ตอนที่ 512 พี่รองและจิ้งจอกเก้าหาง!
เขาคือ… เทียนอ๋องเบิกฟ้า! จักรวาลสั่นไหวประหนึ่งดอกไม้ไฟเจิดจรัสระเบิดกลางท้องนภา! จากนั้น… พระจันทร์สุกสว่างปรากฏข้างดวงอาทิตย์สุกใส ดนตรีสวรรค์บรรเลงขึ้นอีกครา เทียนอ๋องท่านที่สองถือกำเนิด
“หลันเย่ว์เทียนอ๋อง”
หยวนสื่อเทียนจุนเอ่ยอย่างเชื่องช้า จักรวาลก่อตัวเป็นระลอกคลื่นใหม่ จากนั้น… เสียงมนต์ขับขานขึ้นเหนือกรมชะตาสวรรค์ เทียนอ๋องท่านที่สามถือกำเนิด
“ปัวเหร่อเทียนอ๋อง”
เทียนตี้ไม่คาดคิดว่าปัวเหร่อซึ่งแต่เดิมแข็งแกร่งเป็นอันดับสองนับรองจากเทียนอ๋องแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะได้รับโอกาสเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นผู้ศรัทธาที่จริงใจต่อชูชูเป็นอย่างยิ่ง เทียนตี้คิดว่าปัวเหร่ออยู่ฝ่ายเดียวกับซีเหอมาโดยตลอด อันที่จริงเมื่อก่อนซีเหอก็คิดเช่นนี้ จนเมื่อปัวเหร่อเทียนอ๋องไปทะเลสือซ่าไห่พร้อมเทพเบิกฟ้าอย่างไม่ลังเล นางจึงรู้ว่าตนคิดผิด
วิ้ง!
จักรวาลสั่นไหวรอบใหม่อีกครา ในขณะเดียวกัน… เสียงมนต์ดังกึกก้องเหนือกรมชะตาสวรรค์ เทียนอ๋องท่านที่สี่ก็ถือกำเนิด
“หงเฉินเทียนอ๋อง”
หยวนสื่อเทียนจุนยิ้มจางๆ หงเฉินเป็นศิษย์ที่เป็นที่โปรดปรานของเขา
วิ้ง!
การสั่นสะเทือนรอบใหม่ของจักรวาลเกิดขึ้นอีกครั้ง มันสั่นไหวต่อไปยังจักรวาลไร้ขอบเขตอย่างต่อเนื่องจากคลื่นสามลูกแรก
เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุนคิดว่าคงจะมีเพียงเทียนอ๋องสี่ท่าน ทว่า… เสียงสิงสาราสัตว์คำรามดังขึ้นเหนือกรมชะตาสวรรค์! นี่มัน…
“จิ้งจอกเก้าหางแห่งชิงชิว?”
เทียนตี้ตะลึง ไม่คาดคิดว่ามหาเทพซวงเสวี่ยจะได้รับโอกาสนี้ ถึงอย่างไรเดิมทีนางก็เป็นเพียงมหาเทพสามัญท่านหนึ่ง ทว่าเขาก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
หยวนสื่อเทียนจุนที่นับนิ้วทำนายก็เข้าใจแล้วเช่นกัน “นางทำสัญญาอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์กับพระเชษฐาคนรองของปฐมราชินี”
เทียนตี้เองก็คิดไม่ถึงว่าจะมีความลับอันละเอียดอ่อนและลึกซึ้งเช่นนี้
ที่แท้แล้ว… จิ้งจอกเก้าหางที่ถูกอัญเชิญโดยเยี่ยนจื่อเสา องค์จริงเป็นถึงมหาเทพในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสิ่งมีชีวิตเช่นนาง ตามหลักแล้วจะไม่ลงนามทำสัญญากับเผ่ามนุษย์ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ทำสัญญาอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์กับเผ่ามนุษย์จะเป็นเทพชั้นผู้น้อยธรรมดาที่ต้องฝึกบำเพ็ญและได้รับความช่วยเหลือหรือเป็นเทพที่ล่วงลับไปแล้ว เพราะการลงนามสัญญากับเผ่ามนุษย์มีรูปแบบการใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง แต่มหาเทพเช่นซวงเสวี่ย ตั้งแต่โบราณกาลไม่เคยทำสัญญากับเผ่ามนุษย์หรือสัญญาที่เหมือนกับเป็นผู้รับใช้ให้มนุษย์เช่นนี้ นี่มันช่าง…
“ช่างอาจหาญ นางคงจะรับรู้ได้ว่าวิชาอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ของพระเชษฐาคนรองตระกูลเยี่ยนมีกลิ่นอายของปฐมราชินี นางจึงไม่ลังเลที่จะทำเช่นนั้น ถือได้ว่าเป็นพรหมลิขิต” หยวนสื่อเทียนจุนถอนหายใจเบาๆ โอกาสนั้นช่างลึกลับและมหัศจรรย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าคือ…
วิ้ง!
วิ้ง!…
ครั้นระลอกคลื่นสั่นไหวห้าครั้งต่อเนื่อง ทั้งสามโลกกลับปรากฏภาพขุนเขา แม่น้ำ ดวงตะวัน ดวงจันทรา และดวงดาวขึ้นพร้อมกัน สร้างความตกตะลึงไปทั้งสามโลก คนรุ่นหลังล้วนกล่าวว่านี่คือการกำเนิดยุคใหม่
ทว่าในบัดนี้ หยวนสื่อเทียนจุนยังทำนายไม่ได้ แต่กลับรับรู้ได้ว่านี่คือสัญญาณแห่งความสิริมงคล ทำให้เขาเอ่ยปากชมไม่หยุด “ดี ดี ดี!”
“เทียนอ๋องทั้งห้าแห่งไท่ชางถือกำเนิดขึ้นหลังจากชูชูกลับตำหนักสวรรค์ เป็นเรื่องดีจริงๆ” เทียนตี้ประทานชื่อให้เทียนอ๋องทั้งห้าที่ได้รับการเลื่อนขั้นแล้ว เพราะว่าพวกเขาล้วนเป็นศิษย์ของเยี่ยนอวี๋ ย่อมต้องเป็นเทียนอ๋องสายเลือดไท่ชาง
จากนั้นมหาเทพสิบเจ็ดองค์ที่เหลือล้วนเลื่อนขั้นเป็นมหาเทพชั้นยอด แม้จำนวนจะไม่สามารถชดเชยกับจำนวนของเหล่ามหาเทพของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่สูญเสียไป แต่กลับสามารถชดเชยในแง่ของพลังความสามารถได้อย่างสมบูรณ์ กระทั่งเกินกว่านั้น
“สามารถเรียกประชุมอีกครั้งตอนนี้ได้เลย” เทียนตี้รู้ว่าการล่วงลับของกองทัพเซียนแสนนายและบรรพบุรุษอาวุโสหงเหมิง ทงเทียนเจี้ยวจู่และเทพผู้แข็งแกร่งสร้างอิทธิพลมหาศาลต่อสวรรค์เก้าชั้นฟ้า สมควรเรียกประชุมเพื่อปลอบขวัญเหล่าทวยเทพ
ทว่าเดิมทีเทียนตี้ไม่ได้วางแผนที่จะจัดประชุมในทันที ถึงอย่างไรสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในบัดนี้ก็กำลังรอบูรณปฏิสังขรณ์ให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิม แต่การเลื่อนขั้นของมหาเทพเหล่านี้ เพียงพอที่จะชดเชยส่วนที่ขาดหาย และต้องทำการสถาปนาและตบรางวัลให้พวกเขาในงานประชุม แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ… ชูชูกลับมาแล้ว เหล่าเทพและผู้คนทั้งหลายในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าต้องรับรู้เรื่องนี้ ชูชูเองก็สมควรได้รับการสักการะบูชาจากเทพทุกองค์และได้รับความเคารพจากทั้งห้าเผ่า
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าเองก็สมควรเริ่มต้นใหม่อีกครา ต้อนรับยุคของปฐมราชินี นี่จะกลายเป็นอีกหนึ่งความเจริญรุ่งเรือง แม้แอนนาจะฟื้นคืนชีพแล้วก็ตาม เทียนตี้ยังคงมั่นใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เพราะว่าชูชูกลับมาแล้ว ชูชูของพวกเขากลับมาแล้ว
…
ในขณะเดียวกัน…
“ขอแสดงความยินดีกับพวกเจ้า”
เยี่ยนอวี๋ที่อยู่ในทะเลสาบสือซ่าไห่แสดงความยินดีกับเทพเบิกฟ้าและเทพองค์อื่นๆ ที่ตื่นขึ้นมาแล้ว เหล่าทวยเทพที่ได้รับคำแสดงความยินดีจากเยี่ยนอวี๋ แรกเริ่มพวกเขางงงัน ไม่ทันตั้งสติได้ คงเป็นเพราะความสุขมาเร็วเกินไป
เมื่อพวกเขาตั้งสติได้ เทพเหล่านี้ล้วนตาแดงก่ำ “ปฐมราชินี! ปฐมราชินี! ใช่ท่านหรือไม่!?” เทพทั้งหลายไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาได้พบหยวนชู ผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจพวกเขา
“ข้าเอง” เยี่ยนอวี๋ยิ้มจางๆ
เหล่าทวยเทพล้วนหมอบกราบลง “ปฐมราชินี!”
น้ำตาแห่งความปิติไหลรินออกมาจากดวงตาของเทพเหล่านี้ ดังเช่นหัวใจที่อบอุ่นจริงใจของพวกเขา ทำให้เยี่ยนอวี๋รู้สึกใจหาย “ลุกขึ้นเถิด”
“ท่านจริงๆ ด้วย! ปฐมราชินี…” เทียนอ๋องเบิกฟ้าที่เลื่อนขั้นยังคงซื่อตรงทำท่าจะพูดอะไรอีกเงยหน้าเหม่อมองเยี่ยนอวี๋อย่างอาจหาญ ไม่รู้สึกหวั่นเกรง ทว่ากลับเต็มไปด้วยความเคารพ
“ใช่” เยี่ยนอวี๋ขานตอบอีกคราและกล่าวว่า “ไปกันเถิด กลับสวรรค์ชั้นเก้าพร้อมข้า”
“ขอรับ ปฐมราชินี!” เทียนอ๋องเบิกฟ้าและเทพองค์อื่นๆ พยักหน้าตกลง ยังคงรู้สึกดวงตาพร่ามัวเพราะความตื่นเต้นประหลาดใจ ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้เลย ทว่า…
“คุณหนูใหญ่!”
“คุณหนูใหญ่!…”
เยี่ยนอวี๋ที่ราวกับว่าได้ยินเสียงของเม่ยเอ๋อร์ นางก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะแผ่ซ่านกระแสจิตสัมผัสออกไป
ในขณะเดียวกัน…
กลุ่มคนของเม่ยเอ๋อร์ที่อยู่ในดินแดนที่ไม่รู้จัก พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในใต้ดินส่วนลึกที่สุด แต่แผ่นดินที่สะเทือนไหวไม่หยุดทำให้พวกเขารู้ว่าแสงสีทองจะกระทบพวกเขาในไม่ช้า
“แย่แล้ว!”
“จบเห่!”
ทั้งอินหลิวเฟิงและเอ้อร์เหมาล้วนตกตะลึง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ยิ่งเมื่อเม่ยเอ๋อร์บาดเจ็บสาหัส พวกเขา… ก็ไร้ซึ่งหนทางแล้ว! ไม่มีแม้แต่ฟ้าหลังฝน
ทว่าเม่ยเอ๋อร์ในบัดนี้ส่งกระแสจิตให้เยี่ยนอวี๋ตลอดเวลา ระหว่างนางและเยี่ยนอวี๋มีความสัมผัสอันมหัศจรรย์อยู่ ดังนั้นเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้จึงได้ยิน ‘เสียงเรียก’ อันคลุมเครือของเม่ยเอ๋อร์
ดังนั้นจิตเหนือสำนึกของนางจึงแผ่ขยายออกไปไม่หยุดเพื่อตามหาตำแหน่งของเม่ยเอ๋อร์
ต้าซือมิ่งที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของภรรยา เขาก็หยุดลงและแผ่ซ่านกระแสจิตสัมผัสไปตามจิตเหนือสำนึกของภรรยาไปทั่วทั้งจักรวาล
ผ่านไปครู่ใหญ่…