อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 30 เช่นนั้นก็หักขานางเสีย

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 30 เช่นนั้นก็หักขานางเสีย

ตอนพิเศษ 30 เช่นนั้นก็หักขานางเสีย

เนี่ยนเนี่ยนจิบชาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อันที่จริงแล้วข้ายืมดอกไม้ถวายพระ(1)มาน่ะ เมื่อเช้านี้ข้าออกไปข้างนอก แล้วมีคนโยนสมุดคัดลายมือนี้ใส่รถม้าของข้า อีกทั้งยังโยนกระดาษมาให้ด้วย หากเจ้าชอบข้าก็จะยกให้ ดูจากสีหน้าเจ้าแล้วก็คงจะชอบมากสินะ”

ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะคิดถูกจริง ๆ

“…” จิ่นซิ่วมองเนี่ยนเนี่ยนด้วยความระอาใจ นางกำลังโกหกชัดๆ เมื่อเช้านางไปรับเนี่ยนเนี่ยนที่ตำหนักอ๋องซิวด้วยตัวเอง หากมีคนโยนสมุดคัดลายมือเข้ามาในรถม้าจริง นางจะไม่รู้หรือ?

“…” หลานสุ่ยชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย จู่ ๆ ก็นึกถึงชายที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะที่นางฝึกคัดลายมือเมื่อคืนนี้ แล้วมองคำที่นางเขียนบนกระดาษ ด้วยความชื่นชมอย่างอธิบายไม่ได้

สมุดคัดลายมือนี้… เขามอบให้เนี่ยนเนี่ยนเอามาให้นางหรือไม่?

เมื่อนึกได้ดังนั้น หลานสุ่ยชิงก็รู้สึกว่าฝ่ามือของตนเริ่มร้อนผ่าว จนเกือบจะโยนสมุดคัดลายมือทิ้งไป

แต่เนี่ยนเนี่ยนมอบให้นางแล้ว และนางก็ชอบมันมากจริง ๆ นางจะยอมเสียมันไปได้อย่างไร?

ในที่สุดหลานสุ่ยชิงก็ถอนหายใจ แล้วรับสมุดคัดลายมือไว้

เมื่อเขากลับมาเปลี่ยนผ้าพันแผลคืนนี้ จะลองถามเขาอีกครั้ง

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ในที่สุดหลานสุ่ยชิงก็ปิดสมุดคัดลายมือลงอย่างเบามือ เก็บมันอย่างระมัดระวัง แล้วพูดกับเนี่ยนเนี่ยนว่า “ขอบคุณนะ”

เนี่ยนเนี่ยนคลี่ยิ้ม เมื่อเห็นว่าเริ่มจะสายแล้ว และนางต้องกลับไปพัฒนาสูตรยาพิษต่อ นางจึงลุกขึ้นกล่าวคำอำลา

ก่อนจากไป นางทิ้งขวดยาไว้ให้หลานสุ่ยชิง “นี่สำหรับแม่ของเจ้า”

หลานสุ่ยชิงรับมา แต่ก็ยังพยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกนางอยู่กินข้าวกันที่นี่ก่อน เป็นเพียงว่าเนี่ยนเนี่ยนยืนกรานที่จะจากไป ส่วนจวิ้นจู่จิ่นซิ่วที่อยากจะอยู่ต่ออีกหน่อยก็มีคำถามมากมายในใจที่อยากถามเนี่ยนเนี่ยน นางจึงจำต้องไปกับนาง

หลานสุ่ยชิงไม่มีทางเลือกนอกจากส่งพวกนางออกจากจวนหลาน

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไท่ฮูหยินไม่ได้มาถามไถ่อะไรเลย

สันนิษฐานว่าเมื่อเห็นว่าหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวยังไม่กลับมา ความคิดและการคาดเดาในใจนางก็คงยิ่งลึกล้ำ นางจึงไม่ได้สนใจจวิ้นจู่จิ่นซิ่วแม้แต่น้อย

หลานสุ่ยชิงนึกเย้ยหยัน ก่อนหันกลับมามองแม่นมปู้ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วถามนางว่า “เยียนจืออยู่ที่ไหน? เหตุใดไม่เห็นนางเลย?”โนเวล-พีดีเอฟ

ตั้งแต่ออกจากเรือนของมารดามาก็ไม่เห็นนางเลย

แม่นมปู้ก็รู้สึกแปลก ๆ “ไม่รู้ว่านางไปแอบอู้ที่ไหนแล้ว คุณหนู ข้าจะพาท่านกลับเรือนก่อน แล้วค่อยไปตามหาให้เจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องหรอก ข้าจะกลับเอง” หลานสุ่ยชิงส่ายหน้า มองไปยังเรือนของนางไท่ด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดกับนางว่า “ไปที่ประตูหลังแล้วถามแม่นมฟู่ว่าแม่สื่อซูคนนั้นอาศัยอยู่ตรงไหนของเมืองฝั่งตะวันออก? จากนั้นให้ลูกสะใภ้ของเจ้าไปดูมาว่าจินซื่อเรียกนางมาทำอะไรกันแน่”

แม่นมปู้ตกใจ “แม่สื่อซูหรือเจ้าคะ?” นางไม่รู้ว่าเยียนจือพูดอะไรในตอนนั้น นางจึงประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนี้

หลานสุ่ยชิงอธิบายให้นางฟัง แม่นมปู้จึงตัวสั่นด้วยความโกรธแค้น แล้วกัดฟันพูด “ไม่ใช่มนุษย์กันแล้วจริง ๆ คุณหนูกับฮูหยินถูกบังคับให้มาอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว แต่พวกนางก็ยังไม่ยอมปล่อยไปอีก”

เมื่อนางพูดจบก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ นัยน์ตาของนางเป็นกังวล “คุณหนู แล้วถ้าแม่สื่อซูมาแนะนำชายชั้นต่ำให้ท่านรู้จักจริง ๆ แล้วจะทำเช่นไรเล่าเจ้าคะ?”

หลานสุ่ยชิงหรี่ตาลงด้วยความเย้ยหยัน “เช่นนั้นก็อย่าปล่อยให้แม่สื่อซูคนนั้นทำอะไรได้”

“คุณหนูหมายความว่า…”

“หากแม่สื่อซูทำชั่วไว้มาก แล้วคราวนี้นางอยากจะมาเล่นงานข้าจริง ๆ เช่นนั้นเจ้าก็ให้คนแอบไปหักขานางเสีย” ตอนนี้ไม่มีใครอยากให้นางทิ้งแม่ของตนออกจากจวนหลานไป

นางจะไม่ปล่อยให้จินซื่อสมปรารถนา นางจะไม่ปล่อยให้แม่ที่ป่วยหนักของนางต้องต่อสู้เพียงลำพังในจวนหลาน และถูกจินซื่อทรมานจนตาย

แม่นมปู้เม้มปาก แล้วพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะไปทันที”

นางรีบเดินไปที่ประตูหลัง ส่วนหลานสุ่ยชิงเดินกลับไปที่ห้องของนางช้า ๆ

แต่เมื่อนางไปถึงประตู จู่ ๆ นางก็หันส้นเท้าเดินไปยังกระท่อมที่เยียนจืออาศัยอยู่

แน่นอนว่ามีเสียงกรอบแกรบดังมาจากข้างใน หลานสุ่ยชิงผลักประตูเปิดออก

เยียนจือตกใจมาก ทุกอย่างในมือของนางร่วงลงสู่พื้นเสียงดัง

หลานสุ่ยชิงมองใกล้ ๆ และเห็นว่าสิ่งที่กลิ้งไปกับพื้นคือม้วนผ้าพันแผล ขณะนี้เยียนจือถือกรรไกรและหวีอยู่ในมือ

ผมบนหน้าผากของนางถูกตัดจนแหว่ง ดูเหมือนว่านางต้องการตัดผมหน้าม้าเพื่อปกปิดหน้าผาก

รูม่านตาของหลานสุ่ยชิงหดลงทันที นางก้าวเข้าไปเสยผมหน้าม้าของนางขึ้น แล้วเห็นบาดแผลบนหน้าผากของนาง

“เจ้า ไปโดนอะไรมา?” หลานสุ่ยชิงจ้องมองนางด้วยความโกรธ

เยียนจือรีบวางกรรไกรและหวีในมือลง แล้วคุกเข่าลงบนพื้น “คุณหนู คุณหนู ข้า ข้า…”

หลานสุ่ยชิงจับใบหน้าของนางไว้ในมือ จ้องมองอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าบาดแผลนี้ไม่ได้ถูกคนอื่นทำ แต่เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนทำเอง

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ นึกถึงการมาถึงของแม่สื่อซู และการปรากฏตัวของจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว ก็ยังมีบางเรื่องที่หลานสุ่ยชิงไม่เข้าใจ

นางจ้องเยียนจือเขม็งด้วยความโกรธ “เจ้าไปขอความช่วยเหลือจากจวิ้นจู่จิ่นซิ่วใช่หรือไม่?”

“ขออภัยเจ้าค่ะคุณหนู ข้าแค่…”

“ข้าบอกว่าข้าจะคิดหาทางเอง แต่เจ้าไม่มีความมั่นใจในตัวข้าเลย จวิ้นจู่จิ่นซิ่วช่วยข้าไว้มากแล้ว ข้าไม่อาจพึ่งพาคนอื่นได้ทุกเรื่อง ในอนาคตข้ายังมีหนทางอีกยาวไกล และข้ายังต้องปกป้องท่านแม่และพวกเจ้า หากในอนาคตข้าเจอปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ข้ายังต้องสร้างปัญหาให้คนอื่นอีกหรือไม่? เยียนจือ เราอยู่ที่นี่อย่างกล้าหาญมาตลอดตอนที่เราไม่รู้จักจวิ้นจู่จิ่นซิ่วมาก่อน แล้วเหตุใดตอนนี้เจ้าถึงกลายเป็นคนขี้ขลาดไปแล้วเมื่อรู้จักนาง?”

เยียนจือตกตะลึง คำพูดของหลานสุ่ยชิงเปรียบเสมือนน้ำเย็นที่เทราดลงบนศีรษะของนาง ซึ่งทำให้นางตื่นขึ้นทันที

ใช่แล้ว เมื่อก่อนก็เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ คุณหนูฉลาดและมีไหวพริบ วิกฤตการณ์เหล่านั้นในอดีตสามารถแก้ไขได้ แล้วเหตุใดตอนนี้จะแก้ไม่ได้?

เป็นเพราะนางคิดไปเอง เป็นเพราะนางเพียงต้องการใช้ทางลัดด้วยการพึ่งจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ช่วยคุณหนูเท่านั้น แต่ยัง…แต่ยังอาจจะทำให้จวิ้นจู่จิ่นซิ่วรู้สึกไม่ดีไปแล้ว

“คุณหนู มันเป็นความผิดของข้าเอง เยียนจือผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”

หลานสุ่ยชิงถอนหายใจ แล้วประคองนางให้ลุกขึ้น “เอาล่ะ ข้ารู้ว่าเจ้าทำไปเพื่อประโยชน์ของข้าเอง ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีก”

“อืม” เยียนจือพยักหน้า จากนั้นจู่ ๆ ก็พูดราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “แต่ว่านะเจ้าคะคุณหนู แม่นางเนี่ยนเนี่ยนบอกว่าอย่าไปสนใจเรื่องนี้เลย เพียงแค่รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างสงบก็พอ”

รอดูอย่างสงบงั้นหรือ? หลานสุ่ยชิงประหลาดใจ

เนี่ยนเนี่ยนดูเหมือนเป็นคนไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วนางเป็นคนฉลาดยิ่งนัก เมื่อนางพูดเช่นนั้น นางคงมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ

แต่ไม่ว่าเนี่ยนเนี่ยนจะมีแผนการอะไร นางก็ต้องเตรียมการรับมือไว้ก่อน นางต้องให้ลูกสะใภ้ของแม่นมปู้สอบถามเรื่องแม่สื่อซูก่อน ก่อนที่นางจะคิดแผนการต่อไป

ทว่าไม่นานนัก แม่นมปู้ที่เดินไปถามข่าวที่ประตูหลังก็วิ่งกลับมาด้วยสีหน้าเปลี่ยนไป “คุณหนู เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”

เรื่องใหญ่หรือ? หลานสุ่ยชิงขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว? วันนี้วันอะไร? อย่าบอกนะว่าเกี่ยวกับนางอีกแล้ว?

……………………………………………………………………………………………………………..

借花献佛 สำนวน แปลว่าใช้ของของคนอื่นมาแสดงน้ำใจ

สารจากผู้แปล

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกหรือเปล่านะ เกิดเป็นหลานสุ่ยชิงต้องแข็งแกร่งขนาดไหน

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท