บทที่ 284 เหตุการณ์ในวันนี้ จะไม่เกิดขึ้นอีก
บทที่ 284 เหตุการณ์ในวันนี้ จะไม่เกิดขึ้นอีก
รถม้าขับเคลื่อนจากหัวมุมมาถึงจวนเซี่ยอย่างเงียบ ๆ
หลินเหราให้ฝูลี่พาอาจื้อออกไปข้างนอก จากนั้นก็จัดที่จัดทางในห้องรับรองให้เหยาซูและเด็ก ๆ แล้วสั่งให้ฝูหยาเตรียมน้ำอุ่นสำหรับอาบให้เหยาซู
เมื่อเหยาซูอาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้านและอ่อนนุ่มเรียบร้อยแล้ว จิตใจจึงค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
นางมองไปยังเด็ก ๆ ที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เอ้อเป่าและซานเป่าจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
หลินเหราเดินรุดขึ้นหน้า จากนั้นก็ดึงตัวฮูหยินมาไว้ในอ้อมกอด พลางพูดปลอบโยนด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าตรวจอาการแล้ว พวกเขาสูดดมยาสลบเข้าไป ตอนค่ำถึงจะฟื้น”
เหยาซูแตะแก้มของอาซืออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ตอบ ‘อื้อ’ ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
เส้นผมที่เปียกชุ่มของนางมีน้ำหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เสื้อผ้าบริเวณเอวเปียกชื้นไปด้วย หลินเหราหยิบผ้านุ่มและสะอาดจากด้านข้าง จากนั้นก็รวบเส้นผมยาวสลวยของนาง ก่อนเช็ดมันอย่างเบามือ
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา “สหายเก่าในค่ายทหารเคยกล่าวไว้ ในช่วงปีแรก ๆ ภรรยาของเขาไม่ชอบเช็ดผมให้แห้ง จึงมักจะปวดหัวในเวลาต่อมา จะเป็นไปได้อย่างไร?”
เหยาซูมองไปทางหลินเหราด้วยความประหลาดใจแวบหนึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านมักพูดอยู่บ่อย ๆ ”
หลินเหราตื่นเต้นเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยถามอย่างจริงจังว่า “ปกติข้าพูดอย่างไร?”
เหยาซูมองเข้าไปในดวงตาที่ลึกล้ำของเขา พลางยิ้มและพูดว่า “เหมือนอย่างตอนนี้ พูดจริงจังและสั้น”
หลินเหราตอบแค่ ‘อื้อ’ แต่การเคลื่อนไหวยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ชายหนุ่มเช็ดเส้นผมของนางอย่างอดทน
“แค่ ‘อื้อ’ หรือ? แล้วหลังจากนั้นเล่า?” เหยาซูเบิกตากว้างเล็กน้อย รอคำพูดต่อไปของเขา
มุมปากของหลินเหรากระตุกขึ้น ใบหน้าเคร่งขรึมบัดนี้ดูราวกับหิมะที่หลอมละลายอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์อย่างฉับพลัน เผยรอยยิ้มออกมาในที่สุด
“หลังจากนั้นอะไร?” เขาตั้งใจถามคำถามนี้
เหยาซูเห็นเขาทำเช่นนี้ จึงอดยิ้มไม่ได้
วันนี้นางสูญเสียพลังและจิตใจไปมากเกินไป จึงค่อนข้างเหนื่อยล้าไม่น้อย
นางเอียงศีรษะพิงร่างของหลินเหรา แล้วค่อย ๆ หลับตาลง
หลินเหราไม่ได้ส่งเสียงแต่อย่างใด ทั้งยังคงรวบผมสีดำขลับดุจหมึกดำไว้ในมือ จากนั้นก็เช็ดอย่างเบามือต่อไป
ไม่นาน นางก็ส่งเสียงออกมาจากในลำคอ แม้แต่หูที่ไวต่อความรู้สึกของหลินเหราก็ยังฟังไม่ชัดเจน
“อาซู ง่วงแล้วหรือ?” เขาเอ่ยถามนางอย่างแผ่วเบา
หญิงสาวหาวหนึ่งหวอด เงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่นั้นรื้นไปด้วยหยาดน้ำตาอย่างหนักหน่วง พลางพยักหน้าอย่างช้า ๆ
ในใจของหลินเหราอ่อนโยนลง แม้แต่เสียงก็ยังแผ่วเบาลงอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็พูดกับนางว่า “ถ้าง่วง เช่นนั้นก็นอนสักครู่เถิด”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเหมือนกับเสียงดนตรีไพเราะแว่วดังขึ้นข้างหูของเหยาซู ทำให้นางตกอยู่ในภวังค์ ลืมสิ้นความวุ่นวายและปัญหากวนใจเหล่านั้น
นางพยักหน้า จากนั้นก็หาวอีกครั้ง ก่อนจะล้มตัวลงนอน
นางได้รับประสบการณ์มากเกินไปเหลือเกินในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ นี้
แรกเริ่มเมื่อรู้ว่าหลินเหราและตู้เหิงไปมาหาสู่กัน อีกทั้งสองคนยังไปดูบ้านด้วยกัน นางจึงคิดว่าความรักของพระเอกและนางเอกในหนังสือมันคงพลิกผันไม่ได้เพราะเหตุปัจจัยภายนอก
เหยาซูต้องการพูดคุยถึงอนาคตกับหลินเหรา
คิดไม่ถึงว่าตู้เหิงจะใช้วิธีที่ต่ำทรามเช่นนี้มาทำร้ายลูกของนาง!
ดวงตาคู่งามของเหยาซูเคร่งขรึมขึ้น หากบทประพันธ์มันพลิกผันไม่ได้ นางก็ต้องทำลายบทประพันธ์นี้ หลินเหราต้องเป็นของนาง และลูก ๆ จะไม่มีวันเป็นอย่างในหนังสือเด็ดขาด!
ขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น นางหรี่ตาและหลับลงอย่างช้า ๆ
“กำลังคิดสิ่งใดหรือ? คิ้วขมวดเชียว?”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของหลินเหราดังเข้ามาในหูของนาง
หนังตาของนางหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้นเสียแล้ว แต่ความคิดยังคงชัดเจน จึงพึมพำเสียงเบาว่า “ก็ต้องคิดเรื่องในวันนี้น่ะสิ”
ผมที่เปียกหมาดในมือของหลินเหราใกล้จะแห้งสนิทแล้ว เขาใช้นิ้วสางผมของภรรยาอย่างแผ่วเบา รับรู้ถึงสัมผัสบนปลายนิ้วที่คล้ายกับแตะอยู่บนผิวน้ำตก เขาพลางคลี่ยิ้มและพูดเสียงเบาว่า “พอแล้ว หยุดคิดได้แล้ว หือ? หลับได้แล้วกระมัง”
เหยาซูส่ายหน้า “นอนไม่หลับ…”
ความเหนื่อยล้าที่แสดงออกมาทางสีหน้า ทำให้นางรู้สึกเซื่องซึมไปทั่วทั้งตัว แต่ก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้
หลินเหรารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้กระตุ้นความไม่สบายใจให้เหยาซูไม่น้อย แม้แต่ชายฉกรรจ์ผู้สง่างามอย่างเขา ครั้งแรกที่เห็นเลือดในสนามรบก็ยังรู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนด้วยความสะอิดสะเอียน ยามกลางคืนก็ยังนอนไม่หลับ แล้วนับประสาอะไรกับเหยาซู?
เขาลูบเรือนผมของนางอย่างอ่อนโยน พลางกระซิบข้างหูของนางด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ไม่เป็นไร ข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง อยากนอนเมื่อใดก็นอนเถอะ”
เหยาซูตอบ ‘อื้อ’ เสียงต่ำ
นางหลับตาลงอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นึกถึงภาพในศาลเจ้าหลักเมืองนั้น และนึกถึงเรื่องของตู้เหิง
หากนางจำไม่ผิด ตามเค้าโครงในหนังสือแล้วนั้น ตู้เหิงจะต้องเริ่มยึดร้านในครอบครองของผู้เป็นแม่บางส่วนมาจัดการ เพื่อแสดงอรุณรุ่งโรจน์ของตัวเอง!
ก่อนหน้านั้น นางตัดสินใจแต่งงานกับหลินเหรา แค่เพราะเงินที่อยู่ในมือ
เหยาซูคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นก็พลันลืมตา มองไปทางหลินเหราแวบหนึ่ง
เมื่อชายหนุ่มถูกนางมองด้วยสายตาไม่มีเหตุผลเช่นนี้ จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “อาซู เป็นอะไรไปหรือ?”
ครั้นเหยาซูนึกถึงภาพที่เขาและตู้เหิงรู้จักกันตามในนิยายต้นฉบับ ก็พลันรู้สึกโกรธขึ้งทันที แต่หลินเหราตรงหน้าผู้นี้ไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้
เช่นนี้ เหตุผลที่พาให้ขุ่นเคืองก็มลายหายไป
เหยาซูพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “อย่าแตะต้องผมของข้า! ท่านลูบเช่นนี้ มันทำให้ข้านอนไม่หลับ!”
ความเอาแต่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนางในสายตาของหลินเหรา เป็นความน่ารักอย่างที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียม
หลินเหราหัวเราะเสียงทุ้ม จากนั้นก็ปล่อยมือ
เหยาซูหลับตาลงอย่างไม่สบอารมณ์อีกครั้ง
หลินเหรามองใบหน้าของนางอย่างเงียบ ๆ คิ้วโก่งขมวดเข้าหากัน รอยคล้ำรอบดวงตาปรากฏชัดบนผิวหน้าที่เนียนนุ่มและผุดผ่อง ทำให้เขาอดปวดใจไม่ได้
ดวงตาของชายหนุ่มกวาดมองคิ้วของเหยาซูอย่างละเอียด พลางเอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า “อาซู วันนี้เจ้าช่างกล้าหาญจริง ๆ”
คิ้วของเหยาซูเลิกขึ้นด้วยความตกใจ หากแต่ไม่ได้ลืมตา และไม่พูดสิ่งใด
เขาสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวที่ไม่อาจควบคุมได้บนแพขนตาของนาง ในใจหญิงสาวรู้ดี จนถึงตอนนี้นางไม่อาจสงบใจลงได้เลย
หลินเหราลูบศีรษะของนางอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็หยิบหมอนออกมาแล้ววางลงบนต้นขาของตัวเองให้นางได้หนุนนอน
การเคลื่อนไหวนี้ ทำให้เหยาซูต้องลืมตา ก่อนจะพูดกับเขาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ท่านทำบ้าอะไร?”
สายตาที่เย็นชายหนุ่มดูอ่อนโยนลง ก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “นอนบนตัวข้าเถอะ ข้าจะอยู่ข้างกายเจ้าเอง วันหน้าข้าก็จะอยู่ข้างกายเจ้า เหตุการณ์ในวันนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก”
เหยาซูมองหน้าหลินเหราครู่หนึ่ง กระทั่งรู้สึกแสบในโพรงจมูกอย่างฉับพลัน จากนั้นก็รีบหลับตาในทันที
ความชุ่มชื่นค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาจากดวงตา เหยาซูเมินหน้าหนี แอบถูไถมันกับเสื้อของหลินเหรา…
หลินเหรากุมมือดุจหยกของภรรยาไว้อย่างเบามือ สายตาฉายแววมืดครึ้ม…
………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เป็นกำลังใจให้อาซูค่ะ ฉีกบทประพันธ์ทิ้งแล้วเขียนใหม่แม่ม เอาให้นังตู้กลายเป็นตัวประกอบปลายแถวไปเลย จะได้ไม่ผยองตัวเองว่าเป็นนางเอกแล้วจะทำชั่วอะไรก็ได้อีก
ไหหม่า(海馬)