บทที่ 65
ฉิงชิงกวนตาน
หลังจากสิ้นสุดการทดลองใช้มีดวิญญาณ
ลั่วอู๋ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ฟื้นพลังวิญญาณ เพราะเขากำลังอ่อนล้าจากการสูญเสียพลังวิญญาณ แต่มันก็ยังคุ้มค่า
ตรงหน้าของเขามีมีดวางอยู่ 6 เล่ม แต่ล่ะเล่มมีเครื่องหมายตราธาตุต่างกันไปเป็น ทอง, ไม้, น้ำ ,ไฟ ,ดินและความมืด
ตราธาตุทองสามารถทำให้อาวุธคมขึ้นจนสามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย
ขณะเดียวกันตราธาตุไม้ไม่ได้ช่วยเสริมการโจมตีของอาวุธ แต่สามารถช่วยเสริมในด้านการรักษาบาดแผล เมื่ออยู่ใกล้กับบาดแผล
สิ่งนี้ทำให้ลั่วอู๋ประหลาดใจเล็กน้อย เพราะผลรักษาของมันดีกว่ายารักษาทั่วไปเสียอีก
ส่วนตราธาตุน้ำมีความสามารถในการรักษาเช่นกัน แม้จะอ่อนแอกว่าตราธาตุไม้เล็กน้อย แต่เมื่อมันทำศัตรูบาดเจ็บบาดแผลของฝ่ายตรงข้ามจะสั่นสะเทือนไปถึงแก่นพลังวิญญาณ
ตราธาตุไฟ สามารถเพิ่มความเสียหายและช่วยเพิ่มพลังระเบิดลงไปในการโจมตี
ตราธาตุดิน สามารถทำให้ศัตรูแข็งเป็นอัมพาตชั่วคราวได้
ตราธาตุมืด เสริมฤทธิ์กัดกร่อนอันน่ากลัวที่จะสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับป้องกันไม่ให้เป้าหมายใช้การรักษาที่ได้ผล
“การใช้ 3000 แต้มเซียนในการยกระดับแท่นศิลาของบ้าน ดูจะไม่ได้สูญเปล่าอย่างที่คิด” ลั่วอู๋พูดด้วยความอารมณ์ดี
อาวุธเหล่านี้นั้นมีพลังมาก
ลั่วอู๋ซ่อนมีดสั้น 6เล่มไว้ในชุดของเขาอย่างมีความสุข
มันเป็นอาวุธลับที่ดีทีเดียว
อันที่จริงแล้ว ตราวิญญาณธาตุเองก็มีตราธาตุแบบอื่นอีกหลายอย่างเช่น แสง, ลม, น้ำแข็ง, สายฟ้า, โลหิต, พลังชีวิต และอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามคุณลักษณะเหล่านี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างหาได้ยากและเขาเองไม่สามารถหาอาวุธวิญญาณที่มีคุณลักษณะเหล่านี้ได้ ดังนั้นลั่วอู๋จึงไม่พยายามจะลองทำมัน
ลั่วอู๋เดินวนรอบบ้านอีกครั้ง
สภาพตอนนี้ของบ้านห้องอื่น ๆ เองก็ได้รับการปรับปรุงด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเหมือนแท่นศิลา
หลังจากตรวจสอบห้องต่าง ๆ แล้ว ลั่วอู๋ก็เดินไปที่หอคอยสูงสีขาวที่ดูลึกลับ
เมื่อเข้าไป เขาก็พบว่า ถึงแม้ข้างนอกหอคอยสีขาวจะงดงาม แต่ข้างในกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรที่ดูมีประโยชน์ แม้แต่พลังวิญญาณเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่มี
“แปลกจัง ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องยกระดับบ้านหลังนี้ อีกครั้งเพื่อเปิดใช้งานหอคอยสีขาวสินะ”
ลั่วอู๋รู้สึกคันไม้คันมือ
เห็นได้ชัดว่าหอคอยสีขาวน่าจะต้องมีระบบการใช้งานที่ดี แต่ในตอนนี้เขายังไม่สามารถนำมันมาใช้ได้
เพราะในการจะยกระดับบ้านอีกครั้ง เขาจะต้องยกระดับจากระดับกลางไปเป็นระดับสูง ซึ่งต้องใช้ 20000 แต้มเซียนและเขาไม่ได้มีแต้มเซียนจำนวนมากขนาดนั้นในตอนนี้
“เฮ้อ แต้มเซียนนี่มัน ช่างเป็นอะไรที่จำเป็นจริง ๆ”
ลั่วอู๋ถอนหายใจออกมาเบาๆ
เขาคงมาได้แค่นี้แหละสำหรับวันนี้
มันจะดีกว่าถ้าเขาไปสังเคราะห์อย่างอื่นและพยายามสะสมแต้มเซียนแยกต่างหากให้ได้ 20,000 แต้มเซียนไว ๆโดยเร็วที่สุด
ลั่วอู๋เดินเข้าห้องที่เขาใช้เก็บหญ้าวิญญาณ
มันเต็มไปด้วยหญ้าวิญญาณและสมุนไพร
เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 วันก่อนจะถึงงานประมูลสินค้า เนื่องจากความเร็วที่แตกต่างกันของเวลาภายในและภายนอก ภายนอกห้าวันจึงเท่ากับ 18 วันในโลกไห
ใน 18 วันนี้ ลั่วอู๋พร้อมที่จะใช้ในการสังเคราะห์อย่างต่อเนื่องเพื่อฝึกฝน
……
……
[ได้รับ: หญ้าวิญญาณระดับสูง, ดอกไม้สนธยา, แต้มเซียน +5]
ดอกไม้สนธยา มันเป็นดอกไม้เติบโตขึ้นบนหน้าผา เป็นหญ้าวิญญาณพิเศษที่มีสีเหลืองทั่วไป มันมีสีดั่งดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกลับฟ้าไป
[ได้รับ: ปีศาจหญ้าระดับทองแดงแต้มเซียน + 8]
มันคือสัตว์วิญญาณที่หาได้ทั่วไป
รูปร่างของมันดูเหมือนหัวไชเท้าที่มีหญ้าอยู่บนหัว แต่มันสามารถเดินและวิ่งได้ ซึ่งว่ากันว่าสามารถนำมาใช้เป็นยาได้
[ได้รับ: ยาวิญญาณระดับ 4 ฉิงชิงกวนตาน (ปฐพี), แต้มเซียน + 5]
……
ในเวลา18 วันที่ลั่วอู๋ได้พยายามสังเคราะห์ด้วยสมุนไพรวิญญาณ
เขาได้ดอกไม้สนธยารวมกันมูลค่าประมาณราว ๆ 7-8 หมื่นหินวิญญาณ
ส่วนปีศาจหญ้า ก็น่าเสียดายที่มันเป็นของที่หาได้ทั่วไปและมีประสิทธิภาพไม่มาก จนไม่สามารถเอาไปขายได้ในราคาที่ดี ต่อให้จะมีวิธีขายก็ตาม
อย่างไรก็ตามเขาก็ได้วิธีสังเคราะห์ยาวิญญาณระดับ 4 หรือ ฉิงชิงกวนตานมา
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะทดลองสูตรยาด้วยสมุนไพรวิญญาณ
ฉิงชิงกวนตาน ถูกสังเคราะห์จากสมุนไพรวิญญาณระดับกลาง ยูหงเฉิน และ ชินอีกัว
ผลของมันสามารถชำระล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย, ปรับปรุงความบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณในเส้นเลือดสามารถล้างพิษและผลกระทบจากบาดแผลได้
ยาชนิดนี้แม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับยารวบรวมพลังวิญญาณ
แต่มันก็เป็นหนึ่งในยาที่จำเป็นสำหรับการฝึกฝน
ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่สามารถทิ้งยาประเภทนี้ได้
“เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สูตรนี้ต้องใช้หญ้าวิญญาณระดับกลางถึงสองชนิดและค่าใช้จ่ายเองก็สูงขึ้น ไม่งั้นข้าคงได้กำไรมากกว่านี้” ลั่วอู๋คิดอย่างละโมบ
อย่างไรก็ตามการค้นพบสูตรยานั้นไม่ใช่การสูญเสียอย่างแน่นอน
อีกอย่างการผสมสมุนไพรวิญญาณเพียงสองชนิดให้ได้ตัวยา ก็สะดวกและได้ราคาถูกกว่าที่นักเล่นแร่แปรธาตุทำแน่
ในเวลาเดียวกัน
หลังจาก 18 วันของการสูญเสียพลังวิญญาณและฟื้นพลังวิญญาณซ้ำไปซ้ำมา ระดับพลังวิญญาณของลั่วอู๋ก็เพิ่มขึ้น
ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการยกระดับวิญญาณตัวเองมาถึงระดับทองแดง มิติ 7
ซึ่งต้าหวงเองก็ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยไปเป็นระดับทองแดง มิติ 8
“ เฮ้อ ข้าเหนื่อยมากจริงๆ”
ลั่วอู๋ยืดแขนออก การฝึกอยู่ที่บ้านในไหเป็นเวลา 18 วัน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเขาอยู่ในโลกอีกใบ ที่ต่างไปจากโลกภายนอก
จนหลี่หยินต้องเตือน ลั่วอู๋จึงรู้ว่าการประมูลสินค้านั้นกำลังจะเริ่มขึ้น
“ได้เวลาออกไปแล้วสินะ”
ลั่วอู๋ออกจากโลกไห
ผู้คนจากคฤหาสน์ชวนเทียนที่กำลังรอเขาอยู่เข้ามาหาเขาด้วยความเคารพ “นายน้อยลั่ว ท่านหวังฉีได้สั่งให้พวกข้า มารับท่านไปยังที่นั่งพิเศษในนามของคฤหาสน์ชวนเทียน”
“ขอบคุณมาก” ลั่วอู๋พูดพร้อมกับยิ้ม “อย่างไรก็ตามข้ามีบางอย่างที่จะต้องทำก่อน ได้โปรดรอข้าสักครู่นะ”
“ขอรับ”
ชายผู้นั้นคิดกับตัวเอง เด็กหนุ่มคนนี้ที่ชื่อว่าลั่ว สามารถทำให้ท่านหวังฉีจัดที่นั่งตราของชวนเทียนให้เขาเป็นพิเศษได้ เขาจะต้องเป็นคนที่พิเศษไม่ผิดแน่
ลั่วอู๋เดินตรงไปที่ห้องขององค์หญิงเจียโรว
องค์หญิงเจียโรวยังคงนอนอยู่บนเตียงเพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นางดูเบื่อหน่าย ใบหน้าที่บอบบางของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเพราะนางได้แต่นอนนับแกะตลอดทั้งวัน
“แกะตัวที่ 113252”
“แกะตัวที่ 113253”
“……”
เมื่อลั่วอู๋มาเห็นสภาพขององค์หญิงเจียโรว เขาก็เดินเข้ามาหานาง
“ว้าวน้องชายเจ้าไม่ได้เข้ามาหาข้าร่วมห้าวันแล้ว เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่ไหมเนี่ย”
“ข้ากำลังฝึกซ้อมอยู่” ลั่วอู๋พูดอย่างช้าๆ
เป็นเวลาห้าวันแล้วที่เขาไม่ได้มาดูแลองค์หญิงเจียโรว มันช่างเป็นอะไรที่ดูไร้เหตุผลจริงๆ
“หึ” องค์หญิงเจียโรวเบ้ปากของนางอย่างไม่พอใจกับคำตอบนั้น
“การประมูลสินค้ากำลังจะเริ่มขึ้น เพราะงั้นผู้คุ้มกันของเจ้าเองก็น่าจะกำลังมาที่เขตหมิงหนานในอีกไม่กี่วันใช่ไหม” ลั่วอู๋ถาม
“ในอีกไม่กี่วัน ” องค์หญิงเจียโรวดูเศร้าลงไปในทันที
นางนอนอยู่บนเตียงแข็ง ๆ มาเป็นเวลาห้าวัน มันช่างทรมาน ลั่วอู๋เองก็เช่นกัน ทั้งเขาและนางต่างก็ไม่ได้ออกไปตากแดดตากลมเลยสักนิด
นางถูกขังอยู่ในห้องมาเป็นเวลาถึง 5 วัน
มันทำให้นางใกล้เป็นบ้าเต็มที
ที่แย่ที่สุดคือนางไม่สามารถอาบน้ำเป็นเวลาถึง 5 วัน แม้ว่านางจะแค่นอนราบทั้งวันก็ตามที แต่นางก็ยังรู้สึกเหนียวตัวและไม่สบายใจ
แต่ก็อายที่จะพูดว่า นางรู้สึกอึดอัดแค่ช่วงท้องของนางเท่านั้น
ลั่วอู๋หัวเราะแห้ง ๆ “ข้าคงต้องขอโทษที่ไม่ได้สนใจเจ้าเลย เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อการประมูลสิ้นสุดลงข้าจะพาเจ้าออกไปเจอแสงแดดแสงอาทิตย์บ้าง … “
มันอันตรายเกินไปที่ ลั่วอู๋จะปล่อยให้องค์หญิงเจียโรวปรากฏตัวสุ่มสี่สุ่มห้า
อย่างไรก็ตามเนื่องจากทีมผู้คุ้มกันองค์หญิงกำลังจะมาถึงเขตหมิงหนานในอีกไม่กี่วัน คนร้ายเหล่านั้นคงจะไม่กล้าปรากฏตัวอย่างเปิดเผยเท่าไหร่
“แสงแดดจากดวงอาทิตย์ … ” น้ำตาไหลออกมาจากสีหน้าอันน่าสมเพชขององค์หญิงเจียโรว ทำให้เขารู้สึกสงสารต่อสภาพอันบอบบางของนาง
ลั่วอู๋พูดอย่างไม่เต็มใจว่า “เจ้าต้องการอะไรรึเปล่า ข้าจะพยายามไปหามาให้ เพื่อทำให้เจ้าพึงพอใจ”
“ข้าต้องการกินอาหารอร่อยๆ อาหารในโรงเตี๊ยมนี้ไม่อร่อยเลย ข้าต้องการดื่มเซียนเหมินเมาจากศาลาเซี่ยนเหลา กินปูหยูเหลาสามรสของศาลหยูซวน และขนมหวานของศาลาหวังเฉา และ … “
“อืม ดูเหมือนข้าจะมีธุระเร่งด่วน ข้าขอตัวไปก่อนนะ”
ลั่วอู๋วิ่งออกไป
ไม่มีสิ่งใดที่องค์หญิงเจียโรวพูดแล้วเขาจะซื้อไม่ไหว ด้วยพลังของไหปีศาจ เขาสามารถทำเงิน 50,000 หินวิญญาณได้สบาย ๆ และหากใช้เวลามากอีกหน่อยก็คงหาได้ 100,000 หินวิญญาณ แต่เขาต้องเตรียมการให้นางไว้ล่วงหน้า
ซึ่งสำหรับขนมหวานจากศาลาหวังเฉานั้นมันมีราคาไม่สูง แต่ด้วยรสชาติที่ดีและยอดขายที่จำกัด มันจึงไม่สามารถซื้อได้เลยในทันที
ถ้าเขาปล่อยให้องค์หญิงเจียโรวพูดต่อไป เขาคงจะล้มละลายแน่ ๆ
องค์หญิงเจียโรวกะพริบตาอันละเอียดอ่อนของนางและยิ้มที่มุมปาก
หึ เจ้าคนขี้เหนียว
ไม่มีใครกล้าปฏิบัติตัวกับข้าได้อย่างเยือกเย็นเหมือนเจ้ามาก่อน
นางจึงบอกสิ่งที่นางอยากกิน ด้วยการพูดเล่นไปซะส่วนใหญ่ เพื่อเป็นการสั่งสอน โดยทำให้ลั๋วอู๋ตกใจและขอนางเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน
ตามปกติแล้วตัวนางเองไม่สามารถซื้อของกินที่มีราคาแพงเช่นนั้นได้หรอก นางจะได้กินก็ต่อเมื่อออกไปกับพวกพี่ชายทั้งหลาย ในบางโอกาสเท่านั้น