เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 692 น่าเหลือเชื่อ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 692 น่าเหลือเชื่อ

บทที่ 692 น่าเหลือเชื่อ

ซื่อเลี่ยงขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร แต่เพราะถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีทำให้เขาตอบกลับไปอย่างสุภาพ

“ไม่ใช่หรอก ฉันเรียนจบแล้วน่ะ!”

ซื่อเลี่ยงสับสนเหลือเกิน วัยอย่างเขาจะเป็นเด็กใหม่ได้ยังไงกัน? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คงได้อับอายขายหน้าแน่ถ้าได้เรียนกับน้องสาวตนเอง!

หญิงสาวมองกลับมาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ

เรียนจบแล้ว? จะเป็นไปได้อย่างไร?

เขาดูเด็กมากเลยนะ เรียนจบแล้วหรือ?

แต่น่าจะจริงนะ วันนี้เลยพาน้องมารายงานตัวใช่ไหม? หญิงสาวไม่คิดว่าเป็นเสี่ยวเถียนที่มารายงานตัว คิดว่าเป็นฉืออี้หย่วนแทน ผู้อาวุโสบ้านเราหลาย ๆ คนมองหญิงสาวคนนี้ด้วยความสนใจ มีหรือจะมองไม่ออกว่าเธอชอบซื่อเลี่ยงน่ะ

โส่วเวินแต่งงานแล้ว ส่วนซื่อเลี่ยงก็ถึงวัยที่จะหาคู่ครองแล้วด้วย

อวี่รุ่ยหยวนเหลือบมองอยู่หลายครั้ง แล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ดูดีทีเดียว นิสัยตรงไปตรงมาด้วย

“พวกเราไปกันเถอะ!” ซื่อเลี่ยงอึดอัดมาก

หญิงสาวดูผิดหวังมาก

ด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอเสี่ยวเถียนอดตื่นเต้นไม่ได้

พวกพี่ชายของเธอโตพอจะแต่งงานแล้ว แต่จากสภาพพี่รอง เขาดูไม่สนใจผู้หญิงคนนี้เลย ช่างเถอะ โชคชะตาเขาคงไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก หลังจากพลาดโอกาสนี้ เธอก็รวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยเสียงดัง

“สหาย ช่วยบอกชื่อนายได้ไหม เราเป็นเพื่อนกันได้หรือเปล่า?”

เสี่ยวเถียนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอคนนี้กล้าหาญจังเลย!

น่าเสียดายที่ดอกไม้ร่วงโรยมีใจ สายน้ำหลั่งไหลไร้ไมตรีน่ะสิ*[1]

ใบหน้าพี่รองมีแต่ความกระวนกระวายใจ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาขมวดคิ้วดูไม่ชอบใจสักนิด

“ขอโทษนะสหาย แต่ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนด้วยน่ะ!” เพราะเข้าใจความหมายนั้นดี และเขามีเรื่องให้ทำหลายอย่าง ไม่สนใจหาเพื่อนตอนนี้หรอกนะ

ถึงหญิงสาวจะกล้าหาญมาก แต่พอโดนปฏิเสธใส่ตรง ๆ ใบหน้าก็แดงก่ำด้วยความอับอาย ก่อนถอยกลับไปเงียบ ๆ

เสี่ยวเถียนเห็นแววตาเธอเป็นประกายคล้ายจะร้องไห้ออกมาอยู่ร่อมร่อ

ซื่อเลี่ยงถือข้าวของน้องสาวแล้วหมุนตัวจากไป

“พี่รอง พี่ไม่รู้หรือว่าการเห็นอกเห็นใจผู้หญิงมันเป็นยังไง!” เสี่ยวเถียนเอ่ย

แววตาเด็กสาวแวววาวดูหมองลง

ซื่อเลี่ยงลูบหัวหน้าทำทีโกรธขึง

“อายุแค่นี้ รู้ด้วยหรือว่ารักหยกถนอมบุปผาคืออะไร!”

“ซื่อเลี่ยง เธอไม่เด็กแล้วนะ ผู้หญิงคนนั้นเองก็ดูดีมากเลยด้วย!” ฉือเก๋อเอ่ยทันที

ซื่อเลี่ยงรู้สึกอายเหลือเกิน

“ปู่ฉือ ผมไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้ตอนนี้ครับ ผมยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นเสียหน่อย!” ก่อนจะเอ่ยอย่างจริงใจ “หยุดแซวผมได้แล้วครับ!”

ทุกคนมองไปที่เขาก่อนจะเห็นว่าใบหูของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง รู้เลยว่าเขาเป็นคนขี้อายขนาดไหน

พวกเราจึงตัดสินใจไม่ล้อเขาอีก

วันนี้เราพาเสี่ยวเถียนมารายงานตัว ไม่ได้มาหาภรรยาให้ใคร

ซื่อเลี่ยงเรียนจบจากที่นี่ ส่วนฉืออี้หย่วนกำลังเรียนอยู่ ตอนที่ทั้งสองเดินอยู่บนถนนก็มีคนอื่น ๆ จำได้

บริเวณที่รายงานตัวไม่มีนักเรียนใหม่ นอกจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วก็มีนักศึกษาชั้นปีสองและสาม

หลาย ๆ คนรู้จักชายทั้งสอง

พวกเขาค่อนข้างเป็นที่นิยมในรั้วมหาวิทยาลัยเรา พวกผู้หญิงเองก็ชอบพวกเขามากเหมือนกัน ถึงซื่อเลี่ยงจะเป็นนักศึกษาจากคณะวิจิตรศิลป์ แต่เขาเก่งมากและได้รับรางวัลมากมาย เรียกได้ว่าเป็นนักศึกษาอัจฉริยะ

ส่วนฉืออี้หย่วน เขาเป็นชายในฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คน ปกติมีหญิงสาวไม่น้อยที่อยากแสดงตัว ทว่าก็โดนพวกเขาปฏิเสธ

แล้ววันนี้พวกเขาก็มายังสถานที่รายงานตัวพร้อมกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย นั่นทำให้ทุกคนตกใจกันมาก

เขาพาเด็กมัธยมต้นมานะ ไม่ให้ตกใจได้ยังไง?

“สวัสดีครับ นักศึกษาใหม่มารายงานตัวครับ!” ฉืออี้หย่วนเอ่ยเสียงเย็น

นักศึกษาใหม่มารายงาน?

ทุกคนมองหน้า สติเหมือนจะล่องรอยไปชั่วขณะ เด็กใหม่คนไหน?

“สวัสดีสหายฉือ เด็กใหม่อยู่ไหนหรือ?” มีคนถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ซูเสี่ยวเถียนสาขาภาษาจีน” ฉืออี้หย่วนมองน้องสาว

ทุกคนมองตามสายตาก่อนจะพบซูเสี่ยวเถียนที่ดูเหมือนนักเรียนมัธยมต้น จากนั้นก็มองกลับไปยังฉืออี้หย่วนอีกครั้งเพราะคิดว่าเขาล้อเล่น เด็กคนนี้น่าอายุ 12-13 หรือเปล่า แล้วจะเป็นเด็กใหม่มารายงานตัวได้ยังไง?

“สหายฉือ เธอคือซูเสี่ยวเถียนหรือ?” หญิงสาวผิวขาวถามอย่างลังเล

อี้หย่วนพยักหน้า

เสี่ยวเถียนก้าวออกไปพร้อมรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ หนูชื่อซูเสี่ยวเถียน เป็นเด็กใหม่ปีนี้ รบกวนพี่สาวลงทะเบียนให้หนูด้วยนะคะ!”

เธอแนะนำตัวเองขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครเชื่ออีก จะเป็นไปได้ยังไงเนี่ย?

สาวผิวขาวมองเด็กหญิง ไม่อยากเชื่อว่าเด็กคนนี้มารายงานตัว?

เธอดูเด็กเกินไปหรือเปล่า

หรือเธอจะมาล้อพวกเราเล่นนะ แต่อี้หย่วนเป็นคนเย็นชานะ ไม่น่าเล่นตลกหรือเปล่า? สายตาทุกคนมองสลับสองคนนี้บ่อยครั้ง

“น้องสาว ขึ้นมัธยมต้นหรือยังจ๊ะ?” สาวผิวขาวถาม

เสี่ยวเถียนยิ้ม “พี่สาว หนูมารายงานตัวจริง ๆ ค่ะ”

จากนั้นก็มีชายหนุ่มผอมสูงข้าง ๆ จำอะไรขึ้นได้

“ฉันจำได้ว่าที่หนึ่งของการสอบปีนี้ชื่อซูเสี่ยวเถียนนะ!”

เขาเอ่ยเบา ๆ พอให้ทุกคนได้ยิน หลังจากเอ่ยออกมาทุกคนก็จำได้

คนที่ได้อันดับหนึ่งในปีนี้ชื่อซูเสี่ยวเถียน ได้ยินว่าสาขาภาษาจีนคัดเลือกเธอมาด้วยตนเอง หรือจะเป็นเด็กคนนี้จริง ๆ?

ทุกคนมองเสี่ยวเถียนเงียบ ๆ

จะเป็นไปได้ยังไง?

เสี่ยวเถียนเพิ่งอายุ 12-13 ปีเอง แต่กำลังจะเข้าเรียนมหาลัยแล้ว? โรงเรียนพวกเขาไม่มีห้องเรียนพิเศษ เลยไม่รู้ว่ทำไมถึงมีเด็กอายุแค่นี้มารายงานตัว? คนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ล้วนแต่เป็นคนเก่งกาจ แถมยังมีความมั่นใจในตัวเองสูง เพราะภูมิใจกับความสามารถของตัวเอง

พอเห็นเสี่ยวเถียนที่อายุน้อยกว่า จึงอดด้อยค่าตัวเองไม่ได้ อายุแค่นี้แต่สอบได้ที่หนึ่ง มีอะไรให้เราภูมิใจกัน? แล้วเธอเรียนยังไง? ข้ามชั้นหรือ? ต่อให้ข้ามมาก็ไม่น่าเร็วขนาดนี้หรือเปล่า!

[1] หลงรักเขาข้างเดียว ทอดสะพานให้ก็แล้ว ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาก็แล้ว แต่ก็ยังไม่เหลียวแลไม่เห็นคุณค่า

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท