ตอนที่66 ไม่ใช่ฉัน
เจียงเสี่ยวปิงบอกว่า เธอจ้างคนให้มาติดตามถ่ายคลิปจ้าวเฉียนไว้แล้วก็จริง แต่หยางหมิงยังดูกังวลเล็กน้อย จึงเอ่ยถามไปว่า
“เธอจ้างมาแล้ว? ฉันเชื่อใจได้ใช่ไหม?”
เจียงเสี่ยวปิงพยักหน้าตอบว่า
“แน่นอน มันเชื่อใจได้ เจ้าหมอนี่ที่จ้างมา มันเป็นแฟนเก่าของฉันตอนสมัยเรียนมหาลัย ฉันบอกไปว่าถ้าทำสำเร็จ บางทีฉันอาจจะเปิดใจลองคุยกันดูอีกสักรอบ ดูมันก็กระตือรือร้นดีนะ”
หยางหมิงอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ และจงใจกล่าวเสียดสีเจียงเสี่ยวปิงขึ้นว่า
“ในใจของเขา เธอยังคงเป็นเทพธิดาอยู่เหนือหญิงสาวทั้งปวง แต่ฉันอยากรู้จริงๆ ถ้าเขารู้ว่าเธอผ่านมือผู้ชายมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว เขายังยอมทำเพื่อเธอขนาดนี้ไหม?”
สีหน้าของเจียงเสี่ยวปิงพลันแปรเปลี่ยนไปทันที เธอปริปากถามหยางหมิงไปว่า มันหมายความยังไงกันแน่? ตอนนี้พวกเขาเป็นพันธมิตรกัน ดังนั้นไม่เห็นต้องพูดจาทำร้ายจิตใจกันเองแบบนี้เลย
หยางหมิงระเบิดหัวเราะขึ้นซ้ำสอง กล่าวปลอบโยนไปว่า
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถึงปากฉันจะร้าย แต่ไม่มีทางทรยศเธอแน่นอน ดูท่าเขาคนนี้คงเป็นทางหนีทีไล่ที่เธอกำลังจะเกาะใช่ไหม? ถ้าเธอทำตัวดี ฉันเองก็ย่อมดีตอบ แต่ถ้าไม่…ฉันเองก็ไม่รับประกันนะว่า จะเก็บความลับของเธอไว้อยู่ไหม?”
เจียงเสี่ยวปิงแอบผงะเล็กน้อยภายในใจ และรีบแสดงความภักดีต่อหยางหมิงทันทีว่า
“ฉันไม่คิดจะก่อปัญหาให้นายอยู่แล้ว ที่รวมตัวกันครั้งนี้ก็เพื่อกำจัดจ้าวเฉียนให้พ้นสายตา นายเองก็ถูกหมอนั่นเล่นงานมาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? จบเรื่องนี้ก็ทางใครทางมัน”
หยางหมิงเป็นคนไร้ซึ่งความซื่อสัตย์ ไม่มีคุณธรรมอยู่ในจิตใจแม้สักนิด ในสายตาของเขา ไม่มีสิ่งใดถูกหรือผิด ตราบเท่าที่สิ่งนั้นมีประโยชน์ต่อตัวเขา ต่อให้จะเป็นพ่อแท้ๆ เขาก็กล้าทรยศเพื่อให้ได้มาครองเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงความคิดที่สุดแสนจะดำมืดในส่วนลึกของจิตใจ เพียงผิวเผินเช่นนี้เขาก็แค่ตบปากรับคำไปอย่างนั้น เพื่อให้เจียงเสี่ยวปิงเบาใจลง
“ฉันเองก็ไม่คิดจะทำอะไรเธอแล้ว หลังจากนี้ก็ทางใครทางมันนั้นแหละ”
หยางหมิงพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเริ่มเล่นเกม
ในอีกด้านหนึ่ง…
จ้าวเฉียนกับหวานเจียงในสภาพนุ่งน้อยห่มน้อย ทั้งเสื้อผ้าและชุดชั้นในต่างกระเด็นหลุดรุ่ย ตอนนี้พวกเขากำลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์กันในรถ ภายใต้ฤทธิ์ยาปลุกอารมณ์ไม่มีใครสามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้เลย ไม่ว่าจะเป็นจ้าวเฉียนหรือหวานเจียง ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ภายในรถกลับสู่ความสงบอีกครั้ง คนที่เจียงเสี่ยวปิงจ้างมารีบกดยุติการถ่ายและรีบแจ้นกลับไปทันที
เจียงเสี่ยวปิงและหยางหมิงกำลังนั่งรออยู่ในห้องอาหาร ทั้งคู่ต่างมีสีหน้าดูกังวลเล็กน้อย พอเห็นคนที่ไปแอบถ่ายตรงเข้ามา เธอก็รีบผลักอีกฝ่ายไปด้านนอกและหยิบมาดูทันที
เจียงเสี่ยวปิงตรงมาหลบมุมที่บันไดและกล่าวขึ้นว่า
“จางหมิง ได้ความยังไงบ้าง?”
จางหมิงคือคนที่ได้รับหน้าที่ให้ไปแอบถ่ายจ้าวเฉียนกับหวานเจียง
“แน่นอน เก็บถ่ายทุกอย่างตามที่เธอต้องการ ไอ้เจ้าจ้าวเฉียนมันอดอยากมาจากไหน? ทั้งคู่เริ่มเผด็จศึกตั้งแต่ยังไม่ทันขึ้นรถด้วยซ้ำ ไม่อายคนอื่นเขาเลย เอาล่ะฉันทำตามที่เธอบอกหมดแล้วนะ ดังนั้น…เรื่องของเรา…”
เจียงเสี่ยวปิงแสร้งทำเป็นส่งสายตาหยาดเยิ้มให้ ทรวดทรงโค้งเว้าบิดโชว์พราวเสน่ห์ เอ่ยเสียงกระเส่าหวาน เป่าดูอีกฝ่ายไปว่า
“จางหมิง อย่าเพิ่งใจร้อนไปสิ ฉันกับเจ้านั้นอีกไม่นานก็จบกันแล้ว ทันทีที่ฉันเลิกกับมัน ฉัน…จะไปหานายทันที”
จางหมิงพยักหน้าตอบอย่างมีความสุข รีบอัปโหลดคลิปดังกล่าวส่งให้เจียงเสี่ยวปิงและเดินจากไปทันที
เจียงเสี่ยวปิงหลบสายตาเบี่ยงเบนไปทางอื่น เธอรู้สึกขยะแขยงเล็กน้อยที่ต้องพูดแบบนี้กับคนที่เธอไม่ได้รักแล้ว แล้วยังไงล่ะ? ถ้าเธอมีปัญหาจริงๆ ค่อยไปเกาะมันกินยังไม่สายจริงไหม?
เธอเดินกลับเข้าห้องอาหารไปหาหยางหมิง
หยางหมิงที่เห็นว่าเจียงเสี่ยวปิงกลับมาแล้ว เขารีบลุกขึ้นทันทีและเอ่ยถามว่า
“เป็นยังไงบ้าง?”
“หมอนั่นบอกว่า ถ่ายทุกอย่างที่ฉันต้องการไว้แล้ว เรามาดูกัน”
หลังจากพูดจบ เธอก็เปิดคลิปดังกล่าวขึ้นมา หยางหมิงรีบโน้มตัวเข้ามาดูพร้อมรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ประดับใบหน้า แต่ทันทีที่เขาเห็นหญิงสาวที่กำลังจูบกับจ้าวเฉียนอย่างดูดดื่มในอ้อมแขน รอยยิ้มที่ว่ากลับแข็งค้างไปชั่วขณะ
เจียงเสี่ยวปิงเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความระมัดระวังว่า
“เป็นอะไรไป? นายรู้จักผู้หญิงในคลิป?”
หยางหมิงปัดมือถือในมือเธอทิ้งทันทีด้วยความโกรธจัด คำรามลั่นขึ้นว่า
“ไอ้เวร! มึงให้ไวน์แก้วนั้นให้ผู้หญิงคนนี้กินเหรอ?!”
เจียงเสี่ยวปิงรีบส่ายหัวโดยไวเพื่อปฏิเสธคำกล่าวหาอีกฝ่าย แต่หยางหมิงเหรอจะเชื่อ?
เขายกมือขึ้นตบหน้าเธอเสียงดังฉะใหญ่
“ไม่ห่าอะไรล่ะ! ถ้ามึงไม่ได้ให้เธอกิน แล้วเธอจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง?!!”
ด้วยความตื่นตระหนก เจียงเสี่ยวปิงเร่งอธิบายว่า
“ฉันไม่ได้ให้เธอกินจริงๆ ฉันให้ไวน์แก้วนั้นกับจ้าวเฉียนเองเลยนะ ถึงเธอจะเผลอดื่มไปก็ตามที แต่มันก็ไม่สำคัญแล้ว จ้าวเฉียนพลาดท่าไปมีอะไรกับเธอบนรถ คลิปนี้ต้องใช้จัดการมันได้แน่นอน! ทำไมนายถึงดูห่วงเธอขนาดนั้น?”
“ไอ้โง่! เธอเป็นคู่หมั้นฉัน!”
ยิ่งได้ฟังหยางหมิงยิ่งเดือดจัด เขาลุกขึ้นพรวดพร้อมกดศีรษะของเจียงเสี่ยวปิงอัดกระแทกบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะทุบตีเธอไม่ยั้งมือ
เจียงเสี่ยวปิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที เธอรีบยกมือไหว้หยางหมิง รีบร้อนร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่าย
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ! ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นคู่หมั้นของนาย ลอง…ลองดูคลิปให้จบก่อนไหม บาง…บางทีพวกเขาอาจจะไม่มีอะไรเกินเลย…”
หยางหมิงรู้สึกขยะแขยงเกินกว่าจะนั่งดูคลิปต่อไปได้ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการแค่คลิปจ้าวเฉียนไปมีอะไรกับหญิงอื่น แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นหวานเจียง ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกจ้าวเฉียนก่อนด้วย ยิ่งคิดยิ่งแค้นในเข้าไปใหญ่ เขากำหมัดแน่นชกใส่เจียงเสี่ยวปิงอีกชุดใหญ่ ก่อนจนอารมณ์เย็นลง
เจียงเสี่ยวปิงในตอนนี้ ทั้งปากทั้งจมูกบวมเป๋ง เธอรีบคว้ากล่องทิชชู่ดึงออกมาซับเลือดบนใบหน้า สองมือพนมไหว้เขาอย่างสั่นกลัว เธอขอโทษทั้งน้ำตาว่า
“นายน้อยหยาง ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้จริงๆ! ถ้ารู้แต่แรกว่าเธอเป็นคู่หมั้นคุณ ฉันคงรีบไปห้ามแล้ว”
หยางหมิงกรนด่าสาปส่งไม่หยุด ภายในใจรู้สึกขมขื่นแทบไร้เรี่ยวแรง
“ให้ตายเถอะ!!!”
ในขณะเดียวกัน หนึ่งคำถามผุดขึ้นมาในใจทันที คลิปวีดีโอนี้จะส่งให้ฟางนี่ดูดีหรือไม่? เพราะท้ายที่สุดนี้ กล่าวได้ว่านักแสดงนำหญิงคือหวานเจียง ถ้าหากเธอสืบทราบทีหลังจนรู้ต้นตอคนปล่อยคลิป เธอไม่เอาหยางหมิงไว้แน่
หยางหมิงก็รู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่นึกถึงภาพฉากที่จ้าวเฉียนหลับนอนกับหวานเจียง แต่อย่างที่ว่าคิดไปก็บั่นทอนจิตใจโดยเปล่า สุดท้ายนี้เขาจำต้องทำให้จ้าวเฉียนกับฟางนี่แตกหักกันให้ได้
“มึงเอาคลิปนี้ไปให้เจ้านายมึงดู แต่จำไว้ให้ดี ถ้าใครถามว่าได้คลิปนี้มาจากไหนห้ามบอกชื่อกูเด็ดขาด! อย่าให้ใครก็ตามรู้ว่ากูมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ ไม่งั้นกูจะจับมึงถ่วงไว้กับหินและโยนลงแม่น้ำ!”
เจียงเสี่ยวปิงรีบพยักหน้าตอบทันทีอย่างหวาดผวา พร้อมยืนยันกับหยางหมิงว่า
“แน่นอน แน่นอน! ฉัน…ฉันไม่บอกใครแน่นอน!”
“ไสหัวออกไป!!”
หยางหมิงชี้หน้าไล่เธอออกไป และหยิบไวน์ขวดหนึ่งขึ้นกระดกรวดเดียว
เจียงเสี่ยวปิงไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว เธอรีบวิ่งหนีออกไปหน้าโรงแรมและเรียกแท็กซี่กลับทันที
เวลาเดียวกัน ณ ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ภายในรถจากัวร์ของจ้าวเฉียน ทั้งหวานเจียงและจ้าวเฉียนยังคงนั่งหลับในสภาพเปลือยกาย เนื่องจากเพิ่งผ่านศึกหนักไป ด้วยความเหน็ดเหนื่อยและฤทธิ์ยาที่กดประสาท จึงทำให้ทั้งคู่ยังไม่ฟื้นตัวดี
ผ่านไปอีกสักครู่ ทั้งคู่ที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา ก็รีบสวมเสื้อผ้ากลับเป็นดังเดิม ด้วยความช็อกและหลากหลายอารมณ์ที่พลั่งพรูเข้ามาในคราเดียว จึงทำให้บรรยากาศภายในรถเงียบสงัด ชนิดที่ว่าไม่มีใครกล้าปริปากพูดใดๆทั้งสิ้น
ครั้งนี้จ้าวเฉียนผิดเต็มประตู นี่เป็นครั้งแรกของหวางเจียง เธอไม่เคยผ่านมือผู้ชายคนใดมาก่อนในชีวิต แล้วจะปล่อยให้จ้าวเฉียนไม่รับผิดชอบแบบนี้งั้นเหรอ?
ในทางตรงข้าม ไม่ใช่ว่าจ้าวเฉียนไม่อยากจะรับผิดชอบ แต่เพียงว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงแบบเธอ ถ้าเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน ใจดี และอบอุ่น เขาเองก็ขอรับผิดชอบด้วยความยินดี
สมองของหวานเจียงราวกับรวนไปชั่วขณะหนึ่ง หลังส่งเสียงพึมพำอยู่นานสองนาน เธอก็คว้าคอเสื้อจ้าวเฉียน ฉุดกระชากด้วยความโกรธจัด และถามขึ้นว่า
“แกใส่อะไรลงไปในไวน์แก้วนั้น?!”
จ้าวเฉียนทราบดีว่าไวน์แก้วนั้นต้องมียาอะไรบางอย่างผสมอยู่แน่นอน แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้จะให้อธิบายยังไง? บอกไปว่าเจียงเสี่ยวปิงส่งไวน์แก้วนี้ให้เขา เธอคงเชื่อ?
“หยุดเลย! ตอนนั้นฉันมือไม่วางเลยฝากให้เธอถือเฉยๆ! เธอนั้นแหละที่ดันซัดจนหมดแก้ว! เดี๋ยวก่อนนะ ทันทีที่ฉันได้รับไวน์แก้วนี้มา ฉันก็จิบไปตั้งสองคำ แล้วทำไมยังปกติดีล่ะ? หรือบางที…อาจเป็นคนที่มากินข้าวกับเธอนั้นแหละวางยาในอาหาร พอเธอ…เธอจูบฉัน…ฉันก็เลยโดนวางยาไปด้วย! อย่ามาปัดความรับผิดชอบให้ฉัน!”
หวานเจียงส่ายหัวทันที เธอสวนตอบกลับไปว่า
“เป็นไปไม่ได้! เพื่อนฉันคนนี้เพิ่งกลับมาจากอเมริกา เขาพยายามตามจีบฉัน แถมยังดูแลฉันอย่างดีมาโดยตลอด เขาจะทำเรื่องต่ำทรามแบบนี้ได้ยังไง?”
เมื่อจ้าวเฉียนได้ยินแบบนั้น มันก็ยิ่งย้ำความมั่นใจของเขาเข้าไปใหญ่
“ถ้าเป็นคนอื่นฉันยังพอเชื่อใจได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากปากเธอ ฉันเชื่อไม่ลงจริงๆ! เธอแหละที่โง่ให้มันวางยาในอาหาร!”
“นี่แกหยุดพูดไร้สาระสักที! เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน! ทั้งหมดเป็นฝีมือนายนั้นแหละ อย่ามาใส่ร้ายคนอื่น!”
“เธอนี่มันโง่จริงๆ! ลองใช้สมองของเธอคิดดูให้ดีนะ เขาไม่เคยจีบเธอติดตั้งแต่เรียนด้วยกันที่อเมริกา ดังนั้นมันคงถึงขีดจำกัดแล้ว จึงใช้วิธีสกปรกแบบนี้จัดการกับเธอ! ตราบใดที่ได้เธอมาเป็นภรรยา นั้นหมายความว่าเขาจะได้รับฮวาหยิน กรุ๊ปมาครอบครองไปในตัว เธอเองก็อยู่ในวงการธุรกิจมาหลายปีแล้ว กลับตกม้าตายเรื่องโง่ๆแบบนี้จริงเหรอ?”
หวานเจียงปิดปากเงียบไปชั่วขณะพอถูกจ้าวเฉียนสวดใส่ยกใหญ่ หรือเป็นไปได้ไหมว่า หวานฮันซูจะวางยาเธอจริงๆ? แต่เขาดูไม่ใช่คนแบบนั้นเลย