เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 260 เจ้าหาว่าข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ภายในหนึ่งกระบี่งั้นเหรอ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

ฝูงชนหันกลับไปมองทางต้นเสียงทันทีและนั่นทำให้พวกเขาเห็นสตรีผู้สง่างามสวมชุดคลุมสีขาวยืนอยู่ไม่ไกล จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากฉู่ชูเหยียน?

“คุณหนูฉู่ มาทำอะไรที่นี่?”

“คุณหนูฉู่ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”

ฝูงชนประหลาดใจกับการปรากฏตัวของนาง มีผู้ชายสองสามคนก้าวไปข้างหน้าเพื่อคุยกับนางในทันที

น่าเสียดายที่ฉู่ชูเหยียนไม่ได้สนใจแม้แต่จะชำเลืองมองพวกเขา นางเดินตรงไปที่จี้เสี่ยวซีและพูดว่า “แม่นางจี้ หุบเขาที่เจ้าแยกกับเขาอยู่ที่ไหน?”

อันที่จริงนางรู้สึกไม่สบายใจอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่เข้ามิติลับ การที่ซูอันเป็นผู้ชนะในการประลองระหว่างตระกูล ได้ขัดขวางแผนการของผู้มีอำนาจมากมาย ดังนั้นจึงเป็นไปได้สูงที่จะมีใครบางคนพยายามล้างแค้นเขาระหว่างที่เขาอยู่ในมิติลับนี้

ด้วยความกังวลที่รุมเร้าจิตใจ ในที่สุดนางก็ตัดสินใจหันหลังกลับมาดู จนท้ายที่สุดนางก็มาได้ยินเรื่องนี้เข้าพอดี

จี้เสี่ยวซีตกตะลึงกับความงามหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้านางครู่หนึ่ง แต่นางก็รีบวาดตำแหน่งคร่าว ๆ ของหุบเขาลงบนพื้นดิน

ฉู่ชูเหยียนหันไปหาไป๋ซู่ซู่และกล่าวว่า “อาจารย์ไป๋ ท่านอยู่ดูแลพวกเขาเถอะ ข้าไปคนเดียวได้”

พอพูดจบ นางก็จากไปด้วยความเร่งรีบ

เมื่อมองดูเงาที่ค่อย ๆ หายไปของนาง จี้เสี่ยวซีอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา “ข้าเพิ่งเคยเห็นนางใกล้ ๆ นางช่างมีเสน่ห์จริงๆ…”

ไป๋ซู่ซู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน เป็นเรื่องดีที่ฉู่ชูเหยียนมาถึงทันเวลา ในด้านความแข็งแกร่งของระดับการบ่มเพาะ ฉู่ชูเหยียนมีความแข็งแกร่งพอที่จะเทียบกับอาจารย์ของสถาบันจันทร์กระจ่างได้เลย ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของนาง

ในขณะเดียวกัน ซูอันก็ยังคงพยายามหลบหนีอย่างสิ้นหวัง จากที่เคยดูหนังเกี่ยวกับการทหารมามากมายในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาจึงตัดสินใจซ่อนตัวอยู่ในป่าแห่งหนึ่งที่เขาเดินผ่าน แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะว่าเขามีประสบการณ์จริงในสงครามป่า แต่สถานการณ์ในตอนนี้เลวร้ายมากจนต้องเลือกการซ่อนตัวแทนที่จะตกเป็นเป้าในที่แจ้ง

ผู้บ่มเพาะทั้งสี่ที่ไล่ตามเขามาล้วนอยู่ในระดับที่สี่ ดังนั้นซูอันจึงไม่สามารถเผชิญหน้าได้โดยตรง เขาต้องหาโอกาสที่จะแยกพวกศัตรูออกจากกันและโจมตีทีละคน ในป่ามีที่กำบังและสิ่งกีดขวางมากมาย ทำให้ยากขึ้นที่ศัตรูจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้

ในทางกลับกัน ผู้บ่มเพาะทั้งสี่คนขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าซูอันหนีเข้าไปในป่า แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมแพ้เพียงเพราะเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขามีความได้เปรียบในด้านจำนวนคน ดังนั้นพวกเขาจึงพุ่งเข้าสู่ป่าโดยไม่ลังเลเช่นกัน

ซูอันเดี๋ยวกระโดดเดี๋ยววิ่งไปรอบ ๆ ป่าอย่างว่องไว โดยการใช้ประโยชน์จากทักษะการเคลื่อนไหวของเขาและสภาพแวดล้อมที่มีแต่ต้นไม้อย่างเต็มที่จนยิ่งเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มทิ้งห่างผู้บ่มเพาะทั้งสี่ที่ไล่ตามเขาไปเรื่อย ๆ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาน่าจะสลัดคนทั้งสี่ออกไปได้ในเวลาอีกไม่นาน

อย่างไรก็ตาม เขารู้ดีว่าถึงแม้เขาจะสามารถหนีได้ครั้งหนึ่ง แต่ครั้งถัดไปอาจไม่โชคดีเหมือนเดิม

ดูเหมือนมีคนมากมายจ้องจะเอาชีวิตของเขาให้ได้ในมิติลับนี้ ถ้าเขาต้องการเอาชีวิตรอดไปจนถึงวันสุดท้าย เขาจะต้องกำจัดศัตรูออกไปบ้าง!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูอันจึงค้นหาต้นไม้ที่มียอดเขียวชอุ่มและกระโดดขึ้นไปโดยใช้ใบไม้ในการพรางตัว

ครู่ต่อมา…ผู้บ่มเพาะทั้งสี่ก็มาถึงบริเวณใกล้เคียง

“เกิดอะไรขึ้น? เขาไปไหนแล้ว?”

“ไม่ต้องตกใจไป! เขาน่าจะซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ!”

“ทุกคนระวังให้ดี อย่าลืมดูด้านบนด้วย เขาอาจจะซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้!”

ซูอันใจหายทันที คนที่เข้ามาได้ควรจะมีแต่นักศึกษาไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมการกระทำของคนพวกนี้ไม่เหมือนมือสมัครเล่นเลย?

เขาคิดไปถึงเจียงลั่วฝู นางไม่รู้ได้อย่างไรว่ามีสายลับมากมายในสถาบันจันทร์กระจ่าง! เดี๋ยวกลับไปเมื่อไหร่เขาจะบ่นนางให้หูชาแน่นอน!

ผู้บ่มเพาะทั้งสี่ค้นหาบริเวณโดยรอบอยู่พักหนึ่ง แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะหาคนในป่าที่มีจุดซุ่มซ่อนอยู่มากมาย

“เราหากันแบบนี้มันไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทรเลย!”

“แยกกันหาน่าจะง่ายกว่า!”

“ถ้าแยกกันจะไม่เป็นไรเหรอ? นายน้อยกำชับเอาไว้อย่างชัดเจนว่าซูอันมีความแข็งแกร่งมากกว่าผู้บ่มเพาะระดับสามทั่ว ๆ ไปหลายเท่า”

“ไร้สาระ! ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็เป็นแค่ผู้บ่มเพาะระดับสามเท่านั้น เขาคงไม่สามารถฆ่าพวกเราได้ภายในกระบี่เดียวหรอกจริงไหม?”

“ใช่ เราไม่ตายหรอก! พวกเราไม่เหมือนไอ้คนไร้ประโยชน์หยวนเหวินตงนั่นสักหน่อย ไอ้โง่นั่นดันตอบกลับซูอันในเวลาคับขันซะอย่างนั้น การทำเช่นนั้นมันไม่ต่างอะไรกับรนหาเรื่องพิการ!”

“เอาล่ะ แยกกันหาเถอะ หากใครพบซูอันไม่จำเป็นต้องฆ่าให้ได้ แค่พยายามทำให้เขาช้าลงให้มากที่สุดและรอพวกเรามาก็พอ”

หลังจากปรึกษากันเสร็จทั้งสี่คนก็แยกไปกันคนละทาง และพวกเขาค่อย ๆ ค้นหาจากด้านในออกรอบนอกป่าด้วยสายตาระแวดระวัง คนที่มุ่งหน้ามาทางทิศที่ซูอันซ่อนอยู่คือมือธนู!

นี่ถือเป็นข่าวดี เพราะเขารู้สึกว่ามือธนูเป็นภัยคุกคามต่อเขามากที่สุด การต้องรับมือกับนักสู้ระยะประชิดถึงสามคนนั้นยากพออยู่แล้ว หากต้องคอยระวังมือธนูที่ยิงสนับสนุนจากระยะไกลด้วยมันจะยิ่งเป็นเรื่องยากลำบากกว่าเดิมมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนที่ยากที่สุดในการหนีก่อนหน้านี้คือเขาต้องคอยหลบลูกธนูด้วยซึ่งมันทำให้เขาทำความเร็วได้ไม่มากเท่าที่ควร เป็นผลให้เขาไม่สามารถสลัดผู้บ่มเพาะทั้งสี่คนนี้ได้จนเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมุ่งหน้าเข้ามาในป่าแห่งนี้

ถ้าเขาสามารถกำจัดมือธนูคนนี้ได้ เขาจะสู้หรือจะหนีก็สบายขึ้น

แถมมือธนูคนนี้ยังเป็นคนที่เอ่ยออกมาว่าเขาไม่เก่งพอที่จะฆ่าผู้บ่มเพาะระดับสี่ได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว

ได้! งั้นข้าจะถือว่านั่นเป็นคำท้าก็แล้วกันนะ!

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูศัตรูอีกสามคนที่อยู่ห่างไกลออกไป ซูอัน ตัดสินใจล้มเลิกความคิดที่เย้ายวนใจนี้ ผู้บ่มเพาะระดับสี่สามารถเคลื่อนที่ระยะไกลได้อย่างรวดเร็ว และก็ไม่แน่ว่าเขาจะสามารถจัดการมือธนูได้ในครั้งเดียว เพราะมือธนูก็เป็นผู้บ่มเพาะระดับสี่เช่นกัน

ถ้าเขาพลาดขึ้นมา เขาอาจถูกล้อมและตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตได้!

ร่างของผู้บ่มเพาะทั้งสี่ค่อย ๆ หายเข้าไปท่ามกลางป่า แต่ซูอันยังคงเลือกที่จะซ่อนอยู่ที่เดิม ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะหลังจากนั้นทั้งสี่คนก็วิ่งกลับมาที่เดิมพร้อมกันหลังจากตรวจดูไปทั่วบริเวณแล้ว ต่างคนต่างถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

“ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยู่ที่นี่จริงๆ”

ซูอันเย้ยหยันอยู่ในใจ ลูกไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้เขาเห็นในทีวีจนเบื่อแล้ว ถ้าพวกเจ้าคิดว่าจะเอามาหลอกข้าได้ พวกเจ้าก็ควรตรวจสมองของพวกเจ้าดี ๆ สักหน่อย!

ผู้ใช้หอกซึ่งดูเหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่มหันไปหามือธนูและสั่งว่า “พัวจงโหยว เจ้าจะต้องปักหลักคอยซูอันอยู่ที่นี่เผื่อว่าเขาจะย้อนกลับมา”

ซูอันดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น เขายังคงรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้จัดการใครสักคน ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะส่งเพื่อนคนหนึ่งมาเป็นเหยื่อคมกระบี่ของเขา

พัวจงโหยวหัวเราะเสียงดังพร้อมกับยกคันธนูขึ้นสูงและประกาศว่า “ได้เลย! ถ้าเขากล้ากลับมาที่นี่ ข้าจะจบชีวิตเขาด้วยธนูเพียงดอกเดียว!”

คนอื่น ๆ พยักหน้าตอบรับก่อนจะแยกออกไปสามทิศทางอย่างรวดเร็วเพื่อดำเนินการค้นหาต่อ

พัวจงโหยวใช้เวลาอีกครู่หนึ่งเพื่อสำรวจบริเวณรอบ ๆ ในขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง “ข้าควรขึ้นที่สูงจะได้เห็นบริเวณรอบ ๆ นี้ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น อืม…ต้นไม้นั่นดูไม่เลวเลย”

หลังจากพึมพำกับตัวเองและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขากระโดดขึ้นไปบนกิ่งก้านที่อยู่ด้านล่างของต้นไม้อย่างว่องไวและรีบขึ้นไปบนยอดอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่รู้ว่าที่ด้านบนมีเรื่องเซอร์ไพรส์รอเขาอยู่!

เมื่อพุ่งตัวกำลังจะขึ้นไปถึงกิ่งที่อยู่จุดสูงสุดเขากลับพบว่าตัวเองได้รับการต้อนรับจากคมกระบี่อันเย็นยะเยือก!

มันเป็นการฟันที่เร็ว เฉียบคม และแม่นยำ ที่เลวร้ายไปกว่านั้น การโจมตีนั้นเกิดขึ้นขณะที่เขายังอยู่กลางอากาศ ทำให้เขาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม!

กระบี่ที่เร็วปานสายฟ้าแทงเข้าที่ลำคอของเขาอย่างแม่นยำ ทำให้เสียงอุทานตกใจของเขากลายเป็นเสียงอู้อี้

“เมื่อกี้ตอนที่เจ้าพูดกับเพื่อน ๆ ของเจ้า เจ้าว่าไงนะ? เจ้าบอกว่าข้าไม่สามารถสังหารเจ้าได้ภายในกระบี่เดียวใช่ไหม? ดูเหมือนว่าตอนนี้มันถึงเวลาที่เจ้ากับข้าจะต้องมาพิสูจน์มันร่วมกันซะแล้ว หึหึ!”

พุ่มใบไม้หนาถูกปัดไปด้านหนึ่ง และใบหน้าที่เบิกบานของซูอันก็โผล่ออกมา…

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท