ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 221 ข้าจะยอมเป็นข้ารับใช้ของเจ้า!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 221 ข้าจะยอมเป็นข้ารับใช้ของเจ้า!

บทที่ 221 ข้าจะยอมเป็นข้ารับใช้ของเจ้า!

บรรพชนเสวียนสำลัก นางมีศิษย์ผู้สืบทอดเหลือสองคน คนที่หนึ่งคือเสวียนหลีที่ได้รับความคาดหวังมากที่สุด

ส่วนคนที่สอง คือเสวียนเทียนชวน!

สาเหตุที่บรรพชนเสวียนแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้สืบทอด เพราะพรสวรรค์วิถีเร้นลับของเสวียนเทียนชวนผู้นี้หายาก ความสามารถในการทำนายนั้นมหาศาลยิ่ง

แม้แต่โชคชะตาของแผ่นดิน เขาก็สามารถล่วงรู้ได้

เพียงแต่เจ้าหนุ่มคนนี้กลายเป็นคนพิกลพิการ เขาไม่สามารถบ่มเพาะได้ดี ดังนั้นเพียงไม่กี่ปีก็คงถึงแก่ความตาย

แม้จะน่าเสียดาย แต่มันคือโชคชะตา

เจ้าหนุ่มคนนี้ใจเย็น เข้าใจว่าสิ่งใดถูกผิด รวมถึงเข้าใจส่วนรวม

เหตุผลข้อใหญ่ที่สุดที่บรรพชนเสวียนแต่งตั้งให้ศิษย์เอกบนรถเข็นเป็นผู้สืบทอด เพราะหวังว่าเสวียนหลีจะได้เรียนรู้หลายสิ่งจากเขา

แต่บัดนี้ เสวียนหลีกำลังจะตาย ส่วนขาของเสวียนเทียนชวนก็พิการ

แม้เฉิงไท่จะเขียนเรื่องราวลงบนยันต์ไว้ไม่กี่คำ กระนั้นบรรพชนเสวียนก็รู้สึกได้ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้น่าจะมีความข้องเกี่ยวกับเสวียนเทียนชวน!

หลังออกจากการเก็บตัว นางได้สอบถามศิษย์บางส่วน

เสวียนเทียนชวนผู้นี้อยากใช้ชีวิตของเสวียนหลีเป็นฐานเหยียบขึ้นไป เพื่อให้สามารถเข้าร่วมกับกลุ่มของลู่หยวนได้

หึ!

กล้าทรยศศิษย์น้องของตัวเอง เสวียนเทียนชวนช่างประเสริฐเสียจริง!

เมื่อบรรพชนเสวียนครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ นางก็อยากย้อนเวลากลับไปตอนรับเลี้ยงเสวียนเทียนชวนเมื่อหลายปีก่อนแล้วบีบคอเขาให้ตายคามือ!

ขนาดวันนี้เจ้าหนุ่มนั่นยังทรยศศิษย์น้องตนเองเพื่อลู่หยวน วันหน้าเขาจะไม่จับกระบี่ฆ่านางผู้เป็นอาจารย์เลยหรือ?!

บรรพชนเสวียนสะกดโทสะเอาไว้อย่างยากเย็น “บุตรศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าอย่างไร?”

“ความหมายของข้ามันก็ชัดเจนอยู่แล้ว เสวียนหลีผู้นี้จะต้องถูกฆ่าตายในวันนี้! ส่วนเรื่องยอดเขาเสวียน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง แค่ฝากฝังไว้กับเสวียนเทียนชวนก็พอ”

ทันใดนั้น ลู่หยวนก็คลี่เรียวปาก รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาดูเย็นเยียบ “บรรพชนเสวียน ไม่ต้องห่วง เสวียนเทียนชวนขาหักไปแล้วไม่ใช่หรือ?”

“แล้วอย่างไร…”

คำพูดของบรรพชนเสวียนพลันหยุดนิ่ง ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในจิตใจ

เสวียนเทียนชวนเสียขาไปแล้ว เกรงว่าการที่เขาอยากเข้าร่วมกับลู่หยวน มีเพียงเป้าหมายเดียวนั่นก็คือเพื่อรักษาขาของตัวเอง และกลับมาบ่มเพาะได้เหมือนคนธรรมดา

ไม่…ไม่ใช่!

ตามนิสัยของเสวียนเทียนชวน เป้าหมายของเขาย่อมไม่เหมือนปุถุชน ความปรารถนาของชายผู้นั้นย่อมเหนือกว่าผู้คนทั้งหลาย!

ผู้มองเห็นโชคชะตาของทุกสรรพสิ่งในใต้หล้า จะยอมอยู่ภายใต้ผู้อื่นเป็นเวลานานได้อย่างไร?!

ต่อให้ลู่หยวนรับเสวียนเทียนชวนเป็นลูกน้องจนตีตราทาส แล้วมันอย่างไร?!

เกรงว่าเสวียนเทียนชวนจะมอบความไว้เนื้อเชื่อใจอีกฝ่าย ขอเพียงภายภาคหน้าสบโอกาส เขาจะต้องยืนหยัดขึ้นมา และเหยียบย่ำลู่หยวนอยู่ใต้แทบเท้า เพื่อกลายเป็นจ้าวโลกา!

ทุกสรรพสิ่ง เป็นเพียงตัวหมากของเสวียนเทียนชวน!

หากถามว่าเสวียนเทียนชวนจะมีโอกาสเช่นนั้นหรือ?

มีสิ! ชะตาของลู่หยวนไม่ได้ถูกควบคุมโดยมหาวิถี มีอะไรบ้างที่เป็นไปไม่ได้?!

ถึงตอนนั้น หากเสวียนเทียนชวนติดตามบุตรศักดิ์สิทธิ์จนก้าวเข้าสู่การเป็นเทพเซียน เขาก็จะได้มุ่งหน้าสู่สวรรค์

ตราทาสอะไรกัน?

แม้ชีวิตนี้จะต้องยอมจำนนต่อวิถีแห่งสวรรค์ แต่ใช่ว่าจะไม่มีวิธียกเลิก!

เสียน้อยได้มาก นั่นแหละคือแผนที่ดี!

กลิ่นอายเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วแผ่นหลังของบรรพชนเสวียน นางหัวเราะอย่างขมขื่นออกมาหลายครา “ข้าเลี้ยงดูเสวียนเทียนชวนมาหลายสิบปีกว่าจะเข้าใจเขา เหตุใดท่านถึงยอมรับเขาไวเช่นนี้?”

“ลู่หยวน คนอย่างเขาไม่ต่างจากสุนัขบ้า หากใช้งานขึ้นมา เจ้าได้โดนแทงข้างหลังแน่นอน!”

“โดนแทงข้างหลังหรือ?”

ลู่หยวนคลี่ยิ้มออกมา “แค่เขาคนเดียวหรือ? ต่อให้ตอนนี้เขาได้รับการบ่มเพาะ ต่อให้เขากลับมาเดินได้ แต่ในสายตาของข้า เขาหาได้ต่างจากมดตัวหนึ่งไม่”

“ข้ามีเหตุผลที่จะเลือกใช้งานเขา และมีเหตุผลในการหยุดยั้งเขาไว้เช่นกัน”

ลู่หยวนทราบมานานแล้วว่า เสวียนเทียนชวนไม่ใช่คนอ่อนโยนอย่างที่แสดงออกให้เห็น

เบื้องหลังรอยยิ้มนุ่มนวล คือหุบเหวลึกหนึ่งหมื่นจั้ง

ขนาดศิษย์น้องสุดที่รักยังถูกหักหลังอย่างไม่ไยดี หาได้มีร่องรอยของความลังเลไม่ คนเช่นนี้ ไม่ต่างจากสุนัขบ้าที่ไร้หัวจิตหัวใจ!

ทว่า …เพราะเป็นคนแบบนั้นจึงเหมาะที่จะใช้งานเป็นที่สุด!

ขอเพียงมอบผลประโยชน์ให้เพียงพอ เขาก็จะกลายเป็นสุนัขที่จงรักภักดี

ผลประโยชน์ที่เสวียนเทียนชวนต้องการมากที่สุดคืออะไร?

นั่นก็คือการได้ขาปกติกลับคืนมา แล้วฟื้นฟูเส้นชีพจรเร้นลับเพื่อบ่มเพาะ

สำหรับลู่หยวน เรื่องเหล่านี้นับเป็นสิ่งที่ดี ถึงอย่างไรด้วยระบบที่อยู่ในมือของเขาย่อมไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้

ทว่า… หากหมาป่าหิวกระหายท้องอิ่มขึ้นมา แม้มันจะไม่แว้งมากัดเจ้านาย แต่เพื่อให้ได้ชิ้นเนื้อก้อนถัดไป การฆ่าสุนัขตัวอื่นจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ลู่หยวนต่างมีวิธีใช้หมากทุกตัวในมือ หากหมากบางตัวถึงแก่ความตาย หรือใช้การไม่ได้เพราะฝีมือของเสวียนเทียนชวนขึ้นมา เมื่อนั้นจะกลายเป็นการได้ไม่คุ้มเสีย!

ในหมู่สุนัขของเขา ไม่มีใครน่าห่วงไปกว่าเจ้าเซียวเทียนที่หลอกอะไรก็เชื่อ แถมมันดันพ่วงตำแหน่งบุตรแห่งโชคชะตาไว้ด้วย ยิ่งไม่คุ้มเข้าไปใหญ่!

หากเป็นเช่นนั้นต้องทำให้เขาขาดส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไปเสีย มอบเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จและยากเย็นยิ่งกว่าเดิมให้ เปลี่ยนความคาดหวังของชายผู้นั้นที่จากเดิมแค่กลับมาเดินได้ กลายเป็นการได้ขาคู่ใหม่แทน

ถึงอย่างไร มันก็ขึ้นอยู่กับขนาดชิ้นเนื้อที่แบ่งให้เสวียนเทียนชวน หากเนื้อชิ้นใหญ่เกินไป เขาย่อมไม่สามารถกินหมดได้โดยง่าย และจะไม่หันมาแว้งกัดสุนัขตัวอื่นเพื่อชิงเนื้ออีกด้วย

ให้เขาใช้เวลาทั้งชีวิตต่อสู้เพื่อเนื้อก้อนใหญ่นั่นก็แล้วกัน!

ลู่หยวนยกมุมปาก ขอเพียงศิษย์เอกแห่งยอดเขาวิถีเร้นลับอยู่ข้างเขา เช่นนั้นเขาก็สามารถมอบหมายให้เสวียนเทียนชวน จัดการบางคนหรือบางเรื่องที่ยังไม่เรียบร้อยแทนได้

แค่คิดก็รู้สึกว่าง่ายดายแล้ว…

บรรพชนเสวียนย่อมไม่รู้แผนการของบุตรศักดิ์สิทธิ์ หากรู้ขึ้นมา เกรงว่าแผ่นหลังของนางคงเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น

การที่ใครสักคนสามารถคำนวณและใช้ผู้อื่นได้ขนาดนี้ ย่อมเป็นเรื่องที่น่าทึ่งไม่น้อย!

บรรพชนเสวียนคิ้วขมวด นางพอจะคาดเดาเอาไว้แล้วว่าการช่วยเสวียนหลีในวันนี้อาจเป็นไปไม่ได้

ทว่านางเฒ่ายังคงถอนหายใจออกมา ก่อนถามว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านไว้ชีวิตเสวียนหลีได้หรือไม่?”

ยามลู่หยวนหันหน้ามา จิตสังหารปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ชายหนุ่มก้าวขาออกไปหนึ่งก้าว ก่อนจะเหยียบบนศีรษะของเสวียนหลี “ข้าบอกแล้วว่านางต้องตาย…”

คุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะออกแรงที่เท้า ทำให้เกิดเสียง ‘โผละ’ ดังขึ้น ธารสีขาวและแดงไหลหลั่งออกมา ก่อนที่เสวียนหลีคนใหม่จะสิ้นลมหายใจ

เหนือท้องนภา ค่ายกลสีม่วงดำที่เป็นของสัญญาความเป็นความตายจางหาย ท้องฟ้าสีครามและหมู่เมฆสีขาวปรากฏขึ้นอีกครา

บรรพชนเสวียนมองร่างของเสวียนหลีที่อยู่ด้านล่าง ในใจรู้สึกปั่นป่วน ชั่วขณะหนึ่ง นางดูแก่ชราลงไปอีกหลายร้อยปี

ผู้สืบทอดของนางตายแล้ว!

เกรงว่ายอดเขาวิถีเร้นลับจะถึงคราวยุคมืดเสียแล้ว

ลู่หยวนยกเท้าขึ้น เขาพบว่าคราบโลหิตที่อยู่ใต้เท้าเหือดหาย ภายใต้ความผันผวนของพลังวิญญาณ

“บรรพชนเสวียน”

เสียงของชายหนุ่มทำให้นางเฒ่าหลุบสายตาลง ดวงตาของชายหนุ่มไหวระริกไปด้วยความตั้งใจอันลึกล้ำ “เสวียนหลีตายแล้ว ทีนี้ก็ถึงตาของเจ้า”

ไอเย็นเยือกแผ่ออกมาจากด้านหลังของบรรพชนเสวียน หญิงชราหลับตาลง

ถึงแม้นางจะเก็บตัว แต่เรื่องของโลกภายนอก นางพอจะทราบอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

อย่างเช่นเรื่องที่ลู่หยวนฆ่าซุนอวิ๋นถิงไปแล้ว

แม้สุดท้ายบรรพชนดาบจะกลายเป็นมาร เพียงแต่สาเหตุที่เขาตาย มันมาจากการถูกบุตรศักดิ์สิทธิ์ยั่วยุ!

หากนางต่อสู้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจทราบได้ว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีการใดเพื่อทรมานนางจนตาย!

ยิ่งกว่านั้น นางทำนายโชคชะตาของตัวเองมาก่อนแล้ว การต่อสู้กับลู่หยวนจะทำให้นางถึงแก่ความตาย!

บรรพชนเสวียนสูดหายใจเข้าช้า ๆ คลี่ยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่ายามร้องไห้ออกมา “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงท่านไม่สู้กับข้า ข้าจะยอมทำทุกอย่าง”

บรรพชนเสวียนครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะโพล่งออกมาว่า “ขอเพียงท่านไม่สู้ ข้าจะยอมเป็นข้ารับใช้ของท่าน!”

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท