บทที่ 585 องค์รัชทายาท
บทที่ 585 องค์รัชทายาท
“ข้าเอาผัดแปดเซียน เป็ดตุ๋นข้าวหมากจีน หมูบะช่อปั้นก้อนกลม ผัดสามเซียน ผัดรวมมิตร แกงต้มเนื้อโรยผักใบเขียว แล้วก็เนื้อย่างอีกจานก็พอแล้ว”
“ขอรับ โปรดรอสักครู่” หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว ลูกจ้างในร้านก็ไปจัดเตรียมทันที
ในห้องจึงเหลือเพียงหลินซือและเจี่ยงเถิงแค่สองคน แม้ว่าทั้งสองคนจะเคยอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง แต่หลังจากที่หมั้นหมายกัน หลินซือกลับรู้สึกว่าพี่อาเถิงเหมือนจะอบอุ่นกว่าแต่ก่อน
ทุกครั้งที่นางถูกเขาหยอกล้อจนหน้าแดง ก็ไม่เคยโต้ตอบกลับไปได้สำเร็จเลยสักครั้ง
“พี่อาเถิง ข้าอยากกินแป้งทอดคลุกน้ำตาล” เพราะวันนี้ไม่อยากถูกพี่อาเถิงหยอกล้ออีก หลินซือจึงชิงเล่นก่อน
“ได้สิ เจ้านั่งลงตรงนี้นะ ข้าจะไปซื้อมาให้”
ครั้นเห็นหลินซือ เจี่ยงเถิงก็รู้ทันทีว่านางกำลังคิดสิ่งใด อาซือไม่เคยเป็นคนที่ปิดบังความลับได้เลย
แต่เขาก็ตัดใจทำให้อาซือผิดหวังไม่เคยได้ ดังนั้นจึงตอบรับ แล้วลุกขึ้นเตรียมจะออกไปซื้อของที่นางอยากกิน โดยไม่คิดเลยแม้แต่น้อยว่าอาหารที่เพิ่งสั่งไปเมื่อครู่นั้นจะกินหมดหรือไม่
“อื้อ ข้าไม่หนีแน่นอน” ทันทีที่ตอบรับ เจี่ยงเถิงก็ออกไปแต่ก็ยังไม่ลืมสั่งเด็กในร้านช่วยเฝ้าห้องนี้เพื่อป้องกันไม่ให้อาซือหนีไป
ครั้นเห็นเจี่ยงเถิงออกไปแล้ว ในใจของหลินซือก็ผ่อนคลายลง ช่วงนี้เหตุใดเวลาอยู่กับพี่อาเถิงถึงได้ประหม่าเช่นนี้? เมื่อก่อนไม่เคยเป็นเช่นนี้ หรือจะเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นหลังจากหมั้นหมาย?
หลังจากถามตัวเองอยู่เงียบ ๆ พักใหญ่ ครุ่นคิดจนรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ สุดท้ายก็เปิดหน้าต่างเพื่อดูทิวทัศน์ข้างนอก ฟังเสียงอันวุ่นวายข้างนอก จนจิตใจสงบลงในที่สุด
จากนั้นก็ทำการปิดหน้าต่างลง แล้วกลับมานั่งบนม้านั่งตัวยาวอย่างเบื่อหน่าย รออาหารถูกยกเข้ามา
อีกด้าน
วันนี้องค์รัชทายาทได้รับอนุญาตที่ยากจะได้รับจากองค์จักรพรรดิ ให้เขาออกไปเดินเล่นข้างนอกได้
หลังจากเดินอยู่บนถนนได้ไม่ไกลนัก ดูเหมือนองค์รัชทายาทจะสัมผัสได้ถึงบางอย่าง เขาเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นหลินซือจากข้างหน้าต่าง
ยังไม่ทันตัดสินใจว่าตัวเองจะขึ้นไปเจอนางดีหรือไม่ เท้าเจ้ากรรมกลับย่างตรงไปยังร้านอาหารเสียแล้ว
เขารู้ นั่นคือร้านอาหารที่อาซือชอบกิน เป็ดตุ๋นข้าวหมากของที่นั่นเลื่องชื่อมาก แต่อาซือไม่มีทางออกมาคนเดียวแน่นอน การที่เขาขึ้นไปเช่นนี้จะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปหรือไม่?
หลังจากถามลูกจ้างในร้านอาหารถึงห้องของหลินซือ ก็ได้รู้ว่านางมากับชายอีกหนึ่งคน
จากนิสัยของหลินซือ องค์รัชทายาทเดาได้ว่าชายคนนั้นก็คือเจี่ยงเถิง ถึงอย่างไรนอกจากเจี่ยงเถิงแล้ว ดูเหมือนตระกูลหลินจะไม่ปล่อยให้หลินซือไปกับผู้อื่นง่าย ๆ รวมทั้งองค์รัชทายาทอย่างเขาด้วย
องค์รัชทายาทไม่สนการขัดขวางของลูกจ้างในร้าน เดินตรงเข้าไปยังหน้าประตูห้องนั้น แล้วเปิดประตูทันที
“ฝ่าบาทมาที่นี่ได้อย่างไรเพคะ?”
ครั้นเห็นองค์รัชทายาทปรากฏตัวกะทันหัน หลินซือก็พลันตื่นตระหนกตกใจ
นางบังเอิญได้ออกมาข้างนอก ยังต้องมาเจอเขาอีกหรือ? หรือว่าตัวเองหลบหลีกเขาไม่พ้น?
ก่อนหน้านั้นนางเห็นองค์รัชทายาทเป็นเพียงเด็กน้อย แต่ครั้นนึกถึงการกระทำขององค์รัชทายาทในจวนหลินวันนั้น หลินซือก็อดก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวไม่ได้ ตอนนี้นางทำอะไรไม่ถูก
สองก้าวนี้ ได้สร้างความปวดใจให้แก่องค์รัชทายาทอย่างรุนแรงอีกครั้ง
เขากลายเป็นคนน่ากลัวในจิตใจของนางไปแล้ว เมื่อเจอเขาถึงกับตกใจจนต้องร่นถอย
นางไม่อยากเจอเขาจริง ๆ ใช่หรือไม่? แต่เขากลับอยากเจอนางเหลือเกิน
คำถามที่ยังสับสนอยู่ในใจเขามาตลอดได้รับคำตอบในที่สุด ในเมื่อหลินซือหมั้นหมายแล้วอย่างไร? ตราบใดที่ยังไม่ได้แต่งงานเขาก็ยังมีโอกาส
อีกทั้งในอดีตชาตินางต้องอยู่ข้างกายเขานี่? ชาตินี้ก็ต้องเป็นเช่นนั้น ตราบใดที่อยู่ข้างกายเขา เขาเชื่อว่าตัวเองจะทำให้นางหวั่นไหวได้
“ข้าเห็นเจ้าจากถนนเลยนึกถึงวันวาน ทำไมกัน ไม่อยากเจอข้ารึ?”
“ไม่ใช่เพคะ ฝ่าบาทคือองค์รัชทายาท เป็นบุคคลผู้สูงศักดิ์ หม่อมฉันจะไม่อยากเจอฝ่าบาทได้อย่างไรเพคะ”
หลินซือเผยรอยยิ้มที่ดูแย่ยิ่งกว่าร้องไห้ออกมา
ถ้าเลือกได้ นางคงไม่อยากเจอเขาจริง ๆ ใช่หรือไม่?
เวลานี้ นางเริ่มเสียใจที่ให้พี่อาเถิงออกไปข้างนอก มิเช่นนั้นตัวเองก็ไม่ต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“หมายความว่าอย่างไรพี่อาซือ” ครั้นเห็นหลินซือ องค์รัชทายาทก็ค่อย ๆ รุดหน้าเข้าไปใกล้ กระทั่งนางหมดทางถอยหนี
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของชายหนุ่มที่ไม่คุ้นเคย ในใจของหลินซือก็ส่งสัญญาณเตือน ถ้าองค์รัชทายาทคิดจะทำอะไรขึ้นมาจริง ๆ นางคงไม่มีทางเลือก
“หม่อมฉันแค่ตกใจเท่านั้นเพคะ”
“อือ แบบนี้นี่เอง วันนี้ข้ายังไม่ได้กินข้าว เช่นนั้นข้ากินกับอาซือแล้วกัน”
“องค์รัชทายาท ที่นี่มีคนกินด้วยแล้วเพคะ” ครั้นเห็นองค์รัชทายาทปลีกตัวออกไป หลินซือพลันรู้สึกโล่งอก
พริบตาต่อจากนั้น องค์รัชทายาทก็เดินมายังตำแหน่งทีเจี่ยงเถิงเพิ่งนั่งเมื่อครู่ คล้ายกับพึงพอใจในตำแหน่งนี่มาก หลินซือไม่เข้าใจความคิดขององค์รัชทายาทเลยจริง ๆ
“แต่ข้าไม่เห็นคนอื่น หรือจะบอกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้คือคนในใจของอาซือ หื้อ?”
“องค์รัชทายาทพูดเป็นเล่นเพคะ”
เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่เด็กน้อย แต่กลิ่นอายรอบตัวกลับไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด
หลินซือไม่เข้าใจ ตัวเองดีตรงไหนถึงทำให้องค์รัชทายาทตามตอแยไม่เลิก นางขอเปลี่ยนมันได้หรือไม่?
“อาซืออย่ากลัวไปเลย ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก แค่อยากถามเจ้าสักสองสามคำถาม เจ้าก็ตอบแค่นั้น แต่ถ้าเจ้าไม่ซื่อสัตย์ อย่ามาโทษว่าข้าไม่มีเหตุผลก็แล้วกัน”
“องค์รัชทายาทเชิญถามได้เพคะ” หลินซือไม่ได้นั่งลง แต่ยืนรักษาระยะห่างจากองค์รัชทายาทช่วงหนึ่งอย่างเงียบ ๆ
“เจ้าเคยชอบข้าหรือไม่? หรือเคยสักนิดไหม?”
องค์รัชทายาทไม่เชื่อว่าคนที่ชอบตัวเองก่อนหน้านั้น วันนี้จะไม่เหลือเยื่อใยให้เขาแม้แต่น้อยเช่นนี้
เช่นนั้นเขาจะย้อนกลับมาเกิดใหม่เพื่อสิ่งใดกัน? การได้ครอบครองบัลลังก์เขาไม่สนใจ ถึงอย่างไรถ้าไม่มีคนตรงหน้า ของเหล่านั้นก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา ชีวิตที่เขาได้ประสบมามันกลายเป็นสิ่งด้อยค่าสำหรับเขาไปแล้ว
“ไม่เคยเพคะ หม่อมฉันไม่เคยรู้สึกอะไรกับองค์รัชทายาทมาก่อน หม่อมฉันเห็นฝ่าบาทเป็นเพียงน้องชายเท่านั้นเพคะ”
หลินซือไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดองค์รัชทายาทถึงได้ตื๊อนางเช่นนี้
………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เอะอะก็นึกถึงแต่ซวีจ้าวนะเอ้อหลาง จัดเขาไว้ในตำแหน่งคนในใจสินะคะ
ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกอาจใช้ไม่ได้กับอาซือนะเพคะองค์รัชทายาท แบบนี้น่ะเรียกว่าสตอล์กเกอร์
ไหหม่า(海馬)