ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 288 ช่วยชีวิตอสรพิษน้อย (2)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่288 ช่วยชีวิตอสรพิษน้อย (2)

ตอนที่288 ช่วยชีวิตอสรพิษน้อย (2)

มีดสั้นที่เร่นซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อขวาเลื่อนลงมาสัมผัสที่ปลายนิ้ว ร่างเตรียมจะเคลื่อนขยับ ปราดพุ่งขึ้นหน้าเพื่อคว้าเจ้าอสรพิษน้อยออกจากปากอสรพิษยักษ์ แต่ทันใดนั้น ก็เห็นอสรพิษยักษ์ตนนั้นแลบลิ้นสีแดงสองแฉกขึ้นมาตวัดเลียบนแผลที่เน่าเฟะของเจ้าอสรพิษน้อย

บริเวณแผลเน่าบนลำตัวของเจ้าอสรพิษน้อยค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง และในไม่ช้าแผลเหล่านั้นก็หายดีอย่างน่าอัศจรรย์ คล้อยหลังไม่กี่ชั่วอึดใจ ร่างของเจ้าอสรพิษน้อยที่ถูกอสรพิษยักษ์เลียก็กลายมาเป็นเขียวหยก เกล็ดหนาทั่วทั้งตัวเจริญเติบโตขึ้นเรียงรายสวยงามเป็นระเบียบ ปราศจากร่องรอยบาดแผลใดๆ อีกต่อไป

“อสรพิษตนนี้เป็นอสรพิษปราณแห่งหุบเขาซีเยว่ ไม่เพียงจะดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเป็นอาหาร แต่ยังชอบกินสมุนไพรบนนี้อีกด้วย ฟังว่า สมุนไพรทุกชนิดสายพันธุ์บนหุบเขาซีเยว่แห่งนี้ล้วนผ่านปากของมันมาแล้วทั้งสิ้น ส่งผลให้น้ำลายของมันกลายเป็นยาวิเศษที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ”

หลิวซูกล่าวอธิบายให้เซียถงฟัง

ที่แท้กลับกลายเป็นเช่นนั้น ก็ว่าน่าแปลกยิ่งนักที่ไฉนตัวนางถึงไม่ได้กลิ่นจำเพาะของสัตว์ประเภทงูจากตัวมันเลย แต่เป็นกลิ่นสมุนไพรสุคนทรสจางๆ แทน ปรากฏว่า อสรพิษตนนี้ชอบกินสมุนไพรเป็นที่สุด

พอแผลบนตัวอสรพิษน้อยหายดีแล้ว อสรพิษยักษ์ตนนั้นก็ค่อยๆ ยกหางโอบอุ้มมันมาส่งพื้น เจ้าตัวน้อยเลื้อยตรงเข้ามา อสรพิษน้อยใหญ่สองตนเคลื่อนเข้ามาประจันหน้ากับเซียถง จากนั้นพวกมันก็โค้งศีรษะชี้ลงพื้นโดยพร้อมเพรียง

มันทั้งคู่ทำเช่นนี้สามครั้งติด เสมือนกับการขอบคุณของมนุษย์ที่โค้งคำนับสามครั้ง

เซียถงดูประหลาดใจอย่างมาก พยักหน้าให้พวกมันเบาๆ และกล่าวว่า

“เรื่องแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ”

เหลียวศีรษะหันกลับเข้ามา สังเกตเห็นอวี๋เอ๋อร์ยังยืนตัวสั่นเทิ่มด้วยความผวาตกใจ นางจึงยิ้มกล่าวไปว่า

“อวี๋เอ๋อร์ เจ้ากลับไปหานายท่านชิงเยวี่ยเถอะ เห็นตัวเจ้าโดนอสรพิษลักพาตัวไป ตอนนี้ไม่รู้เขาจะเป็นเยี่ยงไรบ้าง”

อวี๋เอ๋อร์ชำเลืองมองไปทางอสรพิษยักษ์หนึ่งปราด หันหน้ากลับมาชักสีหน้าฉงนงุนงงไม่คลายอ่อน นางย่างเท้าก้าวเดินออกไป หวังจะไปหาเซียถงที่อยู่ข้างเคียงโดยไว แต่จู่ๆ คู่เข่านั้นพลันอ่อนยวบ ร่างทั้งร่างทรุดลงกับพื้นกะทันหัน แต่โชคยังดีที่เซียถงวิ่งมาประคองช่วยได้ทัน

“คุณหนูเซีย บ่าว…บ่าวเดินไม่ไหว!”

เสียงแผ่วพรายเล็ดลอดออกจากช่องปากของเด็กสาว อวี๋เอ๋อร์เอียงศีรษะซบไหล่เซียถงทีท่าอ่อนระทวย ดูท่าตัวนางในตอนนี้ยังไม่ฟื้นจากอาการเสียขวัญ ถึงแม้นางจะทราบดี อสรพิษยักษ์ตอนนี้ลักพาตนเองมาก็เพื่อเรียกคนมาช่วยเหลือเจ้าอสรพิษน้อย แต่สัญชาตญาณในร่างกายของนางยังคงหวาดผวาไม่หาย

เซียถงช่วยพยุงนางขึ้นมา กล่าวว่า

“เช่นนั้นพักผ่อนสักหน่อย”

ตัวนางเองก็ค่อนข้างอ่อนล้าจากที่ไล่ติดตามอสรพิษมาเช่นกัน บาดแผลที่เพิ่งเย็บไปก็คล้ายกำลังปริฉีก

“คุณหนูเซีย แผลบนร่างกายท่านมิใช่ว่าฉีกเปิดออกมากระมัง?”

อวี๋เอ๋อร์หันไปเอ่ยถาม เฝ้าสังเกตสีหน้าซีดเซียวเล็กน้อยของเซียถง

เซียถงส่ายหัว ช่วยพยุงร่างของอวี๋เอ๋อร์มานั่งพักใต้ต้นไม้มุมหนึ่ง

หลิวซู่ก็ยังยืนเคียงอสรพิษยักษ์ตนนั้นไม่ห่าง หันไปหยอกล้อเล่นกับเจ้าอสรพิษน้อยบ้างเป็นบางจังหวะ ตัวหลิวซูเองก็ใช้ชีวิตกินอยู่กับอสรพิษมหึมาผู้มีหน้าที่เฝ้าพิทักษ์กระบี่ทัณฑ์ฟ้าในห้วงมิติมายากว่าหลายพันปี ดังนั้น มันจึงให้ความสนใจกับสัตว์ประเภทงูมากเป็นพิเศษ ได้เห็นเจ้าอสรพิษน้อยหลุดจากบ่วงความเจ็บปวดมาได้ มันเองก็มีความสุขเช่นกัน

อสรพิษยักษ์ตนนั้นเอนศีรษะเบี่ยงสายตามองเจ้าอสรพิษน้อยที่กำลังหยอกล้อเล่นกับหลิวซูอย่างสนุกสนานด้านหนึ่ง หันไปมองเซียถงนอนพิงลำต้นอีกด้านหนึ่งอย่างชื่นสบายอารมณ์ ดังนั้นมันจึงค่อยขดตัวเป็นเกลียวกลมและลดศีรษะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนเช่นกัน

“คุณหนูเซีย ท่านเองก็มีป้ายตราอนุญาตขึ้นหุบเขาซีเยว่ด้วยงั้นรึ?”

อวี๋เอ๋อร์นั่งอยู่ข้างเซียถง เห็นอีกฝ่ายนอนแผ่กายติดลำต้น ก็เอ่ยถามขึ้นประโยคหนึ่งอย่างสงสัยใคร่รู้

เซียถงกลัวอวี๋เอ๋อร์เอ่ยถามคำถามนี้มากที่สุดแล้ว เพราะพื้นเพนางเป็นคนของตงหลี่หาใช่ซีฉินไม่ จะกล่าวแถอย่างไรความน่าเชื่อถือก็ค่อนข้างต่ำมาก จะตอบไปว่า นางอาศัยทางลับเพื่อทะลุมายังหุบเขาซีเยว่แห่งนี้ก็ยิ่งไม่ควร ขณะที่กำลังลังเลว่าจะเอ่ยปากตอบไปอย่างไร จู่ๆ ก็มีสัตว์อสูรสีแดงเพลิงตัวน้อยวิ่งเข้ามามุดในอ้อมแขนของนาง

เซียถงคว้าร่างของจี๋จี๋ขึ้นมาไว้บนฝ่ามือ ก็เห็นมือยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นชี้นางพร้อมส่งเสียงร้องดังไม่หยุด ราวกับกำลังบ่นไฟแลบที่นางวิ่งหนีตัวมันไป

ตอนที่บังเอิญได้ยินเสียงฝีเท้าก่อนหน้า เซียถงมัวแต่กังวลเรื่องที่ตนจะถูกพบเข้าจนลืมเจ้าจี๋จี๋ไปสนิท ยิ่งดันไปเห็นอวี๋เอ๋อร์ถูกอสรพิษยักษ์ลักพาตัวหนีไป นางยิ่งไม่ทันนึกถึงเข้าไปใหญ่ และวิ่งไล่ตามออกไปโดยทิ้งมันอยู่ท้ายหลัง เห็นมันตอนนี้กำลังชี้อุ้งเท้าส่งเสียงร่ำร้องบ่นไม่หยุด เซียถงก็ทำใจดีสู้เสือ เอ่ยปากยิ้มชมมันคำโตว่า

“จี๋จี๋ เจ้านี่ว่องไวโดยแท้ กระทั่งนายท่านชิงเยวี่ยยังไม่ทันไล่ตามมาถึง เจ้าก็มาถึงก่อนแล้ว!”

จี๋จี๋ยิ่งเดือดดาลจัด มันเงียบนิ่งไปชั่วขณะ และจู่ๆ เนื้อตัวของมันพลันสั่นเทาอย่างหนัก พร้อมเบ่งอึทิ้งทุ่นระเบิดใส่บนฝ่ามือของนางจำนวนหนึ่งก้อนถ้วน เซียถงได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ฟุ้งเตะจมูกเข้าเต็มรัก แทบจะสะบัดออกไม่ทัน จี๋จี๋กระโดดขึ้นมุมเข้าไปหลังเสื้อเซียถงต่อเนื่องทันที พร้อมกางกรงเล็บเข้าตะปบด้วยความโมโห

“จี๋จี๋ อย่าทำแบบนั้น!”

กรงเล็บบริเวณอุ้งเท้าหน้าของจี๋จี๋ตะปบเข้าซ้ำบาดแผลกลางหลังของเซียถงไปทีหนึ่งอย่างจัง ทำเอาเซียถงสะดุ้งเฮือกปวดแสบขึ้นทันควัน นางรีบเอื้อมมือไปคว้าร่างปุกปุยของจี๋จี๋ออกมาโดยไว

แผลเพิ่งปริฉีกสดๆ ร้อนๆ ตอนนี้ยังจะมาถูกจี๋จี๋ขวนใส่อีก หากไม่รู้เจ็บคงตายด้านไปแล้ว!

จี๋จี๋ดีดดิ้นไม่พอใจยิ่งยวด เหลียวหน้าหันไปเห็นอสรพิษยักษ์กำลังนอนอยู่ด้านหนึ่ง กระเสือกกระสนจนหลุดจากมือเซียถง เงาร่างสีแดงเพลิงโฉบวาบกระโดดขึ้นไปยืนบนตัวอสรพิษยักษ์ วิ่งไปกระซิบกระซาบเสียงน้อยอะไรสักอย่างกับมัน

“นั่นสัตว์เลี้ยงของท่านรึ? น่ารักเหลือเกิน!”

อวี๋เอ๋อร์มองดูจี๋จี๋ที่กำลังส่งเสียงพูดอะไรสักอย่างกับอสรพิษยักษ์ตนนั้นตาไม่กะพริบ อีกใจหนึ่งก็อดสงสัยมิได้ ตัวเล็กจิ๋วขนาดนี้ไม่กลัวถูกอสรพิษยักษ์ฟาดหางใส่จนตัวแตกตายหรอกรึ? หากเผลอโดนเข้าไปทีหนึ่งมีหวังเละเป็นโจ๊ก!

เซียถงพยักหน้าตอบ พลางชำเลืองมองท่าทางลับๆ ล่อๆ ของจี๋จี๋ด้วยความสงสัย มันกำลังพูดอะไรกับอสรพิษยักษ์ตนนั้น?

อสรพิษยักษ์รับฟังจี๋จี๋กระซิบข้างหูอยู่สักครู่หนึ่ง แถมยังมีชำเลืองตามองเซียถงอยู่คราสองครา จนท้ายที่สุด มันพยักหน้าให้จี๋จี๋ราวกับเห็นด้วยอะไรสักอย่าง พร้อมหันมาพยักหน้าส่งให้เซียถง

พูดคุยกับอสรพิษยักษ์เสร็จสรรพ จี๋จี๋ก็กางกรงเล็บกระโจนเข้าใส่เซียถงอีกครั้งทันที ร่ายระบำกรงเล็บน้อยของมันกระหน่ำบนเรือนร่างของนาง ทั้งยังส่งเสียงร้องแหลมดังไม่หยุด คล้ายกับว่ากำลังระบายอารมณ์ ต่อหน้าท่าทีแปลกๆ ของจี๋จี๋ เซียถงได้แต่มองอย่างสงสัย พยายามควานมือเพื่อจับมันออกมา

“ว้าว! เจ้าตัวน้อยน่ารักจริงๆ! มันกำลังเล่นอยู่กับท่านด้วย!”

อวี๋เอ๋อร์เห็นเซียถงที่กำลังกรีดร้องลั่นเพราะโดนจี๋จี๋กระหน่ำขวนด้วยความเจ็บปวด ก็พลางคิดไปว่าทั้งคู่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เห็นดังกล่าวก็เลยอดเอ่ยปากชมมิได้

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท