เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 670 อย่าขี้เหนียว

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 670 อย่าขี้เหนียว

บทที่ 670 อย่าขี้เหนียว

เสี่ยวเถียนอยู่ช่วยทำความสะอาดที่บ้าน เนื่องจากไม่มีคนอยู่นานด้านในจึงฝุ่นเขรอะหนาเตอะ

เธอเห็นพ่อรองแม่รองกำลังทำความสะอาดพวกหม้อหินอยู่ เลยหาตะกร้าเพื่อเอาของพวกนี้ใส่เข้าไป ถึงจะบอกว่าอยากจะเอามาซ่อนไว้ แต่จริง ๆ คือแอบเอามาใส่ในช่องเก็บของของระบบต่างหาก

พวกคุณย่าซูกำลังยุ่งกับงานของตัวเอง เลยไม่ได้สนใจเสี่ยวเถียนมากนัก ข้าวของเด็ก ๆ ก็ให้พวกเขาจัดการเอาเองเถอะ

คุณย่าซูพาสะใภ้ทั้งสาม เสี่ยวเถียน หลินหลิน และภรรยาจู้จื่อมาช่วยกัน พวกเขาใช้เวลาเกือบทั้งวันในการทำความสะอาดบ้าน จากนั้นก็มองกำแพงสีดำ ๆ พลางเอ่ยว่า “เวลาไม่พอเลย ไม่งั้นคงทากำแพงให้ขาวแล้วจะได้ดูดี”

“คุณย่า พวกเรามารับแขกนะคะ” เสี่ยวเถียนยิ้ม “บ้านพี่ใหญ่พี่สะใภ้ก็ทำความสะอาดอย่างดีแล้วนะ!”

หญิงชรามองด้วยสายตาตำหนิ

“เด็กคนนี้ ย่าแค่พูดลอย ๆ เท่านั้นเอง”

บ้านเราอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายสิบปี ความรู้สึกต่อมันจึงมีมากเป็นพิเศษ แต่กลับมาคราวนี้กลับเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้น ก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวง เธอยังคิดอยู่เลยว่ารอให้หลานโตแล้วค่อยกลับมา

แต่หลังจากนี้คงกลับมาหามันน้อยลงแล้ว

หวังเซียงฮวาเข้าใจความคิดแม่สามีได้ จึงยกยิ้ม “แม่คะ คนเราต้องมีชีวิตต่อไป ครอบครัวเราเดินทางมาไกลแล้ว ที่นี่อาจเป็นความฝันก็ได้ค่ะ”

“ฉันเข้าใจ แต่ไม่เต็มใจจะแยกจากเพราะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานานน่ะ!”

“คุณย่า สถานที่ที่มีผู้คนคือบ้านค่ะ และพวกเราทุกคนก็อยู่ข้างนอกนั่น”

“แม่ ดูแม่ซิ วันดี ๆ แบบนี้ทำไมถึงเอาแต่นึกเรื่องแย่ ๆ ล่ะคะ?” เหลียงซิ่วพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย “เราทำงานส่วนนี้เสร็จแล้ว ยังเหลืออีกหลายเรื่องเลยนะคะ”

“เธอพูดถูก แม่คิดมากไปจริง ๆ เมียเหล่าซาน เธอว่าเราจะรับแขกได้กี่โต๊ะล่ะ? ซื้อหมู 50 จินมาเลี้ยงจะพอไหม?”

“วันนี้บ้านเรามีเรื่องดีอาจต้องมากกว่าครึ่งถึงจะดีค่ะ อย่างน้อยก็ต้อง 80 จินค่ะ” ฉีเหลียงอิงคิดเงียบ ๆ แล้วว่า “ต้องเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?” หญิงชรารู้สึกมันเยอะไป เพราะเราต้องมีเงินพอนั่งรถกลับด้วย

เนื้อพวกนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลย

“เรามีงานรื่นเริงคนต้องมาเยอะอยู่แล้วค่ะ ฉันเดาว่าอาจจะใช้ 20 โต๊ะด้วยซ้ำ”

เหลียงซิ่วยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย แต่พอได้ยินพี่สะใภ้พูดแบบนั้นก็รู้สึกสมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน

“ก็จริงนะ พอถึงตอนนั้นคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่น่าจะมากันเยอะ อีกอย่างพวกเขาอาจจะพาครอบครัวมาด้วย! ญาติมิตรสหายคงไม่น้อยอยู่แล้ว”

คุณย่าซูพยักหน้าหลังจากได้ฟัง ดูเหมือนจะมีแผนในใจอยู่นะ ทีนี้จะได้สบายใจสักที

“ฉันคิดว่านอกจากหมูแล้วก็ต้องซื้อไก่ด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าสองวันมานี้มีใครตกปลาไหม อาจจะได้เพิ่มมาอีกสักหน่อยก็ยังดี!”

ฉีเหลียงอิงไม่ได้ขี้เหนียวอย่างที่เคยเป็น แบบนี้แล้ว เธอเอาพูดเรื่องเมนูอาหารออกมาไม่หยุด

“ไอ้หยา ฉันไม่เคยเห็นงานเลี้ยงแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ!” ภรรยาจู้จื่อตกใจ

สถานการณ์สองปีมานี้ดีขึ้นแล้ว แค่บนโต๊ะมีจานเนื้อสองจานก็ดีถมถืดแล้ว หากย้อนกลับไปตอนยังเด็ก สถานการณ์ของพวกเขาอนาถากว่านี้อีก

“ได้สิ งั้นเดี๋ยวเราไปถามกัน ให้จู้จื่อมาช่วยด้วยนะ” คุณย่าซูทำตามที่สะใภ้รองว่าเพื่อเตรียมงานเลี้ยงให้ดี “เอาเหล้ามาเพิ่มอีกหน่อยแล้วกัน ทุกคนจะได้ดื่มกันสาแก่ใจ!”

“แม่คะ เวลานั่งแยกเด็กแยกผู้ใหญ่ หรือรวมไปเลยคะ?” หวังเซียงฮวาถาม

ตามกฎของงานเลี้ยงที่จัดในหมู่บ้าน พวกผู้ใหญ่จะนั่งโต๊ะ ส่วนเด็กยืนกินข้าง ๆ ไม่มีที่ของตัวเอง อันที่จริงเพราะอาหารและเครื่องดื่มที่เตรียมมามีจำกัด จึงไม่ได้เตรียมที่ให้เด็ก ๆ

“นั่งใครนั่งมันไปเลย บ้านเราไม่ได้ลำบากอะไร ไม่ต้องเลือกเยอะหรอก เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราขี้เหนียว!” คุณย่าซูแย้ง

สะใภ้ทั้งสามเห็นด้วย

“คุณป้า หมู่บ้านเรามีเด็ก ๆ น้อยเลยนะคะ” ภรรยาจู้จื่อยกยิ้ม

“ไม่ต้องกลัว! ให้พวกเขาได้นั่งกินอย่างมีเกียรติเถอะ!” หญิงชรายิ้ม “สะใภ้จู้จื่อ พรุ่งนี้ให้สามีเข้าอำเภอไปพาพ่อมาด้วยนะ”

สองสามีภรรยาหลี่ปฏิบัติต่อบ้านเราดีจริง ๆ ไม่ต่างไปจากลูกหลานแท้ ๆ เลย คุณย่าซูจึงอยากให้สะใภ้คนนี้ได้มีหน้ามีตาสักหน่อย จึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

“ไม่ต้องไปรับพ่อฉันหรอกค่ะ!” แต่อีกฝ่ายกลับลังเล

ถึงเราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่เขาไม่ใช่คนของหมู่บ้านหนานหลิ่ง*[1]นะ ถ้าร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยคนจะหัวเราะเยาะเอาน่ะสิ

“ทำไมล่ะ ความสัมพันธ์ครอบครัวเราเป็นยังไงไม่รู้หรือ!” หวังเซียงฮวายิ้ม “แม้เธอจะไปรับพ่อมา ก็ไม่มีใครพูดว่าหรอกนะ”

ภรรยาจู้จื่อตอบตกลง

“หมู่บ้านเรามีฟาร์มด้วยนะ ซื้อได้ทั้งไข่ทั้งไก่ แต่ไม่รู้หมูจะมีสวย ๆ หรือเปล่า ถ้ามีก็ซื้อมาสักตัวแล้วกัน” หญิงชราเอ่ยเมื่อนึกถึงฟาร์มของกองชุมชนเรา

ทุกคนทำตามต้องการ ยังไงก็ต้องใช้เงินอยู่ดีไม่ว่ายังไง

“ได้ค่ะ เดี๋ยวบ่ายนี้ฉันไปดูนะ!” หวังเซียงฮวา

เธออยากกลับไปดูฟาร์มที่เคยทุ่มเทแรงกายแรงใจ

หลังจากตัดสินใจเสร็จ คนอื่น ๆ ในหมู่บ้านก็มาช่วย ระหว่างมายังหิ้วกุยช่าย หัวไชเท้า และผักกาดขาวมาให้ด้วย

“คิดว่าพวกคุณคงไม่สะดวกทำกับข้าวเพราะเพิ่งกลับมา เลยเอามาให้ค่ะ” สะใภ้สาวคนหนึ่งยกยิ้ม

หนานหลิ่ง เป็นชื่อหมู่บ้านที่ตระกูลซูอยู่ เป็นย่อยหรือสับเซตของหน่วยการผลิตหงซิน *ชุมชนใหญ่ > กองชุมชนหงซิน > หมู่บ้านหนานหลิ่ง(ที่ตระกูลซูอยู่)

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน