ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 461 เหล่าจาง

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 461 เหล่าจาง…

“อู้ย…โอ๊ย…ซี้ด…” โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองวนอยู่ในกระแสน้ำวนไม่หยุด สติของเขาดูทึ่มเซ่อ ไม่ว่าอย่างไรเขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนแป้งก้อนหนึ่ง ถูกนวดและกดบีบด้วยวิธีต่างๆ ซ้ำไปซ้ำมา ราวกับมีคนปัญญาอ่อนถือท่อนไม้ไล่ตีเขาไม่หยุด และดูเหมือนอยากจะตีเขาให้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนเหมือนกัน

เขาไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว โจวเจ๋อพลันลืมตา เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนแผ่นเหล็กเย็นๆ รอบๆ ล้วนเป็นโทนสีเย็น ดูแล้วคุ้นจัง ไม่ใช่โรงพยาบาล แต่ก็เหมือนโรงพยาบาล

โจวเจ๋อลุกขึ้นนั่งเงียบๆ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่า ตัวเองลุกนั่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ เชี่ยเอ๊ย!

หรือว่าหลังจากที่ตัวเองโดนทรมานทุกครั้งจะสามารถเพิ่มพลังควบคุมร่างกายได้มากขึ้น ที่แท้สภาพที่ลำบากสามารถทำให้คนเราเติบโตได้ อย่างนั้นพวกยอดฝีมือทั้งหลายล้วนถูกบีบบังคับใช่ไหม

โจวเจ๋อยื่นมือลูบหน้าอกของตัวเอง แล้วกดลงลงไป โอ้ใครจะรู้ว่ากระดูกซี่โครงหักมากน้อยแค่ไหน และหน้าอกก็ยุบลงไปเช่นกัน เดี๋ยวนะ เขามองไปรอบๆ อีกครั้ง ในที่สุดโจวเจ๋อก็รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน นี่คือคือห้องชันสูตรศพ!

ไม่แปลกใจเลยที่รู้สึกเหมือนอยู่โรงพยาบาล

“ฮู่ว…” เขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ขอแค่ไม่ใช่ประตูเตาเผาศพก็พอ ในที่สุดก็ไม่ได้มีดวงที่ตื่นมาแล้วถูกเผา

ไม่ใช่สิ ดูเหมือนโจวเจ๋อจะนึกอะไรออก เขายื่นมือลูบขมับของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ และแล้วนิ้วของเขาก็คลำเจอรู! ซึ่งอยู่ตรงขมับของตัวเองพอดี!

“ตำรวจหญิงคนนั้น ฝีมือยิงปืน…” อย่าคิดว่าตำรวจหรือตำรวจอาชญากรรมจะยิงปืนเก่งทุกคน ในความเป็นจริงนั้นต่อให้ยิงปืนเก่งแต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่คับขันกลับยากมากที่จะยิงปืนได้แม่นยำ

“ผู้หญิงคนนั้น ระเบิดขมับของฉันเหรอ” โจวเจ๋อใช้นิ้วแหย่ไปที่ขมับ ลึกมากจริงๆ ไม่ใช่สิ ฉันกำลังทำอะไรอยู่

โจวเจ๋อวางมือลง รู้สึกเหลือเชื่อที่ตัวเองแหย่รูกระสุนที่ระเบิดศีรษะของตัวเอง นี่อาจจะกลายเป็นความฝังใจอย่างรุนแรงที่หลงเหลืออยู่หลังจากที่เขาฟื้นฟูกลับสู่ปกติได้ แต่จากนั้นเขาก็ปล่อยวาง เพราะอัฐิของเขาก็เคยถูกคนขโมยและนำอัฐิมาคลุกข้าวกิน เมื่อลองคิดดูแล้ว สถานการณ์แบบนี้ถือว่าเล็กน้อย

โจวเจ๋อจำได้ตอนที่ตัวเองเรียนชั้นมัธยมต้น มีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งชอบแคะตาปลาที่อยู่ใต้เท้าของตัวเอง มีครั้งหนึ่งโจวเจ๋อมองเห็นเข้าโดยบังเอิญ ตอนนั้นเขารู้สึกสะอิดสะเอียนมาก เสียดายเวลาที่โจวเจ๋อแคะรูกระสุนเพื่อนนักเรียนคนนั้นกลับไม่เห็น

และในเวลานี้ ประตูห้องชันสูตรศพถูกเปิดออก ตอนนี้น่าจะมืดแล้ว เขาไม่รู้ว่าตัวเองสลบมาแล้ววันสองวันหรือเปล่า

โจวเจ๋อกำลังคิดว่าจะแสร้งทำเป็นศพนอนต่อดีไหม ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวทำลุงตำรวจตกใจจะเป็นความผิดของตัวเองอีก

“เถ้าแก่” คนที่เข้ามากลับเป็นเหล่าจาง จึงไม่ต้องเสแสร้งอะไร โจวเจ๋อถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เหล่าจางใส่ชุดตำรวจเดินเข้ามา เขาเห็นโจวเจ๋อนั่งอยู่ตรงนั้น ก็รีบเดินเข้าไปทันที แต่ตอนที่สายตาของเขาหยุดอยู่ที่รูกระสุนบนศีรษะของโจวเจ๋อ สีหน้าบนใบหน้าของเขากระตุกเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เขาเห็นคนตายมาเยอะแล้ว กระทั่งเหล่าจางเมื่อก่อนยังเป็นคนฆ่าผู้ต้องสงสัยที่ขัดขืนและพยายามข่มขู่ตัวประกันด้วยตัวเอง แต่คนที่ศีรษะโดนยิงระเบิดและยังนั่งถอนหายใจได้แบบนี้ เหล่าจางเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก เมื่อเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก จึงทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง

“เถ้าแก่ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ” เหล่าจางนั่งลงข้างเตียงเหล็ก นับตั้งแต่ที่เขาเห็นโจวเจ๋อเมื่อคืนก่อน ความสงสัยมากมายได้สะสมอยู่ในใจของเขา

ทั้งๆ ที่ตัวเขามาทำคดีที่สวีโจว ทำไมตอนที่ออกมาเดินเล่นกับตำรวจเฉินถึงมีคนที่เหมือนศพเข้ามาโจมตีเขาได้ และคนที่โจมตีเขาดันเป็นเถ้าแก่ของตัวเอง!

“พูดแล้วเรื่องยาว โทรศัพท์ล่ะ โทรศัพท์ให้ผมหน่อย” โจวเจ๋อแบมือ

“ผมติดต่ออิงอิงแล้ว พวกเขาตอนนี้ยังอยู่ที่เขตภูเขาในมณฑลข้างๆ ถ้าคำนวณเวลาแล้ว น่าจะเร่งมาถึงตอนเช้า”

“อ้อ งั้นก็ดี” โจวเจ๋อยื่นมือแคะรูกระสุนที่อยู่บนศีรษะของตัวเองอีกครั้งด้วยความเคยชิน มือซนจริงๆ อดใจไม่ไหวซึ่งเหมือนเวลามีของแปลกงอกขึ้นมาบนตัวของคุณเอง และคุณก็อดไม่ได้ที่จะเอามือลูบมัน

“เรื่องนี้ถูกปิดข่าวแล้ว ศพเดินได้ตอนกลางคืน ใครได้ยินก็ต้องตกใจ ดีนะที่ตำรวจเฉินปิดข่าวทัน ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เผยแพร่ออกไปในสังคม”

อันที่จริง เวลาที่ตำรวจทำคดี เดินตามริมน้ำบ่อยๆ มีหรือที่รองเท้าจะไม่เปียก มักจะเจอเรื่องประหลาดอยู่เสมอ

ถ้าหากคุณกับตำรวจเก่าสนิทกันมาก ก็ลองถามดู พวกเขาอาจจะเล่าคดีสุดสะพรึงให้คุณฟังสักสองสามเรื่อง แต่ส่วนใหญ่จะถูกปิดข่าวเงียบ เพราะบางคดีเมื่อถูกเผยแพร่ออกไปแล้วจะสร้างความหวาดกลัวให้แก่สังคม

และเห็นได้ชัดว่า เหตุการณ์ของโจวเจ๋อในครั้งนี้น่าจะโดนปิดข่าวเหมือนกัน คาดว่าพวกลุงตำรวจคงจะตกใจใหญ่หลังจากที่ชันสูตรศพ เพราะร่างนี้น่าจะตายมามากกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว

“ตำรวจเฉิน” โจวเจ๋อตะลึงเล็กน้อย ชี้ไปที่ศีรษะของตัวเองแล้วเอ่ยว่า “ผมก็ว่าอยู่ทำไมคุ้นหน้าจัง เธอเป็นคนระเบิดหัวผมเหรอ”

“ครับ…” เหล่าจางละอายใจเล็กน้อย จริงๆ แล้วตอนนั้นเป็นช่วงคับขัน ในสายตาของเหล่าจาง ตำรวจเฉินยิงปืนเพื่อช่วยชีวิตเขาเท่านั้น

“ผู้หญิงบ้านั่น ต่อให้เป็นศพ ก็ไม่ควรยิงปืนมั่วซั่วแบบนี้ นี่คือความผิดโทษฐานทำลายศพ!”

“ตอนนั้น เถ้าแก่เกือบจะฆ่าผมตาย เธอก็เลย…”

“ไม่ใช่สิ ทำไมคุณช่วยพูดให้เธอ เธอเป็นเถ้าแก่ของคุณหรือว่าผมเป็นเถ้าแก่ของคุณ”

“เธอเป็นหัวหน้าของผม”

“…” โจวเจ๋อ

“อ้อ ผมเข้าใจแล้ว เหล่าจาง คุณนอนกับเธอแล้วใช่ไหม”

เหล่าจางหน้าแดงเล็กน้อยทันทีและรีบพูดว่า “เปล่าครับๆ”

โจวเจ๋อยื่นมือตบไหล่ของเหล่าจางเบาๆ และพูดด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงจัง “เหล่าจาง ใครนอกใจใครเป็นคำถามเชิงปรัชญาที่เคร่งครัดมาก คุณพิจารณาได้ความว่ายังไงบ้างแล้ว”

“…” เหล่าจาง

“ยังคิดไม่ได้ใช่ไหม คำถามนี้ ต้องคิดให้ดีเพราะสำคัญมาก รู้ไหม”

เหล่าจางทำสีหน้าลำบากใจขึ้นมา โจวเจ๋อก้มหน้า ทันใดนั้นพบว่าหน้าอกของตัวเองมีรอยมีดผ่าเป็นตัว ‘X’ ขนาดใหญ่

“ผมถูกชันสูตรศพเหรอ”

“ใช่ครับ เถ้าแก่ ผมไม่สามารถห้ามได้ และตอนนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่าเถ้าแก่ยังอยู่ในร่างนี้ไหม ที่ผมมาคืนนี้ก็แอบเข้ามาเหมือนกันครับ และผมก็ไม่รู้ว่าคุณยังจะฟื้นขึ้นมาได้อีก จริงๆ แล้ว มีเรื่องของพวกคุณอีกมากมายที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ และทำความเข้าใจไม่ถูก”

“เหอะๆ” โจวเจ๋อลงจากเตียง เขายืนไม่ค่อยมั่นคงและตัวเอียงเล็กน้อย เขาต้องเสียพลังอย่างมากถึงจะควบคุมร่างกายของตัวเองได้แล้วจึงยืนอย่างมั่นคง

เหล่าจางที่อยู่ข้างๆ รีบช่วยประคองทันที

“ร่างกายนี้มีสภาพเป็นแบบนี้แล้ว แต่ยังขยับได้ น่าตกใจไหม”

“ใช่ น่าตกใจครับ” จางเยี่ยนเฟิงตอบ

“ผมก็ตกใจมากเหมือนกัน รู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้เหมือนกำลังขับรถคันเก่าที่สามารถพังได้ตลอดเวลา” ทันใดนั้นโจวเจ๋อรู้สึกหมดแรงและอ่อนกำลัง ร่างกายเริ่มควบคุมไม่อยู่เอนถอยไปด้านหลัง ยังดีที่เหล่าจางประคองเขา โจวเจ๋อจึงไม่ล้มลงไป

“เถ้าแก่ คุณเป็นอะไร”

“รู้สึกเหมือนจะหิว” โจวเจ๋อเอ่ย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เขาไม่ได้กินอะไรนานแค่ไหนแล้ว ครั้งที่แล้วที่กินข้าวดูเหมือนจะเป็นตอนที่อยู่ในหมู่บ้านค้ามนุษย์และใช้ห้องครัวของชาวบ้านทำกับข้าวกินกับทนายอัน

“แต่เถ้าแก่ กระเพาะของคุณถูกตัดออกไปแล้ว วัตถุที่เหลืออยู่ในกระเพาะก็ถูกเอาไปตรวจสอบแล้ว”

“แต่ผมยังหิวอยู่” โจวเจ๋อพยายามนั่งลงบนเตียงเหล็กภายใต้การช่วยประคองของเหล่าจาง

“เอาแบบนี้ไหม เหล่าจาง คุณยื่นคอมาหน่อย ให้ผมดูดเลือดของคุณ แล้วผมน่าจะฟื้นพลังกลับมาได้เล็กน้อย”

“…” เหล่าจาง

“ไม่น่าขี้งกหรอกใช่ไหม คุณดูเถ้าแก่ของคุณสิมีสภาพเป็นแบบไหน ศีรษะถูกยิงจนเป็นรู ดูดเลือดของคุณสองคำจะเป็นไรไป”

“เอ่อ…ก็ได้ครับ” เหล่าจางเป็นคนซื่อ จึงยื่นคอของตัวเองเข้าไปจริงๆ ส่วนโจวเจ๋อก็ไม่เกรงใจ อ้าปากแล้วกัดลงไป

“ซี้ด…”

“ซี้ด…” เหล่าจางเจ็บ เหล่าโจวฟิน

โจวเจ๋อเพิ่งรู้ว่า ที่แท้เลือดสดๆ อร่อยขนาดนี้นี่เอง เหมือนได้ดื่มน้ำซุปบำรุงร่างกาย เลือดสดลงท้อง รู้สึกอบอุ่นจริงๆ

โจวเจ๋อไม่ได้ดูดเลือดเยอะจนเกินไป ถ้าดูดเลือดเหล่าจางจนแห้งจะซวยแย่ เขารีบปล่อยทันที จากนั้นก็เช็ดปากของตัวเองอย่างอาลัยอาวรณ์ด้วยยังติดใจในรสชาติอยู่

เหล่าจางหยิบกระดาษทิชชูออกมาแล้วเช็ดแผลที่คอของเขา เขาเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมาก

“แค่สองสามคำ ไม่เป็นไรหรอก ไม่แน่อาจจะเป็นผลดีกับคุณ” โจวเจ๋อปลอบใจ

“ผลดีเหรอ”

“ใช่แล้ว ไม่เห็นเดดพูลในร้านหนังสือของพวกเราเหรอ เขาก็…”

สีหน้าของเหล่าจางเปลี่ยนไปทันที ภาพทึ่มๆ เซ่อๆ ของเดดพูลผุดขึ้นมาในหัวของเขา

“ไม่ใช่ ตัวอย่างนี้ไม่เหมาะสม ถึงตอนนั้นก็คอยดูแล้วกัน ร่างกายของผมตอนนี้ไม่ใช่ร่างกายของตัวเอง จึงอาจจะไม่มีผลอะไร ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าผีดิบจะอ้าแขนรับสมาชิกใหม่เหมือนผีดูดเลือดได้ไหม รอให้มีโอกาสแล้วผมจะลองปรึกษากับคนนั้นดู ดูสิว่าจะพอทำได้ไหม ถ้าหากทำสำเร็จ เหล่าจาง ฐานะของคุณจะน่ากลัวมาก ผีดิบที่มีอายุเป็นพันปียังต้องเรียกคุณว่าบรรพบุรุษ”

เวลาที่คุณเป็นผู้นำ คุณสามารถไม่ลงมือทำได้ คุณสามารถทำเหมือนตาบอดได้ คุณสามารถใจดำได้ แต่คุณต้องวาดฝันให้เป็น เพราะการวาดฝันไม่ต้องใช้เงิน

“อ้อใช่ มีอีกเรื่องหนึ่ง อีกสักพักคุณลองไปสืบผลการชันสูตรศพของร่างกายนี้ให้ผมด้วย”

“ผลการชันสูตรศพ”

“ใช่ ผมกังวลว่าร่างที่ผมสิงอยู่ถ้าหากเป็นโรคคงแย่น่าดู อย่างเช่นโรคเอดส์อะไรพวกนี้ แน่นอนว่า มีความเป็นไปได้ที่ต่ำมาก เป็นไปไม่ได้หรอก คุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”

“…” เหล่าจาง

“โทรหาอิงอิงและพวกเขาอีกครั้ง เร่งพวกเขาหน่อยว่าจะมาถึงกี่โมง ผมทนร่างนี้ไม่ไหวแล้ว” โจวเจ๋อพูดเร่ง

“อ้อ ครับ” เหล่าจางหยิบโทรศัพท์ออกมา ตอนที่เขากำลังจะกดเบอร์โทรออก โถงทางเดินที่เงียบสงัดด้านนอกประตูห้องชันสูตรศพในยามดึกดื่นค่อนคืน จู่ๆ ก็มีเสียงเด็กดังเข้ามา

“คุณอา คุณคิดถึงผมไหมครับ ผมมาหาคุณแล้ว!”

………………………………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน