ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 194 ถูกกักบริเวณ

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ตอนที่194 ถูกกักบริเวณ

เมื่อจ้าวเฉียนตื่นขึ้นมา หวานเจียงก็จากไปแล้ว แต่พอเหลือบสังเกตก็เห็นผ้าห่มผืนหนึ่งอยู่บนร่างกาย เห็นแบบนี้เขาก็คลี่ยิ้มอย่างมีความสุข

เวลาแปดโมงครึ่ง แพทย์ท่านนึงก็เข้ามาตรวจอาการของจ้าวเฉียน ยามแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาอันใด เขาจึงอนุฐาตให้จ้าวเฉียนกลับบ้านไปได้

จ้าวเฉียนเก็บของใช้ส่วนตัวและเตรียมตัวกลับทันที แต่พอเดินผ่านวอร์ดพยาบาลชั้นที่เขาอยู่ ก็บังเอิญไปเจอกับพยาบาลสามที่อยู่กะเมื่อคืน ที่รุกจู่โจมเขาอย่างเร้าร้อน

จ้าวเฉียนยิ้มแห้งให้พลางกล่าวทักขึ้นว่า

“อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ผมต้องกลับบ้านแล้ว ขอบคุณที่ดูแลผมสำหรับหลายวันมานี้นะครับ”

เขาคิดว่าพยาบาลสาวคนนี้ต้องโกรธตนเป็นแน่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่ปรากฏว่าเธอกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอยังคงยิ้มหวานกล่าวตอบไปว่า

“ไม่เป็นไรค่ะ นี่เป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้ว ถ้าไม่รังเกียจ…ว่างๆดิฉันขอชวนคุณไปดินเนอร์ด้วยกันนสักมื้อได้ไหม?”

จ้าวเฉียนรู้สึกขายหน้าจริงๆที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และเขาเองก็อยากเลี้ยงอาหารขอโทษสักมื้อเช่นกัน และทำให้เรื่องนี้เจบลงโดยเร็วที่สุด

“เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องรอถึงดินเนอร์หรอกครับ คุณพยาบาลน่าจะใกล้ออกเวรแล้ว? ไปหาอะไรทานกันไหมครับ?”

จ้าวเฉียนเอ่ยปากเชิญทันที

พยาบาลสาวคนนั้นพยักหน้าตอบทันทีอย่างยิ้มแย้ม

“ไม่มีปัญหาค่ะ!”

“โอเคเลย ถ้าอย่างนั้นผมจะไปรอคุณที่ประตูทางออกนะ รอคุณออกเวรก่อน”

หลังจากพูดจบจ้าวเฉียนก็เดินทางไปเยี่ยมอู่เลอก่อนจะลงไปรอหน้าประตูทางออกโรงพยาบาลเป็นลำดับต่อไป

จ้าวเฉียนไม่คิดจะทานอาหารริมถนนอยู่แล้ว ดังนั้นพอพยาบาลสาวลงเวรมาเสร็จ เขาก็ขับรถพาเธอไปยังโรงแรมตงไห่ทันที

ห้องอาหารหรูระดับไฮเอนด์แบบนี้ จ้าวเฉียนจินตนาการออกเลยว่า พยาบาลคนนี้จะตกใจขนาดไหนที่ได้เห็น แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด เธอดูไม่แปลกใจแม้แต่น้อย ไม่แม้กระทั่งเผยอาการประหม่าใดๆออกมา ราวกับว่าทุกอย่างล้วนอยู่ในความคาดหมายของเธออยู่แล้ว

จ้าวเฉียนเริ่มฉุกคิดสงสัยขึ้นมาทันที หรือเป็นไปได้ไหมว่า พยาบาลสาวคนนี้รู้ถึงตัวตนของเขามาก่อนแล้ว จึงจงใจยั่วเมื่อคืน?

“คุณพยาบาลมาที่นี่บ่อยเหรอครับ?”

จ้าวเฉียนเอ่ยถามขึ้น

พยาบาลสาวยิ้มพลางส่ายหัวตอบไปว่า

“นี่เป็นครั้งแรกค่ะ”

จ้าวเฉียนพยายามทดสอบเธอต่อว่า

“เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก แต่คุณดูไม่แปลกใจเลยนะครับ คงคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้แล้ว?”

พยาบาลสาวเอ่ยตอบน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า

“มีอะไรให้ตื่นเต้นเหรอค่ะ? ต่อให้จะหรูแค่ไหน เราก็มีกินข้าวเฉยๆ”

จ้าวเฉียนรวนหัวเราะเล็กน้อยและไม่เอยตอบอันใดอีกเลย จากนั้นก็พาเธอเข้าไปในโรงแรม

ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก และสั่งชุดเซ็ตอาหารเช้ามารับประทาน

หลังจากทานอาหารเสร็จสิ้น จ้าวเฉียนยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร และกลับกลายเป็นว่าพยาบาลเอ่ยปากเสนอตัวก่อนทันที

“คุณค่ะ ดิฉันรบกวนเกินไปไหม ถ้าจะวานให้ขับรถไปส่งที่บ้านหน่อย?”

นี่ดูจะเป็นคำถามเชิงรุกเกินไป จ้าวเฉียนยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ว่า เธอต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน ราวกับกำลังหลอกล่อเขาให้เข้าถ้ำเสือ แต่ในเมื่อเธอเอ่ยปากเชิญเองขนาดนี้ งั้นเรามาดูกันว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอคืออะไรกันแน่?

จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบว่า

“ได้สิครับ กินเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ”

จ้าวเฉียนทำตามคำขอของเธอแต่โดยดี และพาเธอขึ้นรถขับออกไป ระหว่างทางเขาสังเกตเห็นว่า เธอกำลังเล่นมือถือชนิดไม่ละสายตา และไม่อาจรู้ได้เลยว่า เธอกำลังทำอะไรอยู่บนจอนั้นกันแน่

“คุณพยาบาลชื่ออะไรเหรอครับ?”

จ้าวเฉียนเอ่ยถาม

“ชื่อจริงฉันคือ หลินหยิง ถึงแบบนั้น จะให้เรียกว่า…ที่รัก…หวานใจ…หรือ…ของเล่นตัวน้อยก็ได้นะค่ะ”

หลินหยิงกล่าวน้ำเสียงหวานช่างทรงเสน่ห์เหลือเกิน

จ้าวเฉียนรู้สึกอายแทนเล็กน้อย กล่าวตามตรงหลินหยิงเป็นพยาบาลสาวที่สวยมาก แต่ก็ค่อนข้าง‘เร้าร้อน’เกินจะหักหามตัวเองได้เช่นกัน

จ้าวเฉียนขยิบตาให้หลินหยิงทีหนึ่งและตอบกลับไปว่า

“ให้เรียกว่าลูกสาวก็แล้วกัน ผมชอบทำตัวเป็นป๋าน่ะ”

หลินหยินหน้าแดงก่ำทันที พลางปิดปากหัวเราะขึ้นว่า

“ไม่คิดเลยว่าคุณจะเลือกใช้คำแบบนี้นะคะป๋า!”

หลินหยิงกล่าวติดตลกกลับไปทันที

“แน่นอน ผมชอบอะไรไม่เหมือนใครเขา อืมม…บนรถก็ไม่เลวนะครับคุณลูกสาว…”

จ้าวเฉียนแซวตอบ

หลินหยิงหน้าแดงลามไปถึงใบหู เธอเขินจนสุดจะทานทนแล้วจึงยกมือทุบจ้าวเฉียนไปหนึ่ง

“ทำไมคุณหื่นจัง? ไม่ใช่ว่ากำลังนอกใจแฟนมาคุยกับฉันหรอกนะ?”

“ผมไม่มีแฟนสักหน่อย อีกอย่างผมชอบผู้หญิงที่เก่งนะ โดยเฉพาะกับเรื่อง…”

ประจวบเหมาะพอดี จ้าวเฉียนขับรถมาถึงหน้าบ้านแล้วในขณะนี้ หลินหยิงราวกับทนไม่ไหวแล้ว เธอเปิดประตูและลากจ้าวเฉียนออกมาประกบจูบอย่างดูดดื่ม และขวงแขนพาเข้าบ้านโดยตรง

ปิดประตูบ้านเสียงดังปัง จ้าวเฉียนกดจูบเธอตอบทันทีราวกับพญาเสือกระหาย

“ป๋าค่ะ นี่ไม่รีบเกินไปหน่อยเหรอ? อาบน้ำก่อนดีไหม?”

“ยังจะอาบน้ำอะไรอีก ผมรอไม่ไหวแล้ว!”

หลังจากพูดจบเขาก็ใช้มือปลดชุดพยาบาลของเธอออกทันที ทั้งสองพัวพันกันอยู่บนโซฟาห้องรับแขกขุดใหญ่

แต่ในเวลานั้นเอง ก็มีกลุ่มคนจำนวนมากเดินออกมาจากห้องต่างๆพร้อมรอยยิ้ม จ้าวเฉียนที่สังเกตเห็นดังนั้นจึงเข้าใจได้ทันที พวกนี้มันกลุ่มคนของหลินจือไม่ใช่เหรอ?

หลินหยิงแสยะยิ้มมุมปาก ผลักร่างจ้าวเฉียนออกมาจากโวฟา และถอยกลับไปยืนเคียงข้างหลินจือที่เพิ่งปรากฏตัวออกมา เขาฉีกยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจ จ้าวเฉียนเข้าใจทุกอย่างแล้วในขณะนี้ รวมไปถึงจุดประสงค์ของหลินหยิง ปริปากเอ่ยถามขึ้นว่า

“ผมว่าแล้วต้องมีลับลมคมใน เธอก็นามสกุลหลินเหมือนกัน เป็นพี่สาวงั้นเหรอ?”

หลินจือยกยิ้มอย่างมีชัยและกล่าวตอบไปว่า

“จะว่าแบบนั้นก็ได้ เป็นญาติผู้พี่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดโดยตรง”

จ้าวเฉียนพยักหน้าและถามต่อว่า

“แล้วทั้งหมดนี่…หมายความว่ายังไง?”

หลินจือหยิบกล้องที่อัดวิดีโอมาและตอบกลับไปว่า

“ก็ไม่มีอะไร ก็แค่ต้องการเซอร์ไพรส์หวานเจียงของฉัน เธอจะรู้สึกยังไงนะ ถ้าเห็นคลิปวีดีโอนี้? คงตัดขาดทุกความสัมพันธ์กับนายเลยจริงไหม?”

มันกลับกลายไปว่า ทั้งหมดทำเพื่อให้เขากับหวานเจียงแตกแยกกันนี่เอง จ้าวเฉียนโกรธมากในครั้งนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ตามที่กล้าล่อลวงหวานเจียง เขาจะไม่มีทางยกโทษให้นแน่นอน

“ฮ่าฮ่า! อย่างงี้นี่เอง คุณคงหลงรักเธอเข้าใหม่แล้ว ทั้งหมดนี้คงเป็นฝีมือของหยางหมิงใช่ไหม? แต่ไม่ว่าหวานเจียงกับผมจะตัดขาดกันยังไง แต่คิดหรือว่า คุณจะมีปัญญาจีบเธอติด? อืมม…หยางหมิง นายเองก็อยู่ด้วยเหรอ? แปะ แปะ…ฉันต้องขอชื่นชมนายเลยนะ ไร้ค่าจนถึงขั้นที่ต้องใช้คู่หมั้นตัวเองเป็นเครื่องมือ เพื่อยืมมือคนอื่นจัดการกับฉัน? สวะดีหนิ”

หยางหมิงถูกจ้าวเฉียนด่าไปขนาดนั้นถึงกับไม่กล้าเงยหน้ามองอีกฝ่าย หลินจือเห็นแบบนั้นจึงออกหน้ารับแทนทันที

“หยุดพูดจาไร้สาระ! แกไม่ใช่หรือที่แย่งคู่หมั้นเขามา! แล้วฉันนี่แหละจะเอาคืนมาเดี๋ยวนี้! พวกเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ฉันมีทั้งรูปและคลิปวีดีโอ ทันทีที่หวานเจียงเห็นสิ่งนี้ เธอจะต้องทิ้งแกอย่างไม่ไยดี! ถึงตอนนั้นฉันจะทำให้แกต้องคุกเข่าขอขมาหยางหมิง! ถึงตาพวกเราเอาคืนบ้างแล้ว!”

หลินจือทุ่มทุนอย่างมากในครั้งนี้ก็เพื่อหยางหมิง

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเยาะเสียงดังลั่น และตอบกลับไปว่า

“อืม ผมว่าภาพตะกี้ยังถ่ายไม่ชัดนะว่าไหม? เอานี่ผมถอดเสื่อแล้ว พาหลินหยิงมาถ่ายกับผมใหม่สิจะได้ชัดๆ หรือจะให้เปลือยกายเลยก็ได้นะผมไม่ถือสา แล้วเชื่อไหมว่า หวานเจียงไม่มีทางเชื่อเป็นอันขาดว่า ผมจะกล้าทรยศเธอ?”

“ขี้โม้! ขี้โม้ชิบหาย! ยังจะปากเก่งอยู่อีก! มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครห่ะ? ถึงทำตัวไม่เกรงกลัวอะไรเลยแบบนี้?”

หลินจือกล่าวพร้อมสีหน้าสุดแสนจะรังเกียจ

จ้าวเฉียนตบโต๊ะดังปังและคำรามขึ้นทีนทีว่า

“ฉันจะแสดงให้พวกคุณเห็นเองว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราเหนียวแน่นแค่ไหน! หยางหมิง นายก็อยู่ด้วยห้ามไปไหน! ฉันจะทำให้นายได้เห็นเอง อะไรคือรักแท้! ส่งรูปพร้อมคลิปมาในมือถือฉันได้เลย ฉันจะกดส่งทั้งหมดให้พวกนายดูต่อหน้าเอง! ไม่ต้องเซอร์ไพรส์เธอให้เหนื่อย!”

หยางหมิงทนไม่ไหวแล้ว เขาไม่อยากเชื่อเลยว่า หวานเจียงจะรักจ้าวเฉียนถึงขนาดนี้

“บัดซบ! ฉันทนไม่ไหวแล้ว! ทนไม่ไหวแล้วโว้ย! พี่หลินส่งทั้งรูปทั้งคลิปให้มันเดี๋ยวนี้! หวังว่าแกจะทำตามที่บอกและส่งทั้งหมดนี้ให้กับหวานเจียงด้วยตัวเอง! ฉันไม่เชื่อ….ฉันไม่เชื่อหรอกเว้ยว่าเธอจะรักแกขนาดนั้นจริงๆ!!”

จ้าวเฉียนตอบกลับอย่างมั่นอกมั่นใจว่า

“ไม่มีปัญหา นายมานั่งข้างๆฉันนี่ แล้วฉันจะแสดงให้นายเห็นเองนะว่า อะไรคือรักแท้”

หลืนจือส่งรูปภาพและคลิปวีดีโอไปให้จ้าวเฉียนโดยเร็ว จากนั้นหยางหมิงก็มานั่งโซฟาข้างจ้าวเฉียน พร้อมคนอื่นๆที่รุมจ้องมือถือเครื่องในมือจ้าวเฉียนอย่างใจจดใจจ่อ

หลังจารกที่จ้าวเฉียนส่งรูปภาพและคลิปวีดีโอไป เขาก็ส่งข้อความเสียงถึงหวานเจียงอีกด้วย

“หวานเจียง นี่คือทั้งหมดที่ฉันทำเรื่องแย่ๆกับเธอไป ดูสิว่าคุณพยาบาลเธอเร้าร้อนแค่ไหน? เธอเซ็กซี่ได้ขนาดนี้หรือเปล่า? คงรู้ใช่ไหมว่าจากนี้เธอควรทำยังไงต่อ?”

จ้าวเฉียนจงใจเน้นคำว่า‘คุณพยาบาล’ชัดๆ โดยหวังให้หวานเจียงเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะสื่อ รวมไปถึงบอกเธอทิ้งท้ายด้วยว่า รู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไงต่อจากนี้?

หลินจือคว้ามือถือออกจากมือจ้าวเฉียนทันทีและรอให้หวานเจียงติอบกลับ แต่หลังจากรอมานานกว่าสิบนาที เธอก็ไม่ตอบสักที ดังนั้นหลินจือจึงปิดมือถือจ้าวเฉียนไปโดยตรง และหันมาพูดกับจ้าวเฉียนว่า

“งั้นนายอยู่ที่นี่ไปสักคืนสองคืนแล้วกันนะ ถ้าฉันจะปล่อยแกเมื่อไหร่เดี๋ยวจะแจ้งหลินหยิงให้ทราบอีกที อย่างไรก็ตาม ฉันขอเตือนแกไว้ก่อนเลย อย่าคิดหนีระหยว่างนี้ ไม่อย่างนั้นหลินหยิงไม่ปราณีนายไว้แน่ อ่อ! ขอบอกอะไรอีกอย่าง เห็นเธอเป็นสาวสวยแบบนี้ ดีกรีเธอเป็นถึงปรมาจารย์คาราเต้สายดำ อย่าสร้างปัญหาให้ตัวเองเลยดีกว่านะ”

หลังจากพูดจบ หลินจือและพรรคพวกคนอื่นๆก็เดินจากออกไป

หลินหยิงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด เธอเดินออกมาพร้อมชุดคาราเต้สายดำเก้าบั้ง ดึงเก้าอี้ด้วยหนี่งมานั่งเฝ้า พลางหลับตาพักผ่อน

จ้าวเฉียนรู้สึกได้ทันทีว่า หลินจือและคนอื่นๆจะต้องมีแผนการสมรู้ร่วมคิดกันแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ถูกขังอยู่ที่นี่แน่นอน แต่ไม่ว่ากรณีใด เขาจำเป็นต้องออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

Status: Ongoing
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริงอย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา!“ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที”“เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว”“ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?”“ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!”“ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท