หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 392 พระราชโองการศักดิ์สิทธิ์ (3)

หวนคืนชะตาแค้น

“​ไหว​เอ๋อร​์​…​”​ ​หรง​เซ​วี​ยน​ตาแดง​ก่ำ​ ​ราวกับว่า​ซาบซึ้ง​เป็นอย่างมาก

จื้อ​อ๋อง​ซื่อ​จื่อ​ยืน​ก้มหน้า​ราวกับว่า​ไม่มี​ความโกรธแค้น​ใดๆ​ ​เลย​ ​เป็น​ภาพ​สวยงาม​ที่​คนใน​สายเลือด​ราชวงศ์​ใจกว้าง​และ​สามัคคี​กัน

“​พี่​สอง​ ​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ท่าน​นั้น​หนัก​มาก​ ​รีบ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​ ​เผื่อว่า​…​หาก​ไม่​ระวัง​อาจจะ​ได้​ไป​อยู่​กับ​พี่ใหญ่​…​”​ ​องค์​ชาย​สิบ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ทน​มอง​ต่อไป​ไม่ได้​ ​พูดจา​อย่าง​คลุมเครือ​แปลก​ๆ​ ​คิด​ว่า​ใคร​โง่​กัน​ ​จึง​ได้มา​แสดงละคร​พี่น้อง​สายเลือด​ผูกพัน​ในเวลานี้

หรง​เซ​วี​ยน​ไม่ได้​โกรธ​แต่อย่างใด​ ​เงยหน้า​มอง​องค์​ชาย​สิบ​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​น้อง​สิบ​ ​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ข้า​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​”

“​จวง​อ๋อง​ ​องค์​ชาย​สิบ​เอ่ย​ถูกต้อง​แล้ว​ ​ท่าน​กลับ​ไป​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​ ​อย่างไร​เสีย​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ท่าน​ก็​ไม่เบา​เลย​”​ ​หนา​นก​งอี​้​เดิน​ออกมา​จาก​บรรดา​ข้าราชบริพาร​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​เอ่ย​ด้วย​ความเคารพ

หรง​เซ​วี​ยน​ถอนหายใจ​ ​“​ขอบคุณ​น้องชาย​ที่​เป็นห่วง​ ​ช่างเถิด​…​พี่สะใภ้​ใหญ่​ ​ไหว​เอ๋อร​์​ ​อย่า​เศร้า​ไป​เลย​ ​หาก​มี​อะไร​ให้​ข้า​ช่วย​ก็​ให้​ส่ง​คน​ไปหา​ข้า​ที่​จวน​จวง​อ๋อง​”

จื้อ​อ๋อง​ซื่อ​จื่อ​เอ่ย​ด้วย​อย่างนอบน้อม​ ​“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ท่าน​อา​สอง​ค่อยๆ​ ​เดิน​”

ยืน​ส่ง​หรง​เซ​วี​ยน​ที่​ถูก​หนา​นก​งอี​้​พยุง​ออก​ไป​ ​จื้อ​อ๋อง​ซื่อ​จื่อ​พึ่ง​จะ​หันกลับ​มาที​่​ห้องโถง​ไว้ทุกข์​ ​บ่าว​รับใช้​คน​หนึ่ง​ก็​ร้อง​อุทาน​ด้วย​ความตกใจ​มาจาก​นอก​ประตู​ ​“​จวง​อ๋อง​หมดสติ​ไป​แล้ว​!​”

จื้อ​อ๋อง​ซื่อ​จื่อ​หลับตา​ลง​ ​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​ ​เพื่อ​ซ่อน​ความขุ่นเคือง​ใน​แววตา​ ​หันไป​หา​พระ​ชายา​จื้อ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​จะ​ออก​ไปดู​สักหน่อย​”

ใน​จวน​จื้อ​อ๋อง​ ​จวง​อ๋อง​คุกเข่า​ลง​ต่อหน้า​ห้องโถง​ไว้ทุกข์​เพื่อ​ต้องการ​ชดใช้​ความผิด​ ​พึ่ง​จะ​ออกจาก​จวน​ก็​หมดสติ​ล้ม​ไป​อยู่​ที่​ลาน​ ​ข่าว​นี้​กระจาย​ไป​ทั่วเมือง​หลวง​ภายใน​เวลา​ไม่​ถึง​ครึ่ง​วัน​ ​ดูเหมือนว่า​ข้าราชบริพาร​เจ้าเล่ห์​เหล่านั้น​จะ​นึกไม่ถึง​มาก​่อน​ ​แต่​ความสงสัย​ของ​ราษฎร​ที่​มีต​่อ​จวง​อ๋อง​ส่วนใหญ่​ได้​มลาย​หาย​ไป​แล้ว​ ​เดิมที​แทบจะ​มี​เพียง​ความเห็น​เดียว​ว่า​จวง​อ๋อง​สังหาร​พี่ชาย​แท้ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​มี​ข้อโต้แย้ง​อื่นๆ​ ​แม้แต่​ชาวบ้าน​ต่าง​ก็​ถกเถียง​กัน​อย่าง​ดุเดือด

ภายใน​วัง​หลวง

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​มอง​เจี่ยง​ปิน​ที่​กลับมา​รายงาน​พระราช​โองการ​ ​ซักถาม​เรื่อง​สถานการณ์​จวน​จื้อ​อ๋อง​ ​เจี่ยง​ปิน​ย่อม​ไม่กล้า​ปิดบัง​ ​เล่า​ให้​ฟัง​อย่างละเอียด​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ไหว​เอ๋อร​์​เป็น​คนดี​ ​เจี่ยง​ปิน​ถ่ายทอด​ราชโองการ​ไป​อีก​ ​แต่งตั้ง​รัชทายาท​ซื่อ​จื่อ​หรง​ไหว​ขึ้น​เป็น​ฉิน​อ๋อง​”

“​ข้า​น้อย​น้อม​รับพระ​บัญชา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

เจี่ยง​ปิน​ไม่กล้า​รอช​้า​ ​รับ​ราชโองการ​แล้ว​ถอย​ออกมา​ทันที

ที่​สวน​หลัง​จวน​จื้อ​อ๋อง​ ​บรรดา​องค์​ชาย​ยัง​ไม่ได้​กลับ​ไป​ ​ฮ่องเต้​ประทาน​บรรดาศักดิ์​เพิ่มเติม​ให้​หรง​หวง​เป็น​องค์​รัชทายาท​ ​ตอนนี้​หาก​นับ​ตาม​ศักดิ์​แล้ว​องค์​รัชทายาท​มีศักดิ์​สูง​กว่า​ ​ส่วน​พวกเขา​คือ​เชื้อพระวงศ์​ ​แม้ว่า​องค์​รัชทายาท​จะ​สิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​แต่​พวกเขา​ใน​ฐานะ​พี่น้อง​ก็​ต้อง​ช่วย​จัดการ​พิธีศพ​และ​ดูแล​ห้องโถง​ไว้ทุกข์​ที่​จวน​จื้อ​อ๋อง​ด้วย

เพียงแต่ว่า​องค์​รัชทายาท​ยัง​ไม่ใช่​ฮ่องเต้​ ​และ​พวกเขา​ก็​ไม่ใช่​คน​รุ่น​หลาน​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่จำเป็น​ต้อง​คุกเข่า​เฝ้า​อยู่​หน้า​ห้องโถง​ไว้ทุกข์​ ​แต่​บรรดา​องค์​ชาย​อาวุโส​อย่างเช่น​หรง​เซ​วี​ยน​ ​องค์​ชาย​ห้า​ต่าง​ก็​ส่ง​บุตรชายคนโต​ของ​พระ​ชายา​เอก​มา​เฝ้า​ห้องโถง​ไว้ทุกข์​เป็นเพื่อน​จื้อ​อ๋อง​ซื่อ​จื่อ​ ​และ​บรรดา​องค์​ชาย​เหล่านี้​ก็​ยังอยู่​ใน​จวน​อ๋อง​เพื่อ​ต้อนรับ​ข้าราชบริพาร​ที่มา​ร่วม​ไว้อาลัย​และ​จุด​ธูปบูชา​อยู่​ตลอดเวลา

เพียงแค่​ดู​ตำแหน่ง​ที่​บรรดา​องค์​ชาย​นั่ง​ก็​สามารถ​เห็น​ได้​ถึง​ความแตกต่าง​ ​หรง​เหยี​่​ยน​นั่ง​อยู่​กับ​องค์​ชาย​ห้า​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​และ​องค์​ชาย​สิบ​ ​องค์​ชาย​แปด​กับ​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​นั่ง​ด้วยกัน​ ​แต่​องค์​ชาย​หกกลับ​นั่ง​อยู่​คนเดียว​ทำให้​เห็น​ถึง​ความ​อึดอัด​อย่างเห็นได้ชัด​ ​ความสัมพันธ์​ของ​องค์​ชาย​หก​กับ​หรง​เซ​วี​ยน​นั้น​ดี​มาโดยตลอด​ ​แต่​ตอนนี้​สถานการณ์​ของ​หรง​เซ​วี​ยน​นั้น​ค่อนข้าง​ละเอียดอ่อน​เล็กน้อย​ ​แน่นอน​ว่า​องค์​ชาย​หก​ก็​พลอย​โดน​บรรดา​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​กีดกัน​ออก​ไป​ด้วย

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ​หรง​จิ​่​นก​็​นั่ง​อยู่​คนเดียว​เช่นกัน​ ​แต่กลับ​สบายใจ​กว่า​องค์​ชาย​หก​มาก​ ​เพราะว่า​ข้าง​กาย​เขา​ยัง​มีหัว​หน้า​ผู้ดูแล​กู้​ที่​สวม​ชุด​ขาว​นั่ง​อยู่​ ​แล้วก็​ไม่มีใคร​สนใจ​ว่าการ​ที่​หัวหน้า​ผู้ดูแล​นั่ง​โต๊ะ​เดียวกัน​กับ​ท่าน​อ๋อง​นั้น​ถูก​กฎระเบียบ​หรือไม่​ ​ในเมื่อ​การ​ที่​พูด​เรื่อง​กฎเกณฑ์​กับ​องค์​ชาย​เก้า​นั้น​ก็​เหมือนกับ​สีซอ​ให้​ควาย​ฟัง​อย่างไร​อย่างนั้น

มู่​ชิง​อี​ยกมือ​ขึ้น​มาชง​ชา​อย่าง​ชำนาญ​และสง่า​งาม​ ​ตอนนี้​เป็นช่วง​ต้น​ฤดูหนาว​แล้ว​ ​ชา​ที่​นำ​ไป​ต้ม​เลย​มีรส​ชาติ​เข้มข้น​กว่า​ชา​ที่​ชง​ด้วย​น้ำร้อน

หรง​จิ​่น​เอนกาย​พิง​ต้นไม้​ที่อยู่​ด้านหลัง​อย่างสบายใจ​ ​ชื่นชม​การเคลื่อนไหว​ของ​ชิง​ชิง​ ​แม้แต่​ใน​เสื้อผ้าอาภรณ์​ของ​บุรุษ​ชิง​ชิง​ก็​ยังคง​ดู​สวยสด​งดงาม​เช่นนี้​ ​แม้​ยาม​ที่​ชงชา​จะ​ดู​อ่อนโยน​น้อยกว่า​สตรีที​่​สวม​ชุด​สตรี​ ​แต่กลับ​มี​เอกลักษณ์​และ​ความสง่างาม​ของ​ผู้​ที่​รู้หนังสือ​มากกว่า​ ​ซึ่ง​เป็นที่ดึงดูด​สายตา​จริงๆ​ ​สาวงาม​ดั่ง​ดอกไม้​…​ที่​ตง​ฟังซ​วี่​พูด​ก็​ถือว่า​ไม่ผิด

“​คิดไม่ถึง​ว่า​ทักษะ​การชงชา​ของ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​นั้น​จะ​ไม่ธรรมดา​ ​ไม่ทราบ​ว่า​ข้า​จะ​ขอดื​่ม​สัก​ถ้วย​ได้​หรือไม่​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​เดิน​เข้ามา​พลาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม

สำหรับ​หรง​จิ​่​นน​้​อง​ชาย​ผู้​นี้​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ไม่เคย​คิดดู​ถูก​เหยียดหยาม​ ​เพราะว่า​ตัว​เขา​เอง​ก็​ปีน​ขึ้น​มาจาก​ตำแหน่ง​องค์​ชาย​ธรรมดา​โดยที่​ไม่ได้​มี​ใคร​สนับสนุน​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ไม่​ดูถูก​ความสามารถ​และ​ความทะเยอทะยาน​ของ​บรรดา​พี่น้อง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​หรง​จิ​่น​ยัง​มี​ข้อได้เปรียบ​ที่​คนอื่น​ไม่มี​ ​นั่น​ก็​คือ​ความ​โปรดปราน​จาก​เสด็จ​พ่อ

ในทางกลับกัน​หรง​เหยี​่​ยน​ยัง​มี​ข้อสงสัย​เกี่ยวกับ​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ผู้​นี้​อยู่​บ้าง​ ​ตอนนี้​เขา​เกือบจะ​แน่ใจ​ได้​แล้ว​ว่า​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ผู้​นี้​คือ​จัง​ชิง​ที่​เขา​เคย​พบ​อยู่​ที่​แคว้น​หวา​ ​ถ้าหาก​จัง​ชิง​ติดตาม​คน​ตระกูล​กู้​ ​เช่นนั้น​การ​ที่​เขา​ปรากฏตัว​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​เป็น​หัวหน้า​ผู้ดูแล​ใน​จวน​หรง​จิ​่น​ ​ถือว่า​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​หรือว่า​หรง​จิ​่น​ตั้งใจ​วางแผน​เช่นนี้​กัน​แน่

หรง​เหยี​่​ยน​ไม่มีทาง​ดูแคลน​น้องชาย​ตัวเอง​ ​และ​ไม่มีทาง​ดูถูก​ตระกูล​กู้​ที่​มี​อัคร​เสนาบดี​หลาย​คน​ ​แม้ว่า​ตอนนี้​ตระกูล​กู้​จะ​เหลือ​เพียงแค่​ชื่อ​เท่านั้น

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​พลาง​เหลือบมอง​หรง​จิ​่​นที​่​ดู​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ ​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“ต​วน​อ๋อง​เกรงใจ​เกินไป​แล้ว​ ​เชิญ​นั่ง​ก่อน​เถิด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หรง​เหยี​่​ยน​นั่งลง​ข้างๆ​ ​มู่​ชิง​อี​ ​ชื่นชม​มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​มู่​ชิง​อี​ที่​เรียว​ยาว​ราวกับ​หยก​ที่​กำลัง​ค่อยๆ​ ​เติม​น้ำ​ชงชา​ ​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ทักษะ​ที่​พิถีพิถัน​เช่นนี้​ ​ที่แท้​ก็​เป็น​ผู้​ที่​มี​ความสามารถ​แห่ง​แคว้น​หวา​”​ ​ตอนนี้​ใน​บรรดา​สาม​แคว้น​มหาอำนาจ​ที่​แข็งแกร่ง​ ​แคว้น​หวา​เป็น​แคว้น​ที่​พิถีพิถัน​เรื่อง​เสื้อผ้า​ ​อาหารการกิน​ ​ถิ่น​ที่อยู่​ ​และ​การคมนาคม​มาก​ที่สุด​ ​แม้แต่​การชงชา​ก็​มี​หลากหลาย​วิธี​และ​มี​ความพิถีพิถัน​มากมาย​ ​ในทางตรงกันข้าม​ ​แคว้น​เย​่ว​์​กับ​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ไม่ได้​ซับซ้อน​มาก​นัก​ ​โดยเฉพาะ​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​ชา​ขม​ที่​ไร้รสชาติ​ของ​พวกเขา​ ​พวกเขา​จึง​มักจะ​ชอบ​นำ​ชามา​ต้ม​ใน​นม​ดื่ม

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เล็กน้อย​พลาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้า​เพียงแค่​ทำตาม​ผู้​มีบร​รดา​ศักดิ์​ ​ขายหน้าต​วน​อ๋อง​แล้ว​”

ไม่นาน​กลิ่นหอม​จางๆ​ ​ของ​ชาก​็​ลอย​ออกมา​ ​ริน​แบ่ง​สาม​ถ้วย​ ​ถ้วย​หนึ่ง​วาง​ไว้​ตรงหน้า​หรง​จิ​่น​ ​ถ้วย​หนึ่ง​วาง​ไว้​ตรงหน้า​หรง​เหยี​่​ยน​ ​อีก​ถ้วย​หนึ่ง​เอาไว้​ให้​ตัวเอง​ ​“​เชิญต​วน​อ๋อง​”

หรง​เหยี​่​ยน​หยิบ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​หนึ่ง​อึก​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ชื่นชม​ว่า​ ​“​ชาดี​ ​มีกลิ่นหอม​อ่อน​ๆ​ ​ของ​ใบ​ไผ่​”

หรง​จิ​่น​ดูท่าทาง​เบื่อหน่าย​ ​“​แน่นอน​ว่า​เป็น​ชาดี​ ​น้ำ​ที่​ใช้​ต้ม​ชาคือ​น้ำค้าง​ยามเช้า​ที่​จื่อ​ชิง​เก็บ​มา​เอง​”​ ​ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ส่วนใหญ่​ข้า​ก็​มีส่วนร่วม​ใน​การ​เก็บ​ด้วย​ ​ที่​หรง​เหยี​่​ยน​จิบ​ไป​หนึ่ง​อึก​นั้น​ก็​เท่ากับ​ความลำบาก​เกือบ​ทั้งวัน​ของ​ข้า​แล้ว

เมื่อ​เห็น​หรง​จิ​่น​ทำ​แก้ม​ป่อง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​แอบ​ยิ้ม​ใน​ใจ​ ​‘​ใคร​ใช้​ให้​โอ้อวด​ความสง่างาม​กัน​เล่า​ ​มา​จวน​ของ​คนอื่น​เพื่อมา​เคารพ​พิธีศพ​ก็​ยัง​นำ​ชาดี​กับ​น้ำค้าง​ของ​ตัวเอง​มาด​้วย​ ​ถ้าหาก​องค์​ชาย​ท่าน​อื่น​กล้า​ทำ​เช่นนี้​ ​ก็​คง​ถูก​ฝ่าย​ตุลาการ​รายงาน​ต่อ​ราชสำนัก​ไป​แล้ว​’

“​คิดไม่ถึง​ว่า​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​จะ​มี​อารมณ์​ศิลป์​เช่นนี้​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​มอง​มู่​ชิง​อี​ด้วย​สายตา​ที่​สงบนิ่ง​ ​การ​เก็บ​น้ำค้าง​อย่าง​ผู้​มียศ​ถา​บรรดาศักดิ์​เช่นนี้​แน่นอน​ว่าย​่​อม​เป็น​คนที​่​มี​ความสามารถ​ใน​แคว้น​หวา​ที่​กิน​อิ่ม​นอนหลับ​แล้ว​ไม่มี​อะไร​ให้​ทำ​ ​จึง​จะ​สามารถ​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ได้​ ​คน​ประเภท​นี้​…​จะ​มี​เล่ห์เหลี่ยม​เท่าใด​กัน

มู่​ชิง​อิ​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​และ​ไม่ได้​โต้แย้ง​ว่านี​่​เป็นผล​งานชิ้นเอก​ของ​องค์​ชาย​บางคน​ที่​กิน​อิ่ม​แล้ว​ไม่มี​อะไร​ทำ

แม้ว่า​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​จะ​ไม่ได้​เข้ามา​ ​แต่​ส่วนใหญ่​กลับ​ให้ความสนใจ​กับ​สถานการณ์​ทาง​ด้าน​นี้​ ​ใน​ฐานะ​องค์​ชาย​ที่​เป็น​ที่​โปรดปราน​ที่สุด​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​การ​ที่​หรง​จิ​่น​เข้ามา​ใน​ราชสำนัก​นั้น​ไม่ได้​กระทบกระเทือน​ต่อ​จิตใจ​ของ​องค์​ชาย​เพียงแค่​คนเดียว​ ​โชคดี​ที่​หลาย​วัน​มานี​้​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​ไม่ได้​แสดง​เจตจำนง​ที่จะ​ให้​หรง​จิ​่​นมี​อำนาจ​ที่​ยิ่งใหญ่​ ​มิเช่นนั้น​เกรง​ว่า​ในเวลานี้​บรรดา​องค์​ชาย​เหล่านี้​คงจะ​ไม่​สามารถ​สงบสติอารมณ์​ได้​เช่นนี้​แน่นอน

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท