คุรุการแพทย์ – บทที่ 214 ยินดีด้วย เป็นเด็กผู้ชาย!

คุรุการแพทย์

บทที่ 214 ยินดีด้วย เป็นเด็กผู้ชาย!

บทที่ 214 ยินดีด้วย เป็นเด็กผู้ชาย!

เมื่อเอ่ยเช่นนี้ แสดงว่าหลี่เหวินป๋อมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

ด้วยเพราะเขาได้พบผู้หญิงทั้งยี่สิบคนแล้วจึงรู้ดีว่ามีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ตั้งครรภ์เพียงหนึ่งหรือสองสัปดาห์เท่านั้น และไม่สามารถถามเรื่องประจำเดือนหรือเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจนนัก

ในห้องถ่ายทอดสด ทุกคนคิดว่ามันไม่มีอะไร

ท้ายที่สุดแล้ว กระบวนการทั้งหมดก็อยู่ตรงหน้า

ฟางชิวเป็นคนแรกที่รู้สึกถึงชีพจรตั้งครรภ์ แล้วจึงพูดออกมาเมื่อจับได้ จากนั้นจึงซักถามเพื่อยืนยันการวินิจฉัยเท่านั้น ไม่ได้เอ่ยปากเพื่อสอบถามตั้งแต่ต้นก่อนบอกว่าเป็นชีพจรตั้งครรภ์

กระบวนการทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังสัมผัสถึงชีพจรตั้งครรภ์จริง ๆ

หากแต่…

แม้ว่าพวกเขาจะยืนยันผลลัพธ์ที่ฟางชิวแสดงออกมาได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าผลการตรวจชีพจรของฟางชิวถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่ผลลัพธ์สุดท้ายจะได้รับการรับรอง

ดังนั้นทุกคนจึงมองไปยังพนักงานรับรอง

“เชิญพนักงานรับรองครับ” หลี่เหวินป๋อเอ่ยกับพนักงานเพียงเท่านั้น

เธอจึงพยักหน้า ก่อนเริ่มทำการรับรองทันที

เพียงครู่เดียว

“ได้รับการยืนยันแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งครรภ์จริงค่ะ” หญิงวัยกลางคนประกาศก้อง

เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา การถ่ายทอดสดก็พลันร้อนระอุ

คนส่วนใหญ่ตกตะลึงกับผลลัพธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่เชื่อในการแพทย์แผนจีน เมื่อเห็นว่าฟางชิวสามารถจับชีพจรตั้งครรภ์ได้ พวกเขาล้วนกลายเป็นคนโง่ทันที

บ้าเอ๊ย จับได้จริงด้วย!

จะเป็นไปได้อย่างไร?

แม้ว่าจะเป็นไปได้ แต่ก็มีเหตุผลที่จะกล่าวว่าการแพทย์แผนจีนไม่สามารถทำได้หากปราศจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายทศวรรษ

ผู้ชายคนนี้ทำได้อย่างไร?

ไม่ใช่แค่พวกเขา

แม้แต่ผู้สนับสนุนวงการแพทย์แผนจีนยังตกตะลึง

หากแต่แตกต่างจากผู้สนับสนุนการแพทย์แผนตะวันตก ตรงที่ผู้ที่สนับสนุนแพทย์แผนจีนเหล่านี้รู้สึกว่าฟางชิวมีลักษณะของแพทย์แผนจีน หลังจากได้เห็นการจับชีพจรกับการสอบถามเพื่อวินิจฉัยโรค แต่ลักษณะภายนอกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยอะไร ด้วยประสบการณ์ในตอนนี้ของชายหนุ่มย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะจับชีพจรตั้งครรภ์ได้

แต่ตอนนี้ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่มีรูปร่างดีเช่นนี้ย่อมมองไม่เห็นถึงการตั้งครรภ์ แต่ฟางชิวกลับสัมผัสได้!

นั่นหมายความว่ารับรู้ถึงชีพจรตั้งครรภ์จริง ๆ !

ฮ่า!

ดูเหมือนว่าอย่างน้อยฟางชิวก็ไม่ไร้ประโยชน์ไปเสียทีเดียว!

ชั่วขณะหนึ่ง

ห้องถ่ายทอดสดเต็มไปด้วยเสียงเชียร์จากผู้สนับสนุนการแพทย์แผนจีน ผู้คนทุกประเภทที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนต่างพากันแสดงความคิดเห็น 666 ทำให้เกิดความประหลาดใจปกคลุมทั้งห้อง

ด้านหนึ่ง บรรดาผู้ที่ได้รับชมการถ่ายทอดสดที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้พลันทอดถอนใจด้วยความโล่งอก

“ต้องแบบนั้น!”

ในหอพักหญิงของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง ตอนที่เธอได้ยินฟางชิวจับชีพจรตั้งครรภ์ เจียงเหมี่ยวอวี๋ผู้นิ่งสงบกลับสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ดวงตาของเธอที่ดูวิดีโอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและระทึกใจ

แม้ว่าในตอนแรก เจียงเหมี่ยวอวี๋จะบอกว่าเธอสนับสนุนฟางชิว

แต่นั่นเป็นเพียงการพูดคุยเท่านั้น

ในความเป็นจริงแล้ว เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ในใจเธอไม่ได้คิดว่าฟางชิวจะคว้าชัยชนะได้ ถึงแม้ว่าจะรู้แบบนั้น แต่ยังเลือกที่จะสนับสนุนอย่างดื้อดึงและจะคอยอยู่เคียงข้างเขา

และเมื่อถือครองความคิดนี้ไว้

ทำให้เมื่อได้ยินทนายความประกาศผลยืนยันว่าฟางชิวจับชีพจรได้อย่างถูกต้อง เจียงเหมี่ยวอวี๋จึงตกตะลึงเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ !

ฟางชิวจับชีพจรตั้งครรภ์ได้จริง ๆ !

‘ทำให้ดีแบบนี้ต่อไป!’ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและเบิกบานใจอย่างท่วมท้น เจียงเหมี่ยวอวี๋จึงแอบเชียร์ฟางชิวอยู่ในใจ

นอกจากเธอแล้วยังมีเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ย

“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้”

ในตอนที่ดูการถ่ายทอดสด เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยไม่แสดงอารมณ์ใดมาก จะมีเพียงก็แต่รอยยิ้ม

ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ฟางชิวตั้งแต่แรก แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากจนมองไม่เห็นใบหน้าของเขาก็ตาม

ชุมชนในเมืองเจียงจิง ฉีไคเหวินวิ่งตึงตังขึ้นไปชั้นบนตรงไปกดรหัสเพื่อเปิดประตู

ทันเห็นสวีเมี่ยวหลินกำลังดูการถ่ายทอดสดพร้อมดื่มชา

“ฮ่าฮ่า…” ฉีไคเหวินหัวเราะเสียงดังพร้อมวิ่งตรงไปนั่งข้างสวีเมี่ยวหลิน “ศิษย์น้อง ให้ฉันดูด้วยสิ”

“ไม่ให้” สวีเมี่ยวหลินบึนปาก

“ศิษย์น้อง ลูกศิษย์คนนี้ของนาย ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถไม่น้อยเลยนะ” ฉีไคเหวินเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างไม่ถือสา

อาคารสำนักงานฝ่ายบริหาร ห้องทำงานรองอธิการบดี

“หืม?”

เฉินอินเซิงที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พลันยืดตัวขึ้นขณะเลิกคิ้ว สายตาจ้องไปยังหน้าจอถ่ายทอดสดพลางพึมพำด้วยความประหลาดใจ “เด็กคนนี้ตอบถูกอีกแล้ว?”

“เจ้าเด็กนี่มีความสามารถไม่น้อยเลย”

“ฉันเข้าใจเขาผิดไปเหรอ …ก็ไม่!”

ไม่ใช่แค่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน นักศึกษาทุกคนของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงที่กำลังดูการถ่ายทอดสดต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ดูเหมือนว่าฟางชิวยังพอมีทักษะบางอย่างอยู่

เมืองหลวง อาคารจงเฟิงชั้นยี่สิบเอ็ด ห้องประชุมสาม

ณ ห้องแข่งขัน

“หึ”

ขณะที่พนักงานรับรองประกาศ หลี่เหวินป๋อก็ครางต่ำในลำคอด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “นับคุณด้วยอีกหนึ่งก็ผ่านไปแล้วสามคน แต่ยังมีอีกสิบเจ็ดคน!”

“คนที่สี่ เชิญ!”

เมื่อเอ่ยจบ ผู้หญิงอีกคนก็ถูกพามายังห้องประชุม

ผู้หญิงคนนี้รูปร่างดี สูง และสวมหน้ากากเช่นกัน

ด้วยความสูงของเธอ การปรากฏตัวจึงดึงดูดความสนใจของผู้คนในห้องถ่ายทอดสดได้โดยพลัน

ใครจะคาดคิดว่าการแข่งขันจะเบิกบานใจได้เช่นนี้ เพียงแค่ใส่หน้ากากไม่ได้เห็นหน้าด้วยซ้ำ

เวลาเดียวกัน ฟางชิวเริ่มจับชีพจร

หนึ่งนาทีต่อมา

“ไม่ใช่ชีพจรตั้งครรภ์ คุณไม่ได้ท้องครับ” ชายหนุ่มหยุดมือพร้อมเอ่ยคำ

จากการสัมผัสแล้วไม่มีชีพจรลื่นโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงไม่มีการตั้งครรภ์

พนักงานรับรองเริ่มทำการรับรองทันที

“ผลการตรวจสอบ… พบว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ตั้งครรภ์จริงค่ะ”

พนักงานรับรองประกาศผลออกมา และเป็นอีกครั้งที่ฟางชิวเป็นฝ่ายถูก!

นี่เป็นครั้งที่สี่แล้ว

ตอบถูกทุกครั้ง!

“เชิญคนต่อไป!” ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเล็กน้อย เมื่อผลชีพจรของผู้หญิงคนที่สี่เพิ่งประกาศออกมา หลี่เหวินป๋อก็ลุกขึ้นโดยพลัน ด้วยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฟางชิวจะวินิจฉัยผิด

ในระหว่างนี้ ผู้หญิงคนที่ห้าเข้ามา

เธอมีรูปร่างปกติ ไม่อ้วนหรือผอม ดูไม่ออกเลยว่าตั้งครรภ์หรือไม่

ฟางชิวรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่หลี่เหวินป๋อเป็นคนจัดการเรื่องนี้เองอย่างแน่นอน เพียงเพื่อจะไม่ให้เขารับรู้ได้ว่าท้อง แม้ว่าคนที่ดูเหมือนจะท้อง ล้วนทำให้สับสนทั้งสิ้น

แต่เขาไม่ได้สนใจนัก เขาจะวินิจฉัยอย่างเด็ดขาดจากชีพจร ไม่ใช่ตา!

“เชิญนั่งครับ” ฟางชิวเอื้อมมือไปหาผู้หญิงคนนั้นพร้อมเอ่ยคำ เมื่อผู้หญิงคนนั้นยื่นมือขวาออกมา เขาจึงเริ่มจับชีพจร

“หืม?” ในขณะที่จับชีพจร ชายหนุ่มก็เลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ ก่อนจะยกยิ้ม

คนอื่นก็งุนงงไปตาม ๆ กัน ในทางกลับกัน หลี่เหวินป๋อมองไปยังฟางชิวอย่างนิ่งเฉย

“คราวนี้คงไม่ต้องถามแล้วละ” หลังจากจับชีพจรแล้ว ฟางชิวก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างตรงไปตรงมา “ชีพจรตั้งครรภ์ ขอแสดงความยินดีกับการตั้งครรภ์ของคุณ ถ้าผมเดาถูก …อืม น่าจะเป็นเด็กผู้ชายครับ”

“จริงเหรอ?” หญิงตั้งครรภ์เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าเบา ๆ ยืนยัน

บ้าไปแล้ว!

ทุกคนตกตะลึง

นี่มันอะไรกัน?

ไม่เพียงแต่บอกได้ว่าท้อง แต่ยังรับรู้ได้ว่าคนคนนั้นกำลังอุ้มท้องเด็กผู้ชายอยู่?

อีกทั้งเมื่อมองดูปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนี้ ดูเหมือนว่าเธอกำลังตั้งครรภ์จริง ๆ

ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียว?

ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดต่างตกตะลึง หลี่เหวินป๋อที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็เช่นกัน

ใครจะคาดคิดว่าฟางชิวสามารถเล่นเกมนี้ได้

แม้แต่เพศของทารกในครรภ์ยังสามารถระบุได้โดยการจับชีพจร?

วิทยาศาสตร์เทียมของการแพทย์แผนจีนสุดยอดขนาดนี้เลยหรือ?

ท่ามกลางความสงสัยในใจ

หลี่เหวินป๋อรีบไปมองพนักงานรับรอง “เชิญพนักงานรับรอง”

ผู้ชมที่อยู่ในห้องถ่ายทอดสดต่างมองไปยังพนักงานรับรองเพื่อรอการประกาศผลเช่นกัน

เพียงครู่เดียว “ยืนยันว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งครรภ์จริง แต่ไม่สามารถยืนยันเพศของทารกในครรภ์ได้”

เมื่อผลออกมาแล้ว ผู้ชมการถ่ายทอดสดพลันระเบิดความคิดเห็น

[ให้ตายเถอะ! อีกแล้ว!!!]

[เป็นไปได้ยังไง?]

[นี่เป็นเรื่องโกหกใช่ไหม ที่บอกเพศของทารกในครรภ์ได้?]

ผู้สนับสนุนการแพทย์ตะวันตกต่างตกตะลึง

มันดูเป็นเรื่องหลอกลวงในสายตาของพวกเขา ทั้งยังเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเป็นไปได้

ร่วมมือกันใช่ไหม?

แต่ลองคิดดูว่านักเคลื่อนไหวต่อต้านการแพทย์แผนจีนระดับฮาร์ดคอร์อย่างหลี่เหวินป๋อจะสมรู้ร่วมคิดกับฟางชิวได้อย่างไร!

เมื่อเทียบกับผู้สนับสนุนการแพทย์ตะวันตก ผู้สนับสนุนการแพทย์แผนจีนเองต่างก็สับสน!

[ถูกอีกแล้วเหรอ?]

[ไม่น่าเชื่อ ถูกอีกแล้วเหรอ?]

[นี่ยังเป็นการหลอกลวงอยู่อีกรึเปล่า?]

[ไม่สิ คราวที่แล้ว ฟางชิวเอ่ยถามเกี่ยวกับชีพจรตั้งครรภ์ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ถามอะไรเลย กลับเอ่ยบอกถึงชีพจรตั้งครรภ์และเพศของทารกในครรภ์ได้ทันที หมายความว่ายังไง …หมายความว่าการแพทย์แผนจีนสามารถรับรู้ถึงชีพจรตั้งครรภ์ได้จริง ๆ !]

[ไม่เลว เด็กคนนี้ดูแล้วมีพรสวรรค์ที่แท้จริงบางอย่าง]

นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ทั้งยังน่าประหลาดใจไม่น้อย

เกินความคาดหมายไปมากทีเดียว!

“ถูกอีกแล้ว! ถูกอีกแล้ว!”

มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง

หอพักหญิง

เจียงเหมี่ยวอวี๋ที่นั่งอยู่ข้างหยวนเป้ยพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ๆ รู้สึกตื่นเต้น

อย่างไรเสีย ฟางชิวก็เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง ทั้งยังเป็นเพื่อนของพวกเขา คงไม่แปลกหากจะรู้สึกยินดีที่เห็นว่าฟางชิวตอบคำถามได้ถูกต้อง

ในหอพักชาย

“ยอดเลย จับชีพจรได้อีกครั้งแล้วสินะ เจ้าห้า”

โจวเสี่ยวเทียนมองฟางชิวในวิดีโอด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ “น้องเล็กนี่สุดยอดจริง ๆ ตอบถูกต้องหลายข้อติดต่อกัน”

“ฮ่าฮ่า น้องเล็กก็คือน้องเล็ก สุดยอด!”

เมื่อความตกใจผ่านพ้นไป ซุนฮ่าวพลันหัวเราะออกมาเสียงดัง

“แน่นอน น้องเล็กไม่ทำให้เราผิดหวัง”

จูเปิ่นเจิ้งพยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ ก่อนเอ่ยต่อด้วยท่าทางตื่นเต้น “ไม่ต้องพูดแล้ว ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ !”

ห้องทำงานรองอธิการบดี

“ฮะ?”

เมื่อเห็นว่าฟางชิวตอบถูกต้อง เฉินอินเซิงพลันจ้องเขม็งเป็นอันดับแรก ก่อนจะกล้ำกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

“เด็กคนนี้ …ไม่ใช่ว่าจะเอาชนะหรอกใช่ไหม?”

“ไม่ เป็นไปไม่ได้!”

“แต่อาจารย์ของเขาคือ สวีเมี่ยวหลิน ดังนั้นบางที…”

“แต่เขาเป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่ง”

สีหน้าของเฉินอินเซิงพลันแปรเปลี่ยนโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ในโรงพยาบาล

ทั้งเสิ่นชุนและซูมู่ตงเองก็รู้สึกประหลาดใจ

พวกเขาทราบดีว่าฟางชิวมีความสามารถในการจัดกระดูก แต่ความสามารถอันน่าทึ่งในการตรวจชีพจรเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด

คนที่ตกใจที่สุดในโรงพยาบาลย่อมไม่พ้นเฉาเจ๋อ

เขาเฝ้าดูชายหนุ่มเข้าทำงานที่โรงพยาบาล เดินทีละก้าว ๆ จากนักศึกษาปีหนึ่งไปยังตำแหน่งที่เขาอยู่ตอนนี้

เขาไม่สามารถยอมรับความแข็งแกร่งการจัดกระดูกที่น่ากลัวของฟางชิวได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้กลับพบว่าความสามารถของฟางชิวในการวินิจฉัยชีพจรก็น่ากลัวเช่นกัน

ชั่วขณะหนึ่ง

เฉาเจ๋อทั้งดีใจทั้งหดหู่

โชคดีที่ฟางชิวเป็นตัวแทนของวงการแพทย์แผนจีน แม้ว่าเขาจะตอบคำถามเหล่านี้ถูกต้อง แต่หากตอบคำถามหลังจากนี้ผิดไป เขาย่อมไม่สร้างความอับอายให้กับการแพทย์แผนจีน

กระนั้นอีกใจก็รู้สึกหดหู่ที่ฟางชิวพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และเมื่อหันไปมอง ก็พบว่าแทบจะมองไม่เห็นหลังของฟางชิวอีกต่อไป…

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท