปอยู่ในมือ
พวกเขา ฉันคงรู้สึกเป็นเกียรติมาก”
“เกมไม่เหมาะที่จะมอบให้คนที่หลงใหลกับมันมากเกินไป ถ้าได้
แทรกความรู้ลงไปในนั้น แล้วเพิ่มคำถามคำตอบในมุมมองที่ทุกคน
สนใจไปด้วย ก็น่าจะเป็นอีกวิธีที่ทำให้พวกเขาเริ่มด้วยความสนใจ
ไม่ใช่เหรอ” หลินหยางหยุดที่บริเวณทะเลสาบ “นี่เป็นสิ่งที่ฉันอยาก
ทำในอนาคต ทุกครั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองกำลังคิดอะไรที่ยิ่งใหญ่ ก็จะ
ไปดูการแข่งขันของทีมไดมอนด์ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่ว่าจะต้อง
เจอกับอะไรก็เดินต่อไป อย่าล้มเลิก ถึงจะมีคนมากมายบอกว่าเว่อร์ก็
ไม่เป็นไร”
เซวียเหยาเย่าตะลึง เส้นผมสีดำถูกลมพัดขึ้นมา เผยให้เห็นนัยน์ตา
หลินหยางบอก “การได้กลายเป็นคนเก่งในด้านของตัวเอง นี่แหละ
เป็นวิธีที่ฉันชอบทีมไดมอนด์ เธอ…จะใช้วิธีเดียวกันไหมล่ะ?”
เซวียเหยาเย่าถูกกล่อมจนอยู่หมัด กระทั่งมุ่งมั่นมากกว่าเมื่อก่อน
เธอไม่อยากแตะของประเภทนั้นอีกเพราะคนกลุ่มนั้นไม่อยู่ด้วย
แต่ถ้าเปลี่ยนไปอยู่เบื้องหลังล่ะ แค่คิดเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ก็น่าจะได้
เจออีกครั้งหรือเปล่า
หลังจากนั้นหลายปี
ด้วยเหตุนี้ เซวียเหยาเย่าจึงกลายเป็นนักทดสอบเกม
ตอนหลินหยางพาตัวเธอมาเข้าทีม ทำให้เพื่อนอีกสองถึงกับงง
“เจ้าสี่ นายมานี่ มานี่เร็ว”
หลินหยางเลิกคิ้ว “ทำไม?”
“นายมานี่ก่อน”
หลินหยางระอา “อย่าดึงเสื้อฉัน มีอะไรก็ว่ามา”
“งั้นฉันพูดตรง ๆ เลยนะ” คนคนนั้นสูดลมหายใจเข้าลึก “ฉันรู้สึกมา
ตลอดว่านายเป็นคนเย็นชาสุขุม จริงไหม”
หลินหยางหัวเราะรับ
“อย่าโกรธ อย่าโกรธนะเว้ย ฉัน ฉันหมายความว่าพวกเราเห็นด้วยที่
นายจะรุกจีบน้อง เพราะยังไงตามจริงก็มีผู้หญิงน้อยคนที่นายจะชอบ
แต่นายจะเอาความรักมาปนกับงานไม่ได้ นี่เป็นปัญหาที่ซีเรียสมาก!”
หลินหยางมองเซวียเหยาเย่าแวบหนึ่ง ก่อนจะสะบัดไหล่ให้หลุดจาก
มือเพื่อน “อย่าพูดบ้า ๆ ”
“พูดบ้าตรงไหน” คนคนนั้นมองเซวียเหยาเย่า “รุ่นน้อง เจ้าสี่จีบน้อง
แบบทุ่มสุดตัวเลยนะ อุตส่าห์พาน้องมาที่ทำงานด้วย พระเจ้า ไม่กล้า
คิดเลยจริง ๆ”
เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้วพูดโกหก “พี่คะ อันที่จริงเมื่อวานฉันอยาก
บอกว่า ฉันมีแฟนแล้วน่ะ”
ไม่เพียงแค่ชายคนนั้น กระทั่งมือของหลินหยางยังชะงักไป
ชายคนนั้นไอแห้ง ๆ ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศ “ไม่เป็นไปตามบทเลย”
“พี่ก็อย่าล้อพี่หลินหยางเล่นอย่างนี้เลย ถึงเวลานั้นถ้าเขาไม่มีแฟน
มันจะเป็นเพราะพี่นะ”
ตอนที่ 2145
ไม่คิดจะมีความรัก
ผลของการกินช่วนช่วนมื้อนี้ไม่ได้คืบหน้าอะไรมากนัก
เพียงแต่กระชับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองหอพักได้เท่านั้นเอง
“น้อง ต่อไปมีปัญหาเรื่องเรียนก็ไปหาเจ้าสี่ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ใช่ ไม่ต้องเกรงใจเลย”
เรียกได้ว่าพวกเขาพยายามเต็มที่เพื่อช่วยเจ้าสี่
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือ เมื่อก่อนเวลาเขาพูดแบบนี้ เจ้าสี่เป็นต้องเย็นชา
ใส่ แต่ครั้งนี้กลับอนุญาต
หลังจากที่มาถึงหอพัก หลี่เถาพูดว่า “เหยาเย่า ฉันจะบอกเธอให้นะ
เดือนของมหาวิทยาลัยเรา เขาชอบเธอแน่นอน…แน่นอน”
เซวียเหยาเย่าไม่ปฏิเสธ ส่งผลให้หลี่เถาอึ้ง “เวลานี้อย่างนี้เธอควร
ต้องพูดว่า เป็นไปได้ยังไง ฉันต้องคิดมากไปเอง ไม่ใช่เหรอ?”
“เหรอ?” เซวียเหยาเย่าค่อนข้างสับสน “ต้องพูดอย่างนั้นด้วยเหรอ?”
เดิมทีจื่อซวนไม่รู้สึกอะไรกับเพื่อนร่วมห้อง เดาว่าพวกเพื่อน ๆ ไม่
เคยผ่านประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน จึงหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูด
ของเหยาเย่า ยิ้มพลางยืนพิงอยู่ที่เดิม “ไม่ต้อง ผู้หญิงมีสัมผัสที่หก
ทั้งนั้นแหละ ถ้าพูดแบบนั้นก็แปลว่าเธอมีนิสัยขี้อาย หรืออาจจะมอง
ออกแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ฉันก็คิดว่าเธอขี้อาย ตอนนี้เห็นจะไม่ใช่แฮะ”
เซวียเหยาเย่าหัวเราะเสียงเบา “ฉันรู้สึกได้จริงแหละว่าพวกเขาอยาก
จับคู่ให้ฉันกับรุ่นพี่”
“แล้วเธอคิดยังไงล่ะ?” หลี่เถางงกับปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่เล่นนอกบท
ก็การ์ตูนที่เธออ่านบ่อย ๆ ไม่ได้พูดแบบนี้นี่
เซวียเหยาเย่าช้อนตามอง “ฉัน? ฉันไม่คิดจะมีความรักในตอนนี้
อยากเรียนก่อน”
“เหยาเย่า เธอล้อเล่นหรือเปล่า พอเข้ามหาวิทยาลัยได้ก็จะเอาแต่
เรียน?” หลี่เถามีสีหน้าไม่เห็นด้วย “เธอไม่เคยได้ยินหรือว่าถ้าไม่มี
แฟนในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ชีวิตวัยรุ่นของเราจะเสียเปล่า”
จื่อซวนเห็นด้วย “ไม่คบแฟน? จะเรียน? เมื่อกี้ฉันชมเธอ ตอนนี้
อยากบอกว่า…”
“เสแสร้ง?” เซวียเหยาเย่าพูดแทนอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มให้ “คงเพราะ
แบบแผนการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน ตอนนี้ฉันยังไม่อยากมีแฟนจริง ๆ
อยากจะเพิ่มศักยภาพให้ตัวอง สาขาที่เลือกเรียนจะทำให้ฉันยุ่งมาก
ถ้าเจอคนที่เหมาะสม รับรองว่าฉันไม่ปฏิเสธ แต่ต้องเป็นหลังจากนี้
สองสามปี”
หลี่เถาขานรับ “แบบแผนการใช้ชีวิต”
บอกตรง ๆ เธอพูดต่อไปไม่ไหว
เพราะยังไงพวกเธอก็เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย แถมยังเป็นวันแรกที่
รายงานตัว จะคุยเรื่องแบบแผนการใช้ชีวิตเดี๋ยวนี้เลยมันคงจะเร็ว
เกินไปหน่อย?
“เหยาเย่า เธอเป็นวัตถุโบราณจากที่ไหนเหรอ?” หลี่เถามุดหัวในผ้า
ห่ม ดูน่ารักเป็นพิเศษ
เซวียนเหยาเย่าเย้าเพื่อน “ทำตามไม่ได้หรอก พวกเธอยังเด็กไป”
ประโยคนี้ทำให้คนทั้งห้องพักหัวเราะครืน แต่ทุกคนต่างก็รู้ได้ว่า
เหยาเย่าไม่อยากมีแฟนจริง ๆ
จะว่าอย่างไรดีล่ะ อายุยังน้อย หน้าตาก็ดี ทั้งจริงใจและขยัน แถมยัง
มีแผนระยะยาวอีก ทำให้คนเกลียดไม่ลงจริง ๆ
มือถือของหลี่เถาสั่นเตือน เมื่อเห็นหน้าจอก็พูดกับคนอื่น “รุ่นพี่โทร
มา ถามว่าพวกเราอยากเล่นเกมไหม แถมยังบอกว่าพี่สี่เล่นเกมเก่ง
มาก พาพวกเราชนะได้แน่”
พูดจบสองตาของหลี่เถาก็เป็นประกาย “ดีจังเลย ฉันขาดท่านเทพที่
จะช่วยเอาชนะพอดี รุ่นพี่บอกว่าเขากับเดือนมหาวิทยาลัยกำลังแข่ง
จัดอันดับสองคน คนหนึ่งเป็นนักฆ่า อีกคนเป็นตัวแทงค์กันชน เหยา
เย่าว่าไง เล่นไหม? ฉันเห็นมือถือเธอมีแอพเกมนี้ด้วย”
เหยาเย่าอึ้งไป ก่อนจะหันมายิ้มให้ “ไม่ละ ฉันเล่นธรรมดามาก พวก
เธอเล่นกันเถอะ”
ตอนที่ 2144
คนในโลกนี้ชอบแสงสว่างของเธอ
พวกรุ่นพี่ยังพูดอีกว่า “เจ้าสี่ ฉันพาคนมาแล้ว”
หมายความว่าไง?
หลี่เถาและเพื่อน ๆ ต่างมองหน้ากัน รู้สึกว่ามีบางอย่างคลุมเครืออยู่
ในคำพูดนั้น
“เฮ้ย รีบนั่งลงเร็วเถอะ ระวังเจ้าสี่จะไม่แนะนำข้อมูลให้”
หลินหยางทำแค่หัวเราะ เงยหน้าพูดกับเซวียเหยาเย่าว่า “ห้องพวกเรา
คึกคักไปหน่อย”
พูดกับเหยาเย่าคนเดียวด้วย?
จื่อซวนพอจะเข้าใจ ผลักหลี่เถาแล้วยิ้มร่า
ส่วนคนถูกผลักก็เข้าใจจากการชี้แนะของอีกฝ่าย ทั้งสองสบตากัน
รู้สึกว่ามีอะไรดี ๆ ให้ดูแล้ว
เมื่ออาหารลงหม้อไฟ พวกผู้ชายต่างแนะนำตัวเองอย่างร่าเริง
“ขอแนะนำตัวก่อน พี่ชื่อจางหยางนะ ส่วนที่เหลืออีกสาม ขอโม้เจ้า
สี่ก่อน เป็นสมบัติของมหาวิทยาลัย มีข้อมูลเขาเต็มเว็บไซต์มหา’ลัย
เลย พวกเธอลองไปอ่านดูได้…”
หลี่เถาพูดสั้น ๆ แค่ว่า “อ่านมาแล้ว”
จางหยางหัวเราะลั่น “งั้นฉันก็ไม่ต้องพูดมากล่ะนะ ตัวจริงหล่อไหม
ล่ะ? หากินกับรูปถ่ายได้เลยใช่ไหม?”
“พี่จาง” หลินหยางอีกด้านเหล่มอง
ชายคนนี้จึงสำรวมขึ้นเยอะ “เจ้าสี่น่ะนะ เขาขี้อาย พวกเราพูดเรื่อง
อื่นเถอะ เอ้อ ว่าแต่น้อง ๆ มาจากที่ไหนกันบ้าง”
“หลินเม่า”
“หวายจิน”
“ที่นี่แหละ”
“เจียงเฉิง” หลังจากที่เซวียเหยาเย่าตอบ
จางหยางเคาะหัวตัวเอง “เจียงเฉิง ทำไมคุ้นหูจัง?”
“นายบ้าหรือเปล่า จะไม่คุ้นหูได้ไง มันอยู่บนแผนที่ชัดขนาดนั้น
แล้วทำไมน้องไม่เรียนที่เจียงเฉิงล่ะ มาที่นี่ทำไม”
เพราะอย่างไรมหาวิยาลัย C และมหาวิทยาลัยของเจียงเฉิงก็มี
คะแนนสอบเข้าไม่ต่างกันมาก
เซวียเหยาเย่าหัวเราะเบา ๆ “ฉันไม่เคยอยู่ห่างจากบ้าน เลยอยากลอง
อยู่คนเดียวบ้าง”
“เป็นความคิดที่ดี” จางหยางหันไปมองหลินหยาง “เหมือนเจ้าสี่เลย
ทั้งที่มีบ้านอยู่ที่นี่ แต่กลับมาอยู่หอพัก บอกว่าจะได้ฝึกตัวเอง”
หลินหยางไม่เถียง มุมปากยกยิ้ม
จางหยางรู้สึกว่าน้อยครั้งจะได้เห็นเพื่อนพึงพอใจผู้หญิงสักคน จึง
เริ่มเปิดโหมดกระชับความสัมพันธ์ให้
เซวียเหยาเย่าฟังอยู่ข้าง ๆ หยิบอาหารใส่ถ้วยตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง
คิดถึงเมื่อก่อนที่ได้ดื่มเหล้ากินช่วนช่วนและหม้อไฟกับเพื่อน ๆ
เธอคนนั้นดูแลเธอเยอะมาก ไม่ว่าจะแย่งเนื้อมาใส่ในถ้วยเธอ ซ่อน
ขวดเหล้าให้เธอ ก่อนจะนั่งค้ำหน้า ไฝเสน่ห์ใต้ตาเป็นประกายชัด
เรื่องเหล่านี้คงไม่ได้เห็นอีกแล้วเพราะเรื่องราวมากมาย
เมื่อก่อนเธอเคยคิดว่าตัวเองอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่มากที่สุด
ทว่าก็ค่อย ๆ เข้าใจบางอย่าง เธออยากกลับไปอยู่ในวันเวลานั้น
ช่วงเวลาที่ต้องเหนื่อยทุกวัน แต่ยังมีคนกลุ่มนั้นอยู่ด้วย
ไม่ว่าจะได้พบเจออะไร สิ่งที่สามารถพูดได้หรือสิ่งที่พูดออกมาไม่มี
ใครไม่เชื่อ
อดีตที่ต้องเก็บตัวเงียบ ดูเหมือนจะปฏิเสธไม่ได้
การที่ได้ลงแข่งร่วมกัน มองเห็นเธอคนนั้นกุมเมาส์ หันมายิ้มบาง ๆ
ให้ เธอถือว่าเป็นแฟนคลับตัวจริงแล้วสินะ
ไม่เพียงแต่เป็นแฟนคลับของฝ่าบาทจิ่ว คนพวกนั้นก็เช่นกัน
เธอรีบมาแบบนี้ ถึงขั้นยังไม่ได้พูดกับพวกเขาเลย
ในสายตาของคนอื่น พวกเขาคือสมาชิกทีมไดมอนด์
หลายคนอาจพูดกับสมาชิกทีมไดมอนด์ได้ว่า ยังไงซะฉันก็ไม่ชอบ
แบล็กพีช Z จอมปลอม
หรืออาจบอกว่าหลินเฟิงไม่ตอบกลับเลยสักนิด ผิดหวังจริง ๆ แต่ไม่
ส่งผลกระทบกับการที่ฉันชอบทีมไดมอนด์
ลั่วลั่วก็โดนเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นเธอจะลาออกจากวงการทำไม
หรืออาจมีหลายคนบอกว่านี่เป็นทีมที่ดีที่สุด เป็นทีมที่ช่วงวัยรุ่นของ
ฉันสถิตอยู่
ทว่าเธอแค่อยากพูดว่า ต่อให้แสงอันเจิดจรัสหายไปจากพวกเรา ต้อง
กลับมาใช้ชีวิตปกติที่สุด ไม่ต้องแข่งอีกต่อไป กลายเป็นคนธรรมดา
ทั่วไป ฉันก็ยังรักพวกเธอ…ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
ตอนที่ 2142
เหยาเย่าไม่รู้ตัวว่ามีคนสนใจตัวเองอยู่
เธอลากกระเป๋ าเข้าหอพักไป
หอพักของมหาวิทยาลัยจัดให้นักศึกษาอยู่ด้วยกันสี่คนต่อห้อง เป็น
เตียงสองชั้น มีโต๊ะส่วนกลางติดหน้าต่างให้ใช้ร่วมกัน
มหาวิทยาลัยทางตอนใต้ของจีนออกแบบได้ดีมาก หอพักบางแห่ง
เหมือนหอพักของนักศึกษาปริญญาโทเลยทีเดียว ทั้งยังมีโต๊ะเล็ก ๆ
ที่ลากออกจากใต้เตียงได้อีก
เซวียเหยาเย่ามองดูเตียงสองชั้นที่ต่างไปจากเมื่อตอนเรียน ม.ปลาย
รู้สึกอย่างแท้จริงว่าชีวิตใหม่ของเธอเริ่มต้นขึ้นแล้ว
เมื่อเดินเข้ามา สาวน้อยน่ารักที่อยู่เตียงบนก็เอ่ยปาก “ว้าว มีคนสวย
มาอีกคนแฮะ ห้องเราดีจัง หน้าตาดีกันทั้งนั้นเลย!”
คนสวย?
เมื่อก่อนเซวียเหยาเย่าไม่เคยโดนเรียกแบบนี้ แต่เธอไม่อาจปฏิเสธ
ตัวเองที่สวยขึ้นหลังจากลดความอ้วนสำเร็จ
เธอยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะทีมไดมอนด์มีแต่คนหน้าตาดี ขนาดพี่
หลินเล่นเกมอยู่ยังพูดขึ้นว่า ‘เจ้าแบล็ก พวกเราตั้งกลุ่มบอยแบนด์เข้า
วงการบันเทิงกันดีกว่า หล่อกันขนาดนี้ ต้องเผยออร่าเสียหน่อย ถึง
เวลานั้นก็ให้จ้าวซานพั่งแบกรับฤทธ์ิรักจากแฟนคลับให้เราก็พอ’
เซวียเหยาเย่าพลันชะงักเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ไม่ให้ตัวเองคิดต่อไป เงย
หน้ามองผู้หญิงคนนั้น “สวัสดี ฉันชื่อเซวียเหยาเย่า”
“รู้แล้ว” สาวผมบ๊อบหันมามอง “ตรงนั้นแปะชื่อไว้อยู่ ฉันนอนชั้น
บนของเธอ ชื่อหลี่เถา เรียกฉันว่าเถาจื่อก็พอ”
เซวียเหยาเย่าหัวเราะเสียงเบา “เถาจื่อ”
“สวย สวยมากเลย!” หลี่เถาหัวเราะชั่วร้าย “ฉันจะเข้าเว็บของ
มหาวิทยาลัยไปรายงานตัวสักหน่อย จะได้บอกว่าหน้าตาของผู้หญิง
ห้องเราสวยมากด้วยเลย”
“ไม่ดีมั้ง” หญิงสาวอีกคนเพิ่งปูเตียงเสร็จ เธอสวมแว่นตา ดูเป็นเด็ก
สายศิลปะ “มีใครบ้างที่ชมห้องตัวเอง เถาจื่อ อย่าก่อเรื่อง”
“อวี้อวี้พูดถูก” หลี่เถาเป็นคนใสซื่อ “พวกเราเข้าหอครั้งแรกก็ควรจะ
กินข้าวด้วยกันดีไหม”
ผู้หญิงที่ชื่ออวี้อวี้พยักหน้า “ได้เลย”
“แล้วเหยาเย่าล่ะ” หลี่เถาหันมามอง
เซวียเหยาเย่ายิ้ม “ฉันไม่มีปัญหา แค่เก็บของเสร็จก็ออกไปได้”
“งั้นก็ขาดแค่นางฟ้าจื่อซวนแล้วละ” หลี่เถาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว
ที่หน้ากระจกแต่งตัว “ไปไหม?”
จื่อซวนหันหน้ามา เธอก็สวยมาก สง่าแบบที่บรรยายไม่ถูก “ชัวร์อยู่
แล้ว”
“ดีจัง ขอดูเว็บของทางมหาวิทยาลัยก่อนนะว่ามีร้านไหนน่ากินบ้าง”
เหมือนเด็กสาวที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยจะเหมือนกันหมด
เซวียเหยาเย่าฟังเสียงหัวเราะคิกคักในห้องพัก และเริ่มชีวิตเรียบง่าย
ที่สุดของเธอ
ต่างไปเมื่อก่อนที่ต้องเผ้ารอคอยอยู่ทุกวันว่าจะได้แข่งเมื่อไร เวลานี้
รู้สึกเหมือนชีวิตดำเนินด้วยความเรียบเรื่อย
ปกติแล้ว ร้านอาหารเล็ก ๆ แถวมหาวิทยาลัยมีไม่น้อย โดยเฉพาะใน
แถบสถาบันการศึกษา อาหารยิ่งราคาไม่สูง รสชาติไม่เลว
หนึ่งในนั้นเป็นร้านเล็กที่ตกแต่งใหม่ แล้วก็เป็นที่กินช่วนช่วน[1]
ไม่นานหลี่เถาก็เลือกกินที่นี่
“ในเว็บบอกว่าร้านนี้อร่อยมาก สำคัญที่สุดก็ตรงที่ชอบมีหนุ่มหล่อ
สาวสวยมากิน” หลี่เถาขยิบตาให้เพื่อน ๆ พลางยื่นมือผลักประตูร้าน
ต้องบอกว่าที่นี่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
วันนี้มีเด็กนักศึกษาใหม่เยอะมาก พอรู้จักกันเป็นวันแรกก็มากินข้าว
ด้วยกัน แถมอากาศยังร้อนอีกต่างหาก แน่นอนว่าการได้กินข้าวใน
สถานที่ที่มีแอร์แบบนี้ย่อมสบายมาก ผู้คนจึงเข้ามาใช้บริการกัน
เยอะยิ่งขึ้น
“ต้องเข้าคิวหรือเปล่าเนี่ย” จื่อซ่วนพูดจบ พลันได้ยินเสียงหนึ่งดัง
ลอยมา “เอ๋ นั่นรุ่นน้องคนนั้นที่เพิ่งเข้ามาใหม่ใช่ปะ?”
[1] ช่วนช่วน เป็นอาหารจีนประเภทหนึ่งที่เอาเนื้อและผักมาเสียบไม้
แล้วลวกลงในน้ำซุปหมาล่าให้สุก ก่อนจะนำมากิน
ตอนที่ 2143
เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าว เซวียเหยาเย่าหันไปมองพลางส่งยิ้มให้ “รุ่น
พี่?”
“เฮ้ย จะมีวาสนาตรงกันอะไรขนาดนั้น” คนพูดไม่ใช่ใคร แต่เป็นคน
ที่เจอเซวียเหยาเย่าที่หน้าประตูเป็นครั้งแรก “อยู่หอพักห้องเดียวกัน
เหรอ?”
เซวียเหยาเย่าพยักหน้า
ชายคนนั้นยิ้มพลางพูด “ท่าทางคนหน้าตาดีจะอยู่ห้องเดียวกันหมด
เลยเนอะ เหมือนห้องพวกเราเปี๊ยบ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้ว สาว ๆ ต่างหัวเราะขึ้นมา
“หาที่นั่งไม่ได้ล่ะสิ น้องรอเดี๋ยวนะ พี่ไปบอกเจ้าสี่ก่อน ถ้าหาโต๊ะ
ไม่ได้ก็นั่งด้วยกันนี่แหละ” ชายคนนั้นพูดรวดเร็วชนิดที่คนอื่นตั้งตัว
ไม่ทัน พอพูดจบก็เดินไปอีกทาง
หลี่เถาถาม “เหยาเย่า รุ่นพี่คนนี้ตลกดีนะ เธอรู้จักเขาได้ยังไง เคยเป็น
เพื่อนกันมาก่อนเหรอ?”
“เปล่า เขาเป็นรุ่นพี่ที่ต้อนรับน้องใหม่” เซวียเหยาเย่านับถือในความ
ตีสนิทได้อย่างรวดเร็วของชายหนุ่ม อบอุ่นใจดีทีเดียว แล้วก็ตลก
มากด้วย
หลี่เถาทำเสียงรับรู้ ก่อนจะขยิบตา “เคยเห็นครั้งเดียวก็สนิทมาก
ขนาดนี้ เหยาเย่า เขาคงไม่…”
ประโยคหลังไม่ทันได้พูดออกมา พลันมีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น ชายคน
นั้นกวักมือเรียก “น้อง ๆ มาที่นี่เร็ว มานี่ เอาโต๊ะมาชนกันจะได้นั่ง
กันสี่คน พวกน้องผอม ใช้พื้นที่ไม่เยอะเท่าไร”
ไม่มีใครไม่ชอบคนพูดแบบนี้ อย่าว่าแต่หลี่เถาที่เป็นคนร่าเริงเลย
กระทั่งอาอวี้ที่เรียบร้อยยังอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
“ไปไหม?” เซวียเหยาเย่าถามความเห็นเพื่อนร่วมห้อง
เหล่าสาว ๆ แม้จะมีนิสัยไม่เหมือนกัน แต่ก็ใจกว้าง “ไปสิ”
“งั้นก็ไปกันเถอะ” เซวียเหยาเย่าก้าวเท้าเดิน
เดิมก็ไม่มีอะไรหรอก แต่เมื่อเดินไปถึงโต๊ะ หลี่เถาพลันร้องขึ้นมา
“สวรรค์ ทำไมถึงเป็นเขาไปได้”
“เขา ใครเหรอ?” อาอวี้ถาม
หลี่เถาไม่กล้าชี้ “พวกเธอดูคนที่หล่อที่สุดในโต๊ะนั่นสิ เขาเป็นเดือน
มหาวิทยาลัยเชียวนะ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการคุ้มครองระดับชาติ
เก่งทุกอย่างยังไม่พอ แถมหน้ายังหล่ออย่างกับดารา ฉันเพิ่งตัวละลาย
กับความหล่อของเขาที่หน้าเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยมา ไม่คิดเลย
ว่าสวรรค์จะโปรดให้ฉันได้เห็นตัวเป็น ๆ ด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างหันไปมองผู้ชายคนนั้น
ขนาดอาอวี้ที่เป็นคนเรียบร้อยยังพลอยหน้าแดงไปด้วย “ฉันเคยได้
ยินข่าวนี้มา ดูเหมือนจะแก่กว่าพวกเราสองชั้นปี ดังมากมานานแล้ว
ชื่อหลินหยาง เป็นเดือนมหาวิทยาลัย ขนาดพวกอาจารย์ยังชอบเขา
เลย”
“คนที่ใส่เชิ้ตขาวนั่นเหรอ” จื่อซวนมองอยู่นาน ก่อนจะยิ้มบอก
“หล่อจริงด้วย มีแฟนหรือยังอะ?”
“จื่อซวน เธอตรงเกินไปป่ ะ?” หลี่เถากดเสียงให้ต่ำลง “ฉันบอกเธอ
ได้เลยว่ายังไม่มี ช่วงนี้พวกรุ่นพี่ยุ่งมาก ไม่เข้าใกล้ใครเลย”
เซวียเหยาเย่าฟังสิ่งที่พวกเพื่อน ๆ พูดกัน รู้สึกสนุก เพราะเมื่ออยู่กับ
ป๋ อจิ่ว ต่อให้มีผู้ชายหล่อขนาดไหนคนอื่นก็ไม่มีใครมอง เพราะต่าง
มารุมมองเพื่อนเธอกันหมด แค่สายตาเห็นก็ตะลึงแล้ว ราวกับไม่มี
สิ่งใดบรรยายคนคนนั้นได้อย่างเหมาะเหม็งเลย
เส้นผมสีเงิน เท่อย่างโอหัง มีเสน่ห์ที่แทรกมาด้วยความอ่อนโยน
พูดอย่างรับผิดชอบต่อคำพูดตัวเองได้เลยว่า เมื่อได้เห็นเธอคนนั้น
เซวียเหยาเย่าก็ไม่ค่อยเห็นว่ามีใครที่หล่อจนตะลึงอีก ไป ๆ มา ๆ ก็
เลยกลายเป็นคนที่ไม่ตื่นเต้นเท่าไร แต่ก็พอจะเห็นว่าผู้ชายคนนั้น
หล่อจริง ๆ
คนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารคนนั้นไม่เลวเลย แม้จะอยู่ท่ามกลางความ
เอะอะวุ่นวายก็เห็นออร่าของเขา น้อยคนที่จะเป็นแบบนี้…
ตอนที่ 2140
“พูดอย่างกับนายไม่เคยงับงั้นแหละ” โคโค่เหล่มองเพื่อน
ทั้งสองมาอยู่ด้วยกันทีไรเป็นต้องครื้นเครงทุกที
ตอนนี้เฮียเย่าออกเที่ยว เหราหรงจึงต้องคอยดูแลสองคนนี้เอง แต่
หากเทียบกับการดูแลของเฮียเย่าที่คอยต้มบะหมี่ให้ เหราหรงนับว่า
โหดกว่ามาก ม้วนนิตยสารแล้วเคาะหัวคนละทีทั้งที่ยิ้มอยู่ “พวกนาย
เลี้ยงส่งเหยาเย่าให้แฮปปี้หน่อยได้ไหม?”
“เจ็บอะ” โคโค่กุมศีรษะ “ถ้าฉันโง่ขึ้นมาจะทำไง?”
เหราหรงจัดเสื้อผ้าตัวเอง “ก็ไปหาพ่อแม่แล้วรับมรดกซะ”
โคโค่…เป็นหัวข้อนี้ก็พูดต่อไม่ไหวแล้ว
เหราหรงหัวเราะเบา ๆ เอาของที่เตรียมมาให้เหยาเย่า “ถุงยารักษา
ทั้งหลาย พออยู่มหาวิทยาลัยเธอได้ใช้แน่”
“เล่นเป็นนักเวทในเกม ยังต้องใช้จริงจังในชีวิตจริงอีกเหรอ อุตส่าห์
เตรียมถุงยาให้” โคโค่ต้องเถียงบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่มีตัวตน
แต่ฝีมืออย่างโคโค่ย่อมสู้เหราหรงไม่ได้
เซวียเหยาเย่ามองความเฮฮาตรงหน้า ก็รู้ว่าคนเหล่านี้ต่อให้แยกจาก
กันไปทำงานของตัวเองก็จะไม่ลืมกันและกัน
ตอนยังเด็ก พวกเราอยากจะโตให้เร็ว ๆ คิดว่าโตแล้วไม่ว่าเรื่องอะไร
ก็จะมีกำลังจัดการเองได้
จนเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยจริง ๆ ถึงได้เข้าใจแล้วว่าเส้นทางที่เราเดิน
ผ่านมาไม่เคยง่ายเลย
มีทั้งแยกจากกัน มืดมน ได้พบกันโดยบังเอิญ รวมถึงอนาคตที่แม้จะ
ชะเง้อมองก็ยังไม่เห็น
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น เราก็ยังต้องเดินต่อไป
นี่แหละคือเซวียเหยาเย่าที่ลอกคราบแล้ว และพร้อมเข้าสู่ชีวิตในรั้ว
มหาวิทยาลัย
ก่อนเดินทาง เธอเจอคนที่เคยชอบเจียงจั่วตรงสถานีรถไฟความเร็ว
สูง
เธอคนนั้นพูดลอย ๆ ขึ้นมาว่า “ทีมไดมอนด์ยุบแล้ว ฉันจะคอยดูว่า
ใครจะเยินยอเธออีก”
เซวียเหยาเย่ามองกลับ นัยน์ตาถมึงทึงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงระดับหนึ่ง
เธอไม่พูดอะไร ลากกระเป๋าเดินทางผ่านอีกฝ่ายไป
คนบางคนไม่เข้าความรู้สึกหลายสิ่งหลายอย่าง อย่าพูดเลยดีกว่า
ทีมไดมอนด์ไม่เคยเลือนหายไปจากหัวใจของเธอ
และหนึ่งเดียวที่ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้ก็คือวัยรุ่นผมเงินที่ยิ้มร้าย แค่
หลับตาลงก็ยังเห็นภาพ
ท่าทางตอนกินหม้อไฟ รอยยิ้มที่ผุดขึ้นในระหว่างเล่นเกม ทั้งยังตอน
ยืนอยู่ในที่มืดมิดที่สุด ต่อให้แพ้ แต่แสงสว่างก็ไม่เคยจางหายไปจาก
สายตาของเธอคนนั้น
ราวกับจะบอกทุกคนว่า พวกเรายังกลับมาได้เสมอ
เซวียเหยาเย่าหันไปมองบรรยากาศนอกรถ
ดูเหมือนความชอบจะเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน เธอรู้ว่าไม่นานจะมีทีม
ใหม่เกิดขึ้น ความชอบของคนก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่เธอก็เชื่อเช่น
เดียวกันว่าทีมไดมอนด์ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครอีกหลายคน
“เขาไปแล้วเหรอ?”
ภายในตัวรถ เจียงจั่วเอียงศีรษะ เส้นผมตัดสั้นปรกลงมาบังดวงตา
ทำให้เห็นอารมณ์เขาไม่ชัด
คุณพ่อบ้านมองคุณชายที่ดูไม่มีชีวิตชีวาไปทั้งวัน และถอนใจยาว
“ครับ คุณหนูเหยาเย่าขึ้นรถไปแล้ว”
เจียงจั่วได้ยินแล้วพลันกำมือแน่นก่อนจะคลายลง ลูกกระเดือกขยับ
เล็กน้อยอย่างยากลำบาก “ไปกันเถอะ”
“ได้ครับ” คุณพ่อบ้านขับรถออกไป
เจียงจั่วหยิบมือถือออกมา เลือกเข้าภาพโปรไฟล์หนึ่ง แต่ไม่ได้ส่ง
ข้อความว่าขอให้เดินทางปลอดภัยออกไป
และเมื่อมองเห็นข่าวคราวของฉินมั่วที่ยอมไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราว
เพื่อผู้หญิงของตัวเอง นัยน์ตาเขาก็สว่างวาบ
รีบติดต่อหาอาจารย์ตัวเอง “ฮัลโหล อาจารย์ครับ ผมเอง ครับ เรื่องที่
อาจารย์พูดเมื่อครั้งที่แล้วน่ะครับ ผมอยากรบถามนิดหนึ่งว่าทาง
มหาวิทยาลัย C… เปล่าครับ ไม่ใช่เรื่องการลงทุน ผมแค่อยากไปที่
นั่น”
ตอนที่ 2141
วันต่อมา ท้องฟ้าสดใส
มหาวิทยาลัย C
หากเทียบกับพื้นที่ทางตอนใต้และตอนเหนือของประเทศจีน อากาศ
ของทางตอนใต้ชื้นกว่ามาก
เมื่อเซวียเหยาเย่าลงจากรถ ก็พบว่าที่นี่มีต้นนุ่นเพียบ เป็นต้นไม้ที่
ทางตอนเหนือไม่มี
ความชอุ่มของต้นไม้เป็นของขึ้นชื่อของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ได้รับ
การขนานนามว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยอันดับ 1 ของประเทศจีน
สภาพภูมิศาสตร์ใกล้ภูเขาและติดทะเล กองถ่ายละครมักมาถ่ายทำ
กันที่นี่
ที่นี่ไม่มีใครรู้จักว่าเธอเป็นใคร
ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีแฟนคลับ แต่เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะดูการแข่งขันอี
สปอร์ต แถมเธอยังเปลี่ยนทรงผม และผอมลงกว่าตอนแข่งรอบ
สุดท้ายตั้ง 2-3 กิโลกรัม
มหาวิทยาลัยเปิดเรียนแล้ว คนที่เคยมีประสบการณ์ต่างรู้ว่าเหล่ารุ่นพี่
ทั้งชายและหญิงที่มารับน้องใหม่เยอะแค่ไหน
แน่นอนว่าต้องมีรถมากมายจอดที่หน้ามหาวิทยาลัย
โดยมากมีพ่อแม่มาส่ง แต่ก็ยังมีพวกที่หิ้วกระเป๋ ามาคนเดียวแบบ
เซวียเหยาเย่า
ทว่าเดินไปไม่นานก็ได้ยินเสียงดังจากไกล ๆ “น้อง น้อง มาคนเดียว
เหรอ? พวกเรามารับน้องใหม่ เดี๋ยวพี่ถือกระเป๋าให้น้องนะ”
เซวียเหยาเย่าอยากบอกว่าไม่ต้อง แต่คนคนนั้นไม่ปล่อยโอกาสให้
เธอได้พูด
“ไม่ต้องเกรงใจ ต่อไปเรียกว่ารุ่นพี่ก็พอ” พูดจบก็ยิ้มโชว์เขี้ยว หน้าตา
คนพูดหล่อมาก แถมยังสดใสอีกด้วย
เซวียเหยาเย่าคิดว่านี่แหละคือชีวิตนักเรียนมหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก พวกเรามาดูแลความสะดวกให้พวกรุ่นน้องนะ” ชาย
คนนั้นยิ้ม
ผู้ชายอีกคนโผล่หน้ามา “แค่อำนวยความสะดวกให้น้องเรอะ แล้ว
พวกนั้นล่ะ นายไม่เข้าไปดูแลหรือไง?”
“ก็น้องเขามาคนเดียว”
“ฉันเชื่อนายก็บ้าแล้ว นายเห็นว่าน้องเขาสวยใช่ไหมล่ะ”
“นายคิดอย่างนี้ไม่ถูกนะ”
“ก็จะคิดอย่างนี้แหละ เดี๋ยวฉันจะไปส่งน้องเอง”
ชายคนนั้นแย่งกระเป๋ าเดินทางไปแล้วหันมายิ้มให้เซวียเหยาเย่า
“น้องเป็นคนจากที่ไหน ยังไม่มีแฟนใช่ไหม? สวย ๆ แบบนี้ต้องโสด
แน่เลย”
“เฮ้ย เกินไปนะเว้ย กว่าจะได้เจอคนสวย ๆ นายยังเข้ามาแทรกอีก”
เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ จึงหลุบตายิ้ม
ทั้งสองเห็นรอยยิ้มนั่นก็ตะลึงไปเล็กน้อย พวกเขาเห็นเธอมาตั้งแต่
ไกลแล้ว
ผู้หญิงที่ลากกระเป๋ าเดินทางเพียงลำพังเดินตรงมา ยิ้มทั้งปากและ
ดวงตา ดูนุ่มนวลมาก
สมัยนี้ผู้หญิงสไตล์แบบนี้มีไม่เยอะแล้ว ขนาดสาวไซด์ไลด์หน้าตา
สวยทำตัวใสซื่อก็ยังมีคนชอบเลยจริงไหม
ทว่าแม้เธอจะยิ้มอย่างนี้ ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่าเหมือนผู้หญิงพวกนั้น
เพราะถ้าเป็นผู้หญิงพวกนั้น เธอต้องหน้าแดงแล้วสิ
เซวียเหยาเย่าเห็นพวกเขามองเธอ “ฉันถือกระเป๋าเองได้ เพราะข้าง
ในไม่ได้มีข้าวของมากมาย แค่เดินตามพวกเขาไปก็เจอหอพักแล้ว
ไม่รบกวนรุ่นพี่ทั้งสองคนล่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
จะไปทั้งอย่างนี้เนี่ยนะ?
ทั้งสองสบตากัน กำลังจะก้าวเดิน ก็พลันได้ยินเสียงลอยเข้าหู “ใคร
เหรอ?”
“ใคร? ก็รุ่นน้องคนใหม่ไง เดี๋ยว เฮ้ย เจ้าสี่ นายอย่าบอกฉันนะว่านาย
สนใจเขา?” ชายคนนั้นตาโต “ถ้าผู้หญิงมหาวิทยาลัยเรารู้เข้า รับรอง
ว่าต้องร้องไห้แน่!”
คนที่เข้ามาสมทบหัวเราะ ยิ้มทีไรเป็นต้องดูสะอาดกระจ่างตา “ถ้า
ฉันชอบใครสักคน มันจะน่าเหลือเชื่ออย่างนั้นเลยเหรอ”
“เปล่า รุ่นน้องคนใหม่หน้าตาดีก็จริง แต่ขนาดดาวมหาวิทยาลัยนาย
ก็ยังไม่แล ทำไมถึงได้สนใจเขาล่ะ?”
คนมาใหม่จริงจังขึ้นมา “ก็เห็นเขาแล้วรื่นตาดี พวกนายระริกระรี้กัน
ขนาดนี้เขายังคุมสติอยู่ได้ ก็เลยรู้สึกว่าน่าสนใจ”
ตอนที่ 2138
เจียงจั่วรั้งไว้
นักศึกษาใหม่ของทุกมหาวิทยาลัยแทบจะเหมือนกันหมด
ทุกคนต่างผ่อนคลายในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เวลาเดียวกันก็ว้าเหว่
อย่างบอกไม่ถูก
ชีวิตในช่วง ม.ปลายสิ้นสุดลงเสียที
ช่วงเวลาที่ต้องอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืน ต้องอ่านหนังสือจนหัวโขก
กับโต๊ะในบางครั้งจะไม่มีอีกต่อไป
ในชีวิตที่เดิมทีธรรมดา กลับมีคนสำคัญปรากฏขึ้นเพราะทุกความ
ทรงจำเหล่านั้น
หนึ่งวันก่อนจะออกเดินทาง ต้องจัดกระเป๋ าให้เสร็จ
เหยาเย่าจ้องมองชุดทีมสีแดงสลับดำ นิ้วแข็งเกร็ง เธอเอามันกลับไป
เก็บในตู้เสื้อผ้าหลังจากจัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
คุณแม่เซวียอาลัยต่อลูกสาวมาก “ทำไมต้องไปเรียนไกลขนาดนั้น
ที่นี่ก็มีมหาวิทยาลัยดี ๆ ไม่ใช่เหรอ”
เซวียเหยาเย่าพูดกลั้วยิ้ม “วิชาของที่นั่นแน่นกว่าค่ะ”
คุณแม่เซวียรู้ดีว่าลูกสาวไม่ได้เลือกมหาวิทยาลัยด้วยเหตุผลที่ว่ามา
แต่เหมือนจะไร้เหตุผลห้ามปราม เพราะเธอเข้าใจดีว่าเมื่อแต่งเข้า
บ้านตระกูลเจียง คนที่โดนซุบซิบนินทามากที่สุดก็คือลูกสาว
เซวียเหยาเย่าเก็บของเสร็จก็ตัดสินใจจะไปที่ฐานฝึกซ้อม
ใกล้จะออกเดินทางแล้ว เธออยากอยู่กับพวกโคโค่ก่อน
ได้ยินว่าโคโค่ก็จะไปเหมือนกัน เขาไม่แข่งอีกต่อไป แต่จะกลับไป
สืบทอดธุรกิจที่บ้าน ต่อไปจะไม่ได้อยู่เมืองเดียวกันแล้ว
เธอยังดี สถานที่ที่ไปเป็นเมืองติดทะเลอยู่ทางจีนตอนใต้ นักศึกษา
ไม่มีแรงกดดันต้องแข่งขันกัน
นึกภาพไม่ออกเลยว่าเวลาที่โคโค่สวมสูทจะเป็นอย่างไร
เซวียเหยาเย่าหัวเราะก่อนจะหิ้วกระเป๋ าเดินทางขึ้นมา เธอเลือกไป
ทางประตูหลังด้วยคำนึงว่าด้านหน้าคงมีคนมากมาย
คุณแม่เซวียมองส่งตามหลัง รวมถึงน้องชายที่ยังไม่โตของเธอด้วย
คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเธอให้ทั้งสองกลับไป กลับได้เจอร่างหนึ่งที่พิง
กำแพงตรงมุมเลี้ยวอยู่
หลังจากที่เห็นเธอ เขาก็หันมามอง
ทั้งสองไม่ได้คุยกันนานแล้ว พอต้องมาประจันหน้ากันก็ออกจะ
อิหลักอิเหลื่อกันอยู่บ้าง
ทว่าเธอไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าการแสดงให้เห็นว่าเราโต
แล้ว คือเมื่อต้องเผชิญกับอดีตก็ต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่เช่นกัน
เธอทักอย่างเปิดเผย เพราะในความสัมพันธ์นี้ เธอไม่ใช่คนที่ต้อง
เสียใจ
“ไปล่ะนะ” เธอเอ่ยยิ้ม ๆ
เจียงจั่วกำมือก่อนจะตอบรับอย่างราบเรียบ “อื้ม”
เซวียเหยาเย่ายกเท้าก้าวเดินออกไป แต่กลับถูกเขาคว้าข้อมือไว้เมื่อ
เดินผ่าน
“ใช่ว่าที่นี่จะไม่มีมหาวิทยาลัยดี ๆ สักหน่อย” เจียงจั่วพูดด้วยเสียง
แหบเครือ “พ่อฉันก็เตรียมการให้เธอแล้วนี่ ถ้าจะหลบฉันก็ไม่
จำเป็นต้องย้ายไปอยู่เมืองอื่นหรอก สัญญานั่นจบลงนานแล้ว คิดว่า
ฉันจะทำอะไรเธออีกเหรอไง?”
เธอชะงักครู่หนึ่ง มองบางมุมก็พอจะเข้าใจเขาอยู่บ้าง เพราะเคยรู้ว่า
เขาคิดอะไรอยู่ในใจ
ตอนนี้เขาแค่รั้งเธอไว้เท่านั้น
เซวียเหยาเย่าแปลกใจจริง ๆ แต่มีความรู้สึกอื่นมากกว่า “ไม่ใช่เพราะ
คุณ”
เธอมองเงาตัวเองเมื่อพูดจบ และพลันหัวเราะออกมา “ฉันผอมลงไป
เยอะจริง ๆ เมื่อก่อนฉันยังไม่กล้าคิดเลย พวกคุณเก่ง เป็นความเก่ง
มาตั้งแต่กำเนิด แต่ฉันไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฐานะทางบ้านที่
ยากจนหรือหน้าตาที่ธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดายังไง กลายเป็นยัย
อ้วนอย่างทุกคนว่า นานมาแล้วฉันคิดว่าตั้งใจไปก็ไม่มีประโยชน์
ชอบจินตนาการเพ้อฝัน คิดว่าตัวเองเป็นนางซินที่ได้เจอเจ้าชายขี่ม้า
ขาว แต่พอหลังจากเจอคนคนนั้น ถึงได้พบว่าต้องเรียนรู้สิ่งที่เปลือก
นอกดีแต่ความจริงมีสิ่งเลวร้ายซ่อนอยู่ เขาคนนั้นบอกว่าเขาเป็น
พวกชอบคนหน้าตาดี ถ้าขนาดตัวเองยังรักษาสภาพดี ๆ ไว้ไม่ได้
ใครล่ะจะเห็นเราอยู่ในสายตา เขาว่าโลกนี้มีบางอย่างที่เราต้องคว้า
มันมาเอง ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าอยากจะทำให้ตัวเองโดดเด่น ไม่ใช่เอาแต่
โทษโชคชะตา แต่ต้องขยันให้มากเข้าไว้”
“ตอนนี้ฉันอยากไปที่ไกล ๆ เท่านั้น”
ตอนที่ 2139
เจียงจั่วไม่เคยรู้สึกว่าควรจะตัดใจได้แล้วเหมือนในตอนนี้
อันที่จริงหากอยากรั้งเธอไว้ ก็ใช่จะไม่มีวิธี
เธอเป็นห่วงคนในครอบครัวมากที่สุด แค่ฉวยจุดอ่อนนี้ไว้ได้ก็ทำ
สำเร็จ
เจียงจั่วมีหัวคิดแบบนักธุรกิจมานานแล้ว โปรยเสน่ห์ให้ผู้หญิงไปทั่ว
เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวคล้ายเฟิงอี้ แต่เวลานี้เขากลับวางมือ หันหน้า
ไปอีกทาง เอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “ฉันจะให้คนขับรถของบ้านไปส่ง”
“ได้” เซวียเหยาเย่าไม่บ่ายเบี่ยง เพราะที่นี่เรียกแท็กซี่ได้ยาก
เจียงจั่วไม่ไปส่งเธอ เพราะหากอยู่ด้วยกันนานต่อไป อาจทำเรื่องที่
ทำให้ตัวเองเสียใจในภายหลังได้
แต่เธอที่มั่นใจในตัวเองสวยจนทำให้คนยากจะตัดใจ
ชีวิตในมหาวิทยาลัยจะได้เจอกับคนมากมายแค่ไหนกัน
แค่คิดถึงตรงนี้ คุณชายเจียงเจ้าแผนการก็ใจเย็นไม่ลงแล้ว
เมื่อเห็นรถเลือนหายไปท่ามกลางความมืด เจียงจั่วถึงได้ต่อยต้นไม้
ผิวที่ข้อนิ้วแตกจนเลือดซึมออกมา แต่เขาเหมือนจะไม่มีความรู้สึก
หากไม่ใช่เพราะพ่อบ้านมาเรียกให้เขากลับไปตัดเค้ก ก็คงไม่รู้ว่า
คุณชายของตนได้รับบาดเจ็บ
“สวรรค์” คุณพ่อบ้านลมหายใจสะดุด รีบหาผ้ามาจะพันแผลให้ไป
ก่อน
เจียงจั่วรับผ้ามาเอง พันเองลวก ๆ อารมณ์เฉยเมยมาก “ไม่เป็นไร เข้า
ไปกันเถอะ”
“คุณชาย…” พ่อบ้านยังคงเป็นห่วง ความจริงเข้าใจว่าทำไมคุณชาย
ถึงได้เป็นแบบนี้
ในสายตาของเขา บนโลกนี้หากไม่เข้าใจชีวิตของใครสักคน ก็จะไม่
มีวันเข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกเช่นนั้น
ครอบครัวมีอิทธิพลต่อเรามากเกินไป
ไม่มีใครสอนคุณชายว่าการชอบคนคนหนึ่งต้องทำอย่างไร ทำให้
คุณชายคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่ไร้ค่าที่สุดในโลก ไม่อย่างนั้นทำไม
คุณผู้ชายถึงต้องรีบแต่งงานใหม่ทั้งที่คุณผู้หญิงเพิ่งลาโลกไปได้ไม่
นาน
ยิ่งเราใส่ใจเขาก็ยิ่งเหมือนดันทุรังเกินเหตุ
คนอย่างคุณชายจำเป็นต้องได้คนมาทำให้เขาอ่อนลง
คุณพ่อบ้านรู้ดีว่าคุณหนูเหยาเย่าเหมาะสมที่สุด แม้ว่าตอนนี้สถานะ
ของทั้งสองจะไม่เหมาะสม แต่ก็เป็นแค่ความผูกพันในฐานะที่พ่อแม่
แต่งงานใหม่ ไม่ได้ผูกพันกันทางสายเลือด
หากคุณหนูเหย่าเย่ายอมอภัยให้คุณชายก็คงจะดี
เมื่อก่อนเวลาที่เขาส่งคุณชายไปเรียนหนังสือ ก็จะได้เจอคุณหนูทุก
ครั้ง ตอนนั้นคุณชายดูเป็นห่วงคุณหนูมาก แม้จะไม่พูดออกมา แต่
ทุกครั้งจะสั่งอาหารเช้าเพิ่ม บอกว่าคนที่อ้วน ๆ ชอบกิน
คนอื่นได้ยินอาจนึกว่าเป็นการเหยียดหยาม แต่คนที่คุ้นเคยต่างรู้ว่า
หากไม่ใส่ใจ คุณชายคงไม่มีวันพูดออกมา
เวลานั้น คุณชายมีนิสัยอ่อนโยนขึ้นแล้ว
คุณชายคงเพราะรับไม่ได้ที่คุณแม่ของคุณหนูเหยาเย่ากลายเป็นคุณ
ผู้หญิงคนใหม่ของบ้าน หลาย ๆ คนบอกว่าต้องเข้าใจ แต่กลับไม่มี
ใครเข้าใจคุณชายเลย
คุณพ่อบ้านถอนใจยาว
ในงานเลี้ยง ผู้คนต่างปรบมือ ทั้งยังยิ้มให้กัน
เจียงจั่วหั่นเค้กด้วยมือข้างหนึ่ง ต่อไปชีวิตเขาจะกลายเป็นแบบนี้ใช่
ไหม ตื่นมาก็ต้องคอยระแวง แม้จะไม่ขาดคนที่อยู่รายรอบตัว แต่ก็
ไม่รู้สึกถึงอะไร
ส่วนอีกด้านหนึ่ง
เมื่อได้ยินว่าเหยาเย่าจะไปเรียนต่างเมือง เฟิงซ่างเกมเมอร์ผู้ร่ำรวย
อันดับหนึ่งของโซน C ก็ซื้อกระเป๋ าให้มากมาย
โคโค่บ่นว่า “กระจอก” จากนั้นก็จับตุ๊กตากระต่ายยัดใส่มือของเหยา
เหย่า “ต่อไปให้น้องกระต่ายอยู่เป็นเพื่อนเธอนะ มันไม่ใช่ตัวเดียวกัน
กับของฉัน ตัวนั้นฉันต้องเอาไว้กอดนอน เธองับหูมันได้สบายใจเลย
ไม่สกปรกหรอก”
เฟิงซ่างรักษาอาการติดอ่างหายแล้ว เขาหัวเราะเยาะหยัน “นายคิดว่า
ใคร ๆ ก็เป็นเด็กน้อยกัดหูกระต่ายเหมือนนายงั้นสิ?”
ตอนที่ 2136
ตอนพิเศษ
เฟิงอี้ดึงคอเสื้อตัวเอง ส่งข่าวปฏิเสธทางนั้นไป
การปรากฏตัวอย่างเป็นทางการของ Bey จึงถูกยกเลิกในบ่ายวันนั้น
ไม่มีใครรู้ว่าคนโปรดของทั้งทีมคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไร
ได้แค่คลิปตัวละครที่เธอเล่นเท่านั้น
ตอนออกจากคลับ มั่วเป่ ยไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปเลย ทั้งยังทิ้งคีย์บอร์ด
red switch ที่เธอแบกมาไว้หน้าเก้าอี้ตัวหนึ่ง
เมื่อได้ยินว่าทีมไดมอนด์แตกแล้ว เจ้าหญิงน้อยอวิ๋นเซินจากบ้าน
ตระกูลอวิ๋นรีบมาหา เพื่อจะอยู่เคียงข้างเพื่อนของเธอ เพราะรู้ดีว่ามั่ว
เป่ยท้อแท้หมดกำลังใจ
เรื่องแบบนี้ไม่มีใครบอกว่าจะเลิกก็เลิกได้เลยอย่างที่พูด
ท้องฟ้ามีฝนโปรยปราย หน้าจอยังฉายคลิปของทีมไดมอนด์
อวิ๋นเซินสั่งให้คนขับจอดรถ มองดูร่างที่ยืนอยู่ริมถนน เธอเงยหน้า
มองหน้าจอยักษ์บนลานกว้าง ดวงตาเคลื่อนคลาตามแต่ละร่างที่ผ่าน
ไป
เมื่อหลายปีผ่านปี บางทีอาจมีคนจำพวกเขาไม่ได้แล้ว แต่เธอยังจำได้
เสมอ
ดวงตาที่ร้อนผ่าวมาตลอดเริ่มสงบอารมณ์ลง
เธอคนนั้นบอกว่าจะไม่เล่นเกมอีก ตอนนั้นอายุยังน้อยอยู่ ดวงตาจึง
แดงเรื่อ
อวิ๋นเซินอาจไม่เข้าใจหลาย ๆ อย่าง แต่เรื่องหนึ่งที่เธอรู้ดีคือ ไม่ว่า
ใครก็ตามที่ตัดสินใจแบบนี้แสดงว่าต้องทำเพื่อปกป้อง
ตอนที่ตัดสินใจยุบทีม ฉินมั่วสั่งให้เฟิงอี้ดูว่าพวกเขาอยากไปทีม
ไหนกัน หรือว่าอยากอยู่ในวงการต่อหรือต้องการทำอย่างอื่น ก็ให้
หาที่ไปให้พวกเขาด้วย
พวกเขาเล่นอาชีพมานานหลายปี ทุกคนย่อมต้องมีเงินเก็บ จึงไม่เป็น
ห่วงในเรื่องการเงิน
มีเพียงเหราหรงคนเดียวที่ไม่มีทุน แต่สิ่งที่เขามีกลับเป็นสิ่งที่คนทั่ว
เทียบไม่ได้
หลินเฟิงตามตัวเขาให้มาเป็นผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีการผลิตอยู่
หลายครั้ง
เฮียเย่าก็โยนอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ให้เขาบริหาร
ชายหนุ่มยุ่งทางนี้เสร็จก็ไปทำงานทางนั้น แต่ใบหน้าของเขายังคงไม่
เปลี่ยน เวลายิ้มขึ้นมาดวงตาจะยกโค้ง เวลาไม่ยิ้ม หน้าตาก็จะเย็นชา
แต่ละคนเมื่อถอดชุดทีมออกแล้วก็ไม่ได้แตะต้องเมาส์หรือคีย์บอร์ด
อีกเลย
พวกเรามักมีอาการกลัวอย่างหนึ่ง กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นคนทั่วไป
ที่ไม่เด่นสะดุดตาอีก กลัวว่าความยุ่งวุ่นวายจะทำลายความมุ่งมั่นของ
คนหนุ่มสาว
จนท้ายที่สุดถึงได้พบว่ามันยังคงอยู่ในก้นบึ้งนัยน์ตาของเรา
แค่เราถนอมมันมากเกินไป ก็เลยเข้าใจว่ามันคือการเติบโตเป็นผู้ใหญ่
เหยาเย่าเป็นหนึ่งในนั้น เธอในตอนนี้ต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว หลาย
ทีมมาดึงตัวเธอไปโดยให้ราคาสูง แต่เธอไม่รับปาก
ทางมหาวิทยาลัยใกล้จะเปิดเรียนแล้ว ชีวิตเธอจะต้องเปลี่ยนไปโดย
ปริยาย เพราะต้องย้ายไปอยู่เมืองอื่น
หากอยู่ที่นี่ต่อไป ต้องเอาแต่นึกถึงวันเวลาที่เคยต้มบะหมี่อยู่ใน
อินเทอร์เน็ตบาร์กับพวกโคโค่แน่นอน
คะแนนของเหยาเย่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูง แต่เมื่อเข้าทีม
คะแนนก็พุ่งสูงขึ้นตลอด
บางครั้งเธอก็มักนึกถึงวัยรุ่นผมสีเงินคนหนึ่งที่ชอบงับอมยิ้ม เอา
หนังสือปิดหน้า แล้วโดนหัวหน้าเคาะ
จากนั้นก็หาข้ออ้างไม่ทำแบบฝึกหัดวิชาฟิสิกส์ ฝ่าบาทจิ่วจะพาใบหน้า
หล่อเหลาเดินมาหาเธอ ชี้ข้อผิดพลาดให้เธอเห็น ทั้งยังสอนวิธีแก้
โจทย์ที่ง่ายกว่าเดิมให้
หนึ่งวันก่อนที่เหยาเย่าจะออกจากบ้านตระกูลเจียง เป็นวันเดียวกัน
กับที่ตระกูลเจียงถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นทางการ หมายความว่า
ต่อไปธุรกิจของเจียงกรุ๊ปทั้งหมดจะอยู่ในมือของเจียงจั่ว จึงมีคนมา
ร่วมงานเลี้ยงเยอะแยะมากมาย
ในงานยิ่งใหญ่แบบนี้ย่อมต้องหรูหราครึกครื้น อาหารเลิศรสมีพร้อม
เสียงดนตรีในงานคลอเบา ๆ ให้กลิ่นอายนักธุรกิจหนักมาก แต่นี่ไม่
เป็นอุปสรรคกับการที่หลายต่อหลายบ้านพาตัวลูกสาวมาแนะนำให้
คนล่าสุดที่กุมทุกอย่างของธุรกิจในตระกูลเจียงได้รู้จัก
ตอนที่ 2137
จั่ว-เหยา
เจียงจั่วไม่ชอบเรื่องแบบนี้ เขายืนเขย่าแก้วไวน์ในมือ ท่าทางไม่อยาก
ให้ใครเข้าใกล้
หลายคนบอกว่าเขาเปลี่ยนไป
เมื่อก่อนคุณชายเจียงเป็นประเภทผู้ชายทรงเสน่ห์ แต่กลับไม่มีสาว ๆ
ตามติดเลยสักคน ไม่เคยเย็นชากับผู้หญิง
ออกแนวทำดีกับผู้หญิงทุกคนไปทั่ว แต่ลักษณะไม่เหมือนอย่างนั้น
ทำแต่ปฏิเสธอย่างมีมารยาท
ในบางมุมเขาถือว่าเป็นผู้ชายที่แย่ ทว่าข่าวลือบางอย่างก็ไม่น่าเชื่อถือ
ถึงเจียงจั่วจะชั่วช้าอย่างไรก็ไม่เคยใกล้ชิดกับใครจริงจัง
ตอนนี้ก็เช่นกัน เขาเหมือนมีอะไรในใจ กระทั่งไม่ได้ใส่ใจกับงานนี้
คุณพ่อเจียงเดินมาหาอย่างอ่อนใจ ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับลูกชายที่
ห่างเหินกับตนมานาน
“ยังไงแกต้องไปเจอผู้คนหน่อยนะ” คุณพ่อเจียงกดเสียงต่ำลง “เรา
อยู่ในงานเลี้ยงก็ต้องคุยกันเรื่องธุรกิจ”
เจียงจั่วปฏิบัติต่อพ่ออย่างเย็นชา “ทำไม? จะขายผมงั้นเหรอ สภาพ
ตระกูลเจียงในตอนนี้ไม่ถึงขั้นต้องทำแบบนั้นหรอก”
“พ่อว่าช่วงนี้แกอารมณ์ไม่ดี แกนี่มัน…” คุณพ่อเจียงไม่รู้จะพูด
อย่างไรดี โมโหจนเบือนหน้าไปอีกทาง
เจียงจั่วชะงัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ทำไมไม่เห็นพวกเขาเลย”
“แกไม่ชอบคุณน้าไม่ใช่เหรอ เขากับเสี่ยวเหิงอยู่ด้านบน พรุ่งนี้เหยา
เย่าจะเดินทางแล้ว” คุณพ่อเจียงถอนใจยาว “ของของพ่อ ต่อไปต้อง
เป็นของของแก พ่อไม่ได้ทำผิดกับแม่แก พ่อแค่แก่แล้วเลยอยากมี
คนอยู่เป็นเพื่อนตอนแก่ ๆ เท่านั้น”
เจียงจั่วช้อนสายตามอง “แล้วเรื่องก่อนหน้านี้จะอธิบายว่ายังไง?”
คุณพ่อเจียงดื่มวิสกี้ “ฉันเคยมั่วมาก่อน แต่ไม่ได้เป็นตอนที่แม่แก
ป่ วย ทำไมแกไม่เชื่อบ้าง ตอนที่แม่แกตาย ฉันเสียใจยิ่งกว่าแกอีก”
เจียงจั่วไม่พูดต่อว่าตอนที่แม่เขาเสีย ผู้ชายคนนี้ก็รีบหาคนใหม่ ซึ่ง
มันเป็นเรื่องจริง
คุณพ่อเจียงรู้ว่าลูกชายสนใจเรื่องอะไร ไม่ได้แก้ตัวให้ตัวเองอีก บาง
ทีกระทั่งตัวเขาเองก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเลว ทั้งที่รักคนคนหนึ่งมาก แต่
กลับไปชอบคนอื่นโดยที่เธอคนนั้นยังจากไปไม่ถึงหนึ่งเดือน
บางทีตอนนั้นเขาอาจเหงามาก
แต่ไม่ว่าจะหาข้ออ้างอย่างไรก็แก้ไขอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณน้า”
ท่านแค่เห็นผู้หญิงคนปัจจุบัน ก็อยากแต่งงานเป็นครอบครัวกันเท่า
นั้นเอง
เจียงจั่วมองพ่อตัวเอง “พ่อบอกว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ ตอนที่
พ่อสร้างครอบครัวใหม่ ได้คิดบ้างไหมว่าตัวเองทำลายอะไรลงไป”
เขาไม่เหลือความรู้สึกดีกับเซวียเหยาเย่าอีกต่อไป คิดว่าเธอและ
ครอบครัวเธอทำลายทุกอย่างของเขา ถึงได้ทำแบบนั้นลงไปในเวลา
นั้น
เพราะพ่อจะไม่มีวันคิดถึงคนที่อยู่บนสวรรค์อีกต่อไป
โลกนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่คิดถึง ตอนที่เธอคนนั้นกำลังจะจากไปก็
ยังอุตส่าห์สั่งให้เขาเชื่อฟังพ่อ
ดังนั้นเจียงจั่วจึงให้อภัยพ่อไม่ได้
“บางทีผมก็คงเหมือนพ่อละมั้ง ใครให้ผมเป็นลูกพ่อล่ะ เลยเลว
เหมือนกัน” เจียงจั่วหัวเราะ ก่อนจะเดินไปอีกทางหนึ่ง
คุณพ่อเจียงกังวลหนักขึ้น ช่วงนี้ลูกชายไม่พยศแล้ว แต่กลับเงียบสงบ
จนน่ากลัว เกิดอะไรขึ้นกันแน่
เจียงจั่วแค่คิดว่าน่าเบื่อ ปากพ่อก็บอกว่ารักเขา แต่เวลาอุ้มลูกชายคน
ใหม่กลับหัวเราะอย่างมีความสุขกว่าใคร
ความดื้อดึงบางอย่างคงมีแต่คนเป็นลูกติดเท่านั้นที่รู้
ทว่าความดื้อดึงแบบนี้กลับทำร้ายตัวเอง
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเจียงจั่วที่อยู่กลางลานเต้นรำว้าเหว่ขนาดไหน
เพราะ ‘ยัยอ้วน’ ที่เข้าใจเขามากที่สุดจะไปแล้ว…
ตอนที่ 2134
ประกาศยุบทีม
โคโค่เสียใจที่เสนอความคิดนี้ขึ้นมา
แต่หลินเฟิงกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงจับตุ๊กตาในมือเล่น
การไม่เล่นเกมอีกก็เพราะกลัวว่าหลังจากที่ได้แตะมันแล้วจะวางมือ
ไม่ลง
อาจเป็นเพราะรู้สึกเสียดายก็เป็นได้
แต่บางครั้งก็ได้ข่าวจากกลุ่มวีแชท จ้าวซานพั่งไม่ได้ไลฟ์ สดเอ่ยอ้าง
ว่าตัวเองเป็นพี่อ้วนหล่อสุดอันดับหนึ่งของโลกอีกต่อไป กลับเอาแต่
ร้องเรียกให้เพื่อน ๆ ไปกินข้าวที่บ้านตัวเอง บอกว่ากำลังศึกษาสูตร
ทำอาหารใหม่ แล้วส่งรูปมาให้ดู ซึ่งก็เป็นแค่มะเขือยาวอบหม้อดิน
ดูเหมือนนี่แหละคือชีวิตธรรมดา ๆ ที่สุด
ทว่ายังมีคนคอยหาข่าวคราวของเขาอยู่เสมอ
หลินเฟิงกลับไม่สนใจ ตระกูลหลินเสื่อมเสียเพราะเขามามากพอแล้ว
เขาต้องชดเชยให้เต็มที่ถึงจะถูก
ต่อไปนี่คงเป็นเป้าหมายหนึ่งเดียวของชีวิตเขา
คนที่ไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดิน กลับต้องมากลัวความจริงว่าจะไม่มีใคร
เห็นเขาในสายตาอีก
เขาที่ถูกบีบคั้นจนแทบไม่เหลือเลือดสักหยด ต่อให้หยิบเมาส์ขึ้นมา
อีกก็ไม่มีวันเหมือนเดิม
เพราะคนที่สำคัญค่อย ๆ ถอนตัวไป ทำได้อย่างมากแค่ถนอมเอาไว้
ข่าวคราวไม่มีวันหยุด ถูกสร้างขึ้นมาเรื่อย ๆ ถูกเรียบเรียงใหม่ครั้ง
แล้วครั้งเล่า ไม่เลือกวิธีการ
อันที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้นน่าเศร้ามาก
บนโลกนี้มีแต่เรื่องที่ตัวเองทำเท่านั้นถึงจะถูกต้องใช่ไหม สิ่งที่ปรากฏ
ออกมาเหมือนจะถูก ไม่ว่าใช้วิธีการที่ชั่วร้ายแค่ไหนก็จะไม่มีคนไป
ตามเอาเรื่องเอาราว
เพราะอย่างไรก็สลับซับซ้อนเหลือเกิน
หลินเฟิงไม่มีวันลืมว่าทำไมถึงเข้าทีมไดมอนด์
เพราะที่นั่นมีคนคนหนึ่งที่แม้ว่าโลกเราจะวุ่นวายแค่ไหน ต้องประสบ
กับอะไรมากมาย ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนไปเป็นคนที่ตัวเองไม่อยากจะ
เป็น
ชายหนุ่มหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะมองร่างที่เย็นชาสูงส่งนั้น
นี่อาจเป็นสาเหตุที่แบล็กพีชชอบผู้ชายคนนั้น จะใครสักกี่คนในโลก
นี้ที่ยังดำรงตัวตนอยู่ได้โดยไม่เปลี่ยนแปลงไป
ไม่ถูกความมืดกลืนกิน ไม่ถูกพิษร้ายกัดกร่อน
ดูเหมือนขอแค่หัวหน้าของเขายืนตระหง่าน ก็ทำให้คนเห็นอนาคตที่
คาดหวังไว้ได้
คนที่โดดเด่นไม่มีวันไม่รู้ความเป็นไปของโลกภายนอกเหมือนผัก
ในโรงเรือนกระจก
และจิตใจของเขาเคยสัมผัสความมืดมิดทุกประการมา แต่กลับยัง
ดำรงอยู่ในวิถีทางที่ตัวเองเชื่อมั่นได้จนถึงตอนนี้
ขอแค่ทีมไดมอนด์ยังอยู่ในใจ หากมีคนที่เจ็บปวดเสียใจจนถอนตัว
ไม่ขึ้น เมื่อคิดถึงชื่อนี้ขึ้นมาก็จะกลับมามีพลังเต็มเปี่ยม ที่เหลือก็ไม่
สำคัญอีกต่อไป
วันนั้นพวกเขาไปเที่ยวหลายสถานที่ กระทั่งถ่ายรูปมาได้เยอะแยะ
ตอนกลับไปก็ไม่มีใครเหลียวหลังกลับมามอง เว้นแต่มั่วเป่ ยที่
สะพายเป้ไว้ มองคนที่ใบหน้ายิ้มแย้มเอาแต่ใจ
เธอเข้าใจดีว่าต่อไปอาจารย์คงอยู่ที่เมืองนอก ความเสียดายหนึ่งเดียว
ที่มีคือไม่เคยได้ลงสนามแข่งร่วมกับเธอคนนั้นเลย
หลังจากสมาชิกทีมไดมอนด์กลับประเทศจีนแล้ว เฟิงอี้ประกาศเรื่อง
ยุบทีมทันที
เขายังคงสวมสูทและแว่นตาสีทอง มุมปากแย้มยิ้ม
ไม่มีใครยอมรับเรื่องนี้ได้
คนที่สงสัยก็สงสัยต่อไป
จนกระทั่งมีคนบอกว่า “สำหรับฉันแล้วทีมไดมอนด์พิเศษมาก แต่
เล่นประกาศยุบทีมแบบไร้ต้นสายปลายเหตุอย่างนี้ ก็ไม่คิดจะเป็น
แฟนคลับสมาชิกทีมนี้อีกต่อไป”
ไม่ว่าเป็นอะไร เฟิงอี้ก็ทำแค่รับฟัง พอฟังจบเขาไม่โต้ตอบสักคำ
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนให้คุยกันอีกนาน
มีทั้งพวกที่เข้าใจและไม่ยอมเข้าใจ
เฟิงอี้กลับไม่กังวลเรื่องอื่นใด นอกจากก่อนที่เขาจะกลับประเทศจีน
Z มาคุยด้วยว่าขอให้เขาช่วยดูแลอนาคตของเจ้าตัวเล็กด้วย
ฝีมือของเด็กคนนี้จะเข้าทีมไหนก็ย่อมได้ แต่ในเวลาแบบนี้กลับ
วุ่นวายมาก
หลังทีมไดมอนด์ยุบทีม ทีมอื่นที่เลียนแบบทีมนี้จะผุดขึ้นมาราวกับ
ดอกเห็ด ทั้งยังจะเอ่ยอ้างว่าไม่รู้จักทีมไดมอนด์เลยสักนิด
ตอนที่ 2135
ไม่เล่นเกมอีกต่อไป (ตอนพิเศษ)
ต่อมาพอมีคนพูดว่าเป็นถึงทีมอีสปอร์ต จะไม่รู้จักทีมไดมอนด์ได้
อย่างไร ทีมนั้นเป็นถึงแชมป์ เอเชียเชียวนะ ไม่น่าจะไม่รู้จัก
ฝ่ายนั้นก็จะตอบว่า อ้อ ขอเสิร์จหาก่อน เพิ่งจะรู้ แต่ว่ามันเกี่ยวอะไร
กับพวกเราล่ะ
เฟิงอี้คาดเดาได้ถึงสถานการณ์นี้ คงเพราะไม่มีใครเข้าใจว่าหากชอบ
อย่างแท้จริงย่อมต้องหักห้ามตัวเอง
ฝ่ายตรงข้ามใช้แรงกระตุ้นทางอารมณ์สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ให้
เป็นประเด็นใหญ่
มั่วเป่ ยสังเกตความเป็นไปตลอดสองวันหลังจากที่ทีมไดมอนด์
ประกาศยุบทีม ทางบริษัทแก้ไขปัญหาด้านนี้อยู่ทุกวัน
เธอจึงตัดสินใจว่าจะไม่เข้าทีมไหน
ดังนั้นเมื่อเฟิงอี้จะพาเธอไปพบกับคลับที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท
เด็กน้อยจึงแหงนหน้าขึ้นมอง “คุณอาเฟิง ฉันเข้าทีมไดมอนด์เพราะ
พวกเขา ตอนนี้ทีมยุบแล้ว ฉันอยากเรียนอะไรที่มันเป็นสกิลการ
ทำงานมากกว่า ต่อไปจะได้เอาไปใช้”
เฟิงอี้อึ้งไปนิดและหันมามอง “เธอจะไม่เล่นเกมแล้วเหรอ?”
มั่วเป่ ยตอบรับสั้น ๆ
เฟิงอี้อยากพูดอะไรอีก
แต่มั่วเป่ ยชิงพูดขึ้นเสียก่อน “ถ้าฉันยังอยู่ที่นี่ต่อไปจะมีเรื่องให้วิจารณ์
กันมากขึ้น ตอนนี้พี่หลินกับพวกอาจารย์กำลังไปได้ดี แต่คุณอาต้อง
มายุ่งวุ่นวายเพราะต้องสู้กับพวกข่าวลือเพื่อฉัน”
เฟิงอี้ดันแว่นตากรอบทองบนดั้งจมูกตัวเอง “ไม่ได้วุ่นวายมากอย่าง
ที่เธอคิดหรอก”
“ฉันเห็นหมดแล้วค่ะ” มั่วเป่ ยแววตาลุ่มลึก “ตอนนี้มีคนฉวยโอกาส
เอาเรื่องทีมไดมอนด์มาสร้างประเด็นเต็มไปหมด ทั้งดีและไม่ดี ทั้ง
เลียนแบบ ทั้งเหยียบย่ำให้ต่ำลง ฉันเคยคิดว่าคนที่ชอบเกมจะแยกแยะ
เป็น อดทนได้ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เรื่องพวกนี้เป็นการฝืนใจกัน
คนเรามักจะวู่วามเพราะความชอบ ของที่เรามองไม่เห็นจะเพิ่มขึ้นที
ละน้อย”
คงเพราะอายุยังน้อย เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ มั่วเป่ ยจึงย่นหัวคิ้ว สีหน้า
เรียบเฉยมาก “วุ่นวายมากเลย”
เฟิงอี้หลุบตาลง “น่าเสียดายเลยนะถ้าเธอไม่เล่นลีกส์อาชีพ หลายคน
ไม่เหมาะเล่นแต่ดันจะเล่น นี่เป็นครั้งแรกที่อารู้ว่าเธออยากเรียนวิชา
อื่นนอกเหนือจากการเล่นเกม”
มั่วเป่ ยไม่พูดอะไร ยังคงสะพายเป้เหมือนเดิม
เฟิงอี้หัวเราะเบา ๆ “มีคุณชายฉินกับ Z เป็นคนแนะแนวให้ เธอคง
ไม่มีปัญหาเรื่องเรียน”
“ฉันสภาพจิตใจยังไม่ดีเท่าไร” ใบหน้าของมั่วเป่ ยจริงจัง “อยากพัก
ใจหน่อย”
ครั้งนี้เฟิงอี้หัวเราะจริง ๆ “อาจารย์เธอพูดไม่ผิด คนเก่ง เราอยาก
เรียนอะไรล่ะ”
“เชฟค่ะ” มั่วเป่ ยเงยหน้าขึ้น “การทำกับข้าวทำให้เรามีความสุข
เหมือนเล่นเกม”
แววตาเฟิงอี้เรียบเฉย ท่าทางเหมือนอยากไปสูบบุหรี่ “อาจะจัดการ
ธุระก่อน เธออย่าเพิ่งตัดสินใจเด็ดขาดแบบนี้ ยัยตัวเล็ก ต้องเชื่อนะ
ว่าอายังไหวอยู่”
“ฉันเชื่อค่ะ” มั่วเป่ยเอ่ยเสียงเรียบ “เพราะไม่อยากลดตัว หัวหน้าถึง
ได้ยุบทีมไม่ใช่เหรอคะ? ถ้าเล่นต่อไปก็รังแต่จะทำให้พวกพี่หลิน
ผิดหวัง หัวหน้าอยากทำให้สิ่งที่อยู่ในหัวใจของพวกเขาคงสภาพ
เหมือนเดิม”
เฟิงอี้แผ่นหลังสั่นสะท้าน เนิ่นนานกว่าจะเอ่ย “อย่ากลัวการเล่นเกม
เพราะเรื่องพวกนี้เลย”
“เปล่าค่ะ” ร่างเล็กของมั่วเป่ยยืนอยู่ที่เดิม แผ่นหลังเหยียดตรง “ฉัน
ชอบเล่นเกม ชอบอยู่หลังอาจารย์ ชอบอยู่กับพวกพี่หลิน ฉันไม่ได้
กลัวหรอกค่ะ เพราะนี่แหละถึงเป็นการแข่งอีสปอร์ต ตอนนี้พวก
อาจารย์เหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน ฉันก็จะพักด้วยเหมือนกัน”
มือถือของเฟิงอี้ดังขึ้น ทางทีมที่เซ็นสัญญาฝั่งโน้นเร่งมา
“เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม?” เฟิงอี้ถาม
มั่วเป่ ยพยักหน้า ใบหน้าสวยสดใส
ตอนที่ 2132
ด้วยเหตุนี้เอง วิธีการคบค้าสมาคมกับคนอื่นของมั่วเป่ ยถึงได้เพี้ยน ๆ
ไป แต่ก็มีความสุขดีมาก
ด้วยอายุเธอยังน้อยมาก จึงยังไม่ถือเป็นผู้เล่นตัวจริง แต่กลับได้เรียนรู้
มากกว่าคนอื่นเพราะมีคนคอยสอนอยู่ข้าง ๆ
The Fifth Avenue มีสถานที่ให้ไปเที่ยวชมได้เยอะมาก
ผู้คนเดินสวนไปมาท่ามกลางบรรยากาศเมืองนอกเช่นนี้ดูเหมือนมี
อยู่ในการ์ตูนเท่านั้น
แต่ละคนมีนิสัยและรูปร่างหน้าตาต่างกัน
เมื่อถอยห่างจากความวุ่นวาย ชีวิตก็เรียบง่ายสบายขึ้นเยอะ
คนกลุ่มนี้อยู่ด้วยกันทีไรย่อมขาดเกมไม่ได้อยู่แล้ว ร้านตู้เกมจึงเป็น
หนึ่งในสิ่งที่ต้องไปเยือน
โคโค่กำลังเล่นตู้จับตุ๊กตา เขาพยายามอย่างมากแต่จับไม่ได้สักตัว
ป๋ อจิ่วจึงผลักอีกฝ่ายออกไป งับอมยิ้มไว้ในปากแล้วเข้าคุมปุ่มเกม
จากนั้นก็จับตุ๊กตามาได้หนึ่งตัว
ส่วนหลินเฟิงที่มีเรียวขายาวก็กำลังจับเหมือนกัน อวิ๋นหู่ยืนอยู่ด้านข้าง
แถมยังยังมีเหราหรงอีกคน
คนทั้งสี่ยืนเรียงกันเป็นแถว
หลินเฟิงทำความคุ้นเคยก่อน จากนั้นก็จับตุ๊กตาได้สำเร็จทุกครั้ง
ไม่นานบริเวณนั้นก็กลายเป็นสีสันที่ดึงดูดสายตาผู้คน
เพราะการมีคนเอเชียหน้าตาดีถึงสี่คนมาอยู่ด้วยกันก็นับว่ายากแล้ว
ทว่ายังจับตุ๊กตาได้เก่งขนาดนั้นอีก จึงทำให้คนสนใจ
ผู้เล่นอาชีพจากทีมอื่นคงไม่รู้ สี่คนนี้มักฝึกความชำนาญด้านมุมองศา
เสมอ
หากไม่นับป๋ อจิ่วที่ชอบขลุกอยู่กับสถานที่แบบนี้แล้ว สามคนที่เหลือ
แค่ลองมือดูก่อนก็พอคุ้นกับตำแหน่งแล้ว
คนเข้ามามุงดูเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
ป๋อจิ่วจับตุ๊กตาให้ลูกศิษย์ตัวเอง หลินเฟิงจับได้ก็โยนให้มั่วเป่ย
เหราหรงและอวิ๋นหู่ก็เช่นกัน
ทำให้มั่วเป่ ยแทบโดนกองตุ๊กตาทับ เรียกได้ว่าเธอได้รับความเอ็นดู
จากทั้งทีม
เซวียเหยาเย่ามองดูอยู่ด้านข้าง ก่อนจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ
เธอรู้ดีว่าต่อไปต้องแยกจากกันแล้ว ดังนั้นจึงถนอมเวลาที่อยู่ด้วยกัน
มาก
นิ้วเธอลากผ่านหน้าจอซึ่งจับภาพของคนที่ดูร้ายกาจ แล้วยิ้มขึ้นมา
อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
บางทีอาจไม่มีคนเข้าใจ
วัยเยาว์ของเธอโดดเด่นขึ้นเพราะคนกลุ่มนี้ เธอเคยมีชีวิตที่แสนจะ
ธรรมดา กระทั่งอ้วนจนไม่มีใครมอง
หลังจากที่รู้จักพวกเขาก็ดูเหมือนไม่ว่าต้องเจอกับอะไร ก้นบึ้งหัวใจ
ก็มักจะมีบางสิ่งซ่อนเอาไว้เสมอ
เดินหน้าต่อไป ตั้งใจต่อไป แม้จะต้องเดินบนหนทางที่ต้องเปลี่ยนเป็น
อีกคนหนึ่ง ราวกับจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก ประเภท
เงอะงะ ไม่กล้าแสดงความเป็นตัวของตัวเอง
ทีมไดมอนด์สอนให้เธอกล้าหาญ
พวกเขาในสายตาของคนทุกคนล้วนแตกต่างกันไป
เซวียเหยาเย่าได้ยินเพียงเสียงหัวเราะรอบด้าน รวมถึงคำชมความหล่อ
ของพวกเขา ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงแปลกใจเสียมากกว่า
แต่หากจับตุ๊กตากันต่อไป เจ้าของร้านคงไม่ต้องทำธุรกิจกันต่อไป
แล้ว
เวลานี้หัวหน้าโผล่หน้ามาพอดี เขาดึง ๆ คอเสื้อตัวเอง ไม่ได้เข้าไป
ร่วมจับตุ๊กตาด้วย ทว่าใช้วิธีนี้ดึงตัวมั่วเป่ ยออกไป “ไปจับมาหลาย ๆ
ตัว ฝึกการคุมองศาของเธอ”
เทพฉินพูดเช่นนี้ออกมาด้วยใบหน้าสูงส่งและเฉยชา
ความจริงคือหลังจากมั่วเป่ ยเดินไป เขาก็มายืนข้างป๋ อจิ่วแทน ทั้งยัง
รับตุ๊กตาที่เธอจับได้มา หลุบตาลงพลางยิ้ม “วันนี้เหมือนจะเป็นเด็ก
ดีเลย”
“เป็นเด็กดีทุกวันแหละ” ป๋ อจิ่วพูดได้ชนิดที่หน้าไม่แดงใจไม่เต้นแรง
“พี่มั่ว พี่อยากได้ตัวไหน ฉันช่วยจับให้”
ฉินมั่วไม่ได้แฉเธอเรื่องพวกคนผิวสี สายตามองตามไป แววตาดู
เรียบนิ่ง “อันนั้นแล้วกัน”
“เสือน้อย?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว
ฉินมั่วส่งเสียงตอบรับ ยิ้มขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ “เหมือนเธอเลย”
ตอนที่ 2133
ใกล้จะยุบทีม
นิ้วเรียวของป๋อจิ่วชะงัก พลอยยิ้มไปด้วย
จากนั้นก็จับแต่ตุ๊กตาเสือน้อยมา
ฉินมั่วมีบุคลิกของผู้ทรงภูมิความรู้อยู่แล้ว แม้จะต้องมาอุ้มตุ๊กตา
มากมายในตอนนี้ก็ไม่ส่งผลกระทบกับเขาแต่อย่างไร
เพียงแค่…มีคนมามุงดูเยอะขึ้นเท่านั้นเอง
ผู้ชายตัวเบ้อเริ่มต้องมาหอบหิ้วของเล่นเยอะ ดูจะไม่เข้ากันสักเท่าไร
ไม่เหมือนมั่วเป่ ยที่ยังดูเป็นเด็ก ต่อให้ถูกตุ๊กตาเป็นกองถล่มใส่ก็ไม่
ผิดปกติแต่อย่างใด
ฉินมั่วสวมเสื้อกันลมสีครีม อุ้มของอยู่อย่างนั้น ย่อมทำให้ใคร ๆ
ต้องมองดูอย่างเลี่ยงไม่ได้
นี่เป็นเพราะความหล่อของเจ้าตัว แค่ยิ้มธรรมดา ๆ ก็ดูดีได้แล้ว
หนูน้อยชาวต่างชาติบางคนเริ่มล้อมรอบตัวเขา คงอยากได้ตุ๊กตา
แต่ฉินมั่วไม่ยอมให้สักตัว แค่เอาเหรียญเล่นเกมที่แลกมาให้เด็ก
เหล่านั้นไปเล่นเอาเอง
มั่วเป่ยมองดูอยู่ด้านข้าง พอจะเข้าใจดีว่า ‘อาจารย์หญิง’ ไม่เคยแบ่ง
ของของอาจารย์ให้คนอื่น
ไม่อย่างนั้นคงไม่ไล่ให้เธอมาฝึกจับตุ๊กตาฝึกดูมุมองศาหรอก
ทางด้านป๋อจิ่วกลับพึงพอใจ เพราะคนที่กำลังหอบของเล่นดูหล่อ
บาดใจมากกว่าปกติ
อืม จับเพิ่มอีกสักหน่อยดีกว่า
ดังนั้นลูกเสือเจ็ดตัวจึงถูกจับจนหมดในเวลาไม่ช้านาน
ป๋ อจิ่วอยากลองเปลี่ยนเครื่องบ้าง แต่ถูกฉินมั่วรั้งข้อมือไว้ “ถ้ายังจับ
ต่อไปอีกล่ะก็ เจ้าของร้านจะมาหาแล้วนะ เธอไปเล่นกลอะไรกับ
เครื่องหรือเปล่า”
“ฉันก็แค่ปรับให้มันกลับไปอยู่ในรูปแบบแรก ๆ เท่านั้นเอง” ป๋ อจิ่ว
ทำหน้าจริงจัง “การจะจับตุ๊กตาได้ต้องพึ่งความสามารถเหมือนกัน
นะ”
“อ้อ” ฉินมั่วเอ่ยต่อ “งั้นลองบอกหน่อยซิว่า รูปแบบปกติมันต้องเป็น
ยังไง”
ป๋อจิ่วดึงมือกลับมา “จะจับตุ๊กตามาเอาใจแฟนตัวเองก็ไม่ได้ รูปแบบ
ปกติจะจับได้หนึ่งในสิบ คือจับสิบครั้งได้แค่ครั้งเดียว ต่อให้เทคนิค
ดีขนาดไหน ถ้าความถี่ไม่ได้มันก็จะร่วงลงไป”
“เจ้าของร้านเห็นเธอเป็นอย่างนี้แล้วยังไม่ไล่เธออีก อดทนเก่งดีแฮะ”
ฉินมั่วเอ่ยไปเรื่อย ๆ “ตอนนี้ปกติแล้ว?”
ป๋ อจิ่วหน่ายใจ ทำอะไรก็หลอกผู้ชายคนนี้ไม่ได้สักที จึงหยิบคีย์บอร์ด
แบบพับออกมาจากกระเป๋ า เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตก่อนจะ
ปรับความถี่
สวิตช์เปิดปิดของบางเครื่องจะอยู่ด้านหลังตู้ เธอไม่แตะอะไรที่เป็น
ระบบสัมผัส ทำแค่ระบบอย่างเดียว
แต่เรื่องแบบนี้มันเล็กน้อยมาก เพราะเธอจะลงมือทำเรื่องใหญ่ในคืนนี้
หลังจากที่ไม่จับตุ๊กตากันแล้ว ทุกคนต่างกันไปยังร้านขายกาแฟริม
ถนน วางตุ๊กตาไว้เต็มเก้าอี้
โคโค่งับหลอดกาแฟพลางเสนอ “เล่นเกมไหม ไม่ได้เล่นมานานแล้ว”
นานแล้วที่ไม่ได้เล่นเกมด้วยกัน
หลินเฟิงไม่อาจเล่นเกมได้ เพราะหากเล่นจะเกิดปัญหาวิพากษ์วิจารณ์
มากมายให้เขาต้องแก้ไข
อีกทั้งเขาเองก็ทุ่มกับธุรกิจมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว ไม่ได้แตะเกมเลย
เวลานี้ได้ยินโคโค่เสนอขึ้นมา มือก็ชะงัก
“ไม่อยากเล่นอะ” หลินเฟิงคล้ายจะยิ้มเล็กน้อย ดึง ๆ คอเสื้อตัวเอง
เหราหรงรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาไม่อยากเข้าสู่หน้า
เกมเหมือนกัน
เคยต้องตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ก่อนจะกลับคืนสู่บัลลังก์อีกครั้ง
เพราะเขาชอบจริง ๆ จึงไม่อยากปล่อยมือไป
แต่ไม่ใช่ว่าบาดแผลทุกชนิดจะรักษาให้หายสนิทได้ หลายเรื่องเมื่อ
พูดออกไปก็ใช่ว่าจะมีคนเข้าใจ
เราอยากแข่งจริง ๆ อย่างบริสุทธ์ิใจ ทว่าบางคนไม่ได้คิดเช่นนั้น
ฉินมั่วน่าจะเข้าใจดี ถึงได้บอกพวกเขาว่าจะยุบทีมในเร็ว ๆ นี้ แต่ยัง
ไม่ได้ประกาศข่าวออกไป
ทว่าทุกคนต่างเข้าใจดีว่าไม่อาจแก้ไขในสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันได้
นี่เป็นกระแสครั้งใหญ่
พวกเขาแค่ไม่อยากถูกหลอมรวมและถูกคนอื่นชักจูง
ถ้าทีมไดมอนด์เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีก นั่นต่างหากอาจเป็น
ความเศร้าครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด
ตอนที่ 2130
ที่สำคัญที่สุดคือ แม้ว่านางมารจะร้ายกาจ แต่อย่างน้อยก็อยู่ในวงการ
เดียวกัน ยังต่อรองราคากันได้
แต่ผู้ชายคนนี้มาจากไหน ทำอะไร พวกเขาไม่รู้เลยสักนิด
นางมารไปหาผู้ชายแบบนี้มาจากไหนกันแน่
รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้หรือเปล่า
คงไม่ได้หลงใหลไปกับหน้าตาหล่อ ๆ นี่หรอกนะ
เหล่าคนผิวสีก็คิดกันไปมากมาย
ฉินมั่วเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พวกนายมีแฟนหรือยัง?”
ส่ายหน้า แฟนเหรอ?
คู่นอนล่ะมีแน่ เยอะด้วย แต่ที่เป็นทางการอย่างแฟนสาวนี่ไม่เคยคิด
มาก่อน
ฉินมั่วพูดต่อว่า “คนที่ไม่มีแฟนไม่เข้าใจจริง ๆ บอกได้แค่ว่าตอนที่
ตื่นขึ้นมาวันนี้เขายังไม่คิดอะไรมาก พอมาเจอพวกนายก็คิดจะเอายา
มาใช้กับฉันทันที พวกเราคนจีนมีประโยคอมตะบอกว่า เวลาเกิด
อะไรขึ้นให้ดูสิ่งแวดล้อมตัวเขา”
เหล่าคนผิวสีไม่โง่ แม้ประโยคนั้นจะอ้อมไปไกลหน่อย แต่พวกเขา
ฟังออกนะ!
ผู้ชายคนนี้บอกว่าที่นางมารเป็นแบบนี้ก็เพราะพวกเขา?
พรรคพวก นายล้อเล่นแล้วล่ะมั้ง เมื่อกี้ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกเขาโดน
ยัยนั่นข่มขู่ยังไง!
ฉินมั่วไม่คิดอย่างนั้น “พวกนายหาวิธีจัดการที่มาของยานั่นเองก็แล้ว
กัน ครั้งหน้าถ้าเขายังมีของบ้า ๆ บอ ๆ ติดตัวอีก ฉันจะมาหาพวกนาย
แล้วต่อไปไม่ว่ามีอะไรก็อย่าได้พาเขาเสียคนอีก”
เหล่าคนผิวสีตาโตเลยทีเดียว ใคร? ใครพาใครเสีย?
ทำอย่างกับนางมารเป็นเด็ก เพื่อน นายลูบอกถามมโนธรรมตัวเอง
หน่อยเถอะว่าใครพาใครเสียคนกันแน่
บางอย่างพวกเขายังสู้นางมารไม่ได้เลย
แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ย่อมต้องเข้าใจกันแล้ว
เดิมทียังคิดว่านางมารไปได้ไอ้หน้าอ่อนมา
ที่แท้เป็นไอ้หน้าอ่อนที่ไหนกันล่ะ จอมมารชัด ๆ !
ด้วยเหตุนี้ พวกที่จะหาเรื่อง Z ก่อนเธอลุกขึ้นมายิ่งใหญ่อีกครั้ง กลับ
ต้องแพ้ราบคาบทั้งที่ยังไม่ทำอะไร
พอถามลูกน้อง ฝ่ายนั้นก็เอามือกุมศีรษะพูดกับลูกพี่ตัวเอง “ไม่ไหว
จริง ๆ โดยเฉพาะแถวไชน่าทาวน์ ผู้ชายที่อยู่ข้าง Z มันร้ายกาจมาก”
“Z จะมีผู้ชายอยู่ด้วยได้ยังไง!” ฝ่ายหัวหน้าไม่ยอมแพ้
ลูกน้องอีกคนจึงกระซิบ “มีจริง ๆ เหมือนจะมีสายสัมพันธ์กับทาง
ตำรวจด้วย มีคนของเขาเต็มไปหมด แตะยาก”
“งั้นก็ให้เงินมาเฟียคนจีนเยอะหน่อย จะเป็นอะไรไป?”
“เขามีเงินมากกว่า แถมยิงปืนแม่นด้วย แล้ว Z ก็สัญชาตญาณดีเกิน
พวกเราแพ้ทุกครั้ง ลูกพี่อย่าไปยุ่งกับเขาเลย อยู่เหมือนเมื่อก่อนก็ดี
อยู่แล้ว ขอแค่อย่าหักหลังคนจีนกับพวกแฮกเกอร์เป็นพอ Z ก็ไม่ยุ่ง
กับเราแล้ว”
อุตส่าห์ได้ปลดปล่อยมาสามปี ต้องเริ่มทำตามกฎที่คนอื่นตั้งอีกแล้ว
เหรอ
คนเป็นมาเฟียย่อมไม่พอใจ แต่เธอคนนั้นร้ายกาจมาก…มากขนาดที่
เมื่อก่อนไม่มีใครกล้าแหกกฎทั่วทั้ง The Fifth Avenue เลยทีเดียว
หาเงินได้ ทำเรื่องสีเทาได้ ทว่ามีบางอย่างที่แตะต้องไม่ได้ ทุกคน
ต้องปฏิบัติตาม
การควบคุมแบบนี้กลับมาอีกแล้ว
แต่หวนคิดดูอีกที คนที่โดนผลกระทบมากที่สุดไม่ใช่พวกเขาหรอก
เพราะหากว่ากันตามสไตล์ของ Z ก็แค่เอาสัตว์ร้ายในคราบคนไป
กักขังเท่านั้น
หากพวกเขาไม่แตะอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ชายที่ Z เลี้ยงไว้เป็นใครกันแน่
ยูกิชินพูดไว้ไม่ผิด หากสองคนนั้นร่วมมือกัน รับรองว่าคนอื่นปวด
หัวแน่…
ด้านนอกโบสก์ในตอนบ่าย
ป๋อจิ่วกำลังศึกษาของที่ได้มาจากพวกคนผิวสี กำลังคิดว่าจะใช้กับ
ท่านเทพอย่างไรดี ถึงจะได้มีลูกของเขาสักที…
ตอนที่ 2131
อยากจะให้ Z เก็บเขี้ยวเล็บน่ะเป็นไปไม่ได้
ป๋ อจิ่วอยากแต๊ะอั๋งเจ้าหญิงฉินอย่างมากมายมาตั้งแต่เด็ก เมื่อได้ชาย
หนุ่มมาอยู่ในกำมือย่อมต้องลงมือให้สะใจ จะปล่อยให้โอกาสหลุด
ไปได้อย่างไร
หลินเฟิงเดินมา เห็นยิ้มร้ายที่มุมปากเธอพอดี ไม่รู้ว่าคิดเรื่องเลวร้าย
อะไรอยู่
“เจ้าแบล็ก บอกเฮียมาซิว่านายกำลังคิดอะไร?”
ป๋ อจิ่วเก็บของ ซุกมือลงกระเป๋ ากางเกงข้างหนึ่ง นัยน์ตาดำขลับ “พูด
ไปพี่ก็ไม่เข้าใจ ว่าแต่เมื่อวานที่พี่โทรมามีเรื่องอะไรเหรอ?”
หลินเฟิงนึกถึงเรื่องที่เขาโทรหาเจ้าหล่อนเมื่อวานนี้ ก็เฉไฉทันที
“แค่โทรหาเล่น ๆ เท่านั้นแหละ ลูกศิษย์นายล่ะ ทำไมไม่เห็นยัยเด็ก
หน้านิ่งเลย”
ป๋อจิ่วเห็นพิรุธในดวงตาของอีกฝ่าย ก็ยิ่งยิ้มกริ่มหนักกว่าเดิม “อย่า
มาเปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงลูกศิษย์ฉัน ท่าทางมีอะไรลึกลับนะ พี่หลิน”
หลินเฟิงรู้จักแบล็กพีชดี ยิ่งไม่บอกเธอก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น จึงเลิกคิ้ว
ทำเหมือนไม่มีอะไรมาก “ก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แค่ได้ปล้ำคนแล้ว
เท่านั้นเอง”
ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว “โม้อีกแล้ว?”
“โม้อะไร ฉันเหมือนจ้าวซานพั่งหรือไง” หลินเฟิงส่งเสียงขึ้นจมูก
“ถ้าไม่เชื่อ นายก็ลองไปถามอวิ๋นหู่ดูสิ”
ป๋ อจิ่วเห็นท่าทางเขาในเวลานี้แตกต่างไปจากตอนมีพิรุธอย่างที่เคย
เป็นมา ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เธอยักคิ้วก่อนจะยิ้มให้ “เทพอวิ๋นก็
ยอมพี่จริง ๆ”
หลินเฟิงหน้าหล่อสวย หัวเราะเฮอะ ๆ ออกมา “ใครกันแน่ที่ยอมใคร
ฉันยอมเขาต่างหาก นายไม่รู้ว่าเขาน่ะอ่อนแอขนาดไหน ถึงกับรับ
ฉันไม่ไหวเลยนะเว้ย”
“อ้อ?” ป๋ อจิ่วเอ่ยอย่างเรียบเรื่อย “ท่าทางคงแค่ครั้งเดียวล่ะ”
หลินเฟิงทำหน้าจริงจัง “นายไม่เข้าใจ ฉันเอ็นดูเมียเว้ย”
ป๋ อจิ่ว…ใครเป็นเมียใครกันแน่ แบ๊วบื้อเอ๊ย
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ คนแบบนั้นยังอุตส่าห์ยอมนอนอยู่ข้างล่างได้
พอจะเห็นถึงความรักที่มีให้กัน
ดังนั้นกับเรื่องแบบนี้ แบ๊วบื้อสักนิดก็ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก
หลินเฟิงคุยขึ้นมาทีไรเป็นต้องเอาแขนพาดบ่าป๋ อจิ่วทุกที หลังจากที่
ทำธุรกิจเขาก็ไม่ค่อยทำแบบนั้นแล้ว
ทางด้านอวิ๋นหู่ที่มองดูอยู่ด้านข้างคิดว่าตัวเองชอบคนคนนี้ไม่ใช่
เพราะหน้าตา แต่เพราะเป็นตัวของหลินเฟิงเอง
ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอะไร คนคนนั้นในหัวใจของเขาก็ยังเป็นหนุ่ม
น้อยเหมือนเดิม
เมื่อพวกที่เหลือเข้ามา ก็ได้ยินหลินเฟิงถ่ายทอดความเอ็นดูเมียให้ป๋อ
จิ่วฟังพอดี
มั่วเป่ยแบกเป้ สีหน้าไร้อารมณ์ “พี่หลิน ถ้าอาจารย์หญิงมาเห็นท่าทาง
พี่ในตอนนี้ พี่ต้องซวยแน่นอน”
หลินเฟิงได้ยินแล้ว มือที่พาดบ่าป๋อจิ่วถึงกับแข็งทื่อ ก่อนจะพูดอย่าง
สบาย ๆ ว่า “คนเป็นเพื่อนซี้กันก็ต้องเป็นแบบนี้ มั่วเป่ ยอย่าไปฟัง
หัวหน้าให้มาก ดูหัวหน้าสิ นอกจากแบล็กพีชแล้ว ใครไปแตะเขาก็
ไม่ได้ทั้งนั้น เรื่องนี้มันผิดนะ คนเราเป็นเพื่อนซี้กันก็ต้องกอดบ่าตบ
หลังกันบ้าง ถึงจะเรียกว่าซี้กันจริง อาจารย์เธอเคยบอกให้เธอยิ้ม
บ่อย ๆ อย่าเอาแต่หน้านิ่งไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่ได้หน้านิ่งสักหน่อย” มั่วเป่ยพูดจบก็ไปยืนข้างป๋อจิ่ว สีหน้า
ยังไร้อารมณ์เช่นเดิม
หลินเฟิงทนมานานจนทนไม่ไหวแล้ว “ขนาดนี้แล้วยังไม่เรียกว่า
หน้านิ่งอีกเหรอ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ขำว่ะ”
มั่วเป่ยไม่พูดอะไรอีกเพราะอาจารย์กำลังลูบศีรษะเธออยู่
มองพวกเขากระเซ้าเย้าแหย่กันก็รู้สึกดี
แม้พี่หลินคนนี้จะเชื่อถือไม่ได้ แต่บางอย่างที่พูดมาก็ถูก
ต่อไปเธอมีเพื่อนจะต้องพยายามสนิทกับคนคนนั้นให้ได้
ลูกผู้ชายควรต้องปฏิบัติต่อกันอย่างนี้