เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 559 แผนล่อให้หลง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 559 แผนล่อให้หลง

บทที่ 559 แผนล่อให้หลง

“มันอาจจะมีผลกับข้าบ้าง” ในที่สุดฉินหว่านหรูก็ยอมรับด้วยเสียงโกรธ ๆ

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!

ซูอันเย้ยหยัน ผู้หญิงบางคนก็ใจแคบจริง ๆ

เขารีบหันกลับมามองที่โคมนั้น ทำไมมันดูคุ้นเคยจัง?

แต่แล้วจู่ ๆ ชายชุดดำอีกคนหนึ่งก็กระโดดออกมาจากบ้านอีกหลังที่อยู่ไม่ห่าง เขาโคจรพลังก่อนจะชกหมัดลงไปที่แผ่นหินที่ปูถนนจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นดินจำนวนมหาศาลก็ผุดขึ้นเป็นระลอกคลื่นพุ่งไปข้างหน้าก่อนจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นกำปั้นดินขนาดใหญ่ทุบเข้าใส่ซ่างเชียน

ซ่างเชียนเมื่อเห็นเช่นนี้ เขาก็รีดแรงกายทั้งหมดยกกระบี่ไฟที่ใกล้จะมอดขึ้นมาปัดป้อง แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาอ่อนแอมากจนเกือบจะป้องกันไม่ไหว แม้ว่าเขายังพอจะป้องกันได้แต่ไฟที่ลุกท่วมกระบี่ก็มอดดับลงไปเช่นกัน!

ฉินหว่านหรูตกใจ “เป็นผู้บ่มเพาะธาตุดินระดับห้า!”

“คน ๆ นี้แข็งแกร่งกว่าซ่างเชียนอีกงั้นเหรอ?”ซูอันถาม

ฉินหว่านหรูส่ายหัว “ก็ตอบยาก ซ่างเชียนถูกโคมไฟนั่นทำให้อ่อนแรงและช้าลง เขามัวแต่ดิ้นรนให้หลุดจากมันจนอ่อนกำลังลงอย่างมากแล้ว”

ในขณะเดียวกัน ความสนใจของซูอันก็ถูกหักเหไปยังร่างของหญิงงามที่ค่อย ๆ เดินออกมาจากเงามืดที่ทอดยาวไปตามถนน แม้ว่านางจะสวมชุดสีดำสนิท แต่ชุดของนางก็ไม่สามารถปกปิดส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบของนางได้

“หน้าอกนั่นดูคุ้น ๆ นะ…”ซูอันพึมพำกับตัวเอง เขาแน่ใจว่าถ้าหากอีกฝ่ายเป็นเพ่ยเหมียนหมาน เขาคงจำได้แม้จะมองจากระยะไกลเพราะความใหญ่ที่นางมีนั้นไม่เหมือนใคร แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ เป็นการยากจริง ๆ ที่จะระบุว่านางเป็นใคร

ซ่างเชียนรู้ได้ทันทีว่าทั้งสองคนนี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะหญิงผู้ใช้โคม ใบหน้าของเขาซีดพลางเอ่ยสั่งเสียงดัง “เร็วเข้า พวกเจ้ารีบลากเกวียนกลับไปที่ค่าย!” เขาสั่งลูกน้อง

ซูอันแทบจะยกนิ้วโป้งชมเชยซ่างเชียน “โอ้ ซ่างเชียน คนนี้ไม่ใช่คนขี้ขลาด เขาไม่ได้ทิ้งลูกน้องไว้ข้างหลัง”

ฉินหว่านหรูพ่นลมหายใจ “เขาไม่มีทางเป็นคนไร้น้ำยา ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีทางบ่มเพาะได้ถึงระดับห้าทั้ง ๆ ที่ยังอายุน้อยเช่นนี้”

ลูกน้องของซ่างเชียนรีบลากเกวียนออกไปทันทีที่ได้รับคำสั่ง “คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเหรอ!?” ผู้บ่มเพาะธาตุดินคำราม

เขาชกเข้าใส่พื้นอีกครั้ง และต่อมามวลดินก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งและพุ่งถาโถมเข้าหากลุ่มลูกน้องของซ่างเชียนราวกับเกลียวคลื่นในมหาสมุทรคลั่ง

ซ่างเชียนกระโจนมาขวางคลื่นดินนี้ทันที ก่อนจะแทงกระบี่ของเขาลงไปที่พื้น จนเกิดเสียงระเบิดดังและสิ่งเศษหินดินทรายก็ปลิวว่อนไปทุกที่ แล้วระลอกคลื่นของพื้นดินหยุดลงและสงบอีกครั้ง

จากนั้นซ่างเชียนก็พุ่งเข้าหาผู้บ่มเพาะธาตุดิน และทั้งสองคนก็เริ่มต่อสู้กัน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนชุดดำมีจำนวนมากกว่า ดังนั้นกลุ่มคนชุดดำที่เหลือจึงรีบวิ่งไล่ตามใบอนุญาตค้าเกลือไป

ไม่มีทางที่ซ่างเชียนจะสามารถแยกร่างออกไปช่วยได้ เขาจึงทำได้เพียงหวังให้ลูกน้องของเขาทำให้ดีที่สุด

ความสนใจทั้งหมดของเขามุ่งไปที่ผู้บ่มเพาะธาตุดิน เขาจะต้องจัดการผู้บ่มเพาะธาตุดินนี้อย่างรวดเร็ว ถ้าต้องการโอกาสที่จะจัดการกับหญิงผู้ถือโคมด้วย

โชคดีที่ความแข็งแกร่งของเขาสูงกว่าคู่ต่อสู้อย่างชัดเจน ในไม่ช้าผู้บ่มเพาะธาตุดินก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

“ศิษย์น้อง มัวรออะไรอยู่!” ผู้บ่มเพาะธาตุดินผู้นั้นร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกผสมโกรธ

หญิงถือโคมยิ้ม “โปรดรออีกสักครู่ ข้ามีหนูตัวน้อยสองตัวที่จะต้องจัดการก่อน”

หลังจากพูดจบ นางก็ดีดตัวพุ่งตรงไปยังที่ที่ซูอันและฉินหว่านหรูซ่อนตัวอยู่

ฉินหว่านหรูตื่นตระหนก “ตามใบอนุญาตไป!” นางผลักไหล่ของซูอันไปในทิศทางที่เกวียนถูกลากไป

“ดูแลตัวเองด้วย!” ซูอันเตือนฉินหว่านหรูแต่สายตาของเขามองไปที่ร่างที่ถือโคม

แม้ว่าหญิงถือโคมคนนี้จะพยายามดัดเสียงของตัวเอง แต่ตอนนี้เขาได้รับรู้ตัวตนของนางแล้ว มันจะเป็นใครไปได้อีกนอกจาก…ชิวฮัวเล่ยแห่งหอสุขนิรันดร์?!

หญิงสาวคนนี้เต็มไปด้วยความลึกลับอยู่เสมอ และเขาไม่รู้ว่าการบ่มเพาะของนางนั้นสูงมากแค่ไหน

ในพริบตาฉินหว่านหรูก็ได้เผชิญหน้ากับหญิงผู้ถือโคม

“เอ๊ะ?” ชิวฮัวเล่ยไม่คิดว่าจะมีผู้บ่มเพาะระดับหกจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ นางเกือบจะจ่ายราคามหาศาลเพราะความไม่รู้ของตัวเอง

โชคดีที่โคมของนางเป็นอาวุธวิเศษ มันจึงจำกัดการเคลื่อนไหวของฉินหว่านหรูได้มากพอที่จะช่วยให้นางหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้

ซูอันถอนหายใจออกด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นว่าฉินหว่านหรูยังคงรักษาความได้เปรียบ อันที่จริง นางอยู่ที่ระดับหกแล้ว ทำไมเขาถึงต้องเป็นกังวลด้วย?

เขาวิ่งตามเกวียนที่บรรทุกใบอนุญาตค้าเกลือที่ถูกขโมยไป

เสียงการต่อสู้ที่วุ่นวายดังมาแต่ไกล ในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาก็พบกับลูกน้องของซ่างเชียนซึ่งกำลังต่อสู้กับผู้ไล่ตามในชุดดำ

เกวียนถูกผลักไปด้านข้าง

เห็นได้ชัดว่าฝ่ายใดชนะการต่อสู้ครั้งนี้จะได้รับใบอนุญาตค้าเกลือไป ดังนั้นจึงยังไม่มีใครให้ความสนใจกับเกวียนนี้ พวกเขาต่างทุ่มสมาธิในการประหัตประหารอีกฝ่ายให้ได้เร็วที่สุด

ซูอันอ้าปากค้าง การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด! เลือดกระเซ็น เศษเนื้อกระจัดกระจายไปทุกที่ นั่นแขนของใครที่เพิ่งลอยไป?

เขาใช้จ้าววายุเคลื่อนที่ไปที่เกวียนแทบจะในทันที

อย่างไรก็ตาม เขาไม่รีบร้อนที่จะจากไป เขากระแอมเบา ๆ และพูดเสียงดังว่า “ขอบคุณสำหรับความพยายามของพวกเจ้า!”

การต่อสู้หยุดลงชั่วขณะ นักสู้ทั้งสองฝ่ายมองไปยังบุคคลที่ปรากฏตัวข้างเกวียน พวกเขาไม่รู้ว่าบุคคลที่สามผู้นี้มาจากไหน

“ดูเหมือนพวกเจ้าจะยุ่งกับการต่อสู้เพื่อสิ่งที่อยู่บนเกวียนนี้ ข้าเป็นคนมีน้ำใจและเกลียดความรุนแรงมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ข้าจะทำความดีโดยการเอามันติดตัวไปด้วย พวกเจ้าจะได้ไม่ต้องฆ่ากันอีกต่อไป!”

ซูอันยิ้ม เขากระโดดขึ้นไปบนเกวียนแล้วสะบัดบังเหียน กระตุ้นม้าที่ลากให้เคลื่อนที่จากไป

บรรดาทหารลาดตระเวนลำน้ำและกลุ่มคนชุดดำลึกลับต่างจ้องมองตามหลังซูอันอย่างมึนงง

ไอ้เวรนั่นเป็นใคร? มันมาจากไหน? ทำไมมันสารเลวไร้ยางอายได้ขนาดนั้น!

พวกเขาคงจะโกรธน้อยกว่านี้ หากอีกฝ่ายเอาใบอนุญาตค้าเกลือไปอย่างเงียบ ๆ เพราะพวกเขากำลังง่วนอยู่กับการฆ่าแกงกันอยู่ หากอีกฝ่ายลอบขับเกวียนออกไป พวกเขาคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ไอ้คน ๆ นั้นมันกลับจงใจประกาศเสียงดัง! มันทำไปเพื่ออะไร? หรือแค่อยากทำให้พวกเขาโกรธงั้นเหรอ?

ทำไมต้องเสี่ยงขนาดนี้ด้วย? หัวของมันมีแต่ขี้เลื่อยหรือยังไง?!

หัวสมองของพวกเขาหมกมุ่นอยู่กับความคิดเหล่านี้อยู่พักหนึ่ง และเมื่อได้สติ พวกเขาก็คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวเสียงดังลั่น จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ไล่ตามซูอันไปอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ทั้งสองฝ่ายถึงกับเลิกต่อสู้กันเอง และโดยที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากตกลงกัน ในใจของพวกเขาต่างมีความคิดเดียวกันว่า พวกเขาจะต้องจัดการกับซูอันก่อนแล้วจากนั้นเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง!

ซูอันบังคับเกวียนไปข้างหน้าอย่างเมามัน จากนั้นเขาจึงหักเลี้ยวที่ทางแยก และเมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในมุมลับตาของพวกผู้ไล่ตามแล้ว เขาจึงรีบกระโดดไปด้านหลังเกวียนและรีบเก็บหีบเข้าใส่ดวงแก้วผู้รอบรู้จนหมด จากนั้นก็กระโดดกลับไปฟาดก้นม้าให้ลากเกวียนต่อไปในความเร็วเดิม ก่อนที่ตัวของเขาเองจะกระโดดลงจากรถม้าและขึ้นไปซ่อนตัวบนต้นไม้ใกล้ ๆ

พวกผู้ไล่ตามที่เพิ่งวิ่งพ้นหัวโค้งมายังคงไม่รู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น พวกเขายังคงโห่ร้องต่อไปขณะที่ไล่ตามเกวียนขนสินค้าที่ว่างเปล่า

รอยยิ้มแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าของซูอัน ขณะที่คะแนนความโกรธแค้น ยังคงหลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ เขาสามารถเก็บหีบเหล่านั้นไว้ในดวงแก้วผู้รอบรู้ตั้งแต่แรก แต่เขาไม่ได้ทำเพราะเขาต้องการกอบโกยคะแนนความโกรธแค้นซะก่อน

เขาจะยอมเสียโอกาสดี ๆ แบบนี้ได้อย่างไร?

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท