บทที่ 32 KO! ใน 4 วินาที
“พวกแกจะทำอะไรน่ะ ปล่อยมือนะ!”
เถ้าแก่เนี้ยดิ้นรนสุดชีวิต แต่ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกผู้ชายคนหนึ่งจับเอาไว้แล้ว ก็ไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย
ที่เหลืออีกสามคนก็พากันล้อมอยู่รอบเถ้าแก่เนี้ย ยิ้มกริ่มเดินไปด้านนอก
ผู้คนรอบด้านที่เห็นเหตุการณ์ ก็ล้วนไม่กล้ายื่นมือเข้าไป ถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็ไม่สามารถแตะต้องได้ เข้าไปช่วยก็เป็นการหาเรื่องวุ่นวายใส่ตัวโดยแท้
จูเจียนเฉียงเห็นเหตุการณ์เบื้องหน้าแล้ว ก็อดกลั้นเสียจนหน้าแดงก่ำ ทันใดนั้นก็กำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมา
เขามักจะมากินข้าวที่ร้านนี้บ่อยๆ เพื่อที่จะได้มองเถ้าแก่เนี้ยมากขึ้นสักหน่อย แม้ว่าเขาจะมีใจคิดไม่ดีด้วย แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดไร้ยางอายแบบนี้
ไอ้นั่นมันเถอะ เดรัจฉานพวกนี้นี่
จูเจียนเฉียงกัดฟัน กระทืบเท้า ก้าวออกมา
“แม่มันเถอะ กล้าลงมือกับเทพธิดาของข้า ข้าทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว”
เซียวหยางมองจูเจียนเฉียงอย่างประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะมีความเด็ดเดี่ยว เลือดร้อนอยู่หลายส่วน ยังนึกว่าเป็นพวกไก่อ่อนเสียอีก
จูเจียนเฉียงก้าวขึ้นไปด้านหน้า ขวางชายผู้มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดบนใบหน้าและผู้ชายอีกสองสามคนเอาไว้ เอ่ยว่า “ปล่อยเถ้าแก่เนี้ยเสีย กลางวันแสกๆ ฟ้าดินรู้ดี พวกแกยังกล้า…….”
“ไสหัวไปให้พ้น!”
ปึก!
จูเจียนเฉียงเพิ่งจะกล่าวได้ครึ่งเดียว ชายผู้มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดบนใบหน้าก็ปล่อยหมัดโจมตีมาครั้งหนึ่ง ปะทะเข้ากับจมูกของจูเจียนเฉียงพอดิบพอดี
จูเจียนเฉียงรู้สึกว่าบนใบหน้าถูกกระทบเข้าอย่างแรง เวียนหัวตาลายไปในทันที
ถอยหลังไปหลายก้าว และล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น เลือดสองสายไหลออกมาจากในจมูก
“ไอ้โง่ นี่มันสมัยไหนกันแล้ว ยังมาเล่นเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามอีก!”
นักเลงคนหนึ่งก้าวขึ้นมาเตะจูเจียนเฉียงเหมือนกับเตะเศษขยะที่ขวางทางเอาไว้ออกไปครั้งหนึ่ง
คนรอบด้านล้วนกลืนน้ำลาย คนพวกนี้ช่างไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาจริงๆ
คราวนี้ยิ่งไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขาแล้ว เด็กหนุ่มหลายคนที่กระตือรือร้นอยากช่วยล้วนพากันถอยไปอยู่ข้างหลัง ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
จูเจียนเฉียงกุมท้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ครู่หนึ่ง ไอ้พวกบ้า คนกลุ่มนี้ลงมือหนักเกินไปแล้ว เจ็บจนเขาอยู่ไม่สู้ตาย
เซียวหยางส่ายหน้า ก้าวออกมา และเดินไปทางนักเลงหลายคนนั้น
“เดิมฉันไม่อยากยุ่ง แต่ว่าแกต่อยเพื่อนฉัน แสร้งทำเป็นเก่งเสียจนไร้ศีลธรรม ฉันก็เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก”
ชายผู้มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดบนใบหน้ามองแล้วก็มีคนรนหาที่ตายมาอีกคนแล้ว “เด็กน้อยอย่างแกอยากตายสินะ ไสหัวไปให้พ้นหน้าบิดาเสีย”
เซียวหยางไม่เพียงแต่ไม่จากไป แต่ยังหยุดยั้งพวกเขาเอาไว้ด้วย
“รนหาที่ตาย”
นักเลงสองสามคนพุ่งตัวเข้ามา พูดไปด่าไป
อักๆๆ!
ถัดจากเสียงอู้อี้ นักเลงสามคนล้วนลอยออกไป ล้มกองอยู่บนพื้น ร้องตะโกนออกมา
และในเวลานั้น เซียวหยางยังคงยืนอยู่ที่เดิม
คนรอบด้านมองเซียวหยาง และมองไปยังคนสามคนที่กองอยู่บนพื้น ก็รู้สึกตกใจอย่างสุดซึ้งขึ้นมาในทันที
พวกเขาล้วนมองไม่เห็นว่าเซียวหยางลงมืออย่างไร สุดท้ายสองสามคนนี้ถึงได้ล้มไปกองที่พื้น ร้องโอดครวญราวกับมารดาเสียอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มหน้าตาดุดันตะลึงค้าง เซียวหยางก้าวไปด้านหน้า ยิ้มตาหยีพลางเอ่ยว่า “แกจะทำมันเอง หรือจะให้ฉันช่วยแก”
“ข้าจะเอา……..”
“ปากสกปรก ไสหัวไป”
เซียวหยางสะบัดมือใส่ไปครั้งหนึ่ง เจ้าหมอนี่ก็กลิ้งหลุนๆไปหลายรอบถึงได้หยุดลง ปากเจ็บปวด เมื่อคายออกมาก็คือฟันที่หลุด เจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้
รอบด้านเปลี่ยนเป็นเงียบสงบในทันที
ผู้คนมองไปที่เซียวหยางอย่างตะลึงพรึงเพริด บัดซบ เจ้าเด็กนี่ใช้ได้นินา นักเลงไม่กี่คนที่อยู่เบื้องหน้าเขานั้นเหมือนกับคนอ่อนปวกเปียก ต่อยได้ดี ต่อยได้ดีมากจริงๆ
จูเจียนเฉียงที่ล้มกองอยู่บนพื้นก็งุนงงเช่นกัน ราชาเกมส์ เทพแห่งการจีบสาว ชกต่อยก็ยอดเยี่ยมขนาดนี้ด้วยหรือ
ลูกพี่ มีอะไรที่คุณทำไม่เป็นบ้างกันแน่
กราบเป็นอาจารย์ จะต้องกราบเป็นอาจารย์อย่างแน่นอน
“พี่หยาง คุณยอดเยี่ยมเหนือคนเกินไปแล้ว ผมเลื่อมใสศรัทธาในตัวคุณมาก ผมไม่เรียนเรื่องเกมส์ และไม่เรียนเรื่องจีบสาวแล้ว ผมจะเปลี่ยนเป็นคนที่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง!”
จูเจียนเฉียงรีบลุกขึ้นมาในทันที ก้าวเข้าไปกอดขาของเซียวหยางเอาไว้ เอ่ยขอร้องไม่หยุด
ในใจของเขา การคงอยู่ของเซียวหยาง ได้กลายเป็นเทพเจ้าไปแล้ว
…………
คราวนี้ เสียงสัญญาณเตือนตำรวจลอยมา จากที่ไกลๆจนใกล้เข้ามา รถตำรวจคันหนึ่งจอดอยู่ด้านนอก
ผู้คนพากันหลบหลีก เห็นตำรวจสี่นายที่ลงมาจากรถตำรวจ
เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่น!
เสียงดังก้องกังวานของมอเตอร์ไซค์ลอยมา บนรถมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นมากคันหนึ่ง มีเงาร่างงดงามสวมชุดเครื่องแบบก้าวลงมาคนหนึ่ง
เซียวหยางตะลึงค้างไปชั่วครู่ นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้วนะ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใคร เป็นเจียงเซิ่งหนาน
เขตการปกครองรอบๆบริษัทหยุนซูล้วนอยู่ในความดูแลของเจียงเซิ่งหนาน เธออาศัยการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ทำคุณงามความดีเพื่อชดใช้ความผิด ตอนนี้ก็กลับคืนสู่สถานะเดิมแล้ว
เจียงเซิ่งหนานถอดหมวกกันน็อก ใบหน้าเย็นชา มองเหล่านักเลงที่นอนกองกันอยู่บนพื้นแล้ว ก็สั่งว่า “สวมกุญแจมือให้คนพวกนี้ แล้วพาตัวไป”
ทันใดนั้น เธอกวาดตามองไปรอบๆ เอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้ใครเป็นผู้แจ้งความ”
“อ่ะ เป็นฉันค่ะ เป็นฉันที่แจ้งคุณตำรวจ นักเลงพวกนี้เป็นที่ต้องสงสัยว่าจะขู่กรรโชก ทั้งยังฉุดคนด้วย”
เถ้าแก่เนี้ยก้าวขึ้นมาด้านหน้า เอ่ยตอบด้วยความตกใจกลัวอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้เธอเห็นว่านักเลงหลายคนนี้ไม่ปกติ ตอนที่โต๊ะถูกพลิก ก็ส่งสัญญาณให้บริกรแจ้งความแล้ว
สาเหตุที่เจียงเซิ่งหนานเห็นนักเลงหลายคนนี้ก็นำตัวไปเลย เป็นเพราะว่านักเลงพวกนี้ล้วนเป็นแขกประจำของสถานีตำรวจ นับได้ไม่ชัดเจนแล้วว่าถูกจับไปกี่ครั้ง
เจียงเซิ่งหนานสอบถามสถานการณ์กับเถ้าแก่เนี้ยอีกเล็กน้อย ตอนที่รู้ว่ามีคนคนหนึ่งจัดการนักเลงสี่คนนี้ในคราวเดียวนั้น เธอก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“คนคนนั้นอยู่ที่ไหนหรือ”
“อยู่ที่นั่น……”
เถ้าแก่เนี้ยชี้ไปทางเซียวหยาง พบว่าเซียวหยางลากจูเจียนเฉียงเดินไปไกลมากแล้ว
“เฮ้…..คนนั้นน่ะ……คุณรอสักครู่ คุณตำรวจคะ คือผู้ชายที่ผอมๆสูงๆคนนั้นค่ะ”
คิ้วได้รูปงามของเจียงเซิ่งหนานขมวดเข้าหากัน รู้สึกคุ้นๆกับเงาร่างนี้
“เฮ้ หยุดเดี๋ยวนี้นะ พูดกับคุณนั่นแหละ”
เจียงเซิ่งหนานก้าวเท้าเข้าไปคว้าไหล่ของเซียวหยางเอาไว้อย่างรวดเร็ว หมุนเซียวหยางกลับมา
“โอ้โฮ เป็นคุณจริงๆด้วย โลกนี้มันกลม พวกเรายังกลับมาพบกันได้อีกนะ”
เจียงเซิ่งหนานเห็นเงาด้านหลังก็ทายออกแปดเก้าส่วนแล้ว บวกกับที่นี่อยู่ห่างจากบริษัทหยุนซูไม่ไกลนัก ก็เดาได้ว่าเป็นเจ้าหมอนี่ สุดท้ายก็เป็นจริงๆ
“บังเอิญมากจริงๆ พบกันอีกแล้ว” เซียวหยางแสยะยิ้ม
“ยิ้มอะไร จริงจังหน่อยเถอะ”
เจียงเซิ่งหนานเอ่ยเสียงเย็น “ส่งคนมานี่สิ ใส่กุญแจพาสองคนนี้ไปด้วย สอบปากคำให้ละเอียดสักหน่อย”
เซียวหยางสีหน้าทะมึน ยายผู้หญิงที่ไม่รู้จักพูดคุยด้วยเหตุผลคนนี้ ไม่พูดเรื่องอื่น เมื่อวานเขาช่วยเจียงเซิ่งหนานจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ร้านเหล้า ถือว่าช่วยสร้างผลงานให้เธอ ทำไมเอะอะก็จับคนเสียล่ะ
“ใส่ร้ายกันนิ พี่หยางกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง อาศัยอะไรมาจับคนกัน คุณเป็นข้ารับใช้ประชาชนจริงๆหรือไม่ ผมจะร้องเรียน” จูเจียนเฉียงเพิ่งจะพูดด้วยความเคียดแค้นไม่เป็นธรรม
เถ้าแก่เนี้ยก็เดินเข้ามา เอ่ยอย่างอดทนว่า “คุณตำรวจท่านนี้ เขาเป็นคนดีจริงๆนะคะ โชคดีที่เขาอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงเกิดเรื่องกับฉันแล้ว คุณตำรวจ ทำไมคุณต้องจับเขาด้วยคะ”
เจียงเซิ่งหนานเหลือบมองเถ้าแก่เนี้ย แค่นเสียงเย็นทางจมูก
แต่งกายงดงาม รูปร่างหน้าตายั่วยวน แตกต่างอะไรจากผู้หญิงที่อยู่ในห้องเต้นรำพวกนั้นอย่างไร ทำไมนักเลงพวกนี้ถึงไม่ไปหาคนอื่น แต่มาหาเรื่องเธอกัน
เจียงเซิ่งหนานตอบเสียงเย็น “ฉันกำลังปฏิบัติตามกฎหมาย คนถูกเขาชกต่อย ลงมือหนักเกินไป ถูกสงสัยว่าจงใจทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ ดังนั้นจำเป็นต้องนำตัวกลับไปสอบปากคำ”
ตอนนี้เองที่ด้านหลังมีตำรวจชายนายหนึ่งวิ่งเข้ามา ใส่กุญแจมือให้กับทั้งสองคน และดันพวกเขาขึ้นไปบนรถ
เซียวหยางหมดคำพูดในทันที ไม่มีทางอื่น ทำได้เพียงแค่ยอมรับความไม่เป็นธรรมช่วงหนึ่งเท่านั้น
เจียงเซิ่งหนานเห็นเงาร่างเซียวหยางถูกจับขึ้นไปบนรถตำรวจแล้ว ก็แค่นเสียงเย็นอย่างถือดี
คุณหนีได้ไม่ใช่หรือ ที่ร้านเหล้าคราวที่แล้วให้คุณหนีไปได้ คราวนี้ดูสิว่าคุณจะหนีไปได้อย่างไร