ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 257-2 หน้าประตูวันนี้เมื่อปีกลาย (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 257 หน้าประตูวันนี้เมื่อปีกลาย (2)

“หกสิบปีก่อนที่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เวลานั้นแทบยังไม่มีอะไร อย่าพูดถึงเทียบกับปักกิ่งเลย กับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็แทบเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ อธิการในตอนนั้นรับนักศึกษาแค่กลุ่มเดียว แต่ไม่ได้จำกัดสี่ปีเหมือนตอนนี้ เขาเรียนหนึ่งปีก็เป็นผู้ช่วยอาจารย์ของเซี่ยงไฮ้ เข้าปีที่สองเริ่มเป็นอาจารย์ในเซี่ยงไฮ้ อาจารย์ของอธิการเป็นอธิการคนแรกของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ แต่อธิการคนแรกมาด่วนจาก ฝีมือไม่ได้แข็งแกร่งมาก เวลานั้นอยู่แค่ขั้นห้า เซี่ยงไฮ้เพิ่งก่อตั้งมาไม่กี่ปี อธิการคนแรกก็ตายในสงครามแล้ว”

“ตอนนั้นยอดฝีมือยังมีน้อย เป็นอธิการในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่เพิ่งก่อตั้งไม่กี่ปีเช่นนี้ มียอดฝีมือไม่กี่คนเท่านั้นที่ยินดีทำ จากนั้น…จับพลัดจับพลู อธิการที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นสี่ก็ได้รับคำสั่งให้รับหน้าที่รักษาการณ์แทนอธิการบดี เวลานั้นเขาเพิ่งจะยี่สิบห้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ในวัยยี่สิบห้า…มหาวิทยาลัยอื่นๆ แทบไม่คาดหวังอะไรกับเซี่ยงไฮ้ แต่อธิการมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น…ตอนนั้นถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ปรากฏขึ้นแล้ว ความฝันสูงสุดของเขาคือการพัฒนาเซี่ยงไฮ้ให้กลายเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง สามารถงัดข้อกับถ้ำใต้ดินได้ เธอเข้าไปในถ้ำใต้ดินแล้ว คงรู้ว่าพวกถ้ำนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ก็น่าจะรู้แล้วว่าความฝันของอธิการนั้นน่าขำ! แต่เขาคิดแบบนั้นจริงๆ สิบปีหลังจากนั้นต่างต่อสู้บากบั่นเพื่อความฝันนี้ เขาสอนลูกศิษย์ออกไปมากมาย ขอแค่เป็นลูกศิษย์ของเขา เธอไม่รู้หรอก อธิการเจ้าเล่ห์ขนาดไหน เอาแต่ปลูกฝังว่าเป็นอาจารย์นั้นดีเลิศสูงส่ง…”

ตาเฒ่าหลี่เผยรอยยิ้ม “จำได้ว่าตอนนั้นเขาล้างสมองฉันทุกวัน เป็นอาจารย์นั้นดีกว่าเป็นข้าราชการ อาจารย์คือผู้ที่ถ่ายทอดวิชาให้มนุษย์ เป็นแบบอย่างที่ดีของคนอื่น ได้รับความนับถือกว่าเจ้าขุนมูลนายแก่ๆ นั้นเป็นไหนๆ…เธอลองคิดดู พวกเราเพิ่งจะเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน จะทนกับการล้างสมองแบบนั้นได้ยังไง พวกเราดูแคลนข้าราชการ ไม่สนใจการทำธุรกิจ คิดแค่อย่างเดียวว่าเรียนจบแล้วจะรั้งตัวอยู่ที่มหาวิทยาลัย กลายเป็นอาจารย์คนหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ตอนที่ฉันเรียนจบ อันที่จริงไม่ได้อยากเป็นอาจารย์ ปรากฏว่าตาแก่นั่นไปหาพ่อแม่ฉัน เล่าว่าอาจารย์เซี่ยงไฮ้นั้นน่าเคารพนับถือขนาดไหน สวัสดิการอะไรก็ดี…จากนั้นยังซ้อมฉันอีกหนึ่งชุด บอกว่าถ้าฉันกล้าไป เขาจะตัดขาฉันทิ้ง…ฉันที่ถูกเขาบังคับและล่อลวงเลยจับพลัดจับพลูมาเป็นอาจารย์อยู่ที่เซี่ยงไฮ้”

ฟางผิงเพิ่งรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรก นึกไม่ถึงว่าตาเฒ่าหลี่จะเป็นลูกศิษย์ของอธิการบดี!

ตอนนี้ฟางผิงไม่คิดแทรกบทสนทนา

ตาเฒ่าหลี่เล่าอย่างสะเปะสะปะอยู่บ้าง จมดิ่งในห้วงความทรงจำ “หลายปีมานี้เขาใช้สารพัดวิธีเพื่อรั้งตัวนักศึกษาจำนวนมากให้อยู่รับตำแหน่งอาจารย์ต่อ ดังนั้นถึงได้มีเซี่ยงไฮ้ที่รุ่งเรืองในวันนี้ มีตำแหน่งเป็นสองมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ชื่อดัง น่าเสียดาย ระยะห่างจากความฝันของเขา ความฝันที่ว่ามหาวิทยาลัยจะต่อต้านถ้ำแห่งหนึ่งได้ยังคงยาวไกล ตัวเขาเอง เพราะเข้าสู่สนามรบมาหลายครั้ง ได้รับบาดเจ็บหนัก ร่างที่ไม่ดับสลายนั้นก็แทบจะดับสลายแล้ว ไม่ใช่แค่บาดแผลภายนอก แต่ยังรวมถึงด้านจิตใจ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหกสิบปี ลูกศิษย์ที่เขาสอนออกมากว่าครึ่งหนึ่งนั้นล้วนตายในสงครามของถ้ำใต้ดิน อย่ามองว่าเขาไม่พูด ในใจคงไม่รู้สึกอะไร ก่อนหน้านี้เขาวางแผนที่จะรอถ้ำใต้ดินของหนานเจียงปรากฏ เขาและผู้อาวุโสอีกส่วนหนึ่งจะไปตายในสงครามหนานเจียงด้วยกัน ฉันคิดว่า…คิดว่ายังจะยื้อเวลาได้มากกว่านี้ซะอีก แต่สถานการณ์ถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้เลวร้ายมากขึ้น พวกตาแก่รอไม่ไหวแล้ว พากันเข้าไปตายในนั้น…”

ตาเฒ่าหลี่ดื่มเหล้าอีกแก้ว สะบัดหัวเผยทั้งรอยยิ้มและความโศกเศร้า “สุดท้ายก็ตายซะแล้ว อันที่จริงฉันรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง แค่นึกไม่ถึงว่าจะเร็วถึงขนาดนี้ เขาตายไป…น่าจะมีความสุขแล้ว แต่ไม่คิดบ้างว่าเขาตายแล้ว ความฝันของเขาจะเป็นยังไง? หนึ่งมหาวิทยาลัยสยบหนึ่งถ้ำ…ฮ่าๆ แค่เมืองเดียวยังเอาไม่อยู่! ตาแก่โม้ไว้ซะใหญ่โต โม้ตั้งแต่หกสิบปีก่อนจนถึงตอนนี้ ปรากฏว่ากำจัดได้แค่ขั้นแปดหนึ่งคนเท่านั้น น่าขายหน้าซะไม่มี! พวกเราก็ขายหน้าเช่นกัน ไม่ได้ช่วยทำความฝันของเขาให้เป็นจริง…”

ตาเฒ่าหลี่เผยรอยยิ้ม น้ำตากลับนองหน้า สี่สิบปี เขาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ถึงสี่สิบปี คลุกตัวอยู่กับตาแก่นั่นถึงสี่สิบปี ทำใจไม่ได้จริงๆ

ฉันอยากให้ฉันตายก่อน ยังไงลูกศิษย์นายก็ตายมากพอแล้ว ชินไปตั้งนานแล้ว

แต่นึกไม่ถึงว่านายจะตายก่อนฉัน อาจารย์นั้นมีแค่คนเดียว เป็นอาจารย์เพียงคนเดียวของเขา!

ฟางผิงไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา รินเหล้าให้ตาเฒ่าหลี่อีกหนึ่งแก้ว

ตาเฒ่าหลี่ดื่มจนหมดรวดเดียว ใบหน้าค่อยๆ ฟื้นฟูเป็นปกติ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ตายก็ตายนั่นแหละ อายุปูนนี้น่าจะคิดตกแล้ว พล่ามกับเธอไปตั้งเยอะ น่าขายหน้าจริงๆ เผยจุดอ่อนซะได้ ห้ามเอาไปพูดข้างนอกเชียว ไม่งั้นตาเฒ่าจะซัดเธอตายในฝ่ามือเดียว!”

“อืม”

“เล่ามา สถานการณ์ในถ้ำใต้ดินเป็นยังไงบ้าง?”

“ตอนที่พวกเราออกมา ได้ทำลายวงล้อมของทั้งสองเมืองแล้ว สังหารผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำและกองกำลังทหารทั่วไปจำนวนมาก…”

ฟางผิงเล่าสถานการณ์ให้ฟังคร่าวๆ ตาเฒ่าหลี่พยักหน้าเล็กน้อย “สถานการณ์ยังไม่นับว่าเลวร้ายจนเกินไป น่าจะพอต้านได้ มีแค่สองเมืองเท่านั้น ประเทศจีนมีฝีมือกำราบอยู่แล้ว ไม่เหมือนเทียนหนาน เดิมทีประเทศจีนก็ไม่สามารถสร้างฐานที่มั่นอย่างเมืองความหวังได้ อุโมงค์ทางเดินยังใกล้กับเมืองอีกฝ่ายเกินไป นี่จึงทำให้ถูกโจมตี ทางเซี่ยงไฮ้อยากจะทำลายเมืองความหวัง มีแต่ต้องร่วมมือกับห้าเมืองขึ้นไป แต่…บาดเจ็บล้มตายคงไม่ใช่น้อยๆ ครั้งนี้สังหารสองแม่ทัพใหญ่ของเมืองเทียนเหมิน ขุนพลระดับสูงห้าคน เมืองเทียนเหมินไม่คุ้มค่าให้ต้องกังวลอีกแล้ว ทางตงขุย ตอนนี้มีระดับสูงเคลื่อนไหวแค่สี่คน หากไม่บุกทะลวงออกมา ต่อไปการต่อสู้หลักๆ คงจะมีแต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางและระดับล่างแล้ว”

ระหว่างที่พูด จู่ๆ ตาเฒ่าหลี่ก็เอ่ยว่า “ไอ้หนู รุ่นของพวกเธอจะยุ่งยากขึ้นมาแล้ว!”

ฟางผิงทำหน้าสงสัย ตาเฒ่าหลี่ส่ายหัวเบาๆ “รุ่นของพวกเธอหลักๆ ต้องต่อต้านเมืองเทียนเหมิน ตอนนี้ระดับสูงของเมืองเทียนเหมินสูญเสียไปกว่าครึ่ง ต่อไปทั้งสองเมืองอาจจะร่วมมือกัน หรือผสานเป็นสงครามเดียว ก็หมายความว่าลงถ้ำครั้งหน้า พวกเธอจะไม่ได้เผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์เมืองเทียนเหมินที่คุ้นเคยอีกแล้ว แต่เป็นเมืองตงขุย สนามรบก็จะไม่มีแต่ภายในรัศมีร้อยลี้ของเมืองความหวังอีกต่อไป แต่ลากยาวถึงห้าร้อยลี้ นี่หมายความว่าจะอันตรายมากขึ้น และกลุ่มของพวกเธอบางทีในอนาคตอาจจะต้องต่อต้านพวกเขาเป็นหลัก ดังนั้นความกดดันจึงมีเยอะกว่าพวกเรา”

ฟางผิงเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ยังไงถ้ำใต้ดินก็ต้องถูกทำลาย จะช้าหรือเร็วล้วนเหมือนกัน ผมก็คาดหวังให้ภัยร้ายของถ้ำใต้ดินจบลงที่รุ่นของพวกผม ผมไม่อยากให้หลายสิบปีข้างหน้า ลูกหลานของพวกเราต้องมาต่อสู้พวกถ้ำอย่างไม่กลัวตายอีก!”

“ใช่แล้ว…เวลานั้นพวกเราก็คิดแบบนี้…”

ตาเฒ่าหลี่แค่นยิ้มกับตัวเอง คิดแบบนี้กันหมด ปรากฏว่า…กลับไม่เป็นดั่งที่ใจหวัง

สงครามหลายสิบปีต่อมา นอกจากจะไม่สามารถกวาดล้างศัตรู นับวันกลับยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ อันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ

มนุษยชาติจะเอาชนะอีกฝ่ายได้จริงๆ งั้นเหรอ?

ตอนนี้เกรงว่าหลายคนคงกำลังสับสน

ตาเฒ่าหลี่ไม่พูดอะไรอีก ดื่มเหล้าอย่างเงียบๆ พวกผู้ฝึกยุทธ์รุ่นก่อนแทบจะใกล้หมดอายุขัยแล้ว ขั้นเจ็ด ขั้นแปด ขั้นเก้า…คนพวกนี้ต่างถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา!

สิ่งที่น่าขันคือจนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่า ตกลงยอดฝีมือพวกนี้มีชีวิตยืนยาวได้ถึงเท่าไหร่

อายุยืนไม่แก่ตาย เดิมทีก็เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์โบราณใฝ่หา แต่ตอนนี้กลับยังไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ

พวกยอดฝีมือขั้นเก้าส่วนมากต่างบาดเจ็บหนักเพราะเข้าร่วมสงครามแต่ละปี พอสัมผัสได้ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี ก็จะลงลึกไปในถ้ำ ไปอย่างไม่กลับทันที

ส่วนลึกของถ้ำเป็นภาพยังไงกัน?

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดที่ไม่มีหวังเป็นปรมามาจารย์อย่างเขา คงไม่อาจนั่งรอตายได้ตลอดไปหรอก ขั้นหกสูงสุดหากไม่ทะลวงด่านก็ตายในสนามรบ ดีกว่าต้องนอนป่วยตายบนเตียง

ตาเฒ่าหลี่จมดิ่งในความเงียบ ฟางผิงนั่งอย่างเงียบๆ เช่นกัน ในใจนั้นคิดล่องลอยไปไกลอยู่บ้าง

———————-

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท